ไนเจลเลิกคิ้วพร้อมกับรอยยิ้ม “ฉันไม่มีทางเลือกอื่น ที่เซ้าท์ซิตี้ มีสาวประเภทไหนที่ฉันไม่เคยไล่จีบมาก่อนเหรอ? ฉันเบื่อแล้ว! นายคงเลือกมินดี้ เจ้าหญิงของตระกูลชอว์ไปไหมล่ะ?”“ถามตรง ๆ เลยนะ เซย์น นายชอบผู้หญิงอย่างมิยดี้หรือเปล่า?”“เจ้าเล่ห์และเย่อหยิ่งอยู่ตลอด นายแตะต้องเธอไม่ได้ด้วยซ้ำ มันคงจะดีถ้าเธอมาจากตระกูลชอว์จริง ๆ แต่เธอมาจากตระกูลแมนน์และถูกเลี้ยงดูมาในตระกูลชอว์ ฉันเหนื่อยและท้อใจตอนที่เห็นความอวดดีนั่นของเธอ!”เซย์นหมดคำจะพูดไนเจลทำตัวเหมือนทำงานหนักที่ไซต์ก่อสร้างตลอดทั้งวัน เมื่องานสิ้นสุดลงในวันนั้น เขาเห็นร่างที่หดหู่ของซาบริน่ากำลังเดินเข้ามาหาเขาจากที่ไกล ๆ ไนเจลเริ่มทำงานอย่างจริงจังอีกครั้งเมื่อซาบรินาเดินผ่านไปคนงานจำนวนไม่กี่คนยืนล้อมรอบไนเจล ซึ่งดูเหมือนกำลังถามเขาเกี่ยวกับเรื่องต่าง ๆเมื่อซาบริน่าเดินผ่านไนเจลซึ่งเมินเฉยต่อเธอและจดจ่ออยู่กับงานของเขา ซาบริน่าดูเหมือนอยากจะพูดอะไรบางอย่าง เธออ้าปาก แต่ก็ลังเล และปิดปากลงอีกครั้ง ก่อนมุ่งหน้าไปที่ป้ายรถประจำทางโชคดีที่เธอถึงป้ายรถประจำทางตอนรถมาพอดี ไนเจลและเซย์นสตาร์ทรถและขับตามรถของซาบริน่า เป็นไปตาม
ชายชราจับซาบริน่าและดึงเธอเข้ามาหาตัวเขา ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยรอยยิ้ม “แม่หนู เธอนี่มันขี้ลืมเสียจริง สองปีก่อน ตอนที่เรียนอยู่ในมหาวิทยาลัย เธอขอเงินและของมากมายจากฉัน ตอนนั้นเธอยังเรียกฉันว่าผัวอยู่เลย ลืมไปแล้วหรือไงว่าเคยโทรหาฉัน? เมื่อกี้เรียกฉันว่าอะไรนะ คุณลุงเหรอ? ฉันแก่ขนาดนั้นเลยเหรอ?”ซาบริน่าตะโกนว่า “คุณเป็นใคร! ปล่อยฉันนะ! ถ้าไม่ปล่อยฉันจะแจ้งตำรวจ!”ชายที่อยู่ข้างหน้าเธอแก่มาก แก่กว่าลินคอล์นอย่างน้อยยี่สิบปี และเขาพูดเรื่องไร้สาระในเวลากลางวันแสก ๆ ซาบริน่าอยากจะตบชายแก่ที่น่ารังเกียจจริง ๆอย่างไรก็ตาม เขาจับแขนเธอแน่นจนเธอไม่สามารถจะดิ้นออกไปได้ ซาบริน่าหนีไปไม่ได้เลย“โทรแจ้งตำรวจเหรอ? ตอนที่เธออยากได้เงินจากฉัน ฉันไม่เห็นเธอจะโทรแจ้งตำรวจเลยนิ? ตอนที่เธออยากได้ของจากฉัน เธอไม่ยักจะโทรแจ้งตำรวจเหมือนกันนิ? ตอนนี้เธอจะโทรแจ้งตำรวจงั้นเหรอ? ซาบริน่า เธอทำกับเคนตัน ฮอร์สท์ผู้นี้เหมือนกับว่าเป็นคนที่สามารถจะเธอโยนทิ้งข้างทางได้งั้นเหรอ? ฉันมาหาตอนที่เธอต้องการฉัน และตอนนี้เธอจะโทรแจ้งตำรวจเมื่อไม่ต้องการฉันแล้ว” คนที่เรียกตัวเองว่าเคนตัน ฮอร์สท์ เย้ยหยันซาบริน่าอย่า
