เสน่หามนตราบทที่ 40 - ขูดเลือดบราฮิมเมื่อรถหรูจอดเทียบทางเดินของคฤหาสน์หลังงามโออ่า ขายังไม่ทันได้ก้าวเดินไปไหนสายตาก็มองเห็นชายหญิงสองคนที่แปลกหน้ายืนอยู่ในสวนสนามหญ้าสีเขียว"ใครกัน? " ความสงสัยที่มีจนสบถออกไป จับม่านฟ้าที่หลับใหลในเอนอิงกับเบาะรถ ก่อนเจ้าของคฤหาสน์หลังงามจะเปิดประตูรถลงมา"พวกคุณเป็นใคร กล้าดียังไงเข้ามาในสถานที่แห่งนี้" เชคฮ บราฮิม เอ่ยขึ้นเสียงดังจนคนที่หันหลังเหลียวกลับมามอง"เอ่อ...ขอโทษค่ะคือพวกเราได้ข่าวว่าม่านฟ้าเพื่อนของเราอยู่ที่นี่" เมื่อได้ยินเสียงอันทรงพลัง เอยจึงหันหลังกลับมามองและเอ่ยบอกพร้อมเดินเข้ามาใกล้ในระยะพอเหมาะ"ใช่ และคุณเป็นคนพาเธอมา ผมจำหน้าคุณได้" ตามด้วยครรชิตที่เสริมทัพด้วยน้ำเสียงเข้ม"แล้วนายเป็นใคร? " เชคฮ บราฮิมเอ่ยถามอย่างสงสัยและไม่ค่อยพอใจ"นี่จำผมไม่ได้จริง ๆ? " ครรชิตย้อนถามสองมือเท้าสะเอวจ้องมองเชคฮ บราฮิมอย่างแค้นเคือง ไม่ได้หวาดกลัวต่อสายตาหรืออาณาบริเวณรอบกายแมเแต่น้อย"สำคัญขนาดไหนที่ผมต้องจำ" เชคฮ บราฮิมเปรยอย่างคนอารมณ์เสียหงุดหงิด มาถึงบ้านหวังจะได้สวีทหวานกับคนรักแต่ต้องมาเจอกับสถานการณ์ที่แสนจะรำคาญใจ "แล้วนี่ใครปล่อ
เสน่หามนตราบทที่ 41 - บทรักอาฟียา"พาฉันมาที่นี่ทำไมคะ" เอยเอ่ยถามเมื่อเห็นสถานที่นี้ที่แปลกใหม่ที่แสนจะเงียบมีความเป็นส่วนตัวสูง สวยงามด้วยการตกแต่งที่ดูร่มรื่นในยามกลางคืนแบบนี้ก็ดูสวยงามด้วยดวงไฟที่สาดส่องสีนวล อาณาบริเวณมีคนเฝ้าคุ้มกันภัยหนาแน่น".........." อาฟียาเงียบไม่ต้องกลับนอกจากส่งรอยยิ้มให้เท่านั้น ก่อนจะเดินเข้าไปภายในตัวบ้านอย่างไม่รีรอ"เดี๋ยว!! รอฉันด้วย" เอยร้องตามหลังและก้าวขาวิ่งให้ทันจนขนาบเคียงข้างร่างกายอาฟียา"ฉันมองออกว่าในวันที่เราเจอกันครั้งแรก...." อาฟียาส่งสายตาและมองเอยด้วยแววตาของความเสน่หา ฝ่ามือก็ลูบไล้พวงแก้มของเอยวนด้วยปลายนิ้วหัวแม่มือ"ทำไม? " เอยย้อนถามดวงตาจ้องมองหน้าอาฟียาไม่ลดละเช่นกัน สองสายตาจ้องมองกันเหมือนกำลังหยอกเย้ากันด้วยสายตาที่สื่อความหมาย"เธอคิดแบบเดียวกับฉัน...ฉันเดาถูกไหม? " อาฟียายังคงอ่อล้อด้วยคำพูดและมือก็ยังซุกซนทั้งลูบตามเรือนผิวของเอยอย่างเบามือ สัมผัสถึงขนแขนที่ตั้งชูยิ่งกว่าโดนความเย็นของเครื่องปรับอากาศ"แล้วเธอคิดแบบไหนล่ะ? " เอยก็ใช่ย่อยกรีดกรายปลายนิ้วเรียวลากยาวจากต้นแขนเล็กไล่ต่ำลงสู่ฝ่ามือขาว และเว้าวนเป็นวงกลมอย่า
