ตอนที่ 43 ความจริงในนิยาย ปกป้องหัวใจวารินในวันที่เขากลับไปทำงานวันแรกหลังจากที่หยุดงานไปหลายเดือน เมื่อเขาเลิกงานและกลับมาที่คอนโดเขาก็พบว่าเลอาหายไป เธอไม่ได้อยู่ในคอนโด เลอาไม่ได้บอกว่าเธอจะไปไหนเขาจึงกังวลมาก เขาจึงใช้พลังอีกอย่างของเขาเพื่อมองหาร่องรอยว่าเลอาออกไปตอนไหน เขาจึงได้เห็นว่าก่อนออกไปเธออ่านหนังสือเล่มหนึ่งอยู่เลอานั้นไม่ชอบอ่านหนังสือนักนอกเสียจากว่ามันจะเป็นงานของเธอ แต่เท่าที่เขารู้เลอาไม่ได้รับงานมาสักพักแล้ว ถ้าอย่างนั้นเธอกำลังอ่านอะไรอยู่?เขาหยิบหนังสือที่เลอาลืมวางทิ้งไว้บนโต๊ะขึ้นมาดู มันคือนิยาย ชื่อของมันคือ ปกป้องหัวใจวาริน มันมีชื่อของเขาอยู่ในนั้น เขาจึงนึกขึ้นมาได้ว่ามันคือหนังสือนิยายเล่มเดียวกับที่เลอาพยายามซ่อนมันจากเขา เขาไม่เคยก้าวก่ายส่วนที่เลอาไม่อยากให้เขารู้แต่ครั้งนี้มันน่าสงสัยมากจนเขาไม่อาจแสร้งไม่สนใจได้เขาเปิดอ่านนิยาย ปกป้องหัวใจวาริน และนั่นทำให้เขารู้ว่าเรื่องราวชีวิตของเขาถูกเขียนไว้ในนิยายเล่มนี้ เรื่องราวชีวิต 'ของเขา' ที่สูญเสียเลอาไปเหตุการณ์ทั้งหมดในหนังสือนิยายสามารถอธิบายถึงพฤติกรรมแปลกๆ ของเลอาตั้งแต่เหตุการณ์ในวันนั้นได้อย
ตอนที่ 44 เพิ่มพลังจิตฉันตื่นขึ้นมาในตอนเที่ยงวันเพราะเมื่อคืนดันเล่นสนุกเพลินไปหน่อยอีกอย่างก่อนหน้านั้นพวกฉันก็ได้ปะทะกับพวกอิระด้วย จะหมดแรงจนตื่นสายมันก็ไม่แปลกนัก แต่ถึงจะตื่นแล้วฉันและวารินก็ยังนอนกลิ้งอยู่บนเตียงไม่ยอมลุกจนกระทั่งอาเธอร์ส่งคนมาบอกว่าการเตรียมการสำหรับส่งถ่ายพลังจิตเสร็จแล้ว มาได้จังหวะราวกับรู้ว่าพวกฉันตื่นแล้วอย่างไรอย่างนั้นไอ้วิญญาณแฝดเฮงซวยนี่ก็ตามจี้จริงๆสบถให้โนอาห์หนึ่งประโยคและยอมลุกออกจากเตียง แต่ฉันก็ไม่ได้รีบร้อนที่จะออกไปหาโนอาห์“วาริน วันนี้เธอไม่ต้องทำอาหารก็ได้ เราไปทานอาหารที่ชั้นล่างของคอนโดดีกว่า” ฉันพูดเสียงอ้อนขณะกอดเอวของวาริน ส่วนสายตาก็มองลำคอของวารินที่มีร่องรอยของความลามกหลงเหลืออยู่“ได้ครับ” วารินตอบเสียงนุ่มนวลและหวานเมื่อตกลงกันแล้วว่าจะไปทานมื้อเที่ยงที่ร้านอาหารที่ชั้นล่างของคอนโดฉันและวารินก็แต่งชุดสบายๆ และขึ้นลิฟต์ ซึ่งระหว่างอยู่ในลิฟต์นั่นเองชายหญิงคู่หนึ่งก็เดินเข้ามาในลิฟต์ ผู้ชายก็คือมาม่อน ผู้มีพลังจิตลบความทรงจำ ฉันดึงวารินถอยห่างจากเขา แต่เพราะลิฟต์ก็ไม่ได้กว้างนักจึงถอยไปไหนไม่ได้ ฉันมองไปที่อีกคนที่เป็นผู้หญิงที่
