"วันนี้ลงมาทานข้าวเย็นพร้อมกันนะจ๊ะหนาม" เจ้าขาเห็นว่าหนามเตยกำลังจะเดินขึ้นบ้านก็เลยรีบพูดขึ้นมาก่อน"คือ..หนาม.." อยากจะปฏิเสธใจแทบขาด แต่หญิงสาวจำเป็นต้องได้ตอบตกลงไปเพราะผู้ใหญ่ชวน "ค่ะ" แล้วเธอก็เดินขึ้นบ้านไป โดยที่ไม่กล้าหันไปมองหน้าเขาเลยด้วยซ้ำ เพราะรู้ดีว่าเขาคงจะโกรธมาก"ผมขอตัวก่อนนะครับ" ว่าแล้วชายหนุ่มรีบตามขึ้นไปทันทีแกร่ก! แกร่ก!! เขาไม่ได้ตรงไปที่ห้องนอนของตัวเอง แต่เขามาบิดลูกบิดประตูห้องของเธอ โดยที่ไม่เคาะหรือส่งสัญญาณอะไรก่อนเลยหนามเตยถึงกับสะดุ้งโชคดีที่เข้ามาในห้องแล้วเธอก็ล็อกมันไว้"เปิด!" เสียงตะคอกพร้อมกับพยายามบิดลูกบิดประตูนั้น"ใครจะบ้าไปเปิดให้" หญิงสาวพูดออกมาแค่เบาๆ ไม่กล้าให้เขาได้ยินด้วยหรอก กลัวว่าจะไปกระตุ้นอารมณ์ของเขาเข้าให้อีกด้านหน้าประตูเงียบไปสักพักแล้ว เขาคงจะล่าถอย หนามเตยสบายใจขึ้นมาหน่อย ก็เลยมาเปิดแง้มดู เพราะว่าเธอต้องลงไปข้างล่างได้แล้วแกร่ก~"กรี๊ดด!" คนตัวเล็กตกใจจนสุดขีด พอเธอปลดล็อกจากทางด้านในเท่านั้นแหละ คนที่อยู่ด้านนอกก็รีบผลักประตูเข้ามา "นายออกไปเดี๋ยวนี้เลยนะ!"เจ้าขุนไม่ปล่อยโอกาสให้เสียเปล่า เขารีบพาเธอไปที่เตียงแล้วตา
ก๊อก ก๊อก "หนามจ๊ะ"ก๊อก ก๊อก ก๊อก"หนามเตย.. ตื่นหรือยังลูก" เคาะเรียกขนาดนี้ยังไม่มีเสียงตอบรับออกมา เจ้าขาก็เลยลองบิดลูกบิดประตูดู "ไม่ได้ล็อกเหรอ" พอรู้ว่าประตูไม่ได้ล็อกนางก็เลยเปิดเข้าไปด้านในแบบถือวิสาสะ"ไปไหนของเขา .." เจ้าขารีบตรงไปดูที่ห้องน้ำ เพราะเห็นว่าประตูห้องปิดอยู่ "หนามจ๊ะ" นางเคาะเรียกเบาๆ แต่ก็ยังเงียบ "หนามเป็นอะไรหรือเปล่า" เจ้าขาเปิดประตูห้องน้ำเข้าไปทันทีเมื่อรู้ว่าไม่ได้ล็อกพอเห็นว่าห้องน้ำว่างเปล่า ก็รีบมาดูที่ตู้เสื้อผ้า "เสื้อผ้าข้าวของหายไปไหนหมด? ป้า!!" เจ้าขาตะโกนเรียกแม่บ้านให้เข้ามาหาทันทีที่รู้ว่าหนามเตยไม่ได้อยู่ในห้องนี้แล้ว"มีอะไรครับแม่" แต่คนที่เข้ามาก็คือเจ้าขุน"หนามเตยไม่รู้หายไปไหนลูก ข้าวของก็ไม่มีเหลือ"เจ้าขุนรีบเดินไปเปิดดูตู้เสื้อผ้า"ป้าก็ไม่ทราบเหมือนกันค่ะ" พอแม่บ้านเข้ามา ต่างก็ไม่มีใครรู้เลยว่าเธอออกจากบ้านไปตั้งแต่เมื่อไร เพราะแม่บ้านยังไม่มีใครขึ้นมาทำความสะอาดห้องนี้จังหวะที่เจ้าขุนกำลังปิดตู้เสื้อผ้าสายตาของเขามองไปที่ถังขยะ ซึ่งมันโล่งมาก แต่มีอยู่สิ่งหนึ่งที่สะดุดตา..ชายหนุ่มยื่นมือลงไปหยิบลูกอมที่วางอยู่ในนั้นขึ้นมา"มี
