เมื่อเห็นท่านผู้เฒ่าหานที่ฟื้นขึ้นมาอย่างกะทันหัน หานเทียนซานก็รีบก้าวไปข้างหน้าแล้วพยุงตัวเขาขึ้นมา แล้วกล่าวอย่างห่วงใยว่า: “พ่อครับ? รู้สึกเป็นยังไงบ้าง? มีตรงไหนไม่สบายรึเปล่า?”“เพียะ!”ท่านผู้เฒ่าหานหันศีรษะแล้วง้างมือขึ้น ตบไปบนหน้าของหานเทียนซาน แล้วกล่าวด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยวว่า: “คุกเข่าลง! ขอโทษแพทย์เซียนเซียวเดี๋ยวนี้!”หานเทียนซานตะลึงงัน.....พอพ่อฟื้นขึ้นมา ก็ตบตนเองไปหนึ่งที“คุณพ่อ นี่พ่อกำลังทำอะไรอยู่เนี่ย?”หานเทียนซานไม่อยากจะเชื่อ สีหน้าเขาก็ได้แย่ลงเล็กน้อยท่านผู้เฒ่าหานขมวดคิ้ว และพูดด้วยน้ำเสียงที่เคร่งขรึมว่า “ไม่ได้ยินสิ่งที่ฉันพูดเหรอ? คุกเข่าลง แล้วขอโทษแพทย์เซียนเซียวซะ!”“ถ้าไม่ใช่เพราะแพทย์เซียนเซียว ฉันก็คงจะตายไปแล้ว!”เมื่อเห็นว่าหานเทียนซานไม่ขยับเขยื้อน ท่านผู้เฒ่าหานก็ตะโกนต่อไปว่า: “ถ้าลูกไม่คุกเข่า ก็จะถูกถอดออกจากตำแหน่งทั้งหมดในบริษัท! และจะถูกตัดสิทธิ์ในการรับมรดกของตระกูลหานด้วย!”ทันทีที่พูดคำนี้ออกมา หานเทียนซานก็ร้อนใจตอนนี้ เขาถึงได้รู้ว่า ท่านผู้เฒ่าหานเอาจริงหานเทียนซานก็รีบคุกเข่าลงแล้วกล่าวขอโทษเซียวเป่ยอย
จากนั้น เขาก็หักไม้เท้าด้วยมือเปล่า ต่อหน้าคนสามสี่คนนี้!เสียงดังกรอบ ไม้เท้ามู่หนานเนื้อทองสีดำมูลค่าหลายสิบกว่าล้านบาท ก็ถูกเซียวเป่ยหักออกเป็นสองชิ้นทันใดนั้น หานเทียนซานก็โกรธขึ้นมา แล้วตะโกน: “นาย นายหักมันแล้วงั้นหรอ?”นี่คือของสะสมที่มีมูลค่าสิบล้านบาทเชียวนะเว้ย!จากนั้น ในวินาทีต่อมา ภายใต้สายตาที่ตะลึงพรึงเพริดของหานเทียนซาน ท่านผู้เฒ่าหานและคนอื่นๆ เซียวเป่ยก็หยิบกระดูกชิ้นเล็กๆ ออกมาจากส่วนที่กลวงของไม้เท้า!ซือ!พอเห็นกระดูกขาวชิ้นนี้แล้ว ท่านผู้เฒ่าหานและหานเทียนซาน รวมถึงกู้โย่เสวี่ยเอง ต่างก็ตกใจกลัวจนสีหน้าซีดเซียวเล็กน้อย“นี่คืออะไรน่ะ?” หานเทียนซานตะลึงงัน และหวาดกลัวอย่างเห็นได้ชัด“ถ้าเดาไม่ผิดล่ะก็ นี่น่าจะเป็นกระดูกที่หักของท่านอ๋องราชวงศ์ก่อนคนนั้น”เซียวเป่ยกล่าวทันทีที่พูดคำนี้ออกมา สีหน้าของทุกคนต่างก็ตกใจจนเปลี่ยนไปเป็นอย่างมาก“คุณเซียว คุณพูดจริงเหรอ? นี้คือกระดูกมนุษย์จริงๆเหรอ?กู้โย่เสวี่ยกลัวจนเดินขึ้นไปที่ด้านหลังของเซียวเป่ย ดึงเสื้อของเขา แล้วถามอย่างระมัดระวัง“ใช่” เซียวเป่ยพยักหน้าสีหน้าของท่านผู้เฒ่าหานและหานเทียนซาน ก็เปลี่ยนไปมา
