“คุณหนูคงหิวมากจนตาพร่ามัวไปแล้ว ฉันเคี่ยวรังนกไว้ คุณหนูไปดื่มรังนกที่เตรียมไว้ดีหรือไม่” ผู้จัดการสาวถอนหายใจเอ่ยฉู่เสวี่ยเยี่ยนไม่ได้ตอบโต้ แต่กลับคีบเนื้อไก่ชิ้นหนึ่งยื่นให้กับผู้จัดการสาว “ลองชิมดูสิ” ฉู่เสวี่ยเยี่ยนพูดผู้จัดการสาวมองเนื้อไก่ตรงหน้าด้วยความรังเกียจ เธอรู้ดีว่านี่คือไก่ที่จางหยวนมอบไว้ให้ ปกติแล้วไก่เนื้อที่ฉีดฮอร์โมนเร่งโตแบบนี้ เธอไม่แตะต้องเลยด้วยซ้ำ จะกินก็กินแต่ไก่บ้าน แต่ตอนนี้คุณหนูพูดเช่นนี้ จึงต้องกินสักคำเพื่อให้เกียรติ ผู้จัดการสาวกลืนเนื้อไก่คำโตลงไป เตรียมจะเคี้ยวสองสามทีแล้วค่อยกลืนแต่ทันทีที่เธอเคี้ยว ก็หยุดชะงักไป “เนื้อไก่ชิ้นนี้ ทำไมมันอร่อยขนาดนี้เนี่ย” เผลออุทานออกมาเสียงเบา ผู้จัดการสาวหันมองเหล่าหลี่อย่างรวดเร็ว “เหล่าหลี่ ไก่นี่เป็นไก่ที่นายเอามาเองใช่หรือไม่”“ไม่ใช่! นี่คือไก่เนื้อที่ผู้จัดการต่งให้ผมเอง! ผมต้มไปครึ่งตัว อีกครึ่งตัวผมเอาไปแช่ไว้ในตู้เย็นเล็ก”เหล่าหลี่พูดพลางเดินไปที่ตู้เย็นเล็ก เปิดออกแล้วหยิบไก่เนื้อครึ่งตัวที่แช่แข็งออกมา“น้าต่ง เหล่าหลี่บอกว่าไก่ตัวนี้น้าให้มา หมายความว่า.......” ฉู่เสวี่ยเยี่ยนเ
หลังจากนั้น ฉู่เสวี่ยเยี่ยนและผู้จัดการสาวก็กลับไปที่วิลล่า เหล่าหลี่ยามเฝ้าประตูกำลังมีความสุขกับการกินไก่ที่เหลืออยู่ พร้อมกับดีใจที่ได้เงินเดือนเพิ่มอีกหนึ่งเดือน ไม่นาน ณ ห้องทำงานของฉู่เสวี่ยเยี่ยน เธอกับผู้จัดการสาวนั่งตรงข้ามกัน มองไปที่ไก่ครึ่งตัวบนโต๊ะ “คุณหนูใหญ่คะ ก่อนหน้านี้ที่คุณไปคุยกับเหล่าหลี่ คุณบอกว่าคุณทำเรื่องพังไปแล้ว เกิดอะไรขึ้นคะ?” ผู้จัดการสาวอดถามไม่ได้ ฉู่เสวี่ยเยี่ยนยิ้มอย่างขมขื่น แล้วอธิบายว่า “คือว่าตอนบ่าย จางหยวนส่งข้อความมาถามฉันว่าลองชิมไก่ฟีนิกซ์ของเขาแล้วหรือไม่ ตอนนั้นฉันรู้สึกหงุดหงิด เลยตอบไปว่าชิมแล้ว แต่รสชาติไม่ถึงมาตรฐานของร้านอาหารเรา! แล้วก็บอกเขาว่าอย่ามายุ่งกับฉันอีก!" ดวงตาของผู้จัดการสาวเบิกกว้าง หากฉู่เสวี่ยเยี่ยนพูดแบบนั้นจริง เรื่องต่อจากนี้คงแก้ไขยากแล้ว! จางหยวนตั้งใจมาพูดคุยธุรกิจ แล้วก็ยังส่งไก่ฟีนิกซ์แสนอร่อยมาให้ฉู่เสวี่ยเยี่ยนชิมฟรีอีกด้วย แต่ฉู่เสวี่ยเยี่ยนกลับไม่ยอมชิม แล้วบอกว่ารสชาติธรรมดา ไม่ตรงตามมาตรฐาน แล้วก็บอกให้จางหยวนอย่ามายุ่งกับเธออีก หากเกิดเรื่องแบบนี้กับใคร ก็ต้องรู้สึกโกรธมากแน่นอน ผู้จัดการ
