คืนวันต่อมา.. ที่โรงแรมใหญ่โตของทศกัณฐ์วันนี้เป็นวันที่จัดงาน ซึ่งทศกัณฐ์ก็จัดแบบนี้ปีละ 2-3 ครั้ง เพื่อสานสัมพันธ์บริษัทลูกที่อยู่ในเครือสาวสวยที่อยู่ในชุดราตรีสั้นสีหวาน โชว์ส่วนเว้าส่วนโค้งของร่างกาย ผิวขาวนวลสีชมพูเปล่งประกายล่อตาล่อใจผู้ชายในงานไม่ว่าจะหนุ่มหรือแก่ ใบหน้าหวานที่แต่งแต้มไปด้วยสีสัน มันทำให้หลายคนละสายตาไปจากเธอไม่ได้เลย"หนูมายใช่ไหมเนี่ย" คนที่เข้ามาทักก็คือทศกัณฐ์ "ลุงจำแทบไม่ได้เลยนะ""สวัสดีค่ะคุณลุง" หญิงสาวยกมือไหว้แบบนอบน้อม"ยิ่งโตเป็นสาวยิ่งสวย" ทศกัณฐ์ยังชมอย่างต่อเนื่อง แต่คำที่พูดชมก็ไม่ได้แตกต่างไปจากสิ่งที่เห็นเลย เพราะวันนี้เธอสวยโดดเด่นมากจริงๆ"คุณลุงก็ชมเกินไป ขอบคุณอีกครั้งค่ะ""ตาขุนก็มานะลูก ดื่มอยู่มุมโน้นแหน่ะ" ทศกัณฐ์ชี้ไปทางที่เจ้าขุนกำลังยืนอยู่ ..เจ้าขุนจะไม่มาก็ไม่ได้ เพราะมันเป็นงานของพ่อ"มายขอตัวเข้าไปทักพี่ขุนก่อนนะคะ..ฝากคุณพ่อด้วยนะคะคุณลุง""ฮ้าา.. น่ารักจริงๆ เด็กคนนี้" ทศกัณฐ์ขำที่มายมิ้นท์ฝากพ่อไว้ คงเห็นว่าพ่อเป็นเด็กมั้ง"มาย" เจ้าขุนซึ่งกำลังดื่มอยู่ พอเห็นมายมิ้นท์เดินเข้ามา ก็รีบวางแก้วเหล้าที่อยู่ในมือ "พี่นึกว่ามายจะไ
สุชาดายังคงยืนมองทั้งสองเต้นรำ สายตาที่เครียดแค้นชิงชังถูกเปล่งประกายออกมาจนทำให้คนที่มอง สัมผัสได้"ทำไมคุณไต้ฝุ่นถึงทำแบบนี้ ในเมื่อเขาควงคุณมาแล้วทำไมเต้นรำกับสาวสวยอีกคนล่ะคะ" นักข่าวที่แฝงตัวเข้ามาในงานแอบเดินมาคุยกับสุชาดา ที่ต้องได้แฝงตัวเข้ามาก็เพราะว่า เจ้าของงานไม่อนุญาตให้ทำข่าวด้านใน"ก็มันยั่วไงคะ" สุชาดาตอบออกไปโดยที่ไม่สนใจว่าใครเป็นคนถาม"อะไรนะคะ""อยู่ที่มหาวิทยาลัยมันก็ยั่วแฟนของฉัน มาที่นี่ดูการแต่งตัวของมันสิ" ทั้งๆ ที่ตัวเองก็ไม่ต่างกันเท่าไร แต่ความสวยและความเด่นมันต่างกันมาก"เรียนที่มหาวิทยาลัยเดียวกันด้วยเหรอคะ" ที่จริงนักข่าวก็ไม่ค่อยให้ความสนใจมายมิ้นท์เท่าไร เพราะเป็นแค่ลูกสาวของโรงแรมที่ไม่ใหญ่โต แต่กับไต้ฝุ่นนักข่าวให้ความสนใจแน่"ฉันไม่อยากเต้นแล้ว" หญิงสาวพูดออกมาเบาๆ แต่เท้าเรียวของเธอก็ยังก้าวเดินตามจังหวะที่เขาพาไป"แต่ฉันอยากเต้น" ไม่รู้ว่าเขาไปเอาความอยากชนะเธอมาจากไหน และตอนนี้ก็พาเธอเต้นมาได้หลายเพลงแล้ว จนคนในงานที่ออกมาเต้นล่าถอยไปทีละคู่หญิงสาวจำเป็นต้องทำใบหน้ายิ้มแย้มส่งให้เขาตลอดเวลาที่เต้นด้วยกัน "ฉันไม่ไหว" ถึงแม้ใบหน้าจะยิ้มแย้มแต่เธอเ