ในเวลานี้ ในห้องโถงเซียงเสวี่ยไห่เฉาปิงได้พาลูกน้องใต้อาณัติ ยืนอย่างเงียบ ๆ“ผู้อำนวยการครับ คุณว่า ต้องการรายงานเรื่องนี้ให้กับท่านประธานหานทราบจริงๆเหรอครับ?” ลูกน้องรู้สึกกังวลในใจเล็กน้อยเฉาปิงกล่าวว่า: “นี่เป็นเรื่องใหญ่ที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาบริษัท หากพวกเราสามารถเอาเป่ยเสวี่ยมาส์กมาได้ ตำแหน่งผู้จัดการทั่วไปของแผนกการตลาด ก็จะต้องเป็นของฉันอย่างแน่นอน”“พอถึงในตอนนั้น ตำแหน่งผู้อำนวยการแผนกที่แปด จะต้องเป็นแกที่รับผิดชอบ”เมื่อได้ยินเช่นนี้แล้วนั้น ลูกน้องก็ตื่นเต้นเอาไม่น้อย และกล่าวประจบประแจงด้วยรอยยิ้มว่า: “ถ้าอย่างนั้นก็ต้องขอบคุณผู้จัดการเฉามากๆเลยนะครับ นับจากนี้ไป เพื่อคุณเฉาแล้ว จะให้ผมบุกน้ำลุยไฟ ผมก็ยอมทั้งนั้น!”“ฮ่าฮ่าฮ่า!”เฉาปิงหัวเราะออกมาเสียงดัง และตบไหล่ลูกน้อง เขารู้สึกเบิกบานใจเป็นอย่างมากการเรียกว่าผู้จัดการในครั้งนี้ ทำให้เขารู้สึกสบายใจจริงๆทันใดนั้น เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นพอมาดูหมายเลขผู้ที่โทรมาแล้ว เฉาปิงก็รีบรับสายในทันที เขารีบพยักหน้าแล้วกล่าวด้วยรอยยิ้ม: “นายน้อย ท่านมีอะไรจะกำชับผมงั้นหรอครับ?”ในสายมีเสียงเกรี้ยวกราดเสียงหนึ่งด
“ใครก็ได้มานี่สิ เตะขามันซะ ให้มันคุกเข่าลง!”ซือซือ!เฉาปิงหวาดกลัวเป็นอย่างมาก...เขายังไม่ทันได้โต้ตอบ บอดี้การ์ดก็ได้ก้าวขาไปข้างหน้า แล้วใช้เท้าเตะไปที่ขาทั้งสองข้างของเฉาปิง จนเสียงดังพลั่กพลั่กถึงสองครั้งเสียงดังพลั่ก เฉาปิงคุกเข่าลงบนพื้น คร่ำครวญด้วยสีหน้าที่เจ็บปวด: “ประธานหาน ผมทำอะไรผิดเหรอครับ? ที่ผมทำแบบนี้ ล้วนแล้วแต่ทำเพื่อบริษัทของเรานะครับ...”“เหลวไหล!”หานเทียนซานตะโกนออกมาด้วยความโกรธ: “ชื่อเสียงเทียนเหอของพวกเรา ถูกคนสารเลวอย่างพวกแกทำลายไปหมดสิ้นแล้ว!”“แกรู้ไหมว่าปรมาจารย์เซียวคือใคร”เฉาปิงตะลึงงัน มองที่เซียวเป่ยด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวด และตะโกนว่า: “เขาก็เป็นแค่เถ้าแก่บริษัทเล็กๆบริษัทหนึ่งก็เท่านั้น ....”เพี้ยะ!หานเทียนซานรีบพุ่งไป ตบที่หน้าของเฉาปิง จนทำให้เขาต้องพลิกล้มลงกับพื้น และตะโกนออกมาด้วยความโกรธว่า: “ไอ้คนสารเลว ชอบดูถูกคนอื่น! เมื่อกี้นี้ปรมาจารย์เซียวได้ช่วยชีวิตท่านผู้เฒ่าเอาไว้! นึกไม่ถึงเลยว่าแกจะกล้ามาข่มขู่คุกคามท่านปรมาจารย์เซียว รนหาที่ตายหรือยังไง!”“นับจากนี้เป็นต้นไป แกถูกเทียนเหอไล่ออกแล้ว!”“ใครก็ได้เข้ามาห