ขณะเดียวกัน สายตาก็ฉายแววแปลกๆ ออกมา“ฉู่เสวี่ยเยี่ยนนี่อะไรกันเนี่ย?”ตอนกลางวันยังส่งข้อความมาบอกไม่ให้รบกวน แต่ดึกดื่นกลับโทรมาหาเสียเอง!“พี่หยวน คนชื่อฉู่เสวี่ยเยี่ยนจะเป็นพี่น้องกับฉันในอนาคตหรือไม่?” หลี่ชิวจวี๋ถามเสียงหวานจางหยวนหัวเราะเหอๆ “คิดมากไปแล้ว! เธอคือเถ้าแก่ร้านอาหารที่ฉันเล่าให้ฟังไง!”“อ๋อ คือเธอเองหรือ! เธอคนนี้ที่ทำให้พี่หยวนโมโหจนต้องมาหาฉัน” หลี่ชิวจวี๋ทำเสียงออดอ้อนจางหยวนฮึดฮัด “ดูเธอออกจะชอบนะ!”พูดจบก็ตบบั้นท้ายหลี่ชิวจวี๋ไปหนึ่งฉาดฉาดนี้แลกมาด้วยเสียงร้องลั่นของหลี่ชิวจวี๋ และสายตาเย้ายวนยิ่งกว่าเดิมคิดไปคิดมา จางหยวนก็ตัดสินใจรับสายอยากรู้เหมือนกันว่าฉู่เสวี่ยเยี่ยนจะเล่นไม้ไหนกดรับสาย คำพูดแรกของจางหยวนคือ“ประธานฉู่ ตอนนี้ก็เที่ยงคืนกว่าแล้ว ยังโทรมารบกวนผมอีก ไม่เหมาะสมกระมัง”ได้ยินเช่นนั้น ฉู่เสวี่ยเยี่ยนที่อยู่ปลายสายก็ยิ้มอย่างขมขื่นเธอรู้ดีแก่ใจว่าจางหยวนยังจำข้อความที่เธอส่งไปในตอนบ่ายได้!ฉู่เสวี่ยเยี่ยนยิ้มอย่างเขินอาย “จางหยวน ขอโทษจริงๆ ตอนนั้นฉันยุ่งมาก พอส่งข้อความมาก็เลยพูดอะไรไม่ค่อยคิด”“งั้นหรือ? ไม่ทราบว่าประธานฉ
พอได้ยินคำพูดของฉู่เสวี่ยเยี่ยน จางหยวนก็อดขำไม่ได้ แน่นอนว่าเป็นไปตามที่เขาคาดเดาไว้ ฉู่เสวี่ยเยี่ยนพอได้ลองชิมไก่ฟีนิกซ์แล้ว ก็ต้องอยากได้ไก่ฟีนิกซ์อย่างแน่นอน! ถึงแม้ราคาจะสูงถึงตัวละสองร้อย เธอก็ยอมรับได้! แต่จางหยวนกลับไม่ยอมให้เธอง่ายๆ ข้อความที่ฉู่เสวี่ยเยี่ยนส่งมาตอนกลางวัน ทำให้จางหยวนรู้สึกไม่พอใจมาก เธอพูดว่าจะซื้อก็ซื้อ จะไม่ซื้อก็ไม่ซื้อ แล้วอย่างนี้เขาจะไม่เสียหน้าหรอกหรือ? “ประธานฉู่ ต้องขอโทษด้วย! ตอนนี้ผมกำลังคุยเรื่องความร่วมมือกับร้านอาหารฝูหลินเหมินอยู่” จางหยวนพูดด้วยน้ำเสียงยิ้มแย้มพอได้ยินเช่นนั้น ฉู่เสวี่ยเยี่ยนก็ตกใจ หรือว่าจางหยวนจะติดต่อกับร้านอาหารฝูหลินเหมินได้ภายในช่วงบ่าย? ทันทีที่คิดเช่นนี้ ฉู่เสวี่ยเยี่ยนก็รู้สึกว่าเป็นไปไม่ได้ จางหยวนเป็นแค่ชาวบ้านธรรมดาๆ แม้จะไปที่ร้านอาหารฝูหลินเหมิน ก็คงจะไม่ได้พบกับตู้เหิงเสิงผู้หยิ่งยโสหรอก อาจจะไม่รู้จักชื่อตู้เหิงเสิงเลยด้วยซ้ำเมื่อนึกถึงตรงนี้ ฉู่เสวี่ยเยี่ยนก็ลองเชิงถาม “เช่นนี้หมายความว่านายได้ติดต่อกับซ่งเวย เถ้าแก่ร้านฝูหลินเหมินแล้วใช่หรือไม่”จางหยวนหัวเราะลั่น “ประธานฉู่การที่ค