"ขับไป!" เคนตันออกคำสั่ง คนขับสตาร์ทเครื่องยนต์ทันที“ตาแก่คนนั้น ฮอร์สท์ เขาพาแม่สาวบ้านนอกไป!” ไนเจลที่ติดไฟแดงอยู่เห็นทุกสิ่งที่เกิดขึ้น ทันทีที่ไฟเปลี่ยนเป็นสีเขียว ไนเจลก็รีบตามเคนตันไปทันทีเซย์นเตือนไนเจล “ตาแก่คนนั้นเป็นพวกไอ้เฒ่าหัวงู นายต้องตามพวกเขาไป อย่าให้คลาดสายตาใบหน้าของไนเจลมีท่าทางรังเกียจ “ตอนนี้ฉันกำลังมองแม่สาวบ้านนอกในมุมที่ต่างไปจากเดิม เธอไม่ใช่ผู้หญิงธรรมดาจริง ๆ ! เธอสามารถลงนามในข้อตกลงแต่งงานกับเซบาสเตียน บุคคลสำคัญอันดับหนึ่งในเมืองเซ้าท์ ซิตี้ แถมเธอยังหว่านเสน่ห์ใส่นายน้อยของตระกูลชอว์ซึ่งเป็นบุคคลที่มีการศึกษามากที่สุดในเมืองเซ้าท์ ซิตี้ได้อีก วันนี้เธอแสดงให้เห็นแล้วว่าเธอเคยมีอดีตกับเคนตัน ฮอร์สท์ นายรู้ไหมว่าเคนตัน ฮอร์สท์ คือใคร? ศัตรูตัวฉกาจของเซบาสเตียนไงล่ะ!”“ก่อนที่เซบาสเตียนจะพลิกสถานการณ์ได้ เคนตันเคยพยายามจะฆ่าพี่ชายของฉัน พี่ชายของฉันทำลายทรัพย์สินของเคนตันไปเกือบสองในสาม ดังนั้นตอนนี้เขาเกือบจะเป็นคนไร้บ้าน แต่เขาก็ยังกล้ามาที่โรงพยาบาลและพาซาบริน่าออกไป! เธอไม่ได้ไร้เดียงสาอย่างที่เธอเห็นจริง ๆ !”เซย์นมองไปที่ไนเจลอย่างไม่ชอบใจ “แล
ในห้องส่วนตัวอันหรูหรา ภาพด้านหน้าของเซย์นและไนเจลนั้นตรงกันข้ามกับที่พวกเขาคิดไว้โดยสิ้นเชิงตรงหน้าพวกเขา เคนตันนอนขดตัวอยู่บนพื้น เขาร้องออกมาด้วยความเจ็บปวดและทุกข์ทรมาน มีกองเลือดเล็ก ๆ อยู่รอบตัวเขา ในมือของซาบริน่ามีขวดไวน์แตก และเธอกำลังตีไปตามร่างกายของเคนตันด้วยขวดไวน์ซ้ำแล้วซ้ำเล่า การโจมตีแต่ละครั้งนั้นไร้ซึ่งความปราณีเป็นอย่างมากท่าทางของซาบริน่านั้นสงบมาก ไนเจลและเซย์นตกตะลึงเมื่อเห็นคนสองคนเข้ามาและรู้ว่าทั้งสองคนเป็นลูกของบรรดาเศรษฐีของเมือง เคนตันจึงคลานไปหาไนเจลทันทีราวกับว่าฟ้ามาโปรดเขาแล้ส “นายน้อยไนเจล ช่วยฉันด้วย เรียกคนของฉันมาจัดการผู้หญิงบ้าคนนี้และฆ่าเธอที่นี่ที! ถือว่าขอร้องแหละ!”ไนเจลพูดไม่ออก ซาบริน่ามองไนเจลอย่างใจเย็น ขณะที่เธอถือขวดที่แตกไว้ “นายน้อยไนเจล เมื่อเช้านี้ฉันอยากบอกอะไรบางอย่างกับคุณ แต่คุณยุ่งกับเครื่องมือวัดค่าที่ไซต์งาน ดังนั้นฉันจึงไม่รบกวนคุณ ฉันแค่อยากจะบอกคุณว่าอีกสองวัน เงินเดือนฉันก็จะออกแล้ว ฉันจะคืนเงินสามพันเให้คุณทันทีที่ได้รับเงินเดือนนะ”ไนเจลยังคงพูดไม่ออกซาบริน่ายิ้มอย่างเศร้าสร้อย “ไปแจ้งตำรวจเถอะ ไนเจล หรือบางทีคุ
