หลงเสี่ยวหานดูตื่นเต้นมากอย่างเห็นได้ชัดคนที่สามารถคิดค้นพัฒนาใบสั่งยาอันนี้ออกมาได้ ได้ต้องเป็นอัจฉริยะอย่างแน่นอน!หากให้คนที่อยู่สถาบันวิจัยต่างประเทศเหล่านั้นค้นพบใบสั่งยาอันนี้ คงจะสร้างความฮือฮาในวงการแพทย์อย่างแน่นอน!ใบหน้าของซูหว่านเต็มไปด้วยความเคอะเขิน จะบอกความจริงกับหลงเสี่ยวหานดีมั๊ยถึงยังไงซะ ครึ่งชั่วโมงที่แล้ว หลงเสี่ยวหานได้ดูถูกเหยียดหยามเซียวเป่ยต่อหน้า ที่ร้านอาหารดนตรีหากบอกเธอว่าเซียวเป่ยเป็นคนคิดค้นใบสั่งยานี้ หลงเสี่ยวหานจะคิดยังไง?หลังจากลังเลเล็กน้อย ซูหว่านก็ยิ้มเบาๆแล้วพูดว่า “ไม่มีอะไร ใบสั่งยานี้แผนกวิจัยและพัฒนาของบริษัทของฉันได้ทำการศึกษาวิจัยร่วมกัน”เมื่อได้ยินดังนี้ หลงเสี่ยวหานก็รู้สึกผิดหวังมากทันทีที่แท้เป็นความร่วมมือของทีมแต่ก็เพียงพอแล้วที่จะแสดงให้เห็นว่า ทีมวิจัยและพัฒนาของซูหว่านยอดเยี่ยมมาก“เสี่ยวหาน ใบสั่งยานี้มีปัญหามั๊ย?” ซูหว่านค่อนข้างที่จะกังวลเรื่องนี้หากหลงเสี่ยวหานสามารถแก้ปัญหาเรื่องใบสั่งยานี้ต้องใช้ร่วมกับศาสตร์การฝังเข็มของเซียวเป่ยได้ นั่นถึงสามารถเรียกได้ว่าเป็นใบสั่งยาที่ยอดเยี่ยมอย่างแท้
“ฉันเชื่อคุณค่ะ สู้ๆ!”พูดจบ ไม่ว่าเซียวเป่ยจะได้ยินหรือไม่ก็ตาม กู้โย่เสวี่ยหันศีรษะแล้วก็วิ่งไปเซียวเป่ยตกตะลึง เอียงศีรษะ มองไปที่ไฟท้ายของรถที่จากไป และยิ้มอย่างช่วยไม่ได้เมื่อเทียบกับซูหว่านแล้ว กู้โย่เสวี่ยดูเหมือนจะน่ารักและไร้เดียงสาก่อนเล็กน้อยอีกอย่าง ก็เหมือนกับซูหว่านที่เชื่อมั่นในตนเองอย่างไม่มีเงื่อนไขเมื่อสามปีที่แล้วเซียวเป่ยถอนหายใจออกมาทางปาก ในสมองมีความสับสนเล็กน้อยภายใต้ความเบื่อหน่าย เขานึกถึงเรื่องนั้นที่ซูหว่านซักถามตนไปเมื่อตอนกลางวันครุ่นคิดสักพัก เขาก็เปิดเวยป๋อ ค้นหาบัญชีที่ชื่อ “สโนว์สาวแสนเย็นชา”มันเป็นของกู้โย่เสวี่ยจริงๆจำนวนแฟนคลับไม่น้อยเลย มีแฟนคลับเป็นแสนกว่าคนไม่ค่อยมีการอัปเดตความเคลื่อนไหวมากนัก ไม่ว่าจะก่อนหน้าหรือภายหลังก็มีเพียงสี่ถึงห้าโพสต์เท่านั้น ทั้งหมดล้วนเป็นรูปถ่ายเซลฟี่ที่ไปเที่ยวก่อนหน้านี้ ด้านล่างเต็มไปด้วยคอมเมนต์ของสาวสวยการอัปเดตความเคลื่อนไหวล่าสุดนี้ เกี่ยวกับ “เป่ยเสวี่ยมาร์ค” เป็นการอัปเดตความเคลื่อนไหวที่ห่างจากครั้งที่แล้วครึ่งปีและได้รับความนิยมอย่างมาก มีการส่งต่อโพสต์พ
