แฟนเก่า เป็นสิ่งมีชีวิตมนตราอยากลืมมากที่สุด ความรักในวัยมหาวิทยาลัยที่หอมหวานและขื่นขมยังคงฝังอยู่ในใจ ไม่ว่าจะพยายามลืมเท่าไหร่ก็ไม่เคยทำได้สักครั้ง ทั้งความสุข และความทุกข์ ทั้งรอยยิ้ม และคราบน้ำตา เธออยากลืม อยากลบมันออกไปจากความทรงจำให้หมด แต่ก็ไม่เคยทำได้เลย... . . "อ๊ะ! ตรงนั้น" ดวงตาเรียวปรือมองกลุ่มผมสีเข้มที่ซุกซบอยู่ตรงกลางระหว่างขา นึกอยากจะจิกมือลงกับกลุ่มผมนั้นเพราะความซ่านเสียว แต่สุดท้ายแล้วเธอก็เลือกจิกหมอนที่หนุนอยู่แทน ลิ้นนุ่มปาดเลียดูดกินน้องสาวเธอเหมือนคนหิวกระหาย มันซอกซอนไปตามกลีบเนื้อ ทั้งยังแหย่เข้ามาภายในจนต้องยกเอวขึ้นสู้ เสียวจะตายอยู่แล้ว "ฮ้าา" แจ๊ะ แจ๊ะ เสียงครวญครางดังคลอไปกับเสียงชื้นแฉะที่น่าขายหน้า หญิงสาวปิดเปลือกตาลง รับรู้แค่สัมผัสวาบหวิวที่ห่างหายมานาน และเลือกที่จะเมินเฉยว่าใครเป็นคนปลุกความกระสั่นของเธอขึ้นมา "น้ำเยอะเหมือนเดิมเลยนะ" เจ้าของกลุ่มผมดำยกศีรษะขึ้นเมื่อดูดกลืนจนพอใจ ดวงตาคมมองร่างอ่อนระทวยของ 'แฟนเก่า' ด้วยสายที่อ่านไม่ออก ลิ้นสีชมพูแลบเลียรอบขอบปากที่เปียกน้ำหวานจากกายสาว เขาแกะเข็มขัดและกางเกงที่ใส่อยู่ออกอย่าง
"ก่อนผมจะตัดสินใจ ผมขอพูดคุยกับหัวหน้าทีมทุกทีมเป็นการส่วนตัว" หัวหน้าทีมทั้งสามยืดตัวขึ้น ส่งรอยยิ้มพิมพ์ใจให้ผู้บริหารหน้าใหม่ไฟแรง ไม่ว่าลูกค้าต้องการอะไร คนที่หวังว่าจะถูกว่าจ้างย่อมทำให้ได้ทั้งนั้น ต่างจากมนตราที่ทำสีหน้าเหมือนกำลังถูกบังคับให้กินยาขม แค่ต้องมาขายงานให้ 'แฟนเก่า' แค่นี้มันก็กระอักกระอ่วนมากอยู่แล้ว ถ้าถึงขั้นต้องคุยเป็นการส่วนตัวสองต่อสอง... "เชิญทุกคนที่ห้องรับรอง ผมขอคุยกับคุณบีก่อน" หญิงสาวถอนหายใจอย่างโล่งอกที่เธอไม่ใช่คนแรกที่ต้องพูดคุยกับชานนท์ มนตราเก็บข้าวของและก้าวออกจากห้องไปพร้อมลูกทีมอีกสามคน "เราจะได้งานนี้ไหมพี่มน" หวาน หนึ่งในลูกทีมถามด้วยความเป็นกังวล งานนี้เป็นงานใหญ่ระดับประเทศ แต่บริษัทใหญ่ยักษ์กลับให้โอกาสบริษัทเล็ก ๆ ได้ขึ้นมาเสนองาน การแข่งขันอันดุเดือดเริ่มขึ้นตั้งแต่เดือนที่แล้ว หลายสิบบริษัทถูกคัดออกไปเรื่อย ๆ จนเหลือเพียงแค่สี่บริษัท และหนึ่งในนั้นคือบริษัทออแกไนซ์เล็ก ๆ ของมนตรา ถ้าจะให้เทียบกับอีกสามบริษัท มันก็เหมือนมดเทียบกับช้าง ถึงจะมั่นใจว่าผลงานตัวเองดีไม่แพ้ใคร แต่ถ้าเทียบเรื่องชื่อเสียงและความเป็นที่รู้จักแล้ว