ร่างระหงค่อยๆ ถูกวางลงที่เตียงนิ่มๆ แบบเบามือที่สุด"อืมม" พอเขาวางเธอลงได้ก็ไม่ปล่อยให้เสียเวลา ชายหนุ่มตามลงมาขยี้ริมฝีปากบางแบบหิวโหย วันนี้คิดว่าเธอคงจะไม่กัด..เขาก็เลยจูบได้แบบสบายใจแต่ก็ไม่ได้จูบอยู่นาน เพราะเรือนร่างของเธอมีที่ให้สัมผัสเยอะมาก ตรงไหนก็น่าสัมผัสไปหมด ริมฝีปากหนาพรมจูบลงมาเรื่อยๆ จนถึงยอดปทุมไหล่งามสองข้างห่อเข้าหากันเมื่อถูกสัมผัสตรงนั้น คงเพราะด้วยความสยิว เพราะโดนเข้าไปทั้งริมฝีปากและลิ้น"อื้อ" หญิงสาวสะดุ้งเมื่อเขาพรมจูบต่ำลงไปอีก "ไม่นะ" มือเรียวพยายามคว้าไหล่ของเขาไม่ให้ต่ำลงไปกว่านั้นแล้ว แต่ก็ไม่สามารถที่จะหยุดไต้ฝุ่นได้ ใบหน้าหล่อคม ได้ฝังลงตรงจุดกึ่งกลางหว่างขาเรียว"คุณ!" หญิงสาวสะดุ้งอีกครั้งเมื่อถูกเรียวลิ้นอุ่นเลียวนอยู่ในร่อง "พอแล้ว" เธอไม่คิดว่าเขาจะเล้าโลมถึงเพียงนี้มือหนารวบแขนคนตัวเล็กที่พยายามจะดันศีรษะของเขาออก แล้วพันธนาการมันไว้ด้วยมือข้างเดียวของเขาเอง ..ส่วนมือหนาอีกข้างเริ่มซุกซนสอดแทรกเข้าไปในร่องคับแคบ ..แต่ลิ้นก็ไม่ได้หยุดทำหน้าที่ ยังเลียวนอยู่ตรงเม็ดรัญจวนสะโพกงามพยายามขยับหนี แต่ก็ไม่เป็นผล ถึงแม้ว่าเขาจะเหลือมือแค่ข้างเดียวแ
พอได้ยินว่าเธอกลับบ้านไปกับพ่อ เขาก็รีบมาที่รถแล้วขับออกมา..ชายหนุ่มตรงไปที่บ้านของเธอ โดยใช้เวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมง ..เขาต้องรู้ให้ได้ทำไมพ่อถึงมารับเธอกลับในเวลานี้[บ้านปรัชญานนท์]"คุณมายอยู่ข้างบนค่ะ" แม่บ้านเดินมาแจ้งโดยที่ยังไม่เปิดประตูบ้านให้เขาเอารถเข้ามา"เปิดประตูทีผมจะเข้าไป" เขาลงจากรถแล้วมายืนคุยกับแม่บ้าน"คุณผู้ชายบอกว่า..เออ..ไม่ให้เปิดค่ะ" แม่บ้านก็ไม่รู้จะปฏิเสธยังไง เพราะอิทธิสั่งไว้ว่าถ้าไต้ฝุ่นมาไม่ต้องให้เข้า"ป้าจำผมไม่ได้เหรอครับ" ที่เขาถามไปเพราะคิดว่าแม่บ้านคงจะจำเขาไม่ได้ เพราะเพิ่งเคยมาที่นี่แค่ครั้งสองครั้งเอง"จำได้ค่ะ แต่คุณท่านบอกไม่ให้เปิด"นี่มันเกิดอะไรขึ้น ..สายตาคมมองขึ้นไปบนห้องนอนของเธอ..ก็เจอแต่ความว่างเปล่า แม้แต่ไฟในห้องนั้นก็ยังไม่เปิด[มหาวิทยาลัย]พอมาถึงมหาวิทยาลัยไต้ฝุ่นก็ตรงมาที่คณะการโรงแรม ยังไงเธอต้องมาเรียนแน่ เขาต้องรู้ให้ได้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น"รุ่นพี่มาทำไม" หลายคนที่อยู่ในห้องเรียนของมายมิ้นท์ต่างก็มอง เมื่อเห็นเขาเดินเข้ามาในห้อง"มายล่ะ" ไต้ฝุ่นตรงเข้ามาหากลุ่มเพื่อนของเธอ เพราะเขาจำได้ทุกคน"วันนี้มายไม่มาเรียนค่ะ บอกว่าไม่สบ