ไม่นานโพสต์เวยป๋อนี้ก็ถูกกองกำลังลับ ทำให้กลายเป็นหัวข้อค้นหายอดนิยมเซียวเป่ยก็ไม่อยากให้เป็นแบบนี้ แต่ไม่มีทางเลือก แพทย์ดีเด่นแห่งหัวเซี่ยเป็นหัวข้อที่ได้รับความนิยมสูงมากนอกจากนี้ ยังมีคนคอยก่อความวุ่นวายอยู่เบื้องหลัง ดังนั้น โพสต์นี้จึงติดอันดับที่สามที่มีผู้ค้นหามากที่สุดได้สำเร็จสร้างความฮือฮาให้กับสาธารณชนเป็นอย่างมาก!ขณะนี้ฉินเฟิงกำลังนั่งอยู่ในห้องส่วนตัวห้องหนึ่งของไนท์คลับ เสียงดนตรีดังกึกก้อง สาวสวยผ่านไปผ่านมา และยังมีเพื่อนขี้เมามากมายตอนนี้ เขาถือโทรศัพท์มือถือ ใบหน้าเต็มไปด้วยความชั่วร้าย ยิ้มเยาะเย้ยที่แผนการชั่วร้ายสำเร็จ และส่งข้อความไปยังผู้ใช้งานวีแชทหนึ่ง: “ทำได้ดีมาก! สร้างกระแสต่อไป ใส่ร้ายป้ายสีให้ไอ้เซียวเป่ยนั่นตายไปเลย!”“นอกจากนี้ ช่วยยกระดับภาพลักษณ์ของซูหว่านให้เป็นซีอีโอหญิงที่ยืดหยัดได้ด้วยตนเอง! ฉันมีรูปภาพอยู่สองสามรูป รูปหนึ่งเป็นรูปถ่ายหญิงแกร่งซูหว่าน และอีกรูปหนึ่งเป็นรูปถ่ายของเซียวเป่ยที่ทอดทิ้งเมียตัวเองไปสมรู้ร่วมคิดกับผู้หญิงคนอื่น โพสต์ออกไปสร้างกระแสอย่างต่อเนื่อง”ต่อมา ฉินเฟิงได้ส่งรูปถ่ายของซูหว่านที่ตนแอบถ
เช้าวันรุ่งขึ้นเซียวเป่ยตื่นนอนแต่เช้า และเริ่มเปิดร้านบูม บูม บูม...รถปอร์เช่ 911 คันหนึ่งขับผ่านมากู้โย่เสวี่ยก้าวลงมาจากในรถ แต่งกายด้วยชุดกีฬาสบายๆ ดูเป็นคนที่บริสุทธิ์และไร้เดียงสามาก“คุณมาทำไมครับ?” เซียวเป่ยถามอย่างหน้านิ่วคิ้วขมวดกู้โย่เสวี่ยกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “ ฉันมีธุระกับคุณค่ะ”“ธุระอะไรครับ?” เซียวเป่ยถาม“การแข่งขันรอบคัดเลือกในสัปดาห์หน้า พอการแข่งขันรอบแรกจะเริ่มขึ้น คนของทีมงานแพทย์ดีเด่นแห่งหัวเซี่ยจะบันทึกรายการสด คุณเป็นยังไงบ้าง ต้องการให้ฉันช่วยคุณจัดลำดับการลงสนามมั๊ย?”การแข่งขันแบบนี้ผนวกกับการอัดรายการการจัดลำดับการลงสนามสำคัญมากจะมีผลกระทบโดยตรงต่อการให้คะแนนของอาจารย์ที่ปรึกษาเซียวเป่ยไม่สนใจ พลางวาดยันต์สีเหลือง พลางยกกระจกสัญลักษณ์แปดทิศของตนเองขึ้นมา พูดแบบไม่ได้ใส่ใจว่า: “ ก็แล้วแต่ จะลงสนามแข่งตอนไหนก็เหมือนกันหมด ผมมีแพลนว่าจะเผาหลอมยาของตนเอง”กู้โย่เสวี่ยเงียบไปจากนั้น ถามด้วยความสงสัยว่า: “เผาหลอมยาของตนเอง? คุณเซียว คุณไม่ได้ล้อเล่นใช่มั๊ย? อาจารย์ที่ปรึกษาและคนอื่นๆต่างก็ได้หารือและให้ใบสั่งยาออกมาแล้ว เผ