ด้านหลังของพวกเขา เซย์นถึงกับตะลึงเมื่อเขาเห็นทุกสิ่งที่เกิดขึ้นเซย์นเป็นพี่น้องที่ดีของไนเจลและเขารับฟังการวิเคราะห์ของไนเจลเกี่ยวกับซาบริน่ามาโดยตลอด บางครั้งเซย์นก็มีส่วนร่วมเพราะเขารู้สึกว่าซาบริน่าเป็นผู้หญิงที่พิเศษตามที่ไนเจลอธิบายไว้ทว่าในขณะนั้น เซย์นรู้สึกสงสารซาบริน่าซาบริน่าดูสงบ แต่เธอมีความมุ่งมั่นที่ไม่ลดละ เธออ่อนแอ อ่อนแอจนใคร ๆ ก็สามารถบดขยี้เธอให้จมดินได้ ไนเจลปฏิบัติต่อซาบริน่าแบบนั้น มินดี้ก็ปฏิบัติต่อเธอแบบเดียวกัน แม้แต่เซลีนคนรักของเซบาสเตียนก็ยังพยายามทำร้ายซาบริน่ามาโดยตลอด แต่ซาบริน่าก็ไม่เคยยอมแพ้ แม้ว่าเธอไม่มีทางตอบโต้ก็ตามในตอนนั้น ซาบริน่าเต็มใจที่จะเข้าไปนอนในคุก ยอมสละทุกอย่างและยอมตาย แต่เธอไม่ยอมให้เคนตันดูถูกหรือดูหมิ่นเธอแม้แต่น้อยเซย์นเดินผ่านไนเจลและคุกเข่าตรงหน้าเคนตันซึ่งอยู่บนกองเลือด เซย์นพูดว่า “เคนตัน ไนเจลเป็นหลานชายของตระกูลฟอร์ด นายท่านอาวุโสเฮนรี่ขอร้องนายน้อยเซบาสเตียนมาโดยตลอดว่าให้เซบาสเตียนปกป้องไนเจลไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น หากคุณเป็นศัตรูกับนายน้อยไนเจลในตอนนี้ คุณจะเป็นหัวข้อหลักที่จะเข้าไปตรงเป้าเล็งของนายน้อยเซบาสเตียน ท่
ซาบริน่ายืนขึ้นและมองเซบาสเตียนด้วยสายตาที่เหนื่อยล้า “ฉันรู้ว่าช่วงนี้คุณยุ่งมาก อาการของป้าเกรซคงทำให้คุณไม่มีเวลาว่างไปสนใจเรื่องอื่นเลย แต่… มันยังไม่ถึงเวลาที่เราจะต้องคุยกันเรื่องสัญญาอีกเหรอ?”ซาบริน่ากลืนน้ำลายเมื่อมองไปที่เซบาสเตียนเธอทำงานมาทั้งวันและค่อนข้างเหนื่อยล้ามาก แถมเธอยังถูกเคนตันพาไปที่คลับนั่น และเธอยังไม่หายตกใจจากเหตุการณ์ทั้งหมดอีกด้วยจากที่เธอกระวนกระวายใจอยู่ เธอก็เริ่มรู้สึกสงบลงได้บ้างแล้วจากความโกรธของเธอที่มีต่อเคนตันก่อนหน้านี้ แม้ว่าไนเจลจะช่วยเธอไว้ได้ แต่ชายคนนั้นก็ยังคงนอนอยู่ในโรงพยาบาล อย่างไรก็ตาม ซาบริน่าไม่สามารถจ่ายค่ารักษาพยาบาลเองได้ วิธีเดียวที่เธอจะมีเงิน คือได้เงินจากสัญญาของเซบาสเตียนที่พวกเขามีร่วมกันเซบาสเตียนมองไปที่ซาบริน่าอย่างเย็นชา วันนี้เขาอารมณ์ไม่ดีอย่างมาก แม่ของเขาหมดสติไปสามวันแล้ว และไข้ของเธอก็ไม่ลดลงเลย มีโอกาสสูงที่เธอจะไม่ตื่นขึ้นมาอีก ไข้สูงไม่กี่วันที่ผ่านมาได้ทำลายอวัยวะภายในของเธอไปทั้งหมดเมื่อมองดูแม่ของเขาที่กำลังจะจากโลกนี้ไปอย่างช้า ๆ หัวใจของเซบาสเตียนก็ไม่เพียงแค่เจ็บปวด เขายังคงเศร้าเสียใจเป็นอย่าง
ในห้องนั่งเล่นของเขา มีอุปกรณ์ในการฆ่าผู้คน เมื่อมีคนต่อต้านเขา เขาจะไม่ยอมให้โอกาสคนเหล่านั้นได้ร้องขอความเมตตา เขาไม่เคยลีลาที่จะลงมือทำสิ่งนั้น และมักจะจัดการกับผู้คนโดยไม่พูดอะไรออกมาสักคำในขณะนั้น ซาบริน่าไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นในใจของเซบาสเตียน เธอทำได้เพียงพยายามสงบสติอารมณ์เท่านั้นเขาพูดด้วยน้ำเสียงที่เป็นกลาง และยังคงไม่แสดงอารมณ์ใด