..เขามาหาเราทำไม จะตามไปถามดีไหม แต่ทำไมเขาทำเหมือน.."มายแกเป็นอะไร" ชะเอมเห็นน้ำตาของเพื่อนคลอออกมา"เปล่าหรอก""แกยังไม่ดีขึ้นเหรอทำไมหน้าซีดจังเลย""เรากลับห้องกันเถอะ"ในขณะที่นั่งเรียนคาบบ่าย มายมิ้นท์ไม่เป็นอันเรียนเลย เพราะมัวแต่ถามตัวเอง เรื่องที่ผู้ใหญ่นัดคุยกันตอนเย็น เพราะมันคือการตัดสินอนาคตชีวิตครอบครัวของเธอ ถ้าพวกท่านให้เลิกกันล่ะ"มายอาจารย์ถามเรื่องงานที่จะส่ง" ชะเอมสะกิดเพื่อนเมื่อเห็นเพื่อนนิ่งไป"งานอะไร" มายมิ้นท์ต้องได้สลัดความคิดพวกนั้นออกไปก่อน"งานเรื่องต้นแบบของนักกีฬาไง" ที่จริงพวกเพื่อนๆ ส่งงานไปหมดแล้วเหลือแต่มายมิ้นท์ เพราะเธอไม่สบายอาจารย์ก็เลยเลื่อนงานให้หญิงสาวก็เลยขอเวลาอาจารย์อีกสามวัน เพราะเธอต้องเปลี่ยนเค้าโครงใหม่ทั้งหมดเย็นวันเดียวกัน..วันนี้บ้านปรัชญานนท์เปิดไว้รอ เพราะนัดครอบครัวอัครไพศาลมาคุยกันที่บ้านของฝ่ายหญิงรถหรูของราชสีห์และภรรยาได้วิ่งเข้ามาจอด ส่วนไต้ฝุ่นจะตามมาทีหลัง"สวัสดีครับเชิญเข้ามาข้างในก่อน" อิทธิกลับมารอแต่หัววัน เพราะวันนี้ต้องคุยให้จบ"ทางเราต้องขอโทษด้วยที่เรื่องแบบนี้มันเกิดขึ้น" ราชสีห์กล่าวคำขอโทษเมื่อเดินเข้ามานั่
"ขอโทษรุ่นพี่มากนะคะ" เนยยกมือขึ้นไหว้ขอโทษก่อนเป็นอันดับแรก เมื่อเห็นเขาเดินเข้ามาใกล้สายตาคมมองไปที่ท้ายรถของตัวเอง แล้วหลับตาลงข่มอารมณ์ไว้ อย่างที่ทุกคนรู้ว่ารถคันนี้เป็นรถที่ปู่เขา..ไพศาล อัครไพศาล เป็นคนซื้อให้ในวันเกิด และเป็นปีที่ปู่ของเขาเสียด้วย"เราโทรเรียกประกันได้ไหมคะรุ่นพี่" เนยเห็นว่ามายมิ้นท์ไม่พูดอะไรก็เลยเป็นคนเจรจาแทนแต่ไต้ฝุ่นก็ยังไม่พูดอะไร.. และเขาก็ไม่ได้มองมาที่ผู้หญิงทั้งสองด้วย ที่ไม่มองก็เพราะว่าเห็นเธอลงจากรถมาได้ก็แสดงว่าไม่เป็นอะไร"มาย! เลือด?" จังหวะนั้นเนยหันมาหาเพื่อน เพราะเห็นว่าเพื่อนเงียบไปที่เธอเงียบเพราะรู้สึกหนักหัว แต่ก็ไม่คิดว่ามันจะถึงกับแตกเลือดที่ซิบออกมาพ้นไรผมของมายมิ้นท์เริ่มไหลลงมาเรื่อยๆ มือเรียวยื่นขึ้นไปกุมศีรษะของตัวเองไว้"เอาผ้าปิดไว้ก่อนดีกว่า" เนยรีบควักผ้าเช็ดหน้าของตัวเองมาเพื่อซับเลือดที่มันค่อยๆ ไหลลงมาโชคดีที่เลือดออกมาแค่นิดเดียวยังไม่เลอะถูกเสื้อผ้าพอไต้ฝุ่นได้ยินว่าเธอหัวแตก เขารีบหันมองมา "ไปหาหมอ""มาย เป็นยังไงบ้าง" เจ้าขุนได้ยินว่ามีรถชนกันที่ทางเข้ามหาลัยตรงใกล้จะถึงหน้าคณะของพวกเขา ก็รีบออกมาดู"เลือดนี่?!"
