คืนก่อนที่สุดาและวาดดาวจะกลับกรุงเทพฯ ทั้งสามก็ออกไปหาอะไรกินกันตามปรกติ โดยมีคูปองอาหารสารพัดชนิดเป็นตัวเลือก
นั่งกินไป เม้าท์มอยไปได้สักพัก วาดดาวก็หันมากระซิบกระซาบกับสุดา เพื่อบอกพิกัดหนุ่มให้รุ่นใหญ่รู้ก่อน พอสุดาหันไปมองเธอก็แทบกำเดาไหล“แม่เจ้า ซิกซ์แพ็ก” สุดาจ้องไปยังซิกซ์แพ็กสวยๆ ของหนุ่มฝรั่งคนหนึ่ง “แหมเจ้…เก็บอาการก่อนสิ”วาดดาวแขวะเบาๆ นั่นเป้าหมายเธอไม่ใช่เหรอ ไหงสุดาจ้องตาเป็นมันแบบนี้ “มองอะไรกัน” ทิพย์ทิวาเอ่ยถามขึ้นบ้าง“ฝรั่ง น่ากินมาก”“เอาบ๊วยด้วยไหมเจ้ดา”คำพูดของทิพย์ทิวาทำเอาคนฟังหัวคะมำ “คนไม่ใช่ผลไม้ นี่ก็”“งั้นรอตรงนี้ เดี๋ยวไปขอเบอร์มาให้”“เอาจริง” สุดารีบถาม เพราะแม้เธอจะแอบชอบ แต่ก็ไม่เคยเข้าไปขอเบอร์ผู้ชายก่อนสักครั้ง ส่วนคนข้างๆ อย่างวาดดาวก็ตะลึงไปอีกคน เพราะไม่คิดว่าทิพย์ทิวาจะพูดอะไรแบบนี้ออกมา “นี่ตั้งแต่ผอมก็ชักจะมั่นขึ้นนะคุณน้อง”“จริง” วาดดาส่วนอีกคนที่อยากชวนทิพย์ทิวาให้มางานเลี้ยงวันเสาร์ที่จะถึงนี้ กลับยังใจเย็น นั่นเพราะคิดว่าทิพย์ทิวาเป็นลูกค้าของสปาเขาอยู่แล้ว เธอคือคนหนึ่งจะได้รับเชิญมางานนี้ แต่วันนี้ หลังจากทำสปาให้เธอเสร็จ เขาจะเอ่ยชวนเธออีกครั้งและเพราะเคลียร์งานเสร็จเร็ว ทิพย์ทิวาจึงขับรถมาที่สปาก่อนเวลานัดพอสมควร เธอเดินเข้าไปนั่งรอบนโซฟาแล้วหยิบนิตยสารมาอ่านฆ่าเวลา ก่อนที่หูจะแว่วเหมือนได้ยินเสียงของแทนไทดังเข้ามาให้ได้ยิน ทิพย์ทิวากะพริบตาปริบๆ หันซ้ายหันขวามองหาที่มาของเสียงนั้น ก่อนจะยืนอึ้ง เมื่อเห็นแทนไทอยู่ในชุดของพนักงานนวดเขากำลังคุยโทรศัพท์กับใครอยู่ สีหน้าของเขายิ้มน้อยยิ้มใหญ่ บ่งบอกว่ามีความสุข แต่ทำไมทิพย์ทิวากลับรู้สึกไม่ดีแบบนี้ก็ไม่รู้ ที่ผ่านมาคืออะไร คนที่นวดสลายไขมันให้เธอมาตลอดคือแทนไทอย่างนั้นเหรอ แล้วทำไมเขาต้องปิดบังเรื่องนี้กับเธอด้วย“เออ…แค่นี้แหละ ป่านนี้ลูกค้าข้าคงมารอแล้ว” เอ่ยจบแทนไทก็วางสายจากธีระไป ส่วนทิพย์ทิวาก็หันขวับ แล้วรีบเดินกลับมานั่งบนโซฟาตัวเดิมทำเหมือนไม่ได้ยินอะไรทั้งนั้น