ๆ “สัญญาระบุว่าฉันจะจ่ายให้เธอหลังจากที่แม่ของฉันเสียชีวิตเท่านั้น ตอนนี้แม่ของฉันยังมีชีวิตอยู่”ซาบริน่าไม่รู้จะพูดอะไร ขณะที่เธอมึนงงอยู่นั้น เซบาสเตียนเปิดประตูและเข้าไปข้างใน เขาไม่ได้ตั้งใจจะปล่อยให้เธอเข้ามา เขาปิดประตูตามหลังแล้วล็อคประตูขณะที่เธออยู่ข้างนอกเมื่อประตูปิดลง ความหนาวเย็นจากดวงตาของเซบาสเตียนก็หายไป เขาอยากจะบีบคอผู้หญิงคนนั้นให้ตายไปเลยสักสองสามครั้ง ทันใดนั้น เขาก็ฉุดคิดได้ เขาจำได้เสมอเธอดูแลแม่ของเขาอย่างตั้งใจมากขนาดไหน ตลอดจนรอยยิ้มอันแสนหวานและไร้เดียงสาที่เธอแสดงให้เขาเห็นเขายังจำลายมือที่นุ่มนวลและคมชัดของเธอได้ จากนั้นเขาก็คิดถึงความสามารถของเธอในด้านสถาปัตยกรรม แต่เธอยังคงซับซ้อนและอยากเกินไปที่จะเข้าใจได้ด
การเสียชีวิตของเกรซทำให้เซบาสเตียนเจ็บปวดอย่างที่สุดและมันก็ทำให้ซาบริน่าเศร้ามากจนเกือบจะส่งผลต่อการตั้งครรภ์ของเธอเช่นกัน แม้ว่าซาบริน่าจะเศร้าโศกเพียงใด แต่ซาบริน่าก็ไม่สามารถไปส่งป้าเกรซในการเดินทางครั้งสุดท้ายของเธอได้งานศพที่เซบาสเตียนจัดขึ้นเพื่อแม่ของเขานั้นยิ่งใหญ่อย่างไม่น่าเชื่อ คนในแวดวงสังคมชั้นสูงต่างมาแสดงความเคารพ แต่ซาบริน่าไม่มีโอกาสได้ไปเฝ้าดูเกรซ เธอไม่ได้รับอนุญาตให้รู้ว่าป้าเกรซถูกฝังอยู่ที่ไหน นั่นเป็นเพราะทั้งครอบครัวฟอร์ดและญาติ ๆ ต่างก็เฝ้าดูเกรซ แม้แต่ไนเจลยังอยู่ที่นั่นเพื่อส่งป้าของเขาไปซาบริน่าเดินอยู่ตามท้องถนนเพียงลำพัง เมื่อรถลีมูซีนสีดำจอดอยู่ตรงหน้าเธอ เธอถูกดึงเข้าไปข้างในทันที ซาบริน่ากลัว “คุณ… พวกคุณเป็นใครกัน?”ชายในรถไม่พูด และขับรถไปจนมาถึงทางเข้าโรงพยาบาล เมื่อพวกเขาไปถึงโรงพยาบาลเท่านั้น ซาบริน่าก็เห็นว่าเป็นโรงพยาบาลที่เคนตันกำลังพักฟื้นอยู่ ชายสองคนลากซาบริน่าไปที่เตียงของ เคนตัน ซึ่งเคนตันเกือบจะหายดีแล้ว“เธออยากจะตายจริง ๆ ใช่ไหม!” เคนตันมองไปที่ซาบริน่าด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความเกลียดชังใบหน้าที่อ่อนล้าและเศร้าโศกของซาบริน่าม
คิงส์ตัน มาร์คัส และ ซาบริน่าต่างตกตะลึงมาร์คัสพยายามปกป้องซาบริน่าที่อยู่ข้างหลังของเขา ขณะที่มองเซบาสเตียนอย่างสยองขวัญ “เซบาสเตียน...ถ้านายมีปัญหาอะไร เข้ามาหาฉัน อย่าแตะต้องซาบริน่า เพราะยังไง เธอก็เป็นแม่ของลูกนายนะ“ถ้า...นายอยากจะฆ่าใครสักคน ให้มันเป็นฉันเถอะนะ”เซบาสเตียนไม่ตอบ เขาเพียงแค่ถอดเนกไทและปลดกระดุมเสื้อของเขาออก ในชั่วขณะนั้น ร่างที่กำยำของเขาก็สัมผัสกับมาร์คัสจากนั้น เขาก็พูดด้วยน้ำเสียงไม่สบอารมณ์ว่า “นายกำลังคิดอะไรอยู่? รถค่อนข้างอับชื้น ฉันก็เลยรู้สึกร้อนเฉย ๆ ดังนั้น ฉันจึงแกะกระดุมเพื่อให้เย็นลงเล็กน้อย”มาร์คัสรู้สึกโล่งใจ “อ๋อ...