"จะตบอีกไหม" ไม่ใช่ว่าเขาจะไม่เจ็บ แต่มันก็คุ้มมากที่ได้จูบหญิงสาวไม่พูด ได้แต่มองหน้าเขาแบบทะมึนทึน คนตัวเล็กสะบัดกายหันหลังให้ พร้อมที่จะเดินออกมา"แน่ใจนะว่าจะกลับไปเรียน"เธอหยุดแล้วก็หันกลับมาอีกครั้ง "เรื่องของฉัน!""ถ้าไม่กลัวคนมองก็กลับไปสิ""มอง?.. ทำไมคนต้องมองด้วย" มือเรียวรีบควานหากระจกที่อยู่ในกระเป๋าออกมาส่องดูใบหน้าของตัวเอง "นี่นาย!!" เธอเป็นคนผิวขาวอมชมพู พอมีรอยช้ำมันก็เลยเห็นได้เด่นชัดมาก ถ้าช้ำแค่ตรงริมฝีปากก็ยังพอทาลิปสติกสีเข้มๆ ปิดบังได้ แต่นี่มันช้ำเลยลงมาจนถึงเนื้อบางๆ ตรงมุมปาก"จะกลับบ้านไหมเดี๋ยวจะไปส่ง""ไม่! เดี๋ยวพี่ขุนจะไปส่ง""ทำไมต้องให้มันไปส่งด้วย""แล้วทำไมฉันต้องบอกคุณด้วย นั่นมันเรื่องส่วนตัวของฉัน""สงสัยว่ารอยแค่นี้เธอคงจะยังไม่พอใจ" เท้าแกร่งค่อยๆ ก้าวเดินตรงมาหาคนตัวเล็ก ซึ่งตอนนี้เธอก็ค่อยๆ ก้าวถอยหลังออกไป"กรี๊ดด" หญิงสาวสะดุดก้อนหินที่อยู่ด้านหลังเกือบล้มลงไปถ้าเขารับร่างบางไว้ไม่ทันทั้งสองเผลอมองสบตา ในขณะที่เขายังไม่ได้ปล่อยเธอออกจากวงแขน ชายหนุ่มลอบกลืนน้ำลายลงคอ เพราะใบหน้าของเขาใกล้ริมฝีปากบางนั้นมาก"ห้ามให้ไอ้ขุนมันไปส่ง" เขาพูดอ
เช้าวันต่อมา.. ที่มหาวิทยาลัยเมื่อคืนนี้ไต้ฝุ่นค้างกับดัมมี่ที่บ้าน เช้ามาเขาก็ยืมชุดของดัมมี่ใส่มาเรียน โดยไม่แวะกลับไปบ้านเลย"ไต้ฝุ่นยังไม่ไปพบทางคณบดีอีกเหรอ" อาจารย์เห็นไต้ฝุ่นเดินเข้ามาในห้องก็เลยถามดู เพราะวันนี้เขามาสายจนเพื่อนเข้าเรียนแล้ว"ทำไมผมต้องไปพบด้วยครับ" เขาถามออกไปแบบงงๆ เพราะว่าเมื่อคืนนี้เขาไม่ได้กลับบ้านก็เลยยังไม่รู้เรื่องนี้"ทางคณบดีเรียกผู้ปกครองของเรา""อะไรนะครับ?!" ชายหนุ่มรีบกลับหลังหันแล้ววิ่งออกจากห้องไป ถ้าเรียกผู้ปกครองงั้นพ่อกับแม่ของเขาก็ต้องอยู่ในห้องนั้นสิห้องคณบดี.. ชายหนุ่มตรงมาที่ห้องคณบดี"แล้ว..เออ.." ไม่เคยหวาดหวั่นอะไรเท่านี้มาก่อน จะถามออกไปยังไม่กล้าเลย"ตอนนี้พวกท่านอยู่ที่ห้องอธิการบดีแล้ว" ถึงแม้เขาจะไม่ได้ถาม แต่ที่นี่ก็รู้แล้วว่าต้องตอบยังไง"อธิการบดีเลยเหรอครับ" ปาดเหงื่อออกทันไหมเนี่ย แค่ห้องของคณบดีเขาก็แทบจะก้าวขาไม่ออกอยู่แล้ว แต่นี่ห้องอธิการบดีเลยเหรอที่ต้องได้ย้ายไปที่ห้องอธิการบดี เพราะท่านได้ยินข่าวเรื่องที่ทางมหาวิทยาลัยได้เรียนเชิญ ราชสีห์ อัครไพศาล มาเข้าพบ ก็เลยให้ย้ายห้องไปที่นั่น เพราะว่าจะได้ต้อนรับให้สมเกียรติ
