"ปวดหัวจังเลยครับแม่" ชายหนุ่มเดินเข้าไปในครัว แล้วเปิดตู้เย็นหยิบน้ำออกมาดื่ม พร้อมพูดกับผู้เป็นแม่ที่กำลังทำครัวอยู่พลวด~ พอน้ำเข้าปากยังไม่กลืนเลยด้วยซ้ำ มันก็พุ่งออกมาจนหมด"เธอ?!" เจ้าขุนพูดออกไปพร้อมกับเสียงสำลักน้ำขึ้นจมูก ทีแรกเขาคิดว่าผู้เป็นแม่กำลังทำครัวอยู่เพราะมองแค่ผิวเผิน แต่ที่ไหนได้ "เธอมาอยู่บ้านหลังนี้ได้ยังไง!?""ทำไมจะมาอยู่ที่นี่ไม่ได้ ก็นี่บ้านพี่สาวของฉัน""บ้านพี่สาวหมายความว่ายังไง?!""เสร็จหรือยังจ๊ะหนาม...อ้าวลูกตื่นแล้วเหรอ" เจ้าขากำลังจะเดินเข้ามาดูว่าหนามเตยทำอาหารเสร็จหรือยัง เพราะวันนี้หนามเตยขอเป็นแม่ครัวเอง"ผู้หญิงคนนี้มาอยู่ในบ้านของเราได้ยังไงครับแม่""ก็หนามเตยเป็นลูกสาวของคุณตา ทำไมจะอยู่ที่นี่ไม่ได้ล่ะจ๊ะ""ลูกสาวของคุณตาหมายความว่ายังไง?!" เจ้าขุนตวัดสายตามองไปที่หนามเตยคนที่กำลังเป็นประเด็นอยู่"หมายความว่าฉันเป็นน้าของนายไงล่ะ.. ใกล้จะเสร็จแล้วค่ะแต่คงต้องได้ทำใหม่""ทำไมมันเลอะเทอะแบบนั้นล่ะ" เจ้าขาเดินเข้ามามีแต่ร่องรอยของน้ำกระจายอยู่"ก็มีใครบางคนพ่นน้ำมาใส่น่ะสิคะ" น้ำที่เจ้าขุนสำลักออกมากระเด็นใส่ อาหารที่หนามเตยทำเสร็จพอดี"แม่ช่วยสน
"เข้ามาได้เลยจ้า" พอสิ้นเสียงของอาจารย์ หญิงสาวที่อยู่ในชุดนักศึกษา ก็ได้ก้าวเดินเข้ามา"ว๊าวว" หนุ่มๆ ในห้องต่างก็ตาลุกวาว ไม่เว้นแม้แต่กล้าหาญเพื่อนรักของเจ้าขุน เขาคือลูกชายเจ้าของห้างทอง"..???..." คนที่ตะลึงยิ่งกว่าใครก็คือเจ้าขุนแต่ตะลึงคนละแบบ ตอนนี้เครื่องหมายคำถามวนเข้ามาในหัวของเขามากมาย"แนะนำตัวให้เพื่อนได้รู้จักเลยจ้า""สวัสดีค่ะเพื่อนๆ ฉันชื่อ.." พอพูดมาถึงตรงนี้สายตาของเธอก็ไปหยุดอยู่ที่เจ้าขุน "หนามเตยค่ะ""ชื่อหนามเตย...คนอะไรหน้าตาก็น่ารักอยู่แล้วแถมชื่อยังน่ารักอีก" หนุ่มๆ พูดออกมาแทบจะพร้อมกัน"ไม่เห็นสวยตรงไหนเลย" มันคือคำพูดของยี่หวา แถมมุมปากก็เบะใส่อีกต่างหาก"ไปหาที่นั่งได้เลยจ้า"หญิงสาวร่างบางค่อยๆ เดินเข้ามา สายตามองหาเก้าอี้ที่ว่างอยู่ ทันใดนั้นก็มีคนเสนอให้.."ตรงนี้ว่าง..มานั่งได้เลยครับ""ว่างตอนไหนวะ""กำลังจะว่างอยู่นี่ไง" ว่าแล้วกล้าหาญก็ผลักเพื่อนออก "เห็นไหมครับว่างแล้ว" กล้าหาญใช้มือของตัวเองปัดที่นั่ง 2-3 ทีเพื่อเชื้อเชิญให้อีกคนเข้ามานั่ง"อ้าวไอ้นี่ เห็นผู้หญิงดีกว่าเพื่อน" เพื่อนคนนั้นก็เลยต้องไปหาที่นั่งใหม่"ขอบคุณค่ะ" หนามเตยค่อยๆ หย่อนกายล