เสน่หามนตรา (ตอนพิเศษ)บทที่ 42 - ทีของเอย"เอยเธอจะทำอะไร? " อาฟียาร้องถามอย่างตกใจ เมื่อเอยออกแรงจับอาฟียาพลิกตัวให้นอนหงายอย่างไม่ทันตั้งตัว หญิงสาวใบหน้าสวยเฉี่ยวสร้างความสุขให้แก่เอยอย่างถึงใจแล้ว"แค่นอนเฉย ๆ เดี๋ยวเอยทำเอง" ดวงตาฉ้อล้อของเอยมองอาฟียาพร้อมรอยยิ้มมุมปากที่แสนจะซุกซน ดอกไม้ป่างดงามสองดอกนี้ช่างมีพิษสงร้าย ยิ่งเมื่อเกษรของกลีบดอกไม้ต้องลมก็ทำให้ไฟสวาทในกายหญิงลุกโชนจ๊วบ กลีบปากสวยประกบบดจูบดูดทึ้งเป็นพัลวัน เรียวลิ้นเล็กเกี่ยวกันเป็นหนึ่งอันเดียวด้วยความปรารถนา กลิ่นหอมและรสหวานของน้ำในปากคละคลุ้งตลบอบอวลชวนให้หลงใหล ห้องรับรองแสนหรูจึงกลายเป็นรังรักของเธอทั้งสองอาฟียาบิดเร้าเรือนกายอย่างกระสัน เมื่อหญิงสาวหน้าสวยหวานครอบงำยอดถันสีสวยด้วยปากบาง มือหนึ่งของเอยกอบกำเค้นคลึงเต้าอวบอย่างเสียวซ่าน มันได้อารมณ์และทำให้อาฟียาครางออกมาเบาๆ ความสุขสมที่มี ตัณหาสวาทที่แล่นพล่านอย่างไม่อาจต้านทาน เรียวลิ้นของเอยนั้นช่างช่ำชองสนองตัณหาในกายสาวอย่างอาฟียาได้เป็นอย่างดีหากแต่หญิงสาวหน้าหวานที่ไม่เคยเป็นฝ่ายรุกเร้าใครมาก่อน กลับมีอารมณ์ปรารถนาต้องการที่จะแนบชิดกับอาฟียาแนบแน
เสน่หามนตราบทที่ 43 - ทำรัก!"เอาตัวไปขังไว้ในห้องรับรองจนกว่าอาฟียาจะมา" เชคฮ บราฮิมออกคำสั่งเสียงทรงพลังเมื่อครรชิตพยายามขัดขืนจะตามเอยไป..."คุณไม่มีสิทธิ์ทำกับใครแบบนี้" ครรชิตร้องลั่น"แล้วไง? นี่มันที่ของผม...และจะแจ้งความข้อหาที่คุณบุกรุกก็ยังได้" เชคฮ บราฮิม พูดออกไปอย่างไม่สะทกสะท้านแต่อย่างใด ใครจะทำอะไรเขาได้ถ้าเขาจะทำซะอย่าง"คุณ! " ครรชิตที่ถูกจับตัวหิ้วแขนสองข้างสบถออกมาอย่างเคืองโกรธเมื่อทำอะไรไม่ได้...เมื่อปัญหาเล็ก ๆ คลี่คลาย สองขายาวย่างกรายไปยังรถยนต์คันหรู ที่มีคนรู้ใจนอนหลับสนิทรอเขาอยู่"ม่านฟ้า...ม่านฟ้าครับ" จากเสียงเข้มก่อนหน้าแปรเปลี่ยนเป็นนุ่มนวลเมื่ออยู่กับม่านฟ้า"อื้อ...ถึงแล้วหรือคะ? " ม่านฟ้าเมื่อถูกรบกวนจึงสะลึมสะลือลืมตาตื่น"ถึงแล้ว...ไปนอนในห้องนะ""ค่ะ...อ๊ะ!! ไม่อุ้ม ๆ เดินเองได้ค่ะ" เชคฮ บราฮิมผู้ที่แสนจะห่วงใยหญิงสาว แม้สิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็แทบประเคน แค่ม่านฟ้าขยับตัวไม่ได้ดั่งใจต้องการ ด้วยอาการคนเพิ่งตื่นนอนไร้ความสดชื่นก็แทบอุ้มเธอสู่อ้อมอก...เว่ออะไรปานนั้น"ก็ช้า" เชคฮ บราฮิมต่อว่า"คนเพิ่งตื่นนอนนี่นา" ม่านฟ้าเอ่ยบอกเสียงใส"รีบไปดีกว่าเด