“ไม่ได้ครับ เสาร์คือเสาร์ ฟังก่อนไม่ได้”“เหอะ!” ฟังคำตอบแบบครึ่งๆ กลางๆ จากแทนไทแล้ว ทิพย์ทิวาก็ยิ่งหมั่นไส้เขาขึ้นไปอีก นี่ไม่รู้จะมาไม้ไหนกันแน่“คุณหิวหรือยัง”พูดจริงจังกันไม่เท่าไหร่ แทนไทก็เปลี่ยนมาชวนกินจนได้“ยังไม่หิวค่ะ และต่อไปนี้ไม่ต้องชวนฉันไปกินนั่น กินนี่เลยนะ ฉันไดเอทอยู่ เข้าใจไหมคุณ”“เข้าใจ…แต่ผมหิวนี่ครับ คุณไม่หิวแค่ไปนั่งเป็นเพื่อนผมก็พอ”“ไม่เอา ไม่ไป เดี๋ยวฉันตบะแตก กินคลีนอีก” คำว่ากิน คลีนในความหมายของทิพย์ทิวาคือกินเกลี้ยง เมื่อปฏิเสธแล้วเธอก็รีบเก็บข้าวของ จากนั้นก็กลับออกไปจากสปาปล่อยให้แทนไทหัวเราะตามหลัง ยิ่งได้รู้จักทิพย์ทิวา เธอก็ยิ่งพิเศษ ผู้หญิงอ้วนแต่กลับสวย นิยามนี้คงเกิดมาเพื่อ ทิพย์ทิวาของจริง ขนาดอ้วนยังสวยแบบนี้ถ้าเธอลดน้ำหนักถึงเป้าที่ตั้งไว้ได้สำเร็จ ตอนนั้นเธออาจเป็นสาวฮอต ใครจะไปรู้แต่คนที่แอบฟังอยู่นอกห้องกลับยิ้ม งานเลี
“อ้อ…เธอกระซิบบอกดิฉันว่าอายเรื่องกินบะหมี่ เพราะปรกติไม่เคยกินโชว์ต่อหน้าใครแบบนี้ แต่จะขอแสดงท่าทางเลียนแบบช้าง สัตว์ที่เธอชื่นชอบมากที่สุดแทน ทุกคนเห็นด้วยไหมคะ”ม่านฟ้าก็ยังคงสร้างสถานการณ์คนเดียวต่อ โดยการโยนระเบิดมาใส่ทิพย์ทิวาลูกใหญ่“ฉันไม่ทำอะไรทั้งนั้น คุณสนุก แต่ฉันไม่” ทิพย์ทิวาเน้นแต่ละคำแบบชัดๆ แต่ม่านฟ้ากลับไม่สะทกสะท้าน ยังคงมโนคนเดียวเป็นฉากๆ ต่อไป“เอาเลยค่ะ จะร้องแป๊น หรือฟาดงวง ฟาดงาเป็นแม่พังยังไงก็ได้”“เอาเลย เอาเลย” คนที่ส่งเสียงเชียร์คือคนที่ม่านฟ้าใช้เงินซื้อไว้แล้ว“อย่าช้าสิคะ ทุกคนรอชมอยู่นะ” ม่านฟ้ายิ้มกริ่ม สะใจอย่างบอกไม่ถูกที่สามารถฉีกหน้าคนที่แทนไทแคร์ได้ขนาดนี้ ส่วนตอนนี้ชายหนุ่มก็คงอาย เพราะไม่รู้ไปยืนอยู่ตรงมุมไหนของงานทิพย์ทิวาพยายามมองหาแทนไท หวังให้เขามาช่วยเธอออกไปจากสถานการณ์บ้าๆ นี้เสียที แต่กลับไม่เห็นเขาแม้เงา“ปีหน้าคุณทิพย์ทิวาสนใจเข้าประกวดธิดาช้างไหมคะ เดี๋ยวม่านฟ้าเป็นสปอนเซอร์หลักให้” คำพูดของม่านฟ้ายิ่งทำให
“นี่” ทิพย์ทิวาหันมาทำหน้าโหดใส่คนข้างๆ แทนไทได้แต่อมยิ้ม จูบเมื่อครู่ยังคงลอยอบอวลอยู่ในปากเขาอยู่เลย พึ่งรู้ว่าปากของทิพย์ทิวาหวานเหมือนน้ำผึ้ง“คราวนี้คุณจะหยุด แล้วฟังผมได้หรือยังครับ”“อ่ะๆ สรุปคุณจะพูดอะไร ก็รีบๆ ว่ามา” เพราะกลัวจะถูกขโมยจูบไปอีก ทิพย์ทิวาจึงยกมือขึ้นมาปิดปากตัวเอง พร้อมกับขยับออกห่างแทนไทให้มากที่สุด ด้วยการเอาตัวไปเบียดติดกับประตูรถแต่มาคิดอีกที เธอก็อยากได้รับจูบอีกสักครั้ง จะได้รู้ซึ้งว่าจูบนั้นเป็นยังไง