ซาบริน่าดิ้นรนอย่างสิ้นหวัง แต่ยิ่งเธอดิ้นรนมากเท่าไหร่ ความแข็งแกร่งของชายผู้นี้ก็ยิ่งตรึงเธอไว้ได้มากเท่านั้น ในแง่ของความแข็งแกร่ง เธอไม่คู่ควรกับเขาเลย แม้ว่าจะมีเธอรวมกันเป็นสิบคน ก็คงเป็นไปไม่ได้ที่ซาบริน่าจะหลุดพ้นจากอ้อมกอดนี้ไปได้แรงขัดขืนจากการต่อสู้ของเธอเริ่มอ่อนแอลงเรื่อย ๆทันใดนั้นเธอก็รู้สึกว่าการต่อสู้ของเธอไม่มีความหมายเลย เมื่อเธอจากเมืองเคียร์รายและตามเขากลับมายังเซ้าท์ ซิตี้ เมื่อเขาพาเธอกลับจากโรงพยาบาล เมื่อเธอพาไอโนะมา และก้าวเข้าไปในบ้านของเขาอีกครั้ง เป็นสิ่งที่กำหนดเอาไว้แล้วว่าเขาจะปฏิบัติต่อเธอในลักษณะเช่นนี้เธอตั้งคำถามกับตนเอง 'เธอไม่เคยคิดถึงเรื่องนี้มาก่อนอย่างนั้นเหรอ?''เธอปรารถนาสิ่งนี้มาโดยตลอดเลยไม่ใช่เหรอ?''หลังจากหลายปีผ่านไป แม้ว่าเธอจะหนีจากการไล่ล่าเขาไปได้ในทุกครั้ง แต่เธอก็ยังมีความหวังอยู่ในใจเสมอ''มันยากสำหรับเธอที่จะหนีไปพร้อมกับไอโนะและเซย์น แม้เซยน์จะดีกับเธอมาก แต่เธอก็ยังเป็นเพียงเพื่อนกับเขาเท่านั้น เธอไม่เคยลืมเรื่องเซบาสเตียนไปได้เลยไม่ใช่เหรอ?'ซาบริน่าไม่ดิ้นรนอีกต่อไปในช่วงเวลานี้ ริมฝีปากของชายผู้นั้นก็ได้เข้ามาครอ
นอกจากนี้ยังมีกระเบื้องเคลือบในอ่างอาบน้ำ เมื่อนอนลงบนนั้น เราสามารถสัมผัสได้ถึงความเพลิดเพลินของน้ำร้อนที่พัดมากระทบร่างกาย ความรู้สึกนั้นไม่น้อยไปกว่าความรู้สึกของการแช่ตัวในบ่อน้ำพุร้อนเลยซาบริน่าไม่เคยใช้อ่างอาบน้ำหรูหราเช่นนี้มาก่อนในชีวิต ทันทีที่ชายคนนั้นโยนเธอลงไปในน้ำ เธอก็รู้สึกหายใจไม่ออก เธอตื่นตระหนกและพยายามจะปีนขึ้นไปอย่างสิ้นหวังละอองน้ำในอ่างอาบน้ำพุ่งกระเด็นตกลงบนใบหน้าของเธอ และนั่นทำให้ซาบริน่าลืมตาไม่ได้ เธอโบกมืออย่างบ้าคลั่งและตะโกนด้วยความตื่นตระหนก “ช่วยด้วย ช่วยด้วย!”เดิมทีเธอว่ายน้ำไม่เป็น และเพราะเธอถูกชายคนนั้นตรึงเอาไว้ หัวใจจึงเต็มไปด้วยความวิตกกังวล ดังนั้นเธอจึงไม่สังเกตว่าระดับน้ำในอ่างอาบน้ำสูงมากสุดก็แค่เพียงต้นขาเท่านั้นในขณะนี้ซาบริน่าเปียกปอนไปด้วยหยดน้ำ เหงื่อ และน้ำตาบนใบหน้าซึ่งทำให้เธอดูน่าสงสารเป็นพิเศษผู้ชายคนนั้นก็ก้าวลงไปในอ่างอาบน้ำพร้อมกับเยาะเย้ย แล้วจับเธอไว้ในอ้อมแขนเพื่อให้เธอมั่นคง “ดูตัวเองบ้างสิ! ทำอย่างกับว่าฉันเหวี่ยงเธอลงทะเลอย่างนั้นแหละ ก็แค่อ่างอาบน้ำเล็ก ๆ ที่เธอกลัวก็เพราะคิดเองเออเองทั้งนั้นแหละ กลัวเพราะว่ายน้ำ