ซูหว่านหันศีรษะกลับไป ก็เห็นว่าเซียวเป่ยกำลังพูดคุยกับกู้โย่เสวี่ยอย่างสนุกสนานจะเห็นได้ชัดว่า เซียวเป่ยมีความสุขมาก ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้มคิ้วที่สวยของซูหว่านขมวดกัน สีหน้าดูแย่ลงเล็กน้อยในช่วงสองปีที่ผ่านมา นับตั้งแต่ชีวิตสมรสของทั้งสองคนแตกร้าว นี่น่าจะเป็นตอนที่เซียวเป่ยหัวเราะได้อย่างมีความสุขที่สุดแล้วล่ะขณะที่กำลังคิดอยู่นั้น สายตาที่ซูหว่านมองไปที่กู้โย่เสวี่ย ก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกเกลียดชังเล็กน้อยตอนที่อยู่กับเธอ มีความสุขมากขนาดนั้นเลยเหรอ?พอหลี่เซียวลี่เห็นเซียวเป่ยพูดคุยสนุกสนานกับกู้โย่เสวี่ยเป็นธรรมดา จึงกระทืบเท้าแล้วพูดอย่างไม่พอใจว่า: “ ไอ้สารเลวคนนี้ นึกไม่ถึงว่าจะอยู่กับคุณหนูตระกูลกู้ได้อย่างมีความสุขขนาดนี้”“ประธานซู คุณเห็นหรือยังว่า เซียวเป่ยผู้ชายคนนี้ เป็นแค่ผู้ชายห่วยแตกคนหนึ่งก็เท่านั้น!”“เพิ่งผ่านมาได้ไม่นาน ก็สวีทกับคุณหนูตระกูลกู้ขนาดนี้แล้ว ก่อนหน้านี้ยังจะมาบอกว่าตัวเองไม่ได้สนใจคุณหนูกู้คนนั้นอยู่เลย ตอนนี้มาคิดดูแล้ว ล้วนเป็นคำโกหกที่ใช้หลอกลวงคุณทั้งนั้นเลยนะค!”ซูหว่านขมวดคิ้ว และถอนหายใจ“ประธานซูคะ พวกเราไม่เข้าไปเหรอคะ? ไปซักถาม
ซูหว่านกล่าว พร้อมยิ้มอย่างสวยงาม ในด้านบุคลิกท่าทางของเธอ ไม่ได้ด้อยไปกว่ากู้โย่เสวี่ยเลยทันใดนั้น ผู้หญิงที่สวยเพริศพริ้งทั้งสองคนนี้ ก็กลายเป็นจุดดึงดูดความสนใจของทุกคนที่อยู่ในงานมีคนจำนวนมากเริ่มถกเถียงพูดคุยกันอย่างเงียบๆเป็นการส่วนตัว“เอ๊ะ นั่นคุณหนูของตระกู้ไม่ใช่เหรอ? ผู้ชายที่อยู่ข้างๆเธอคือใครกัน? นึกไม่ถึงว่าจะถูกคุณหนูกู้จับ…”“คุณไม่รู้จักเหรอ?นั่นคืออดีตสามีของซูหว่านซีอีโอหญิงของปิงฉิ้นกรุ๊ป!”“ให้ตายเถอะ ไม่จริงมั้ง? ภรรยาเก่ากับแฟนคนปัจจุบัน จะไม่ทะเลาะกันเหรอ?”คนที่อยู่รอบๆพูดคุยเรื่องเหล่านี้กันอย่างจ้อกแจ้กจอแจ ซูหว่านกับกู้โย่เสวี่ยก็ใช่ว่าจะไม่ได้ยิน แต่แค่ไม่ได้เอามาใส่ใจก็เท่านั้นในทางตรงกันข้าม พวกเธอกลับมีความมั่นใจมากขึ้นไปซะอีกอีกอย่าง ยังคงแข่งขันกันอย่างลับๆอีกด้วยแม้ว่าซูหว่านจะบอกว่า ไม่อยากยุ่งกับชีวิตส่วนตัวของเซียวเป่ย แต่พอเห็นตอนที่กู้โย่เสวี่ยดึงเซียวเป่ยออกมา จิตใจที่ชอบเอาชนะคนอื่นของเธอ ก็ปลุกเร้าเธอขึ้นมาทันทีผู้หญิง สิ่งที่แพ้ไม่ได้เลย ก็คือห้ามแพ้แฟนคนปัจจุบันของอดีตสามีไม่ว่าแฟนคนนี้จะเป็นแฟนอย่างเป็นทางการหรือไม่เป็นทา
เซียวเป่ยกลอกตาใส่กู้โย่เสวี่ย และมองไปที่ซูหว่าน พร้อมอธิบายว่า: “คุณอย่าเข้าใจอะไรผิดนะ เธอกำลังล้อเล่นอยู่”“เหอะๆ ประธานเซียว ไม่จำเป็นต้องอธิบายอะไรให้ฉันฟังทั้งนั้นล่ะค่ะ นี่คือชีวิตส่วนตัวของคุณ คุณอยากจะเป็นสามีของใครก็เชิญเลยตามสบาย มันไม่เกี่ยวอะไรกับฉัน”ซูหว่านตอบอย่างเย็นชา และแสดงสีหน้าออกมาได้เฉยเมยมากสีหน้าของเซียวเป่ยก็ได้เปลี่ยนไป