ตอนที่ 45 เที่ยวในบอร์ดข่าวสารของแก๊ง DH ยืนยันมาแล้วว่าเหตุการณ์ลักพาตัวผู้มีพลังจิตได้ลดลงไปแล้ว ไม่สิ มันไม่มีอีกแล้วน่าจะถูกต้องกว่าเพราะดร.จิวถูกจับแล้ว เขาไม่มีทางออกมาสร้างปัญหาได้อีกต่อไป และทางด้านข่าวของอิระก็มีการยืนยันมาแล้วว่าอีกฝ่ายหนีข้ามประเทศไปแล้ว เนื่องจากว่าเขาดันไปลักพาตัว ซิลเวอร์ การตามล่าตัวอิระจึงดูเหมือนจะเข้มข้นมากขึ้นแต่อย่างไรก็ตามการออกตามล่าอิระในครั้งนี้ไม่เกี่ยวข้องกับฉันเลย ให้คนอื่นหัวหมุนกับการตามล่าอิระไปเถอะเพราะตอนนี้ฉันจะไปเที่ยวกับวาริน! นานแล้วที่ฉันไม่ได้ไปเที่ยวไกลบ้านกับวาริน เมื่อฉันรู้ว่าอิระจะไม่สามารถมาก่อกวนได้สักพักฉันก็ชวนวารินไปเที่ยวทะเล ตอนแรกฉันและวารินก็ตั้งใจจะไปกันสองคน แต่ดูเหมือนว่าพระเจ้าจะกลัวว่าพวกฉันจะเหงาเกินไปจึงส่งสี่สหายของฉันมาด้วยและมีไอฮาระและมาม่อนเพื่อนใหม่ที่อยากเที่ยวพอดีจึงตามมาด้วยกันเจ้าพวกมารพจน! ทำไมไม่ยอมปล่อยให้ฉันเที่ยวกับวารินสองต่อสองกัน!ฉันนั่งอยู่บนชายหาดริมทะเลกัดและฟันกรอดอย่างหงุดหงิดเพราะวารินที่ควรอยู่กับฉันตอนนี้เขากลับถูกเลออนและเจมส์ลากไปเล่นไหนก็ไม่รู้ ฉันได้แค่นั่งมองไอฮาระและมาม่อนเล
ตอนที่ 46 MBH - 001วันที่สองของวันที่ออกมาเที่ยว พวกฉันตั้งใจจะไปล่องเรือและดำน้ำดูปะการัง แต่พวกฉันดันเจอคนที่ไม่คาดคิดว่าจะเจอที่ท่าเรือก่อนซะได้ แวบแรกที่ได้เห็นพวกเขาฉันก็ทำหน้าราวกับเห็นไส้เดือนหมุดออกมาจากดิน“โอ๊ะ บังเอิญจังนะ” อาเธอร์ทำเป็นอุทานอย่างแปลกใจเมื่อเห็นพวกฉัน“ไง อาเธอร์ ฉันยังไม่ได้บอกขอบคุณที่ช่วยแฟนของฉันเลย” ไอฮาระตะโกนทักทายอย่างร่าเริงเหมือนไม่เห็นบรรยากาศที่ฉันแผ่ออกมา“สวัสดีครับ คุณอาเธอร์ก็มาพักผ่อนเหมือนกันเหรอครับ” วารินยิ้มทักทาย“ฉันไม่ได้ว่างขนาดนั้น ที่ฉันมาที่นี่ก็เพื่อทำธุระต่างหากล่ะ” อาเธอร์กล่าวและค่อยๆ แสยะยิ้มที่ดูแสนภูมิใจแบบโอ้อวด “ยารักษาอาการพลังระเบิดสำเร็จแล้ว ต้องขอบคุณร่างกายของนายที่ทำให้ฉันเข้าใจถึงส่วนสำคัญของการสร้างยาจนสร้างมันได้สำเร็จ” กล่าวขอบคุณอย่างจริงใจ (?) พลางขยิบตาให้ภายในเสี้ยววินาทีฉันก็ไปยืนบังสายตาของอาเธอร์ไม่ให้เขามองวาริน “นายควรขอบคุณฉันมากกว่านะที่เอาผลงานการวิจัยของคนอื่นไปให้นาย” ฉันยิ้มที่ไม่ใช่ยิ้ม เอางานวิจัยของคนอื่นมาพัฒนายังจะภูมิใจอยู่อีก!“โอกาสดีเลยที่เจอพวกนาย วันนี้ฉันจะทดลองยาแห่งความหวังของผู้ม