หลี่ชิงซานขมวดคิ้วเล็กน้อย แล้วกล่าวว่า: “การแข่งขันไม่ได้กำหนดกติกาว่าไม่ให้ไม่สามารถใช้ใบสั่งยาของตนเอง เพียงแต่คุณหนูกู้ หากเซียวเป่ยอยากจะเผาหลอมยาตามใบสั่งยาของตนเองจริงๆ งั้นทีมอาจารย์ที่ปรึกษาอย่างพวกเราจะให้คะแนนและปฏิบัติต่อเขาอย่างเข้มงวดมากขึ้น หวังว่าคุณหนูกู้จะไปบอกเซียวเป่ยว่า อย่ายโสโอหังหวังเกินตัวจนเกินไป และคิดว่าพอดังขึ้นมาก็จะมีชื่อเสียงในทันที”“การแพทย์แผนจีน คือการศึกษาวิจัยที่มุ่งเน้นไปที่การวิจัย ไม่ต้องคิดว่าจะพึ่งพาวงการบันเทิงเพื่อให้ได้รับกระแสนิยมและความสนใจ”คำพูดเหล่านี้ของหลี่ชิงซาน ตรงประเด็นมากศาสตร์ทางการแพทย์ของเซียวเป่ย เขาค่อนข้างที่จะยอมรับ แต่ว่าวิธีการแบบนี้เขาไม่ค่อยเห็นด้วยในการแข่งขันระดับมืออาชีพแบบนี้ การเผาหลอมยาตามสูตรของตนเองนั้นอันตรายมากประการแรก ใบสั่งยาจะต้องได้รับการอนุมัติจากทีมอาจารย์ที่ปรึกษา ประการที่สอง ประสิทธิภาพของใบสั่งยาจะต้องยอดเยี่ยมกว่าใบสั่งยาที่ทีมอาจารย์ที่ปรึกษาให้ไม่อย่างนั้น ก็ทำได้แค่รอให้ถูกคัดตกรอบเท่านั้น“ฉันรู้ เดี๋ยวฉันจะเตือนคุณเซียวเองค่ะ” กู้โย่เสวี่ยกล่าวด้วยยิ้มหล
เมื่อเห็นดังนี้ เซียวเป่ยจึงพูดอย่างสงบนิ่งว่า: “หัวหน้าตระกูลฮั่ว ลุกขึ้นเถอะครับ ดื่มชาก่อน จิตใจจะได้สงบลง”พอฮั่วเจิ้งซานได้ยินดังนี้ ก็ลุกขึ้น หยิบถ้วยชาบนโต๊ะขึ้นมาแล้วดื่มหมดภายในอึกเดียวหลังจากที่น้ำชาถ้วยนี้ลงท้อง ความร้อนผะผ่าวและความรู้สึกตึงเครียดบนร่างกายของเขาก็หายไปในทันทีจากนั้น เซียวเป่ยก็หยิบยันต์สีเหลืองที่เพิ่งวาดใหม่ออกมาและมอบให้ฮั่วเจิ้งซานแล้วพูดว่า: “นำยันต์แคล้วคลาดนี้ติดตัวไปด้วย แล้วคุณก็จะปลอดภัย”“ยันต์แคล้วคลาด? ใช้ได้ผลเหรอ?” ฮั่วเจิ้งซานรับยันต์สีเหลืองมา สีหน้าเปลี่ยนไปเป็นอย่างมากเซียวเป่ยอธิบายว่า: “ถ้าหัวหน้าตระกูลฮั่วเชื่อในตัวผม ก็ให้พกติดตัวไปด้วย หากไม่เชื่อ ก็ให้นำกล่องผ้านี้กลับไปเถอะครับ”เมื่อได้ยินดังนี้ ฮั่วเจิ้งซานก็รีบพูดด้วยรอยยิ้มที่เยินยอด้วยความประจบว่า: “เชื่อ ผมเชื่อปรมาจารย์เซียว งั้นกระผมขอตัวไปก่อนนะครับ”เซียวเป่ยพยักหน้ามองดูฮั่วเจิ้งซานจากไปและพูดอีกว่า:“หัวหน้าตระกูลฮั่วในช่วงสองสามวันนี้อยู่ที่เจียงจงจะเป็นการดีที่สุด หน้าผากระหว่างหัวคิ้วทั้งสองของคุณมีพลังมืดอยู่ หากเดาได้ถูกต้องล่ะก็ สองวั
เซียวเป่ยรีบเดินเข้าไปในห้องน้ำ อาบน้ำ จากนั้นเดินออกไป เปิดประตูร้านเล็กๆ และสูดอากาศบริสุทธิ์จากภายนอกเข้าลึกๆสดชื่นจริงๆ!“ท่านอาจารย์ได้ทิ้งศาสตร์การแพทย์โบราณใบสั่งยาโบราณศาสตร์ลึกลับโบราณและเคล็ดลับด้านศิลปะการต่อสู้ไว้มากมาย สามารถลองเรียนรู้สิ่งเหล่านั้นได้แล้ว”เซียวเป่ยพึมพำด้วยเสียงเบาๆทันใดนั้น โทรศัพท์มือถือของเขาก็ดังขึ้นพอดู ก็เห็นว่าเป็นหวังหู่ที่โทรมา“แพทย์เซียนเซียว วันนี้คุณมีเวลามั๊ย? คุณช่วยตรวจภรรยาผมหน่อยได้มั๊ยครับ?” หวังหู่กล่าวถามด้วยความเคารพเซียวเป่ยยิ้มเบา ๆ และพูดว่า “มีเวลาครับ”“งั้นก็เยี่ยมเลย ผมจะไปรับคุณตอนนี้เลยนะครับ” หวังหู่พูดอย่างตื่นเต้นเซียวเป่ยตอบกลับ: “ได้ครับ”ยี่สิบนาทีต่อมา หวังหู่ขับรถแลนด์โรเวอร์มารับเซียวเป่ยไปด้วยตัวของตนเองเมื่อมาถึงวิลล่าของหวังหู่ เซียวเป่ยลงจากรถ ขมวดคิ้วตรงหน้า ทั้งภายในและภายนอกวิลล่า มีกลิ่นอายความชั่วร้ายสีเทาจางๆจริงๆ“แพทย์เซียนเซียว เป็นอะไรไปครับ?” เมื่อเห็นเซียวเป่ยยืนนิ่งอยู่กับที่ หวังหู่จึงถามอย่างกังวล“ไม่มีอะไรครับ เข้าไปดูกันเถอะ”ต่อมา หวังหู่ก็พาเ
“แพทย์เซียนเซียว คุณต้องการสิ่งเหล่านี้ไปทำอะไร? สิ่งเหล่านี้สามารถรักษาโรคได้เหรอครับ?” หวังหู่ถามอย่างสงสัยเซียวเป่ยพยักหน้าแล้วพูดว่า: “เถ้าแก่หวัง ภรรยาของคุณไม่ได้ป่วยครับ ปัญหาอยู่ที่วิลล่าหลังนี้ของคุณ”“วิลล่า? หมายความว่ายังไง?” หวังหู่สับสนมากยิ่งกว่าเดิมเซียวเป่ยอธิบายว่า: “ตอนนี้ข้างนอก ผมพบว่าวิลล่าของเถ้าแก่หวังอยู่ในตำแหน่งฮวงจุ้ยที่ไม่ถูกต้อง และก็มีพลังชั่วร้ายแผ่ซ่านอยู่รอบๆ”“โดยเฉพาะห้องนอนห้องนี้ของภรรยาของคุณ พลังชั่วร้ายแข็งแกร่งที่สุด! และวิญญาณชั่วร้ายนี้ ส่งผลกระทบร้ายแรงต่อสุขภาพของภรรยาคุณ จุดบุตรธิดาบนใบหน้าของเธอปรากฎเป็นสีเทาซีด และเส้นก็มีรอยขาด ดังนั้น หลายปีที่ผ่านมา พวกคุณจึงไม่มีทายาท”“คุณดูสิ ตอนนี้เป็นเวลาเที่ยงตรง พระอาทิตย์ส่องแสงมาที่ห้องนอน แต่กลับไม่รู้สึกถึงความอบอุ่นเลย แม้แต่ บนร่างกายก็ยังคงมีความหนาวเย็นอยู่”“เถ้าแก่หวัง หลายปีผ่านมานี้ คุณไม่คิดว่ามันแปลกเหรอ?”หวังหู่ตกตะลึง พูดอย่างกระอึกกระอักว่า: “เอ่อ... ขอบอกแพทย์เซียนเซียวตามตรงว่า ก่อนหน้านี้ผมเคยหาปรมาจารย์มาดูให้แล้ว และก็บอกว่าไม่มีปัญห
ซูเทียนห้าวตอบว่า: “ฉันรู้แล้ว! พี่สาวของฉันเป็นยังไงบ้าง?”เสียงเย้าแหย่ดังมาจากอีกด้านของโทรศัพท์: “คุณวางใจได้ ไม่ตายหรอก พอคุณควบคุมบริษัทได้สำเร็จ และได้รับเงินสองร้อยห้าสิบล้านบาทมาเมื่อไหร่ พี่สาวของคุณก็จะกลับไปได้แล้ว”“ได้! แต่ฉันขอเตือนพวกแกนะ อย่าแตะต้องพี่สาวของฉัน!”ซูเทียนห้าวกล่าวอย่างเย็นชาชายฉกรรจ์ที่อยู่อีกด้านหนึ่งของโทรศัพท์ยิ้มแล้วพูดว่า “ไม่ต้องกังวล พวกเราทำงาน เชื่อถือได้แน่นอน”พูดจบ อีกฝ่ายก็วางสายโทรศัพท์ทันทีซูเทียนห้าวถอนหายใจด้วยความโล่งอก แต่กลับไม่ได้ผ่อนคลายเลย“พี่ครับ ผมขอโทษ... แต่ผมจำเป็นต้องทำแบบนี้! ผมอยากจะพิสูจน์ตนเองว่า ผมไม่ใช่เศษสวะ! ผมมีความสามารถ!” ซูเทียนห้าวกล่าวเบาๆ ความเย็นชาแวบขึ้นมาในนัยน์ตา............