เซบาสเตียน นาย...คอของนาย ได้รับบาดเจ็บได้ยังไง?“อ๋อ ฉันได้รับบาดเจ็บจากแมวป่า” เซบาสเตียนตอบอย่างไม่ใส่ใจทั้งคิงส์ตันและซาบริน่ายังคงถูกแช่แข็งอยู่กับที่ใบหน้าของซาบริน่าเปลี่ยนเป็นสีแดงจนเธอละสายตาจากทุกคนที่นั่น และมุ่งความสนใจไปที่การลูบผมของไอโนะลิ้นของคิงส์ตันผูกเป็นปมในขณะคิดกับตัวเอง'นายน้อย คุณไม่ใช่คนโกหกเก่งเลย แมวป่าพันธุ์ไหนที่ทิ้งร่องรอยของฟันไว้ได้''แม้ว่าจะเป็นแมวป่า แต่คุณไม่รู้หรือว่าแมวและมนุษย์ม
“ฉันจะไม่ทำแบบนั้นอีก“ถ้าในอนาคตเธอต้องการเงิน ไม่ว่าจะมากขนาดไหน เธอก็มาหาฉันได้เสมอ“อย่าปล่อยให้ตัวเองต้องทนทุกข์เพียงลำพังซาบริน่ารับนามบัตรโดยกล่าวว่า “ขอบคุณค่ะ นายน้อยชอว์”ความจริงแล้ว เธอไม่อยากรับนามบัตร แล้วเธอจะรับไปเพื่ออะไร? ซาบริน่าและลูกสาวของเธออยู่กับเซบาสเตียนแล้ว ดังนั้น พวกเขาจึงไม่ต้องกังวลเรื่องเงินอีกในอนาคต นอกจากนี้ เธอยังได้งานทำแล้ว ซึ่งเธอตัดสินใจที่จะอุทิศเวลาของเธอและสร้างเนื้อสร้างตัวเธอไม่จำเป็นต้องพึ่งพาใครอีกต่อไปแต่เมื่อเห็นว่ามาร์คัสเคยช่วยเธอมาก่อน เธอไม่ต้องการเหยียบย่ำศักดิ์ศรีของมาร์คัสด้วยการปฏิเสธนามบัตรไปขณะที่เธอกำลังเอื้อมมือไปหยิบการ์ดนั้น ก็มีรถจอดอยู่ข้างหลังทั้งคู่ มาร์คัสและซาบริน่าต่างหันความสนใจไปที่รถท่าทีของซาบริน่าเปลี่ยนไปอย่างกะทันหันเหตุใดจึงเป็นเรื่องบังเอิญที่เซบาสเตียนกลับมาถึงบ้านในขณะนั้น?ด้วยเหตุผลบางอย่าง ซาบริน่ากลัวว่าภาพก่อนหน้านี้จะทำให้เซบาสเตียนหึง แต่หลังจากคิดถึงเรื่องนี้แล้ว เธอก็ตระหนักว่ามันไม่สมเหตุสมผลเลยที่เซบาสเตียนจะรู้สึกแบบนั้นซาบริน่าคิดมากไปคนแรกที่ลงจากรถคือคิงส์ตัน เมื่อเห็นมาร
มาร์คัสถึงกับพูดไม่ออกเขาไม่รู้จะปลอบเด็กสาวที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขาอย่างไร เขาได้แต่แบ่งปันความเจ็บปวดของเธอในใจ ในขณะนั้นเอง ฝนก็เริ่มตกราวกับว่ามีใครให้สัญญาณฝนเริ่มตกหนักขึ้นภายในไม่กี่วินาทีซาบริน่ายกแขนขึ้นเพื่อกันศีรษะจากฝน แต่มาร์คัสดึงเธอเข้าไปในล็อบบี้ของอาคารชั้นหนึ่งทันทีขณะที่ทั้งสองตั้งสติ มาร์คัสหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาแล้วกดหมายเลข “ซินดี้ ช่วยฉันเอาเอกสารไปที”ซาบริน่าไม่พูดอะไรมาร์คัสไม่ได้ตั้งใจที่จะขึ้นไปข้างบนเหรอ? ทำไมเขาถึงเรียกใครบางคนมาที่นี่เพื่อรับเอกสารไปแทน?