มนตรามาถึงคอนโดตามข้อความจากชานนท์ตอนสองทุ่มเศษ เธอชั่งใจอยู่สักพัก สุดท้ายก็ตัดสินใจเดินเข้าไปที่ล็อบบี้ และก็พบว่าชานนท์รออยู่ก่อนแล้ว รอยยิ้มบาง ๆ ผุดขึ้น ก่อนร่างสูงราวร้อยแปดสิบห้าจะลุกขึ้นแล้วเดินมาหา ชานนท์ยื่นมือมาข้างหน้า "มาสิ" ทว่ามนตรากลับทำเป็นมองไม่เห็น เธอเดินตรงไปที่ลิฟต์ แล้วหยุดรอจนกระทั่งชานนท์เดินตามมา คอนโดนี้มนตรารู้จักมันดีทุกซอกทุกมุม เพราะมันเคยเป็นรังรักเก่าของเธอและชานนท์เมื่อครั้งยังคบหากัน ชานนท์เดินนำเข้าไปในลิฟต์ แตะคีย์การ์ดแล้วกดชั้นที่ต้องการ ภายในห้องสี่เหลี่ยมแคบ ๆ เงียบสนิท จนกระทั่งขึ้นมาถึงชั้นยี่สิบห้า ห้องสุดทางเดินที่ใหญ่สุดของชั้นยังคงคล้ายกับเมื่อห้าปีก่อน มนตรามองสำรวจห้องที่เคยเป็นที่พักพิงระหว่างเธอและชานนท์ ภาพความทรงจำมากมายผุดขึ้นมา โซฟานี้ที่เรานั่งกอดกันเวลาดูหนัง ระเบียงนั้นที่ชานนท์ดีดกีต้าร์และร้องเพลงให้ฟัง ครัวเล็ก ๆ ที่ชานนท์มักจะมาก่อนกวนมนตราเวลาทำกับข้าวเสมอ และห้องนอนที่เราใช้หลับนอน กอดกันทั้งคืน...ทุกคืน "ขออาบน้ำก่อน" ก่อนที่น้ำตาจะไหลลงมาประจานความอ่อนแอ มนตราก็เดินลิ่ว ๆ ไปที่ห้องน้ำ ชานนท์มองตามร่างเล็กก่
"ทุเรศ! อ๊ะ!" "ปากบอกว่าทุเรศ แต่ตอดไม่หยุดเลยนะ ซี๊ดดดด" ชานนท์กัดฟันพูด ใส่เข้าไปไม่ถึงครึ่ง แต่เสียวจนแทบทนไม่ไหว มนตราตอดเก่งเหลือเกิน แขนทั้งสองข้างยกขาเรียวขึ้นวางบนท่อนขา ก่อนจะกระแทกสะโพกเข้าไปอีกครั้ง "อ๊าาา! เบา ๆ มันจุก" มนตรายกมือขึ้นดันหน้าท้องแกร่ง แน่นตึงไปทั้งร่องเหมือนจะฉีกขาด "เสียว" ชานนท์กัดกรามดังกรอด ๆ เพราะไม่ใช่ครั้งแรกมนตราจึงรู้วิธีผ่อนคลายตัวเอง เธอลดความเกร็ง หายใจเข้าออกลึก ๆ อ้าขารับท่อนเนื้ออวบยาวเข้าจนเต็มท้อง "เข้าไปสุดแล้ว" เสียงทุ้มกระซิบบอก ไม่ทันได้ตอบกลับไปริมฝีปากก็ถูกจูบปิด มนตราพยายามอย่างมากที่จะไม่จูบกลับ แต่สุดท้ายก็แพ้ความต้องการของร่างกาย