อร๊ายยย“หยุดมโนเลย ยัยบ๊อง หยุด” ทิพย์ทิวาบอกตัวเองให้หยุดคิด เธอพึมพำเบาๆ พลางหยิกเนื้อตัวเองให้ได้สติ ถูกผู้ชายจูบยังจะมาเพ้อ“ผมไม่ได้ชอบม่านฟ้า แต่ชอบคุณ”“หา…”ประโยคที่ได้ยิน ทำเอาทิพย์ทิวาเบิกตากว้าง แทนไทบอกว่าชอบเธออย่างนั้นเหรอ ใช่เหรอ คิดไปคิดมาก็ขอหยิกตัวเองให้แรงๆ เผื่อนี่จะเป็นแค่ความฝันลมๆ แล้งๆ“คุณฟังไม่ผิดหรอก ผมชอบคุณทิช่
“หา!”“ผมก็พักอยู่ที่นี่ครับ สบายใจหรือยังผมไม่ได้คิดจะขึ้นไปปล้ำคุณตอนนี้หรอกน่า” ตอนนี้ไม่ แต่อนาคตก็ไม่แน่“แล้วก็ไม่บอกตั้งแต่แรก”ทิพย์ทิวาก้มหน้าก้มตาพูด รู้สึกผิดที่เข้าใจแทนไทผิดเบาๆ“กลัวผมหรือคุณ”“ใช่ที่ไหน ฉันหนักกว่าคุณตั้งเยอะ แค่กลิ้งทับตัวไว้ คุณก็ทำอะไรฉันไม่ได้แล้ว”สาวอวบไหวไหล่เบาๆ“งั้นลองดูไหมครับ ว่าคุณจะทับผมหรือผมจะทับคุณ”“ทะลึ่ง” ทิพย์ทิวาแยกเขี้ยวให้คนข้างๆ อย่างหมั่นไส้ ก่อนจะเดินจำอ้าวเข้าลิฟต์ไป แทนไทหัวเราะหึหึชอบใจตามหลัง ก่อนจะยืนรอลิฟต์อีกตัวอย่างอารมณ์ดีม่านฟ้าที่บังเอิญผ่านมาเห็นฉากตำตา ตำใจเข้าพอดิบพอดี เธอยืนกำหมัดแน่น และเมื่อเห็นแทนไทเดินเข้าลิฟต์ไปแล้ว เธอจึงเดินออกมายืนจ้องลิฟต์ตัวที่ทิพย์ทิวาเข้าไปเมื่อครู่ เห็นลิฟต์หยุดอยู่ที่ชั้นแปด จึงมั่นใจว่าเธอพักอยู่ชั้นนั้น ม่านฟ้าไม่รอช้าที่จะเดินเข้าลิฟต์แล้วกดหมายเลขที่ต้องการทันที
แต่ทิพย์ทิวากลับต้องผิดหวัง เพราะเช้านี้เธอไม่พบแม้แต่เงาของแทนไท เงาของผู้หญิงที่ชื่อว่าม่านฟ้านั่นก็ด้วย พักเที่ยงแวะไปหาที่สปาจึงได้คำตอบว่าแทนไทขึ้นมาที่กรุงเทพฯ“ถ้าเขาเห็นเราสำคัญจริงอย่างที่ปากว่า ถ้าเขาคิดว่าเราคือคนที่เอ่ยปากขอคบด้วย ไปไหนมาไหน ทำไมเขาไม่บอก ทั้งๆ ที่เราก็พักที่เดียวกัน ไม่มีเบอร์โทร. แล้วทีเมื่อก่อนยังสอดโบรชัวร์ คูปองนู่นนี่นั่นไว้ได้ ทำไมคราวนี้กลับหายไปเฉยๆ หึ” ทิพย์ทิวาเดาไปต่างๆ นานา พึ่งจะให้กำลังใจตัวเองไปหยกๆ แต่ตอนนี้กลับต้องมานั่งคอตก ออกอาการห่อเหี่ยวเป็นดอกไม้ขาดน้ำอีกยิ้มเหยียดออกมาที่มุมปากแล้วสูดอากาศเข้าปอดให้ลึกๆก่อนจะหยิบโทรศัพท์ออกมา หวังโทร.หาเพื่อนรัก เวลานี้เธอต้องคุยกับแม้นศรีเท่านั้น แต่ทว่าแบตเตอรี่กลับหมดเกลี้ยง“เวรกรรม!แบตหมดตั้งแต่ตอนไหนเนี่ย” พอชาร์จแบตไปได้สี่สิบกว่าเปอร์เซ็นต์ ทิพย์ทิวาก็คว้าโทรศัพท์มากดหาแม้นศรีอีกครั้ง“แก…”“เป็นอะไรทิช่า ใครทำอะไร”น้ำเสียงของแม้นศรีบ่งบ