เย็นวันเดียวกันนั้น.. ที่บ้าน"แม่ทำเองเหรอครับอร่อยดี" เจ้าขุนชิมอาหารที่อยู่ตรงหน้า พอรู้รสชาติแล้วเขาก็เริ่มบรรเลง "ผมไม่รู้ว่าแม่ปรุงรสชาติแบบนี้ได้ด้วย""อร่อยก็กินเยอะๆ อันนี้ก็อร่อยนะ" เจ้าขาตักอาหารให้ลูกชิมทุกจาน และก็ไม่บอกด้วยว่าใครเป็นคนทำ ..เพราะถ้ารู้เขาคงจะไม่กิน ซึ่งตอนนี้คนทำไม่ได้อยู่ตรงนี้ด้วยหนามเตยรู้ดีว่าถ้ายังนั่งร่วมโต๊ะอาหารอยู่ แม่กับลูกคงไม่ได้กินข้าวร่วมกัน เธอก็เลยบอกไปว่ากินตอนทำอิ่มแล้วคนตัวเล็กเก็บกระเป๋าเสื้อผ้าพร้อมกับน้ำตาที่รินไหล สิ่งเดียวที่เธอจำพ่อกับแม่ได้ ก็คือท่านชวนไปเที่ยวทะเล ช่วงใกล้จะปิดเทอมตอนเรียนอยู่อนุบาลและด้วยความเป็นเด็กที่ไม่เคยเห็นทะเลเลย แต่เธอก็เคยเห็นทะเลในรูปภาพและสื่อต่างๆ มาพอสมควร พอรู้ว่าพ่อกับแม่จะพาไปเที่ยว เด็กน้อยก็ดีใจมากรีบเก็บกระเป๋าไว้ก่อนวันเดินทางตั้งหลายวันแต่พอเย็นวันนั้น พ่อกับแม่ก็ไม่มารับที่โรงเรียน และตั้งแต่ตอนนั้นเด็กน้อยที่ชื่อหนามเตยก็ไม่ได้เจอหน้าพ่อกับแม่อีกเลย ..โตขึ้นถึงรู้ว่าพวกท่านเสียแล้ว งานศพของพวกท่านเธอยังไม่ได้ไปร่วม เพราะต้องได้เดินทางไปต่างประเทศแต่โชคดีที่ผู้มีพระคุณดูแลเธอเป็นอย่าง
"ทำไมผู้หญิงคนนี้ถึงมาอยู่บนรถได้?!" ทีแรกคิดว่าจะชวนเพื่อนไปเข้าห้องน้ำแล้วไปหาอะไรในร้านสะดวกซื้อมากินกัน แต่พอเห็นเธอแล้วคำพูดพวกนั้นก็เลยเปลี่ยนไป"มึงจะมาพูดเสียงดังอะไรตรงนี้ ไม่เห็นหรือไงว่าหนามเตยของกูนอนหลับอยู่""ส่งเธอกลับบ้านไป" เขาไม่ได้พูดเบาลงเลยแถมยังตะคอกเสียงดังลั่นรถจนทำให้หนามเตยตื่นขึ้นมาแบบงงๆ แต่เธอก็ยังได้ยินทุกคำพูดของเขา"มึงบ้าไปแล้วหรือไง มาจนจะถึงทะเลแล้วจะให้กลับทำไม""กูไม่ได้เชิญ และทริปนี้กูเป็นคนออกค่าใช้จ่ายทั้งหมด""มึงจะให้เธอกลับยังไง นี่ทางมอเตอร์เวย์นะเว้ย!""ถ้าออกจากมอเตอร์เวย์แล้ว รีบส่งกลับไปเลย" ว่าแล้วเจ้าขุนก็รีบลงรถไปแบบไม่ค่อยสบอารมณ์"มันเป็นบ้าอะไรวะไม่เห็นมันเป็นแบบนี้กับผู้หญิงสักที..หนามอย่าไปสนใจเลยนะครับ""ค่ะ" เธอทำใจไว้แล้วถ้าเขาเห็นหน้าคงต้องไล่กลับบ้าน แต่ไม่คิดว่าเขาจะมาเจอเธอระหว่างเดินทางแบบนี้ ..ถ้าไม่เพราะอีตาบ้านี่มานั่งตรงนี้เขาคงไม่เดินมา..แล้วดวงตางามก็ตวัดมองมาที่กล้าหาญแบบตำหนิ"หนามไม่ต้องกลัวหรอกครับ ยังไงผมก็ไม่ให้คุณกลับหรอก" ยังไม่รู้ตัวอีกว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่พอทุกคนขึ้นมา รถก็เริ่มออกตัวไป รถทัวร์ออกตัวเพ
ทุกคนในงานเลี้ยงริมชายหาดต่างก็อ้าปากค้าง เพราะไม่มีใครคิดว่าเจ้าขุนจะกล้าทำแบบนี้ เขาไม่ใช่คนเจ้าชู้อะไร อย่างที่รู้กันอยู่ว่าเขารักรุ่นน้องที่เรียนคณะเดียวกันหญิงสาวที่กำลังถูกจูบอยู่ในตอนนี้ ไม่ใช่ว่าเธอเต็มใจ แต่ก็ปล่อยให้เขาจูบไป เพียงไม่นานเจ้าขุนก็ปล่อยจูบออก เพราะเธอไม่ดิ้นรนผลักไสอะไรเลย แถมยังมีตอบสนองบ้าง"หึ" พอปล่อยจูบออกแล้วแทนที่จะขอโทษหรือสำนึกผิดที่ทำแบบนี้แต่ไม่มีเลย ท่าทางและสายตาของเขาดูถูกเธอมากกว่า..