เสน่หามนตราบทที่ 44 - คลาย...แสงแดดยามรุ่งอรุณสาดส่องทอแสงอ่อนทะลุผ่านผ้าม่านมาในห้องนอนที่แสนโอ่อ่า ม่านฟ้าที่ถูกรบกวนด้วยแสงแดดลืมตาตื่นอย่างสะลืมสะลือและ สายตากวาดมองบริเวณโดยรอบอย่างพินิจพิจารณา...เธอมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไรกัน?"ที่นี่ที่ไหนวะ? " ความสงสัยในสถานที่แปลกใหม่ จนต้องดีดตัวลุกนั่ง สายตากวาดมองยังไงก็ไม่ใช่สถานที่คุ้นชิน"อ๊ะ..ปวดหัวจัง" ฝ่ามือกุมหัวเมื่ออาการที่หัวที่ไม่รู้สาเหตุก่อเกิดขึ้น"อ้าวม่านฟ้า คุณตื่นแล้วเหรอพอดีผมลงไปคุยกับราชิตมา.." เชคฮ บราฮิม ที่เปิดประตูห้องนอนเข้ามาถามไถ่เมื่อเห็นหญิงที่รักนั่งกุมขมับอยู่...ม่านฟ้าเงยหน้ามองตามเสียงเข้มที่เอ่ยถาม กระพริบตาเพื่อปรับวิสัยทัศน์ในการมองให้ชัดเจนจนเผยให้เห็นใบหน้าและรูปร่างของคนที่กำลังเดินตรงเข้ามาหา"นาย!! ..." ทันทีที่สายตามองเห็นดวงตากลมโตสีนิลเบิกกว้างอย่างตกใจ ชายคนนี้ที่เคยย่ำยี่เธอที่โรงแรมนั่น...และเขามาโผล่ที่นี่ได้อย่างไรสองขาของเชคฮ บราฮิมหยุดเดินกระทันหันเมื่อน้ำเสียงของม่านฟ้าที่เปลี่ยนไป และก็เริ่มรู้ในใจแล้วว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ต้องทำเป็นใจดี ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ดูเชิงเสียก่อน"คุณปวดหัวเหรอ?
เสน่หามนตราบทที่ 45 - ทวงสัญญา"อาฟียา..น้องอยู่ไหนรีบมาหาพี่ด่วนเลยตอนนี้" เชคฮ บราฮิมต่อสายหาน้องสาวทันทีอย่างร้อนใจเมื่อม่านฟ้านั้นโวยวาย ด่าเสียเทเสียจนเขานั้นแทบตั้งรับไม่ทัน แม้จะแกล้งเป็นหูทวนลม"มีอะไรกันท่านพี่ รนเชียว" อาฟียาร้องถามมาตามสาย"อย่าถามให้มาก รีบมา""เดี๋ยว ๆ น้องงงมีอะไร" อาฟียาผู้ที่ยังไม่รู้อะไรถามออกไปอย่างงุนงง"มั่วแต่คั่วหญิงอยู่นั่นแหละ" เชคฮ บราฮิมตำหนิเมื่อน้องสาวไม่ได้ดั่งใจ"โธ่ ท่านพี่แค่กระยาสัยน้า...ว่าแต่เกิดอะไรขึ้นที่นั่น" เมื่อน้ำเสียงพี่ชายดูแข็งกร้าว อาฟียาจึงใช้น้ำเสียงอ่อนลง"ม่านฟ้าสิ โวยวายใหญ่เลยแต่ตอนนี้หลับไปแล้ว เธอบอกปวดหัวมากและสลบไป" เชคฮ บราฮิมบอกปลายสายในสิ่งที่เกิดขึ้น"มันคลายแล้ว" อาฟียาบอกเมื่อรู้ถึงเหตุการณ์ที่พี่ชายเล่าให้ฟังถึงความเปลี่ยนแปลงของม่านฟ้า"ไหนบอกจะช่วยพี่ไง...ทำไมเป็นแบบนี้ล่ะ" เชคฮ บราฮิมทวงคำสัญญา"ท่านพี่คะ ฟังน้องนะ...ตอนแรกน้องอยากจะช่วยท่านพี่ต่อ แต่พอคิดไปคิดมามันจะเกิดอันตรายกับเธอได้ ถ้าเป็นเช่นนั้นท่านพี่ยอมรับได้หรือคะ หากเธอเป็นอะไรไป...การทำแบบนั้นไม่ได้ทำให้เธอรักท่านพี่ด้วยใจจริงหรอกนะคะ""