เธอแลกลิ้นกับแฟนเก่าอย่างเอร็ดอร่อย เมื่อร่างกายปรับรับสิ่งแปลกปลอมได้ก็เริ่มส่ายเอวไปมา "ซี๊ดดด อย่ายั่ว อึก!" "ทำซะที" เสียงหวานร้องบอก พอหายจุกก็เริ่มเสียว เสียวจนอยากให้ชานนท์ทำเธอแรง ๆ เหมือนเมื่อก่อน ภายนอกที่ไร้ความดึงดูด พูดน้อย เรียนเก่ง มีแค่ชานนท์คนเดียวเท่านั้นที่รู้ว่ามนตรา 'แซ่บ' แค่ไหน "ช้า อ๊าาาาา" ขาเรียวยกขึ้นเกี่ยวเอวสอบเมื่อชานนท์เริ่มขยับซอย หญิงสาวหลับตาพริ้ม เด้งเอว
คิดไว้แล้วว่าตื่นมามนตราคงหายไป ชานนท์จับที่นอนฝั่งที่คนรักเก่ายึดไว้ทั้งคืน เขาพบว่ามันยังอุ่น ๆ แปลว่ามนตรายังจากไปได้ไม่นาน "ดื้อจริง ๆ" ขนาดเขาฟัดทั้งตัว เล่นรักกับเธอถึงสามครั้ง แต่ก็ยังจะมีแรงหนีไปอีก ชานนท์ลุกขึ้นยืน ร่างกายเปลือยเปล่าเต็มไปด้วยกล้ามเนื้อเรียงตัวสวย แผ่นหลังกว้างมีลอยเล็บแดงหลายจุด เขาสลัดผ้าห่มยับ ๆ แล้วเดินเข้าห้องน้ำไปจัดการธุระส่วนตัว . . "นัดประชุมกับคุณชานนท์พรุ่งนี้นะคะพี่มน" หวานร้องบอกเจ้านายที่เป็นเหมือนพี่สาวแท้ ๆ แต่ท่าทางอ่อนแรงของมนตราทำให้หวานรีบเดินเข้าไปสำรวจ "หน้าซีดจังเลยค่ะพี่มน ไม่สบายหรือเปล่าคะ" "เปล่า" มนตราปฏิเสธเสียงแหบแห้ง "นอนน้อยนิดหน่อย" "งั้นพี่มนพักเถอะค่ะ งานพวกนี้พวกเราจะทำกันเอง พี่เก็บแรงไว้ไปคุยงานพรุ่งนี้ดีกว่า" "พี่ทำได้หน่า" มนตราขมวดคิ้ว เธอแค่พักผ่อนน้อย ไม่ได้เป็นง่อย แต่พอเปิดแฟ้มจะอ่าน ดวงตาก็พร่ามัวจนต้องถอดแว่นออกแล้วกุมขมับตัวเองไว้แน่น "ตาลายจัง" "หวานบอกแล้ว" หวานเห็นแบบนั้นก็รีบดึงแฟ้มไปกอดแนบอก "งานง่าย ๆ แค่นี้หวานทำให้เอง พี่มนพักเถอะค่ะ" พูดจบ สาวน้อยก็เดินออกจากห้องทำงานเล็ก ๆ ไปทันที
นัดคุยงานวันนี้เป็นอีกข้ออ้างที่ชานนท์ใช้เพื่อได้พบกับมนตรา เขาจั้งใจนัดเธอมาที่โรงแรมหรู จองโต๊ะอาหารที่โรแมนติกที่สุดบนชั้นดาดฟ้าไว้เพื่อขอเธอคืนดี ชานนท์อยู่ในชุดกึ่งทางการ ไม่เซ็ทผม และฉีดน้ำหอมกลิ่นที่มนตราชอบ เขามาถึงก่อนเวลาเกือบชั่วโมง แต่มันเหมือนเป็นเวลาหนึ่งปีในความรู้สึก ชานนท์นั่งรออย่างร้อนใจ ชะเง้อคอมองที่ทางเข้าหลายครั้ง ครืน "ชิบ" จู่ ๆ ท้องฟ้าที่มืดสนิทก็ส่งเสียงคำราม เป็นสัญญาณว่าฝนจะตกในไม่ช้า