22.00 น.กริ่ง กริ่ง“อึก...เต...เตอยู่ไหม”“ดาวเป็นอะไรร้องไห้ทำไม”“ช่วยนับด้วย พี่เปอร์เขาทำร้ายนับ”พรึบ!“เตช่วยนับด้วยนับกลัว เขาขู่จะทำร้ายนับ ฮื่อ”ร่างบางในชุดรัดรูปสุดเซ็กซี่โผเข้ากอดเตโชทันทีที่ชายหนุ่มปิดประตูห้องใบหน้าสวยเลอะไปด้วยเครื่องสำอาง พร้อมรอยฟกช้ำแดงเป็นรอย“เดี๋ยว ๆ ใจเย็น ๆ แล้วค่อย ๆ พูดมันเกิดอะไรขึ้น แล้วทำไมแต่งตัวแบบนี้” เตโชมองคนตัวเล็กในอ้อมกอดอย่างมึนงง“อึก คือพี่เปอร์เขาให้นับ…เขาให้นับแต่งแบบนี้แล้วให้นับไปนอนกับคนอื่นเขาบังคับให้นับขายตัว พอนับไม่ทำตามเขา...เขาก็ทำร้ายนับแบบนี้”ดวงตากลมโตจ้องหน้าชายหนุ่มพร้อมน้ำตาเม็ดใสที่ไหลอาบสองแก้ม“มันทำแบบนี้กับดาวได้ไง เราไม่ยอมเราจะไปเอาเรื่องมัน” เตโชพูดเสียงแข็งพร้อมจะไปเอาเรื่องสไนเปอร์“มะ...ไม่นะเต อย่าไป ตอนนี้นับเลิกกับเขาแล้ว” มือเรียวคว้าร่างหนากอดไว้แน่นร้องไห้สะอื้นอย่างน่าสงสาร“ที่นับมาหาเต เพราะนับไม่มีที่ไป แต่ถ้านับทำให้เต ไม่สบายใจนับก็ต้องขอโทษ” ถึงเธอจะร้องไห้สะอื้นแต่สายตากลับมองเข้าไปที่ในห้องผ่านประตูที่แง้มไว้ เห็นเด็กสาวนักเรียน ม. ปลายอยู่ในห้อง สาวเจ้าเกิดอาการไม่พอใจทันที“นับว่
“สวัสดีครับคนสวย” ทันทีที่ลงจากรถพี่บาสก็เดินตรงเข้ามาทักทายทันที“สวัสดีค่ะ” ฉันยิ้มและยกมือไหว้ตามมารยาท“อย่ายิ้มให้พี่แบบนี้สิครับรู้ไหมใจมันเจ็บ เลิกกับไอ้เปอร์แล้วมาคบกับพี่ได้ไหม” พี่บาสเดินเข้ามาใกล้ ทำหน้าอ้อน“มึงจะเอา” พี่เปอร์พูดเสียงเรียบ แต่มันเย็นยะเยือกจนขนลุก“ไม่ครับไม่เอา ใครจะกล้าแย่งเมียพี่เปอร์ครับ พอดีผมมีเรื่องจะคุยด้วย แค่แซวเล่น ๆ มึงจริงจังไปได้รู้หรอกว่าหวง ทีเมื่อก่อนกูเล่นแบบนี้กับซอนบีมึงไม่เห็นว่าอะไร กับน้องนับดาวคนสวยหวานใจกูทำไมไม่ได้” พี่บาสพูดอย่างยียวน พร้อมกับมายิ้มหวานส่งสายตาให้“มีอะไรก็พูดมา”พี่เปอร์เขาดูไม่สบอารมณ์เท่าไร“ดาวว่าดาวไปเดินดูอะไรก่อนดีกว่าพี่สองคนจะได้คุยงานกัน” มาถึงกองถ่ายละครทั้งทีต้องเดินสำรวจ ตั้งแต่เรียนมายังไม่เคยสัมผัสของจริงเลยไปฝึกงานทีก็ได้อยู่แค่ในออฟฟิศ อยากเห็นว่าเขาทำงานกันจริง ๆ มันจะเป็นยังไง“……” พี่เปอร์พยักหน้าแล้วหันไปคุยกับพี่บาสต่อ ฉันแค่ส่งยิ้มให้แล้วเดินไปดูเขากำลังถ่ายทำกันอยู่“ทำไมคุณถึงทำกับฉันแบบนี้ ไหนบอกว่าเลิกกับมันแล้วไง แล้วนี่มันอะไร!!”“คุณทำแบบนี้กับมีนาได้ไง ไหนบอกว่ารักแล้วไปนอนกับมันทำ