ซาบริน่าร้องไห้อย่างหมดหนทาง “ฉันจะไม่… จะไม่วิ่งหนี ฉันจะไม่หนีไปไหนอีกแล้ว”ชายคนนั้นหัวเราะเยาะแล้วค่อย ๆ ก้มศีรษะลงและจูบเธอสิ่งที่ตามมาก็เกิดขึ้นอย่างมีเหตุผลและเป็นไปตามคาดตามที่มันควรจะเป็น นี่เป็นผลลัพธ์ที่เขาตามหามาเป็นเวลากว่าหกปีมันเป็นจุดสิ้นสุดของความว่างเปล่าที่ร่างกายและจิตใจของเธอใฝ่หามาตลอดหกปีที่ผ่านมาต่อมา ซาบริน่าก็นอนอยู่ในอ้อมแขนของเซบาสเตียนและผล็อยหลับไป อย่างไรก็ตาม แม้กระทั่งตอนหลับ เธอก็ยังมีน้ำตาที่ใสสะอาดภายในดวงตาผู้ชายคนนั้นนั่งโอบกอดเธอไว้ในอ้อมแขน หลังจากที่สะบัดละอองน้ำที่ใสราวคริสตัลออกจากร่างกายเรียบร้อย เขาก็เพียงแค่หยิบผ้าเช็ดตัวผืนใหญ่บนโต๊ะเครื่องแป้งในห้องน้ำมาคลุมร่างกายพวกเขาทั้งสองเอาไว้ จากนั้นจึงพาเธอออกไปเธอหลับสนิท และเนื่องจากไม่ได้สติ เธอจึงเอามือโอบรอบคอเขาโดยไม่รู้ตัว ราวกับว่าทารกกำลังค้นหาอ้อมกอดของแม่โดยไม่รู้ตัว สิ่งนี้ให้ความรู้สึกอันบอบบางและใฝ่หาที่พักพิงเขาเช็ดน้ำออกจากผมและร่างกายของเธอ และค่อย ๆ วางเธอไว้ใต้ผ้าห่ม เขามองดูเธอขณะที่เธออยู่ในความฝันอันแสนหวาน แต่ชายคนนั้นก็นอนไม่หลับเขาหยิบซิการ์ออกจากโต๊ะข้างเต
น้ำเสียงของเซบาสเตียนแข็งทื่อและเย็นชา “พ่อ มีอะไรอีกไหม? ถ้าไม่มี งั้นผมจะวางสายสายแล้ว!”“มีสิ!” ฌอนพูดด้วยน้ำเสียงโกรธจัด “ลินคอล์นและภรรยาคนปัจจุบันของเขามาหาฉัน พวกเขาบอกว่าผู้หญิงที่แกพากลับมาคือตัวปัญหาและเป็นนางปีศาจ! พวกเขายังบอกอีกว่าเธอน่ะจับผู้ชายเก่งตัวแม่เซบาสเตียน!อย่าลืมว่าคุณลินน์เคยแท้งลูกไปโดยไม่ได้ตั้งใจนะเธอยังเป็นผู้หญิงที่เกือบจะแต่งงานกับแกด้วยนอกจากนี้ เซลีนยังเป็นหลานสาวคนเดียวของนายท่านผู้อาวุโสชอว์ ซึ่งเขารักหลานสาวของเขาเป็นพิเศษ แกไม่เห็นหัวคนอื่นทั่วไปก็ได้ แต่แกต้องรักษาหน้าให้นายท่านผู้อาวุโสชอว์ไว้บ้าง!”เซบาสเตียนไม่ตอบเมื่อเห็นว่าลูกชายของเขาไม่ได้พูดอะไร ฌอนจึงพูดต่อ “ลินคอล์นบอกฉันว่าผู้หญิงที่แกพากลับมาด้วยมีปัญหา และบอกว่าเธออาจจะล่อลวงแก แต่ฉันรู้จักลูกชายของฉันดี แกจะไม่หลงเสน่ห์ใครง่าย ๆ แกบอกฉันมาตอนนี้ที! แกเป็นอย่างที่คนพวกนั้นพูดรึเปล่า แกพาผู้หญิงคนนี้กลับมาเพื่อลงโทษเธอใช่ไหม?”เซบาสเตียนยิ้มเยาะ “แล้วถ้ามันทั้งใช่และไม่ใช่ล่ะ?” ฌอนดุ “ไม่ว่าจะจริงหรือไม่จริงก็ตาม แกต้องจัดการผู้หญิงคนนี้ให้เร็วที่สุด! วันนี้มีชายแก่ที่เ