คงคิดว่าเธอง่ายเมื่อเป็นอิสระแล้วหนามเตยก็รีบยันกายลุกขึ้น ลืมความเจ็บปวดที่ขาไปสิ้นเพราะตอนนี้เธอตกใจ ที่ลำกล้องของเขากำลังขยายตัวดันช่วงสะโพกของเธอจนสัมผัสได้หญิงสาวลุกขึ้นได้ก็รีบเดินออกมาจากตรงนั้น ถึงแม้ว่าเธอจะถูกปลูกฝังมาแบบฝรั่ง แต่ก็ไม่ได้ให้ใครจูบมั่วและนั่นมันก็คือจูบแรกของเธอ"ไหนใครพนันกับกูไว้ เอาเงินมาเลย" เสียงเพื่อนที่อยู่รอบข้างคุยกัน เพราะเพื่อนๆ ต่างก็พนันกันไว้ ว่าเธอคนนี้จะไม่สนใจเจ้าขุนเหมือนผู้หญิงคนอื่น แต่ถ้ามีการพนันต้องมีเงินเดิมพันอยู่แล้ว และตอนนี้คนที่แพ้ ก็มีมากกว่าครึ่งห้องเพราะเห็นท่าทางของทั้งสองเหมือนจะไม่สปาร์คกันเลย"อะไรวะถูกจ
เช้าวันต่อมา..เสียงคลื่นซัดเข้ามากระทบฝั่ง ลมทะเลกระโชกแรง หญิงสาวร่างระหงค่อยๆ ลืมตาขึ้นมาจากการหลับใหลดวงตางามมองผู้ชายที่นอนหลับอยู่ข้างกายแล้วนึกขำตัวเอง ทำไมปล่อยตัวเองให้เผลอใจไปกับเขาแบบนี้ได้ในเมื่อสิ่งที่เสียไปแล้วจะเรียกคืนมาก็ไม่ได้ เธอก็เลยต้องรีบสลัดความคิดนั้นออกไป..วันไนท์สแตนด์งั้นเหรอ คิดแล้วก็อยากร้องไห้นี่มันครั้งแรกของเธอนะ.. เสียไปเพราะวันไนท์สแตนด์อย่างงั้นเหรอ"มาย"ในขณะที่กำลังคิดอะไรอยู่นั้น ก็ได้ยินเสียงที่เขาละเมอออกมา แต่ก่อนที่เขาจะตื่นเธอต้องรีบเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อน"โอ้ย.. หึ..จะเจ็บอะไรก่อนดีเรา" เท้าที่เหยียบเศษแก้วเมื่อคืนก็ยังเจ็บอยู่มาก หว่างขาที่ถูกเขากระแทกก็เจ็บไม่แพ้กัน แต่เธอก็ยังพยายามพาร่างกายที่บอบช้ำลุกขึ้นก๊อก ก๊อก"ตื่นหรือยังวะ" เสียงเคาะห้องดังขึ้น เมื่อตอนที่หญิงสาวกำลังใช้ห้องน้ำอยู่"ใครวะ!!" ชายหนุ่มที่นอนอยู่บนเตียงรีบหาหมอนมาปิดหูเพื่อตัดรำคาญ แล้วสักพักพอคิดอะไรขึ้นมาได้เขาก็รีบลุกขึ้น จนลืมว่าตัวเองกำลังแฮงค์ "เมื่อคืนนี้เราฝันไปใช่ไหม?!" แต่ทำไมมันถึงเหมือนจริงจัง เขามองไปรอบๆ ห้อง แล้วรู้สึกโล่งใจที่ไม่เห็นเธอ แต่พอจะลุกไปเ
"ไม่ต้องเดี๋ยวกูโทรบอกให้รถมารับ เอากระเป๋ากลับเข้ามาไว้ในบ้าน" เจ้าขุนพูดขึ้นเมื่อได้ยินกล้าหาญบอกว่าจะพาหนามเตยไปรอที่ห้องของเขา"ฉันจะรออยู่ข้างนอก" เธอตอบออกไปโดยไม่ต้องเสียเวลาคิดเลยพอเจ้าขุนโทรเรียกรถจากที่บ้านให้มารับ หญิงสาวก็เลยยอมรอกลับแต่โดยดี เพราะอยู่ต่อคงทำอะไรไม่ได้แล้ว "ตามใจ" ว่าแล้วเจ้าขุนก็กลับเข้าไปใส่เสื้อผ้า ส่วนกล้าหาญแยกตัวออกไปก่อนหน้านั้นแล้ว เพราะไปเตรียมอาหารมาให้เธอได้ทาน"หมดตัวเลยกู" คนที่เพิ่งจะได้เงินกับเพื่อนมา ตอนนี้ทุนหายกำไรหด เพราะเสียกลับไปให้เพื่อนหลายคนเลย "ว่าแต่ถ้าหนามเตยเป็นน้าของเจ้าขุน..