“อันนี้ของคุณเปอร์ กับคุณบาส มึงเอาไปให้คุณเขาด้วย”“คุณบาสน่ะ กูเอาให้ได้แต่คุณเปอร์มึงเอาไป ปกติก็น่ากลัวอยู่แล้ววันนี้แม่ง! ยิ่งน่ากลัวกว่าเดิม นี่ขนาดนาน ๆ มาทีนะ ถ้ามาทุกวันมีหวังกูหัวใจวายตายพอดี”“คนเหี้ยอะไร น่ากลัวฉิบหายมองมาทีกูแทบกลั้นใจ สายตาพิฆาตชัด ๆ มองใครทีแม่งเหมือนโลกหยุดหมุน ฟ้าจะถล่มดินจะทลาย”“ไม่เป็นไรค่ะดาวเอาไปให้เองก็ได้”ฉันได้แต่ยืนฟังสองคนทะเลาะกัน ก่อนจะเดินเข้าไปหยิบถุงอาหารที่วางอยู่“ดีเลย ขอบคุณน้องมาก” พี่คนนั้นพูดจบแล้ววิ่งเอาข้าวไปให้พี่บาสทันที“ว่าแต่ แล้วน้องทานอะไรยังชุดสุดท้ายพี่เอาไปมันมี 5 กล่องทีมงานลืมนับน้องเปล่าวะ” เขาทำหน้าครุ่นคิด“ไม่เป็นไรค่ะ” ฉันยิ้มให้พี่เขาแล้วเดินตรงไปหาพี่เปอร์“เด็กใหม่ หึ…คิดจะอ่อยคุณเปอร์ล่ะสิ ขนาดฉันสวยขนาดนี้เขายังไม่สนใจอย่างเธอมีเหรอคุณเปอร์จะสน” …ทิตาที่จับตามองนับดาวพูดพร้อมยิ้มอย่างเย้ยหยัน เพราะเธอเองพยายามที่จะเข้าหาสไนเปอร์หลายต่อหลายครั้ง แต่ก็ไม่เคยสำเร็จ มิหนำซ้ำยังโดนด่าจนหน้าชามาแล้ว“อย่าไปสนใจเลยน้องทิตา คุณเปอร์เขาไม่ชอบให้ใครเข้าหาถ้าน้องอยากได้น้องต้องนิ่ง พี่ว่าเรามารอสมน้ำหน้าเด็กนั่นดีกว
“คนสวยเป็นอะไรครับ”เสียงเข้มกวน ๆ ของพี่บาสเอ่ยขึ้น เมื่อฉันที่ยืนมองเท้าตัวเอง ก็วันนี้เล่นเดินไปเดินมาทั้งวันเท้าเลยบวม ส่วนพี่เปอร์เดี๋ยวผลุบเดี๋ยวโผล่จนตอนนี้ก็ใกล้จะค่ำแล้วหายไปไหนอีกไม่รู้“พอดีดาวเจ็บเท้านิดหน่อย” สายตาพี่บาส มองมายังเท้า“พี่ว่าไม่นิดนะแดงขนาดนี้ ไปนั่งพักตรงโน้นเดี๋ยวไอ้เปอร์ก็มาแล้ว เหลือฉากสุดท้าย ก็ได้กลับบ้านแล้วครับ!”“จะว่าไปคนทั้งกองต้องขอบคุณน้องดาวนะที่จริง” พี่บาสพูดยิ้ม ๆ ไม่เครียดเหมือนช่วงเช้า“เพราะดาว?” ฉันชี้นิ้วใส่ตัวเองมันเกี่ยวอะไรกัน วันนี้ก็แค่เดินไปเดินมาช่วยพี่ ๆ เขานิด ๆ หน่อย ๆ พอเวลาพี่เปอร์เดินผ่านก็นั่งนิ่ง ๆ กลัวโดนดุ“เพราะวันนี้คุณเปอร์เขาพาแฟนมาด้วยเลยไม่ดุเท่าไร ถ้าปกตินะบอกเลย หึ…ตายยกกอง”“พี่ไปแล้วไปนั่งรอมันทางโน้นเดี๋ยวมันก็มา” พูดจบพี่บาสก็เดินไปทันที“เพราะฉันเหรอ” ได้แต่ส่ายหัวแล้วเดินไปตามที่พี่บาสบอก ตอนนี้มันเดินไม่ไหวแล้ว อีกอย่างไม่ชอบเลยสายตาที่ทุกคนมองมาที่ฉัน โดยเฉพาะสายตาพวกผู้ชาย เจ้าชู้ที่สุด“ทำไมเจ็บแบบนี้นะ” พอมาถึงฉันก็ถอดรองเท้าดูทันทีมันแดงและถลอก ปกติก็ใส่ประจำแต่ทำไมวันนี้ถึงเป็น“ถ้าเป็นแบบนี้อีก