ถึงแม้ว่ามันจะเป็นเรื่องในสมัยเด็ก แต่ความทรงจำนั้นมันฝังลึกจนไม่มีวันลืมเลือนไปได้"พี่ขุนหมายความว่ายังไงคะ" พอพูดชื่อผู้หญิงคนนี้ขึ้นมา มายมิ้นท์ถึงกับหันกลับไปมองหน้าผู้เป็นสามี "มันเกิดอะไรขึ้นคะ" เธอถามเอาความจริงจากเขาบ้าง"ไม่มีอะไรหรอกมันก็แค่เรื่องในอดีต""มันก็แค่เรื่องในอดีตงั้นเหรอ! มึงรู้ไหมว่าสิ่งที่มึงพูดออกไปในวันนั้น มันทำให้ผู้หญิงคนหนึ่งถูกทำร้ายทั้งร่างกายและจิตใจ" ที่เขาทำรุนแรงกับเธอขนาดนั้น เพราะความโมโหให้ไต้ฝุ่น ..และเธอก็เข้ามาได้ถูกจังหวะ ตอนที่เขาต้องการระบายเรื่องนี้กับใครสักคน ซึ่งคนที่ทำให้เขาฝังใจคนแรกก็คือเธอ"ถ้ามึงเป็นลูกผู้ชายพอ..ลงไปคุยกับกูข้างล่าง" ว่าแล้วเจ้าขุนก็หันหลังกลับเดินออกจากห้องนั้นมาเจ้าขุนเดินลงมาที่หน้าคณะด้านล่าง ซึ่งเป็นที่ที่เขาจอดรถไว้เพียงไม่นานไต้ฝุ่นก็เดินตามลงมา และเขาก็มาแค่คนเดียว"มึงบอกความจริงกูมา วันนั้นหนามเตยได้ไปหามึงไหม" เพราะวันนั้นหนามเตยบอกว่าพรุ่งนี้จะไปหาคนที่เธอสนใจ และมันก็เป็นวันเดียวกับที่เธอเสียพ่อแม่ไป พอเช้ามาเธอก็เลยไม่ได้ไปหาใครเลยเพราะต้องได้เดินทางไปต่างประเทศ"แล้วมึงจะมาเค้นเอาความจริงอะไรจากกู
ในเมื่อเธอไม่รู้จักที่ไหน เพราะว่าเพิ่งกลับมาจากต่างประเทศ แต่มีอยู่ที่หนึ่งที่เธอรู้จัก และเป็นที่ที่เขาเห็นว่าเธอเขียนอะไรไว้ชายหนุ่มใช้เวลาขับรถอยู่พอสมควรกว่าจะมาถึง ตอนนี้ก็ค่ำมืดมากแล้วเขารีบตรงเข้าไปหาพนักงานเพื่อสอบถาม.. และก็ได้ความว่า..ห้องโซนรีสอร์ท..ชายหนุ่มร่างสูง และตอนนี้เขาก็ยังอยู่ในชุดเดิม ยืนมองบ้านหลังที่เธอเช็คอินน์ไว้ เพราะพนักงานแจ้งว่าคนชื่อนี้ได้เปิดห้องริมชายหาดจังหวะที่เขากำลังยืนมองอยู่นั้นแสงไฟก็ได้ถูกปิดลง นั่นแสดงว่าคนที่อยู่ด้านในคงกำลังจะนอนพักผ่อน เขาก็เลยยังไม่รบกวนชายหนุ่มเดินออกมาตามริมชายหาด เพราะอยากใช้เวลาคุยกับตัวเองร่างหนามาหยุดอยู่ตรงที่เห็นว่าเธอได้เขียนอะไรไว้ วันนั้นพอเธอจากไป เขาก็มาดูบนพื้นทราย ที่มีลายมือของเธอเขียนเป็นภาษาอังกฤษไว้ว่า ..ที่นี่ใช่ไหมคะที่พ่อกับแม่จะพาหนามมาเที่ยว .เธอคงจะเจ็บปวดมาก ตอนนั้นเขาไม่รู้ความหมายของมันว่าเธอกำลังสื่อถึงอะไร แต่ตอนนี้เขารู้แล้ว และจำได้ที่เธอเคยพูดตอนสมัยเรียนอยู่อนุบาลว่า..ช่วงปิดเทอมพ่อกับแม่จะพาไปเที่ยวทะเลทำไมเขาถึงเลวได้ถึงเพียงนี้ มันคือสถานที่ที่อยู่ในความทรงจำของเธอ แต่เขากลับทำ
หนามเตยสงสัยว่าเขาทำอะไร ในเมื่อเขาเกลียดเธอจะตาย ทำไมถึงมานั่งข้างแบบนี้ หญิงสาวมองกลับหลังดูว่ามีที่ว่างไหม แต่ห้องนี้ดูเหมือนว่าจะจัดโต๊ะไว้ครบคนพอดีแต่ถ้าขอเปลี่ยนกับใครสักคนก็คงจะพอได้ เธอก็เลยมองไปประสานสายตาเข้ากับผู้หญิงคนที่ออกตัวแรงมากว่าสนใจเขา.. นั่นก็คือยี่หวาหญิงสาวรีบหยิบกระเป๋าสะพายของเธอแล้วลุกขึ้น แต่ทันใดนั้นอาจารย์ก็เดินเข้ามาก่อน"สวัสดีค่ะนิสิตนักศึกษาปีสุดท้าย ได้ที่นั่งครบกันแล้วใช่ไหมคะ จำที่นั่งของตัวเองไว้ด้วยนะ เป็นไปได้อาจารย์ไม่อยากให้โยกย้าย.." แล้วอาจารย์ก็พูดอะไรอีกหลายต่อหลายอย่าง พร้อมกับแนะนำตัวอะไร?..