ชายหนุ่มสบถออกมา พลางยกข้อมือขึ้นดูเวลา "ลูกค้าคะ ฝนจะตกค่ะ" พนักงานโรงแรมเดินเข้ามาบอกอย่างเป็นกังวล เธอเกรงใจเพราะดูเหมือนว่าลูกค้าจะมีนัดสำคัญจนถึงขั้นปิดร้านแบบนี้ แต่อากาศมันไม่เป็นใจ ถ้าฝืนต่อไปก็ไม่มีประโยชน์ "คุณเก็บทุกอย่างไปเลย" ชานนท์มองดอกไม้ที่สั่งจัด เปียโนตัวใหญ่ และไวน์ราคาแพงที่เตรียมไว้อย่างเสียดาย "เหลือไว้แต่โต๊ะตัวนี้ก็พอ" "ค่ะ" พนักงานรับคำ ก่อนจะเก็บของทุกอย่างเข้าร่ม เหลือไว้แค่โต๊ะที่ชานนท์นั่งอยู่ บนโต๊ะไม่มีแม้แต่แก้วน้ำสักใบเพราะชายหนุ่มไม่ต้องการ เปรี้ยง! ครืน มนตรารีบก้าวเร็ว ๆ ขึ้นไปบนชั้นดาดฟ้า พอเดินผ่านประตูเสียงฟ้าผ่าก็ดังขึ้นจ
"แบบนี้ต้องทำให้ชิน จะได้ไม่เขิน" "ทำอะไร" มนตราถามเสียงสั่น หัวใจเธอเต้นตึก ๆ ทั้งตื่นเต้น และรอคอย รอคอยบางอย่างที่ไม่กล้าพูดออกไป ชานนท์ไม่ตอบ เขาค่อย ๆ เลื่อนมือลงไปที่กระดุมเม็ดแรกของแฟนสาว "นน..." "ให้นนช่วยถอดนะ" แปะ กระดุมเม็ดแรกถูกปลดออก เผยให้เห็นเนินอกอิ่มที่ดันล้นออกมาจากบราเซียตัวจิ๋ว "ช่วยถอด... แล้วก็จะช่วยใส่ให้ด้วย" มนตราเม้มปากแน่น แก้มแดงจัดแต่ทว่าเธอไม่คิดจะห้าม ตาเรียวหลุบมองต่ำ ก่อนแก้มที่แดงอยู่แล้วจะแดงขึ้นอีกเมื่อเห็นแก่นกายที่ตื่นตัวเต็มที่ของแฟนหนุ่ม "นน" หญิงสาวเงยหน้าขึ้นมองคนรัก สีหน้าของชานนท์ดูไม่มั่นใจ แต่แววตากลับเต็มไปด้วยความต้องการ "ได้ไหม" มนตราชั่งใจอยู่ครู่เดียว ก่อนจะพยักหน้าเบา ๆ "อืม.... ว๊าย!" คนตัวสูงยกร่างเล็กขึ้นวางบนเคาน์เตอร์อ่างล้างหน้า มนตราร้องวีดว๊าย แขนกอดคอแกร่งแน่นเพราะกลัวตก เพี๊ยะ! "ตกใจนะ" ชานนท์ยิ้มรับแรงตีเท่าแมวของหญิงสาว เขาซุกหน้าเข้ากับซอกคอชื้น คลอเคลียด้วยความรักสุดหัวใจ "รักมนนะ" "รู้แล้ว" มนตราระบายยิ้มหวาน ความสุขที่หายไปกว่าห้าปีเหมือนกลับคืนมา คิดถูกแล้วที่เลือกให้อภัยชานนท์ ชานนท์ใช้ปลายจ
