"ชมพู่" ปฐพีกระซิบ "ขย่มให้ดินหน่อย" เสียงกระเส่าเอ่ยร้องขอ คำแทนตัวน่ารัก ๆ ทำให้ชมพู่น้อยขัดเขิน แต่ก็ยอมยันกายขึ้นคล่อมร่างแกร่งแต่โดยดี ชมพู่วางมือลงบนหน้าท้องที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อ เธอขยับตัวอย่างเก้ ๆ กัง ๆ เพราะไม่เคย จนคุณชายต้องช่วยประคองเอวบางไว้ "ค่อย ๆ ไม่ต้องรีบ" คุณชายใช้มือข้างหนึ่งจับแก่นกายตัวเอง มือข้างวางลงบนเอวคอด รอดจนกระทั้งคนตัวเล็กค่อย ๆ หย่อนตัวลงมาเพื่อสอดประสาน "อ่าส์" ส่วนหัวผลุบเข้าไปในร่องแฉะชื้น ชมพู่หยุดพักคู่หนึ่งเพื่อปรับตัว ไม่รู้ว่าเธอคิดไปเองหรือไม่ แต่วันนี้แท่งใหญ่นี่ใหญ่กว่าปกตินิดหน่อย "ค่อยทิ้งตัวลงมา ช้า ๆ แบบนั้น" ปฐพีคอยกำกับเหมือนกำลังสอนเด็กน้อยไม่รู้ความ เขากัดฟันจนกรามนูน เหงื่อเม็ดเป้งผุดขึ้นตามตัวเพราะต้องอดทน อดทนไม่ให้ตัวเองกระเด้งเอวสวนขึ้นไป เสียบเสยให้ท่อนเนื้อซุกรูอุ่น ๆ ในพริบตาเดียว เขาอยากให้สิ่งที่กำลังเกิดคือการร่วมรักมากกว่าเซ็กส์ เขาอยากให้ชมพู่ได้สัมผัสความจริงจังและจริงใจของเขาผ่านเซ็กส์ครั้งนี้ "สุด...สุดหรือยัง อื้อ" "อีกนิดครับคนเก่ง" ปฐพีลูบเอวบางปลอบขวัญ ถ้าไม่ใช่เพราะนอนอยู่จะลุกขึ้นไปจูบสักสองสามท
คำเตือน เรื่องนี้มีเนื้อหารุนแรง ฉากเลิฟซีนค่อนข้างมีความ SM มีการใช้อุปกรณ์กับคู่นอน ไม่ชอบแนวนี้รอติดตามเรื่องอื่นนะคะ . . ม่านมุกเกลียดผู้ชายคนนั้น ผู้ชายที่เข้ามาพรากทุกอย่างในชีวิตของเธอไป ผู้ชายที่เข้ามาทำให้จุดบกพร่องของเธอชัดขึ้น ผู้ชายที่ทำให้เธอด้อยค่า ไร้ตัวตน ผู้ชายที่เป็นลูกติดของแม่เลี้ยงคนนั้น . . "มุก ได้ข่าวว่าพี่ชายเธอกลับจากใช้ทุนแล้ว?" ม่านมุกชะงักกึก สีหน้าที่เคยรื่นรมย์เปลี่ยนเป็นแข็งกร้าวทันที เธอวางแก้วที่บรรจุเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ลงกับโต๊ะเสียงดัง พลางใช้หางตามองเพื่อนอย่างไม่ชอบใจ กล้าดียังไงถึงได้พูดถึงผู้ชายคนนั้นต่อหน้าเธอ ทั้ง ๆ ที่รู้ว่าเธอเกลียดแสนเกลียด "อย่าเพิ่งโกรธสิ" เพื่อนสาวรีบเอาน้ำเย็นเข้าลูบ "ฉันแค่มีแผน ถ้าทำได้ เธอจะเขี่ยพี่ชายเธอออกไปจากชีวิตได้สมใจ" . . บรรยากาศโต๊ะกินข้าวในบ้านหลังใหญ่เต็มไปด้วยความชื่นมื่น ชายวัยกลางคนผู้นั่งประจำที่หัวโต๊ะมีแต่รอยยิ้ม ชวนลูกชายนอกไส้คุยเรื่องใช้ทุนอย่างออกรส ม่านมุกเขี่ยข้าวในจานไปมา ต้องร่วมโต๊ะกับคนที่เกลียดมันทำให้เธอสะอิดสะเอียนอยากจะอาเจียน พาลให้กินข้าวไม่ลง "น้องมุก กับข้าวไม่