ไม่นานหลังจากนั้น หญิงสาวสวยในชุดอย่างมืออาชีพและรองเท้าส้นสูงก็มาถึงล็อบบี้ มาร์คัสจึงส่งเอกสารบางส่วนให้กับผู้หญิงคนนั้นและสั่งว่า “บอกผู้อำนวยการของเธอว่าฉันจะไม่ขึ้นไปชั้นบน มีบางอย่างที่ฉันต้องจัดการที่นี่”“ค่ะ ผู้อำนวยการชอว์” หญิงสาวตอบด้วยรอยยิ้มก่อนจะเดินกลับขึ้นไปชั้นบนมาร์คัสหันมาสนใจซาบริน่าอีกครั้ง “เธอจะไปไหน? เดี๋ยวฉันจะไปส่ง”ซาบริน่าไม่รู้จะตอบอย่างไร เธออยากกลับบ้านหลังจากชะงักเล็กน้อยเธอก็เริ่มพูดอีกครั้ง “ไม่จำเป็นหรอกค่ะ นายน้อยชอว์ ฉันไปเองได้”มาร์คัสยิ้ม “เธอกำลังจ
ความสัมพันธ์ที่ซาบริน่ามีกับครอบครัวลินน์เป็นความทรงจำที่เจ็บปวดสำหรับเธอเสมอมา มันเป็นรอยแผลเป็นที่เธอไม่อยากเปิดเผย อย่างไรก็ตาม มันไม่ใช่เรื่องน่าอายแต่อย่างใดแม้ว่ามาร์คัสจะเชื้อเชิญ แต่ซาบริน่าก็ไม่ได้ไปร้านกาแฟกับเขา ตอนนี้ ทั้งสองคนยืนอยู่บนถนนสายหลักนอกทางเข้าบริษัท ซาบริน่าตั้งใจที่จะเล่าเรื่องราวอย่างง่าย ๆ ที่เกี่ยวกับความสัมพันธ์ของเธอกับครอบครัวลินน์ เพราะเธอต้องการกลับบ้านโดยเร็วเพื่อจะได้รู้ว่าไอโนะทำอะไรลงไปที่บ้านตระกูลฟอร์ด“ตอนอายุน้อยกว่าสิบสองปี ฉันอาศัยอยู่ในบ้านเกิดของฉัน ซึ่งอยู่ในเขตชานเมืองของเมืองเล็ก ๆ พ่อแม่ของฉันอาศัยอยู่ที่นั่นโดยปลูกผักครัวเรือน ในช่วงที่ซบเซา พ่อของฉันก็จะไปเป็นคนส่งสินค้าให้โกดังด้วย“ตอนที่ฉันอายุได้สิบขวบ ตอนที่พ่อของฉันทำงานอยู่ที่โกดัง เขาถูกของบางอย่างตกใส่เขา ของทับจนเสียชีวิต ในช่วงเวลาเดียวกันนั้น แม่ของฉันป่วยและไม่อาจรักษาหายได้ตลอดทั้งปี“หลังจากนั้น เธอก็ไม่ดีขึ้นเลย และร่างกายของเธอก็อยู่ในสภาพที่เปราะบางอยู่เสมอ“แต่เพราะฉันเรียนเก่ง แม่ของฉันอยากให้ฉันเรียนต่อ สองปีต่อมา เธอพาฉันมาที่เมืองเซ้าท์ ซิตี้“นั่นเป็นค
มาร์คัส ชอว์เป็นผู้ใหญ่มากขึ้นกว่าเมื่อหกปีก่อนมาก และมีลักษณะเป็นนักวิชาการ ซาบริน่านึกถึงความช่วยเหลือทุกอย่างที่เขาให้ไว้กับเธอในตอนที่เธอหนีไปจากเมืองเซ้าท์ ซิตี้ แม้แต่ตอนเธอออกมาจากบ้านเช่าเพื่อไปห้ามไม่ให้เซบาสเตียนแต่งงาน มาร์คัสก็ยังอยู่ที่นั่นเพื่อช่วยเธอเมื่อซาบริน่ามองเข้าไปในดวงตาของมาร์คัส เธอรู้ได้เลยว่าดวงตาคู่นั้นอ่อนโยนและใจดีเพียงใดเขาเริ่มถามว่า “ซาบริน่า สบายดีไหม? ฉันรู้ว่าเซบาสเตียนเป็นคนจับตัวและพาเธอกลับมาที่นี่ แต่เมื่อเร็ว ๆ นี้ ครอบครัวของฉันเริ่มจับตาดูฉันอย่างเข้มงวดมากขึ้น ดังนั้น หากว่าฉันไปหาเธออย่างไม่ระมัดระวัง ก็รังแต่จะยั่วโมโหเซบาสเตียนมากขึ้นเรื่อย ๆ ฉันจึงไม่พยายามติดต่อเธอมาโดยตลอด บอกฉันทีว่าตอนนี้เธอเป็นอย่างไรบ้าง?“เซบาสเตียนปฏิบัติต่อเธอยังไงบ้าง...”"ดีมาก" ซาบริน่าตอบเพียงสองคำเธอเพียงยิ้มให้มาร์คัสโดยไม่ได้อธิบายอะไรแม้ว่าเธอจะรู้สึกอยากขอบคุณใครสักคน แต่ซาบริน่าก็ยังเป็นคนที่เก็บความรู้สึกของเธอไว้ข้างในเสมอ แทนที่จะใช้คำพูดเพียงผิวเผินเพื่อแสดงความรู้สึกเหล่านั้น มันเหมือนกับความสำนึกบุญคุณที่เธอรู้สึกต่อไนเจลในตอนนั้นที่เธอไ