“คุณจาง ในเมื่อเราตกลงเรื่องราคากันแล้ว ถ้าอย่างนั้นพรุ่งนี้ฉันจะไปเซ็นสัญญา ขนไก่ฟีนิกซ์ของคุณมาให้หมดเลย”ดังคำกล่าวที่ว่า ยิ่งเวลาผ่านไป ยิ่งมีเรื่องให้คิดมาก ฉะนั้นควรเร่งทำสัญญาให้เสร็จ แล้วรีบขนไก่ฟีนิกซ์ของจางหยวนไปที่ร้านอาหารเทียนเหอให้เรียบร้อยก่อนค่อยว่ากันวัตถุดิบระดับนี้ต้องกุมไว้ในมือของตนเอง!หากช้าไปนิดเดียว แล้วถูกตู้เหิงเสิงแย่งไปก่อน คงแย่แน่!จางหยวนครุ่นคิด ก็เห็นด้วยกับที่ฉู่เสวี่ยเยี่ยนพูดช่วงบ่ายระหว่างพูดคุยโทรศัพท์กับตู้เหิงเสิงจางหยวนก็รู้เลยว่า จริงๆ แล้วอีกฝ่ายไม่อยากซื้อไก่ฟีนิกซ์ของตัวเองเท่าไหร่ที่ตู้เหิงเสิงแสร้งทำเป็นสุภาพ เพราะก่อนหน้านี้ จางหยวนกับเว่ยเทียนหมิงไปกินข้าวที่ร้านฝูหลินเหมินด้วยกันหากไม่มีหน้าของเว่ยเทียนหมิง ตู้เหิงเสิงคงไม่ซื้อไก่ฟีนิกซ์หรอกสำหรับจางหยวนแล้ว เขาก็ไม่อยากขายไก่ฟีนิกซ์โดยอาศัยหน้าของเว่ยเทียนหมิงไก่ฟีนิกซ์รสชาติอร่อยมากหากต้องพึ่งพาหน้าของคนอื่นถึงจะขายได้ ก็ถือว่าขายหน้าพี่เทพธิดาผู้ถ่ายทอดเกินไปแล้วฉู่เสวี่ยเยี่ยนยอมเพิ่มราคาเป็นสองร้อยห้าสิบ ก็ขายไก่ฟีนิกซ์ให้เธอเลยแล้วกันจากการทำธุรกิจกันมาหลาย
“ราคาขนาดนี้... แพงเท่าไก่ป่าเลย!” จางต้าซานพูดเสียงเบาด้วยความตกใจหวังฮุ่ยก็มองไปที่ไก่ฟีนิกซ์ทางทิศตะวันตกของฟาร์มเลี้ยงผึ้งด้วยความตกใจก่อนหน้านี้ แม้ว่าเธอจะคิดว่าราคาไก่ฟีนิกซ์ต้องแพงกว่าไก่ทั่วไปอย่างแน่นอน เพราะผงสมุนไพรจำนวนมาก ไม่ได้ให้กินฟรีๆ แต่เธอนึกไม่ถึงเลยว่าไก่ฟีนิกซ์ตัวหนึ่งจะขายได้ถึงสองร้อยห้าสิบ! สองร้อยห้าสิบ ซื้อไก่ล้วงได้ถึงเจ็ดแปดตัวเลย!“พี่หยวนของเรามีอนาคตไกลจริงๆ มีอนาคตไกลจริงๆ!” หวังฮุ่ยพูดด้วยความรู้สึกตื้นตันใจหลังจากกินอาหารเช้าเสร็จ จางหยวนก็โทรหาตู้เหิงเสิง โกหกว่าเว่ยเทียนหมิงไม่มีเวลามากินอาหารในช่วงสองสามวันนี้ ปฏิกิริยาของตู้เหิงเสิงตรงกับที่จางหยวนคาดการณ์ไว้ และแย่กว่าที่จางหยวนคาดคิดไว้เสียอีก!“จริงหรือ? ประธานเว่ยไม่มีเวลามากินอาหาร งั้นเรื่องการซื้อไก่ก็คงจบแค่นี้แหละนะ! ฉันยุ่งมาก อย่าโทรมาหาฉันหากไม่มีเรื่องสำคัญ!”ตู้เหิงเสิงพูดรัวๆ แล้วก็วางสายไปทันที เปลี่ยนสีหน้าไวกว่าที่จางหยวนคาดคิดไว้จางหยวนเบ้ปาก “นี่แหละคือโฉมหน้าของนักธุรกิจใช่หรือไม่ โชคดีที่ไม่ได้ขายไก่ฟีนิกซ์ให้ไอ้หมอนี้ มิเช่นนั้นฉันคงเสียใจมากแน่!”เมื่อเที
“หึ! ใครจะไปรู้! อาจเป็นไก่บ้านเอ็งตายพอดี แล้วเสี่ยวเจี๋ยเราเดินผ่าน เอ็งก็เลยโยนความผิดมาให้เสี่ยวเจี๋ยก็เป็นได้!” หลี่เมิ่งเฟิงยิ้มเยาะหวังฮุ่ยใบหน้าแดงก่ำด้วยความโกรธ “หลี่เหม่ยเฟิ่ง เธอพูดอะไรเนี่ย! ใครจะไปใส่ร้ายพวกเธอเล่า!”