ตอนที่ 47 สมาชิกแก๊งมีอยู่ทุกที่ทุกคนต่างเฝ้ามองเหตุการณ์ในห้องทดลองอยู่นอกผ่านหน้าจอที่ฉายภาพจากกล้องวงจรปิดที่อยู่ในห้อง แต่กล้องวงจรปิดที่ช่วยฉายภาพในห้องทดลองมันก็ค่อยๆ พังลงทีละอันราวกับว่ากล้องวงจรปิดเก่าเกินกว่าจะใช้งานต่อไปได้ พลังเร่งเวลาของเจสิก้ากำลังทำลายของทุกอย่างในห้อง โชคดีที่ห้องทดลองนั้นถูกสร้างขึ้นมาให้แข็งแรงเป็นพิเศษ นั่นทำให้พลังของเจสิก้าไม่สามารถเล็ดลอดออกมาทำร้ายคนภายนอกได้สักพักพลังที่อาละวาดของเจสิก้าก็หยุดลง กล้องวงจรยังพอจะสามารถจับภาพบางส่วนมาให้พวกฉันที่รอดูอยู่อีกห้องได้ พวกฉันเห็นได้ว่าบางอย่างในร่างของเจสิก้าเปล่งแสงวูบวาบเป็นจังหวะทุกอย่างเริ่มสงบลงหลังจากผ่านไปเกือบสิบห้านาที มันเป็นเวลาที่ไม่ยาวนาน แต่สำหรับคนที่รอคอยผลลัพธ์การทดลองนั้นมันช่างยาวนาน เจสิก้าที่อยู่ในห้องทดลองคืนร่างเป็นร่างอายุที่แท้จริงและนิ่งเงียบไป พวกเราไม่รู้ว่าเธอยังไม่ชีวิตอยู่รึเปล่าเพราะอุปกรณ์ตรวจชีพจรถูกพลังของเจสิก้าทำลายไปแล้วเมื่อเห็นว่าเจสิก้าจะไม่อาละวาดขึ้นมาเร็วๆ นี้อาเธอร์จึงสั่งให้คนเข้าไปดู นักวิจัยที่เป็นคนให้ยากับเจสิก้าจึงเข้าไปตรวจดูและให้สัญญาณกลับมาว่า
ตอนที่ 48 หน้ากากกระต่ายพลังจิตกลายพันธุ์ก็คือพลังจิตที่มีการวิวัฒนาการ พลังจิตกลายพันธุ์มีความสามารถแตกต่างจากพลังจิตที่รู้จักกันมาหลายพันปีและมีระดับพลังจิตที่สูงมาก เกือบทุกคนที่มีพลังจิตกลายพันธุ์มีระดับพลังจิตแตะ 100 จุดกันทั้งนั้น และจากการสำรวจมันมีการค้นพบว่าผู้มีพลังจิตกลายพันธุ์มีจำนวนเพิ่มมากขึ้นกว่าเมื่อก่อน และมีการคาดการว่าในอีกไม่กี่ร้อยปีมนุษย์อาจมีการวิวัฒนาการจนจำนวนผู้มีพลังจิตมีมากกว่าตอนนี้ มันน่าสนใจแต่ก็อันตรายมาก หากทั้งโลกเต็มไปด้วยผู้มีพลังจิต เหตุวุ่นวายที่เกิดจากพลังจิตก็จะไม่สามารถห้ามได้อีกต่อไป คงต้องมีกฎหมายควบคุมผู้มีพลังจิตเพื่อหลีกเลี่ยงเหตุวุ่นวายเหล่านั้นมันเป็นความจริงที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต แต่องค์กรระดับโลกที่ควบคุมและปกปิดเรื่องเกี่ยวกับพวกพลังพิเศษนั้นหัวโบราณเกินไป พวกเขาไม่สามารถยอมรับที่จะเปิดเผยความจริงที่บนโลกนี้มีสิ่งที่เรียกว่าพลังจิตอยู่ อาจจะเพราะกลัวการเปลี่ยนของยุคสมัยที่น่ากลัว (เพราะควบคุมผู้มีพลังจิตไม่ได้) ก็เป็นได้นั่นทำให้ผู้มีพลังจิตรู้สึกเหมือนถูกกำกับอิสระ โดยเฉพาะผู้มีพลังจิตกลายพันธุ์ หากมีพลังอันตรายอาจจะถูกจับตามอง อ
ตอนที่ 49 จะไม่อยู่เผยฉันลากวารินเข้าห้องน้ำโดยหวังจะถามสิ่งที่วารินอยากจะทำ…จริงๆ นะฉันผลักวารินให้เข้าไปในห้องน้ำและเดินตามเข้าไปโดยไม่ลืมปิดประตูห้องน้ำและล็อกมันอย่างแน่นหนา แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ยังไม่มีความเป็นส่วนตัวหรอกนะเพราะห้องน้ำสาธารณะนั้นมันไม่มีที่เก็บเสียง งั้นบัญชีอย่างแรกที่ฉันต้องคิดกับวารินก็คือ….