ตัดภาพมาที่เซียวเป่ยฮั่วเจิ้งซานอยู่ในร้าน พอมองดูเวลา ก็พบว่าผ่านไปหนึ่งชั่วโมงแล้วเห็นได้ชัดว่าเขากังวลมาก จึงถามว่า: “ปรมาจารย์เซียวเป่ย ไป๋อู๋ฉางนั่นจะกลับมาจริงๆเหรอ?”“ถ้าเธอยังไม่อยากตาย เธอก็จะมา ” เซียวเป่ยพูดอย่างสงบนิ่งทันทีที่พูดจบ ที่ประตูร้านขายของชำ ก็มีร่างลับๆล่อๆร่างหนึ่งปรากฏขึ้น ร่างนั้นเดินโซเซเล็
สิ่งที่น่ากลัวยิ่งกว่านั้นก็คือ พิษศพที่อยู่บนมือของชายชราในชุดดำ ในเวลานี้ได้ย้อนกลับ กระจายไปตามแขนของชายชรา และบุกเข้าไปจนถึงหน้าอก!เนื่องจากมีพิษศพอยู่บนร่างกายของเขามากเกินไป ในชั่วพริบตาเดียว ชายชราในชุดดำก็ล้มลงกับพื้น คร่ำครวญไม่สายขาด ผิวหนังทั้งตัวเปลี่ยนไปเป็นสีดำ และเริ่มเปื่อยเน่าทางด้านฝั่งนี้ เมื่อหญิงชราในชุดขาวเห็นเหตุการณ์นี้ ก็ตกใจจนมีสีหน้าที่ซีดเผือด ยังไม่ทันได้ครุ่นคิดอะไร ก็หันหลังกลับและวิ่งหนี!เธอรู้ดีว่า คืนนี้ได้พบกับยอดฝีมือแล้ว“คิดจะหนี มันไม่ง่ายขนาดนั้นหรอก!”เมื่อเซียวเป่ยเห็นหญิงชราในชุดขาวคิดจะวิ่งหนี ก็ยกมือขึ้นแล้วยิงเข็มเงินออกไปอีกสองสามเล่มหญิงชราในชุดขาวตอบสนองกลับแบบมีเงื่อนไข เธอเหวี่ยงไม้อาดูรที่อยู่ในมือ จากนั้นก็เกิดเสียงดังตึกตึกตึก และมีประกายไฟขึ้นมาเล็กน้อยทันทีแม้ว่าเข็มเงินส่วนใหญ่จะถูกสกัดกั้น แต่ก็มีเข็มเงินสองสามเล่มที่เจาะเข้าไปที่หน้าของหญิงชราชุดขาว และมีอีกเข็มหนึ่งในนั้นเจาะไปที่ตาของเธอ ทำให้มีเลือดไหลออกมาทันทีแต่หญิงชราชุดขาวกลับไม่คิดที่จะต่อสู้กลับเลยแม้แต่น้อย หันหลังกลับแล้ววิ่งหนีไป พร้อมกับเสียงดังฟรึ่บ
เซียวเป่ยพยักหน้าเบาๆ และกล่าวว่า “มาเร็วดีนี่”“แกจะตายเอง หรือว่าให้ฉันลงมือ?” ชายชราในชุดดำ ถามด้วยรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความดุร้ายในสายตาของเขา จัดการกับเด็กหนุ่มอย่างเซียวเป่ยนั้น เป็นอะไรที่ง่ายมากเดิมคิดว่าจะเป็นยอดฝีมือที่มีความแข็งแกร่งอะไร คิดไม่ถึงว่า จะเป็นเด็กเหลือขอที่อ่อนหัดคนหนึ่งสิ่งนี้ทำให้เฮยไป๋อู๋ฉางที่อยากจะต่อสู้อย่างจริงจัง รู้สึกผิดหวังเป็นอย่างมากเซียวเป่ยยิ้มด้วยสีหน้าที่สงบนิ่งรอยยิ้มนี้ ทำให้เฮยไป๋อู๋ฉางขมวดคิ้วแน่นเด็กคนนี้ กำลังยิ้มเยาะเย้ยอยู่เหรอ?“ดูเหมือนว่า แกจะเลือกให้พวกเราลงมือ” เฮยอู๋ฉางกล่าวด้วยรอยยิ้มที่ชั่วร้าย เผยให้เห็นฟันเหลืองของเขาและในเวลานี้ กู้โย่เสวี่ยที่นั่งคว่ำหน้านอนอยู่บนโต๊ะก็ตื่นขึ้นมา ขยี้ตาอย่างงัวเงีย มองไปที่ร่างของทั้งสองคนที่จู่ๆก็ปรากฏตัวขึ้นในร้าน และถามอย่างงุนงงว่า: “เกิดอะไรขึ้นเหรอ?”ในเวลานี้ เฮยอู๋ฉางก็ลงมือทันที เขาใช้ฝ่ามือ โจมตีเซียวเป่ยผ่านทางอากาศ!ฝ่ามือนี้ ลมที่อยู่ตรงฝ่ามือแฝงไปด้วยหมอกควันสีดำ และมีกลิ่นเหม็นมากระทบมาที่ใบหน้า!กู้โย่เสวี่ยตกใจมากจนร้องเสียงดัง และลืมที่จะหลบหลีกเซียวเป่ย