เมื่อได้ยินเสียงทะเลาะกัน จางหยวนแสดงสีหน้าเย็นชาและเดินเข้ามาอย่างรวดเร็วเมื่อเห็นจางหยวนมา สองสามีภรรยาก็โล่งอกจางหยวนค่อยๆ กลายเสาหลักของพวกเขาโดยไม่รู้ตัวพ่อแม่ก็เป็นเช่นนี้แหละ ตอนลูกยังเล็ก ก็ดูแลลูกเป็นแก้วตาดวงใจพอโตขึ้น พ่อแม่แก่ลง ก็จะพึ่งพาลูกเป็นหลักการปรากฏตัวของจางหยวน ทำให้หลิวเฉิงไฉกับภรรยาเกิดความหวั่นเกรงเพราะตอนนี้จางหยวนเป็นคนดังของหมู่บ้านแม้แต่เหลียงเฉียวหลิงหญิงปากร้าย ก็โดนจางหยวนตบจนหน้าบวมไปหลายวัน“พี่หยวนมาพอดีเลย พวกเขาไม่ยอมรับว่าเป็นลูกของพวกเขาปาของใส่ไก่ฟีนิกซ์จนตาย!” หวังฮุ่ยรีบพูดจางหยวนเหลือบมองหลิวเฉิงไฉกับภรรยา แล้วหันมองลูกชายของพวกเขาคือหลิวเจี๋ยและเด็กในหมู่บ้านอีกสามคนเด็กทั้งสามนี้ พ่อแม่ไปทำงานต่างถิ่น ปู่ย่าก็ดูแลไม่ไหว จึงปล่อยให้พวกเขาคบหากับหลิวเจี๋ยหลิวเจี๋ยจึงเป็นเสมือนหัวหน้าแก๊งแม้จ
ตอนนั้นเอง หลี่เหม่ยเฟิ่งพูดเสียงเย็นชาว่า “ก็แค่ไก่ไม่กี่ตัว จะอะไรนักหนา! นี่เงินร้อยนึง เอาไปเลย ไม่ต้องทอน! สามีจับไก่ตายกลับบ้าน!”พูดจบ เธอก็ล้วงเอาธนบัตรใบร้อยออกมาจากกระเป๋าแล้วโยนลงบนพื้นอย่างแรงเงินที่อยู่บนพื้นนั้น จางหยวนไม่ได้แม้แต่จะเหลียวมอง แต่เพียงหัวเราะเย้ยหยันออกมา“จะจ่ายเงินร้อยเดียวชดเชยไก่ฟีนิกซ์ของผมงั้นเหรอ? ไก่ฟีนิกซ์สี่ตัวนี้ รวมแล้วต้องจ่ายพันหนึ่งถึงจะพอ!”เดิมทีไก่ฟีนิกซ์ถูกเด็กซนทุบจนตาย จางหยวนแม้จะโกรธมาก แต่ก็ไม่ได้คิดจะให้อีกฝ่ายชดเชยเพราะว่าก็เป็นคนในหมู่บ้านเดียวกัน เห็นหน้ากันบ่อยๆแต่ทัศนคติของหลิวเฉิงไฉกับภรรยา กลับทำให้จางหยวนรู้สึกไม่พอใจเป็นอย่างยิ่งเป็นเพราะพวกเขาอบรมสั่งสอนลูกไม่ดีชัดๆ แต่พวกเขากลับไม่ยอมรับผิด และยังมาพูดจาโอ้อวดอยู่ได้เมื่อเป็นเช่นนี้ จางหยวนก็ไม่จำเป็นต้องสนใจถึงความสัมพันธ์ฉันพี่น้องในหมู่บ้านเดียวกันกับพวกเขาอีกแล้ว!“เอ็งพูดว่าอะไรนะ?” หลี่เหม่ยเฟิ่งหันกลับมาจ้องจางหยวนตาเขม็งหลิวเฉิงไฉก็มองจางหยวนด้วยความตกใจ เห็นได้ชัดว่าไม่ได้คาดคิดว่าจางหยวนจะเรียกราคาสูงขนาดนี้“ฉันพูดว่า! ไก่ที่ตายทั้งสี่ตัว รวมแ
เพราะเป็นฟาร์มเลี้ยงไก่มูลค่าหลายแสน มากกว่าทรัพย์สินทั้งหมดของจางหยวนตอนนี้เสียอีก! คิดไปคิดมา จางหยวนก็ยิ่งรู้สึกสับสน สุดท้ายเขาตัดสินใจที่จะไม่คิดอะไรมากแล้วเพราะอย่างไรเสียเขาได้บอกไปกับฉู่เสวี่ยเยี่ยนแล้วว่าขอเวลาคิดสองวัน ก็ใช้เวลาคิดสองวันแล้วค่อยว่ากันทว่าตอนนี้จางหยวนมีเรื่องสำคัญอีกอย่างหนึ่งที่ต้องทำ นั่นก็คือการไปซื้อลูกไก่! เดิมทีจางหยวนตั้งใจว่า ตอนเช้าจะไปช่วยจ้าวเจียซินรักษาเป็ดที่ฟาร์มเลี้ยงเป็ด แล้วตอนบ่ายจะไปซื้อลูกไก่เนื้อที่บ้านของหยวนเต๋อหวัง อารองของหยวนเสวี่ยไก่ฟีนิกซ์ได้ผลตอบรับดีมาก ถึงเวลาที่จะเลี้ยงไก่ฟีนิกซ์รุ่นใหม่เพิ่มแล้วแต่เนื่องจากเมาตั้งแต่เที่ยง