พอคิดถึงตรงนี้ จางหยวนก็พยักหน้าตกลง“งั้นก็ตามนั้น! จูอู่ลี่รีบพาคนของแกไสหัวออกจากหมู่บ้านของเราให้หมด! ถ้าฉันรู้ว่าแกยังกล้ามาเหยียบหมู่บ้านเซี่ยวานของเราแม้แต่ก้าวเดียว ฉันจะหักขาแกทิ้ง!” จางหยวนพูดเสียงเย็นชาจูอู่ลี่เห็นว่าจางหยวนไว้ชีวิตเขา จึงรีบพยักหน้าอย่างตื่นเต้นไม่หยุด“ขอบคุณ ขอบคุณ ขอบคุณพวกคุณมาก!”แต่ขณะที่เขากำลังจะลุกขึ้น จางหยวนก็ใช้ขาเหยียบไหล่เขาเอาไว้“ช้าก่อน! ยังมีอีกอย่างที่แกต้องไปบอกพี่เสืออะไรนั่น! พวกแกเป็นนักเลงก็ต้องมีกฎระเบียบ! ฉันก็ยังยืนยันคำเดิม ถ้ามีอะไรก็ให้มาหาฉันเอง!” จางหยวนพูดเสียงหนักแน่น“ถ้าพี่เสืออยากจะล้างแค้น ก็นัดเวลากับฉันได้เลย ฉันพร้อมจะไปเจอตัวต่อตัว! แน่นอน ถ้าเขาอยากจะเจรจา ฉันก็ยินดี”พอได้ยินคำพูดของจางหยวน จูอู่ลี่ก็กลืนน้ำลายจางหยวนกล้าจะไปเจอพี่เสือดาวคนเดียวงั้นหรือ? เขาจะเก่งกล้าและบ้าบิ่นขนาดเชียวหรือ?หลังจากตกตะลึงไปครู่หนึ่ง จูอู่ลี่ก็พยักหน้ารัวๆ “เข้าใจแล้ว! ฉันจะไปบอกพี่เสือให้ทราบเอง!”จางหยวนจึงปล่อยเขา แล้วส่งสัญญาณให้เขากับพวกนักเลงคนอื่นๆ ไปให้พ้นพวกนักเลงลุกขึ้นจากพื้น แล้วขึ้นรถตู้ไปอย่างน่าอับอาย
โจวเยี่ยนที่อยู่ข้างๆ กะพริบตา “พี่หลิว ถ้าฉันไม่ได้หูฝาด นี่เป็นครั้งแรกที่พี่เรียกพี่หยวนใช่หรือไม่!”หลิวรั่วหลันถึงกับนิ่งอึ้งไป ไม่ทันได้สังเกตุว่าคำเรียกที่ใช้เรียกจางหยวนเปลี่ยนไปแล้ว!เมื่อรู้ตัวว่าเพิ่งเรียกจางหยวนด้วยคำเรียกที่สนิทสนมขนาดนั้น หลิวรั่วหลันก็อดหน้าแดงเล็กน้อยไม่ได้ และแอบเหลือบมองจางหยวน แต่จางหยวนกลับดูเฉยเมย “ก็แค่ชื่อเรียกไม่ใช่หรือ เรียกอะไรก็เหมือนกัน!” พอได้ยินจางหยวนพูดเช่นนั้น หลิวรั่วหลันก็รู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาโดยไม่รู้ตัวเธอจึงทำหน้าบึ้งใส่ “งั้นฉันเรียกพี่ว่าเสี่ยวหยวนจื่อก็ได้เหมือนกันน่ะสิ” “แบบนั้นไม่ได้! คำเรียกของขันที เอาไว้เรียกจูอู่ลี่เถอะ เรียกเขาว่าเสี่ยวจูจื่อ!” จางหยวนโบกมือปฏิเสธ เมื่อนึกถึงภาพที่จูอู่ลี่คุกเข่าขอชีวิต สองสาวก็กลั้นหัวเราะออกมาไม่ได้ “เหมือนจริงๆ! ไอ้สารเลวจูอู่ลี่ ตอนนี้เหมือนขันทีจริงๆ ด้วย!” โจวเยี่ยนพูดด้วยน้ำเสียงสะใจ แต่หลิวรั่วหลันกลับถอนหายใจ “ไม่คิดเลยว่าเรื่องจะบานปลายขนาดนี้ โชคดีที่พี่......พี่หยวนมาช่วยเราทันเวลา มิเช่นนั้น......ผลลัพธ์คงเลวร้ายเกินจะคาดคิด” นี่เป็นครั้งแรกที่เธอเรียกจางหยวน