ฉันจะได้นั่งข้างเขาเป็นปีเลยเหรอ ..อาจจะมีบางวิชาที่ต้องได้ไปเรียนห้องอื่นแต่หลักๆ แล้วต้องเรียนอยู่ห้องนี้เที่ยงวันเดียวกันนั้น.."เราไปทานข้าวกันดีกว่าครับหนาม" กล้าหาญเล็งไว้แล้วว่าจะมาชวนเธอไปทานข้าว พออาจารย์ออกจากห้องเขาก็รีบลุกตรงมา"ได้ค่ะ" หนามเตยลุกขึ้นทันทีโดยไม่ต้องคิด"กูยืมน้ามึงหน่อยนะ" กล้าหาญมองดูคนที่นั่งหน้าบูดบึ้งอยู่ด้านข้าง ก็เลยกล่าวอะไรสักหน่อย ..แต่ก็ไม่มีคำตอบ"เราไปกันเถอะค่ะ" หญิงสาวรีบคว้าเอากระเป๋าแล้วเดินออกมาจากห้องเ
"คุณแม่คะ!""อะไรเหรอลูก แม่ตกใจหมดเลย" จากที่เจ้าขากำลังเพ่งเล็งอยู่ว่าอะไรอยู่ใต้ผ้าห่มกันแน่ นางก็ได้สะดุ้งตกใจกับคำที่หนามเตยเรียก"หนามง่วงแล้วค่ะ ถ้าคุณแม่ออกไปแล้ว..ช่วยปิดประตูให้ด้วยนะคะ" ว่าแล้วหญิงสาวก็ค่อยๆ สอดร่างกายเข้าไปใต้ผ้าห่มผืนเดียวกันกับเขา"ถ้างั้นก็นอนพักผ่อนนะจ๊ะ" เจ้าขาพูดแต่สายตาก็ยังเพ่งเล็งไปที่เดิมแบบสงสัย ..จะว่าหมอนข้างก็ไม่ใช่ เพราะมันนูนเหมือนอะไรสักอย่าง..เจ้าขาออกมานอกห้องแล้วก็ปิดประตูให้..แต่นางก็ยังสงสัยไม่หายพอประตูปิดลง หญิงสาวกำลังจะออกจากผ้าห่มผืนนั้น แต่ก็ถูกมือหนาคว้าไว้เสียก่อน"ปล่อยนะ!""ไม่ปล่อย""นายทำบ้าอะไร! ถ้าคุณแม่รู้จะทำยังไง!!""ก็รู้ไปสิ""ก็รู้ไปงั้นเหรอ?!" ในขณะที่พูดกับเขาอยู่นั้นเธอก็ไม่ได้อยู่นิ่งยังพยายามดิ้นเพื่อให้หลุดพ้นจาก มือหนวดปลาหมึกของเขาแต่สิ่งที่หลุดกลับเป็นผ้าที่พันรอบร่างระหง "กรี๊ด" หญิงสาวรีบไขว่คว้าผ้าผืนนั้นแต่ก็ไม่ทัน เขาจับมันทิ้งลงใต้เตียงไปก๊อก ก๊อก "หนามเป็นอะไรลูก" เจ้าขายังไม่ได้ไปไหน เพราะเป็นห่วง แถมยังได้ยินเสียงเธอกรี๊ดออกมาอีก"หนามตกใจแมลงสาบค่ะ""ในห้องนอนมีแมลงสาบด้วยเหรอ""เออ..ไม่มีค่
ห้องพยาบาลของทางมหาวิทยาลัย"เพื่อนเราเหรอจ๊ะ" อาจารย์หมอเห็นมายมิ้นท์ก็นึกขำ เพราะจำได้แม่น"ไม่ใช่เพื่อนค่ะ รุ่นพี่ที่คณะ" หญิงสาวตอบออกไปแบบเอียงอาย เพราะหลายครั้งที่เธอได้มาใช้บริการห้องนี้อาจารย์หมอตรวจดูอาการอยู่พักหนึ่งวัดความดัน และตรวจคลื่นหัวใจ"คงเป็นเพราะความเครียดพักผ่อนไม่เพียงพอ เดี๋ยวรอให้เพื่อนฟื้นก่อนนะ" เพราะว่าตอนนี้หนามเตยยังไม่ได้สติ แต่ชีพจรของเธอก็ปกติ อาจารย์หมอก็เลยไม่เป็นห่วงเท่าไรเวลาเข้าเรียน.."