ฉันสบตากับวารินที่ยืนมองฉันตาปริบๆ อย่างรอคอยว่าฉันต้องการจะพูดอะไร แต่การกระทำของฉันมันไปก่อนคำพูด ฉันกระชากคอเสื้อของวารินให้เปิดออกและโน้มใบหน้าไปกัดคอของเขา“อ๊ะ จะทำอะไรน่ะเลอา” วารินถึงกับสะดุ้งตกใจเพราะไม่คาดคิดว่าฉันจะทำอย่างนี้ ฉันผละออกมาดูผลงานของตัวเองบนคอของวารินอย่างพอใจก่อนจะจับวารินถอดเสื้อขณะเดียวกันฉันก็ล้วงมือเข้าไปในกางเกงของวาริน “ถอดเสื้อผมทำไม อ๊ะ อย่าล้วงมือเข้ามาในกางเกงผมสิครับ เดี๋ยวสิ ที่นี่ไม่ได้นะครับ!”วารินเข้าใจแล้วว่าฉันต้องการจะทำอะไร เขารีบขัดขืนเพื่อหยุดฉัน“เจ้าเด็กพวกนั้นมันอะไรกัน พยายามตีสนิทกับเธอมากไปแล้วนะ ฉันไม่ชอบให้ใครมายุ่งกับเธอเพราะงั้นให้ฉันตีตราจองซะดีๆ” ฉันจับข้อมือของวารินและดันติดผนังห้องน้ำและใช้เข่าดันจุดอ่อนของเขาเ
ตอนที่ 50 พบปะพูดคุยกับลันกะคำสั่งคือสืบหาตัวจริงขององค์กรปริศนาที่คอยขัดขวางแผนการของอิระ แต่สิ่งแรกที่ลันกะมุ่งให้ความสนใจก็คือผู้มีพลังจิตสายฟ้าปีศาจคนนั้น ถึงเขาจะกลัวถูกสายฟ้านั่นฟาดเข้ากระบาลอีกรอบแต่เขาก็ต้องการพบคนคนนั้นให้ได้ ซึ่งเหตุผลที่เขาอยากพบคนคนนั้นไม่ใช่เพราะว่าเขาเดาได้หรอกนะว่าผู้มีพลังจิตสายฟ้าคนนั้นอาจเป็นสมาชิกองค์กรปริศนานั่น แต่มันเป็นเหตุผลส่วนตัวของเขาเองเพื่อตามหาผู้มีพลังจิตสายฟ้าคนนั้นลันกะจึงไปพบกับภาคิน ชายหนุ่มผู้มีพลังจิตดวงตาพิเศษที่สามารถมองเห็นระดับพลังจิตของคนอื่นได้และสามารถระบุประเภทพลังจิตได้ด้วย ลันกะเชื่อว่าหากเป็นภาคินละก็เขาจะต้องรู้ตัวจริงของผู้มีพลังจิตสายฟ้าปีศาจคนนั้นแน่ ลันกะจึงได้นัดพบภาคินที่ร้านอาหารในเย็นวันหนึ่งเพื่อขอให้ภาคินช่วยชี้ตัวคนคนนั้นให้แต่ราวกับโชคเข้าข้างเขา ผู้มีพลังจิตสายฟ้าปีศาจที่เขากำลังตามหาปรากฏตัวที่ร้านอาหารพร้อมกับผู้หญิงคนหนึ่งที่น่าจะเป็นแฟนสาวของผู้มีพลังจิตสายฟ้าปีศาจ…. ไม่ใช่ น่าจะ สิ แสดงอาการหึงหวงและลากผู้มีพลังจิตสายฟ้าปีศาจไปทำเรื่องลามกในห้องน้ำขนาดนั้นก็คงต้องเป็นแฟนสาวแล้วล่ะอย่างไรก็ตามเพื่อเ
ตอนที่ 64 วารินแปลกไป“ขอบคุณที่ให้ผมได้เจอกับเลอาอีกครั้ง”“แต่คุณ….จะไม่บอกเลอางั้นเหรอ?”“ผมไม่ต้องการให้เลอารู้เรื่องที่เกิดขึ้นทางฝั่งนั้น….เธอจะเสียใจ”“…อย่างไรก็ตามผมหวังว่าคุณจะไม่ทำอะไรเกินเลยกันเลอา”“เลอาก็แฟนฉัน”“ไม่ เธอคือแฟนของผม”“…เราจะเถียงกันทำไมในเมื่อเรา---”“เลอาคือแฟนของผม”“…ก็ได้!”