เด็กน้อยคนนี้ไม่เคยกลัวเลยจริง ๆ ในช่วงสองปีที่เธอใช้เวลาอยู่ในโรงเรียนอนุบาลที่เขตเมืองเคียร์ราย เธอตีกับเด็กผู้ชายตัวเล็ก ๆ นับไม่ถ้วนแน่นอน ไอโนะเคยทะเลาะกับเด็กคนอื่น ๆ เท่านั้น เมื่อพวกเขาล้อเลียนเธอว่าไม่มีพ่อหรือดูถูกแม่ของเธอไอโนะจะเอาชนะเด็กคนอื่นอย่างกล้าหาญทุกครั้งหลังจากทะเลาะกับเด็กในโรงเรียนอนุบาล ตอนนี้ เธอไปยั่วยุพวกผู้ใหญ่แล้วเหรอ?ซาบริน่าโพล่งออกมาด้วยเหงื่อเย็นเยียบโลกของผู้ใหญ่นั้นซับซ้อนขนาดไหน? มันไม่ใช่สิ่งที่เด็กห้าขวบอย่างไอโนะจะเข้าใจได้อย่างแน่นอน ลูกของเธอยังเล็กอยู่ ดังนั้น ไม่ว่าเธอจะดุร้ายหรือกล้าหาญแค่ไหน เธอก็ยังไม่สามารถเอาชนะผู้ใหญ่ด้วยสติปัญญาหรือพละกำลังได้ซาบริน่ากังวลเรื่องความปลอดภัยของลูกสาวเป็นหลักเธอดุไปทางโทรศัพท์ “ไอโนะ! บอกเลยถ้าหนูทำร้ายผู้ใหญ่อีก แม่จะตีก้นหนูจนบวมเลย! แม่ไม่อยากเจอหนูอีกแล้ว!”ไอโนะตกใจกับคำพูดรุนแรงของแม่ของเธอจนถึงกับร้องไห้ออกมา เธอเช็ดจมูกขณะสะอื้นไห้ “แม่จ๋า หนูแค่อยากช่วยแม่...”“แม่ไม่ต้องการความช่วยเหลือจากหนู แม่ไม่อยากให้หนูออกสร้างปัญหาข้างนอกนั่น!” ซาบริน่าดุเธออย่างเคร่งครัด เธอมักจะเข้มงวดกั
ซาบริน่าไม่รู้ว่าจะตอบคำถามอย่างไรประโยคนั้นไม่มีเหตุผลเลย!เธอถามว่า “กำไลอะไรคะ? ไม่กี่วันที่ผ่านมานี้ คุณซื้อเสื้อผ้าให้ฉันแต่ไม่ได้ซื้อเครื่องประดับเลยนะ”เขาพยายามที่จะขู่กรรโชกเธอเหรอ?เธอไม่ได้ขโมยกำไลของเขามา!น้ำเสียงเยือกเย็นของเซบาสเตียนไม่เปลี่ยนไป “ฉันถามถึงกำไลเมื่อหกปีที่แล้ว!”สิ่งนี้ทำให้ซาบริน่าพูดไม่ออกก่อนจะออกมาจากเมืองเซ้าท์ ซิตี้เมื่อหกปีที่แล้ว เธอได้ทิ้งกำไลนั้นไว้พร้อมกับร่างของป้าเกรซ ซาบริน่าอยากให้กำไลเป็นสัญลักษณ์แทนตัวเธอ ดังนั้น เธอจึงทิ้งมันไว้ที่นั่นเพื่อให้อยู่เป็นเพื่อนป้าเกรซ ในตอนนั้น มันคือสิ่งเดียวที่ซาบริน่าสามารถทำได้เพื่อเกรซหลังจากนิ่งไปครู่หนึ่ง ซาบริน่ากล่าวว่า “ฉันคงจะลืมเรื่องนี้ไปแล้วถ้าคุณไม่ได้พูดขึ้นมา ฉันพยายามคืนให้คุณเมื่อหกปีที่แล้ว แต่ในตอนนั้นคุณไม่ยอมรับมันไว้ คุณบอกว่าฉันควรเป็นคนเก็บมันไว้เพราะแม่ของคุณให้ฉัน แล้วทำไมคุณถึงต้องการมันคืนในตอนนี้ล่ะ?”ในขณะนั้น เซบาสเตียนรู้สึกเหมือนเพิ่งถูกซาบริน่าตำหนิและไม่รู้ว่าจะตอบโต้อย่างไรแต่มันยังทำให้เขาโกรธอีกด้วย!ความเข้าใจผิดต่อเซบาสเตียนดูเหมือนจะเป็นงานอดิเรกของเธ