แต่ก็ไม่ได้อธิบายอะไรเพิ่มเติมอีกในเมื่อเข้าใจผิดแล้ว งั้นก็ปล่อยให้เข้าใจผิดต่อไปเถอะยังไงซะ ก็มีความเข้าใจผิดมากมายระหว่างพวกเขาอยู่แล้วจากนั้นเซียวเป่ยก็นั่งลงทันที กู้โย่เสวี่ยก็กะพริบตาหวานใส่เขา จงใจแสดงท่าทางที่ใกล้ชิดสนิทสนมต่อหน้าซูหว่าน แล้วโน้มตัวไปกระซิบว่า:“คุณเซียว คุณไม่โกรธใช่ไหมคะ? ฉันก็แค่อยากระบายความโกรธของคุณก็เท่านั้นเอง”“ไม่ได้โกรธ”เซียวเป่ยตอบอย่างจนใจ แล้วตามด้วยถอนหายใจออกมาซูหว่านที่อยู่ฝั่งตรงข้ามเห็นเซียวเป่ยกับกู้โย่เสวี่ยกระซิบกระซาบกันต่อหน้าตัวเอง ก็โกรธเป็นฟืนเป็นไฟในทันที แต่ก็ยังระงับความโกรธที่อยู่ในใจเอาไว้ได้ เธอลุกขึ้น และกล่าวอย่างเย็นชาว่า: “ในเมื่อประธานเซียวกับคุณหนูกู้มีเรื่องส่วนต
ความไม่พอใจและความโกรธเมื่อสักครู่นี้ ก็ได้หายไปในทันทีเซียวเป่ยชะงักไปครู่หนึ่ง จู่ๆก็รู้สึกเหมือนว่าตัวเองกำลังถูกหลอก“กู้โย่เสวี่ย กู้โย่เสวี่ย เธอเห็นแล้วใช่ไหม? คนที่เซียวเป่ยแคร์ ก็คือฉัน!”ซูหว่านแอบกล่าวอย่างภาคภูมิใจอยู่ในใจจากจุดนี้ ซูหว่านก็รู้ว่า ตัวเองได้ชนะแล้ว“คุณไม่โกรธแล้วเหรอ?” เซียวเป่ยถามซูหว่านส่ายหัว แล้วพูดว่า “ไม่โกรธ”“แต่ว่า ฉันอยากถามคุณว่า ทำไม คุณต้องตามฉันออกมาอธิบายด้วย?” ซูหว่านไล่บี้ถามเซียวเป่ยชะงักไปครู่หนึ่ง สีหน้าท่าทางสับสนเล็กน้อย และกล่าวอธิบายว่า: “ผมก็แค่ไม่อยากให้คุณเข้าใจผิด”“แค่นี้นี้เนี่ยนะ?” ซูหว่านถามเซียวเป่ยขมวดคิ้ว และพยักหน้า: “ใช่”“อ้อ”ซูหว่านมีสีหน้าที่ผิดหวังช่องว่างระหว่างสองคนนั้น ยังไม่ถูกทำลาย“ในเมื่อเป็นอย่างนี้แล้ว การเข้าใจผิดก็ได้รับการแก้ไขแล้ว คุณก็สามารถกลับไปปรนนิบัติคุณหนูกู้ของคุณต่อได้แล้วล่ะ” ซูหว่านสีหน้าเปลี่ยนไป และกล่าวด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาอีตาบื้อนี่!พูดคำพูดหวานๆง้อตัวเองหน่อยไม่ได้หรือไง?น่าโมโหจริงๆเลย!เซียวเป่ยมึนงง ผู้หญิงคนนี้เปลี่ยนหน้าเร็วเกินไปไหมเนี่ย“ถ้าอย่างนั้น…ผมข
ซูเทียนห้าวตอบว่า: “ฉันรู้แล้ว! พี่สาวของฉันเป็นยังไงบ้าง?”เสียงเย้าแหย่ดังมาจากอีกด้านของโทรศัพท์: “คุณวางใจได้ ไม่ตายหรอก พอคุณควบคุมบริษัทได้สำเร็จ และได้รับเงินสองร้อยห้าสิบล้านบาทมาเมื่อไหร่ พี่สาวของคุณก็จะกลับไปได้แล้ว”“ได้! แต่ฉันขอเตือนพวกแกนะ อย่าแตะต้องพี่สาวของฉัน!”ซูเทียนห้าวกล่าวอย่างเย็นชาชายฉกรรจ์ที่อยู่อีกด้านหนึ่งของโทรศัพท์ยิ้มแล้วพูดว่า “ไม่ต้องกังวล พวกเราทำงาน เชื่อถือได้แน่นอน”พูดจบ อีกฝ่ายก็วางสายโทรศัพท์ทันทีซูเทียนห้าวถอนหายใจด้วยความโล่งอก แต่กลับไม่ได้ผ่อนคลายเลย“พี่ครับ ผมขอโทษ... แต่ผมจำเป็นต้องทำแบบนี้! ผมอยากจะพิสูจน์ตนเองว่า ผมไม่ใช่เศษสวะ! ผมมีความสามารถ!” ซูเทียนห้าวกล่าวเบาๆ ความเย็นชาแวบขึ้นมาในนัยน์ตา............