ถ้างั้นแสดงว่า เธอเป็นมหาเศรษฐีเลยน่ะสิ!?" ทุกคนไม่ได้แปลกใจเรื่องนี้เลย เพราะคุณตาของเจ้าขุนเป็นคนที่มีภรรยาเยอะมาก อาจจะเป็นภรรยาคนใดคนหนึ่งที่มีลูกกับท่านก็ได้"ก็ใช่น่ะสิ จำได้ไหมที่วันนั้นพวกเราพูดถึงเรื่องเส้นใหญ่""เออจริง ถึงว่าทำไมถึงเข้าเรียนช่วงที่ใกล้จะปิดภาคเรียนได้""ทานอะไรหน่อยนะครับหนาม" กล้าหาญกลับมาพร้อมกับอาหารและน้ำดื่ม แถมยังมียาติดมือมาด้วย"คุณกล้าหาญน่ารักจังเลยค่ะ" หนามเตยชมออกไปด้วยความจริงใจ เพราะถ้าให้เธอไปหากินเองคงจะลำบากแน
หนามเตยขอตัวขึ้นมาบนห้องนอนทันทีที่เห็นสายตาเหมือนไม่พอใจของเขา หญิงสาวเปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่อที่จะอาบน้ำ เพราะวันนี้เหนื่อยมาทั้งวันในขณะที่เธอกำลังถอดเสื้อผ้าอยู่นั้น ประตูห้องก็ได้ถูกเปิดเข้ามาแบบถือวิสาสะ"อุ้ย" คนตัวเล็กรีบคว้าหาผ้าเช็ดตัวเพื่อที่จะมาปิดบังร่างกายอันเปลือยเปล่า เธอคิดว่าจะไม่มีใครเข้ามา เพราะนี้มันเป็นห้องส่วนตัวก็เลยถอดผ้าโดยไม่ได้ระวังอะไร"เธอกำลังทำอะไรอยู่""ไม่เห็นหรือไงว่าฉันกำลังจะไปอาบน้ำ" ร่างระหงค่อยๆ ถอยไปจนชิดตู้เสื้อผ้า"เธอรู้ดีว่าฉันหมายถึงอะไร""ก็อย่างที่นายได้ยินมา" ถึงแม้เธอจะอธิบายไปเขาก็ไม่ฟัง หญิงสาวก็เลยตอบไปในสิ่งที่เขาอยากจะได้ยิน"เธอคิดแผนนี้ไว้แล้วใช่ไหม! ว่าจะเข้ามาฮุบทุกอย่างของคุณตาไป""แล้วแต่นายจะคิดแล้วกัน!""ก็ฉันกำลังคิดอยู่นี่ไง!!" มือหนากระชากคนร่างบางจนกระเด็นเข้ามาชิดลำตัว"ปล่อยนะฉันเจ็บ!""เธอมาจากไหนก็กลับไปที่นั่น""ฉันไม่ไป""แน่ใจนะว่าจะไม่ไป!!""โอ้ย!" เจ้าขุนจับร่างระหงของหญิงสาวโยนไปที่เตียง แล้วเขาก็เดินตามเธอไปแบบติดๆ "ปล่อย!" หญิงสาวพยายามจะเบือนหน้าหนีริมฝีปากของเขาชายหนุ่มยังพยายามจะขืนใจเธอ"ไหนนายบอกมันแค่ว
[มหาวิทยาลัย]"จะไปไหน" พอเข้ามาถึงห้องเรียน หนามเตยก็เดินตรงไปที่โต๊ะเรียนเดิม โต๊ะที่ขอแลกกับกล้าหาญ"ก็ไปที่นั่งไง""มานั่งด้วยกันตรงนี้""จะบ้าเหรอนั่นมันที่ของกล้าหาญ""เดี๋ยวให้มันไปนั่งข้างหลัง""ไม่เอาเปลี่ยนมาครั้งหนึ่งแล้วจะเปลี่ยนกลับได้ยังไง" ว่าแล้วหญิงสาวก็เดินไปนั่งที่เดิม ..เพียงไม่นานอาจารย์ก็เดินเข้ามาในห้องในขณะที่นั่งเรียนอยู่เจ้าขุนก็มองกลับหลังบ่อยครั้งมาก"มึงเป็นอะไรนักหนาวะ" กล้าหาญซึ่งนั่งอยู่ด้านข้างก็ไม่เป็นอันเรียนไปด้วย พอเพื่อนมองกลับหลัง เขาก็ต้องได้มองตามแบบสงสัยว่าเพื่อนมองอะไร พอรู้แล้ว..แต่เวลาที่เจ้าขุนมองกลับไปอีกที เขาก็ต้องมองตามอีก..