เขาจึงกลับบ้านในช่วงบ่าย แล้วเตรียมที่จะไปซื้อลูกไก่ที่บ้านของหยวนเต๋อหวังอีกครั้งในวันพรุ่งนี้แต่บางครั้งแผนการก็มักจะไม่เป็นไปตามที่คิดไว้ วันรุ่งขึ้น ตอนที่ฟ้ายังมืดครึ้ม ฝนก็ตกหนัก จะไปซื้อลูกไก่ในเมืองด้วยการสวมเสื้อกันฝนแบบนี้ จางหยวนทำไม่ได้ รถสามล้อไฟฟ้าของเขาเป็นแบบเปิดโล่ง ไม่มีหลังคาบังฝน จึงกันฝนไม่ได้ เมื่อมองไปที่เกาเสี่ยวอวี๋ นักข่าวสาวที่กำลังรายงานพยากรณ์อากาศทางโทรทัศน์
"ฮัลโหล เสี่ยวอวี้? ผมนัดเรียบร้อยแล้ว สำหรับคืนพรุ่งนี้ เธอยืนยันแล้วใช่หรือไม่?” ตู้เหิงเซิงงถามคนในสาย “สบายใจได้ประธานตู้ ประเดี๋ยวฉันจะไปลางานกับหัวหน้าสถานี แล้วคุณว่าคืนพรุ่งนี้ฉันควรใส่ชุดสไตล์ไหนดี?” เกาเสี่ยวอวี้ยิ้มเสียงออดอ้อน ตู้เหิงเซิงงพูดด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูบ้ากาม “แน่นอนว่าต้องเป็นชุดที่คุณใส่เวลาเป็นพิธีกรรายการ! เชื่อฉันสิ ชุดนั้นจะทำให้ผู้ชายเกิดความอยากจะพิชิตใจคุณอย่างแน่นอน! อยากจะฉีกชุดของคุณทิ้งให้หมดในทันทีเลย......” “บ้าน่ะ ประธานตู้พูดตรงเหลือเกิน! งั้นตกลงตามนี้แล้วกัน คืนพรุ่งนี้เจอกัน!” เกาเสี่ยวอวี้พูดจบแล้วก็วางสายทันที ตู้เหิงเซิงยังรู้สึกไม่สะใจเท่าไหร่ “จางหยวนเอ๋ยจางหยวน โชคดีเสียจริงๆ! คืนพรุ่งนี้ต้องโดนจิ้กจอกสาวดูดเอาพลังงานหมดเป็นแน่!” ตอนนี้จางหยวนยังไม่รู้เรื่องอะไรเลย มื้ออาหารที่ตู้เหิงเซิงงชวนเขาไปกินนั้น แทบจะเรียกได้ว่าเป็นการ “เลี้ยงต้อนรับ” ที่เต็มไปด้วยอันตราย! และอาจจะพลาดท่าเสียตัวได้ง่ายๆ! แต่แม้รู้ว่าเป็นกับดัก จางหยวนก็ยังไม่มีเวลาคิดถึงเรื่องนั้นเพราะเขามีเรื่องสำคัญที่ต้องทำรออยู่!เพิ่งวางสายจากตู้เหิงเซิงไปไม่
หากเขาไม่มีความสามารถอะไรเลยเหมือนจินฟานที่สนใจแต่ประชาสัมพันธ์ยาสุดพิเศษ เช่นนั้น แม้จ้าวลี่ซานจะแนะนำเขาให้เพื่อนร่วมอาชีพมากแค่ไหนก็ไม่มีประโยชน์! หลังจากได้ยินเช่นนั้น จางหยวนพยักหน้าอย่างแรง “อาจ้าว ผมเข้าใจความหมายของคุณแล้ว! ขอบคุณที่ช่วยแนะนำคนรู้จักให้ ผมจะไม่ทำให้คุณผิดหวังแน่นอน!" ขณะพูดประโยคนี้ จางหยวนรู้สึกหงุดหงิดอยู่บ้าง งานหลักของเขาควรเป็นแพทย์แผนจีนชัดๆ แต่ทำไมตอนนี้ถึงโด่งดังเพราะเป็นสัตวแพทย์ไปได้? หรือว่า......ต่อไปทุกคนจะคิดว่าเขาเป็นสัตวแพทย์ชื่อดัง ไม่มีใครรู้ว่าเขาเป็นแพทย์แผนจีน?พอคิดว่าอนาคตข้างหน้าเวลาเดินไปบนถนน เจอใครก็ทักมายและเรียกเขาว่าหมอจางอย่างสนิทสนม จางหยวนก็อดขนลุกไม่ได้ ทว่าตามคำกล่าวที่ว่าของผู้ใหญ่ให้ก็ต้องรับ ความหวังดีของจ้าวลี่ซาน จางหยวนก็ย่อมปฏิเสธไม่ได้เมื่อจางหยวนกลับไปที่ฟาร์มเลี้ยงผึ้ง ปัญหาอีกอย่างก็ตามมา! ตู้เหิงเซิงโทรมา “รบกวน” อีกครั้ง! พอเห็นเบอร์โทรศัพท์ของเขา จางหยวนแทบอยากโยนโทรศัพท์ทิ้งเมื่อคืนเขาบอกตู้เหิงเซิงชัดเจนแล้วว่า เขาจะไม่ผิดสัญญา ตู้เหิงเซิงคนนี้ทำไมถึงตื้อไม่เลิกเช่นนี้?จางหยวนรับสายทันท