ตัดภาพมาที่เซียวเป่ยฮั่วเจิ้งซานอยู่ในร้าน พอมองดูเวลา ก็พบว่าผ่านไปหนึ่งชั่วโมงแล้วเห็นได้ชัดว่าเขากังวลมาก จึงถามว่า: “ปรมาจารย์เซียวเป่ย ไป๋อู๋ฉางนั่นจะกลับมาจริงๆเหรอ?”“ถ้าเธอยังไม่อยากตาย เธอก็จะมา ” เซียวเป่ยพูดอย่างสงบนิ่งทันทีที่พูดจบ ที่ประตูร้านขายของชำ ก็มีร่างลับๆล่อๆร่างหนึ่งปรากฏขึ้น ร่างนั้นเดินโซเซเล็
สิ่งที่น่ากลัวยิ่งกว่านั้นก็คือ พิษศพที่อยู่บนมือของชายชราในชุดดำ ในเวลานี้ได้ย้อนกลับ กระจายไปตามแขนของชายชรา และบุกเข้าไปจนถึงหน้าอก!เนื่องจากมีพิษศพอยู่บนร่างกายของเขามากเกินไป ในชั่วพริบตาเดียว ชายชราในชุดดำก็ล้มลงกับพื้น คร่ำครวญไม่สายขาด ผิวหนังทั้งตัวเปลี่ยนไปเป็นสีดำ และเริ่มเปื่อยเน่าทางด้านฝั่งนี้ เมื่อหญิงชราในชุดขาวเห็นเหตุการณ์นี้ ก็ตกใจจนมีสีหน้าที่ซีดเผือด ยังไม่ทันได้ครุ่นคิดอะไร ก็หันหลังกลับและวิ่งหนี!เธอรู้ดีว่า คืนนี้ได้พบกับยอดฝีมือแล้ว“คิดจะหนี มันไม่ง่ายขนาดนั้นหรอก!”เมื่อเซียวเป่ยเห็นหญิงชราในชุดขาวคิดจะวิ่งหนี ก็ยกมือขึ้นแล้วยิงเข็มเงินออกไปอีกสองสามเล่มหญิงชราในชุดขาวตอบสนองกลับแบบมีเงื่อนไข เธอเหวี่ยงไม้อาดูรที่อยู่ในมือ จากนั้นก็เกิดเสียงดังตึกตึกตึก และมีประกายไฟขึ้นมาเล็กน้อยทันทีแม้ว่าเข็มเงินส่วนใหญ่จะถูกสกัดกั้น แต่ก็มีเข็มเงินสองสามเล่มที่เจาะเข้าไปที่หน้าของหญิงชราชุดขาว และมีอีกเข็มหนึ่งในนั้นเจาะไปที่ตาของเธอ ทำให้มีเลือดไหลออกมาทันทีแต่หญิงชราชุดขาวกลับไม่คิดที่จะต่อสู้กลับเลยแม้แต่น้อย หันหลังกลับแล้ววิ่งหนีไป พร้อมกับเสียงดังฟรึ่บ
เซียวเป่ยพยักหน้าเบาๆ และกล่าวว่า “มาเร็วดีนี่”“แกจะตายเอง หรือว่าให้ฉันลงมือ?” ชายชราในชุดดำ ถามด้วยรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความดุร้ายในสายตาของเขา จัดการกับเด็กหนุ่มอย่างเซียวเป่ยนั้น เป็นอะไรที่ง่ายมากเดิมคิดว่าจะเป็นยอดฝีมือที่มีความแข็งแกร่งอะไร คิดไม่ถึงว่า จะเป็นเด็กเหลือขอที่อ่อนหัดคนหนึ่งสิ่งนี้ทำให้เฮยไป๋อู๋ฉางที่อยากจะต่อสู้อย่างจริงจัง รู้สึกผิดหวังเป็นอย่างมากเซียวเป่ยยิ้มด้วยสีหน้าที่สงบนิ่งรอยยิ้มนี้ ทำให้เฮยไป๋อู๋ฉางขมวดคิ้วแน่นเด็กคนนี้ กำลังยิ้มเยาะเย้ยอยู่เหรอ?“ดูเหมือนว่า แกจะเลือกให้พวกเราลงมือ” เฮยอู๋ฉางกล่าวด้วยรอยยิ้มที่ชั่วร้าย เผยให้เห็นฟันเหลืองของเขาและในเวลานี้ กู้โย่เสวี่ยที่นั่งคว่ำหน้านอนอยู่บนโต๊ะก็ตื่นขึ้นมา ขยี้ตาอย่างงัวเงีย มองไปที่ร่างของทั้งสองคนที่จู่ๆก็ปรากฏตัวขึ้นในร้าน และถามอย่างงุนงงว่า: “เกิดอะไรขึ้นเหรอ?”