'วางยานอนหลับ แล้วเธอก็แสดงละครว่าถูกพี่ชายรังแกข่มเหง' 'จะบ้าเหรอ! ไม่เอา!!' 'เชื่อฉันสิมุก ถ้าเธอไม่ทำอะไรเลย พี่ชายนอกไส้ของเธอก็จะเชิดหน้าชูตาอยู่แบบนี้ไม่ไปไหน พ่อเธอก็จะยิ่งรักยิ่งบูชา ขนาดไปใช้ทุนที่บ้านนอกตั้งสองปี พ่อเธอยังไม่สนใจเธอมากขึ้นเลย' 'ยัยแพรว!!' 'เธอจะโกรธก็ได้นะ แต่ฉันพูดความจริง ไม่อย่างนั้นเธอคงไม่ทำตัวเหลวแหลกประชดพ่อตัวเองแบบนี้' '.....' 'ฉันหวังดีกับเธอนะมุก' . . ม่านมุกกำยาขวดเล็ก ๆ ที่อยู่ในมือแน่น ริมฝีปากอิ่มเม้มสนิท 'แค่ทำให้พ่อเธอเห็นว่าลูกเลี้ยงสุดที่รักไม่ได้ดีอย่างที่คิด มันไม่ได้เสียหายอะไรเลยมุก ใช้ยานี้ เยื่อพรหมจรรย์เธอจะยังอยู่เหมือนเดิม แต่พี่ชายที่เธอเกลียดแสนเกลียดกับแม่เลี้ยงจะกระเด็นออกจากบ้านไปทันที' "เห้ออ!" หญิงสาวถอนหายใจ เธอเกลียดธันวา แต่เธอก็ไม่อยากเสี่ยง ถ้ามันผิดพลาดล่ะ "ฮัลโหล" ม่านมุกหยิบมือถือขึ้นมากดรับสายจากคนที่อยู่ที่ฝากโลก แววตาของเธอเบื่อหน่าย แต่กลับต้องปั้นเสียงว่าร่าเริงเต็มประดา (เบบี๋ ทำอะไรอยู่) "กำลังจะอาบน้ำ" (ว๊าววว อยากไปอาบด้วยจัง) ม่านมุกเบะปาก เธอแทบอยากจะวางสายหนีเมื่อได้ยินประโยคคุกคามแบบน
"ฝันไปเถอะ ไอ้โรคจิต" "หืม?" ธันวาเอียงคอเล็กน้อย เขาเดินไปหยิบกล่องบางอย่างมาชูตรงหน้าม่านมุก นัยย์ตาของหญิงสาวขยายกว้างเมื่อเห็น 'สิ่งนั้น' "ใครกันแน่ที่โรคจิต?" "ไอ้บ้า!! อย่ายุ่งกับของ ๆ ฉันนะ!!" ม่านมุกดิ้นจนเจ็บข้อมือที่ถูกพันธนาการ ดวงตาคู่สวยมองธันวาด้วยความเกลียดจับใจ หมดแล้ว เธอไม่เหลืออะไรแล้ว ความลับที่เก็บมาหลายปี วันนี้ถูกล่วงรู้จากคนที่เกลียดที่สุด เธออยากกัดลิ้นให้ตาย จะได้ไม่ต้องอับอายแบบนี้ "ถ้าคุณไม่ทำแบบนี้ ผมคงไม่ยุ่งกับคุณ" "....." "แต่ในเมื่อมันมาถึงขั้นนี้แล้ว คุณไม่คิดบ้างหรือว่านี่มันอาจจะเป็นพรหมลิขิต" "พรหมลิขิตบ้าบออะไรของแก!!" "ก็คุณชอบ..." ธันวาเทของในกล่องทั้งหมดลงพื้นพรม "ผมเองก็ชอบเหมือนคุณ" ม่านมุกเบิกตากว้าง เธอรู้สึกขนลุกไปทั้งร่าง "ไม่น่าเชื่อว่าเราจะชอบ 'อะไร ๆ' เหมือนกัน" พูดจบ ธันวาก็หยิบแส้หนังอย่างดีขึ้นมาชื่นชม ม่านมุกกลืนน้ำลายเหนียว ๆ ลงคอ ดวงตาที่เคยแข็งกร้าวสั่นระริก เนื้อตัวที่เคยต่อต้านอ่อนยวบ ใจเธอยังต่อต้าน แต่ร่างกายเธอกลับต้องการ เอาแส้นั่นตีเธอสิ สายตาเธอบอกแบบนั้น "ตอนนี้คุณน่ารักกว่าตอนทำตัวร้าย ๆ เยอะเลย"
ดวงตาคู่สวยเบิกกว้าง ริมฝีปากอ้าค้างเมื่อได้เห็นอาวุธลับของพี่ชายนอกไส้เต็ม ๆ ตา ยะ...ใหญ่มาก ธันวาขยับเข้าหา ท่อนลำใหญ่ยักษ์แกว่งไปมาน่าเกรงขาม ม่านมุกกลืนน้ำลายลงคอ ตาจ้องมองสิ่งนั้นไม่กระพริบ ธันวาไม่ได้มีผิวแทนแต่กำเนิด เพราะท่อนเอ็นประจำกายมีสีอ่อน ส่วนหัวแดงฉ่ำเหมือนลูกชมพู่และใหญ่กว่าส่วนอื่น ลำยาวเหยียดตรงโค้งงอขึ้นเล็กน้อย เส้นเลือดปูดพันรอบความใหญ่ให้ดูดุดันกว่าเดิม คุณหมอหนุ่มใช้มือกอบกุ่มแก่นกายตัวเอง รูดขึ้นรูดลงช้า ๆ "ของพี่ผ่านไหมครับน้องมุก" ม่านมุกกระพริบตาปริบ ๆ ไม่ตอบคำถามนั้น "อยากได้ไหมครับ" ถามพลางขยับเข้าใกล้ด้วยท่าทีคุกคาม ม่านมุกขยับตัวขึ้นนั่งพิงหัวเตียง ดวงตาจ้องมองส่วนนั้นไม่ลดละ "อยะ..." "อยะ...นี่อย่า หรืออยาก" "อยะ...อยาก" "น่ารัก" คุณหมอเอ่ยชมสั้น ๆ แต่กลับทำให้หัวใจของม่านมุกเต้นแรง กายแกร่งค่อย ๆ ขยับเข้าใกล้ ท่อนเนื้ออวบอยู่ห่างแค่เอื้อม ม่านมุกมองตาปรอย เป็นครั้งแรกที่เธออยากให้สิ่งนี้ใส่เข้ามาในตัว กระแทกแรง ๆ ลึก ๆ และทำให้เธอสุขสมยิ่งกว่าไข่สั่นหรือนิ้วนั่น "ถอดกุญแจมือก่อนไหม" "ไม่ต้อง" "อืม น้องมุกทำให้พี่คึกกว่าเดิมอีกนะ" ชา
พอรอบแรกถุงยางแตก รอบที่สอง สาม และสี่จึงไม่จำเป็นต้องใช้ถุงยางอีกต่อไป ม่านมุกนอนหอบหายใจ ขาเรียวอ้ากว้างเหมือนหุบไม่ลง รูสวาทมีน้ำขาวขุ่นไหลเยิ้มออกมาไม่ขาดสาย ธันวาเดินออกมาจากห้องน้ำ กายแกร่งมีเพียงผ้าเช็ดตัวผืนเล็กปิดบังส่วนล่างไว้อย่างหมิ่นเหม่ เขาขึ้นเตียง แตะขาเรียวเบา ๆ "อ้าขาแบบนี้อยากโดนอีกหรือไง" "ไป...แฮ่ก...ไปตายอดตายอยากมาจากไหน" ม่านมุกด่าไปหอบไป เธอเหนื่อยจนตาลาย แต่ผู้ชายคนนี้ใบหน้ากลับผ่องใสเหมือนไม่ได้ทำอะไรเหนื่อย ๆ มา ทำไมมีแค่เธอที่หมดสภาพคนเดียว ทั้ง ๆ ที่ความจริงแล้วเธอออกแรงน้อยกว่าธันวาด้วยซ้ำ ม่านมุกอยากข่วนหน้าพี่ชายนอกสายเลือดให้พัง แต่เธอไม่มีแรงแล้ว คุณหมอยักไหล่ "ก็พรุ่งนี้คงโดนไล่ออกจากบ้าน วันนี้เลยเก็บให้คุ้ม" "เหอะ!" ม่านมุกเมินไปทางอื่น เธอกำลังคิดไม่ตกว่าจะทำยังไงดี ตามแผนที่วางไว้เธอต้องทำยังไงก็ได้ให้ธันวาออกจากบ้านหลังนี้ไป ตอนนี้แผนเธอดำเนินมาครึ่งทางแล้ว น่าเศร้าที่มันผิดพลาดจากการละครเป็นเรื่องจริง เธอมีอะไรกับธันวาจริง ๆ และสภาพเธอก็ยับเยินไม่ต่างจากถูกข่มขืน แต่เธอรู้ดีว่าเธอไม่ได้ถูกขืนใจ ซ้ำร้ายยังเต็มอกเต็มใจเสียด้วยซ้ำ "
ธันวาเดินกลับมาที่โต๊ะอาหารก่อน บรรยากาศบนโต๊ะดูตึงเครียดกว่าเดิม คุณลุงไม่แม้แต่มองหน้าแฟนหนุ่มของลูกสาว ส่วนแม่เขาก็มีสีหน้าไม่ค่อยดี "ธันไปไหนมาลูก" "ผมไปเอาผลไม้มาครับ" ธันวาชี้ไปที่ผลไม้ที่ปอกเปลือกและหั่นเรียบร้อยแล้ว "ให้เด็ก ๆ ไปเอาก็ได้" "แค่นี้เองครับแม่" บทสนทนาของสองแม่ลูกจบลง พร้อม ๆ กับร่างบางที่เดินกลับเข้ามา ม่านมุกนั่งบนเก้าอี้ช้า ๆ ตาเหลือบมองธันวาที่ก้มหน้านิ่งดูไร้พิษสง ครืดด "อึก!" เสียเมื่อไหร่! "เบบี๋ ยูเป็นอะไร" "ปละ...