พ่อลูกตระกูลจ้าวพยายามโน้มน้าวจางหยวนให้รับซองแดง แต่จางหยวนยืนกรานไม่รับสุดท้ายเมื่อไม่มีทางอื่น ทั้งสองจึงต้องยอมแพ้ แต่ไม่นานดวงตาของจ้าวลี่ซานก็เป็นประกาย เขาคิดหาวิธีตอบแทนจางหยวนได้แล้ว! “พี่หยวน ไม่รับซองแดงก็ไม่เป็นไร แต่อาจ้าวขอเชิญเอ็งไปกินข้าว เอ็งต้องห้ามปฏิเสธนะ!” จ้าวลี่ซานพูดพร้อมรอยยิ้ม จางหยวนพยักหน้ายิ้ม “กินข้าวได้อยู่แล้ว ต้องสั่งอาหารเพิ่มสักสองอย่างนะ ผมกินเยอะ! ฮ่าๆ” คำพูดที่ตรงไปตรงมาทำให้คนทั้งสามถึงกับหัวเราะลั่น เมื่อถึงเวลามื้ออาหารกลางวัน จางหยวนก็รู้ว่าทำไมจ้าวลี่ซานถึงเชิญเขาไปกินข้าว ถึงจะบอกว่าเชิญไปกินข้าว แต่เป้าหมายที่แท้จริงของจ้าวลี่ซานคือการแนะนำคนรู้จักให้จางหยวน! เขาเชิญเจ้าของฟาร์มเลี้ยงสัตว์หลายรายในเมืองมาด้วยกัน และแนะนำให้รู้จักกับจางหยวน พร้อมทั้งเล่าเรื่องที่จางหยวนเอาชนะจินฟานเมื่อเช้าให้ฟัง เมื่อเหล่าเจ้าของฟาร์มได้ยินว่าจางหยวนสามารถรักษาสัตว์ป่วยที่แม้แต่ช่างเทคนิคจากโรงงานผลิตยาสัตว์ก็รักษาไม่ได้ พวกเขาจึงรู้สึกอยากรู้จักจางหยวนกันมากขึ้นทันทีที่จางหยวนเข้าใจเจตนาของจ้าวลี่ซาน เขาก็เล่าเรื่องที่เคยรักษาโรคอหิวาต
ยิ่งสองพ่อลูกตระกูลโจวชมเชยจางหยวนมากใด สีหน้าของจินฟานก็ยิ่งแย่ลงเท่านั้นเป็ดสองตัวที่เดินเล่นอยู่บนพื้น ราวกับฝ่ามือที่ตบหน้าจินฟานอย่างแรงไม่เพียงเสียงดังฟังชัด และยังเจ็บปวดมาก!ยาของจางหยวนรักษาเป็ดให้หายดี ซึ่งพิสูจน์แล้วว่า กาฬโรคเป็ดที่จินฟานพูดถึงก่อนหน้านั้นเป็นเรื่องโกหกหมด!เมื่อจ้าวลี่ซานลุกขึ้นยืน เขามองจินฟานด้วยสายตาที่ไม่พอใจ“ช่างเทคนิคจิน ผมต้องการคำอธิบายจากคุณ! ก่อนหน้านี้คุณบอกว่าเป็ดของผมเป็นกาฬโรคเป็ด แล้วให้ผมซื้อยาจากต่างประเทศ ตอนนี้เป็นเช่นนี้ คุณจะอธิบายอย่างไร”สีหน้าของจินฟานเปลี่ยนไปเล็กน้อย แต่เขาก็ยังฝืนยิ้มออกมา“เถ้าแก่จ้าว คนเราย่อมผิดพลาดกันได้ ครั้งนี้ถือว่าผมดูผิดไป!”“จริงหรือ? อย่าคิดว่าคนอื่นโง่กันหมดนะ ช่างเทคนิคจิน ผมว่าต่อไปนี้คุณไม่จำเป็นต้องมาขายยาในเมืองของเราอีกแล้ว! ให้บริษัทของคุณส่งช่างเทคนิคคนอื่นมาแทนเถอะ ผมจะบอกกับคนอื่นๆ ในเมืองด้วย!” จ้าวลี่ซานพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาเหตุผลที่เขาเชื่อฟังจินฟาน เพราะเขามีความเชื่อมั่นในช่างเทคนิคของโรงงานผลิตยาเกินไปแต่จินฟานกลับใช้ความไว้วางใจของเขา พูดจาหลอกลวงจ้าวลี่ซาน จ้าวลี่ซาน