[มหาวิทยาลัย]"จะไปไหน" พอเข้ามาถึงห้องเรียน หนามเตยก็เดินตรงไปที่โต๊ะเรียนเดิม โต๊ะที่ขอแลกกับกล้าหาญ"ก็ไปที่นั่งไง""มานั่งด้วยกันตรงนี้""จะบ้าเหรอนั่นมันที่ของกล้าหาญ""เดี๋ยวให้มันไปนั่งข้างหลัง""ไม่เอาเปลี่ยนมาครั้งหนึ่งแล้วจะเปลี่ยนกลับได้ยังไง" ว่าแล้วหญิงสาวก็เดินไปนั่งที่เดิม ..เพียงไม่นานอาจารย์ก็เดินเข้ามาในห้องในขณะที่นั่งเรียนอยู่เจ้าขุนก็มองกลับหลังบ่อยครั้งมาก"มึงเป็นอะไรนักหนาวะ" กล้าหาญซึ่งนั่งอยู่ด้านข้างก็ไม่เป็นอันเรียนไปด้วย พอเพื่อนมองกลับหลัง เขาก็ต้องได้มองตามแบบสงสัยว่าเพื่อนมองอะไร พอรู้แล้ว..แต่เวลาที่เจ้าขุนมองกลับไปอีกที เขาก็ต้องมองตามอีก..เพราะมันเป็นสัญชาตญาณ"กูว่ามึงย้ายเถอะว่ะ""ย้ายไม่ได้เดี๋ยวเมียด่า" ชายหนุ่มกระซิบพูดกับเพื่อนเบาๆ"มึงกลัวด้วยเหรอวะ""ใครบอกว่ากูกลัว..กูแค่เกรงใจ""นั่นแหละที่เขาเรียกว่ากลัว""มึงไม่เคยมีเมียมึงจะรู้ได้ยังไง""ด้านหลังช่วยสนใจอาจารย์หน่อยนะคะ" เพียงไม่นานอาจารย์ก็ส่งเสียงมา และเพื่อนๆ ที่นั่งอยู่ด้านหน้าต่างก็หันกลับมามองที่เจ้าขุนเป็นห่วงเพราะคนที่นั่งอยู่ข้างหนามเตยเป็นเพื่อนผู้ชาย"ไปไหนแล้ว""หาอะไร""ปา
คืนเดียวกันนั้น.."ไปอาบน้ำกัน" พอขึ้นมาถึงด้านบน เขาก็ชวนเธอ"จะอาบก็ไปอาบเองสิ""แน่ใจนะว่าลูกจะไม่คิดถึงพ่อ" ชายหนุ่มพูดด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์จริงด้วยถ้าเขากลับห้องไปมีหวังเราต้องได้ไปคุยกับชักโครกอีกแน่เลย หญิงสาวลืมไป เพราะวันนี้ไม่คลื่นไส้มาทั้งวัน จนถึงเวลานี้ก็มืดค่ำมากแล้ว"ไปด้วยกัน" มือหนาคว้าเอาคนตัวเล็กให้เดินตามมาที่ห้องของตัวเอง"ฉันไม่อาบกับคุณนะ" หญิงสาวพยายามจะหยุดไม่เดินตาม"ไม่อาบก็ไม่อาบ แต่ไปด้วยกัน" เขาไม่อยากจะปล่อยให้เธออยู่ห้องคนเดียว "รออยู่ตรงนี้" ชายหนุ่มเข้าไปอาบน้ำโดยไม่ปิดประตูห้องน้ำ ส่วนเธอก็ยืนหันหลังให้ ไม่กล้าหันไปมองเราต้องทำแบบนี้อีกนานแค่ไหนเนี่ย..ลูกนะลูก หญิงสาวบ่นพึมพำที่ต้องได้มายืนเฝ้าเขาอาบน้ำอยู่แบบนี้ตุ๊บ.."อะไร" คนตัวเล็กรีบหันเข้าไปดู เพราะได้ยินเสียง ทีแรกคิดว่าเป็นเสียงเขาล้ม แต่พอหันเข้าไปแล้วเธอต้องได้รีบหันกลับออกมาพร้อมกับใบหน้าที่แดงกล่ำ"ตกใจเหรอ มือผมไปถูกฝาชักโครก" ตอนที่เขากำลังเช็ดตัวอยู่นั้น มือได้ไปโดนฝาชักโครกที่เปิดอยู่มันก็เลยปิดลงมีเสียงดัง"อาบเสร็จหรือยัง""จะอายทำไมผมยังไม่อายเลย" เขารู้ดีว่าเธอคงจะอายตอนที่หันม
สายตาของทั้งสองจ้องมองซึ่งกันและกัน แบบไม่มีใครยอมหลบให้ใคร"ผมเห็นเจ้าของไม่ต้องการมันอีกแล้ว ก็เลยเก็บมันเอาไว้" เขาพูดในขณะที่ยังมองสบตาเธออยู่"คุณต่างหากที่ไม่ต้องการ" คำพูดนี้ มันได้ออกมาพร้อมกับน้ำตาที่ไหลริน ของเจ้าของใบหน้าหวาน กว่าเธอจะตัดสินใจทิ้งมันได้ เพราะมันอยู่กับเธอมาตลอดระยะเวลาที่ใช้ชีวิตอยู่ต่างประเทศ"ผมขอโทษ ผมมันโง่เอง มีสมองแต่ไม่คิดไตร่ตรองให้ดี ว่าทำไมคุณถึงหายไปในวันนั้น""คุณยังรอฉันอยู่เหรอคะ""รอสิ ไม่ได้รอแค่วันนั้นนะ รอจนย้ายโรงเรียน ขนาดย้ายโรงเรียนแล้วผมยังให้คนขับรถพากลับมาเผื่อว่าคุณยังอยู่ที่เดิม" วันไหนที่มีแต่แม่บ้านและคนขับรถมารับ เขาชอบให้ผ่านไปทางโรงเรียนเดิม จอดรอดูว่าเธอจะออกมาจากในนั้นไหม..แต่ก็ไม่มี"วันนั้นพ่อกับแม่ของฉัน..ท่านทั้งสอง.." คำพูดของเธอมันถูกกลืนหายเข้าไป พร้อมกับเสียงสะอื้น"ผมรู้แล้ว..ถ้าผมรู้ว่าอะไรเกิดขึ้นกับคุณบ้าง และตอนนั้นคุณอยู่ที่ไหนผมจะตามไป" ถ้าเขารู้สักนิดว่าเธอไปเรียนต่อที่ต่างประเทศ เขาจะไม่รีรอที่จะตามไปเลย"คุณไม่รู้เหรอคะว่าคุณตา.." ตอนนั้นเธอยังเด็กมาก ทำอะไรไม่ถูก อยากจะพูดอยากจะถามหาเขา แต่ก็ไม่รู้จะเริ่ม