“อะไรนะ? แม่หม้ายเสิ่น?” หลินจงเฟยมองเขาด้วยความประหลาดใจ “แม่หม้ายเสิ่นที่เอ็งพูดถึงน่ะ หมายถึงใคร?”“ในหมู่บ้านเราจะมีแม่หม้ายเสิ่นคนไหนอีกเล่า! แน่นอนว่าต้องเป็นเสิ่นซิ่วอวิ๋น แม่ค้าขายนมแพะคนนั้นไง!” อวี๋เหล่าจิ่วรีบตอบเมื่อรู้ว่าจางหยวนสามารถทำให้แม้แต่เสิ่นซิ่วอวิ๋นผู้บริสุทธิ์ผุดผ่องตกหลุมรักได้ หลินจงเฟยยิ่งอิจฉาอย่างมากถึงแม้ว่าเขาจะชอบทำตัวเป็นจุดสนใจในหมู่บ้าน ไปมาหาสู่ทั้งหม้ายสาวและหญิงสาวหลายคน แต่หม้ายสาวและหญิงสาวที่มีคุณภาพอย่างเสิ่นซิ่วอวิ๋นและหลี่ชิวจวี๋ เขาก็ไม่สามารถเข้าใกล้ได้เลยทว่าจางหยวนกลับได้ถึงสอง! ด้วยความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดระหว่างจางหยวนและหลี่ชิวจวี๋ หลินจงเฟยไม่เชื่อว่าทั้งสองจะไม่มีอะไรกันเมื่อนึกถึงว่าจางหยวนไม่เพียงได้หลี่ชิวจวี๋มาแล้ว แต่ยังได้เสิ่นซิ่วอวิ๋นที่เป็นเป้าหมายสำคัญในใจของเขามาครอบครองอีกด้วย ถึงขั้นที่จางหยวนจะมาสวมเขาให้กับเขาอีก หลินจงเฟยแทบจะระเบิดความโกรธออกมาเขาหายใจหอบ “ไอ้สารเลว! ฉันไม่ปล่อยแกไว้แน่!”“เถ้าแห่หลิน จะให้คนไปดักตีเขาสักชุดหรือไม่” อวี๋เหล่าจิ่วเสนอความคิดเห็นหลินจงเฟยเหล่ตามองเขา “สมองเอ็งโดนลาเ
ทันใดนั้นเอง หลิวจงเฟยก็เปลี่ยนไปอย่างน่ากลัวราวกับนึกถึงอะไรบางอย่าง“หลิวรั่วหลันน่ะ เหมือนไก่แก่ที่ไม่ยอมออกไข่ ชู้อย่างพวกเขา คงไม่ใส่ถุงยางกันด้วยซ้ำ! คนชั้นต่ำ! ต่ำช้ากันทั้งหมด!” ถ้าจางหยวนรู้ว่าหลินจงเฟยคิดอะไรอยู่ตอนนี้ คงทำสีหน้าประหลาดใจมาก หลินจงเฟยก็สมกับเป็นนักรักชื่อดัง เมื่อสงสัยว่าภรรยาแอบมีคนอื่น สิ่งแรกที่คิดถึงก็คือเรื่องที่ภรรยาและชายผู้นั้นไม่ใช้ถุงยาง นั่งคิดอยู่บนเตียงอยู่นาน ในที่สุดหลินจงเฟยก็ตัดสินใจที่จะรอคอยก่อน ไม่ได้รีบร้อนไปที่คลินิกเพื่อถามหลิวรั่วหลันทันที ก็อย่างว่าแหละ จะจับตัวคนผิด ต้องมีหลักฐานเพื่อให้มั่นใจว่าระหว่างหลิวรั่วหลันกับจางหยวนมีความสัมพันธ์ที่เกินเลย หลินจงเฟยจึงต้องจับให้ได้คาหนังคาเขา!สาเหตุที่หลินจงเฟย “อารมณ์ดี” ขนาดนี้ ไม่ใช่เพราะเขาใจเย็น แต่แท้จริงแล้วเพราะกลัวหลิวรั่วไห่ พี่ชายใหญ่ของหลิวรั่วหลัน!ถ้าไม่มีหลักฐานที่แน่ชัดว่าจางหยวนกับหลิวรั่วหลันมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งต่อให้หลินจงเฟยอยากจะจัดการหลิวรั่วหลัน หลิวรั่วไห่พี่ชายใหญ่ของหลิวรั่วหลันก็คงไม่ยอมแน่ในทางกลับกัน ถ้าลินหจงเฟยจับได้คาหนังคาเขาจริงๆถึงตอนนั