เพราะติดต่อแทนไทไม่ได้ เนื่องจากอยู่ๆ ชายหนุ่มก็หายเงียบไป นั่นทำให้ทิพย์ทิวาจิตตกไปมาก มากเสียจนมานั่งออกกำลังกายเป็นบ้าเป็นหลังอยู่แบบนี้ พอมีเวลาว่างเธอก็เข้าฟิตเนสหรือไม่ก็ออกไปวิ่งบนชายหาด จากแรกๆ ที่วิ่งไม่ไหว ทรายดูดขาเสียจนก้าวไม่ออก เคยเป็นลม นอนเกยตื้นเป็นพะยูนมาแล้วแต่ตอนนี้เหรอ ทิพย์ทิวาไหวไหล่ เบ้ปากแล้วมองบน บอกได้คำเดียวว่า ชิลล์ มาก เธอวิ่งไปและกลับรวมกันหลายกิโลเมตร เครื่องชั่งน้ำหนักที่ซื้อติดไว้บนห้องพักก็ไม่ได้ให้ความสนใจอีก ตั้งใจจะลดน้ำหนักแล้ววัดผลอาทิตย์ต่ออาทิตย์นอกจากจะออกกำลังกายแล้วก็ยังควบคุมอาหารด้วย ในตู้เย็นมีแต่อาหารเพื่อสุขภาพ ผักและผลไม้บวกกับการเข้าคอร์สสลายไขมัน ที่มีพนักงานคนอื่นมานวดให้แทนไท น้ำหนักของทิพย์ทิวาก็ยิ่งลดลงไปได้มาก“ถามไม่ถาม ถามไม่ถาม ถามหรือไม่ถามดีน้า โอ๊ย! ปล่อยไปตามวิถีแห่งโชคชะตา ไม่ถงไม่ถามแล้วกัน” เอ่ยจบ ทิพย์ทิวาก็หมุนตัวกลับออกไปจากสปานั่นเพราะกำลังตัดสินใจว่าจะถามเบอร์โทรศัพท์ของแทนไทกับพนักงานต้อนรับของทางสปาดีไหม แต่สุดท้ายก็ได้คำตอบว่า ‘ไม่ถาม’ทิพย์ทิวากลับมา
หลังจากอิ่มเอมกับอาหารที่แสนจะถูกปาก ทั้งสามก็แยกย้ายกลับไปพักผ่อน วาดดาวขับรถลับไปแล้ว ส่วนสุดานั้น อาสาขับรถมาส่งทิพย์ทิวาที่คอนโดมิเนียม ล่ำลากันเสร็จทิพย์ทิวาก็คว้ากระเป๋าเข้าคอนโดไปก่อนที่ทิพย์ทิวาจะมายืนควานหาคีย์การ์ดในกระเป๋าอยู่หน้าลิฟต์ มุมซ้ายก็ไม่มี ขวาก็ไม่มี ถ้าไม่มีคีย์การ์ดเธอก็เข้าลิฟต์ไม่ได้ เพราะระบบรักษาความปลอดภัยของที่นี่ต้องเอาการ์ดไปแตะ แล้วจึงจะปรากฏหมายเลขชั้นที่เราพัก เอานิ้วไปจิ้มเองไม่ได้ด้วยเมื่อยืนหาไม่เจอ บวกกับชักจะเมื่อยเพราะขนสมบัติมาเยอะพอสมควร ทิพย์ทิวาจึงตรงไปนั่งควานหาคีย์การ์ดที่โซฟาหน้าล็อบบี ก่อนจะตัดสินใจเทสมบัติออกจากกระเป๋ากันเลยทีเดียว“เจอแล้ว” ในที่สุดทิพย์ทิวาก็เจอการ์ดที่ต้องการ แต่…“การ์ดคอนโดห้องยัยเมนี่” พอเห็นเธอก็คอตก นี่ตอนจัดกระเป๋าเธอรีบหรือเหม่อคิดอะไรอยู่ ถึงหยิบการ์ดมาผิดแบบนี้ ไม่ใช่แค่การ์ดเข้าลิฟต์ ยังรวมถึงคีย์การ์ดเปิดประตูห้องอีกด้วยเฮ้อ! สงสัยคืนนี้ต้องหอบสมบัติไปนอนคอนโดมิเนียมแม้นศรีก่อน ไว้พรุ่งนี้เช้าค่อยกลับมาคอนโดตัวเอง เพราะที่แม้นศรีมีคี