พอรับสาย เสียงซักถามด้วยความเกรี้ยวโกรธของซูหว่านก็ดังมาจากอีกด้านหนึ่งของโทรศัพท์: “เซียวเป่ย คุณหมายความว่ายังไงกันแน่?”เซียวเป่ยชะงักไป รู้สึกสับสนเล็กน้อย จึงขมวดคิ้วแล้วถามว่า: “ประธานซู ผมไม่เข้าใจว่าคุณกำลังพูดถึงอะไรอยู่?”“ยังแกล้งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้อีกเหรอ?เป่ยเสวี่ยมาส์ก คุณจะอธิบายยังไง!” ซูหว่านซักถามด้วยน้ำเสียงเย็นชาเซียวเป่ยขมวดคิ้วเล็กน้อย แล้วพูดว่า “เป่ยเสวี่ยมาส์ก? มีปัญหาอะไรหรือเปล่า?”“เซียวเป่ย! คุณไม่คิดว่าตนเองในตอนนี้ ไร้ยางอายมากเหรอ?” ซูหว่านโกรธมากตอนนี้การที่เซียวเป่ยแสร้งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ มันเหมือนกับว่าเขาจงใจโอ้อวด“ผมไร้ยางอาย?”เซียวเป่ยขมวดคิ้ว และรู้สึกโกรธขึ้นมามาแบบไม่มีปี่มีขลุ่ยเลยซูหว่านกล่าวอย่างเย็นชาว่า: “ยังจำสิ่งที่คุณพูดเอาไว้ก่อนหน้านี้ได้ไหม?คุณบอกว่าตนเองจะไม่พึ่งพาใคร เพื่อจะพิสูจน์ให้ฉันเห็น! แล้วตอนนี้ล่ะ? สุดท้ายคุณก็พึ่งพาคุณหนูตระกูลกู้คนนั้น แล้วแอบทำอะไรกับมาส์กหน้านั่น!”“ไม่อย่างนั้น อาศัยแค่ตัวคุณเอง จะมีคุณสมบัติไปถึงอันดับที่สี่ของรายการยอดขายระดับประเทศเหรอ?”หลังจากได้ยินคำพูดเหล่านี้ เซียวเป่ยก็เพิ่งตอบ
“หัวหน้าตระกูลฮั่ว คุณเข้าใจอะไรผิดไปหรือเปล่า? เศษสวะอย่างไอ้เซียวเป่ยเนี่ยนะ ช่วยชีวิตคุณ?”ฉินเฟิงถามด้วยความประหลาดใจทันใดนั้นสีหน้าของฮั่วเจิ้งซานก็เปลี่ยนไปเป็นแย่มากทันที และกล่าวอย่างไม่พอใจว่า: “ประธานฉินใช่ไหม ผมจะเตือนคุณเป็นครั้งสุดท้ายนะ ได้โปรดให้เกียรติปรมาจารย์เซียวด้วย!”พูดจบ ฮั่วเจิ้งซานก็เฉยเมยต่อสีหน้าที่ประหลาดใจของฉินเฟิง และกล่าวกับเซียวเป่ยว่า: “ปรมาจารย์เซียว พวกเราไปกันเถอะ”เซียวเป่ยพยักหน้า เดินตามฮั่วเจิ้งซานไปขึ้นรถแล้วจากไปซูหว่านกับฉินเฟิงยืนอยู่ที่เดิม ด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยงุนงงสงสัย“แม่งเอ๊ย! ทำเป็นวางมาด? ไม่รู้ว่าใช้วิธีการสกปรกอะไรในการหลอกลวงหัวหน้าตระกูลฮั่ว!” ฉินเฟิงบ่นอย่างไม่พอใจสายตาของซูหว่าน มองดูรถที่กำลังจากไปอยู่ตลอดเวลา และรู้สึกอึดอัดอยู่ใจเป็นอย่างมากไม่รู้เป็นเพราะอะไร พอเห็นท่าทีที่ฮั่วเจิ้งซานมีต่อเซียวเป่ย ทำให้ซูหว่านรู้สึกเสียใจเป็นอย่างมากตนเองเป็นคนผิดอย่างนั้นเหรอ?ตนรู้สึกเกรงใจและชื่มชมฮั่วเจิ้งซาน แต่เขากลับเคารพนบนอบต่อเซียวเป่ยเป็นอย่างมาก“หว่านเอ๋อร์ เป็นอะไรไปเหรอ?”เมื่อฉินเฟิงเห็นซูหว่านจ้องมองรถที