ซาบริน่าไม่ได้ตอบคำถามของเซบาสเตียนโดยตรงสีหน้าของเธอดูเศร้าสร้อยและเรียบเฉย แต่น้ำเสียงของเธอมั่นคงและสงบ “ไม่เป็นไรค่ะ ยังไงฉันเป็นหนี้คุณอยู่แล้ว! แม้ว่าฉันจะไม่ได้เป็นหนี้คุณ แต่คุณก็ยังมีวิธีที่จะทำให้ฉันเป็นหนี้คุณได้อยู่ดี พูดกันสั้น ๆ คุณแค่อยากจับตัวฉันกลับมา และพอฉันอยู่ในกำมือของคุณแล้ว ฉันจะทำทุกอย่างที่คุณขอให้ทำอย่างไรก็ตาม ชื่อเสียงของซาบริน่าคนนี้ก็ดังกระฉ่อนในแวดวงคนในสังคมชั้นสูงใน เซ้าท์ ซิตี้มานานแล้ว ในสายตาของคนอย่างคุณ ฉันเป็นผู้หญิงที่ชอบฉวยโอกาสและมีตำหนิอยู่ตราบใดที่คุณเต็มใจปล่อยให้ลูกสาวของฉันมีชีวิตอยู่เรื่องพวกนี้ก็ไม่มีความหมายอะไรอีกแล้ว”เมื่อครู่ ตอนที่เขาคุยโทรศัพท์กับใครสักคน เธอได้ยินทุกอย่างชัดเจน แม้ว่าเธอจะไม่เคยพบพ่อของเซบาสเตียน แต่เธอก็รู้ว่าใครเป็นคนโทรมา นอกจากนี้ ซาบริน่าสามารถบอกได้จากน้ำเสียงของอีกฝ่าย บางทีทั้งเซ้าท์ ซิตี้กำลังรอให้เซบาสเตียนลงโทษเธออย่างเหมาะสมอยู่ก็ได้อย่างไรเสีย เธอก็หนีไม่พ้นอยู่ดีดังนั้นจึงไม่มีอะไรสำคัญอีกแล้วชายคนนั้นโกรธกับคำพูดของซาบริน่า เขาต้องการพลิกตัวเธอและทุบตีเธออย่างแรงทันทีอย่างไรก็ตาม
ชายคนนั้นขยุ้มผมยุ่งเหยิงของเธอและพูดด้วยน้ำเสียงสบาย ๆ ว่า “จะบอกทางลัดให้นะ”ซาบริน่าตอบกลับไป “อะไรนะ… ทางลัดอะไร?”“ถ้าเธอปรนนิบัติฉันอย่างดี ฉันอาจเป็นคนเดียวที่ช่วยเธอล้างหนี้ที่เธอเป็นหนี้ฉันอยู่ก็ได้”ซาบริน่าพูดไม่ออกก่อนที่เธอจะรู้สึกตัว เธอเห็นชายคนนั้นยกมือขึ้นเพื่อปิดสวิตช์ไฟติดผนังแทน จากนั้นชายคนนั้นก็โอบกอดเธออีกครั้งและพูดอย่างผ่อนคลายว่า “นอนเถอะ!”ซาบริน่าไม่มีทางเลือกนอกจากต้องนอนบนหน้าอกของเขาอย่างระมัดระวัง แต่เธอก็ลังเลที่จะนอนลงไปเธอต้องการลุกขึ้นเพื่อดูว่าไอโนะลูกสาวของเธอนอนหลับเป็นอย่างไรบ้าง แต่ก่อนที่เธอจะลุกขึ้น ชายคนนั้นก็ยกขาของเขาขึ้นและตรึงเธอไว้ เธอไม่สามารถเคลื่อนไหวได้เธอทำได้เพียงอยู่ในอ้อมแขนของเขาและไม่กล้าหายใจดังเกินไปซาบริน่าทำได้แต่สวดอ้อนวอนให้เธอได้ยินเสียงเมื่อลูกสาวตื่นและร้องไห้เพราะไม่เห็นว่าแม่ของตนอยู่เคียงข้างบางทีอาจเป็นเพราะเธอเหนื่อยเกินไป หรือไม่อาจเป็นเพราะเธอคิดถึงลูกสาวก็เป็นได้ ซาบริน่าไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเธอผล็อยหลับไปในที่สุดมีเพียงเสียงลมหายใจของเธอในอ้อมแขนของเซบาสเตียนเท่านั้นอาจเป็นเพราะมันหนาวเกินไปหรือเพ
บนเตียงที่กว้างและยุ่งเหยิง เซบาสเตียนยังคงหลับใหลอยู่ใบหน้าที่หลับไม่คมชัดเหมือนตอนตื่น ตรงกันข้าม เขาดูดีมากตอนที่เขาหลับ ใบหน้าของชายคนนั้นเป็นมุมฉากราวกับถูกแกะสลักด้วยมีด เขาได้รับความโปรดปรานจากพระเจ้าอย่างแท้จริง ผิวของชายผู้นั้นก็เหมือนกับผู้ที่ฝึกศิลปะการต่อสู้มานานหลายปี และผิวของเขาก็เต่งตึงผิวของเขาเป็นสีแทนสุขภาพดีทั่วร่างกาย ซึ่งทั้งเย้ายวนและแข็งแกร่งด้านบนของผิวสีแทนหยาบกร้านและเต่งตึง มีแถบน้ำเล็ก ๆ เป็นมันเงาซาบริน่ารู้ทันทีว่าน้ำลายไหลออกจากมุมปากของเธอโดยไม่รู้ตัว หลังจากที่เธอผล็อยหลับไปตายล่ะ!