"กลับมาแล้วเหรอลูก" เจ้าขาถามขึ้นเมื่อเห็นลูกชายเข้ามา"ครับ""มันจะรีบไปไหน แล้วมันมาจากไหน" ทศกัณฐ์ได้แต่มองตามหลังคนที่วิ่งขึ้นไปบนบ้าน แทบจะไม่รู้ว่าคนที่เข้ามาเป็นลูกชายของตัวเอง เพราะมองไม่ทัน"วันนี้วันเกิดของกล้าหาญค่ะ" เจ้าขาพูดพร้อมกับเอานมอุ่นๆ มาให้สามีได้ทาน เพราะเขาเพิ่งกลับมาจากที่ทำงาน"วันเกิดกล้าหาญ?" พอรู้ว่าวันเกิดเพื่อนสนิทของลูกชาย ทศกัณฐ์ก็ยกนาฬิกาข้อมือขึ้นมาดู สองทุ่มกว่า?" ธรรมดาวันเกิดเพื่อน ถ้าไม่เช้าก็คงจะเป็นเย็นวันต่อไปถึงจะเห็นหน้าลูกชายโผล่กลับบ้าน"เห็นหนามขอเบอร์โทรไป สงสัยจะโทรตามมั้งคะ""โทรตามงั้นเหรอ?" มันยิ่งสร้างความงุนงงให้กับทศกัณฐ์ เพราะทั้งสองไม่มีทีท่าว่าจะเป็นมิตรกันเลยแกร่ก~ กลับมาถึงชายหนุ่มก็ตรงเข้าห้องของเธอ"หนาม" มองดูบนเตียงนอนไม่มี เขาก็เลยรีบเข้าไปดูในห้องน้ำ "เป็นยังไงบ้าง"พอเห็นเขาเข้ามาอาการคลื่นไส้เวียนหัวก็หายไปสิ้น หญิงสาวลุกขึ้นแบบหน้าบูดบึ้ง ไม่พูดไม่จาแล้วเดินออกมาจากห้องน้ำ"...?..." ชายหนุ่มงงกับท่าทาง..เนี่ยเหรอคนที่โทรตามเขากลับบ้าน อุตส่าห์ดีใจว่าเธอโทรหา แต่พอกลับมาหน้าตาของเธอไม่รับแขกเลยจะให้ยิ้มระรื่นได้ยังไง
เขานั่งเป็นเพื่อนเธออยู่แบบนั้นจนคิดว่าเธอนอนหลับสนิทแล้ว ถึงออกมาจากห้องเพื่อไปอาบน้ำออกไปอาบน้ำยังไม่เสร็จก็ได้ยินเสียงคนข้างห้องอาเจียน ชายหนุ่มรีบล้างตัว แล้วออกมาจากห้องน้ำด้วยผ้าเช็ดตัวผืนเดียวที่พันรอบท่อนล่างอยู่"ผมนึกว่าคุณหลับไปแล้ว" เขารีบเดินเข้าไปลูบหลังให้ "ออกหมดเลยเหรอ" ชายหนุ่มมองลงไปดูในชักโครก..อาหารที่เธอกินเข้าไปเมื่อตอนเย็นออกไปหมดเลย"คุณจะมองอะไรสกปรกจะตาย" หญิงสาวรีบกดน้ำให้ไหลลง"ไปที่เตียงดีกว่า" มือหนาโอบร่างบางให้เดินตามมาที่เตียง ถ้าเป็นเมื่อหลายชั่วโมงก่อนเธอคงจะไล่ตะเพิดเขาไปแล้ว แต่นี่..รู้แล้วว่าทำไมเวลาเขาอยู่ใกล้อาการพวกนั้นมันถึงหายไปใบหน้างามมองต่ำลงไปที่ท้องของตัวเอง ไอ้ตัวเล็กต้องแผลงฤทธิ์แน่"นอนก่อนนะเดี๋ยวผมขอไปเปลี่ยนเสื้อผ้า" จังหวะที่เขากำลังจะออกจากห้อง มือเรียวรีบคว้าแขนของเขาไว้"คุณจะกลับเข้ามาอีกไหม" หญิงสาวถามไปโดยที่ไม่ได้เงยหน้ามองใบหน้าหล่อคมยกยิ้มขึ้นเมื่อได้ยินคำถาม "มาสิ" ว่าแล้วเขาก็รีบออกจากห้องไปก่อนที่เธอจะเปลี่ยนใจไปไม่ถึงห้านาทีก็รีบกลับเข้ามา แต่ตอนนี้เธออยู่ในห้องน้ำ"หนาม"พอเห็นเขากลับมาเธอก็ออกจากห้องน้ำ ..หึ!!