ในเวลานี้ เฮยอู๋ฉางก็ลงมือทันที เขาใช้ฝ่ามือ โจมตีเซียวเป่ยผ่านทางอากาศ!ฝ่ามือนี้ ลมที่อยู่ตรงฝ่ามือแฝงไปด้วยหมอกควันสีดำ และมีกลิ่นเหม็นมากระทบมาที่ใบหน้า!กู้โย่เสวี่ยตกใจมากจนร้องเสียงดัง และลืมที่จะหลบหลีกเซียวเป่ย
พอรับสาย เสียงซักถามด้วยความเกรี้ยวโกรธของซูหว่านก็ดังมาจากอีกด้านหนึ่งของโทรศัพท์: “เซียวเป่ย คุณหมายความว่ายังไงกันแน่?”เซียวเป่ยชะงักไป รู้สึกสับสนเล็กน้อย จึงขมวดคิ้วแล้วถามว่า: “ประธานซู ผมไม่เข้าใจว่าคุณกำลังพูดถึงอะไรอยู่?”“ยังแกล้งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้อีกเหรอ?เป่ยเสวี่ยมาส์ก คุณจะอธิบายยังไง!” ซูหว่านซักถามด้วยน้ำเสียงเย็นชาเซียวเป่ยขมวดคิ้วเล็กน้อย แล้วพูดว่า “เป่ยเสวี่ยมาส์ก? มีปัญหาอะไรหรือเปล่า?”“เซียวเป่ย! คุณไม่คิดว่าตนเองในตอนนี้ ไร้ยางอายมากเหรอ?” ซูหว่านโกรธมากตอนนี้การที่เซียวเป่ยแสร้งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ มันเหมือนกับว่าเขาจงใจโอ้อวด“ผมไร้ยางอาย?”เซียวเป่ยขมวดคิ้ว และรู้สึกโกรธขึ้นมามาแบบไม่มีปี่มีขลุ่ยเลยซูหว่านกล่าวอย่างเย็นชาว่า: “ยังจำสิ่งที่คุณพูดเอาไว้ก่อนหน้านี้ได้ไหม?คุณบอกว่าตนเองจะไม่พึ่งพาใคร เพื่อจะพิสูจน์ให้ฉันเห็น! แล้วตอนนี้ล่ะ? สุดท้ายคุณก็พึ่งพาคุณหนูตระกูลกู้คนนั้น แล้วแอบทำอะไรกับมาส์กหน้านั่น!”“ไม่อย่างนั้น อาศัยแค่ตัวคุณเอง จะมีคุณสมบัติไปถึงอันดับที่สี่ของรายการยอดขายระดับประเทศเหรอ?”หลังจากได้ยินคำพูดเหล่านี้ เซียวเป่ยก็เพิ่งตอบ
“หัวหน้าตระกูลฮั่ว คุณเข้าใจอะไรผิดไปหรือเปล่า? เศษสวะอย่างไอ้เซียวเป่ยเนี่ยนะ ช่วยชีวิตคุณ?”ฉินเฟิงถามด้วยความประหลาดใจทันใดนั้นสีหน้าของฮั่วเจิ้งซานก็เปลี่ยนไปเป็นแย่มากทันที และกล่าวอย่างไม่พอใจว่า: “ประธานฉินใช่ไหม ผมจะเตือนคุณเป็นครั้งสุดท้ายนะ ได้โปรดให้เกียรติปรมาจารย์เซียวด้วย!”พูดจบ ฮั่วเจิ้งซานก็เฉยเมยต่อสีหน้าที่ประหลาดใจของฉินเฟิง และกล่าวกับเซียวเป่ยว่า: “ปรมาจารย์เซียว พวกเราไปกันเถอะ”เซียวเป่ยพยักหน้า เดินตามฮั่วเจิ้งซานไปขึ้นรถแล้วจากไปซูหว่านกับฉินเฟิงยืนอยู่ที่เดิม ด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยงุนงงสงสัย“แม่งเอ๊ย! ทำเป็นวางมาด? ไม่รู้ว่าใช้วิธีการสกปรกอะไรในการหลอกลวงหัวหน้าตระกูลฮั่ว!” ฉินเฟิงบ่นอย่างไม่พอใจสายตาของซูหว่าน มองดูรถที่กำลังจากไปอยู่ตลอดเวลา และรู้สึกอึดอัดอยู่ใจเป็นอย่างมากไม่รู้เป็นเพราะอะไร พอเห็นท่าทีที่ฮั่วเจิ้งซานมีต่อเซียวเป่ย ทำให้ซูหว่านรู้สึกเสียใจเป็นอย่างมากตนเองเป็นคนผิดอย่างนั้นเหรอ?ตนรู้สึกเกรงใจและชื่มชมฮั่วเจิ้งซาน แต่เขากลับเคารพนบนอบต่อเซียวเป่ยเป็นอย่างมาก“หว่านเอ๋อร์ เป็นอะไรไปเหรอ?”เมื่อฉินเฟิงเห็นซูหว่านจ้องมองรถที