“ว่าไงมึงจะไปไหม เอาน้องดาวไปด้วยกูรู้ว่ามึงติดน้องไปไหนต้องเอาติดตัวยัดใส่กระเป๋าไปด้วย”พี่บาสพูดด้วยน้ำเสียงยียวน แต่พี่เขาน่าจะดูหน้าพี่เปอร์หน่อยก็ดีนะ หน้าดุมากแบบว่านิ่งขรึมสุด ๆ“คิดดูก่อนต้องดูว่าจะมีแรงเหลือไหม!” เสียงพูดราบเรียบแต่ดุดันของพี่เปอร์มันกลับทำเอาหน้าฉันถึงกับร้อนผ่าวแล้วไหนจะสายตาที่มองอย่างคาดโทษอีกฉันไปทำอะไรผิดมาอีกยังไม่รู้ตัวเลย“ครับ! กูเข้าใจคนมีแฟนมันก็แบบนี้อย่าให้กูมีบ้างก็แล้วกัน แม่ง! จะจับ Yes สักสามวันสามคืนเอาให้ K กูขาดไปเลย” พี่บาสพูดอย่างจริงจังแต่เขาลืมอะไรไปหรือเปล่าว่าไม่ได้อยู่กันสองคน ตอนนี้ทุกสายตามองมาที่พวกเราสามคนด้วยความสงสัย“พูดมากหุบปากแล้วไปทำงาน ถ้าเด็กไปไหวกูจะพาไปจบนะ!” พร้อมสายตาคมกริบจ้องมาที่ฉัน แล้วฉันไปเกี่ยวอะไรด้วยจะไปเที่ยวกับเพื่อนก็ไปสิ“ตกลงเปิดตัวแล้วสินะว่ามีแฟน!” เสียงนุ่มละมุนดังขึ้นเรียกความสนใจจากทุกคน“คืนนี้ไปเที่ยวกันต้อนรับว่าที่เมียคุณสไนเปอร์ ไม่สิไม่ใช่ว่าที่เมียแต่น่าจะเป็นว่าที่แม่ของลูกมากกว่า” เป็นพี่อชิที่พูดขึ้น“เมีย!!”เป็นเสียงคุณทิตาพูดขึ้นด้วยความตกใจ“มะ...ไม่ใช่แบบนั้นนะคะ” ฉันรีบปฏิเสธทัน
“ก็มันเจ็บ อ๊ะ บะ...เบา ๆ ดาวเจ็บ!”“อีกนิดเดียว จะเสร็จแล้วแหกปากอยู่ได้ น่ารำคาญ”“ก็พี่ทำแรง ดาวก็บอกอยู่ว่ามันเจ็บ!”“เออ! เสร็จแล้วแค่นี้ทำเป็นร้องโวยวาย ไปแต่งตัวทีหลังเดินน่ะดูทาง จะได้ไม่ต้องเจ็บตัวแบบนี้”“ก็เพราะพี่นั่นแหละเดินเร็ว ดาวขาก็สั้นแค่นี้ไม่รู้จักรอกันบ้าง”หมับ!“เถียง!!”“เปล่า ดาวไม่ได้เถียงแล้วนี่พี่จะไปแล้วใช่ไหม เที่ยวให้สนุกนะคะ”“……”พี่เปอร์เงียบจ้องหน้าฉันอย่างเอือมระอา ท่อนแขนแกร่งคว้าดึงเอวคอดเข้าไปกอด หน้าแนบชิดติดแผงอกแกร่งหลังจากที่กินข้าวเสร็จเราก็เดินขึ้นห้องกันปกติ แต่พี่เปอร์เดินไวเลยวิ่งตามแต่เท้ามันดันพลาดลื่นล้มหัวเข่าแตกพี่เปอร์เลยทำแผลให้ แต่มือหนักเป็นบ้าเจ็บจะตาย คนเจ็บจะไม่ให้ร้องได้ไง“มะ...ไม่เอาหยุดเลยวันนี้พี่ทำไปแล้ว” ฉันเอามือปิดปากพี่เปอร์เมื่อเขาทำท่าจะจูบ จะไปเที่ยวกับเพื่อนแต่ไม่ยอมไปสักที พี่บาสโทรมาหลายสายแล้วแต่พี่เปอร์ไม่ยอมรับ“ทำแล้วก็ทำอีกได้” เสียงพูดราบเรียบเย็นเยือกจนชวนขนลุก ปลายจมูกโด่งคลอเคลียเกลี่ยพวงแก้ม“ไปเปลี่ยนเสื้อผ้า ให้เวลา 5 นาที ถ้าช้าเธอโดนแน่นับดาว”ฉันได้แต่มองหน้าหล่อ ๆ อย่างอ้อนวอน คือไม่อยากไปเหน
“มึงก็นะ รู้ทั้งรู้เสือกยากลองของ เป็นไงได้เลือดสมน้ำหน้า” เขาบ่นเหมือนมันเป็นเรื่องปกติ นี่พี่เปอร์ทำแบบนี้บ่อยเหรอ“มองอะไร?” ฉันสะดุ้งตกใจเมื่อสายตาดุดันจ้องมา“พี่ทำอะไรของพี่ถ้าเขาตายจะทำไง”“ช่างแม่ง มันสิ ใครบอกให้มันกวนตีน!” จากที่อึ้งอยู่แล้วได้ฟังคำตอบบอกเลยอึ้งกว่าเดิม“วันหลังไม่ต้องใส่นะ ไอ้กระโปรงสั้น ๆ แบบนี้” สายตาเกรี้ยวกราดมองมาที่ขา คือมันก็ไม่ได้สั้นอะไรน่าเกลียดขนาดนั้น