ตุ๊บ!! เสียงเจ้าขุนถีบเก้าอี้ออกจากตรงที่กีดขวาง"เมื่อกี้เธอว่าอะไร" แล้วเขาก็เดินตรงเข้าไปหายี่หวา เพราะเมื่อสักครู่ที่ยี่หวาพูดแล้วเดินเข้ามาในห้องเขาได้ยินชัดเจน"เราพูดถึงเรื่องละครที่ดูกับแม่เมื่อคืนนี้" ยี่หวาหน้าเปลี่ยนสีเมื่อเห็นว่าเจ้าขุนเอาจริงสายตาคมจ้องมองแบบเอาเรื่อง จนเพื่อนในห้องรีบเข้ามาช่วยกันขวางไว้"ไม่เอาน่า ผู้หญิงนะ" กล้าหาญก็เข้ามาช่วยพูด ถึงแม้ยี่หวาจะแก้ตัวไปแต่ทุกคนที่อยู่ในห้องก็ได้ยินหมด..ที่เธอพูดว่าหนามเตยสำส่อน"ผู้หญิงแล้วไง สักแต่มีปากจะพูด" จบคำพูดเจ้าขุนก็ถีบเก้าอี้ที่อยู่ด้านข้างจนลมกระจายส่วนยี่หวา..ตอนนี้ถอยออกไปจนจะชนผนังห้อง ..ถ้าคนที่พูดเป็นผู้ชายสงสัยฟันคงได้ร่วงออกจากปาก แต่เจ้าขุนก็ยังไม่สงบ ดวงตาของเขายังจ้องมองพร้อมกับขาที่ก้าวเดินเข้าไป"พอแล้ว" หนามเตยเป็นคนพูดขึ้น..เขาถึงได้หยุดที่หยุดเพราะได้ยินเสียงคนห้ามเหมือนจะร้องไห้"หนาม" เจ้าขุนเดินกลับเข้ามาหาเธอส่วนพวกเพื่อนๆ กำลังเก็บสิ่งที่เขาทำกระจัดกระจายไว้หนามเตยไม่มองหน้าเจ้าขุนเลยด้วยซ้ำ เธอนั่งลงที่เก้าอี้ของตัวเอง จากที่คิดว่าจะเข้มแข็ง เพราะคนรอสมน้ำหน้าก็มีมาก แต่ตอนนี้มันเข้
ก๊อก ก๊อก หลังจากที่เจ้าขุนออกจากห้องไปได้เพียงไม่นาน ก็ได้ยินเสียงคนมาเคาะประตูเรียกที่หน้าห้องหญิงสาวเงียบฟังว่าเป็นใครที่มาเคาะ"หนามจ๊ะ""คะ" หนามเตยรีบมาเปิดประตู"แม่ทำข้าวต้มร้อนๆ ขึ้นมาให้จะได้มีอะไรรองท้องก่อนนอนบ้าง" เมื่อประตูเปิดออกนางก็ได้ถือข้าวต้มเดินเข้าไปในห้อง"คุณแม่ไม่ต้องลำบากก็ได้ค่ะ หนามยังไม่หิว""ไม่หิวก็ต้องกิน" เจ้าขาดูแล้วเธอคงจะยังไม่ทานข้าวเย็น และตอนนี้มันก็ดึกมากแล้วด้วย"ขอบคุณค่ะ" หญิงสาวไหว้พร้อมกับกล่าวคำขอบคุณ จะทานได้หรือไม่ได้ค่อยว่ากันอีกที เพราะตอนนี้แค่ได้กลิ่นก็ชวนให้อาเจียนแล้ว"ว่าไงครับแม่" เจ้าขุนถามขึ้นทันทีที่เห็นแม่ออกมาจากห้องนั้น เขายืนรออยู่ด้านหน้าแบบเงียบๆ แถมยังหลบด้วยเพราะกลัวเธอมองออกมาเห็น"แม่ว่าลูกก็ไปพักผ่อนได้แล้วดึกแล้วนะ"แม่ตอบผมก่อนสิครับ"จะให้แม่ตอบอะไร""เธอจะกินข้าวไหมครับ""แม่ไม่รู้""ทำไมแม่ไม่อยู่รอจนกว่าเธอจะกินล่ะครับ""ลูกก็ไปรอเองสิ" เจ้าขาแค่พูดอยากจะเห็นกิริยาของลูกชายพอแม่กลับเข้าห้อง เจ้าขุนก็เดินกลับมาที่หน้าห้องของเธอ แนบหูฟัง ว่ามีเสียงช้อนกระทบกับถ้วยไหม"อ้วกกกกก""หนาม" แต่เสียงที่ได้ยินก็คือเส