ทว่าพอพ่อแม่รู้ว่าจางหยวนไปช่วยคน พวกท่านก็ให้อภัยเขา แล้วหันไปถามหลิวรั่วหลันกับจ้าวเยี่ยนว่าได้รับบาดเจ็บหรือไม่จางหยวนโบกมือปฏิเสธ “มีลูกของพวกท่านคอยช่วยเหลือ พวกเธอจะได้รับบาดเจ็บได้อย่างไร!” พอได้ยินเช่นนี้ หวังฮุยก็หัวเราะออกมา “พี่หยวน ช่วงนี้ลูกคบหากับจ้าวเยี่ยนพยาบาลที่คลินิกอยู่หรือไม่ ทำไมเวลาคลินิกเกิดเรื่อง จ้าวเยี่ยนถึงโทรหาลูกเล่า” จางหยวนถึงกับนิ่งอึ้งไป เขากับจ้าวเยี่ยนคบกันที่ไหนเล่า เขากำลังจะบอกว่าคนที่โทรหาเขาไม่ใช่จ้าวเยี่ยนแต่เป็นหลิวรั่วหลัน แต่พอจะพูด จางหยวนก็คิดขึ้นได้ ถ้าบอกว่าเป็นหลิวรั่วหลันที่โทรมา จะยิ่งอธิบายยากกว่าเดิมไปอีก อย่างน้อยจ้าวเยี่ยนก็ยังไม่ได้แต่งงาน ถึงแม้จะเคยมีแฟนมาก่อน แต่ตอนนี้เลิกกันแล้ว ก็สามารถคบคนใหม่ได้ แต่หลิวรั่วหลันเป็นภรรยาของหลินจงเฟย ถ้าพ่อแม่รู้ว่าตอนที่หลิวรั่วหลันตกอยู่ในอันตราย คนแรกที่เธอโทรหาคือจางหยวน พวกท่านต้องคิดมากแน่!“กระแอมๆ! ลูกกับจ้าวเยี่ยนไม่ได้คบหากัน! เธอโทรมาหาลูกเพราะครั้งก่อนลูกบังเอิญเจอเธอโดนพวกอันธพาลรังแก ลูกเลยช่วยไล่พวกนั้นไปแค่นั้นเอง!” จางหยวนไอสองสามทีแล้วอธิบายสองสามีภรรยา
จางหยวนมองเธอด้วยความประหลาดใจ “ช่วยรักษาให้พี่หรือ พี่สะใภ้ซิ่วอวิ๋นป่วยเป็นอะไรรึ ดูจากสีหน้าพี่แล้ว ไม่เหมือนคนป่วยเลย”พอได้ยินเช่นนี้ ใบหน้าของเสิ่นซิ่วอวิ๋นก็แดงก่ำขึ้นมา จึงพูดเสียงเบา “ไปคุยที่บ้านฉันดีหรือไม่”จางหยวนขมวดคิ้ว “ไปบ้านพี่หรือ กลางวันแสกๆ กลัวว่าจะไม่เหมาะนะ การรักษาโรคก็ไม่ใช่เรื่องที่ต้องปิดบังอะไร ทำที่นี่ก็ได้หนิ!”เมื่อครู่จางหยวนยังกังวลอยู่เลยว่า เขาและหลิวรั่วหลันจะดูสนิทสนมกันเกินไปจนถูกคนในหมู่บ้านจับได้หรือไม่ ถ้าไปบ้านของหม้ายสาวเสิ่นซิ่วอวิ๋นกลางวันแสกๆ แล้วคนในหมู่บ้านเห็นเข้า ก็คงมีคนนินทาเสียๆ หายๆ แน่นอนเมื่อเห็นว่าจางหยวนยังคงยืนยันจะพูดที่นี่ เสิ่นซิ่วอวิ๋นก็รู้สึกทั้งอาย ทั้งโมโห แต่เธอก็ไม่มีทางเลือกอื่น แม้แต่ผู้เชี่ยวชาญหญิงประจำโรงพยาบาลอำเภอก็ยังทำอะไรไม่ได้ เธอจึงได้แต่มาลองพึ่งพาจางหยวนดู เพราะคนในหมู่บ้านต่างก็เล่าขานกันว่า จางหยวนลงเข็มไม่กี่ครั้งก็สามารถช่วยชีวิตพ่อเฒ่าเกาที่เป็นโรคหลอดเลือดในสมองแตกได้แล้วก่อนหน้านี้ จางหยวนยังช่วยชีวิตเหล่าเฟิงโถว และยังรักษาจางต้าซานที่เป็นอัมพาตให้หายดีอีกด้วยนอกจากนี้ จางหยวนย
จางหยวนเงียบไปเมื่อได้ยินเช่นนั้นถ้าเป็นไปได้ เขาก็อยากจะให้ลูกสาวของเสิ่นซิ่วอวิ๋นเปลี่ยนมาดื่มนมผงเพราะโรคเกี่ยวกับการหย่านมของผู้หญิงนั้น อาศัยการจับชีพจรอย่างเดียวไม่สามารถวินิจฉัยได้ ต้องตรวจร่างกายโดยตรง!แต่ถ้าเขาอธิบายวิธีตรวจร่างกาย เสิ่นซิ่วอวิ๋นจะเข้าใจผิดคิดว่าเขาเอาเปรียบจะทำอย่างไร?