ก็ปกตินะ“เกี่ยวอะไรกัน?” ตัวเองใจร้อนแล้วยังมาโทษคนอื่น“พี่บอกแล้วไอ้เวรเปอร์มันขี้หวงมาก” เป็นเสียงพี่บาสที่พูดขึ้น“โทษทีที่กูมาช้า พอดีมีเรื่องนิดหน่อย” พี่อชิพูดเสริมพร้อมหย่อนก้นนั่งลงข้าง ๆ ฉัน“แล้วนัดกูมามีเรื่องอะไรถ้าไม่สำคัญมึงเจ็บตัว” พี่เปอร์พูดดุ ๆ พร้อมส่งสายตาให้ฉันลุกไปนั่งอีกฝั่ง“พี่เปอร์เบา ๆ ได้ไหมทำไมต้องชอบทำแรง ๆ”“เงียบ ไม่ต้องพูดอยู่นิ่ง ๆ”“ก็เรื่องเดิม พี่สาวคนสวยของน้องนับดาวแฟนมึงไง” พี่อชิยื่นหน้าส่งยิ้มหวานให้ฉันที่ลุกขึ้นมานั่งอีกฝั่งของพี่เปอร์“ว่ามา” ฟังจากน้ำเสียงก็พอจะรู้ว่าพี่เปอร์หงุดหงิดแค่ไหน“พี่สาวดาว?” ฉันมองหน้าพี่เปอร์กับพี่อชิ สลับกัน“คือตอนนี้พี่ว
หลายวันผ่านไป“ขอบคุณนะคะ และดาวก็ต้องขอโทษพี่ด้วย ที่คิดว่าพี่เป็นคนแบบนั้น”“ดาวผิดเองที่คิดมากไปทั้ง ๆ ที่พี่ก็ดีกับดาวทุกอย่าง”“……” พี่เปอร์เอาแต่เงียบไม่พูดอะไร นั่นสินะเขาก็นิ่งแบบนี้อยู่แล้วฉันเองที่คิดมากคิดบ้า ๆ ไปคนเดียวตอนนี้เราอยู่ที่โรงพยาบาลเพราะพี่บาสแนะนำให้ฉันมาตรวจสุขภาพจิต กลัวว่าจะเป็นเหมือนพี่เดือน วันนั้นที่ผับพี่เปอร์ไม่พูดอะไรเขานิ่งมาก นิ่งจนทุกคนกลัว แต่อยู่ ๆ พี่เปอร์ก็พูดออกมาว่าจะไม่เอาเรื่องพี่เดือนเพื่อเป็นการขอโทษที่ทำไม่ดีกับฉันถึงเขาจะไม่พูดแต่ฉันน่าจะรู้ว่าที่จริงพี่เปอร์ห่วงฉันมากแค่ไหนแต่ตัวฉันเองกลับชอบเอาตัวเองไปเปรียบกับพี่ซอนบี ชอบดูถูกตัวเองทั้ง ๆ ที่พี่บาสกับพี่อชิ ก็บอกว่าที่พี่เปอร์ทำกับฉันเขาไม่เคยทำกับพี่ซอนบี ไม่ว่าจะพาไปกอง ไปเที่ยวกับเพื่อน เพราะรู้ว่าพี่ซอนบีไม่ชอบแต่พี่เปอร์เขากลับไม่ใช่แบบนั้น จากที่พี่สองคนเล่า เท่าที่ฟังมันทำให้ได้รู้จักตัวตนพี่เขามากขึ้น มุมขี้อ้อนอยากให้แฟนตามไปด้วยทุกที่“ไปทำอะไรผิดมา ถึงต้องมาขอโทษฉัน” คิ้วหนาขมวดเข้าหากันเป็นปม“ขอโทษที่ดาวดูถูกน้ำใจพี่ วันนั้นดาวคิดว่าพี่คงไม่ยอมยกโทษให้พี่เดือนเพราะพี
ตอนเช้า“ตื่นสายนะเรา”“เพราะใครล่ะ ดาวถึงตื่นสายแบบนี้ แล้วลูกล่ะคะไปไหนแล้ว”“ตื่นมาก็ถามหาแต่ลูกสนใจผัวบ้างไหม?” คิ้วหนาขมวดเข้าหากันมองคนตัวเล็กที่ยังคงนอนขดตัวอยู่ใต้ผ้าห่ม“ก็ผัวอยู่ตรงนี้ ดาวไม่เห็นลูกก็ต้องถามหาลูกสิ พี่จะมางอแงทำไมกัน” นับดาวได้แต่ถอนหายใจพร้อมดันตัวลุกขึ้นนั่ง“หึ ต่อปากต่อคำเก่งนักนะ แบบนี้มันน่าเอา” สายตาเจ้าเล่ห์มองต่ำไปที่เป้ากางเกงตัวเอง“ลามก พี่หยุดลามกแล้วตอบดาวมาก่อนลูกไปไหน” นับดาวพูดจริงจัง“อยู่กับหม่าม้า เธอตื่นสายฉันอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เลยพาลงไปเล่นข้างล่าง” มือหนาลูบที่หัวเมียแล้วเอาแต่ยิ้มกริ่ม“ยิ้มอะไรคะ พี่ดูแปลก ๆ นะดาวว่า” นับดาวพยายามจับผิดคนตรงหน้าที่เอาแต่ยิ้ม“ไปอาบน้ำพ่อกับตะวันรอนานแล้วนะ” เมื่อได้ยินพ่อของลูกพูดแบบนั้นก็นึกขึ้นได้ว่าเขาจะพาไปที่ไหนสักแห่ง“พี่จะพาดาวไปไหนเหรอ”“ไปอาบน้ำไปถึงเดี๋ยวก็รู้เอง ให้เวลา 20 นาทีเดี๋ยวไปเล่นกับลูกรอ” เขายักคิ้วกวน ๆ พร้อมจุ๊บปากบาง แล้วเดินออกจากห้องทันที นับดาวได้แต่ทำหน้าสงสัยก่อนจะหอบผ้าห่มเดินเข้าห้องน้ำ30 นาทีผ่านไป“ช้า” ทันทีที่เห็นเมียเดินมาคุณพ่อคนหล่อก็บ่นเสียงดุ“…….” แต่เม
“แดดดี้อยากจะขอบคุณเบบี๋ที่ทำให้ผู้ชายเลว ๆ คนนี้กลับตัวกลับใจ เป็นคนดี ขอบคุณที่เบบี๋ยอมไว้ใจฝากชีวิตไว้กับแด๊ด ขอบคุณที่มอบสิ่งมีค่าที่สุดให้แด๊ด” กันต์มองไปที่ลูกสาวทั้งสองคน พร้อมส่งยิ้มให้เมียรักที่มองหน้าเขาน้ำตาคลอด้วยความซึ้งใจ“แดดดี้ขอมอบเพลงนี้แทนความรู้สึกที่แด๊ดมีต่อเบบี๋” กันต์เดินเข้าไปนั่งลงคุกเข่าร้องเพลงต่อหน้าเมียสุดที่รัก พร้อมลูกสาวจอมแสบ อย่างญี่ปุ่นที่วิ่งเข้าไปกอดหอมพ่อเพื่อให้กำลังใจ‘ที่ผ่านมานานเท่าไรกาลเวลาไม่อาจลืมหัวใจเปลี่ยนไปจากเธอคงเป็นไปไม่ได้เมื่อใจผูกพันมีแต่เธอแม้จะนอนและฝัน ฉันมีแต่เธอเท่านั้นไม่อาจแบ่งใจเผื่อไว้ให้ใครใจเมื่อเจอเธอแล้ว เหมือนคนที่เจอจุดหมายเมื่อมีเธอไม่ต้องการใครเมื่อวานก็รัก วันนี้รักเธอพรุ่งนี้ก็รักเธอ เพราะใจที่มีเธอไม่มีอีกแล้ว ใครจะมาเข้าใจฉันได้ดีอย่างเธอตอบแทนเธอรักเดียวใจเดียว’“เบบี๋รักแดดดี้ ขอบคุณนะคะที่แดดดี้ทำทุกอย่างเพื่อเบบี๋กับลูก ๆ” เบบี๋พูดเสียงสะอื้น มันตื้นตันใจจนห้ามน้ำตาไม่ได้ ก่อนสี่คนพ่อแม่ลูกจะกอดหอม แสดงความรักอย่างไม่อายสายตาทุกสายตาที่มองแล้วได้แต่ยิ้มตาม“……” มีแต่สไนเปอร์นั่งทำหน้าขรึมไม่
1 ชั่วโมงผ่านไป“แม่จ๋า พี่ตะวัน คุณตาขา” ร่างอ้วนกลมวิ่งเข้าไปกอดแม่ที่ประคองคุณตาเดินเข้าบ้าน“ไปดูลูกก่อน บ่นถึงเธอทั้งวัน” สไนเปอร์เดินเข้าไปประคองพ่อตาทันที“คิดถึงจังเลย วันนี้ภูพิงค์ของแม่จ๋าดื้อไหม” นับดาวยิ้มรับพร้อมเดินเข้าไปอุ้มลูกสาวตัวน้อยในชุดเจ้าหญิงสีชมพูน่ารัก“ไม่ค่ะ หนูเป็นเด็กดี ไม่ดื้อไม่ซนเยย” แล้วทำไมต้องอ้อนขนาดนี้ด้วย แค่นี้แม่ก็หลงลูกไม่ไหวแล้ว“พี่ตะวันกอดหนูหน่อย” พร้อมอ้าแขนป้อม ๆ ยื่นไปหาพี่ชายอีกคน“คุณตาด้วยกอดหนูหน่อยคิดถึงคุณตาที่สุดในโลกเลย” พี่ชายกับคุณตาได้แต่มองหลานสาวตัวน้อยแล้วยิ้ม ก่อนจะกอดหอมกันพักใหญ่แล้วขึ้นไปพักบนห้องที่กันต์เตรียมไว้ให้“ยิ้มอะไรคะ แล้วภูผาล่ะ ตั้งแต่มาดาวยังไม่เห็นลูกเลย” นับดาวชะเง้อคอมองหาลูกชาย“อยู่กับพี่กันต์ โดนญี่ปุ่นลวนลามทั้งวัน” สไนเปอร์พูดอย่างเหนื่อยใจ พร้อมทำหน้าบูดบึ้งเพราะหวงลูกชาย“แม่จ๋าหนูหิวหม่ำแม่” ระหว่างที่พ่อกับแม่พูดถึงพี่ชายเด็กน้อยตัวอ้วนกลับงอแงเอาเสียดื้อ ๆ“อะไรกันคะ” นับดาวจับมือเล็กที่ล้วงเข้าไปในเสื้อพร้อมจ้องใบหน้าจิ้มลิ้มที่งัวเงีย“พี่เปอร์ลูกนอนกลางวันไหม”“……” สไนเปอร์ได้แต่ส่ายหัว เพร
หลายวันผ่านไป“พี่กันต์พี่บอกลูกสาวพี่ให้หยุดวอแวลูกชายผมสักทีได้ไหมวะ” สไนเปอร์ที่เอาลูกขี่หลัง หลังเตรียมจัดงานปาร์ตี้เล็ก ๆ เซอร์ไพรส์เมียที่ออกไปรับพ่อกับน้องชาย บ่นพี่ชายที่ไล่วิ่งตามจับลูกสาวตัวแสบที่เอาแต่แกล้งคนนั้นกวนคนนี้ โดยเฉพาะภูผาลูกชายสุดที่รักพ่อเปอร์ ที่ตอนนี้กอดคอพ่อแน่นส่วนลูกสาวตัวอ้วน ๆ เล่นอยู่กับป้า ๆ หัวเราะคิกคักตามประสาผู้หญิง“เออ กูรู้แล้วไอ้เปอร์ กูก็ตามอยู่เนี่ย!”“ญี่ปุ่นแด๊ดไหว้ละ ลูกไปอยู่กับหม่ามี้ แด๊ดไม่ไหวแล้วนะ” กันต์มือเท้าเอวจ้องหน้าลูกสาว ที่ทำหน้านิ่งไม่ได้สนใจฟังที่พ่อพูดเลย“ภูผา เราไปวิ่งเล่นกันดีกว่าญี่ปุ่นไม่มีเพื่อนเลย พี่พาร์ทก็ไม่เล่นด้วยเอาแต่รักฟองเบียร์ น้องตอร์ชก็ไม่เล่นด้วยหยิกญี่ปุ่นตลอดเลย” เด็กน้อยทำหน้าน่าสงสาร“พอร์ช ลูกพอร์ช ไม่ใช่ตอร์ช คำอื่นแด๊ดก็เห็นหนูพูดชัดแล้วทำไมเรียกพอร์ชแบบนั้น” กันต์พูดอย่างเหนื่อยใจ“ตอร์ช ตอร์ช ญี่ปุ่นจะเรียกตอร์ช!!!!!”“เฮ้อ กูจะบ้าตายใครก็ได้เอาปืนมายิงกูที!!!” แต่ก็ทำได้แค่บ่น ท่องไว้กันต์ท่องไว้ ลูกกู ลูกกู ก็คือลูกกู แต่ยิ่งคิดก็ยิ่งปวดหัวจะตายให้ได้ จะทำยังไงลูกสาวตัวน้อยจะเหมือนลูกคนอื่น
“กูยอมลูกมึงไอ้เปอร์ กูว่าญี่ปุ่นอ้อนแล้วลูกมึงสุดจริง” กันต์ได้แต่ยิ้มอย่างดีใจที่เห็นน้องชายมีวันนี้ มีความสุขเหมือนคนอื่นได้สักที“เข้าไปกราบหม่าม้าสิ ไม่ต้องกลัว” มือหนาลูบลงที่หัวแม่ของลูกอย่างห่วงใย พร้อมเดินจูงมือเมียเข้าไปกราบแม่“หม่าม้าขอโทษ อย่าไปไหนอีกนะ คงจะลำบากมากสินะผู้หญิงตัวคนเดียวเลี้ยงลูกเพียงลำพัง” เสียงพูดที่อ่อนโยนเต็มไปด้วยความรักความห่วงใย หลังจากที่คิดอะไรได้หลายอย่างและไม่ควรมองคนแค่ภายนอก มือบางลูบลงที่หัวนับดาวที่ได้แต่นั่งยิ้มด้วยความดีใจ ที่ในที่สุดเธอจะได้อยู่กับคนที่รัก“เปอร์ขอบคุณหม่าม้าที่ยอมรับในตัวนับดาว” สไนเปอร์โผเข้ากอดแม่ โดยมีพี่ทั้งสองคนนั่งมองแล้วยิ้ม“พอ ๆ ๆ ๆ จะดึงเศร้าทำไม” กันต์พูดแทรกขึ้น“ภูพิงค์มาหาลุงสิคะ ไหนดูสิไม่เจอกันนานมาให้ลุงกอดหน่อย มาค่ะคนสวยภูผาด้วย คืนนี้นอนบ้านลุงนะรู้ไหม” พร้อมผายมือเรียกหลานรักให้เข้าไปหา“ดีเลยค่ะ ญี่ปุ่นจะได้มีเพื่อน พี่พาร์ทด้วยนอนกับญี่ปุ่นนะคะ ญี่ปุ่นอยากมีเพื่อนเล่น” ไม่พูดเปล่าญี่ปุ่นเดินเข้าไปหาภูผาที่เอาแต่นั่งกอดอก มองหน้าญี่ปุ่นอย่างเบื่อหน่าย“ทำไมทำหน้าแบบนั้นลูก” สไนเปอร์จ้องหน้าลูกอย่างส