เปล่า" ม่านมุกส่ายหน้า ไข่สั่นหยุดทำงานแล้ว แต่ถ้าเธอคุยกับแดเนียลต่อ ธันวาคงแกล้งเธออีก หญิงสาวทำเป็นไม่สนใจแฟนหนุ่ม ไม่สนใจแม้แต่บิดาที่นั่งหน้าตึงอยู่ เธอกินข้าวจนอิ่ม "อยากกลับหรือยังแดน" "อืม ก็ได้" แดเนียลทำท่าลำบากใจ แต่ในใจกลับเต้นเป็นลิงโลด หนุ่มอเมริกันที่ไม่ได้มีวัฒนธรรมต้องเกรงใจพ่อแม่กำลังอึดอัดกับวัฒนธรรมไทย ในใจแดเนียลอยากเลิกกับม่านมุก แต่ก็เสียดายที่ยังไม่ได้กินเนื้อขาว ๆ สักครั้ง ม่านมุกเดินออกมาส่งแฟนหนุ่ม ท่าเดินแปลก ๆ ของหญิงสาวทำให้แดเนียลถามออกมา "เบบี๋ ยูเป็นอะไรไป" "เปล่า" ม่านมุกปฏิเสธ แต่เรียวกลับหน
ความสัมพันธ์ผิดบาปของสองพี่น้องต่างสายเลือดดำเนินมาแบบลับ ๆ จากวันเป็นเดือน จากเดือนเป็นปี จากความสุขสมบนเตียงแปรเปลี่ยนเป็นความรู้สึกที่แน่นแฟ้น ม่านมุกไม่อยากยอมรับ แต่ตอนนี้เธอขาดธันวาไม่ได้แล้ว เธอไม่รู้สึกเกลียดอีกต่อไป ซ้ำยังต้องการธันวามากขึ้นทุกวัน ร่างบางในชุดเดรสแสนเซ็กซี่ก้าวฉับ ๆ ไปที่ลิฟต์ เธอทำทุกอย่างด้วยความคุ้นเคยเพราะมาที่นี่บ่อยกว่าบ้านตัวเอง เพียงไม่นานลิฟต์โดยสารก็มาส่งเธอที่ชั้นยี่สิบแปด รังรักของเธอและธันวา ม่านมุกเข้าไปในห้องหรู เธอเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดสบาย ๆ และเข้าครัวอย่างรวดเร็ว วันนี้วันเกิดคุณหมอ อีกฝ่ายออกเวรสี่ทุ่ม เธอเหลือเวลาแค่สี่ชั่วโมงในการทำเค้กเซอร์ไพรส์ ถึงไม่อยากยอมรับ แต่สุดท้ายก็หนีไม่พ้น ทุกอย่างมันเปลี่ยนไปแล้ว แม้แต่ความรู้สึกของทั้งเธอและธันวา เราต่างไม่ได้กำหนดชื่อเรียกความสัมพันธ์นี้ แต่ทั้งม่านมุกและธันวาไม่เคยคิดจะคบหาใคร พวกเขาใช้เวลาว่างอยู่ด้วยกัน ทำกิจกรรมอื่น ๆ นอกจากเซ็กส์ พูดคุยแลกเปลี่ยนเรื่องราวในแต่ละวันเหมือนคนรักกัน "อ่า..." แก้มใสซับสีระเรื่อเมื่อคิดถึงตรงนี้ ม่านมุกสะบัดศีรษะแรง ๆ แล้วกลับมาตั้งสมาธิกับของหวานต
เฌอแตมอาศัยจังหวะที่เชนกำลังอึ้ง พลิกตัวคนตัวใหญ่กว่าลงบนเตียง โดยที่เธอคล่อมทับตามไปติด ๆ "แตม?" "ขา" มือบางลูบไล้ไปมาบนแผงอกแกร่ง เธอไม่เคยคิดว่าเชนจะมีหน้าอกที่แน่นตึงขนาดนี้ แม้ไม่ได้มีกล้ามเป็นมัด ๆ แต่ก็พอมีตามประสาผู้ชายเล่นกีฬา เชนชอบกีฬาฟุตบอลมาก เขามักใช้เวลาว่างไปเตะฟุตบอลกับเพื่อน ๆ ประจำ "แตม" เฌอแตมเลิกสนใจเสียงเรียกของเชน สาวน้อยใช้มือลูบไล้ไปทั่วอกกว้าง ดวงตากลมเป็นประกายระยิบระยับเหมือนเจอของเล่นที่ถูกใจ "พี่เชนหุ่นดีจัง" "แตม อึก" เชนกลั้นเสียงครางเมื่อเฌอแตมใช้มือกอบกุมความเป็นชายของเขา เมื่อสาวน้อยเห็นว่าคนเป็นพี่พยายามกลั้นเสียงก็ออกแรงชักรูดถี่ ๆ จนชายหนุ่มอดทนไม่ไหวหลุดเสียงครางออกมา "อะ...อ่าห์" เฌอแตมขยับตัวขึ้น เธอจับแท่งร้อนตั้งตรงแล้วคล่อมทับ กดสะโพกลงจนส่วนหัวจมหายเข้าไปในช่องทางคับแคบ "อื้อ" "แตม" "แน่นจังเลย อ๊ะ... แน่น" ปากส่งเสียงครวญครางว่าแน่นไม่ขาดสาย แต่สะโพกกลับไม่ยอมหยุดนิ่ง เฌอแตมค่อย ๆ กลืนกินสิ่งใหญ่โตเข้าไปเรื่อย ๆ จนสุด เธอรู้สึกอึดอัดไปทั่วช่องท้องเมื่อสิ่งนั้นเข้ามาพองโตอยู่ในตัว "อ๊าาา ของพี่เชนใหญ่มากเลยค่ะ" "แตม" เชนกั
เชนถอดเสื้อออก ตามด้วยกางเกงและชั้นในสีเข้ม ตลอดเวลามีดวงตากลมแป๋วมองตามอย่างสนใจใคร่รู้ เฌอแตมไล่สายตามองตั้งแต่ใบหน้าหล่อ ลำคอแข็งแกร่ง แผ่นอกหนา กล้ามหน้าท้อง เรื่อยมาจนถึงสัดส่วนความเป็นชายที่เหยียดขยายใหญ่เต็มหน้าขา อึก! สาวน้อยตาโตเหมือนไข่ห่านเมื่อเห็นสิ่งนั้นครั้งแรก นะ...นั่นมัน....หยะ...ใหญ่มากกก เชนจับขาเรียวให้แยกออก เขาแทรกตัวเข้าตรงกลางระหว่างขาทั้งสองข้าง มือประคองท่อนกายจ่อเข้ากับกลีบเนื้อนุ่มที่ยังปิดสนิท "ดะ...เดี๋ยวค่ะ!" "พี่บอกแล้วว่าจะไม่หยุด" "ไม่ใช่ค่ะ" เฌอแตมดิ้นเล็กน้อยก็หลุดอย่างง่ายดาย บ่งบอกว่าเชนไม่ได้ตั้งใจกักขังหรือขืนใจถ้าหากเธอเกิดเปลี่ยนใจขึ้นมาจริง ๆ เขาไม่คิดเอาแต่ใจตัวเองทั้ง ๆ ที่ส่วนนั้นขยายใหญ่จนแทบระเบิดอยู่แล้ว สาวน้อยเอี้ยวตัวไปที่ลิ้นชักข้างเตียง เปิดมันออกและหยิบซองบางอย่างออกมา "แตม!" เชนอ้าปากค้าง เขามองสิ่งที่เฌอแตมถือสลับกับใบหน้าน่ารักที่เห็นกันมาตั้งแต่เด็ก ๆ เหมือนเห็นคนแปลกหน้า "ทำไมถึงมีมัน แตมใช้กับใคร" "คะ?" "แตมมีคนรักแล้วเหรอ ใครกัน ผู้ชายคนนั้นรับผิดชอบแตมหรือเปล่า" "พี่เชน..." "ถ้าไม่รับผิดชอบบอกพี่ พี่จะไปจั
ถ้าคิดว่าเรื่องในวันนั้นจะทำให้ทุกอย่างเปลี่ยนไป ก็ขอบอกไว้ตรงนี้เลยว่าไม่... ไม่เลยสักนิด! พี่เชนยังเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือระมัดระวังตัวเพิ่มขึ้น มีโอกาสได้อยู่ด้วยกันสองต่อสองแต่ไม่มีอะไรขยับ บางทีอาจจะห่างกว่าปกติด้วยซ้ำ "ซื่อหรือบื้อเนี่ย!" เฌอแตมที่นั่งอยู่บนเตียงฟาดมือกับอากาศด้วยความหงุดหงิด อีกสองวันแม่เธอก็กลับมาแล้ว แต่ระหว่างเธอกับพี่เชนกลับไม่มีอะไรคืบหน้าเลย "หรือพี่เชนไม่ได้ชอบผู้หญิง" สาวน้อยตั้งข้อสงสัย เป็นไปได้เหรอที่ผู้ชายแท้ ๆ จะโสดมาทั้งชีวิตจนอายุจะเข้าเลขสามอยู่แล้ว พี่เชนไม่ใช่ว่าไม่หล่อ ตรงกันข้ามพี่เชนหล่อมากด้วย ติดแค่เฉิ่มไปนิด