"นายหญิงเป็นอย่างไรบ้างคะ" อัยมี่เมื่อเห็นนายหญิงลืมตาตื่น ฟื้นจากอาการปวดหัวที่ทรมานเธอจนสลบ เอ่ยถามขึ้น"หยุดเรียกฉันแบบนั้นสักที" ม่านฟ้าบอกปัดพยายามหยัดตัวให้ลุกนั่ง หลังพิงหัวเตียงอย่างคนอ่อนแรง"นายหญิงเป็นอะไรคะ ทำไมถึงได้เปลี่ยนไปเช่นนี้" อาเดลสาวใช้ผู้เป็นน้องสาวถามขึ้นอย่างฉงนใจและถามแบบตรงไปตรงมาอย่างไร้เดียงสา"พวกเธอเป็นอะไร ทำไมต้องถามฉันแบบนี้ล่ะ" ม่านฟ้าย้อนถาม"เป็นนายหญิงของพวกเรายังไงคะ" อัยมี่บอกให้รู้จากที่ได้ปรนนิบัติรับใช้มา"นายหญิงบ้าบออะไรของพวกเธอ...แล้วฉันมาอยู่นี่ได้ยังไงกัน อ๊ะ! ""ปวดหัวอีกแล้วหรือคะ" อัยมี่ถามอย่างเป็นห่วง"อืม...ทำไมฉันเป็นแบบนี้นะ" ม่านฟ้าพึมพำกับตัวเองอย่างสงสัยในสิ่งที่เป็นแกร๊ก...เสียงเปิดประตูเข้ามาจนม่านฟ้าต้องเงยมอง เชคฮ บราฮิมผู้ที่ถูกม่านฟ้าเมินในตอนนี้"เป็นอะไร""นายหญิงปวดหัวค่ะ""ทั้งสองคนออกไปก่อน เดี๋ยวจัดการเอง"(ค่ะ) ทั้งอัยมี่และอาเดลตอบรับพร้อมกัน ก้มหัวอย่างนอบน้อมก่อนจะเดินจากไปทิ้งไว้เพียงนายสองคนตามลำพัง"จะทำอะไรของคุณ! " ม่านฟ้าเอ่ยถามอย่างสงสัย เมื่อเชคฮ บราฮิมนั่งลงใกล้ๆ โดยไม่พูดอะไร นอกจากจ้องมองหน้าเธอเท่
เสน่หามนตราบทที่ 47 - กลุ้ม"ท่านพี่" อาฟียาถามทันทีเมื่อเห็นพี่ชายนั่งตรงศาลาในสวน เธอเดินมาพร้อมกับเอยหลังจากที่เชยชมกันจนอิพลี"อาฟียา" เสียงแผ่วเอ่ยเรียกอย่างคนอ่อนแรง"มาทำอะไรตรงนี้คะ? " อาฟียาเอ่ยถามเมื่อ้ห็นสีหน้าพี่ชายไม่สู้ดีนัก"คุณไปหาเพื่อนคุณสิ...เธออยู่ในเรือนต้นไม้" เชคฮ บราฮิมบอกเอยที่ยืนขนาบข้างอาฟียา"......ครรชิตหรือคะ" เอยถามกลับ"ม่านฟ้าน่ะ" เชคฮ บราฮิมบอกให้คลายสงสัย"ถ้าอย่างนั้นน้องพาเอยไปส่งแล้วจะมาหานะคะ" อาฟียาเอ่ยอาสาถ้าให้เอยไปเองคงหลงทางเป็นแน่เพราะไม่คุ้นชิน"อืม" เชคฮ บราฮิม พยักหน้ารับรู้"อาฟียา...ม่านฟ้าผลักไสพี่...จะต้องทำยังไงดี" เมื่อน้องสาวเดินมานั่งตรงข้ามเชคฮ บราฮิมเอ่ยขึ้นทันทีอย่างกลัดกลุ้ม แม้จะบอกรักม่านฟ้าออกไปแต่เธอก็ยังใจแข็ง"เฮ้อ~~~ท่านพี่นะท่านพี่ ท้อถอยแล้วหรือคะ" อาฟียาที่เห็นสีหน้าพี่ชายเศร้าสลดจึงนึกสงสาร เมื่ออาการของพี่ชายที่มีต่อหญิงชาวไทยนั้นแปลกไปจากที่เคยเป็น"เปล่า...แค่มาตั้งหลักว่าต้องเข้าหาม่านฟ้าด้วยวิธีไหนดีเธอถึงจะมีใจให้พี่บ้าง" เชคฮ บราฮิม บอกน้องสาวในสิ่งที่กำลังคิด"จีบสิคะ...แบบชายจีบหญิง""น้องก็รู้พี่ทำไม่เ
“ดรูฟ ฮือ ๆ” ม่านฟ้าที่เห็นใบหน้าของบุตรชาย วิ่งกรูเข้าหาสามีทันทีเมื่อพบเจอ ความดีใจที่มากมายยิ่งกว่าสิ่งใดเมื่อบุตรชายนั้นปลอดภัยกลับมา “ฮือ ลูกแม่” ม่านฟ้ากอดบุตรชายแนบกับอกแน่น จมูกดอมดมสูดความอ่อนของกลิ่นเด็กอย่างแสนรัก เชคฮ บราฮิม โอบกอดภรรยาที่รักและบุตรชายไว้ในอ้อมกอดใหญ่ พร้อมกับมือหนาที่ลูบหัวภรรยาอย่างปลอบโยน “ดรูฟปลอดภัย ไม่ต้องร้องนะ” เชคฮ บราฮิม พูดปลอบใจภรรยาที่เอาแต่ร้องไห้สะอึกสะอื้นแทบขาดใจ เมื่อบุตรชายนั้นหายตัวไป “ขอบคุณนะคะที่พาลูกของเรากลับมา” ม่านฟ้าเงยหน้ามองสามีที่ตอนนี้ดวงตาแดงก่ำ กลีบปากอวบจูบซับลงคางสากอย่างขอบคุณ ข่าวการกลับมาของทายาทตัวน้อยรับรู้ถึงปู่ย่าและอา ทุกคนล้วนดีใจเป็นรู้สึกโล่งอก เมื่อหลานชายและทายาทเพียงคนเดียวนั้นกลับมาอย่างปลอดภัย ทำให้ความร้อนใจของคนในครอบครัวและบริวารที่จงรักภักดีนั้นปลื้มใจ เพราะดรูฟที่เป็นที่รักของทุกคนในตระกูล เวลาผ่านไปความคับแค้นใจที่อานัสนั้นมีย่อมผ่อนปรนลง ฟาตินก็ยังคงอยู่กับอานัสในคฤหาสน์หลังนั้นเรื่อยมา ท่ามกลางความเจ็บช้ำและจำยอมที่จะอยู่ต่อเพราะถูกบังคับและเพราะคำสัตย์ที่เธอนั
อำนาจที่มีพร้อมกับพละกำลังคนที่มากโขความชำนาญของลูกน้องที่เก่งกาจในด้านเทคโยโลยี จนทำให้ เชคฮ บราฮิม นั้นรู้แล้วว่าบุตรชายนั้นอยู่ที่ใด การติดตามตัวบุตรชายเพียงคนเดียวจึงเริ่มต้นขึ้น เชคฮ บราฮิม รีบมุ่งตรงไปยังที่หมายที่สืบหามาได้ ด้วยห่วงใยบุตรชายที่ตกอยู่ในมือของอดีตเพื่อนรักอย่างอานัสและทำให้รู้ด้วยว่าฟาตินนั้นอาศัยพักพิงอยู่กับอานัสมานานแรมเดือน“เรามาขอพบอานัส” เสียงเข้ม ใบหน้าดุดันเอ่ยขึ้นเมื่อก้าวขาเข้ามาในบริเวณคฤหาสน์หลังโตของอดีตเพื่อนรัก“ไม่ทราบว่าได้นัดไว้หรือเปล่าครับ” หัวหน้าองครักษ์เอ่ยถาม เมื่อการมาของเชคฮ บราฮิมนั้นมีบุคลากรที่มากมายพร้อมทั้งอาวุธประจำกายแทบทุกคน“ไม่ได้นัด และเราก็ต้องเจออานัสตอนนี้” เสียงเข้มบอกกล่าวเมื่อเขานั้นร้อนใจเพราะกลัวบุตรชายเกิดอันตราย แค่ใบหน้าของม่านฟ้าที่แปดเปื้อนด้วยน้ำตาเพราะความเศร้าโศกก็ทำให้เชคฮ บราฮิมนั้นใจแทบสลายแล้ว“ต้องขออภัยเพราะกระผมคงให้ท่านพบพร้อมคนมากมายที่มีอาวุธติดกายไม่ได้” หัวหน้าองครักษ์บอกกล่าวหน้านิ่ง ยิ่งทำให้เชคฮ บราฮิมนั้นเลือดขึ้นหน้า“ไปบอกอานัส ว่าเรา เชคฮ บราฮิมต้องการพบ เดี๋ยวนี้!!” ความร้อนใจที่มีทำให้เชคฮ
ทันทีที่รู้ข่าวของบุตรชายที่หายตัวไปโดยที่ไม่มีใครเห็นเลย เชคฮ บราฮิม ร้อนรนใจอย่างมาก ละจากงานทุกอย่างโดยไม่รีรอ รีบปรี่กลับไปยังคฤหาสน์ทันที สถานที่ที่คนคุ้มกันแน่นหนาทำบุตรชายนั้นจะหายไปอย่างไรกัน “บราฮิม ฮึก อึก ฮือ...