เธอพยายามที่จะหนีตายไปซะจากความอับอายที่เกิดขึ้น?เธอเอ่ยเตือนตนเองว่าอย่าทำตัวเป็นผู้หญิงราคาถูกเช่นนี้ แม้ว่าเขาจะทรมานเธอจนตาย เธอก็ต้องรักษาศักดิ์ศรีสุดท้ายไว้ อย่างไรก็ตาม เธอหลับสบายในอ้อมแขนของเขาโดยไม่รู้ตัว ไม่เพียงแค่นั้น เธอยังเอนศีรษะลงบนหน้าอกของเขาและน้ำลายไหลใส่เขาอีกด้วยซาบริน่าอยากจะแทรกแผ่นดินหนีไปจริง ๆเธอไม่เคยเป็นสาวขี้เล่นและหน้าไม่อาย เธออยู่กับหนังสือมาโดยตลอดและมีเหตุผลกับผู้คนและเรื่องต่าง ๆ เสมอตั้งแต่ยังเด็ก เธอไม่ค่อยไปเที่ยวกับ
เมื่อเห็นว่าซาบริน่ายังคงมุดอยู่ใต้ผ้าห่มราวกับเป็นนกกระจอกเทศและไม่ยอมออกมา ชายหนุ่มก็ไล่เธอออกจากผ้าห่ม เขากวาดตาสำรวจเธอจากบนลงล่าง และพูดว่า “วันนี้ไม่ต้องลุกจากเตียง พักผ่อนเถอะ แม่บ้านจะคนจัดการเรื่องอาหารให้เธอเอง”ซาบริน่าไม่พูดอะไร"เธอได้ยินฉันไหม?" ชายคนนั้นพูดกับเธออีกครั้งด้วยน้ำเสียงเย็นชาน้ำเสียงที่ราวกับเป็นคำสั่งคำสั่งที่ห้ามไม่ให้เธอปฏิเสธ“ฉัน...ได้ยินแล้ว” อย่างไร เธอก็อยู่ได้ด้วยความเมตตาของเขา ดังนั้นเธอจึงทำตามสิ่งที่เขาพูดซาบริน่าเพียงหวังว่าเขาจะออกไปจากห้องนอนให้เร็วกว่านี้ เพื่อที่เธอจะได้หาเสื้อผ้ามาใส่ และรีบไปหาไอโนะเธอไม่ได้เจอไอโนะมาตลอดทั้งคืน ไอโนะจะนอนหลับได้อย่างไร?เธอนอนหลับสบายรึเปล่า?ไอโนะอายุเพียงห้าขวบ เธอยังเด็กมากและไม่เคยพรากจากแม่มาก่อนบางทีท่าทีของซาบริน่าอาจจะเผยสิ่งที่เธอคิดออกมา ฉับพลัน เธอได้ยินชายคนนั้นพูดว่า “ฉันลืมไปเลย เธอไม่ได้เจอลูกสาวของเธอมาคืนหนึ่งแล้ว”พูดจบเขาก็หันหลังไปหยิบเสื้อเชิ้ตสีขาวออกจากตู้เสื้อผ้า เขาไม่สนใจว่าซาบริน่าจะสวมใส่หรือไม่ เขาแค่ช่วยเธอสวมเสื้อเชิ้ตสีขาวแล้วอุ้มเธอลงจากเตียงในท่าเจ้าสาว
คิงส์ตัน มาร์คัส และ ซาบริน่าต่างตกตะลึงมาร์คัสพยายามปกป้องซาบริน่าที่อยู่ข้างหลังของเขา ขณะที่มองเซบาสเตียนอย่างสยองขวัญ “เซบาสเตียน...ถ้านายมีปัญหาอะไร เข้ามาหาฉัน อย่าแตะต้องซาบริน่า เพราะยังไง เธอก็เป็นแม่ของลูกนายนะ“ถ้า...นายอยากจะฆ่าใครสักคน ให้มันเป็นฉันเถอะนะ”เซบาสเตียนไม่ตอบ เขาเพียงแค่ถอดเนกไทและปลดกระดุมเสื้อของเขาออก ในชั่วขณะนั้น ร่างที่กำยำของเขาก็สัมผัสกับมาร์คัสจากนั้น เขาก็พูดด้วยน้ำเสียงไม่สบอารมณ์ว่า “นายกำลังคิดอะไรอยู่? รถค่อนข้างอับชื้น ฉันก็เลยรู้สึกร้อนเฉย ๆ ดังนั้น ฉันจึงแกะกระดุมเพื่อให้เย็นลงเล็กน้อย”มาร์คัสรู้สึกโล่งใจ “อ๋อ...