ทันใดนั้น จ้าวลี่ซานรีบวิ่งไปหาเป็ด แล้วนั่งยองตรวจสอบอ้วกของเป็ด ไม่นาน เขาก็เห็นพยาธิเม็ดเลือดสีแดงอยู่ด้านใน พยาธิตัวนั้นยาวประมาณเล็บนิ้วก้อย แต่บางมาก บางราวกับเชือก “นี่......นี่คือพยาธิเม็ดเลือดหรือ? หรือว่าเป็ดในฟาร์มของฉันจะติดโรคพยาธิเม็ดเลือดในเป็ดจริงๆ?” จ้าวลี่ซานพูดด้วยความตกตะลึง ทันทีที่จ้าวลี่ซานพูดจบ จินฟานก็เดินตรงเข้ามา มองจ้าวลี่ซานด้วยสายตาเย้ยหยัน “เถ้าแก่จ้าว คุณเป็นคนมากประสบการณ์ ทำไมถึงโดนหลอกด้วยเล่ห์เหลี่ยมแบบนี้ได้!”จ้าวลี่ซานเงยหน้าขึ้นอย่างประหลาดใจ “เล่ห์เหลี่ยม? เล่ห์เหลี่ยมอะไร?” “คำตอบง่ายมาก! พยาธิสีแดงตัวเล็กๆ เหล่านี้ถูกเป็ดอาเจียนออกมาจริง! แต่คุณอย่าลืมว่าเมื่อครู่เป็ดดื่มอะไรเข้าไป! พยาธิสีแดงตัวเล็กๆ เหล่านี้ที่อาจถูกป้อนเข้าไปตอนนั้นก็เป็นได้!” จินฟานพูดด้วยรอยยิ้มเยาะเย้ย เขาไม่เคยเชื่อว่าจางหยวนจะสามารถระบุอาการป่วยของเป็ดได้ ดังนั้นเขาจึงไม่เชื่อในสิ่งที่จางหยวนพูด เมื่อได้ยินเช่นนั้น จ้าวเจียซินก็ถอนหายใจออกมาพร้อมกับพูดว่า “เมื่อครู่ฉันยังคิดว่าคุณไม่ใช่คนโง่ แต่ตอนนี้ฉันรู้แล้วว่าฉันคิดผิด!” จินฟานขมวดคิ้วมองเขา “ค
จินฟานฮึดฮัดออกมา โดยไม่ได้พูดอะไรต่อแผนการรักษาของเขาก็เป็นแบบนี้แม้ว่าจะมียาสำหรับสัตว์ที่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันแล้วก็ตาม เป็ดที่รอดชีวิตได้ก็เป็นเพียงเป็ดที่ร่างกายแข็งแรงที่สุดเท่านั้นส่วนพวกเป็ดที่ป่วยหนัก ก็ต้องปล่อยให้รอความตายไปจ้าวลี่ซานคิดครุ่นดูแล้วก็เห็นด้วย จึงให้จ้าวเจียซินไปจับเป็ดป่วยมาแต่จินเฟินกลับอาสาเสียเอง เดินไปที่โรงเลี้ยงเป็ด แล้วจับเป็ดป่วยหนักที่สุดมาสองตัวสิ่งที่จินเฟินอยากเห็นที่สุดก็คือ จางหยวนฆ่าเป็ดทั้งสองตัวตายคาที่เช่นนั้น เขาก็จะใช้โอกาสนี้ให้จ้าวลี่ซานสั่งซื้อยาสำหรับสัตว์เพิ่มอีกสองกล่องได้เมื่อเห็นเป็ดทั้งสองตัวที่ป่วยจนแทบไม่มีแรงดิ้น จ้าวลี่ซานก็ทำหน้าแปลกๆจ้าวเจียซินกลับยิ้มเย้ยหยัน “จับเป็ดป่วยที่ใกล้ตายมาใช่หรือไม่ แต่ไม่เป็นไรหรอก! พี่หยวนจะรักษาเป็ดทั้งสองตัวให้หายได้......ใช่หรือไม่”พูดถึงตรงนี้ จ้าวเจียซินก็รู้ตัวว่าพูดออกไปเช่นนี้อาจไม่เหมาะ จึงรีบหันไปถามความเห็นของจางหยวนจางหยวนพยักหน้ายิ้ม “ไม่เป็นไร ตราบใดที่เป็ดทั้งสองตัวยังไม่ตาย ก็ยังมีความหวังที่จะรักษาให้หายได้!”จากนั้นเขาใช้ช้อนเล็กตักยาจากอ่างลายครามหน