เมื่อเห็นสีหน้าของจางหยวนดูลังเล เสิ่นซิ่วอวิ๋นอดพูดขึ้นมาไม่ได้“พี่หยวน โรคของฉันรักษายากมากเลยหรือ”เมื่อได้ยินเธอเรียกตนว่าพี่หยวนอีกครั้ง จางหยวนก็อดสงสารไม่ได้ จึงพูดขึ้นมาด้วยความจนใจ“รักษาไม่ยากหรอก เพียงแต่ข้าต้องตรวจหาสาเหตุให้แน่ชัดก่อน! แต่จะตรวจหาว่าต้นตอของโรคอยู่ตรงไหน ก็ต้อง.....ต้องตรวจร่างกายโดยตรง! เธอเข้าใจความหมายของฉันหรือไม่”เมื่อได้ยินเช่นนั้น ใบหน้าของเสิ่นซิ่วอวิ๋นก็แดงก่ำขึ้นมาทันทีเธอรู้ดีว่าคำพูดของจางหยวนหมายถึงอะไร!เมื่อสองวันก่อนที่เธอไปโรงพยาบาลในอำเภอ หมอหญิงผู้นั้นก็ตรวจร่างกายเธอแบบนี้!แต่หมอหญิงเป็นผู้หญิง ส่วนจางหยวนเป็นผู้ชาย!เมื่อคิดว่าต้องให้ผู้ชายมาตรวจร่างกายแบบนั้น เสิ่นซิ่วอวิ๋นก็รู้สึกอายมากจนอดก้มหน้าลงไม่ได้เมื่อเห็นเสิ่นซิ่
ไม่ทันไร มือใหญ่ของจางหยวนก็แตะลงไปบนเลือนร่างของเสิ่นซิ่วอวิ๋น เธอถึงกับร้องเสียงหลงเบาๆ“เย็น” เสิ่นซิ่วอวิ๋นกระซิบเสียงเบาจางหยวนคิดในใจว่าไม่เย็นก็แปลกแล้ เขาเพิ่งล้างมือด้วยน้ำเย็นมาเอง“หรือว่า......ผมเอามือออกถูให้อุ่นก่อนดีหรือไม่?” จางหยวนถามอย่างลังเลเสิ่นซิ่วอวิ๋นเขินหน้าแดง ก่อนจะส่ายศีรษะเบาๆ “ไม่เป็นไร ทำต่อ......ทำต่อเลย”ไม่นาน เสิ่นซิ่วอวิ๋นก็ร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด“เบาๆ หน่อย!”จางหยวนทำหน้าไร้ความผิด “ผมไม่ได้ออกแรงเลยนะ”“โกหก! นายออกแรงมากเลย” เสิ่นซิ่วอวิ๋นแย้งเสียงหวานจางหยวนส่ายศีรษะ “พี่สะใภ้ซิ่วอวิ๋น พี่เข้าใจผิดแล้ว ก็เพราะเส้นลมปราณตรงนี้ของพี่ตึงเกินไป ไม่ต้องออกแรง แค่แตะเบาๆ ก็รู้สึกเจ็บแล้ว”พูดจบ จางหยวนก็ใช้ปลายนิ้วแตะเบาๆ ไปยังเส้นลมปราณที่ตึง“เธอพูดก็พูดไปสิ ทำไมต้องมาแตะด้วย” เสิ่นซิ่วอวิ๋นพูดด้วยความเขินอายจางหยวนยิ้มแห้ง “ผมแค่กดให้ดูเป็นตัวอย่างเฉยๆ ไม่อยากให้พี่เข้าใจผิดคิดว่าผมจะเอาเปรียบน่ะ”ทว่าจางหยวนก็คลำจนทราบสาเหตุโรคของเสิ่นซิ่วอวิ๋นแล้วเขาคลำหมดแล้วจริงๆพอเขาดึงมือออก เสิ่นซิ่วอวิ๋นก็รีบหันหลังหนีด้วยความเขินอาย
เพราะเป็นฟาร์มเลี้ยงไก่มูลค่าหลายแสน มากกว่าทรัพย์สินทั้งหมดของจางหยวนตอนนี้เสียอีก! คิดไปคิดมา จางหยวนก็ยิ่งรู้สึกสับสน สุดท้ายเขาตัดสินใจที่จะไม่คิดอะไรมากแล้วเพราะอย่างไรเสียเขาได้บอกไปกับฉู่เสวี่ยเยี่ยนแล้วว่าขอเวลาคิดสองวัน ก็ใช้เวลาคิดสองวันแล้วค่อยว่ากันทว่าตอนนี้จางหยวนมีเรื่องสำคัญอีกอย่างหนึ่งที่ต้องทำ นั่นก็คือการไปซื้อลูกไก่! เดิมทีจางหยวนตั้งใจว่า ตอนเช้าจะไปช่วยจ้าวเจียซินรักษาเป็ดที่ฟาร์มเลี้ยงเป็ด แล้วตอนบ่ายจะไปซื้อลูกไก่เนื้อที่บ้านของหยวนเต๋อหวัง อารองของหยวนเสวี่ยไก่ฟีนิกซ์ได้ผลตอบรับดีมาก