รู้หรือยังว่าหนามเตยเป็นลมตอนนี้อยู่ห้องพยาบาล" เพื่อนที่รู้ข่าวเข้ามาพูดกันอยู่ในห้อง"เมื่อกี้มึงว่าอะไรนะ?!" เจ้าขุนรีบหันกลับไปมอง และตอนนี้เธอก็ยังไม่เข้ามาในห้อง ที่เขาไม่รู้เรื่องเพราะวันนี้ไม่ได้ไปทานข้าวที่โรงอาหาร"ก็น้าของมึงน่ะสิอยู่ห้องพยาบาลโน่น" ได้ยินแค่นั้นแหละ เจ้าขุนก็รีบวิ่งออกจากห้องไป ซึ่งมีกล้าหาญวิ่งตามมาติดๆ"หนาม.." พอเจ้าขุนมาถึงก็เห็นเธอนั่งอยู่บนเตียง ซึ่งมีไต้ฝุ่น และมายมิ้นท์อยู่ในห้องนั้นด้วย "เธอเป็นอะไรครับ" เจ้าขุนถามอาจารย์หมอที่นั่งอยู่โต๊ะประจำของห้องนี้ทุกคนในห้องต่างก็มองหน้ากันไปมา ไม่มีใครพูดอะไรออกมาสักคน ..มันยิ่งทำให้
"ขอฉันไปด้วยคนนะคะ" เจ้าขารีบเดินตามสามีออกมาที่รถ"ผมว่าคุณไม่ต้องไปหรอก รอฟังข่าวอยู่ที่บ้านดีกว่า""แต่ฉันเป็นห่วงนี่คะ""ถ้างั้นก็ขึ้นรถ" ทศกัณฐ์ไม่เคยทนลูกอ้อนของภรรยาคนสวยได้สักครั้งเจ้าขาก็รีบเดินอ้อมไปขึ้นนั่งข้างสามี ส่วนตอนนี้เจ้าขุนขับรถของตัวเองออกไปตั้งแต่รู้ว่าเธอซื้อตั๋วเพื่อที่จะเดินทาง"หนามรอผมก่อนนะอย่าเพิ่งไปไหน" คันเร่งถูกเหยียบเกือบมิดไมล์ รถคันไหนที่ขวางหน้าเขาบีบแตรไล่ที่เจ้าขาตามสามีมาส่วนหนึ่งเพราะเป็นห่วงหนามเตย แต่ที่เป็นห่วงมากที่สุดก็คือลูกชายสนามบินสุวรรณภูมิชายหนุ่มมาถึงสนามบินโดยปลอดภัย เขาจอดรถได้ก็รีบวิ่งตรงเข้าไป โดยที่ทิ้งรถไว้ในที่ห้ามจอด แต่เจ้าขุนก็ไม่สนใจชายหนุ่มร่างสูงวิ่งฝ่าผู้คนที่กำลัง เดินกันให้วุ่น สายตาของเขามองไปที่ผู้โดยสารขาเข้า"เข้าไม่ได้ครับ" พนักงานด้านหน้าที่คอยตรวจเช็คตั๋วเดินทาง ไม่เห็นเขามีตั๋วติดมือมาด้วยก็เลยไม่อนุญาตให้เข้าไป"ผมแค่อยากจะเข้าไปหาคน""หาใครก็ไม่ได้ครับ""ผมต้องทำยังไงถึงจะเข้าไปได้""คุณต้องมีตั๋วเดินทางครับ"ชายหนุ่มรีบวิ่งกลับมาตรงที่ซื้อตั๋ว"เราปิดการขายไปแล้วค่ะ ไฟท์นี้เครื่องกำลังจะขึ้นค่ะ" และก็เ
[มหาวิทยาลัย]"จะไปไหน" พอเข้ามาถึงห้องเรียน หนามเตยก็เดินตรงไปที่โต๊ะเรียนเดิม โต๊ะที่ขอแลกกับกล้าหาญ"ก็ไปที่นั่งไง""มานั่งด้วยกันตรงนี้""จะบ้าเหรอนั่นมันที่ของกล้าหาญ""เดี๋ยวให้มันไปนั่งข้างหลัง""ไม่เอาเปลี่ยนมาครั้งหนึ่งแล้วจะเปลี่ยนกลับได้ยังไง" ว่าแล้วหญิงสาวก็เดินไปนั่งที่เดิม ..เพียงไม่นานอาจารย์ก็เดินเข้ามาในห้องในขณะที่นั่งเรียนอยู่เจ้าขุนก็มองกลับหลังบ่อยครั้งมาก"มึงเป็นอะไรนักหนาวะ" กล้าหาญซึ่งนั่งอยู่ด้านข้างก็ไม่เป็นอันเรียนไปด้วย พอเพื่อนมองกลับหลัง เขาก็ต้องได้มองตามแบบสงสัยว่าเพื่อนมองอะไร พอรู้แล้ว..แต่เวลาที่เจ้าขุนมองกลับไปอีกที เขาก็ต้องมองตามอีก..เพราะมันเป็นสัญชาตญาณ"กูว่ามึงย้ายเถอะว่ะ""ย้ายไม่ได้เดี๋ยวเมียด่า" ชายหนุ่มกระซิบพูดกับเพื่อนเบาๆ"มึงกลัวด้วยเหรอวะ""ใครบอกว่ากูกลัว..กูแค่เกรงใจ""นั่นแหละที่เขาเรียกว่ากลัว""มึงไม่เคยมีเมียมึงจะรู้ได้ยังไง""ด้านหลังช่วยสนใจอาจารย์หน่อยนะคะ" เพียงไม่นานอาจารย์ก็ส่งเสียงมา และเพื่อนๆ ที่นั่งอยู่ด้านหน้าต่างก็หันกลับมามองที่เจ้าขุนเป็นห่วงเพราะคนที่นั่งอยู่ข้างหนามเตยเป็นเพื่อนผู้ชาย"ไปไหนแล้ว""หาอะไร""ปา