เห็นเช่นนั้น จางหยวนก็ยิ้มออกมา “โปรดรอสักครู่! อาจ้าวและผู้เชี่ยวชาญจินท่านนี้ อย่ารีบร้อนไปเลย การสั่งซื้อก็ไม่ต้องรีบร้อนหรอก! จะลองดูหรือไม่ว่าผมจะรักษาเป็ดพวกนี้อย่างไร?”“หึ! ไม่สนใจ! ผมไม่อยากเสียเวลากับคนที่ไม่รู้เรื่องรู้ราว!” จินฟานพูดด้วยน้ำเสียงดูถูกจางหยวนจ้องมองจินฟาน “อาจ้าวตัดสินใจจะสั่งซื้อยาของคุณแล้ว อย่างไรเสียผู้เชี่ยวชาญจินจะไม่ให้เกียรติแม้แต่น้อยเลยหรือ?” จ้าวเจียซินเข้าใจและพูดต่อ “ใช่! ซื้อยาของคุณ แล้วคุณยังไม่ให้เกียรติขนาดนี้ ประเดี๋ยวผมจะลองติดต่อบริษัทยายี่ห้ออื่นทางออนไลน์ พวกเขาคงจะนำเข้ายาจากต่างประเทศได้เช่นกัน!”สีหน้าของจินฟานเปลี่ยนไปเล็กน้อยหากเป็นอย่างที่จ้าวเจียซินพูดจริงๆ และไปหาบริษัทยายี่ห้ออื่น วันนี้เขาคงจะมาเสียเที่ยว “เอาล่ะ! ถ้าเช่นนั้น ผมจะเห็นแก่หน้าเถ้าแก่จ้าว!” จินฟานพูดด้วยท่าทางใจกว้างจากนั้น ทุกคนก็เดินไปยังอ่างที่จางหยวนเตรียมไว้ เมื่อเห็นยาสมุนไพรในอ่าง และปูนขาวที่โรยอยู่ด้านบน จ้าวลี่ซานอดถามไม่ได้ว่า “พี่หยวน ข้างในนี้คืออะไรหรือ?”จางหยวนตอบด้วยรอยยิ้มว่า “อันนี้คือยาสมุนไพรบดเป็นผง ประกอบด้วยไฉหู เทียนหมา
แม้ว่าเขาจะพยายามกระซิบเสียงเบา แต่ทั้งจางหยวนและจ้าวเจียซินก็ยังได้ยินสิ่งที่เขาพูดอยู่ดี ทั้งสองสบตากัน แล้วต่างก็เห็นรอยยิ้มในสายตาของกันและกัน ที่แท้ก็เป็นแบบนี้เอง ที่แท้จินฟานก็เป็นแค่คนเขลาแต่จ้าวลี่ซานกลับตกใจกับคำพูดของจินฟาน รีบถามเขาเหมือนจะคว้าเอาหญ้าแพรกมาเป็นที่ยึดเหนี่ยว “ผู้เชี่ยวชาญจิน คุณมีวิธีรักษาโรคระบาดในเป็ดได้หรือไม่ หากเป็ดของผมตายหมด ผมคงขาดทุนมากแน่!” เมื่อเห็นว่าหลอกล่อจ้าวลี่ซานได้ จินฟานก็ยิ้มออกมา “จริงๆ แล้ว การรักษาโรคระบาดในเป็ดก็ไม่ยาก! บริษัทของเรานำเข้ายาสำหรับสัตว์ชนิดหนึ่งมาจากต่างประเทศ! สามารถเพิ่มภูมิคุ้มกันของเป็ดได้มากเลย!” “ถึงแม้ว่าราคาจะค่อนข้างสูง แต่หากเป็ดได้รับยานี้ เชื่อว่าน่าจะมีเป็ดรอดชีวิตจำนวนมาก!” จ้าวลี่ซานรีบถามว่า “แล้วตอนนี้มียาหรือไม่” “ตอนนี้ยังไม่มี! แต่หากคุณจ้าวลี่ซานโอนเงินเข้าบริษัทวันนี้ ผมสามารถให้บริษัทเร่งจัดส่งได้ภายในวันเดียวกัน!” จินฟานพูดพร้อมรอยยิ้ม แผนของเขาเรียบง่ายมากคือต้องการให้จ้าวลี่ซานซื้อยาที่ช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันของเป็ดชุดนั้น จินฟานไม่ได้โอ้อวด ยานั้นสามารถเพิ่มภูมิคุ้มกันของเป็ดไ