ดรูฟ ดรูฟหายไป ฮืออออ” ม่านฟ้าที่ร่ำไห้จนดวงตาบวมแดง ตั้งแต่ออกจากห้องน้ำแล้วไม่เห็นลูกชายที่ตนวางไว้บนเตียงนอน สั่งคนตามหาในอาณาบริเวณก็ไร้วี่แวว เด็กน้อยที่ยังไม่สามารถเดินเองได้จะหายไปได้อย่างไร หากไม่มีคนอุ้ม “ม่านฟ้า ใจเย็น ๆ นะ ดรูฟหายไปได้ยังไง” เชคฮ บราฮิม โอบกอดภรรยาที่ร้องไห้อย่างโศกเศร้า พูดด้วยน้ำเสียงสะอึกสะอื้นแทบฟังไม่ได้ศัพท์ “ไม่รู้ เข้าห้องอยู่ออกมาก็ไม่เจอลูก บราฮิม ฮือ ฮึก ดรูฟ จะ จะเป็นอะไรไหม” “ดรูฟจะต้องปลอดภัย จะไม่มีใครทำอะไรดรูฟได้ ผมสัญญา” เชคฮ บราฮิม พูดปลอบประโลมภรรยาให้คลายกังวล ทั้งที่ตนนั้นกลับยิ่งกังวลใจไม่แพ้กัน “ราชิต สั่งคนตามหาดรูฟ เช็คกล้องวงจรปิดทุกตัวอย่างละเอียด” “ครับ” ราชิตรับคำสั่งอย่างหนักแน่น แล้วเดินจากไปเพื่อทำหน้าที่ของตน คนในครอบครัวที่เชคฮ บราฮิมนั้นส่งข่าวท่านปู่
“ดรูฟ รอแม่อยู่ตรงนี้นะ แม่ขอเข้าห้องน้ำสักครู่เดียว” เสียงของม่านฟ้าพูดคุยกับบุตรชายที่กำลังนอนหลับสนิท เวลานี้ที่เธอนั้นอยู่เพียงลำพังในห้องนอนเพราะต้องให้นมบุตรชาย จึงต้องอยู่เป็นการส่วนตัวและไร้หญิงรับใช้คนสนิทที่เธอนั้นไว้วานให้ไปทำงานให้ ประจวบเหมาะกับที่ผู้คิดร้ายนั้นได้ยินในคำพูด และแอบย่องเบาเข้ามาในห้องนอนอย่างถือวิสาสะและไร้คนมองเห็น ฟาตินเดินเข้ามาใกล้ เป้าหมายคือทายาทเพียงคนเดียวของ เชคฮ บราฮิม ที่เขานั้นรักปานดวงใจ ดรูฟน้อยถูกอุ้มขึ้นสู่อ้อมอกของฟาติน ไร้เสียงร้องของเด็กน้อยที่นอนหลับสนิทเมื่อกินอิ่มพลี ฟาตินค่อย ๆ อำพรางร่างกายของดรูฟด้วยผ้าคลุมสีทึบที่พกมา ทุกอย่างถูกเตรียมการมาอย่างดี ฟาตินคิดแบบนั้น การลักลอบเข้ามายังคฤหาสน์โดยที่ไม่มีใครล่วงรู้และการก่อเหตุลักพาตัวทายาทเพียงคนเดียวเริ่มขึ้น ฟาตินค่อย ๆ ย่องและหลบซ่อนสายตาของหน่วยคุ้มกันภัยที่รายล้อมทั่วอาณาบริเวณ การคุ้มกันที่แน่นหนา จะทำอย่างไรถึงจะรอดพ้นได้“จะหนีออกไปอย่างไรดี” ฟาตินยืนบ่นและใช้ความคิด ดีในความคิดของเธอคือดรูฟไม่มีเสียงร้องใด ๆ ให้คนสงสัย“ฮึ แกต้องเจ็บเจียนตายแน่ เชคฮ บราฮิม” สายตามองเห็นรถส
กลีบปากหนาละออกห่าง ร่างบางถูกช้อนตัวขึ้นสู่อากาศในอ้อมอกแกร่ง แผ่นหลังบางแนบสนิทกับพื้นที่นอนนุ่มในเวลาถัดมา ม่านฟ้าถูกคลายชุดที่สวมใส่จนหลุดร่วงด้วยฝีมือของสามีหมาด ๆ เผยร่างกายที่สวยงามท้าทายต่อสายตาคมดุดัน สองสายตาจ้องมองกันและกันอย่างหยาดเยิ้ม วงแขนเล็กโอบรอบลำคอแกร่ง ออกแรงดึงจนใบหน้าคมขยับเข้าใกล้จนลมหายใจอุ่นกระทบผิวของกันและกันม่านฟ้าประกบเรียวปากทาบทับกลีบปากหนาอย่างยินยอม สร้างความพึงพอใจให้กับเชคฮ บราฮิมยิ่งนัก บทรักเริ่มก่อตัวอย่างเร่าร้อน เรียวลิ้นชอนไชหยอกเย้ากันอย่างท้าทาย สองกายแนบชิดบดเบียดกัน และร่างหนานั้นยั้งแรงในบางจังหวะเพราะนึกถึงทายาทที่กำลังอยู่ในท้องอย่างนึกห่วงใย "จะทำเบา ๆ จะไม่ให้เกิดอันตราย" เชคฮ บราฮิมบอกกล่าว