เมื่อแฟนสาวเปิดโอกาส ชานนท์ก็คว้ามันไว้ทันที เอวสอบขยับซอยถี่ยิบ เสียงเนื้อกระทบกันดังปั่บ ๆ ลั่นห้องน้ำ ชานนท์ก้มมองส่วนที่ยึดติดกัน มันขยับเข้าออกถี่จนมองตามไม่ทัน เขาเร่งเอวอีก กระเด้าทั้งเร็วและแรงจนมนตราหัวสั่นหัวคลอน "อ๊ะ...อ๊ะ...นน...อิ๊...เบา" มนตราครางเสียงกระเส่า มือบางพยายามดันหน้าท้องแกร่งไว้ พอบอกอนุญาตให้ทำตามใจชานนท์ก็ใส่ยับจนเธอแทบจะขาดใจ เสียวเกินไป ถ้ายังไม่หยุดเธอต้องตายแน่ ๆ "พอก่อน...อ๊า...นน...มนจะขาดใจ" ชานนท์ลดจังหวะซอยสะโพกลงเมื่อเห็นว่าแฟนสาวเริ่มจะไม่ไหว ชายหนุ่มหอบหายใจ เอวยังคงหมุนคว้านจนมนตราสะอื้นฮัก "ฮึก เสียว" "ชอบไหม" มนตราไม่ยอมตอบ กุ้มหน้างุดหลบสายตาแฟนหนุ่ม จะให้ตอบยังไงว่าชอบ ชอบมาก ชอบจนจะเป็นบ้าอยู่แล้ว "ไม่ตอบ แบบนี้คงต้องเปลี่ยนท่า ฮึบ!" ชานนท์อุ้มมนตราขึ้นเหมือนแม่กระเตงอุ้มเด็ก ท่อนเนื้อที่ยังฝังตัวอยู่ในรูแคบจมลึก ร่างเล็กกระตุกถี่ มันลึกจนถึงปากมดลูก เสียวจนถึงก้านสมอง และเธอก็แตกออกมาจนได้ "อาส์ ตอดแน่นดีจริง ๆ" ชานนท์คำราม เขาเดินทั้ง ๆ ที่มีร่างเล็กเกาะอยู่แบบนั้นไปที่อ่างอาบน้ำ โชคดีที่ทางโรงแรมเตรียมทุกอย่างไว้แล้ว เขาจึ
เฌอแตมอาศัยจังหวะที่เชนกำลังอึ้ง พลิกตัวคนตัวใหญ่กว่าลงบนเตียง โดยที่เธอคล่อมทับตามไปติด ๆ "แตม?" "ขา" มือบางลูบไล้ไปมาบนแผงอกแกร่ง เธอไม่เคยคิดว่าเชนจะมีหน้าอกที่แน่นตึงขนาดนี้ แม้ไม่ได้มีกล้ามเป็นมัด ๆ แต่ก็พอมีตามประสาผู้ชายเล่นกีฬา เชนชอบกีฬาฟุตบอลมาก เขามักใช้เวลาว่างไปเตะฟุตบอลกับเพื่อน ๆ ประจำ "แตม" เฌอแตมเลิกสนใจเสียงเรียกของเชน สาวน้อยใช้มือลูบไล้ไปทั่วอกกว้าง ดวงตากลมเป็นประกายระยิบระยับเหมือนเจอของเล่นที่ถูกใจ "พี่เชนหุ่นดีจัง" "แตม อึก" เชนกลั้นเสียงครางเมื่อเฌอแตมใช้มือกอบกุมความเป็นชายของเขา เมื่อสาวน้อยเห็นว่าคนเป็นพี่พยายามกลั้นเสียงก็ออกแรงชักรูดถี่ ๆ จนชายหนุ่มอดทนไม่ไหวหลุดเสียงครางออกมา "อะ...อ่าห์" เฌอแตมขยับตัวขึ้น เธอจับแท่งร้อนตั้งตรงแล้วคล่อมทับ กดสะโพกลงจนส่วนหัวจมหายเข้าไปในช่องทางคับแคบ "อื้อ" "แตม" "แน่นจังเลย อ๊ะ... แน่น" ปากส่งเสียงครวญครางว่าแน่นไม่ขาดสาย แต่สะโพกกลับไม่ยอมหยุดนิ่ง เฌอแตมค่อย ๆ กลืนกินสิ่งใหญ่โตเข้าไปเรื่อย ๆ จนสุด เธอรู้สึกอึดอัดไปทั่วช่องท้องเมื่อสิ่งนั้นเข้ามาพองโตอยู่ในตัว "อ๊าาา ของพี่เชนใหญ่มากเลยค่ะ" "แตม" เชนกั