คืนเดียวกันนั้น.."ไปอาบน้ำกัน" พอขึ้นมาถึงด้านบน เขาก็ชวนเธอ"จะอาบก็ไปอาบเองสิ""แน่ใจนะว่าลูกจะไม่คิดถึงพ่อ" ชายหนุ่มพูดด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์จริงด้วยถ้าเขากลับห้องไปมีหวังเราต้องได้ไปคุยกับชักโครกอีกแน่เลย หญิงสาวลืมไป เพราะวันนี้ไม่คลื่นไส้มาทั้งวัน จนถึงเวลานี้ก็มืดค่ำมากแล้ว"ไปด้วยกัน" มือหนาคว้าเอาคนตัวเล็กให้เดินตามมาที่ห้องของตัวเอง"ฉันไม่อาบกับคุณนะ" หญิงสาวพยายามจะหยุดไม่เดินตาม"ไม่อาบก็ไม่อาบ แต่ไปด้วยกัน" เขาไม่อยากจะปล่อยให้เธออยู่ห้องคนเดียว "รออยู่ตรงนี้" ชายหนุ่มเข้าไปอาบน้ำโดยไม่ปิดประตูห้องน้ำ ส่วนเธอก็ยืนหันหลังให้ ไม่กล้าหันไปมองเราต้องทำแบบนี้อีกนานแค่ไหนเนี่ย..ลูกนะลูก หญิงสาวบ่นพึมพำที่ต้องได้มายืนเฝ้าเขาอาบน้ำอยู่แบบนี้ตุ๊บ.."อะไร" คนตัวเล็กรีบหันเข้าไปดู เพราะได้ยินเสียง ทีแรกคิดว่าเป็นเสียงเขาล้ม แต่พอหันเข้าไปแล้วเธอต้องได้รีบหันกลับออกมาพร้อมกับใบหน้าที่แดงกล่ำ"ตกใจเหรอ มือผมไปถูกฝาชักโครก" ตอนที่เขากำลังเช็ดตัวอยู่นั้น มือได้ไปโดนฝาชักโครกที่เปิดอยู่มันก็เลยปิดลงมีเสียงดัง"อาบเสร็จหรือยัง""จะอายทำไมผมยังไม่อายเลย" เขารู้ดีว่าเธอคงจะอายตอนที่หันม
สายตาของทั้งสองจ้องมองซึ่งกันและกัน แบบไม่มีใครยอมหลบให้ใคร"ผมเห็นเจ้าของไม่ต้องการมันอีกแล้ว ก็เลยเก็บมันเอาไว้" เขาพูดในขณะที่ยังมองสบตาเธออยู่"คุณต่างหากที่ไม่ต้องการ" คำพูดนี้ มันได้ออกมาพร้อมกับน้ำตาที่ไหลริน ของเจ้าของใบหน้าหวาน กว่าเธอจะตัดสินใจทิ้งมันได้ เพราะมันอยู่กับเธอมาตลอดระยะเวลาที่ใช้ชีวิตอยู่ต่างประเทศ"ผมขอโทษ ผมมันโง่เอง มีสมองแต่ไม่คิดไตร่ตรองให้ดี ว่าทำไมคุณถึงหายไปในวันนั้น""คุณยังรอฉันอยู่เหรอคะ""รอสิ ไม่ได้รอแค่วันนั้นนะ รอจนย้ายโรงเรียน ขนาดย้ายโรงเรียนแล้วผมยังให้คนขับรถพากลับมาเผื่อว่าคุณยังอยู่ที่เดิม" วันไหนที่มีแต่แม่บ้านและคนขับรถมารับ เขาชอบให้ผ่านไปทางโรงเรียนเดิม จอดรอดูว่าเธอจะออกมาจากในนั้นไหม..แต่ก็ไม่มี"วันนั้นพ่อกับแม่ของฉัน..ท่านทั้งสอง.." คำพูดของเธอมันถูกกลืนหายเข้าไป พร้อมกับเสียงสะอื้น"ผมรู้แล้ว..ถ้าผมรู้ว่าอะไรเกิดขึ้นกับคุณบ้าง และตอนนั้นคุณอยู่ที่ไหนผมจะตามไป" ถ้าเขารู้สักนิดว่าเธอไปเรียนต่อที่ต่างประเทศ เขาจะไม่รีรอที่จะตามไปเลย"คุณไม่รู้เหรอคะว่าคุณตา.." ตอนนั้นเธอยังเด็กมาก ทำอะไรไม่ถูก อยากจะพูดอยากจะถามหาเขา แต่ก็ไม่รู้จะเริ่ม