…………จากคำยืนยันจากวาริน ผู้นำผู้ก่อการร้ายอย่างอิระและหน้ากากอีกาได้เสียชีวิตแล้ว หลังจากนั้นสองวันหมอกสีแดงก็ถูกกำจัด เจ้าหน้าที่มุ่งหน้าจับกุมคนร้ายเพื่อคืนความสงบสุข อาจจะใช้เวลานานในการฟื้นฟูความเสียหายที่เกิดขึ้นแต่ทุกอย่างจะต้องถูกจัดการเก็บกวาดในท้ายที่สุดในขณะที่เจ้าหน้าที่ไล่จับกุมผู้มีพลังพิเศษที่ถูกสงสัยว่าเป็นผู้ก่อความไม่สงบแก๊ง DH ที่อยู่ในสถานที่เกิดเหตุด้วยเกือบจะถูกจับกุมไปด้วย แต่โชคดีที่พวกเขาได้รับการคุ้มครองจากอาเธอร์ที่ได้รับความดีความชอบที่สามารถกำจัดหมอกแดงได้และยังได้รับการยืนยันจากนายกว่าพวกเขาเป็นพลเมืองที่ถูกบีบให้ต่อสู้เพื่อปกป้องตัวเอง พวกเขาจึงยังไม่ได้รับบทลงโทษอะไรที่ใช้พลังเมื่อเลอาได้ทราบถึงเรื่องที่อาเธอร์ช่วยเหลือเธอก็แค่บิดยิ้มออกมาและกลอกตา
ตอนที่ 63 บทสุดท้ายของ ´ปกป้องหัวใจวาริน´ บทสุดท้ายของ ‘ปกป้องหัวใจวาริน’เขาแก้แค้นสำเร็จ เขาทำสำเร็จแล้ววารินยืนนิ่งท่ามกลางซากปรักหักพังของบ้านเมืองที่พังทลาย ไฟจากพลังจิตของอิระยังโหมกระหน่ำรอบตัวเขาแต่เจ้าของพลังจิตอย่างอิระได้ตายจากไปแล้ว ด้วยฝีมือของวารินเอง ไฟฟ้าของวารินเริ่มสงบลง ไม่สิ มันราวกับกำลังสูญเสียพลัง แก้แค้นสำเร็จแล้วอย่างไรต่อ? สุดท้ายแล้วคนรักของเขาก็ไม่อาจกลับมาได้ เขาสูญเสียจิตใจที่จะใช้พลังวารินไร้จุดมุ่งหมายที่จะมีชีวิตไปแล้ว เขาเดินข้ามศัตรูคนสุดท้ายของเขา ก้าวข้ามผู้ที่บอกว่ารักเขา โนอาห์ ก้าวข้ามอาเธอร์ที่เคยบอกว่าหลงใหลเขา วารินมองโนอาห์และอาเธอร์เพียงหาตา แม้ว่าที่ผ่านมาเขาจะโอนอ่อนต่อคำบอกรักของพวกเขา แต่แท้จริงแล้วเขาไม่เคยรู้สึกรักเลย แท้จริงแล้วเขาก็แค่หลอกใช้คนพวกนี้แล้วเขาจะทำอะไรต่อไปดีนะ…วารินเร่ร่อนอยู่นาน จนโลกที่วุ่นวายจากการกระทำของอิระเริ่มฟื้นตัว ทุกอย่างกลับมาสงบสุขดั่งเช่นวันวานแต่วารินรู้ว่าเขาไม่อาจเป็นดั่งเช่นวันวานได้“นายอยากได้จุดจบใหม่งั้นเหรอ?”วารินไม่แน่ใจนักว่าใครเป็นพูดกับเขา เขาพยักหน้าตอบกลับแต่ก็คิดใหม่และส่ายหน้า “ไม
ตอนที่ 62 ดวงจันทร์สีแดงวารินสัมผัสได้ถึงสายฟ้าที่แล่นอยู่บนฝ่ามือของเขา ศัตรูอยู่ตรงหน้าเขาแล้ว หากเป็นตัวเขาเมื่อก่อนที่หวาดกลัวพลังของตัวเองจะต้องไม่กล้าใช้พลังนี้ออกมาอย่างแน่นอน แต่ตอนนี้วารินรับรู้ดีว่าเขาเปลี่ยนไปแล้ว… ไม่สิ ความจริงแล้วตัวตนอันเย็นชานี้อาจเป็นตัวตนที่เขาพยายามเก็บไว้ในส่วนลึกของจิตใจมาตลอดวารินคิดว่าในตอนนี้เขาสามารถสังหารศัตรูได้โดยไม่รู้สึกอะไรเลยวารินและอิระยืนเผชิญหน้ากันอยู่ในสนามของโรงเรียน“คุณมาถึงขั้นนี้แล้วคงไม่คิดจะถอยสินะครับ และคงน่าจะเตรียมใจไว้แล้ว” วารินเอ่ย“เตรียมใจอะไรกัน? ถ้าเตรียมใจที่จะกลายเป็นราชาของมนุษย์ยุคใหม่ละก็ใช่” อิระเอ่ยขณะที่ปัดฝุ่นบนตัวที่ติดมาตอนที่ถูกลากออกมาจากโรงยิม “ว่าแต่ทำไมต้องเป็นนายทุกครั้งเลยนะที่ฉันต้องสู้ด้วย และทุกครั้งฉันก็กำจัดนายไม่ได้สักที โชคดีเกินไปแล้ว”วารินอดนึกถึงหนังสือเล่มหนึ่งขึ้นมาไม่ได้ ตัวเอกของหนังสือมักถูกโชคชะตาเข้าข้าง แต่หากเป็นเช่นนั้นจริงเขาไม่รู้สึกว่าถูกโชคชะตาเข้าข้างเลย เพราะการที่ต้องสูญเสียคนรักไปมันเป็นคำสาปมากกว่ามือของทั้งสองข้างของวารินถือปืนไว้ ทันใดนั้นเสียงเสียดสีบางอย่างก็
ตอนที่ 61 ห้องบอสพวกเราถูกย้าย หลายคนที่นี่ ผู้มีพลังจิตคนอื่น- บอส ที่นี่นั่นคือสัญญาณขอความช่วยเหลือสุดท้ายที่ระบบขอความช่วยเหลือของแก๊ง DH ได้รับ ผู้ขอความช่วยเหลือไม่ได้อธิบายสถานการณ์อย่างละเอียดหมายความว่าสถานการณ์ที่เขากำลังเผชิญอยู่ไม่ค่อยจะดีนัก“ผมพอจะเข้าใจสถานการณ์ได้คร่าวๆ เลยพยายามหนีออกจากที่นี่แล้ว แค่ดูเหมือนจะไม่ทัน” วารินอธิบายอย่างกังวลใจถูกย้าย ผู้มีพลังจิตคนอื่น…. ทันใดนั้นฉันก็นึกถึงผู้หญิงหน้ากากกวางฉันเห็นเมื่อครู่ เธอมีพลังเคลื่อนย้ายไม่ผิดแน่ เธอจะต้องเคลื่อนย้ายคนอื่นๆ ไปรวมกันในที่เดียว เธออะไรบางอย่าง‘บอส ที่นี่’ ในข้อความอาจจะหมายถึงพวกเขาถูกพาไปหาอิระ แล้วอิระทำไปเพื่ออะไรบางอย่างที่ไม่น่าจะดีนัก…คงไม่ใช่แผนอย่างกำจัดศัตรูให้หมดก่อนที่ศัตรูจะได้ตั้งตัวนะ พอคิดแบบนั้นฉันก็มองกำแพงหมอก ยิ่งคิดสีหน้ายิ่งแย่ลงเอาจริงดิ?[มีการแจ้งเตือนจาก ถล่มให้แหลก]การแจ้งเตือนเด้งขึ้นมาอย่างกะทันหัน ถล่มให้แหลก เนี่ยหมายถึงแอปสื่อสารพิเศษที่พวกเจมส์สร้างขึ้นมานั่นเอง ฉันก็ลืมมันไปเลยเพราะไม่ค่อยได้ใช้ในห้องแช็ตกลุ่มเจมส์: เลอาเจมส์: มีข้อความจากเจ้าคนที่ชื่อลันก
ตอนที่ 60 หมอกแดงคุณต้องการเข้าร่วมก่อนช่วยเหลือหรือไม่?[เข้าร่วม] [ปฏิเสธ]ข้อความจากผู้ขอความช่วยเหลือ : ช่วยด้วย! พวกเราถูกจับเป็นตัวประกัน! (ส่งตำแหน่งที่อยู่)ฉันแค่เข้ามาอวดพลัง : เจ้าจะให้ข้าไปช่วยเหลือเจ้าอย่างไร? นั้นมันกลางเมืองที่รัฐบาลประกาศว่าเป็นเขตอันตรายสูงไม่ใช่รึไง!? และโดยรอบเมืองถูกกองทัพทหารปิดกันเส้นทางไว้หมดแล้ว!ฉันแค่เข้ามาเล่นเกม : ไม่ใช่ว่าเราต้องรอฟังคำสั่งนอกรอบไม่ใช่รึไง ไหงไปอยู่ตรงนั้นได้โลกเริ่มอยู่ยากมากขึ้น : ถึงฉันจะอยู่ใกล้ก็ไปช่วยไม่ได้หรอก…ฉันไม่ได้มีพลังขนาดนั้น!พริกไทยป่น : สมาชิกหลักของแก๊งน่าจะอยู่ไม่ไกลนะ พวกเขาอาจไปช่วยได้สมาชิกวงใน : อันที่จริงหัวหน้ากับหัวหน้าใหญ่ก็อยู่ใกล้ๆ นั่นล่ะพริกไทยป่น : พวกเขาจะไปช่วยเหรอ? (สติกเกอร์ตื้นเต้น)สมาชิกวงใน : ไม่สมาชิกวงใน : หัวหน้าเลออนเล่นเกมอยู่ หัวใหญ่ก็นอนกกแฟนอยู่มะเขือ: !?มะละกอ: !!???อ่านแล้วสัมผัสถึงความไร้ความผิดชอบอย่างมาก ฉันก็เลยต้องยอมออกจากบ้านมาทำงานสักที ก็อยากจะปล่อยให้ทหารหรือไม่ก็หน่วยพิเศษจัดการเองอยู่หรอกแต่ก็ไร้ความรับผิดชอบเกินไป ดูเหมือนว่ากลุ่มแก๊งเล็กๆ ของฉันเหมือน