เชนถอดเสื้อออก ตามด้วยกางเกงและชั้นในสีเข้ม ตลอดเวลามีดวงตากลมแป๋วมองตามอย่างสนใจใคร่รู้ เฌอแตมไล่สายตามองตั้งแต่ใบหน้าหล่อ ลำคอแข็งแกร่ง แผ่นอกหนา กล้ามหน้าท้อง เรื่อยมาจนถึงสัดส่วนความเป็นชายที่เหยียดขยายใหญ่เต็มหน้าขา อึก! สาวน้อยตาโตเหมือนไข่ห่านเมื่อเห็นสิ่งนั้นครั้งแรก นะ...นั่นมัน....หยะ...ใหญ่มากกก เชนจับขาเรียวให้แยกออก เขาแทรกตัวเข้าตรงกลางระหว่างขาทั้งสองข้าง มือประคองท่อนกายจ่อเข้ากับกลีบเนื้อนุ่มที่ยังปิดสนิท "ดะ...เดี๋ยวค่ะ!" "พี่บอกแล้วว่าจะไม่หยุด" "ไม่ใช่ค่ะ" เฌอแตมดิ้นเล็กน้อยก็หลุดอย่างง่ายดาย บ่งบอกว่าเชนไม่ได้ตั้งใจกักขังหรือขืนใจถ้าหากเธอเกิดเปลี่ยนใจขึ้นมาจริง ๆ เขาไม่คิดเอาแต่ใจตัวเองทั้ง ๆ ที่ส่วนนั้นขยายใหญ่จนแทบระเบิดอยู่แล้ว สาวน้อยเอี้ยวตัวไปที่ลิ้นชักข้างเตียง เปิดมันออกและหยิบซองบางอย่างออกมา "แตม!" เชนอ้าปากค้าง เขามองสิ่งที่เฌอแตมถือสลับกับใบหน้าน่ารักที่เห็นกันมาตั้งแต่เด็ก ๆ เหมือนเห็นคนแปลกหน้า "ทำไมถึงมีมัน แตมใช้กับใคร" "คะ?" "แตมมีคนรักแล้วเหรอ ใครกัน ผู้ชายคนนั้นรับผิดชอบแตมหรือเปล่า" "พี่เชน..." "ถ้าไม่รับผิดชอบบอกพี่ พี่จะไปจั
ถ้าคิดว่าเรื่องในวันนั้นจะทำให้ทุกอย่างเปลี่ยนไป ก็ขอบอกไว้ตรงนี้เลยว่าไม่... ไม่เลยสักนิด! พี่เชนยังเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือระมัดระวังตัวเพิ่มขึ้น มีโอกาสได้อยู่ด้วยกันสองต่อสองแต่ไม่มีอะไรขยับ บางทีอาจจะห่างกว่าปกติด้วยซ้ำ "ซื่อหรือบื้อเนี่ย!" เฌอแตมที่นั่งอยู่บนเตียงฟาดมือกับอากาศด้วยความหงุดหงิด อีกสองวันแม่เธอก็กลับมาแล้ว แต่ระหว่างเธอกับพี่เชนกลับไม่มีอะไรคืบหน้าเลย "หรือพี่เชนไม่ได้ชอบผู้หญิง" สาวน้อยตั้งข้อสงสัย เป็นไปได้เหรอที่ผู้ชายแท้ ๆ จะโสดมาทั้งชีวิตจนอายุจะเข้าเลขสามอยู่แล้ว พี่เชนไม่ใช่ว่าไม่หล่อ ตรงกันข้ามพี่เชนหล่อมากด้วย ติดแค่เฉิ่มไปนิด ถือตัวไปหน่อย แต่ก็ไม่น่าโสดและสดขนาดนี้ถ้าไม่ใช่เพราะชอบเพศเดียวกัน "แบบนี้ต้องพิสูจน์!" เฌอแตมบอกตัวเองอย่างแน่วแน่ ตาจ้องมองประตูห้องน้ำที่ยังปิดสนิท อย่างน้อย ๆ พรุ่งนี้ก็วันหยุดของทั้งเธอและพี่เชน ถ้าหากเกิดอะไรขึ้นจริง ๆ ก็ไม่กระทบกับหน้าที่แน่นอน รวมถึง... สาวน้อยเปิดลิ้นชักหัวเตียงออก ตาเป็นประกายเมื่อเห็นสิ่งที่นอนนิ่งอยู่ในนั้น ถุงยางอนามัย จะด่าว่าเธอแก่แดดก็ได้ แต่พอรู้ว่าพี่เชนจะมานอนด้วยเธอก็จัดการซื้อเครื่อ