ถึงเวลาที่จะเลี้ยงไก่ฟีนิกซ์รุ่นใหม่เพิ่มแล้วแต่เนื่องจากเมาตั้งแต่เที่ยง เขาจึงกลับบ้านในช่วงบ่าย แล้วเตรียมที่จะไปซื้อลูกไก่ที่บ้านของหยวนเต๋อหวังอีกครั้งในวันพรุ่งนี้แต่บางครั้งแผนการก็มักจะไม่เป็นไปตามที่คิดไว้ วันรุ่งขึ้น ตอนที่ฟ้ายังมืดครึ้ม ฝนก็ตกหนัก จะไปซื้อลูกไก่ในเมืองด้วยการสวมเสื้อกันฝนแบบนี้ จางหยวนทำไม่ได้ รถสามล้อไฟฟ้าของเขาเป็นแบบเปิดโล่ง ไม่มีหลังคาบังฝน จึงกันฝนไม่ได้ เมื่อมองไปที่เกาเสี่ยวอวี๋ นักข่าวสาวที่กำลังรายงานพยากรณ์อากาศทางโทรทัศน์
"ฮัลโหล เสี่ยวอวี้? ผมนัดเรียบร้อยแล้ว สำหรับคืนพรุ่งนี้ เธอยืนยันแล้วใช่หรือไม่?” ตู้เหิงเซิงงถามคนในสาย “สบายใจได้ประธานตู้ ประเดี๋ยวฉันจะไปลางานกับหัวหน้าสถานี แล้วคุณว่าคืนพรุ่งนี้ฉันควรใส่ชุดสไตล์ไหนดี?” เกาเสี่ยวอวี้ยิ้มเสียงออดอ้อน ตู้เหิงเซิงงพูดด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูบ้ากาม “แน่นอนว่าต้องเป็นชุดที่คุณใส่เวลาเป็นพิธีกรรายการ! เชื่อฉันสิ ชุดนั้นจะทำให้ผู้ชายเกิดความอยากจะพิชิตใจคุณอย่างแน่นอน! อยากจะฉีกชุดของคุณทิ้งให้หมดในทันทีเลย......” “บ้าน่ะ ประธานตู้พูดตรงเหลือเกิน! งั้นตกลงตามนี้แล้วกัน คืนพรุ่งนี้เจอกัน!” เกาเสี่ยวอวี้พูดจบแล้วก็วางสายทันที ตู้เหิงเซิงยังรู้สึกไม่สะใจเท่าไหร่ “จางหยวนเอ๋ยจางหยวน โชคดีเสียจริงๆ! คืนพรุ่งนี้ต้องโดนจิ้กจอกสาวดูดเอาพลังงานหมดเป็นแน่!” ตอนนี้จางหยวนยังไม่รู้เรื่องอะไรเลย มื้ออาหารที่ตู้เหิงเซิงงชวนเขาไปกินนั้น แทบจะเรียกได้ว่าเป็นการ “เลี้ยงต้อนรับ” ที่เต็มไปด้วยอันตราย! และอาจจะพลาดท่าเสียตัวได้ง่ายๆ! แต่แม้รู้ว่าเป็นกับดัก จางหยวนก็ยังไม่มีเวลาคิดถึงเรื่องนั้นเพราะเขามีเรื่องสำคัญที่ต้องทำรออยู่!เพิ่งวางสายจากตู้เหิงเซิงไปไม่
หากเขาไม่มีความสามารถอะไรเลยเหมือนจินฟานที่สนใจแต่ประชาสัมพันธ์ยาสุดพิเศษ เช่นนั้น แม้จ้าวลี่ซานจะแนะนำเขาให้เพื่อนร่วมอาชีพมากแค่ไหนก็ไม่มีประโยชน์! หลังจากได้ยินเช่นนั้น จางหยวนพยักหน้าอย่างแรง “อาจ้าว ผมเข้าใจความหมายของคุณแล้ว! ขอบคุณที่ช่วยแนะนำคนรู้จักให้ ผมจะไม่ทำให้คุณผิดหวังแน่นอน!" ขณะพูดประโยคนี้ จางหยวนรู้สึกหงุดหงิดอยู่บ้าง งานหลักของเขาควรเป็นแพทย์แผนจีนชัดๆ แต่ทำไมตอนนี้ถึงโด่งดังเพราะเป็นสัตวแพทย์ไปได้? หรือว่า......ต่อไปทุกคนจะคิดว่าเขาเป็นสัตวแพทย์ชื่อดัง ไม่มีใครรู้ว่าเขาเป็นแพทย์แผนจีน?