ตอนที่ 59 สิ่งไม่สำคัญก็ลืมมันไปการใช้ร่างจิตมีประโยชน์ตรงที่ไม่มีใครสังเกตเห็นตัวตนได้ มันเหมาะที่จะใช้สำหรับสังเกตการณ์ ฉันจึงใช้พลังถอดจิตของโนอาห์เพื่อที่จะได้มาสังเกตการณ์การต่อสู้ของวารินและอิระอย่างใกล้ชิด แต่ตอนนี้การต่อสู้เงียบมาสักพักแล้ว ฉันไม่เห็นว่าพวกเขาไปอยู่ส่วนไหนของเมืองที่เสียหายแห่งนี้แล้ว“งั้นคงต้องไปสำรวจรอบๆ ก่อน” ตอนนี้ฉันยังไม่รู้อย่างชัดเจนว่าลูกน้องของอิระซุ่มรอเวลาลงมืออยู่ที่ไหน ถึงจะคาดไว้ว่าพวกนั้นอาจจะกำลังซุ่มอยู่ในมิติขนาดของหน้ากากหมี แต่มันก็ยังไม่มีอะไรมายืนยันอีกทั้งมันค่อนข้างน่าสงสัยที่พวกนั้นยังอยู่เงียบๆ โดยไม่ยอมลงมือทำอะไรเลย อย่างอิระมันจะยอมให้ลูกน้องรออยู่เฉยๆ เพื่อช่วยตัวเองยามสู้กับวารินไม่ไหวเหรอ? ไม่น่าใช่ เจ้านั่นน่าจะสั่งให้ลูกน้องทำลายทุกอย่างที่ความขวางหน้าเพื่อเป้าหมายของตัวเองมากกว่าฉันจึงลองออกไปสำรวจรอบเมืองแต่ก็ไม่พบคนที่น่าจะเป็นคนของอิระ แต่ฉันพบคนธรรมดาแทน พวกเขาอยู่ในเขตที่น่าจะมีการอพยพไปแล้ว ไม่คิดเลยว่าจะมีคนที่ยังหลงเหลืออยู่และไม่ได้ถูกลูกหลงจากการต่อสู้ของวารินและอิระประชาชนมากมายได้รับความเสียหายจากความวุ่นวาย
ตอนที่ 58 ความสัมพันธ์ที่น่าสงสัยรู้สึกเหมือนนอนฝันร้ายไปเลย…ฉันตื่นขึ้นมาพร้อมกับอาการงัวเงียและพยายามลุกออกจากเตียงที่นุ่มนิ่มเพราะต้องการดื่มน้ำให้หายคอแห้ง พอเดินโซเซไปถึงห้องครัวและหยิบขวดน้ำมาดื่มฉันก็เดินไปนั่งงีบบนโต๊ะโดยที่หน้าหันไปทางหน้าต่าง ในตอนนั้นเองฉันมองออกไปนอกหน้าต่างของห้องครัวฉันรู้สึกไม่คุ้นเคยกับวิวทิวทัศน์นอกหน้าต่างเสียเท่าไหร่เลย วันสิ้นโลกมาถึงเมื่อไหร่กัน?นึกสงสัยว่าข้างบ้านเป็นซากประหลักหักพังตั้งแต่เมื่อไหร่ นึกไปนึกมาพอดื่มน้ำแล้วสมองก็ตื่นเต็มที่และพร้อมประมวลผลและในที่สุดฉันก็จำได้เสียทีว่าก่อนหน้านี้เกิดอะไรขึ้น ฉันถึงกับสำลักน้ำที่กำลังกลืนลงคอแล้วรีบวิ่งไปหน้าบ้านทันทีกวาดสายตามองซากประหลักหักพังครู่หนึ่งก่อนจะเหลือบไปเจอคนที่ตามหาอีกคนยืนอยู่บนตึก อีกคนลอยอยู่บนฟ้า ดูแล้วไม่มีฝ่ายไหนบาดเจ็บเลย ทั้งที่รอบตัวของพวกเขามีสภาพราวกับถูกขีปนาวุธยิงถล่มแค่สองคนนั้นเหรอที่ทำเมืองเละขนาดนี้? การต่อสู้ของผู้มีพลังจิตมันน่ากลัวจริงๆ ว่าแต่กองกำลังพิเศษหายไปไหนทำไมไม่โผล่มาเลยนะ ไม่สิ อย่างอิระคงไม่ยอมให้ใครเข้ามาขัดขวางศึกตัดสินนี้ของเขา มีความเป็นไปได้ว