เพราะมันเป็นสัญชาตญาณ"กูว่ามึงย้ายเถอะว่ะ""ย้ายไม่ได้เดี๋ยวเมียด่า" ชายหนุ่มกระซิบพูดกับเพื่อนเบาๆ"มึงกลัวด้วยเหรอวะ""ใครบอกว่ากูกลัว..กูแค่เกรงใจ""นั่นแหละที่เขาเรียกว่ากลัว""มึงไม่เคยมีเมียมึงจะรู้ได้ยังไง""ด้านหลังช่วยสนใจอาจารย์หน่อยนะคะ" เพียงไม่นานอาจารย์ก็ส่งเสียงมา และเพื่อนๆ ที่นั่งอยู่ด้านหน้าต่างก็หันกลับมามองที่เจ้าขุนเป็นห่วงเพราะคนที่นั่งอยู่ข้างหนามเตยเป็นเพื่อนผู้ชาย"ไปไหนแล้ว""หาอะไร""ปา
คืนเดียวกันนั้น.."ไปอาบน้ำกัน" พอขึ้นมาถึงด้านบน เขาก็ชวนเธอ"จะอาบก็ไปอาบเองสิ""แน่ใจนะว่าลูกจะไม่คิดถึงพ่อ" ชายหนุ่มพูดด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์จริงด้วยถ้าเขากลับห้องไปมีหวังเราต้องได้ไปคุยกับชักโครกอีกแน่เลย หญิงสาวลืมไป เพราะวันนี้ไม่คลื่นไส้มาทั้งวัน จนถึงเวลานี้ก็มืดค่ำมากแล้ว"ไปด้วยกัน" มือหนาคว้าเอาคนตัวเล็กให้เดินตามมาที่ห้องของตัวเอง"ฉันไม่อาบกับคุณนะ" หญิงสาวพยายามจะหยุดไม่เดินตาม"ไม่อาบก็ไม่อาบ แต่ไปด้วยกัน" เขาไม่อยากจะปล่อยให้เธออยู่ห้องคนเดียว "รออยู่ตรงนี้" ชายหนุ่มเข้าไปอาบน้ำโดยไม่ปิดประตูห้องน้ำ ส่วนเธอก็ยืนหันหลังให้ ไม่กล้าหันไปมองเราต้องทำแบบนี้อีกนานแค่ไหนเนี่ย..ลูกนะลูก หญิงสาวบ่นพึมพำที่ต้องได้มายืนเฝ้าเขาอาบน้ำอยู่แบบนี้ตุ๊บ.."อะไร" คนตัวเล็กรีบหันเข้าไปดู เพราะได้ยินเสียง ทีแรกคิดว่าเป็นเสียงเขาล้ม แต่พอหันเข้าไปแล้วเธอต้องได้รีบหันกลับออกมาพร้อมกับใบหน้าที่แดงกล่ำ"ตกใจเหรอ มือผมไปถูกฝาชักโครก" ตอนที่เขากำลังเช็ดตัวอยู่นั้น มือได้ไปโดนฝาชักโครกที่เปิดอยู่มันก็เลยปิดลงมีเสียงดัง"อาบเสร็จหรือยัง""จะอายทำไมผมยังไม่อายเลย" เขารู้ดีว่าเธอคงจะอายตอนที่หันม
สายตาของทั้งสองจ้องมองซึ่งกันและกัน แบบไม่มีใครยอมหลบให้ใคร"ผมเห็นเจ้าของไม่ต้องการมันอีกแล้ว ก็เลยเก็บมันเอาไว้" เขาพูดในขณะที่ยังมองสบตาเธออยู่"คุณต่างหากที่ไม่ต้องการ" คำพูดนี้ มันได้ออกมาพร้อมกับน้ำตาที่ไหลริน ของเจ้าของใบหน้าหวาน กว่าเธอจะตัดสินใจทิ้งมันได้ เพราะมันอยู่กับเธอมาตลอดระยะเวลาที่ใช้ชีวิตอยู่ต่างประเทศ"ผมขอโทษ ผมมันโง่เอง มีสมองแต่ไม่คิดไตร่ตรองให้ดี ว่าทำไมคุณถึงหายไปในวันนั้น""คุณยังรอฉันอยู่เหรอคะ""รอสิ ไม่ได้รอแค่วันนั้นนะ รอจนย้ายโรงเรียน ขนาดย้ายโรงเรียนแล้วผมยังให้คนขับรถพากลับมาเผื่อว่าคุณยังอยู่ที่เดิม" วันไหนที่มีแต่แม่บ้านและคนขับรถมารับ เขาชอบให้ผ่านไปทางโรงเรียนเดิม จอดรอดูว่าเธอจะออกมาจากในนั้นไหม..แต่ก็ไม่มี"วันนั้นพ่อกับแม่ของฉัน..ท่านทั้งสอง.." คำพูดของเธอมันถูกกลืนหายเข้าไป พร้อมกับเสียงสะอื้น"ผมรู้แล้ว..ถ้าผมรู้ว่าอะไรเกิดขึ้นกับคุณบ้าง และตอนนั้นคุณอยู่ที่ไหนผมจะตามไป" ถ้าเขารู้สักนิดว่าเธอไปเรียนต่อที่ต่างประเทศ เขาจะไม่รีรอที่จะตามไปเลย"คุณไม่รู้เหรอคะว่าคุณตา.." ตอนนั้นเธอยังเด็กมาก ทำอะไรไม่ถูก อยากจะพูดอยากจะถามหาเขา แต่ก็ไม่รู้จะเริ่ม