เซบาสเตียน นาย...คอของนาย ได้รับบาดเจ็บได้ยังไง?“อ๋อ ฉันได้รับบาดเจ็บจากแมวป่า” เซบาสเตียนตอบอย่างไม่ใส่ใจทั้งคิงส์ตันและซาบริน่ายังคงถูกแช่แข็งอยู่กับที่ใบหน้าของซาบริน่าเปลี่ยนเป็นสีแดงจนเธอละสายตาจากทุกคนที่นั่น และมุ่งความสนใจไปที่การลูบผมของไอโนะลิ้นของคิงส์ตันผูกเป็นปมในขณะคิดกับตัวเอง'นายน้อย คุณไม่ใช่คนโกหกเก่งเลย แมวป่าพันธุ์ไหนที่ทิ้งร่องรอยของฟันไว้ได้''แม้ว่าจะเป็นแมวป่า แต่คุณไม่รู้หรือว่าแมวและมนุษย์ม
“ฉันจะไม่ทำแบบนั้นอีก“ถ้าในอนาคตเธอต้องการเงิน ไม่ว่าจะมากขนาดไหน เธอก็มาหาฉันได้เสมอ“อย่าปล่อยให้ตัวเองต้องทนทุกข์เพียงลำพังซาบริน่ารับนามบัตรโดยกล่าวว่า “ขอบคุณค่ะ นายน้อยชอว์”ความจริงแล้ว เธอไม่อยากรับนามบัตร แล้วเธอจะรับไปเพื่ออะไร? ซาบริน่าและลูกสาวของเธออยู่กับเซบาสเตียนแล้ว ดังนั้น พวกเขาจึงไม่ต้องกังวลเรื่องเงินอีกในอนาคต นอกจากนี้ เธอยังได้งานทำแล้ว ซึ่งเธอตัดสินใจที่จะอุทิศเวลาของเธอและสร้างเนื้อสร้างตัวเธอไม่จำเป็นต้องพึ่งพาใครอีกต่อไปแต่เมื่อเห็นว่ามาร์คัสเคยช่วยเธอมาก่อน เธอไม่ต้องการเหยียบย่ำศักดิ์ศรีของมาร์คัสด้วยการปฏิเสธนามบัตรไปขณะที่เธอกำลังเอื้อมมือไปหยิบการ์ดนั้น ก็มีรถจอดอยู่ข้างหลังทั้งคู่ มาร์คัสและซาบริน่าต่างหันความสนใจไปที่รถท่าทีของซาบริน่าเปลี่ยนไปอย่างกะทันหันเหตุใดจึงเป็นเรื่องบังเอิญที่เซบาสเตียนกลับมาถึงบ้านในขณะนั้น?ด้วยเหตุผลบางอย่าง ซาบริน่ากลัวว่าภาพก่อนหน้านี้จะทำให้เซบาสเตียนหึง แต่หลังจากคิดถึงเรื่องนี้แล้ว เธอก็ตระหนักว่ามันไม่สมเหตุสมผลเลยที่เซบาสเตียนจะรู้สึกแบบนั้นซาบริน่าคิดมากไปคนแรกที่ลงจากรถคือคิงส์ตัน เมื่อเห็นมาร
มาร์คัสถึงกับพูดไม่ออกเขาไม่รู้จะปลอบเด็กสาวที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขาอย่างไร เขาได้แต่แบ่งปันความเจ็บปวดของเธอในใจ ในขณะนั้นเอง ฝนก็เริ่มตกราวกับว่ามีใครให้สัญญาณฝนเริ่มตกหนักขึ้นภายในไม่กี่วินาทีซาบริน่ายกแขนขึ้นเพื่อกันศีรษะจากฝน แต่มาร์คัสดึงเธอเข้าไปในล็อบบี้ของอาคารชั้นหนึ่งทันทีขณะที่ทั้งสองตั้งสติ มาร์คัสหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาแล้วกดหมายเลข “ซินดี้ ช่วยฉันเอาเอกสารไปที”ซาบริน่าไม่พูดอะไรมาร์คัสไม่ได้ตั้งใจที่จะขึ้นไปข้างบนเหรอ? ทำไมเขาถึงเรียกใครบางคนมาที่นี่เพื่อรับเอกสารไปแทน?