"ขอฉันไปด้วยคนนะคะ" เจ้าขารีบเดินตามสามีออกมาที่รถ"ผมว่าคุณไม่ต้องไปหรอก รอฟังข่าวอยู่ที่บ้านดีกว่า""แต่ฉันเป็นห่วงนี่คะ""ถ้างั้นก็ขึ้นรถ" ทศกัณฐ์ไม่เคยทนลูกอ้อนของภรรยาคนสวยได้สักครั้งเจ้าขาก็รีบเดินอ้อมไปขึ้นนั่งข้างสามี ส่วนตอนนี้เจ้าขุนขับรถของตัวเองออกไปตั้งแต่รู้ว่าเธอซื้อตั๋วเพื่อที่จะเดินทาง"หนามรอผมก่อนนะอย่าเพิ่งไปไหน" คันเร่งถูกเหยียบเกือบมิดไมล์ รถคันไหนที่ขวางหน้าเขาบีบแตรไล่ที่เจ้าขาตามสามีมาส่วนหนึ่งเพราะเป็นห่วงหนามเตย แต่ที่เป็นห่วงมากที่สุดก็คือลูกชายสนามบินสุวรรณภูมิชายหนุ่มมาถึงสนามบินโดยปลอดภัย เขาจอดรถได้ก็รีบวิ่งตรงเข้าไป โดยที่ทิ้งรถไว้ในที่ห้ามจอด แต่เจ้าขุนก็ไม่สนใจชายหนุ่มร่างสูงวิ่งฝ่าผู้คนที่กำลัง เดินกันให้วุ่น สายตาของเขามองไปที่ผู้โดยสารขาเข้า"เข้าไม่ได้ครับ" พนักงานด้านหน้าที่คอยตรวจเช็คตั๋วเดินทาง ไม่เห็นเขามีตั๋วติดมือมาด้วยก็เลยไม่อนุญาตให้เข้าไป"ผมแค่อยากจะเข้าไปหาคน""หาใครก็ไม่ได้ครับ""ผมต้องทำยังไงถึงจะเข้าไปได้""คุณต้องมีตั๋วเดินทางครับ"ชายหนุ่มรีบวิ่งกลับมาตรงที่ซื้อตั๋ว"เราปิดการขายไปแล้วค่ะ ไฟท์นี้เครื่องกำลังจะขึ้นค่ะ" และก็เ
ห้องพยาบาลของทางมหาวิทยาลัย"เพื่อนเราเหรอจ๊ะ" อาจารย์หมอเห็นมายมิ้นท์ก็นึกขำ เพราะจำได้แม่น"ไม่ใช่เพื่อนค่ะ รุ่นพี่ที่คณะ" หญิงสาวตอบออกไปแบบเอียงอาย เพราะหลายครั้งที่เธอได้มาใช้บริการห้องนี้อาจารย์หมอตรวจดูอาการอยู่พักหนึ่งวัดความดัน และตรวจคลื่นหัวใจ"คงเป็นเพราะความเครียดพักผ่อนไม่เพียงพอ เดี๋ยวรอให้เพื่อนฟื้นก่อนนะ" เพราะว่าตอนนี้หนามเตยยังไม่ได้สติ แต่ชีพจรของเธอก็ปกติ อาจารย์หมอก็เลยไม่เป็นห่วงเท่าไรเวลาเข้าเรียน.."รู้หรือยังว่าหนามเตยเป็นลมตอนนี้อยู่ห้องพยาบาล" เพื่อนที่รู้ข่าวเข้ามาพูดกันอยู่ในห้อง"เมื่อกี้มึงว่าอะไรนะ?!" เจ้าขุนรีบหันกลับไปมอง และตอนนี้เธอก็ยังไม่เข้ามาในห้อง ที่เขาไม่รู้เรื่องเพราะวันนี้ไม่ได้ไปทานข้าวที่โรงอาหาร"ก็น้าของมึงน่ะสิอยู่ห้องพยาบาลโน่น" ได้ยินแค่นั้นแหละ เจ้าขุนก็รีบวิ่งออกจากห้องไป ซึ่งมีกล้าหาญวิ่งตามมาติดๆ"หนาม.." พอเจ้าขุนมาถึงก็เห็นเธอนั่งอยู่บนเตียง ซึ่งมีไต้ฝุ่น และมายมิ้นท์อยู่ในห้องนั้นด้วย "เธอเป็นอะไรครับ" เจ้าขุนถามอาจารย์หมอที่นั่งอยู่โต๊ะประจำของห้องนี้ทุกคนในห้องต่างก็มองหน้ากันไปมา ไม่มีใครพูดอะไรออกมาสักคน ..มันยิ่งทำให้