ส่วนแม้นศรีนั้นแอบเช็ดน้ำตาป้อยๆ ก่อนจะเดินไปยังรถของเธอที่ก้องภพรออยู่เช่นกัน จากนั้นรถทั้งสองคันก็ขับออกไปจากโรงเรียนหนองปลาช่อน สถานที่ที่ทิพย์ทิวาและแม้นศรีได้พบและเป็นเพื่อนกันจนถึงวันนี้และตลอดไปแต่เมื่อมาถึงบ้าน คนข้างๆ กลับลีลาที่จะขับรถกลับโรงแรม แทนไทดูอิดออด นั่นเพราะอยากนอนค้างที่นี่ด้วยกัน“กลับได้แล้วค่ะพี่ไท”“พี่นอนที่นี่ไม่ได้หรือครับ”“ไม่ได้ค่ะ ขืนพ่อกับแม่รู้ว่าพี่ไทนอนค้างด้วย มีหวังหัวแบะเอาได้” ทิพย์ทิวาเอ่ยยิ้มๆ นั่นเพราะต่อให้เธอกับแทนไทกำลังคบหากันอยู่ แต่การจะให้ชายหนุ่มมานอนค้างที่บ้านด้วย ใช่เรื่องง่ายเสียเมื่อไหร่“วันนี้ที่งาน สองคนที่ทิช่าเอาการ์ดแต่งงานไปให้ดู เขาเป็นยังไงบ้างครับ”“ก็อึ้งกิมกี่ไปเลย หน้านี่เหวอมาก อยากให้พี่ไทเห็นจริงๆ”คิดแล้วก็ยังสะใจไม่หาย“งั้นก็ชวนเขามางานแต่งงานของเราด้วยสิครับ”“ก็ถ้ามีนะคะ”คนข้างๆ เอ่ยทีเล่นทีจริง เพราะคิดว่าแทนไทแค่พูดเล่นๆ เท่านั้น“ทิช่า”“คะ&r
ส่วนกิรณากับบัณฑิตานั้น หลังจากที่เหวอกับเรื่องที่แม้นศรีจะแต่งงานไปรอบหนึ่งแล้ว รอบสองก็ยิ่งเหวอเข้าไปอีก เพราะไม่คิดว่าทิพย์ทิวาจะสละโสดพร้อมกับแม้นศรีได้“เธอสองคนกำลังจะแต่งงาน!!”“ใช่” ทิพย์ทิวาเอ่ยรับในทันที แต่แม้นศรียังคงอึ้งอยู่ แต่ก็ใช้จังหวะที่กิรณากับบัณฑิตากำลังนั่งตกใจ หันมากระซิบถามกับทิพย์ทิวา“แกกำลังจะแต่งงานเหรอทิช่า”“อื้อ…แล้วแก จะแต่งงานทำไมไม่บอกกันก่อน” ทิพย์ทิวาเอ่ยถามลอดไรฟันกลับไปบ้าง นี่ถ้าไม่ติดว่าต้องเก๊กท่าทาง เธอคงกรี๊ดกับข่าวนี้ไปแล้วแน่ๆยัยแม้นศรีระเบิดคานทิ้งได้สำเร็จแล้วพี่น้อง“ก็ฉันตั้งใจจะมาเซอร์ไพรส์แกกับยัยสองคนนี้พร้อมกันน่ะสิ แต่แกก็ยังมีเรื่องให้ฉันเซอร์ไพรส์อี๊ก”แม้นศรีเน้นคำสุดท้ายหน่อย“บิ๊กเซอร์ไพรส์”อดีตสาวอวบยักคิ้วให้ หลังจบเรื่องคงได้เฉลยว่าการแต่งงานของเธอมันก็แค่งานปลอม ที่กุขึ้นมาก็เท่านั้นเอง“มาก” แม้นศรีเอ่ยรับ เพราะยังไม่รู้ความจริง“ไว้เราค่อยกลับไ