"กลับมาแล้วเหรอลูก" เจ้าขาถามขึ้นเมื่อเห็นลูกชายเข้ามา"ครับ""มันจะรีบไปไหน แล้วมันมาจากไหน" ทศกัณฐ์ได้แต่มองตามหลังคนที่วิ่งขึ้นไปบนบ้าน แทบจะไม่รู้ว่าคนที่เข้ามาเป็นลูกชายของตัวเอง เพราะมองไม่ทัน"วันนี้วันเกิดของกล้าหาญค่ะ" เจ้าขาพูดพร้อมกับเอานมอุ่นๆ มาให้สามีได้ทาน เพราะเขาเพิ่งกลับมาจากที่ทำงาน"วันเกิดกล้าหาญ?" พอรู้ว่าวันเกิดเพื่อนสนิทของลูกชาย ทศกัณฐ์ก็ยกนาฬิกาข้อมือขึ้นมาดู สองทุ่มกว่า?" ธรรมดาวันเกิดเพื่อน ถ้าไม่เช้าก็คงจะเป็นเย็นวันต่อไปถึงจะเห็นหน้าลูกชายโผล่กลับบ้าน"เห็นหนามขอเบอร์โทรไป สงสัยจะโทรตามมั้งคะ""โทรตามงั้นเหรอ?" มันยิ่งสร้างความงุนงงให้กับทศกัณฐ์ เพราะทั้งสองไม่มีทีท่าว่าจะเป็นมิตรกันเลยแกร่ก~ กลับมาถึงชายหนุ่มก็ตรงเข้าห้องของเธอ"หนาม" มองดูบนเตียงนอนไม่มี เขาก็เลยรีบเข้าไปดูในห้องน้ำ "เป็นยังไงบ้าง"พอเห็นเขาเข้ามาอาการคลื่นไส้เวียนหัวก็หายไปสิ้น หญิงสาวลุกขึ้นแบบหน้าบูดบึ้ง ไม่พูดไม่จาแล้วเดินออกมาจากห้องน้ำ"...?..." ชายหนุ่มงงกับท่าทาง..เนี่ยเหรอคนที่โทรตามเขากลับบ้าน อุตส่าห์ดีใจว่าเธอโทรหา แต่พอกลับมาหน้าตาของเธอไม่รับแขกเลยจะให้ยิ้มระรื่นได้ยังไง
เขานั่งเป็นเพื่อนเธออยู่แบบนั้นจนคิดว่าเธอนอนหลับสนิทแล้ว ถึงออกมาจากห้องเพื่อไปอาบน้ำออกไปอาบน้ำยังไม่เสร็จก็ได้ยินเสียงคนข้างห้องอาเจียน ชายหนุ่มรีบล้างตัว แล้วออกมาจากห้องน้ำด้วยผ้าเช็ดตัวผืนเดียวที่พันรอบท่อนล่างอยู่"ผมนึกว่าคุณหลับไปแล้ว" เขารีบเดินเข้าไปลูบหลังให้ "ออกหมดเลยเหรอ" ชายหนุ่มมองลงไปดูในชักโครก..อาหารที่เธอกินเข้าไปเมื่อตอนเย็นออกไปหมดเลย"คุณจะมองอะไรสกปรกจะตาย" หญิงสาวรีบกดน้ำให้ไหลลง"ไปที่เตียงดีกว่า" มือหนาโอบร่างบางให้เดินตามมาที่เตียง ถ้าเป็นเมื่อหลายชั่วโมงก่อนเธอคงจะไล่ตะเพิดเขาไปแล้ว แต่นี่..รู้แล้วว่าทำไมเวลาเขาอยู่ใกล้อาการพวกนั้นมันถึงหายไปใบหน้างามมองต่ำลงไปที่ท้องของตัวเอง ไอ้ตัวเล็กต้องแผลงฤทธิ์แน่"นอนก่อนนะเดี๋ยวผมขอไปเปลี่ยนเสื้อผ้า" จังหวะที่เขากำลังจะออกจากห้อง มือเรียวรีบคว้าแขนของเขาไว้"คุณจะกลับเข้ามาอีกไหม" หญิงสาวถามไปโดยที่ไม่ได้เงยหน้ามองใบหน้าหล่อคมยกยิ้มขึ้นเมื่อได้ยินคำถาม "มาสิ" ว่าแล้วเขาก็รีบออกจากห้องไปก่อนที่เธอจะเปลี่ยนใจไปไม่ถึงห้านาทีก็รีบกลับเข้ามา แต่ตอนนี้เธออยู่ในห้องน้ำ"หนาม"พอเห็นเขากลับมาเธอก็ออกจากห้องน้ำ ..หึ!!