ถือตัวไปหน่อย แต่ก็ไม่น่าโสดและสดขนาดนี้ถ้าไม่ใช่เพราะชอบเพศเดียวกัน "แบบนี้ต้องพิสูจน์!" เฌอแตมบอกตัวเองอย่างแน่วแน่ ตาจ้องมองประตูห้องน้ำที่ยังปิดสนิท อย่างน้อย ๆ พรุ่งนี้ก็วันหยุดของทั้งเธอและพี่เชน ถ้าหากเกิดอะไรขึ้นจริง ๆ ก็ไม่กระทบกับหน้าที่แน่นอน รวมถึง... สาวน้อยเปิดลิ้นชักหัวเตียงออก ตาเป็นประกายเมื่อเห็นสิ่งที่นอนนิ่งอยู่ในนั้น ถุงยางอนามัย จะด่าว่าเธอแก่แดดก็ได้ แต่พอรู้ว่าพี่เชนจะมานอนด้วยเธอก็จัดการซื้อเครื่อ
สามวันที่เชนหายไป เฌอแตมไม่ได้เจอหน้าพี่ชายข้างบ้านเลย ไม่รู้ว่าเขาไม่ว่าง หรือจงใจหลบหน้ากัน แต่สุดท้ายการรอคอยก็สิ้นสุดลง วันนี้เชนกลับมาสอนปกติ ร่างสูงแต่งตัวสุภาพเหมือนเดิม ใบหน้าหล่อสุภาพยังคงมีรอยยิ้มบางประดับอยู่ "พี่เชน" "ครับ" "นึกว่าจะไม่มาแล้ว" ร่างน้อยเดินเข้าไปคลอเคลีย ยิ้มโชว์ฟันขาวให้พี่เชนรู้ว่าเธอดีใจแค่ไหน ไม่ได้เจอหน้าตั้งสามวัน คิดถึงที่สุดเลย เชนทำแค่เพียงยิ้มรับ ก่อนจะเดินไปสวัสดีแม่ของเฌอแตม "ขอโทษที่หายไปหลายวันครับคุณน้า" "โอ้ยไม่ต้องขอโทษหรอกเชน น้าบอกแล้วว่าไม่ต้องมาสอนเด็กดื้ออย่างแตมก็ได้ งานเชนล้นมือขนาดนั้น" "ไม่เป็นไรครับ ผมเต็มใจ" "เห็นไหมคะ พี่เชนน่ารักกับแตมจะตาย" เด็กสาวเข้ามาควงแขนพี่ชายคนสนิท ซบใบหน้ากับไหล่กว้างเย้ยแม่ตัวเอง "ไปกันค่ะพี่เชน วันนี้แตมสัญญาจะตั้งใจเรียน" เฌอแตมว่าพลางดึงแขนเชนขึ้นไปบนห้อง ร่างสูงแม้ไม่อยากตามแต่ก็ขัดใจน้องไม่ได้ เฌอแตมทำอย่างที่รับปากไว้ เด็กสาวเรียนอย่างตั้งใจ สองชั่วโมงของการติวเข้มผ่านไปอย่างรวดเร็ว "วันนี้พอแค่นี้ก่อนดีกว่า มากไปก็ปวดหัวเปล่า ๆ" "แตมยังไงก็ได้ค่ะ แล้วแต่พี่เชน" เด็กน้อยยิ้มโชว
"มองอะไรหืม" เชนถามขำ ๆ ตั้งเริ่มเรียนจนถึงตอนนี้น้องเอาแต่มองเขาตลอดเวลา เฌอแตมยกแขนขึ้นเท้าคางและมองมาด้วยสายตาหวาน ๆ พอถูกมองนาน ๆ ก็เริ่มรู้สึกเก้อแปลก ๆ "พี่เชนหล่อจังค่ะ" เชนหัวเราะ "หลอกให้คนแก่ดีใจหรือเรา" "ไม่เห็นแก่เลยค่ะ แค่ยี่สิบแปดเอง" "แต่ก็ห่างกับแตมตั้งเก้าปี" "ไม่เป็นไรค่ะ แตมชอบคนแก่ ยิ่งแก่ยิ่งประสบการณ์เยอะดีออก" สาวน้อยพูดพร้อมดวงตาที่เป็นประกาย ส่วนเชนนิ่งค้างไปแล้ว เขารู้สึกเหมือนหน้ามันร้อน ๆ ขึ้นแต่ก็ไม่รู้ว่าทำไม "พี่เชน คำว่ารักภาษาฝรั่งเศสคืออะไรคะ" เฌอแตมเปลี่ยนเรื่อง เธอไม่อยากรุกมากเกินไปจนไก่ตื่น ดูก็รู้ว่าพี่เชนของเธอไม่เป็นประสา วัน ๆ คงเอาแต่เรียนไม่เคยคบใคร เธอเองก็ไม่เคยมีแฟน มีแค่นิยายรักหวานแหววที่ทำให้เฌอแตมรู้ว่าควรเข้าหาเชนยังไง ต้องขอบคุณนิยายพวกนั้นที่ทำหน้าที่เป็นครูชั้นดีให้เธอ "เฌอแตม" "ขา" "เฌอแตม แปลว่ารัก" ครั้งนี้สาวน้อยเป็นฝ่ายหน้าร้อนผ่าวแทน เสียงเจือยแจ้วเงียบไป เฌอแตมรู้ความหมายของชื่อตัวเองดี และที่ถามก็เพราะอยากแหย่เชนเท่านั้น ไม่คิดว่าเชนจะพูดออกมาง่าย ๆ แบบนี้ "เฌอแตมแปลว่ารัก ผมรักคุณ ฉันรักคุณ" "....." "พ