พอคิดว่าอนาคตข้างหน้าเวลาเดินไปบนถนน เจอใครก็ทักมายและเรียกเขาว่าหมอจางอย่างสนิทสนม จางหยวนก็อดขนลุกไม่ได้ ทว่าตามคำกล่าวที่ว่าของผู้ใหญ่ให้ก็ต้องรับ ความหวังดีของจ้าวลี่ซาน จางหยวนก็ย่อมปฏิเสธไม่ได้เมื่อจางหยวนกลับไปที่ฟาร์มเลี้ยงผึ้ง ปัญหาอีกอย่างก็ตามมา! ตู้เหิงเซิงโทรมา “รบกวน” อีกครั้ง! พอเห็นเบอร์โทรศัพท์ของเขา จางหยวนแทบอยากโยนโทรศัพท์ทิ้งเมื่อคืนเขาบอกตู้เหิงเซิงชัดเจนแล้วว่า เขาจะไม่ผิดสัญญา ตู้เหิงเซิงคนนี้ทำไมถึงตื้อไม่เลิกเช่นนี้?จางหยวนรับสายทันท
พ่อลูกตระกูลจ้าวพยายามโน้มน้าวจางหยวนให้รับซองแดง แต่จางหยวนยืนกรานไม่รับสุดท้ายเมื่อไม่มีทางอื่น ทั้งสองจึงต้องยอมแพ้ แต่ไม่นานดวงตาของจ้าวลี่ซานก็เป็นประกาย เขาคิดหาวิธีตอบแทนจางหยวนได้แล้ว! “พี่หยวน ไม่รับซองแดงก็ไม่เป็นไร แต่อาจ้าวขอเชิญเอ็งไปกินข้าว เอ็งต้องห้ามปฏิเสธนะ!” จ้าวลี่ซานพูดพร้อมรอยยิ้ม จางหยวนพยักหน้ายิ้ม “กินข้าวได้อยู่แล้ว ต้องสั่งอาหารเพิ่มสักสองอย่างนะ ผมกินเยอะ! ฮ่าๆ” คำพูดที่ตรงไปตรงมาทำให้คนทั้งสามถึงกับหัวเราะลั่น เมื่อถึงเวลามื้ออาหารกลางวัน จางหยวนก็รู้ว่าทำไมจ้าวลี่ซานถึงเชิญเขาไปกินข้าว ถึงจะบอกว่าเชิญไปกินข้าว แต่เป้าหมายที่แท้จริงของจ้าวลี่ซานคือการแนะนำคนรู้จักให้จางหยวน! เขาเชิญเจ้าของฟาร์มเลี้ยงสัตว์หลายรายในเมืองมาด้วยกัน และแนะนำให้รู้จักกับจางหยวน พร้อมทั้งเล่าเรื่องที่จางหยวนเอาชนะจินฟานเมื่อเช้าให้ฟัง เมื่อเหล่าเจ้าของฟาร์มได้ยินว่าจางหยวนสามารถรักษาสัตว์ป่วยที่แม้แต่ช่างเทคนิคจากโรงงานผลิตยาสัตว์ก็รักษาไม่ได้ พวกเขาจึงรู้สึกอยากรู้จักจางหยวนกันมากขึ้นทันทีที่จางหยวนเข้าใจเจตนาของจ้าวลี่ซาน เขาก็เล่าเรื่องที่เคยรักษาโรคอหิวาต
ยิ่งสองพ่อลูกตระกูลโจวชมเชยจางหยวนมากใด สีหน้าของจินฟานก็ยิ่งแย่ลงเท่านั้นเป็ดสองตัวที่เดินเล่นอยู่บนพื้น ราวกับฝ่ามือที่ตบหน้าจินฟานอย่างแรงไม่เพียงเสียงดังฟังชัด และยังเจ็บปวดมาก!ยาของจางหยวนรักษาเป็ดให้หายดี ซึ่งพิสูจน์แล้วว่า กาฬโรคเป็ดที่จินฟานพูดถึงก่อนหน้านั้นเป็นเรื่องโกหกหมด!เมื่อจ้าวลี่ซานลุกขึ้นยืน เขามองจินฟานด้วยสายตาที่ไม่พอใจ“ช่างเทคนิคจิน ผมต้องการคำอธิบายจากคุณ! ก่อนหน้านี้คุณบอกว่าเป็ดของผมเป็นกาฬโรคเป็ด แล้วให้ผมซื้อยาจากต่างประเทศ ตอนนี้เป็นเช่นนี้ คุณจะอธิบายอย่างไร”สีหน้าของจินฟานเปลี่ยนไปเล็กน้อย แต่เขาก็ยังฝืนยิ้มออกมา“เถ้าแก่จ้าว คนเราย่อมผิดพลาดกันได้ ครั้งนี้ถือว่าผมดูผิดไป!”“จริงหรือ? อย่าคิดว่าคนอื่นโง่กันหมดนะ ช่างเทคนิคจิน ผมว่าต่อไปนี้คุณไม่จำเป็นต้องมาขายยาในเมืองของเราอีกแล้ว! ให้บริษัทของคุณส่งช่างเทคนิคคนอื่นมาแทนเถอะ ผมจะบอกกับคนอื่นๆ ในเมืองด้วย!” จ้าวลี่ซานพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาเหตุผลที่เขาเชื่อฟังจินฟาน เพราะเขามีความเชื่อมั่นในช่างเทคนิคของโรงงานผลิตยาเกินไปแต่จินฟานกลับใช้ความไว้วางใจของเขา พูดจาหลอกลวงจ้าวลี่ซาน จ้าวลี่ซาน
ทันใดนั้น จ้าวลี่ซานรีบวิ่งไปหาเป็ด แล้วนั่งยองตรวจสอบอ้วกของเป็ด ไม่นาน เขาก็เห็นพยาธิเม็ดเลือดสีแดงอยู่ด้านใน พยาธิตัวนั้นยาวประมาณเล็บนิ้วก้อย แต่บางมาก บางราวกับเชือก “นี่......นี่คือพยาธิเม็ดเลือดหรือ? หรือว่าเป็ดในฟาร์มของฉันจะติดโรคพยาธิเม็ดเลือดในเป็ดจริงๆ?” จ้าวลี่ซานพูดด้วยความตกตะลึง ทันทีที่จ้าวลี่ซานพูดจบ จินฟานก็เดินตรงเข้ามา มองจ้าวลี่ซานด้วยสายตาเย้ยหยัน “เถ้าแก่จ้าว คุณเป็นคนมากประสบการณ์ ทำไมถึงโดนหลอกด้วยเล่ห์เหลี่ยมแบบนี้ได้!”จ้าวลี่ซานเงยหน้าขึ้นอย่างประหลาดใจ “เล่ห์เหลี่ยม? เล่ห์เหลี่ยมอะไร?” “คำตอบง่ายมาก! พยาธิสีแดงตัวเล็กๆ เหล่านี้ถูกเป็ดอาเจียนออกมาจริง! แต่คุณอย่าลืมว่าเมื่อครู่เป็ดดื่มอะไรเข้าไป! พยาธิสีแดงตัวเล็กๆ เหล่านี้ที่อาจถูกป้อนเข้าไปตอนนั้นก็เป็นได้!” จินฟานพูดด้วยรอยยิ้มเยาะเย้ย เขาไม่เคยเชื่อว่าจางหยวนจะสามารถระบุอาการป่วยของเป็ดได้ ดังนั้นเขาจึงไม่เชื่อในสิ่งที่จางหยวนพูด เมื่อได้ยินเช่นนั้น จ้าวเจียซินก็ถอนหายใจออกมาพร้อมกับพูดว่า “เมื่อครู่ฉันยังคิดว่าคุณไม่ใช่คนโง่ แต่ตอนนี้ฉันรู้แล้วว่าฉันคิดผิด!” จินฟานขมวดคิ้วมองเขา “ค
จินฟานฮึดฮัดออกมา โดยไม่ได้พูดอะไรต่อแผนการรักษาของเขาก็เป็นแบบนี้แม้ว่าจะมียาสำหรับสัตว์ที่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันแล้วก็ตาม เป็ดที่รอดชีวิตได้ก็เป็นเพียงเป็ดที่ร่างกายแข็งแรงที่สุดเท่านั้นส่วนพวกเป็ดที่ป่วยหนัก ก็ต้องปล่อยให้รอความตายไปจ้าวลี่ซานคิดครุ่นดูแล้วก็เห็นด้วย จึงให้จ้าวเจียซินไปจับเป็ดป่วยมาแต่จินเฟินกลับอาสาเสียเอง เดินไปที่โรงเลี้ยงเป็ด แล้วจับเป็ดป่วยหนักที่สุดมาสองตัวสิ่งที่จินเฟินอยากเห็นที่สุดก็คือ จางหยวนฆ่าเป็ดทั้งสองตัวตายคาที่เช่นนั้น เขาก็จะใช้โอกาสนี้ให้จ้าวลี่ซานสั่งซื้อยาสำหรับสัตว์เพิ่มอีกสองกล่องได้เมื่อเห็นเป็ดทั้งสองตัวที่ป่วยจนแทบไม่มีแรงดิ้น จ้าวลี่ซานก็ทำหน้าแปลกๆจ้าวเจียซินกลับยิ้มเย้ยหยัน “จับเป็ดป่วยที่ใกล้ตายมาใช่หรือไม่ แต่ไม่เป็นไรหรอก! พี่หยวนจะรักษาเป็ดทั้งสองตัวให้หายได้......ใช่หรือไม่”พูดถึงตรงนี้ จ้าวเจียซินก็รู้ตัวว่าพูดออกไปเช่นนี้อาจไม่เหมาะ จึงรีบหันไปถามความเห็นของจางหยวนจางหยวนพยักหน้ายิ้ม “ไม่เป็นไร ตราบใดที่เป็ดทั้งสองตัวยังไม่ตาย ก็ยังมีความหวังที่จะรักษาให้หายได้!”จากนั้นเขาใช้ช้อนเล็กตักยาจากอ่างลายครามหน