ตอนเช้า“แม่จ๋า” เด็กหญิงตัวน้อยงัวเงียตื่น คลานเข้าไปกอดแม่ที่ยังนอนหลับอยู่ในอ้อมกอดคนตัวโต“ว่าไงคะ” ใบหน้าหวานคลี่ยิ้มให้ลูกน้อยตะแคงข้างกอดตัวอ้วนกลมแนบอก“พ่อจ๋าหนูล่ะ พ่อจ๋าไปไหน” เด็กน้อยงอแงเรียกหาพ่อทั้ง ๆ ที่ยังไม่ลืมตา“พ่อจ๋าอยู่นี่ครับมาหาพ่อมา ภูผาด้วยมาให้พ่อนอนกอดหน่อย” สไนเปอร์ยิ้มรับพร้อมอ้าแขนรับลูก“หนูจะนอนตรงนี้” เด็กหญิงตัวอ้วน ลุกขึ้นไปนอนบนตัวพ่อ“ภูพิงค์น้องตัวหนักเดี๋ยวพ่อก็หายใจไม่ออกเหมือนพี่หรอก”“พ่อจ๋า พี่ภูผาว่าหนูอ้วน” เมื่อได้ยินพี่ชายพูดแบบนั้นใบหน้าจิ้มลิ้มก็บูดบึ้งทันที“พี่ไม่ได้ว่าสักหน่อย” เมื่อเห็นน้องงอนพี่ชายก็ได้แต่ถอนหายใจ เห็นแบบนี้คนเป็นพ่อกับแม่ก็อดที่จะยิ้มตามไม่ได้“ชิ หนูงอนแย้ว พี่ภูผาต้องง้อหนูเยย”“พ่อจ๋า วันนี้พ่อจ๋าพาไปหาคุณตาหน่อยนะคะ” แต่ไม่ทันไรกลับเปลี่ยนเรื่องพูดเสียงเจื้อยแจ้วเรื่องอื่นลืมว่าตัวเองกำลังงอนพี่ชายเอาเสียดื้อ ๆ“ครับพ่อจ๋าพาไปแน่นอน แต่ขอพ่อจ๋านอนกอดภูพิงค์กับภูผาให้หายคิดถึงก่อน” ท่อนแขนแกร่งโอบกอดร่างเล็กของลูกทั้งสองคนไว้แนบอก ทำเอานับดาวได้แต่นั่งมองมันตื้นตันใจอย่างบอกไม่ถูกบ้านกันต์หลังจากที่พาลูกและ
“คิดถึงร่างกายดาว งั้นก็แสดงว่าพี่ไม่เคยคิดถึงดาว?” นับดาวเอ่ยถามออกไปอย่างน้อยใจ“หึ นึกว่าจะไม่ท้วง งอนแบบนี้ต้องง้อไหม” แต่สไนเปอร์กลับยิ้มอย่างพอใจที่เห็นเมียงอน“ก่อนจะคิดถึงร่างกายร่างนี้” นิ้วเรียวเชยปลายคางให้คนใต้ร่างเชิดหน้าขึ้นมองหน้าสบตาเขา“มันก็ต้องคิดถึงเจ้าของร่างกายคนขี้งอน แม่ของลูกฉันก่อน จริงไหม” ไม่พูดเปล่าเขายื่นหน้าหล่อคมเข้าไปใกล้ใบหน้าหวานจิ้มลิ้ม ปลายจมูกโด่งคลอเคลียพวงแก้มอย่างหลงใหล“ไม่ต้องมาปากหวานกับดาวหรอก เอาไว้ใช้กับสาว ๆ ของพี่เถอะ”“สาว ๆ ที่ไหนอย่ามาหาเรื่องตั้งแต่ฉันกลับไปฉันก็ไม่เคยมีใคร ฉันรักเธอคนเดียวนะนับดาว” จากที่ว่าจะงอนพอได้ยินเขาพูดแบบนั้นหัวใจดวงน้อยมันก็พองโตเต้นแรงแทบไม่เป็นจังหวะ“แล้วพี่ทำแบบนี้ พี่จะไม่ถามดาวเหรอว่าดาวมีคนอื่นไหม” ที่ถามก็แค่อยากจะรู้ว่าเขาจะเชื่อใจเธอมากแค่ไหน“ไม่จำเป็นเพราะฉันรู้จักเธอดี ว่าเธอรักฉันมากแค่ไหน” แต่พอได้ยินจากที่กำลังซึ้งใจกลับรู้สึกหมั่นไส้คนตัวโตขึ้นมาทันที“หลงตัวเองดาว มะ...อืม” เขาไม่รอให้เธอได้เอ่ยคำใดออกมาประทับจูบดูดเม้มกลีบปากบางอย่างหนักหน่วง สัมผัสมันเต็มไปด้วยรักและคิดถึง“ฉันรักเธอรัก