ตุ๊บ!! เสียงเจ้าขุนถีบเก้าอี้ออกจากตรงที่กีดขวาง"เมื่อกี้เธอว่าอะไร" แล้วเขาก็เดินตรงเข้าไปหายี่หวา เพราะเมื่อสักครู่ที่ยี่หวาพูดแล้วเดินเข้ามาในห้องเขาได้ยินชัดเจน"เราพูดถึงเรื่องละครที่ดูกับแม่เมื่อคืนนี้" ยี่หวาหน้าเปลี่ยนสีเมื่อเห็นว่าเจ้าขุนเอาจริงสายตาคมจ้องมองแบบเอาเรื่อง จนเพื่อนในห้องรีบเข้ามาช่วยกันขวางไว้"ไม่เอาน่า ผู้หญิงนะ" กล้าหาญก็เข้ามาช่วยพูด ถึงแม้ยี่หวาจะแก้ตัวไปแต่ทุกคนที่อยู่ในห้องก็ได้ยินหมด..ที่เธอพูดว่าหนามเตยสำส่อน"ผู้หญิงแล้วไง สักแต่มีปากจะพูด" จบคำพูดเจ้าขุนก็ถีบเก้าอี้ที่อยู่ด้านข้างจนลมกระจายส่วนยี่หวา..ตอนนี้ถอยออกไปจนจะชนผนังห้อง ..ถ้าคนที่พูดเป็นผู้ชายสงสัยฟันคงได้ร่วงออกจากปาก แต่เจ้าขุนก็ยังไม่สงบ ดวงตาของเขายังจ้องมองพร้อมกับขาที่ก้าวเดินเข้าไป"พอแล้ว" หนามเตยเป็นคนพูดขึ้น..เขาถึงได้หยุดที่หยุดเพราะได้ยินเสียงคนห้ามเหมือนจะร้องไห้"หนาม" เจ้าขุนเดินกลับเข้ามาหาเธอส่วนพวกเพื่อนๆ กำลังเก็บสิ่งที่เขาทำกระจัดกระจายไว้หนามเตยไม่มองหน้าเจ้าขุนเลยด้วยซ้ำ เธอนั่งลงที่เก้าอี้ของตัวเอง จากที่คิดว่าจะเข้มแข็ง เพราะคนรอสมน้ำหน้าก็มีมาก แต่ตอนนี้มันเข้
ก๊อก ก๊อก หลังจากที่เจ้าขุนออกจากห้องไปได้เพียงไม่นาน ก็ได้ยินเสียงคนมาเคาะประตูเรียกที่หน้าห้องหญิงสาวเงียบฟังว่าเป็นใครที่มาเคาะ"หนามจ๊ะ""คะ" หนามเตยรีบมาเปิดประตู"แม่ทำข้าวต้มร้อนๆ ขึ้นมาให้จะได้มีอะไรรองท้องก่อนนอนบ้าง" เมื่อประตูเปิดออกนางก็ได้ถือข้าวต้มเดินเข้าไปในห้อง"คุณแม่ไม่ต้องลำบากก็ได้ค่ะ หนามยังไม่หิว""ไม่หิวก็ต้องกิน" เจ้าขาดูแล้วเธอคงจะยังไม่ทานข้าวเย็น และตอนนี้มันก็ดึกมากแล้วด้วย"ขอบคุณค่ะ" หญิงสาวไหว้พร้อมกับกล่าวคำขอบคุณ จะทานได้หรือไม่ได้ค่อยว่ากันอีกที เพราะตอนนี้แค่ได้กลิ่นก็ชวนให้อาเจียนแล้ว"ว่าไงครับแม่" เจ้าขุนถามขึ้นทันทีที่เห็นแม่ออกมาจากห้องนั้น เขายืนรออยู่ด้านหน้าแบบเงียบๆ แถมยังหลบด้วยเพราะกลัวเธอมองออกมาเห็น"แม่ว่าลูกก็ไปพักผ่อนได้แล้วดึกแล้วนะ"แม่ตอบผมก่อนสิครับ"จะให้แม่ตอบอะไร""เธอจะกินข้าวไหมครับ""แม่ไม่รู้""ทำไมแม่ไม่อยู่รอจนกว่าเธอจะกินล่ะครับ""ลูกก็ไปรอเองสิ" เจ้าขาแค่พูดอยากจะเห็นกิริยาของลูกชายพอแม่กลับเข้าห้อง เจ้าขุนก็เดินกลับมาที่หน้าห้องของเธอ แนบหูฟัง ว่ามีเสียงช้อนกระทบกับถ้วยไหม"อ้วกกกกก""หนาม" แต่เสียงที่ได้ยินก็คือเส