รถสปอร์ตสีขาวคันสวย กำลังขับมุ่งหน้าไปยังจังหวัดอยุธยา โดยมีแทนไทเป็นคนขับ ส่วนคนที่นั่งอยู่ข้างๆ คือสาวสวยอย่างทิพย์ทิวานอกจากรถสปอร์ตสีขาวแล้ว รถที่แล่นตามหลังพวกเขามานั้นก็ราคาแพงไม่แพ้กัน สองคนที่นั่งอยู่ข้างในก็ไม่ใช่ใครอื่นนั่นคือแม้นศรีกับก้องภพเมื่อมาถึงลานจอดรถของโรงเรียนหนองปลาช่อน ที่วันนี้ดูเหมือนจะครึกครื้นกันเป็นพิเศษ นั่นเพราะมีการจัดงานคืนสู่เหย้าขึ้นทุกๆ ปี เมื่อมาถึงทั้งสี่ก็ก้าวลงจากรถก่อนที่ทิพย์ทิวาจะเอ่ยขึ้น“พี่ไทกับถั่ว รออยู่ในรถกันก่อนนะคะ สักสิบนาทีค่อยตามพวกเราเข้าไปในงาน”“เอ้า! ทำไมอ่ะแก มาถึงที่แล้วก็เข้าไปพร้อมกันเลยสิ ฉันอยากเห็นหน้ายัยกี้กับยัยเบลจะแย่แล้ว” แม้นศรีค้านขึ้น“เอาน่ะ ฉันมีแผนเด็ด”“แผนเด็ดอะไร ไหนว่ามาซิ”สาวสวยอย่างแม้นศรีเอ่ยถาม ส่วนสองหนุ่มได้แต่ยืนฟัง“ก็แสร้งทำให้สองคนนั้นตายใจ ก่อนจะมีบิ๊กเซอร์ไพรส์ตามมาไง”“อ๋อ…เข้าใจแล้ว” แม้นศรีลากเสียงยาว พอจะเข้าใจแผนที่ว่าของทิพย์ทิวา ทำตามนี้ก็ดีเหมือนกัน เพราะคืนนี
เสียงเคาะแป้นพิมพ์คอมพิวเตอร์ในห้องนอน ดังมาให้แทนไทได้ยินเป็นระยะๆ ก่อนที่ชายหนุ่มจะเอี้ยวตัวไปมองคนรักสาว ที่ตอนนี้ดูง่วนอยู่กับอะไรสักอย่างตอนนี้เขากับทิพย์ทิวาคบหาดูใจกันมาก็ได้นานหลายเดือน แต่เพราะเธอยังต้องอยู่ทำงานที่กระบี่ ทำให้แทนไทเปลี่ยนที่ทำงานไปด้วย นั่นเพราะตอบได้อย่างไม่อายว่าเขา ‘หวง’ เธอ ขืนไม่ดูแล ไม่เอาใจใคร เกิดมีไอ้หนุ่มที่ไหนมาขายขนมจีบ เขาจะทำยังไงและเพราะอยากรู้ ว่าตอนนี้ทิพย์ทิวาทำอะไรอยู่ แทนไทจึงเดินเข้าไปดูใกล้ๆ“ทำอะไรครับทิช่า” ขณะถามก็สวมกอดเธอจากทางด้านหลัง ก่อนจะฝังจมูกลงไปสูดดมความหอมบนเรือนผมของเธอ“การ์ดแต่งงานน่ะค่ะ”“หืม” คำว่าการ์ดแต่งงาน ทำให้แทนไทต้องสนใจเป็นพิเศษก่อนจะเพ่งมองรายละเอียดบนการ์ด เพราะชื่อเจ้าบ่าวที่ระบุลงไปมันคือชื่อเขานี่นา“ไม่ต้องทำหน้าตกใจแบบนั้นก็ได้ค่ะพี่ไท นี่มันแค่การ์ดแต่งงานหลอกๆ เท่านั้นเอง”ทิพย์ทิวาส่ายหน้าให้คนรัก เธอไม่บ้าพอที่จะร่อนการ์ดเชิญ โดยที่ผู้ชายยังไม่เอ่ยปากขอหรอกนะ ถึงแม้ตอนนี้จะรออยู่ก็เถอะและเ
งานเปิดตัวแบรนด์เสื้อผ้าของแสงแข จัดขึ้นที่แกลเลอรีแสดงผ้าแห่งหนึ่งในตัวเมือง ทิพย์ทิวาควงแขนแฟนหนุ่มอย่างแทนไทไปร่วมงาน โดยหวังว่าการเปิดตัวคนรักของเธอในครั้งนี้ จะทำให้แม้นศรีอ้าปากจนกรามค้างเป็นแน่ เพราะเรื่องที่เธอซุ่มคบหาอยู่กับแทนไท แม้นศรียังไม่รู้นั่นเองคืนนี้ต่างฝ่าย ต่างนัดเจอกันที่หน้างาน