"จะรบกวนพี่เขาหรือเปล่า แค่งานสอนที่โรงเรียนก็น่าจะหนักแล้วนะ แม่ว่าแตมไปเรียนที่สถาบันดีไหม" "แตมไม่อยากเรียนแบบนั้นค่ะ ไม่มีเพื่อน" "แตมโตแล้วนะ อย่าเอาแต่ใจสิ" "แม่คะ" "ไม่เป็นไรครับคุณน้า" เสียงนุ่มทุ้มดังขึ้นขัดสองแม่ลูกที่ยังตกลงกันไม่ได้ เชนระบายยิ้มสุภาพให้คุณน้าที่รู้จักกันมานาน "ผมสอนน้องได้ น้องคนเดียว ไม่เหนื่อยเลยครับ" "น้าเกรงใจ" "ไม่ต้องเกรงใจครับ แตมก็เหมือนน้องแท้ ๆ ของผมคนหนึ่ง" ชายหนุ่มวัยยี่สิบแปดที่แต่งตัวภูมิฐานสมกับอาชีพพ่อพิมพ์ของชาติส่งสายตาอ่อนโยนให้น้องสาวข้างบ้าน เฌอแตมก้มหน้างุด แก้มสองข้างแดงจัด พี่เชนขี้โกง ยิ้มแบบนั้นได้ยังไง! "เห้ออ น้าผิดเองที่เลี้ยงลูกตามใจจนเอาแต่ใจแบบนี้ แต่ถ้าเชนเต็มใจน้าก็ขอบคุณมาก ๆ เลยนะ" . . เฌอแตมเดินออกมาส่งเชนที่รั้วบ้าน บ้านขนาดกลางทั้งสองหลังปลูกติดกันมาตั้งแต่รุ่นคุณยาย ผ่านร้อนผ่านฝนผ่านการบูรณะหลายครั้งจนเป็นบ้านที่น่าอยู่แบบทุกวันนี้ เมื่อประมาณสิบปีก่อนตอนที่เฌอแตมอายุได้เก้าขวบ บ้านทั้งสองหลังตัดสินใจพังรั้วส่วนหนึ่งเพื่อทำเป็นประตูระหว่างสองบ้าน สาเหตุเพราะเฌอแตมติดพี่เชนจนผู้ใหญ่พากันเอ็นดูไม่อยากให
ตึง! "อ๊ะ!" ชะเอมร้องประท้วงเพราะถูกดันเข้ากำแพงค่อนข้างแรง เธอไม่ได้เจ็บเพราะใส่เสื้อหนา แต่กลัวว่าห้องข้าง ๆ จะได้ยินเสียงแล้วแจ้งตำรวจเอา "ทิว...อื้อ" ปากอิ่มถูกจูบปิดจนแน่นสนิท ทิวาในเวลานี้เหมือนนักล่า เขากัดกินชะเอมอย่างหิวโหย ชะเอมแทบขาอ่อน รสจูบของทิวาในวันนี้ต่างจากวันนั้น มันร้อนแรงจนอากาศติดลบของฮอกไกโดกลายเป็นอากาศอบอุ่นของเมืองไทย "เอม" "ทิว อย่าเพิ่ง" ชะเอมรีบจับมือปลาหมึกไว้ก่อนที่มันจะเข้ามาวุ่นวายกับหน้าอกของเธอ แก้มใสซับสีเลือดเข้ม ส่ายหน้าไปมาด้วยความขวยเขิน เพราะทิวาจับเธอจูบทั้ง ๆ ที่ยังยืนอยู่หน้าประตู ไปหื่นมาจากไหนกัน "คิดถึงใจจะขาด" "เวอร์" "ไม่เวอร์ เราโคตรคิดถึงเอม อยากกอด อยากจูบ อยากเอาจะแย่" "ลามก! อ๊ะ" ชะเอมรีบคว้าต้นคอของชายหนุ่มไว้ ร่างเล็กลอยละลิ่วไปที่โซฟาขนาดกลาง ทิวาวางชะเอมลงได้ก็รีบดึงทึ้งเสื้อผ้าตัวเองออกไม่เป็นทิศเป็นทาง "เดี๋ยวสิทิว" หญิงสาวร้องห้ามเมื่อทิวาเริ่มมายุ่มย่ามกับเสื้อผ้าของเธอ อยากถอดก็ถอดไปคนเดียวสิ "ไม่ไหวแล้ว" "คุยกันก่อน อื้อ" "ไม่คุยแล้ว เราพูดไปหมดแล้ว" ทิวาจับขาเรียวอ้าออกกว้าง ชะเอมแต่งตัวแบบสาวญี่ปุ่น