“พ่อหนุ่มคิดว่า ยาอายุวัฒนะแค่เม็ดเดียว สามารถพูดคำเหล่านี้ต่อหน้าฉันฉินเทียนหู่ได้อย่างนั้นเหรอ?”ในขณะนี้พอหลิวเซียนเหนียงได้ยินคำพูดของเซียวเป่ย ก็ขมวดคิ้วอันสวยงาม และรู้สึกว่าเซียวเป่ยใจกล้าเกินไปแล้วสีหน้าของเซียวเป่ยไร้ซึ่งความหวาดกลัว แล้วกล่าวว่า: “พักนี้ท่านฉินรู้สึกแน่นหน้าอกตลอดเวลาใช่ไหม ตอนกลางคืนก็นอนไม่หลับเป็นเวลานาน?”ฉินเทียนหู่ขมวดคิ้ว แล้วกล่าวอย่างเย็นชาว่า: “ช่างนี้ฉันนอนไม่หลับ มีปัญหาอะไรไหม?”เซียวเป่ยส่ายหัวแล้วกล่าวว่า: “ท่านฉิน นี่ไม่ใช่อาการนอนไม่หลับ แต่เป็นเพราะพลังงานรั่วไหล และสูญเสียพลังชีวิต ถ้าผมดูไม่ผิด ท่านฉินไม่เพียงแต่นอนไม่หลับเท่านั้น แต่ยังรู้สึกชาที่แขนขาด้วย บางครั้งอาจจะเป็นลมหมดสติไปชั่วขณะ”ทันทีที่พูดคำเหล่านี้ออกมา สายตาของฉินเทียนหู่ก็เปลี่ยนไปทันทีทำไมเด็กคนนี้ ถึงได้พูดได้แม่นยำขนาดนี้?แต่ว่า แพทย์ที่อยู่ข้างกายตนบอกว่าตนเองไม่เป็นไร แค่ทำงานหนักจนเกินไป พักผ่อนให้เยอะๆก็พอแล้วดังนั้น ฉินเทียนหู่จึงครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง และพูดอย่างเย็นชาว่า: “เอาล่ะ ฉันมีหมอประจำตัวอยู่ข้างกาย ถ้ามีปัญหา ไม่จำเป็นต้องให้พ่อหนุ่มมาเตือนฉั
หลิวเซียนเหนียงหันกลับมา จ้องมองเซียวเป่ยด้วยสีหน้าท่าทางที่สงสัยและประหลาดใจแล้วถามว่า “นี่คือยาที่คุณทำเหรอ?”“ใช่” เซียวเป่ยตอบอย่างเรียบง่ายบนใบหน้าที่สวยงามของหลิวเซียนเหนียงเต็มไปด้วยสีหน้าที่ประหลาดใจฉินเทียนหู่ขมวดคิ้วแล้วถามว่า “คุณหลิวเห็นอะไรไหม?มันเป็นของจริงหรือของปลอม?”ผู้มีอิทธิพลคนอื่นๆ ต่างก็พากันเอ่ยปากสอบถามกันเป็นแถว“หลิวเซียนเหนียง คุณพูดมาตามตรงเถอะ”“ตามความคิดของผม ยาอายุวัฒนะบ้าอะไรเนี่ย เป็นของปลอมร้อยเปอร์เซ็นต์!”“ท่านฉิน ท่านสามารถดำเนินการได้เลย”เมื่อได้ยินเสียงเย้าแหย่ของคนที่อยู่รอบข้าง สีหน้าของเซียวเป่ยก็ยังคงเต็มไปด้วยความเฉยเมยสีหน้าของฉินเทียนหู่ก็เคร่งขรึมสุดขีดเช่นกัน เมื่อเห็นว่าหลิวเซียนเหนียงไม่ได้พูดเป็นเวลานาน ตัดสินด้วยตนเองในใจ เขามองไปที่เซียวเป่ยด้วยสีหน้าที่แย่มาก โบกมือแล้วพูดว่า: “ใครก็ได้มานี่ที! จับตัวเด็กคนนี้เอาไว้เดี๋ยวนี้!”ทันทีที่พูดจบ บอดี้การ์ดสองก็กำลังจะลงมือ“เดี๋ยวก่อน”ทันใดนั้น หลิวเซียนเหนียงก็เอ่ยปากพูด“คุณหลิว?” ฉินเทียนหู่รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยหลิวเซียนเหนียงมองไปที่เซียวเป่ยอีกครั้ง ดูเหมือนจ