แล้วจะเดินเข้าไปพร้อมกัน ทิพย์ทิวามาถึงก่อน เมื่อแทนไทจอดรถเสร็จ ชายหนุ่มก็เดินอ้อม มาเปิดประตูให้คนรักสาว ที่วันนี้แต่งตัวสวยเป็นพิเศษ รูปร่างก็สมส่วนจนเขาอดที่จะหวงไม่ได้ แต่จะเก็บเธอไว้เชยชมคนเดียวก็คงไม่แฟร์สักเท่าไหร่“วันนี้ทิช่าของพี่สวย” แทนไทเอ่ยชมทิพย์ทิวาอีกครั้งทิพย์ทิวาก้มมองตัวเอง ทีแรกก็นึกว่าจะใส่ชุดโปรดนี้ไม่ได้เสียอีก“ผอมลงไปก็หลายกิโลอยู่นะคะ รู้แบบนี้ทำการทดลองเรื่องนั้นตั้งนานแล้ว” เรื่องนั้นที่ทิพย์ทิวาเอ่ย มีหรือที่แทนไทจะไม่รู้ว่าเรื่องไหนชายหนุ่มเอื้อมมือขึ้นมาบีบจมูกโด่งรั้นของเธออย่างมันเขี้ยวที่ชอบพูดจาเซี้ยวๆ แบบนี้ออกมาให้ได้ยิน แต่เขาว่าผู้หญิงทะลึ่
‘ยิ่งได้อยู่ใกล้ ก็ยิ่งได้รัก’คำๆ นี้ดูเหมือนแทนไทและทิพย์ทิวาจะพิสูจน์กันมาแล้วว่าจริง นั่นเพราะตอนนี้ทั้งคู่กำลังมีความรัก ที่มองไปทางไหนโลกนี้ก็สีชมพู เมื่อไหร่ที่มีเวลาว่าง พวกเขาต่างทุ่มเทเวลาเหล่านั้นให้กันและกันอย่างเช่นวันนี้ ที่แทนไทอาสาเป็นพ่อครัว ทำอาหารเย็นให้คนรักสาวได้ชิม แม้จะห่วงเรื่องน้ำหนักตัว แต่อาหารหน้าตาน่าทานก็ยั่วให้ทิพย์ทิวาน้ำลายสอ โยนเรื่องน้ำหนักตัวทิ้งไปชั่วคราว ซึ่งก็เข้าทางแทนไท“อร่อยไหมครับ”“อร่อยค่ะ ผู้ชายทำกับข้าวเป็นนี่มีเสน่ห์จัง”ทิพย์ทิวาเอ่ยชม เธอทำบุญมาด้วยอะไรนะ ถึงมีแฟนทั้งหล่อ ทั้งเก่งแบบนี้ คิดแล้วนึกถึงแม้นศรี ถ้าเห็นเธอควงแทนไทไปงานเปิดตัวแบรนด์เสื้อผ้าของแสงแขจะทำหน้ายังไงน้อ อยากรู้จัง คึคึ“พูดแบบนี้แสดงว่าหลงพี่แล้วใช่ไหม”“อื้อ…หลงจนหัวปักหัวปำเชียวล่ะ”“พี่ก็หลงทิช่า หลงจนอยากกระโจนใส่ตอนนี้”“บ้า” ทิพย์ท
“พะ…พี่ไท...อืม” ร่างบอบบางส่งสียงครางออกมา ช่างเป็นเสียงที่น่าฟังนัก แทนไทปล่อยให้บิกินียังคงอยู่บนตัว ทิพย์ทิวาอีกหน่อย จากนั้นก็ไล้จูบ ฝังจมูกและปากไปตามหน้าขา ซึ่งตอนนั้นทิพย์ทิวาเอาแต่หนีบขาตัวเองแน่น ก่อนจะสะดุ้งอีกครั้งเมื่อรู้ว่าตอนนี้แทนไทกำลังไล้จูบต่ำลงไปเรื่อยๆ กระทั่งถึงข้อเท้า“พี่ชอบขาทิช่าจัง” แทนไทพร่ำบอก ขณะจูบเรียวขาของทิพย์ทิวาทั้งซ้ายและขวา ใช่ว่าตัวเธอจะหอมเท่านั้น เรียวขาทั้งสองข้างก็ยังนุ่มและหอมมากอีกด้วย“แค่ขาเหรอคะ” คำถามของทิพย์ทิวาทำให้แทนไทยิ้ม“ตรงนี้ก็ชอบครับ” ตรงนี้ที่ว่าคือหน้าขา