“พ่อหนุ่มคิดว่า ยาอายุวัฒนะแค่เม็ดเดียว สามารถพูดคำเหล่านี้ต่อหน้าฉันฉินเทียนหู่ได้อย่างนั้นเหรอ?”ในขณะนี้พอหลิวเซียนเหนียงได้ยินคำพูดของเซียวเป่ย ก็ขมวดคิ้วอันสวยงาม และรู้สึกว่าเซียวเป่ยใจกล้าเกินไปแล้วสีหน้าของเซียวเป่ยไร้ซึ่งความหวาดกลัว แล้วกล่าวว่า: “พักนี้ท่านฉินรู้สึกแน่นหน้าอกตลอดเวลาใช่ไหม ตอนกลางคืนก็นอนไม่หลับเป็นเวลานาน?”ฉินเทียนหู่ขมวดคิ้ว แล้วกล่าวอย่างเย็นชาว่า: “ช่างนี้ฉันนอนไม่หลับ มีปัญหาอะไรไหม?”เซียวเป่ยส่ายหัวแล้วกล่าวว่า: “ท่านฉิน นี่ไม่ใช่อาการนอนไม่หลับ แต่เป็นเพราะพลังงานรั่วไหล และสูญเสียพลังชีวิต ถ้าผมดูไม่ผิด ท่านฉินไม่เพียงแต่นอนไม่หลับเท่านั้น แต่ยังรู้สึกชาที่แขนขาด้วย บางครั้งอาจจะเป็นลมหมดสติไปชั่วขณะ”ทันทีที่พูดคำเหล่านี้ออกมา สายตาของฉินเทียนหู่ก็เปลี่ยนไปทันทีทำไมเด็กคนนี้ ถึงได้พูดได้แม่นยำขนาดนี้?แต่ว่า แพทย์ที่อยู่ข้างกายตนบอกว่าตนเองไม่เป็นไร แค่ทำงานหนักจนเกินไป พักผ่อนให้เยอะๆก็พอแล้วดังนั้น ฉินเทียนหู่จึงครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง และพูดอย่างเย็นชาว่า: “เอาล่ะ ฉันมีหมอประจำตัวอยู่ข้างกาย ถ้ามีปัญหา ไม่จำเป็นต้องให้พ่อหนุ่มมาเตือนฉั
หลิวเซียนเหนียงหันกลับมา จ้องมองเซียวเป่ยด้วยสีหน้าท่าทางที่สงสัยและประหลาดใจแล้วถามว่า “นี่คือยาที่คุณทำเหรอ?”“ใช่” เซียวเป่ยตอบอย่างเรียบง่ายบนใบหน้าที่สวยงามของหลิวเซียนเหนียงเต็มไปด้วยสีหน้าที่ประหลาดใจฉินเทียนหู่ขมวดคิ้วแล้วถามว่า “คุณหลิวเห็นอะไรไหม?มันเป็นของจริงหรือของปลอม?”ผู้มีอิทธิพลคนอื่นๆ ต่างก็พากันเอ่ยปากสอบถามกันเป็นแถว“หลิวเซียนเหนียง คุณพูดมาตามตรงเถอะ”“ตามความคิดของผม ยาอายุวัฒนะบ้าอะไรเนี่ย เป็นของปลอมร้อยเปอร์เซ็นต์!”“ท่านฉิน ท่านสามารถดำเนินการได้เลย”เมื่อได้ยินเสียงเย้าแหย่ของคนที่อยู่รอบข้าง สีหน้าของเซียวเป่ยก็ยังคงเต็มไปด้วยความเฉยเมยสีหน้าของฉินเทียนหู่ก็เคร่งขรึมสุดขีดเช่นกัน เมื่อเห็นว่าหลิวเซียนเหนียงไม่ได้พูดเป็นเวลานาน ตัดสินด้วยตนเองในใจ เขามองไปที่เซียวเป่ยด้วยสีหน้าที่แย่มาก โบกมือแล้วพูดว่า: “ใครก็ได้มานี่ที! จับตัวเด็กคนนี้เอาไว้เดี๋ยวนี้!”ทันทีที่พูดจบ บอดี้การ์ดสองก็กำลังจะลงมือ“เดี๋ยวก่อน”ทันใดนั้น หลิวเซียนเหนียงก็เอ่ยปากพูด“คุณหลิว?” ฉินเทียนหู่รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยหลิวเซียนเหนียงมองไปที่เซียวเป่ยอีกครั้ง ดูเหมือนจ