ตอนที่ 57 ต่อสู้หรือระเบิดเมืองเลอารู้สึกสับสน ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเธอช็อกที่พบว่าไนต์คลับถูกเผาไม่เหลือซากและกลิ่นอายแห่งความตายรอบตัวหรือไม่ แต่เธอนึกอะไรไม่ออกเลยจริงๆ สิ่งที่วนเวียนอยู่ในหัวของเธอมีเพียง เลออนและคนอื่นๆ ของแก๊ง DH ที่ได้ตายไปแล้วพวกเขาตายแล้ว…มันเป็นความผิดของเธอ? เพราะเธอเองรึเปล่าที่ลากพวกเขาให้มายุ่งกับเรื่องนี้จนพวกเขาต้องถูกฆ่าและเผาอย่างโหดเหี้ยม…สมองของเลอาว่างเปล่า เธอกำลังปฏิเสธสิ่งที่ปรากฏอยู่ตรงหน้า เธอตัดสินใจถอยหลังและคิดจะวิ่งหนีออกจากตรงนี้ แต่เมื่อหันหลังเธอก็เห็นวารินกำลังเดินโซเซเข้ามาหา…ด้วยร่างที่โชคเลือด“เลอา…ช่วยผมด้วย” เสียงอันแหบแห้งของเขาเอ่ยเรียกเธอเลอายืนนิ่งดวงตาเบิกกว้างอย่างตกตะลึง เธออยากตะโกนเรียกวารินสุดเสียงแต่กลับไม่มีเสียงใดเปล่งออกมาจากลำคอของเธอ เธออยากจะวิ่งไปประคองวารินที่ซวนเซใกล้ล้มลง แต่ขาของเธอไม่ขยับ เธอไม่อยากจะเข้าไปสัมผัสเพราะไม่อยากรับรู้ว่าสิ่งที่เห็นตรงหน้านั้นเป็นของจริงหรือไม่ถ้ามันเป็นจริง…ไม่ มันต้องเป็นเรื่องโกหก! แต่…มันเหมือนจริงเกินไป“วาริน!” ท้ายที่สุดเลอาก็ทำลายความอ่อนแอและหวาดกลัวในใจทิ้งและรีบเข
ตอนที่ 56 ถูกทำลายDN ไนต์คลับก็เหมือนกับไนต์คลับทั่วไปหลังจากเปิดต้อนรับเหล่าผีเสื้อกลางคืนมาตลอดราตรีมันก็ต้องปิดลงหลังจากฟ้าสว่าง แต่ก็มีผีเสื้อราตรีบางตัวที่ไม่ยอมกลับบ้านกลับช่องหลังจากร้านปิด“คุณเลออน เช้าแล้วครับ” โกลเด้นปลุกคนที่เขาเคารพในความแข็งแกร่งที่กำลังนอนแผ่อยู่บนโซฟาหลังจากดื่มหนักมาเกือบทั้งคืน“อย่ามากวนน่า” เลออนไม่มีทีท่าจะยอมตื่นแต่อย่างใด“ลุกขึ้นมาทำงานครับ”“ฉันทำงานมาตลอดทั้งคืนแล้ว!”การที่คุณไปสังสรรค์กับลูกค้าแล้วดื่มเหล้าของร้านตัวเองทั้งคืนมันเรียกว่างานเหรอครับ? โกลเด้นไม่ได้ถามอย่างในความคิดแต่เขาพูดเรื่องงานขึ้นมาแทน “พวกเรากำลังจะทำความสะอาดร้านใหม่ทั้งร้านครับ อาจจะต้องทำความสะอาดแล้วจัดใหม่เลย เพราะงั้นตื่นขึ้นมาดูแลงานในฐานะเจ้าของร้านด้วย”เลออนตื่นขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ เขาสลัดคาบหนุ่มขี้เมาเช้ายันค่ำทิ้งและสวมคาบนักธุรกิจหนุ่มอย่างรวดเร็ว “ฉัน นัดหัวหน้ามาจัดปาร์ตี้ที่นี่ในอาทิตย์หน้า ฉันต้องทำให้ที่นี่ดูดีที่สุดหัวหน้าจะได้รู้ว่าตลอดสี่ปีมานี้ฉันพยายามแค่ไหนเพื่อให้สิ่งที่พวกเราร่วมสร้างกันมาเติบโตอย่างยิ่งใหญ่!”“ครับ!” โกลเด้นตะโกนตอบกลับเสี