ไม่นานหลังจากนั้น หญิงสาวสวยในชุดอย่างมืออาชีพและรองเท้าส้นสูงก็มาถึงล็อบบี้ มาร์คัสจึงส่งเอกสารบางส่วนให้กับผู้หญิงคนนั้นและสั่งว่า “บอกผู้อำนวยการของเธอว่าฉันจะไม่ขึ้นไปชั้นบน มีบางอย่างที่ฉันต้องจัดการที่นี่”“ค่ะ ผู้อำนวยการชอว์” หญิงสาวตอบด้วยรอยยิ้มก่อนจะเดินกลับขึ้นไปชั้นบนมาร์คัสหันมาสนใจซาบริน่าอีกครั้ง “เธอจะไปไหน? เดี๋ยวฉันจะไปส่ง”ซาบริน่าไม่รู้จะตอบอย่างไร เธออยากกลับบ้านหลังจากชะงักเล็กน้อยเธอก็เริ่มพูดอีกครั้ง “ไม่จำเป็นหรอกค่ะ นายน้อยชอว์ ฉันไปเองได้”มาร์คัสยิ้ม “เธอกำลังจ
ความสัมพันธ์ที่ซาบริน่ามีกับครอบครัวลินน์เป็นความทรงจำที่เจ็บปวดสำหรับเธอเสมอมา มันเป็นรอยแผลเป็นที่เธอไม่อยากเปิดเผย อย่างไรก็ตาม มันไม่ใช่เรื่องน่าอายแต่อย่างใดแม้ว่ามาร์คัสจะเชื้อเชิญ แต่ซาบริน่าก็ไม่ได้ไปร้านกาแฟกับเขา ตอนนี้ ทั้งสองคนยืนอยู่บนถนนสายหลักนอกทางเข้าบริษัท ซาบริน่าตั้งใจที่จะเล่าเรื่องราวอย่างง่าย ๆ ที่เกี่ยวกับความสัมพันธ์ของเธอกับครอบครัวลินน์ เพราะเธอต้องการกลับบ้านโดยเร็วเพื่อจะได้รู้ว่าไอโนะทำอะไรลงไปที่บ้านตระกูลฟอร์ด“ตอนอายุน้อยกว่าสิบสองปี ฉันอาศัยอยู่ในบ้านเกิดของฉัน ซึ่งอยู่ในเขตชานเมืองของเมืองเล็ก ๆ พ่อแม่ของฉันอาศัยอยู่ที่นั่นโดยปลูกผักครัวเรือน ในช่วงที่ซบเซา พ่อของฉันก็จะไปเป็นคนส่งสินค้าให้โกดังด้วย“ตอนที่ฉันอายุได้สิบขวบ ตอนที่พ่อของฉันทำงานอยู่ที่โกดัง เขาถูกของบางอย่างตกใส่เขา ของทับจนเสียชีวิต ในช่วงเวลาเดียวกันนั้น แม่ของฉันป่วยและไม่อาจรักษาหายได้ตลอดทั้งปี“หลังจากนั้น เธอก็ไม่ดีขึ้นเลย และร่างกายของเธอก็อยู่ในสภาพที่เปราะบางอยู่เสมอ“แต่เพราะฉันเรียนเก่ง แม่ของฉันอยากให้ฉันเรียนต่อ สองปีต่อมา เธอพาฉันมาที่เมืองเซ้าท์ ซิตี้“นั่นเป็นค
มาร์คัส ชอว์เป็นผู้ใหญ่มากขึ้นกว่าเมื่อหกปีก่อนมาก และมีลักษณะเป็นนักวิชาการ ซาบริน่านึกถึงความช่วยเหลือทุกอย่างที่เขาให้ไว้กับเธอในตอนที่เธอหนีไปจากเมืองเซ้าท์ ซิตี้ แม้แต่ตอนเธอออกมาจากบ้านเช่าเพื่อไปห้ามไม่ให้เซบาสเตียนแต่งงาน มาร์คัสก็ยังอยู่ที่นั่นเพื่อช่วยเธอเมื่อซาบริน่ามองเข้าไปในดวงตาของมาร์คัส เธอรู้ได้เลยว่าดวงตาคู่นั้นอ่อนโยนและใจดีเพียงใดเขาเริ่มถามว่า “ซาบริน่า สบายดีไหม? ฉันรู้ว่าเซบาสเตียนเป็นคนจับตัวและพาเธอกลับมาที่นี่ แต่เมื่อเร็ว ๆ นี้ ครอบครัวของฉันเริ่มจับตาดูฉันอย่างเข้มงวดมากขึ้น ดังนั้น หากว่าฉันไปหาเธออย่างไม่ระมัดระวัง ก็รังแต่จะยั่วโมโหเซบาสเตียนมากขึ้นเรื่อย ๆ ฉันจึงไม่พยายามติดต่อเธอมาโดยตลอด บอกฉันทีว่าตอนนี้เธอเป็นอย่างไรบ้าง?“เซบาสเตียนปฏิบัติต่อเธอยังไงบ้าง...”"ดีมาก" ซาบริน่าตอบเพียงสองคำเธอเพียงยิ้มให้มาร์คัสโดยไม่ได้อธิบายอะไรแม้ว่าเธอจะรู้สึกอยากขอบคุณใครสักคน แต่ซาบริน่าก็ยังเป็นคนที่เก็บความรู้สึกของเธอไว้ข้างในเสมอ แทนที่จะใช้คำพูดเพียงผิวเผินเพื่อแสดงความรู้สึกเหล่านั้น มันเหมือนกับความสำนึกบุญคุณที่เธอรู้สึกต่อไนเจลในตอนนั้นที่เธอไ