“พ่อหนุ่ม พ่อหนุ่มรู้ไหมว่า คนที่หลอกลวงฉันฉินเทียนหู่จะต้องมีจุดจบอย่างไร!”ฉินเทียนหู่โกรธ!เห็นได้อย่างชัดเจนว่า หลายปีที่ผ่านมานี้ ไม่เคยมีใครกล้าเย้าแหย่ตนเอง ต่อหน้าผู้คนมากมายขนาดนี้ยาอายุวัฒนะ?ยืดอายุขัยได้อีกห้าปี?ยาล้ำค่าเช่นนี้ จะใช้กระดาษหนังสือพิมพ์ห่อได้อย่างไร?เซียวเป่ยกลับยิ้มเบาๆแล้วกล่าวว่า “ตอนที่ออกมาผมรีบมาก ผมหากล่องไม่เจอ ก็เลยใช้กระดาษหนังสือพิมพ์ห่อ”ฉินเทียนหู่ขมวดคิ้วแน่น สีหน้าเคร่งขรึมสุดขีด ราวกับว่าเป็นเสือร้ายที่กำลังจะบ้าคลั่ง!ใครก็ได้มานี่ที! จับตัวไอ้หนุ่มที่มาก่อความวุ่นวายคนนี้ให้ฉันหน่อย!”ฉินเทียนหู่ตะคอกด้วยความโกรธทันใดนั้น บอดี้การ์ดทั้งสองคนที่อยู่ด้านหลังฉินเทียนหู่ก็แสดงตัวออกมา เอามือจับตรงสะเอว และจ้องมองเซียวเป่ยด้วยสายตาที่เย็นชาเซียวเป่ยขมวดคิ้วเล็กน้อย แล้วกล่าวว่า “ท่านฉิน ดูยาอายุวัฒนะของผมก่อนค่อยว่ากัน?”“ยังต้องดูอีกเหรอ?”ฉินเทียนหู่พูดอย่างย็นชาฮั่วเจิ้งซานรีบเกลี้ยกล่อมว่า: “ท่านฉิน ท่านอย่าเพิ่งใจร้อนไปเลย ปรมาจารย์เซียวไม่มีเจตนาอื่น ถ้าคุณยอมที่จะเชื่อผม โปรดให้โอกาสปรมาจารย์สักครั้ง ดูยาอายุวัฒนะนี้หน่อย
ทันทีที่เซียวเป่ยพูดคำเหล่านี้ออกมา ก็ดึงดูดสายตาของทุกคนที่อยู่ตรงนั้นทันที“ยาอายุวัฒนะ?”“ยาอายุวัฒนะอะไร? ไม่เคยได้ยินมาก่อนเลย”“พ่อหนุ่ม รู้ไหมว่านี่เป็นวาระโอกาสแบบไหน? ถ้ายังกล้าพูดจาเหลวไหลอีก ก็ไสหัวออกไปซะ!”ทุกคนดูไม่เป็นมิตรมาก และพากันตำหนิเซียวเป่ยฮั่วเจิ้งซานก็ตกตะลึง และตื่นตระหนกเล็กน้อย จากนั้นก็รีบลุกขึ้นแล้วอธิบายว่า: “ทุกท่าน ต้องขออภัยด้วย ยาอายุวัฒนะที่ปรมาจารย์เซียวกล่าวถึง... เป็นยาที่เขาเพิ่งจะกลั่นทำด้วยตนเองเมื่อสักครู่นี้”หลังจากพูดประโยคนี้จบ สีหน้าของทุกคนที่อยู่ในห้องส่วนตัวก็เปลี่ยนไป ตอนแรกรู้สึกประหลาดใจ จากนั้นก็รู้สึกสงสัย สุดท้ายพวกเขาก็รู้สึกโกรธ!เพียะ!ซุนฝูลู่วางถ้วยชาลงบนโต๊ะน้ำชาที่อยู่ด้านขวามืออย่างแรง และกล่าวอย่างไม่พอใจว่า: “ท่านหัวหน้าตระกูลฮั่ว ผมให้คุณพาไอ้หนุ่มคนนี้เข้ามา ก็ถือว่าแหกกฎแล้ว ตอนนี้ไอ้หนุ่มคนนี้ยังกล้ามาพูดจาไร้สาระ และจะใช้ยาอายุวัฒนะที่พวกเราไม่เคยได้ยินมาก่อนอะไรนั่นแลกกับหินจิตวิญญาณ แถมยังเป็นของที่เขาทำขึ้นมาด้วยตนเองอีกด้วย”“ปรมาจารย์ฮั่ว คุณคิดว่าพวกเราทุกคนที่อยู่ที่นี่ โง่เขลาเบาปัญญามากหรือยังไง?