“พ่อหนุ่ม พ่อหนุ่มรู้ไหมว่า คนที่หลอกลวงฉันฉินเทียนหู่จะต้องมีจุดจบอย่างไร!”ฉินเทียนหู่โกรธ!เห็นได้อย่างชัดเจนว่า หลายปีที่ผ่านมานี้ ไม่เคยมีใครกล้าเย้าแหย่ตนเอง ต่อหน้าผู้คนมากมายขนาดนี้ยาอายุวัฒนะ?ยืดอายุขัยได้อีกห้าปี?ยาล้ำค่าเช่นนี้ จะใช้กระดาษหนังสือพิมพ์ห่อได้อย่างไร?เซียวเป่ยกลับยิ้มเบาๆแล้วกล่าวว่า “ตอนที่ออกมาผมรีบมาก ผมหากล่องไม่เจอ ก็เลยใช้กระดาษหนังสือพิมพ์ห่อ”ฉินเทียนหู่ขมวดคิ้วแน่น สีหน้าเคร่งขรึมสุดขีด ราวกับว่าเป็นเสือร้ายที่กำลังจะบ้าคลั่ง!ใครก็ได้มานี่ที! จับตัวไอ้หนุ่มที่มาก่อความวุ่นวายคนนี้ให้ฉันหน่อย!”ฉินเทียนหู่ตะคอกด้วยความโกรธทันใดนั้น บอดี้การ์ดทั้งสองคนที่อยู่ด้านหลังฉินเทียนหู่ก็แสดงตัวออกมา เอามือจับตรงสะเอว และจ้องมองเซียวเป่ยด้วยสายตาที่เย็นชาเซียวเป่ยขมวดคิ้วเล็กน้อย แล้วกล่าวว่า “ท่านฉิน ดูยาอายุวัฒนะของผมก่อนค่อยว่ากัน?”“ยังต้องดูอีกเหรอ?”ฉินเทียนหู่พูดอย่างย็นชาฮั่วเจิ้งซานรีบเกลี้ยกล่อมว่า: “ท่านฉิน ท่านอย่าเพิ่งใจร้อนไปเลย ปรมาจารย์เซียวไม่มีเจตนาอื่น ถ้าคุณยอมที่จะเชื่อผม โปรดให้โอกาสปรมาจารย์สักครั้ง ดูยาอายุวัฒนะนี้หน่อย
ทันทีที่เซียวเป่ยพูดคำเหล่านี้ออกมา ก็ดึงดูดสายตาของทุกคนที่อยู่ตรงนั้นทันที“ยาอายุวัฒนะ?”“ยาอายุวัฒนะอะไร? ไม่เคยได้ยินมาก่อนเลย”“พ่อหนุ่ม รู้ไหมว่านี่เป็นวาระโอกาสแบบไหน? ถ้ายังกล้าพูดจาเหลวไหลอีก ก็ไสหัวออกไปซะ!”ทุกคนดูไม่เป็นมิตรมาก และพากันตำหนิเซียวเป่ยฮั่วเจิ้งซานก็ตกตะลึง และตื่นตระหนกเล็กน้อย จากนั้นก็รีบลุกขึ้นแล้วอธิบายว่า: “ทุกท่าน ต้องขออภัยด้วย ยาอายุวัฒนะที่ปรมาจารย์เซียวกล่าวถึง... เป็นยาที่เขาเพิ่งจะกลั่นทำด้วยตนเองเมื่อสักครู่นี้”หลังจากพูดประโยคนี้จบ สีหน้าของทุกคนที่อยู่ในห้องส่วนตัวก็เปลี่ยนไป ตอนแรกรู้สึกประหลาดใจ จากนั้นก็รู้สึกสงสัย สุดท้ายพวกเขาก็รู้สึกโกรธ!เพียะ!ซุนฝูลู่วางถ้วยชาลงบนโต๊ะน้ำชาที่อยู่ด้านขวามืออย่างแรง และกล่าวอย่างไม่พอใจว่า: “ท่านหัวหน้าตระกูลฮั่ว ผมให้คุณพาไอ้หนุ่มคนนี้เข้ามา ก็ถือว่าแหกกฎแล้ว ตอนนี้ไอ้หนุ่มคนนี้ยังกล้ามาพูดจาไร้สาระ และจะใช้ยาอายุวัฒนะที่พวกเราไม่เคยได้ยินมาก่อนอะไรนั่นแลกกับหินจิตวิญญาณ แถมยังเป็นของที่เขาทำขึ้นมาด้วยตนเองอีกด้วย”“ปรมาจารย์ฮั่ว คุณคิดว่าพวกเราทุกคนที่อยู่ที่นี่ โง่เขลาเบาปัญญามากหรือยังไง?