ไอโนะถามว่า “... ลุงคิงส์ตันคะ ยิงปืนนัดเดียวได้นักสองตัวหมายความว่าอะไรคะ?” อย่างไรคำศัพท์ของเด็กหญิงตัวน้อยก็ยังพัฒนาไม่เต็มที่คิงส์ตันตอบว่า “มันหมายความว่า…” ขณะกำลังจะอธิบายเรื่องนี้กับเจ้าหญิงตัวน้อย เขาสังเกตเห็นการแสดงออกที่เย็นชาบนใบหน้าของนายน้อยจากกระจกมองหลัง เขาหุบปากทันทีคิงส์ตันเรียนรู้วิธีอ่านท่าทางของนายท่านเป็นอย่างดี แต่ดูเหมือนว่าเจ้าหญิงจะไม่ได้มีทักษะนั้น เมื่อเธอเห็นว่าคิงส์ตันไม่ตอบคำถามของเธอ เด็กหญิงตัวเล็ก ๆ ก็หันไปหาพ่อตูดหมึกของเธอ กลอกตาและถามว่า “ถ้าอย่างนั้นหนูขอถามคุณหน่อยเถอะ ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัวหมายความว่าอะไรคะ?”ในตอนนี้ ไอโนะไม่ต้องพึ่งพาอ้อมกอดของพ่อเหมือนที่เธอเคยได้รับที่บ้านเก่าแก่หลังนั้นอีกต่อไป อันที่จริงเธอไม่อยากเรียกเขาว่าพ่อด้วยซ้ำเพราะว่ามีแค่พวกเขาสองคน เธอรู้สึกโกรธเล็กน้อยด้วยเหตุผลบางอย่าง แม้ว่าพ่อของเธอจะเป็นคนใจร้าย แต่ก็มีผู้หญิงมากมายที่พยายามจะจับเขาไอโนะเกลียดเรื่องนี้!เมื่อเซบาสเตียนเห็นสีหน้าไม่พอใจของเด็กหญิงตัวน้อย เขาไม่รู้ว่าเธออยากหัวเราะหรือร้องไห้แทนที่จะตอบไอโนะ เขากลับสวนกลับด้วยคำถามอื่น “ทำไมหนูถึ
ถ้านายท่านอาวุโสชอว์ไม่เอ่ยถึงกำไลนั้น เซบาสเตียนคงลืมมันไปแล้ว ย้อนกลับไปเมื่อตอนที่แม่ของเขายังมีชีวิตอยู่ เธอได้มอบกำไลให้ซาบริน่า ซึ่งเป็นมรดกตกทอดของตระกูลอันประเมินค่ามิได้นายท่านอาวุโสชอว์กล่าวต่อ “เซบาสเตียน ผู้หญิงเจ้าเล่ห์คนนั้นกำลังวางแผนต่อต้านนายอยู่แน่ ๆ ลองคิดดู เธอทำร้ายไนเจล เซย์นนายน้อยแห่งตระกูลสมิธ หรือแม้แต่มาร์คัสมากแค่ไหน“เธอไม่สามารถเทียบได้กับแม่ของนายได้“ผู้หญิงแบบนั้นจะสามารถสอนลูกของนายให้ถูกต้องได้อย่างไร?”เซบาสเตียนฝืนยิ้ม “ตอนนี้ลูกสาวของผมอยู่กับผม แล้วมันเกี่ยวอะไรกับแม่ของเธอ?!“นายท่านอาวุโสชอว์ด่วนสรุปเกินไปแล้วนะครับ!“สำหรับการอบรมลูกสาวของผม ผมไม่ต้องการให้บุคคลภายนอกมาแนะนำเกี่ยวกับวิธีการทำเช่นนั้น นายท่านอาวุโสชอว์ คุณควรให้ความสำคัญกับการอบรมหลานสาวของคุณเองอย่างเหมาะสม คุณจะได้หยุดดูหมิ่นตัวเองต่อหน้าตระกูลฟอร์ดสักที!”หลังจากพูดอย่างนั้น เซบาสเตียนก็อุ้มไอโนะไว้ในอ้อมแขนและพยายามจะออกจากห้องโถงไป“เซบาสเตียน!” เฮนรี่ตะโกน “จะไปไหน นายบอกว่าเราจะทานข้าวกับไอโนะไม่ใช่เหรอ? ย่าของนายเตรียมของขวัญมากมายไว้ให้เธอแล้วนะ เซบาสเตียน…”เ