"กลับมาแล้วเหรอลูก" เจ้าขาถามขึ้นเมื่อเห็นลูกชายเข้ามา"ครับ""มันจะรีบไปไหน แล้วมันมาจากไหน" ทศกัณฐ์ได้แต่มองตามหลังคนที่วิ่งขึ้นไปบนบ้าน แทบจะไม่รู้ว่าคนที่เข้ามาเป็นลูกชายของตัวเอง เพราะมองไม่ทัน"วันนี้วันเกิดของกล้าหาญค่ะ" เจ้าขาพูดพร้อมกับเอานมอุ่นๆ มาให้สามีได้ทาน เพราะเขาเพิ่งกลับมาจากที่ทำงาน"วันเกิดกล้าหาญ?" พอรู้ว่าวันเกิดเพื่อนสนิทของลูกชาย ทศกัณฐ์ก็ยกนาฬิกาข้อมือขึ้นมาดู สองทุ่มกว่า?" ธรรมดาวันเกิดเพื่อน ถ้าไม่เช้าก็คงจะเป็นเย็นวันต่อไปถึงจะเห็นหน้าลูกชายโผล่กลับบ้าน"เห็นหนามขอเบอร์โทรไป สงสัยจะโทรตามมั้งคะ""โทรตามงั้นเหรอ?" มันยิ่งสร้างความงุนงงให้กับทศกัณฐ์ เพราะทั้งสองไม่มีทีท่าว่าจะเป็นมิตรกันเลยแกร่ก~ กลับมาถึงชายหนุ่มก็ตรงเข้าห้องของเธอ"หนาม" มองดูบนเตียงนอนไม่มี เขาก็เลยรีบเข้าไปดูในห้องน้ำ "เป็นยังไงบ้าง"พอเห็นเขาเข้ามาอาการคลื่นไส้เวียนหัวก็หายไปสิ้น หญิงสาวลุกขึ้นแบบหน้าบูดบึ้ง ไม่พูดไม่จาแล้วเดินออกมาจากห้องน้ำ"...?..." ชายหนุ่มงงกับท่าทาง..เนี่ยเหรอคนที่โทรตามเขากลับบ้าน อุตส่าห์ดีใจว่าเธอโทรหา แต่พอกลับมาหน้าตาของเธอไม่รับแขกเลยจะให้ยิ้มระรื่นได้ยังไง
เขานั่งเป็นเพื่อนเธออยู่แบบนั้นจนคิดว่าเธอนอนหลับสนิทแล้ว ถึงออกมาจากห้องเพื่อไปอาบน้ำออกไปอาบน้ำยังไม่เสร็จก็ได้ยินเสียงคนข้างห้องอาเจียน ชายหนุ่มรีบล้างตัว แล้วออกมาจากห้องน้ำด้วยผ้าเช็ดตัวผืนเดียวที่พันรอบท่อนล่างอยู่"ผมนึกว่าคุณหลับไปแล้ว" เขารีบเดินเข้าไปลูบหลังให้ "ออกหมดเลยเหรอ" ชายหนุ่มมองลงไปดูในชักโครก..อาหารที่เธอกินเข้าไปเมื่อตอนเย็นออกไปหมดเลย"คุณจะมองอะไรสกปรกจะตาย" หญิงสาวรีบกดน้ำให้ไหลลง"ไปที่เตียงดีกว่า" มือหนาโอบร่างบางให้เดินตามมาที่เตียง ถ้าเป็นเมื่อหลายชั่วโมงก่อนเธอคงจะไล่ตะเพิดเขาไปแล้ว แต่นี่..รู้แล้วว่าทำไมเวลาเขาอยู่ใกล้อาการพวกนั้นมันถึงหายไปใบหน้างามมองต่ำลงไปที่ท้องของตัวเอง ไอ้ตัวเล็กต้องแผลงฤทธิ์แน่"นอนก่อนนะเดี๋ยวผมขอไปเปลี่ยนเสื้อผ้า" จังหวะที่เขากำลังจะออกจากห้อง มือเรียวรีบคว้าแขนของเขาไว้"คุณจะกลับเข้ามาอีกไหม" หญิงสาวถามไปโดยที่ไม่ได้เงยหน้ามองใบหน้าหล่อคมยกยิ้มขึ้นเมื่อได้ยินคำถาม "มาสิ" ว่าแล้วเขาก็รีบออกจากห้องไปก่อนที่เธอจะเปลี่ยนใจไปไม่ถึงห้านาทีก็รีบกลับเข้ามา แต่ตอนนี้เธออยู่ในห้องน้ำ"หนาม"พอเห็นเขากลับมาเธอก็ออกจากห้องน้ำ ..หึ!!