เด็กน้อยคนนี้ไม่เคยกลัวเลยจริง ๆ ในช่วงสองปีที่เธอใช้เวลาอยู่ในโรงเรียนอนุบาลที่เขตเมืองเคียร์ราย เธอตีกับเด็กผู้ชายตัวเล็ก ๆ นับไม่ถ้วนแน่นอน ไอโนะเคยทะเลาะกับเด็กคนอื่น ๆ เท่านั้น เมื่อพวกเขาล้อเลียนเธอว่าไม่มีพ่อหรือดูถูกแม่ของเธอไอโนะจะเอาชนะเด็กคนอื่นอย่างกล้าหาญทุกครั้งหลังจากทะเลาะกับเด็กในโรงเรียนอนุบาล ตอนนี้ เธอไปยั่วยุพวกผู้ใหญ่แล้วเหรอ?ซาบริน่าโพล่งออกมาด้วยเหงื่อเย็นเยียบโลกของผู้ใหญ่นั้นซับซ้อนขนาดไหน? มันไม่ใช่สิ่งที่เด็กห้าขวบอย่างไอโนะจะเข้าใจได้อย่างแน่นอน ลูกของเธอยังเล็กอยู่ ดังนั้น ไม่ว่าเธอจะดุร้ายหรือกล้าหาญแค่ไหน เธอก็ยังไม่สามารถเอาชนะผู้ใหญ่ด้วยสติปัญญาหรือพละกำลังได้ซาบริน่ากังวลเรื่องความปลอดภัยของลูกสาวเป็นหลักเธอดุไปทางโทรศัพท์ “ไอโนะ! บอกเลยถ้าหนูทำร้ายผู้ใหญ่อีก แม่จะตีก้นหนูจนบวมเลย! แม่ไม่อยากเจอหนูอีกแล้ว!”ไอโนะตกใจกับคำพูดรุนแรงของแม่ของเธอจนถึงกับร้องไห้ออกมา เธอเช็ดจมูกขณะสะอื้นไห้ “แม่จ๋า หนูแค่อยากช่วยแม่...”“แม่ไม่ต้องการความช่วยเหลือจากหนู แม่ไม่อยากให้หนูออกสร้างปัญหาข้างนอกนั่น!” ซาบริน่าดุเธออย่างเคร่งครัด เธอมักจะเข้มงวดกั
ซาบริน่าไม่รู้ว่าจะตอบคำถามอย่างไรประโยคนั้นไม่มีเหตุผลเลย!เธอถามว่า “กำไลอะไรคะ? ไม่กี่วันที่ผ่านมานี้ คุณซื้อเสื้อผ้าให้ฉันแต่ไม่ได้ซื้อเครื่องประดับเลยนะ”เขาพยายามที่จะขู่กรรโชกเธอเหรอ?เธอไม่ได้ขโมยกำไลของเขามา!น้ำเสียงเยือกเย็นของเซบาสเตียนไม่เปลี่ยนไป “ฉันถามถึงกำไลเมื่อหกปีที่แล้ว!”สิ่งนี้ทำให้ซาบริน่าพูดไม่ออกก่อนจะออกมาจากเมืองเซ้าท์ ซิตี้เมื่อหกปีที่แล้ว เธอได้ทิ้งกำไลนั้นไว้พร้อมกับร่างของป้าเกรซ ซาบริน่าอยากให้กำไลเป็นสัญลักษณ์แทนตัวเธอ ดังนั้น เธอจึงทิ้งมันไว้ที่นั่นเพื่อให้อยู่เป็นเพื่อนป้าเกรซ ในตอนนั้น มันคือสิ่งเดียวที่ซาบริน่าสามารถทำได้เพื่อเกรซหลังจากนิ่งไปครู่หนึ่ง ซาบริน่ากล่าวว่า “ฉันคงจะลืมเรื่องนี้ไปแล้วถ้าคุณไม่ได้พูดขึ้นมา ฉันพยายามคืนให้คุณเมื่อหกปีที่แล้ว แต่ในตอนนั้นคุณไม่ยอมรับมันไว้ คุณบอกว่าฉันควรเป็นคนเก็บมันไว้เพราะแม่ของคุณให้ฉัน แล้วทำไมคุณถึงต้องการมันคืนในตอนนี้ล่ะ?”ในขณะนั้น เซบาสเตียนรู้สึกเหมือนเพิ่งถูกซาบริน่าตำหนิและไม่รู้ว่าจะตอบโต้อย่างไรแต่มันยังทำให้เขาโกรธอีกด้วย!ความเข้าใจผิดต่อเซบาสเตียนดูเหมือนจะเป็นงานอดิเรกของเธ