เมื่อไม่อาจทานทนต่อแรงสวาทได้อีก ร่างกายที่แสนยั่วเย้าสายตาจนร่างหนานั้นเก็บกั้นอารมณ์ไว้ไม่ไหว"หมอบอกว่าทำได้ค่ะ"สองขาเรียวถูกแยกออกห่าง ร่างกายหนาแทรกกลางกายสาว คุกเข่าจับความเป็นชายค่อย ๆ เคลื่อนคล้อยสู่กลางกายสาวที่ยังคับแน่น"อื้อ" เสียงเค้นในลำคอบางเบา ใบหน้าเสลาเงยเชิดกัดริมฝีปากและหลับตาพริ้มเมื่อรวมกายให้เป็นหนึ่งเอาหนาเริ่มขยับช้า
เวลาถัดมาม่านฟ้าถูกสาวรับใช้จัดการกับเรือนร่าง ทุกอย่างถูกอาฟียาจัดการอย่างดิบดี เสื้อผ้า เครื่องประดับ ที่พร้อมประดับบนเรือนกายระหงษ์ หน้าท้องที่เคยแบนราบเริ่มโผล่เล็กน้อยตามอายุครรภ์ “ทำไมต้องแต่งตัวขนาดนี้ด้วยล่ะเอย” ม่านฟ้าที่นั่งเป็นหุ่นให้กับอัยมี่และอาเดล จัดแต่งหน้าทำผมเอ่ยถามเมื่อนึกสงสัย “เราจะไปงานเลี้ยงกันไงแก” เอยบอกย้ำให้รับรู้ งานเลี้ยงที่เป็นงานแต่งของเพื่อนสนิท ที่เจ้าตัวนั้นไม่รู้มาก่อน “ทำไมไม่มีใครบอกก่อนล่ะ” “ก็บอกอยู่นี่ไง” “เดี๋ยว ๆ แล้วทำไมต้องวาดลวดลายลงบนมือด้วยล่ะ”ม่านฟ้าสงสัยเมื่อมือและเท้าทั้งสองข้างถูกช่างวาดลายเฮนย่าลงอย่างละเมียดละไมและประณีต “มันไม่ได้ร้ายแรงอะไรหรอกค่ะ ว่าที่พี่สะใภ้ ทุกอย่างที่ทำให้ล้วนดีแล้ว” อาฟียาชี้แจงเมื่อม่านฟ้านั้นสงสัยในการกระทำไม่เลิกลา “ทำ ๆ ไปเถอะน๊า ฉันก็ไม่รู้ ท่านเชคฮบอกให้ทำก็ทำตามสิ” คำพูดที่เอยบอกกล่าว สะกิดให้นึกถึงสิ่งที่ให้คำมั่นว่าจะไม่งอแงหากอาฟียาให้ทำอะไร ม่านฟ้าจึงเงียบปากไว้และทำได้แค่เพียงนั่งนิ่งเท่านั้น เวลาผ่านไปหลายชั่วโมง การจัดกา
Special - ขอแค่กลับมาตลอดเวลาที่ยาวนานกว่าสามสิบกว่าวันที่ม่านฟ้านั้นไม่ได้ออกไปไหน นอกจากอยู่ภายใต้ชายคาของคฤหาสน์และเดินเล่นเพียงแค่บริเวณรอบด้านเท่านั้น มีเพียงอาฟียาและเอยเพื่อนรักเท่านั้นที่คอยอยู่แก้เหงา โดยที่ม่านฟ้าก็ไม่รู้ว่าทำไม เชคฮ บราฮิม ถึงสั่งห้ามขนาดนี้ เหมือนจะกักขังเธอไว้อย่างกับนักโทษในความคิดของเธอ แต่เมื่อม่านฟ้าได้ยิน เชคฮ บราฮิม นั้นบอกแค่ว่า‘ที่ทำไปนั้นล้วนมีเหตุผล…ทุกอย่างเพื่อคุณนะม่านฟ้า’ประโยคที่บ่งบอกว่าเขานั้นห่วงใย ม่านฟ้าจึงไม่เซ้าซี้ถามต่อให้มากความ เพราะมั่นใจว่าสิ่งที่คนรักนั้นทำและสั่งการ ย่อมมีเหตุผลและที่มาที่ไปเสมอ เธอจึงเชื่อใจและยอมทำตามอย่างไม่มีข้อแม้ “นี่เป็นของขวัญที่ท่านพี่ส่งมาให้ค่ะว่าที่พี่สะใภ้” อาฟียาและเอยเดินเข้ามาในห้องรับรองที่ม่านฟ้ากำลังนั่งถักไหมพรมเป็นงานอดิเรก พร้อมกับเหล่านางรับใช้ราวแปดคนพร้อมกับของในมือมากมายที่อาฟียาบอกว่ามันคือของขวัญ “ของขวัญ?” ม่านฟ้าเงยหน้าจากงานที่ทำแล้วย้ำถามอย่างสงสัย ของขวัญเนื่องในโอกาสอันใด และนี่ก็หลายวันที่ เชคฮ บราฮิม หายหน้าไป ม่านฟ้าจะเจอแค่วันละหนึ่งครั้งเท่านั้น ด้วยหน้