ตุ๊บ!! เสียงเจ้าขุนถีบเก้าอี้ออกจากตรงที่กีดขวาง"เมื่อกี้เธอว่าอะไร" แล้วเขาก็เดินตรงเข้าไปหายี่หวา เพราะเมื่อสักครู่ที่ยี่หวาพูดแล้วเดินเข้ามาในห้องเขาได้ยินชัดเจน"เราพูดถึงเรื่องละครที่ดูกับแม่เมื่อคืนนี้" ยี่หวาหน้าเปลี่ยนสีเมื่อเห็นว่าเจ้าขุนเอาจริงสายตาคมจ้องมองแบบเอาเรื่อง จนเพื่อนในห้องรีบเข้ามาช่วยกันขวางไว้"ไม่เอาน่า ผู้หญิงนะ" กล้าหาญก็เข้ามาช่วยพูด ถึงแม้ยี่หวาจะแก้ตัวไปแต่ทุกคนที่อยู่ในห้องก็ได้ยินหมด..ที่เธอพูดว่าหนามเตยสำส่อน"ผู้หญิงแล้วไง สักแต่มีปากจะพูด" จบคำพูดเจ้าขุนก็ถีบเก้าอี้ที่อยู่ด้านข้างจนลมกระจายส่วนยี่หวา..ตอนนี้ถอยออกไปจนจะชนผนังห้อง ..ถ้าคนที่พูดเป็นผู้ชายสงสัยฟันคงได้ร่วงออกจากปาก แต่เจ้าขุนก็ยังไม่สงบ ดวงตาของเขายังจ้องมองพร้อมกับขาที่ก้าวเดินเข้าไป"พอแล้ว" หนามเตยเป็นคนพูดขึ้น..เขาถึงได้หยุดที่หยุดเพราะได้ยินเสียงคนห้ามเหมือนจะร้องไห้"หนาม" เจ้าขุนเดินกลับเข้ามาหาเธอส่วนพวกเพื่อนๆ กำลังเก็บสิ่งที่เขาทำกระจัดกระจายไว้หนามเตยไม่มองหน้าเจ้าขุนเลยด้วยซ้ำ เธอนั่งลงที่เก้าอี้ของตัวเอง จากที่คิดว่าจะเข้มแข็ง เพราะคนรอสมน้ำหน้าก็มีมาก แต่ตอนนี้มันเข้
ก๊อก ก๊อก หลังจากที่เจ้าขุนออกจากห้องไปได้เพียงไม่นาน ก็ได้ยินเสียงคนมาเคาะประตูเรียกที่หน้าห้องหญิงสาวเงียบฟังว่าเป็นใครที่มาเคาะ"หนามจ๊ะ""คะ" หนามเตยรีบมาเปิดประตู"แม่ทำข้าวต้มร้อนๆ ขึ้นมาให้จะได้มีอะไรรองท้องก่อนนอนบ้าง" เมื่อประตูเปิดออกนางก็ได้ถือข้าวต้มเดินเข้าไปในห้อง"คุณแม่ไม่ต้องลำบากก็ได้ค่ะ หนามยังไม่หิว""ไม่หิวก็ต้องกิน" เจ้าขาดูแล้วเธอคงจะยังไม่ทานข้าวเย็น และตอนนี้มันก็ดึกมากแล้วด้วย"ขอบคุณค่ะ" หญิงสาวไหว้พร้อมกับกล่าวคำขอบคุณ จะทานได้หรือไม่ได้ค่อยว่ากันอีกที เพราะตอนนี้แค่ได้กลิ่นก็ชวนให้อาเจียนแล้ว"ว่าไงครับแม่" เจ้าขุนถามขึ้นทันทีที่เห็นแม่ออกมาจากห้องนั้น เขายืนรออยู่ด้านหน้าแบบเงียบๆ แถมยังหลบด้วยเพราะกลัวเธอมองออกมาเห็น"แม่ว่าลูกก็ไปพักผ่อนได้แล้วดึกแล้วนะ"แม่ตอบผมก่อนสิครับ"จะให้แม่ตอบอะไร""เธอจะกินข้าวไหมครับ""แม่ไม่รู้""ทำไมแม่ไม่อยู่รอจนกว่าเธอจะกินล่ะครับ""ลูกก็ไปรอเองสิ" เจ้าขาแค่พูดอยากจะเห็นกิริยาของลูกชายพอแม่กลับเข้าห้อง เจ้าขุนก็เดินกลับมาที่หน้าห้องของเธอ แนบหูฟัง ว่ามีเสียงช้อนกระทบกับถ้วยไหม"อ้วกกกกก""หนาม" แต่เสียงที่ได้ยินก็คือเส