ที่เขาพึ่งไล้จูบขึ้นมาเมื่อครู่ จากนั้นก็ลากผ่านปลายลิ้นไปหยุดอยู่ตรงที่หน้าท้อง ขยับขึ้นอีกนิดก็ถึงหน้าอกคู่สวย ที่เม็ดยอดสีชมพูสดยังเป็นเม็ดท้าทาย“ตรงนี้ก็ด้วย” เอ่ยจบก็จูบไซ้ลงไปบนหน้าอกอย่างไม่อาจห้ามตัวเองได้ ทิพย์ทิวาอ่อนระทวยแล้วระทวยอีก ก่อนจะหรี่ตาที่หวานเยิ้มด้วยความปรารถนามองหน้าแทนไท“โดยเฉพาะตรงนี้” จุดที่ว่าคือริมฝีปากอิ่มที่ไม่ว่าจะจูบสั
“ไม่ได้เมาจนขาดสติ แต่อาจจะเมานิดๆ หน่อยๆ” ทิพย์ทิวาเอ่ยตอบ แล้วจากนั้นก็ขึ้นมานั่งคร่อมอยู่บนตัวแทนไท ยิ่งใกล้ชิด ชายหนุ่มก็ยิ่งร้อน เส้นความอดทนเขายิ่งบางๆ อยู่แล้วด้วย ดีไม่ดี วันนี้มันอาจขาดผึงเอาได้“มีคนเคยวิจัยเรื่องเซ็กซ์ช่วยลดน้ำหนัก”ทิพย์ทิวาตัวร้อนผ่าว เมื่อเอ่ยประโยคนี้ออกไป ไม่กล้าสบตาแทนไทสักเท่าไหร่นัก ท่าทางกล้าๆ กลัวๆ ของเธอทำให้ชายหนุ่มยิ้ม“ครับ…พี่เองก็เคยได้อ่านมาบ้าง”“แต่ทิช่าว่าวิจัยพวกนี้ มันไม่ค่อยน่าเชื่อถือเท่าไหร่” ขณะพูดก็ไล้ปลายนิ้วลงไปบนแผงอกของแทนไท ท่าทางยั่วยวนของเธอ ทำเอาชายหนุ่มต้องกัดฟัน“แล้วไงต่อครับ พี่รอฟังอยู่”“ก็เลยอยากจะลองทำวิจัยด้วยตัวเองสักครั้ง ว่ามันจะทำให้ทิช่าผอมได้จริงๆ มั้ย”พูดไปแล้วก็เขินจนหน้าแดง ตัวแดงไปหมด แต่มาถึงขั้นนี้แล้ว เธอกระโดดขึ้นขี่ เอ้ย! ขึ้นคร่อมหลังเสือแล้วจะลงก็คงเสียฟอร์มที่สำคัญแทนไทเองก็คงไม่ยอมปล่อยให้แม่เสือสาว
“ครับ”แทนไทยิ้ม ท่าทางเขาดูเขินๆ น่ามองไปอีกแบบ“ฟอร์มเยอะ รักเค้าก็ไม่บอกว่ารัก ชิ”ถ้าเวลาปรกติทิพย์ทิวาคงไม่พูดแบบนี้ เพราะเธอเองต้องเขินมากแน่ๆ แต่นี่ดื่มแอลกอฮอล์ปลุกพลังเสือในตัวไปหลายแก้ว ทำให้กล้าที่จะถาม จะพูดอะไรต่างไปจากปรกติ“รักครับ ต่อให้ทิช่าอ้วน พี่ก็รัก”บอกรักไปแล้วก็ขอสบตาทิพย์ทิวาเสียหน่อย จากที่ไม่เขิน ก็พานทำเอาเธอเขินสายตาที่แทนไทส่งมาให้ จนต้องดื่มคอกเทลไปอีกแก้ว“แปลก”“พี่รักนี่ก็แปลกเหรอครับ”สีหน้าของแทนไทดูงง เพราะชักจะเดาความคิดผู้หญิงไม่ออกก็งานนี้“แปลกที่พี่ไทอยากมีแฟนอ้วน”“แปลกตรงไหน อ้วนแล้วกอดอุ่นดีออก หรือไม่เชื่อ งั้นคืนนี้เรามานอนกอดกันไหม”คำชวนตรงๆ โต้งๆ ของแทนไททำเอาทิพย์ทิวายิ่งอาย พออายมากๆ ก็ไปลงที่คอกเทล หมดไปอีกหนึ่งแก้ว“ทะลึ่ง เดี๋ยวเถอะ”“พอแล้วครับ เดี๋ยวเมา แล้วปล้ำพี่ขึ้นมาทำ