"ขอฉันไปด้วยคนนะคะ" เจ้าขารีบเดินตามสามีออกมาที่รถ"ผมว่าคุณไม่ต้องไปหรอก รอฟังข่าวอยู่ที่บ้านดีกว่า""แต่ฉันเป็นห่วงนี่คะ""ถ้างั้นก็ขึ้นรถ" ทศกัณฐ์ไม่เคยทนลูกอ้อนของภรรยาคนสวยได้สักครั้งเจ้าขาก็รีบเดินอ้อมไปขึ้นนั่งข้างสามี ส่วนตอนนี้เจ้าขุนขับรถของตัวเองออกไปตั้งแต่รู้ว่าเธอซื้อตั๋วเพื่อที่จะเดินทาง"หนามรอผมก่อนนะอย่าเพิ่งไปไหน" คันเร่งถูกเหยียบเกือบมิดไมล์ รถคันไหนที่ขวางหน้าเขาบีบแตรไล่ที่เจ้าขาตามสามีมาส่วนหนึ่งเพราะเป็นห่วงหนามเตย แต่ที่เป็นห่วงมากที่สุดก็คือลูกชายสนามบินสุวรรณภูมิชายหนุ่มมาถึงสนามบินโดยปลอดภัย เขาจอดรถได้ก็รีบวิ่งตรงเข้าไป โดยที่ทิ้งรถไว้ในที่ห้ามจอด แต่เจ้าขุนก็ไม่สนใจชายหนุ่มร่างสูงวิ่งฝ่าผู้คนที่กำลัง เดินกันให้วุ่น สายตาของเขามองไปที่ผู้โดยสารขาเข้า"เข้าไม่ได้ครับ" พนักงานด้านหน้าที่คอยตรวจเช็คตั๋วเดินทาง ไม่เห็นเขามีตั๋วติดมือมาด้วยก็เลยไม่อนุญาตให้เข้าไป"ผมแค่อยากจะเข้าไปหาคน""หาใครก็ไม่ได้ครับ""ผมต้องทำยังไงถึงจะเข้าไปได้""คุณต้องมีตั๋วเดินทางครับ"ชายหนุ่มรีบวิ่งกลับมาตรงที่ซื้อตั๋ว"เราปิดการขายไปแล้วค่ะ ไฟท์นี้เครื่องกำลังจะขึ้นค่ะ" และก็เ
ห้องพยาบาลของทางมหาวิทยาลัย"เพื่อนเราเหรอจ๊ะ" อาจารย์หมอเห็นมายมิ้นท์ก็นึกขำ เพราะจำได้แม่น"ไม่ใช่เพื่อนค่ะ รุ่นพี่ที่คณะ" หญิงสาวตอบออกไปแบบเอียงอาย เพราะหลายครั้งที่เธอได้มาใช้บริการห้องนี้อาจารย์หมอตรวจดูอาการอยู่พักหนึ่งวัดความดัน และตรวจคลื่นหัวใจ"คงเป็นเพราะความเครียดพักผ่อนไม่เพียงพอ เดี๋ยวรอให้เพื่อนฟื้นก่อนนะ" เพราะว่าตอนนี้หนามเตยยังไม่ได้สติ แต่ชีพจรของเธอก็ปกติ อาจารย์หมอก็เลยไม่เป็นห่วงเท่าไรเวลาเข้าเรียน.."รู้หรือยังว่าหนามเตยเป็นลมตอนนี้อยู่ห้องพยาบาล" เพื่อนที่รู้ข่าวเข้ามาพูดกันอยู่ในห้อง"เมื่อกี้มึงว่าอะไรนะ?!" เจ้าขุนรีบหันกลับไปมอง และตอนนี้เธอก็ยังไม่เข้ามาในห้อง ที่เขาไม่รู้เรื่องเพราะวันนี้ไม่ได้ไปทานข้าวที่โรงอาหาร"ก็น้าของมึงน่ะสิอยู่ห้องพยาบาลโน่น" ได้ยินแค่นั้นแหละ เจ้าขุนก็รีบวิ่งออกจากห้องไป ซึ่งมีกล้าหาญวิ่งตามมาติดๆ"หนาม.." พอเจ้าขุนมาถึงก็เห็นเธอนั่งอยู่บนเตียง ซึ่งมีไต้ฝุ่น และมายมิ้นท์อยู่ในห้องนั้นด้วย "เธอเป็นอะไรครับ" เจ้าขุนถามอาจารย์หมอที่นั่งอยู่โต๊ะประจำของห้องนี้ทุกคนในห้องต่างก็มองหน้ากันไปมา ไม่มีใครพูดอะไรออกมาสักคน ..มันยิ่งทำให้