"ขอฉันไปด้วยคนนะคะ" เจ้าขารีบเดินตามสามีออกมาที่รถ"ผมว่าคุณไม่ต้องไปหรอก รอฟังข่าวอยู่ที่บ้านดีกว่า""แต่ฉันเป็นห่วงนี่คะ""ถ้างั้นก็ขึ้นรถ" ทศกัณฐ์ไม่เคยทนลูกอ้อนของภรรยาคนสวยได้สักครั้งเจ้าขาก็รีบเดินอ้อมไปขึ้นนั่งข้างสามี ส่วนตอนนี้เจ้าขุนขับรถของตัวเองออกไปตั้งแต่รู้ว่าเธอซื้อตั๋วเพื่อที่จะเดินทาง"หนามรอผมก่อนนะอย่าเพิ่งไปไหน" คันเร่งถูกเหยียบเกือบมิดไมล์ รถคันไหนที่ขวางหน้าเขาบีบแตรไล่ที่เจ้าขาตามสามีมาส่วนหนึ่งเพราะเป็นห่วงหนามเตย แต่ที่เป็นห่วงมากที่สุดก็คือลูกชายสนามบินสุวรรณภูมิชายหนุ่มมาถึงสนามบินโดยปลอดภัย เขาจอดรถได้ก็รีบวิ่งตรงเข้าไป โดยที่ทิ้งรถไว้ในที่ห้ามจอด แต่เจ้าขุนก็ไม่สนใจชายหนุ่มร่างสูงวิ่งฝ่าผู้คนที่กำลัง เดินกันให้วุ่น สายตาของเขามองไปที่ผู้โดยสารขาเข้า"เข้าไม่ได้ครับ" พนักงานด้านหน้าที่คอยตรวจเช็คตั๋วเดินทาง ไม่เห็นเขามีตั๋วติดมือมาด้วยก็เลยไม่อนุญาตให้เข้าไป"ผมแค่อยากจะเข้าไปหาคน""หาใครก็ไม่ได้ครับ""ผมต้องทำยังไงถึงจะเข้าไปได้""คุณต้องมีตั๋วเดินทางครับ"ชายหนุ่มรีบวิ่งกลับมาตรงที่ซื้อตั๋ว"เราปิดการขายไปแล้วค่ะ ไฟท์นี้เครื่องกำลังจะขึ้นค่ะ" และก็เ
ห้องพยาบาลของทางมหาวิทยาลัย"เพื่อนเราเหรอจ๊ะ" อาจารย์หมอเห็นมายมิ้นท์ก็นึกขำ เพราะจำได้แม่น"ไม่ใช่เพื่อนค่ะ รุ่นพี่ที่คณะ" หญิงสาวตอบออกไปแบบเอียงอาย เพราะหลายครั้งที่เธอได้มาใช้บริการห้องนี้อาจารย์หมอตรวจดูอาการอยู่พักหนึ่งวัดความดัน และตรวจคลื่นหัวใจ"คงเป็นเพราะความเครียดพักผ่อนไม่เพียงพอ เดี๋ยวรอให้เพื่อนฟื้นก่อนนะ" เพราะว่าตอนนี้หนามเตยยังไม่ได้สติ แต่ชีพจรของเธอก็ปกติ อาจารย์หมอก็เลยไม่เป็นห่วงเท่าไรเวลาเข้าเรียน.."รู้หรือยังว่าหนามเตยเป็นลมตอนนี้อยู่ห้องพยาบาล" เพื่อนที่รู้ข่าวเข้ามาพูดกันอยู่ในห้อง"เมื่อกี้มึงว่าอะไรนะ?!" เจ้าขุนรีบหันกลับไปมอง และตอนนี้เธอก็ยังไม่เข้ามาในห้อง ที่เขาไม่รู้เรื่องเพราะวันนี้ไม่ได้ไปทานข้าวที่โรงอาหาร"ก็น้าของมึงน่ะสิอยู่ห้องพยาบาลโน่น" ได้ยินแค่นั้นแหละ เจ้าขุนก็รีบวิ่งออกจากห้องไป ซึ่งมีกล้าหาญวิ่งตามมาติดๆ"หนาม.." พอเจ้าขุนมาถึงก็เห็นเธอนั่งอยู่บนเตียง ซึ่งมีไต้ฝุ่น และมายมิ้นท์อยู่ในห้องนั้นด้วย "เธอเป็นอะไรครับ" เจ้าขุนถามอาจารย์หมอที่นั่งอยู่โต๊ะประจำของห้องนี้ทุกคนในห้องต่างก็มองหน้ากันไปมา ไม่มีใครพูดอะไรออกมาสักคน ..มันยิ่งทำให้