ทิวาตื่นมาพร้อมกับสมองที่โล่งโปร่ง ความหนักอึ้งจากพิษไข้หายไปจนเกือบหมดเพราะได้ยาดี ชายหนุ่มยันกายขึ้นนั่งบนเตียงนุ่มที่ว่างเปล่า "เอม" ไม่มีเสียงตอบรับ ทิวาบิดขี้เกียจอย่างเกียจคร้าน ตาแทบเปิดไม่ขึ้นเพราะจำได้ว่าเพิ่งได้นอนเมื่อไม่ถึงห้าชั่วโมงก่อน น่าแปลกที่ขนาดเขายังเหนื่อยขนาดนี้ แต่ชะเอมกลับลุกจากเตียงได้ "เอม อยู่ไหน" ห้องกว้างยังคงเงียบสนิท ทิวาลุกขึ้นยืน เขาหยิบบ็อกเซอร์มาสวมลวก ๆ ก่อนจะเดินออกไปด้านนอก "เอม..." ชายหนุ่มคิ้วกระตุก เมื่อไม่เห็นคนที่กำลังตามหา ในห้องนอนไม่มี ข้างนอกก็ไม่มี แม้แต่เสื้อผ้าสักตัวก็ไม่เหลือ ชะเอมหนีเขาไปแล้ว "ดื้อ" ทิวาส่ายหน้าให้กับความดื้อด้านของเพื่อนที่ตอนนี้เลื่อนสถานะมาเป็นเมีย "คิดว่าจะปล่อยให้หนีไปได้อีกหรือไง" . . "เมื่อคืนเอมกลับมากี่โมงนะ" ผู้เป็นแม่เอ่ยถามตามประสา แต่ลูกสาวกลับสะดุ้งเพราะมีความผิดติดหลัง "เอม....ไม่ได้ดูนาฬิกาค่ะ" "อืม แล้วทิวเป็นอย่างไรบ้าง ดีขึ้นบ้างไหม" "ตอนเอมกลับมาตัวไม่ร้อนแล้วค่ะ" "ดีแล้ว ถ้าไม่หายคงต้องแบกไปหาหมอให้ได้" หญิงวัยกลางคนหัวเราะเบา ๆ ชวนให้ชะเอมต้องหัวเราะตามอย่างเสียไม่ได้ ในใจเ
ชะเอมไม่มองหน้าเพื่อนอีกหลังจากตอบรับสั้น ๆ แต่หูได้ยินเสียงเนื้อผ้าเสียดสีเต็มสองรูหู ทำให้รู้ว่าทิวากำลังถอดเสื้อผ้าของตัวเองออก "เอม" มือบางถูกชักจูงไปสัมผัสบางสิ่งที่ร้อนผ่าวและแข็งตึง "เอม" "อืม" "ทำให้เราหน่อย" ชะเอมเบนสายตากลับมามอง แก้มทั้งสองข้างร้อนจัดเมื่อเห็นสิ่งที่อยู่ในมือ "ทิว" "นะครับ" เสียงออดอ้อนของเพื่อนทำให้ชะเอมใจอ่อนยวบ ร่างเล็กฝืนความอาย มือค่อย ๆ รูดสิ่งนั้นเข้าออกช้า ๆ "อืม" ชะเอมเงยหน้าขึ้นมองใบหน้าของเพื่อน ทิวาหลับตาสนิทพร้อมส่งเสียงครางออกมา "ซี๊ด...อาห์" ทิวาในตอนนี้ไม่เหมือนทิวาที่ชะเอมรู้จัก ใบหน้าของเขาบิดเบี้ยว ปากบางส่งเสียงครางออกมาไม่ขาดสาย ชะเอมไม่คิดว่าวันหนึ่งจะได้เห็นสีหน้าแบบนี้จากคนที่แอบรัก มือบางขยับเร็วขึ้น เธอเอาอกเอาใจทิวาเท่าที่จะทำได้ แต่จู่ ๆ ชายหนุ่มก็จับมือเธอออกห่างจากแท่งร้อน "ทิว..." "พอก่อน" "เราทำแย่มากเลยเหรอ" "เปล่า" ทิวาดูดกลีบปากอิ่มแรง ๆ โทษฐานที่คิดไปเอง "ดีมาก...ดีมาก ๆ ต่างหาก ดีจนเรากลัวว่าจะแตกก่อน" ชะเอมได้ยินแบบนั้นก็หน้าแดงแปร๊ด หญิงสาวแสร้งมองไปทั่วห้องเพื่อหลบสายตาหื่นกระหายของเพื่อน ทิวาในว