ไอโนะถามว่า “... ลุงคิงส์ตันคะ ยิงปืนนัดเดียวได้นักสองตัวหมายความว่าอะไรคะ?” อย่างไรคำศัพท์ของเด็กหญิงตัวน้อยก็ยังพัฒนาไม่เต็มที่คิงส์ตันตอบว่า “มันหมายความว่า…” ขณะกำลังจะอธิบายเรื่องนี้กับเจ้าหญิงตัวน้อย เขาสังเกตเห็นการแสดงออกที่เย็นชาบนใบหน้าของนายน้อยจากกระจกมองหลัง เขาหุบปากทันทีคิงส์ตันเรียนรู้วิธีอ่านท่าทางของนายท่านเป็นอย่างดี แต่ดูเหมือนว่าเจ้าหญิงจะไม่ได้มีทักษะนั้น เมื่อเธอเห็นว่าคิงส์ตันไม่ตอบคำถามของเธอ เด็กหญิงตัวเล็ก ๆ ก็หันไปหาพ่อตูดหมึกของเธอ กลอกตาและถามว่า “ถ้าอย่างนั้นหนูขอถามคุณหน่อยเถอะ ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัวหมายความว่าอะไรคะ?”ในตอนนี้ ไอโนะไม่ต้องพึ่งพาอ้อมกอดของพ่อเหมือนที่เธอเคยได้รับที่บ้านเก่าแก่หลังนั้นอีกต่อไป อันที่จริงเธอไม่อยากเรียกเขาว่าพ่อด้วยซ้ำเพราะว่ามีแค่พวกเขาสองคน เธอรู้สึกโกรธเล็กน้อยด้วยเหตุผลบางอย่าง แม้ว่าพ่อของเธอจะเป็นคนใจร้าย แต่ก็มีผู้หญิงมากมายที่พยายามจะจับเขาไอโนะเกลียดเรื่องนี้!เมื่อเซบาสเตียนเห็นสีหน้าไม่พอใจของเด็กหญิงตัวน้อย เขาไม่รู้ว่าเธออยากหัวเราะหรือร้องไห้แทนที่จะตอบไอโนะ เขากลับสวนกลับด้วยคำถามอื่น “ทำไมหนูถึ
ถ้านายท่านอาวุโสชอว์ไม่เอ่ยถึงกำไลนั้น เซบาสเตียนคงลืมมันไปแล้ว ย้อนกลับไปเมื่อตอนที่แม่ของเขายังมีชีวิตอยู่ เธอได้มอบกำไลให้ซาบริน่า ซึ่งเป็นมรดกตกทอดของตระกูลอันประเมินค่ามิได้นายท่านอาวุโสชอว์กล่าวต่อ “เซบาสเตียน ผู้หญิงเจ้าเล่ห์คนนั้นกำลังวางแผนต่อต้านนายอยู่แน่ ๆ ลองคิดดู เธอทำร้ายไนเจล เซย์นนายน้อยแห่งตระกูลสมิธ หรือแม้แต่มาร์คัสมากแค่ไหน“เธอไม่สามารถเทียบได้กับแม่ของนายได้“ผู้หญิงแบบนั้นจะสามารถสอนลูกของนายให้ถูกต้องได้อย่างไร?”เซบาสเตียนฝืนยิ้ม “ตอนนี้ลูกสาวของผมอยู่กับผม แล้วมันเกี่ยวอะไรกับแม่ของเธอ?!“นายท่านอาวุโสชอว์ด่วนสรุปเกินไปแล้วนะครับ!“สำหรับการอบรมลูกสาวของผม ผมไม่ต้องการให้บุคคลภายนอกมาแนะนำเกี่ยวกับวิธีการทำเช่นนั้น นายท่านอาวุโสชอว์ คุณควรให้ความสำคัญกับการอบรมหลานสาวของคุณเองอย่างเหมาะสม คุณจะได้หยุดดูหมิ่นตัวเองต่อหน้าตระกูลฟอร์ดสักที!”หลังจากพูดอย่างนั้น เซบาสเตียนก็อุ้มไอโนะไว้ในอ้อมแขนและพยายามจะออกจากห้องโถงไป“เซบาสเตียน!” เฮนรี่ตะโกน “จะไปไหน นายบอกว่าเราจะทานข้าวกับไอโนะไม่ใช่เหรอ? ย่าของนายเตรียมของขวัญมากมายไว้ให้เธอแล้วนะ เซบาสเตียน…”เ