“เธอเป็นอย่างไรบ้างหมอ” เชคฮ บราฮิม เอ่ยถามทันทีอย่างร้อนรนใจเมื่อหมอนั้นตรวจอาการของม่านฟ้าเรียบร้อย “ไม่ได้เป็นอะไรเลยค่ะ” หมอหญิงบอกกล่าวถึงอาการ “ไม่ได้เป็นได้ยังไง อาเจียนขนาดนี้!” เชคฮ บราฮิม เกิดอาการฉุนเฉียวเมื่อสิ่งที่เขาเห็นนั้นว่าหนักหนา แต่หมอกลับบอกว่าไม่เป็นอะไร เหมือนหมอนั้นโกหกหน้าตายเสียอย่างนั้น “ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงเลยค่ะท่าน...แค่นายหญิงนั้นตั้งครรภ์เท่านั้น” “ยังจะโก....” เชคฮ บราฮิม เตรียมสาดคำด่าเมื่อหมอยังบอกว่าไม่เป็นอะไร แต่ต้องหยุดชะงักคำพูดไว้ เมื่อสิ่งที่ได้ยินนั้นเหมือนสายลมผ่านหู ฟังดูแล้วไม่ค่อยชัดเจน “อะไรนะ หมอว่าอะไรนะ” จนต้องย้อนถามอีกครั้งอย่างตะลึงอึงงัน “นายหญิงตั้งครรภ์ค่ะ ควรพานายหญิงไปฝากครรภ์และตรวจดูอายุครรภ์อีกครั้งนะคะ” “จริงเหรอ” สีหน้าที่เปี่ยมล้นด้วยความยินดี อาเดลและอัยมี่พร้อมราชิตที่ยืนข้างเตียง ยิ้มแย้มด้วยความปรีติยินดีที่ตอนนี้นายเหนือหัวกำลังจะมีทายาท “ม่านฟ้าเรากำลังจะมีลูก” เชคฮ บราฮิม โผเข้ากอดหญิงที่รักที่นอนยิ้มอยู่บนเตียง น้ำตาที่ไหลอาบแก้มใสเป็นน้ำตาของความดีใจเมื
เวลาผ่านพ้นไปนานนับเดือนครรชิตหายไปจากต่างแดนเพราะคำสั่งที่แสนจะหนักแน่นของผู้มีอิทธิพลอย่าง เชคฮ บราฮิม สั่งการ ให้ส่งตัวกลับบ้านเกิดและไม่ได้ข่าวคราวอะไรของครรชิตอีกเลย ส่วนเอยและอาฟียาก็อยู่ด้วยกันอย่างคนรักแบบเปิดเผย แม้ผู้เป็นพ่อจะไม่ค่อยพอใจแต่จะห้ามยังไงได้เมื่อบุตรสาวนั้นร้องขอ ด้วยความรักลูกจึงต้องยอมปิดหูปิดตา แม้ว่าจะไม่ชอบใจ อาฟียาเทียวไปเทียวมายังประเทศไทยอยู่บ่อยครั้ง เพราะเอยก็มีหน้าที่ที่ต้องทำอย่างเช่นคนทั่วไปเหมือนกัน แม้อาฟียาจะร้องขอให้เอยมาอยู่ด้วย แต่ด้วยเหตุผลที่มากขอของเอยอาฟียาจึงเป็นฝ่ายยอมเอง สิ่งที่ม่านฟ้านั้นฝัน สถานที่แห่งไหนที่ม่านฟ้านั้นอยากไป เชคฮ บราฮิม จะเป็นคนพาเธอสานต่อมันด้วยตัวเอง หลังมื้อเย็นที่ชายและหญิงนอนกกก่ายกันบนเตียงนอนและดูโทรทัศน์ด้วยกัน มือหนาลูบหน้าคนในอ้อมกอดแผ่วเบา มือเล็กก็ลูบไล้แผงอกแกร่งที่ไร้เสื้อผ้า ไหล่หนาคือหมอนหนุนชั้นดีให้หญิงสาว “อยากไปไหนไหม” เชคฮ บราฮิม เอ่ยถามขึ้น เมื่อนึกได้ว่าจุดประสงค์ที่ม่านฟ้านั้นมาที่นี่เพื่อท่องเที่ยวและพักผ่อน แต่เธอกลับยังไม่ได้ไปไหนมากมายเพราะเขานั้นฉุดเธอมาก่อน “ถามทำไมค