เห็นเช่นนั้น จางหยวนก็ยิ้มออกมา “โปรดรอสักครู่! อาจ้าวและผู้เชี่ยวชาญจินท่านนี้ อย่ารีบร้อนไปเลย การสั่งซื้อก็ไม่ต้องรีบร้อนหรอก! จะลองดูหรือไม่ว่าผมจะรักษาเป็ดพวกนี้อย่างไร?”“หึ! ไม่สนใจ! ผมไม่อยากเสียเวลากับคนที่ไม่รู้เรื่องรู้ราว!” จินฟานพูดด้วยน้ำเสียงดูถูกจางหยวนจ้องมองจินฟาน “อาจ้าวตัดสินใจจะสั่งซื้อยาของคุณแล้ว อย่างไรเสียผู้เชี่ยวชาญจินจะไม่ให้เกียรติแม้แต่น้อยเลยหรือ?” จ้าวเจียซินเข้าใจและพูดต่อ “ใช่! ซื้อยาของคุณ แล้วคุณยังไม่ให้เกียรติขนาดนี้ ประเดี๋ยวผมจะลองติดต่อบริษัทยายี่ห้ออื่นทางออนไลน์ พวกเขาคงจะนำเข้ายาจากต่างประเทศได้เช่นกัน!”สีหน้าของจินฟานเปลี่ยนไปเล็กน้อยหากเป็นอย่างที่จ้าวเจียซินพูดจริงๆ และไปหาบริษัทยายี่ห้ออื่น วันนี้เขาคงจะมาเสียเที่ยว “เอาล่ะ! ถ้าเช่นนั้น ผมจะเห็นแก่หน้าเถ้าแก่จ้าว!” จินฟานพูดด้วยท่าทางใจกว้างจากนั้น ทุกคนก็เดินไปยังอ่างที่จางหยวนเตรียมไว้ เมื่อเห็นยาสมุนไพรในอ่าง และปูนขาวที่โรยอยู่ด้านบน จ้าวลี่ซานอดถามไม่ได้ว่า “พี่หยวน ข้างในนี้คืออะไรหรือ?”จางหยวนตอบด้วยรอยยิ้มว่า “อันนี้คือยาสมุนไพรบดเป็นผง ประกอบด้วยไฉหู เทียนหมา
แม้ว่าเขาจะพยายามกระซิบเสียงเบา แต่ทั้งจางหยวนและจ้าวเจียซินก็ยังได้ยินสิ่งที่เขาพูดอยู่ดี ทั้งสองสบตากัน แล้วต่างก็เห็นรอยยิ้มในสายตาของกันและกัน ที่แท้ก็เป็นแบบนี้เอง ที่แท้จินฟานก็เป็นแค่คนเขลาแต่จ้าวลี่ซานกลับตกใจกับคำพูดของจินฟาน รีบถามเขาเหมือนจะคว้าเอาหญ้าแพรกมาเป็นที่ยึดเหนี่ยว “ผู้เชี่ยวชาญจิน คุณมีวิธีรักษาโรคระบาดในเป็ดได้หรือไม่ หากเป็ดของผมตายหมด ผมคงขาดทุนมากแน่!” เมื่อเห็นว่าหลอกล่อจ้าวลี่ซานได้ จินฟานก็ยิ้มออกมา “จริงๆ แล้ว การรักษาโรคระบาดในเป็ดก็ไม่ยาก! บริษัทของเรานำเข้ายาสำหรับสัตว์ชนิดหนึ่งมาจากต่างประเทศ! สามารถเพิ่มภูมิคุ้มกันของเป็ดได้มากเลย!” “ถึงแม้ว่าราคาจะค่อนข้างสูง แต่หากเป็ดได้รับยานี้ เชื่อว่าน่าจะมีเป็ดรอดชีวิตจำนวนมาก!” จ้าวลี่ซานรีบถามว่า “แล้วตอนนี้มียาหรือไม่” “ตอนนี้ยังไม่มี! แต่หากคุณจ้าวลี่ซานโอนเงินเข้าบริษัทวันนี้ ผมสามารถให้บริษัทเร่งจัดส่งได้ภายในวันเดียวกัน!” จินฟานพูดพร้อมรอยยิ้ม แผนของเขาเรียบง่ายมากคือต้องการให้จ้าวลี่ซานซื้อยาที่ช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันของเป็ดชุดนั้น จินฟานไม่ได้โอ้อวด ยานั้นสามารถเพิ่มภูมิคุ้มกันของเป็ดไ