“…” เด็กน้อยพยักหน้า สวมกอดพ่ออีกครั้งทุกครั้งเวลาที่แม่พาไปเที่ยว ก็ได้แต่แอบน้อยใจเวลาเห็นเพื่อนคนอื่นมีพ่อไปด้วย ถึงจะเป็นเด็กแต่ก็มีความรู้สึกและสัมผัสได้ เวลาแม่ดูรูปแล้วร้องไห้กอดลูกน้อยทั้งสอง พออยู่ ๆ วันนี้ได้มาเจอตัวจริงเด็กน้อยก็ทำตัวไม่ถูกไม่กล้าที่จะแสดงความรักอย่างที่น้องสาวทำ ด้วยนิสัยที่เคร่งขรึม เอาแต่ใจถอดแบบจากพ่อมาทุกอย่าง“ไม่ต้องอายพ่อเข้าใจ ไอ้เสือเราเป็นผู้ชายแมน ๆ ไม่ต้องกลัวอะไรทั้งนั้น” เมื่อปรับความเข้าใจกันได้สองพ่อลูกก็เล่นหัวเราะลั่นห้องทำเอานับดาวที่เดินออกจากห้องน้ำกับลูกสาวตัวอ้วนเห็นพ่อลูกนอนคุยเล่นกันก็ยิ้มไม่หุบ“ไปอาบน้ำกันได้แล้วค่ะ”“ว่าแต่พี่จะนอนที่นี่จริงเหรอ ดาวว่า” นับดาวมองไปรอบ ๆ ห้องที่เล็กยังกับรูหนู“ไอ้เสือเราไปอาบน้ำกัน”“ครับ” แล้วสองพ่อลูกก็เดินเข้าไปอาบน้ำอย่างสบายใจ“คนบ้า เอาแต่ใจตัวเองไม่เลิก” ถึงปากจะบ่นแต่กลับมีรอยยิ้มบนใบหน้า“แม่จ๋าหนูอยากใส่ชุดหมีนอน แล้วอยากกินหม่ำแม่ด้วย นะคะภูพิงค์หิวหม่ำอยากจับนุ่มนิ่มจะได้ไม่ฝันร้าย” เด็กน้อยพูดอย่างออดอ้อน ทำตาใสแป๋วอย่างน่าสงสาร“หยิกก้นเลยดีไหมไปใส่เสื้อผ้า พรุ่งนี้แม่จ๋าพาไปหาคุ
20.00 น.“ขอบคุณนะคะสำหรับวันนี้และขอบคุณที่มาส่ง” นับดาวยิ้มให้สไนเปอร์ที่ยืนทำหน้านิ่งเมื่อได้ยินเธอเอ่ยอย่างนั้น“มาส่ง” เขายื่นใบหน้าหล่อ ๆ เข้าไปใกล้เธอ“ก็พี่กำลังจะกลับแล้วนิ”หลังจากที่ทานข้าวเสร็จก็พาลูกไปเดินเที่ยวซื้อของและมาส่งลูกเมียที่ห้องพัก เพราะอยากจะเห็นกับตาว่าเธอลำบากมากแค่ไหนและต้องพูดไม่ออกเมื่อห้องที่เธอกับลูกอยู่มันเล็กกว่าห้องเก็บของบ้านเขาเสียอีก แต่เขากลับภูมิใจและรักเธอมากขึ้นถึงจะลำบากขนาดไหนแต่เธอกลับเลี้ยงลูกให้สบายไม่ได้อดอยากของเล่นน้อยใหญ่เต็มห้อง“อ๊าก!! พี่ภูผา น้องเดินได้ด้วย” สองสายตาที่จดจ้องมองตากันต้องหันขวับไปทางต้นเสียงเล็กที่กรีดร้องออกมาอย่างตื่นเต้นดีใจเมื่อเด็กน้อยภูพิงค์ได้ตุ๊กตาซานริโอ My Melody ตัวสีชมพูน่ารักที่อ้อนพ่อจนต้องซื้อให้ ไหนจะของเล่นชิ้นอื่นที่เขาไม่เอาลงจากรถ ส่วนคนพี่กลับไม่เอาอะไรสักอย่างเอาแต่เดินจูงมือแม่“ภูพิงค์เบา ๆ มันดึกแล้วนะ” ภูผาเอามือเล็ก ๆ ปิดปากน้องสาว ทันทีที่พี่ชายทำแบบนั้นภูพิงค์ก็เงียบแล้วนั่งเล่นหัวเราะคิกคักกับพี่สองคน โดยมีสายตาสองคู่ที่มองลูกน้อยทั้งสองแล้วอดที่จะยิ้มตามไม่ได้“พี่เปอร์ จะทำอะไร”“