สามวันที่เชนหายไป เฌอแตมไม่ได้เจอหน้าพี่ชายข้างบ้านเลย ไม่รู้ว่าเขาไม่ว่าง หรือจงใจหลบหน้ากัน แต่สุดท้ายการรอคอยก็สิ้นสุดลง วันนี้เชนกลับมาสอนปกติ ร่างสูงแต่งตัวสุภาพเหมือนเดิม ใบหน้าหล่อสุภาพยังคงมีรอยยิ้มบางประดับอยู่ "พี่เชน" "ครับ" "นึกว่าจะไม่มาแล้ว" ร่างน้อยเดินเข้าไปคลอเคลีย ยิ้มโชว์ฟันขาวให้พี่เชนรู้ว่าเธอดีใจแค่ไหน ไม่ได้เจอหน้าตั้งสามวัน คิดถึงที่สุดเลย เชนทำแค่เพียงยิ้มรับ ก่อนจะเดินไปสวัสดีแม่ของเฌอแตม "ขอโทษที่หายไปหลายวันครับคุณน้า" "โอ้ยไม่ต้องขอโทษหรอกเชน น้าบอกแล้วว่าไม่ต้องมาสอนเด็กดื้ออย่างแตมก็ได้ งานเชนล้นมือขนาดนั้น" "ไม่เป็นไรครับ ผมเต็มใจ" "เห็นไหมคะ พี่เชนน่ารักกับแตมจะตาย" เด็กสาวเข้ามาควงแขนพี่ชายคนสนิท ซบใบหน้ากับไหล่กว้างเย้ยแม่ตัวเอง "ไปกันค่ะพี่เชน วันนี้แตมสัญญาจะตั้งใจเรียน" เฌอแตมว่าพลางดึงแขนเชนขึ้นไปบนห้อง ร่างสูงแม้ไม่อยากตามแต่ก็ขัดใจน้องไม่ได้ เฌอแตมทำอย่างที่รับปากไว้ เด็กสาวเรียนอย่างตั้งใจ สองชั่วโมงของการติวเข้มผ่านไปอย่างรวดเร็ว "วันนี้พอแค่นี้ก่อนดีกว่า มากไปก็ปวดหัวเปล่า ๆ" "แตมยังไงก็ได้ค่ะ แล้วแต่พี่เชน" เด็กน้อยยิ้มโชว
"มองอะไรหืม" เชนถามขำ ๆ ตั้งเริ่มเรียนจนถึงตอนนี้น้องเอาแต่มองเขาตลอดเวลา เฌอแตมยกแขนขึ้นเท้าคางและมองมาด้วยสายตาหวาน ๆ พอถูกมองนาน ๆ ก็เริ่มรู้สึกเก้อแปลก ๆ "พี่เชนหล่อจังค่ะ" เชนหัวเราะ "หลอกให้คนแก่ดีใจหรือเรา" "ไม่เห็นแก่เลยค่ะ แค่ยี่สิบแปดเอง" "แต่ก็ห่างกับแตมตั้งเก้าปี" "ไม่เป็นไรค่ะ แตมชอบคนแก่ ยิ่งแก่ยิ่งประสบการณ์เยอะดีออก" สาวน้อยพูดพร้อมดวงตาที่เป็นประกาย ส่วนเชนนิ่งค้างไปแล้ว เขารู้สึกเหมือนหน้ามันร้อน ๆ ขึ้นแต่ก็ไม่รู้ว่าทำไม "พี่เชน คำว่ารักภาษาฝรั่งเศสคืออะไรคะ" เฌอแตมเปลี่ยนเรื่อง เธอไม่อยากรุกมากเกินไปจนไก่ตื่น ดูก็รู้ว่าพี่เชนของเธอไม่เป็นประสา วัน ๆ คงเอาแต่เรียนไม่เคยคบใคร เธอเองก็ไม่เคยมีแฟน มีแค่นิยายรักหวานแหววที่ทำให้เฌอแตมรู้ว่าควรเข้าหาเชนยังไง ต้องขอบคุณนิยายพวกนั้นที่ทำหน้าที่เป็นครูชั้นดีให้เธอ "เฌอแตม" "ขา" "เฌอแตม แปลว่ารัก" ครั้งนี้สาวน้อยเป็นฝ่ายหน้าร้อนผ่าวแทน เสียงเจือยแจ้วเงียบไป เฌอแตมรู้ความหมายของชื่อตัวเองดี และที่ถามก็เพราะอยากแหย่เชนเท่านั้น ไม่คิดว่าเชนจะพูดออกมาง่าย ๆ แบบนี้ "เฌอแตมแปลว่ารัก ผมรักคุณ ฉันรักคุณ" "....." "พ
"จะรบกวนพี่เขาหรือเปล่า แค่งานสอนที่โรงเรียนก็น่าจะหนักแล้วนะ แม่ว่าแตมไปเรียนที่สถาบันดีไหม" "แตมไม่อยากเรียนแบบนั้นค่ะ ไม่มีเพื่อน" "แตมโตแล้วนะ อย่าเอาแต่ใจสิ" "แม่คะ" "ไม่เป็นไรครับคุณน้า" เสียงนุ่มทุ้มดังขึ้นขัดสองแม่ลูกที่ยังตกลงกันไม่ได้ เชนระบายยิ้มสุภาพให้คุณน้าที่รู้จักกันมานาน "ผมสอนน้องได้ น้องคนเดียว ไม่เหนื่อยเลยครับ" "น้าเกรงใจ" "ไม่ต้องเกรงใจครับ แตมก็เหมือนน้องแท้ ๆ ของผมคนหนึ่ง" ชายหนุ่มวัยยี่สิบแปดที่แต่งตัวภูมิฐานสมกับอาชีพพ่อพิมพ์ของชาติส่งสายตาอ่อนโยนให้น้องสาวข้างบ้าน เฌอแตมก้มหน้างุด แก้มสองข้างแดงจัด พี่เชนขี้โกง ยิ้มแบบนั้นได้ยังไง! "เห้ออ น้าผิดเองที่เลี้ยงลูกตามใจจนเอาแต่ใจแบบนี้ แต่ถ้าเชนเต็มใจน้าก็ขอบคุณมาก ๆ เลยนะ" . . เฌอแตมเดินออกมาส่งเชนที่รั้วบ้าน บ้านขนาดกลางทั้งสองหลังปลูกติดกันมาตั้งแต่รุ่นคุณยาย ผ่านร้อนผ่านฝนผ่านการบูรณะหลายครั้งจนเป็นบ้านที่น่าอยู่แบบทุกวันนี้ เมื่อประมาณสิบปีก่อนตอนที่เฌอแตมอายุได้เก้าขวบ บ้านทั้งสองหลังตัดสินใจพังรั้วส่วนหนึ่งเพื่อทำเป็นประตูระหว่างสองบ้าน สาเหตุเพราะเฌอแตมติดพี่เชนจนผู้ใหญ่พากันเอ็นดูไม่อยากให
ตึง! "อ๊ะ!" ชะเอมร้องประท้วงเพราะถูกดันเข้ากำแพงค่อนข้างแรง เธอไม่ได้เจ็บเพราะใส่เสื้อหนา แต่กลัวว่าห้องข้าง ๆ จะได้ยินเสียงแล้วแจ้งตำรวจเอา "ทิว...อื้อ" ปากอิ่มถูกจูบปิดจนแน่นสนิท ทิวาในเวลานี้เหมือนนักล่า เขากัดกินชะเอมอย่างหิวโหย ชะเอมแทบขาอ่อน รสจูบของทิวาในวันนี้ต่างจากวันนั้น มันร้อนแรงจนอากาศติดลบของฮอกไกโดกลายเป็นอากาศอบอุ่นของเมืองไทย "เอม" "ทิว อย่าเพิ่ง" ชะเอมรีบจับมือปลาหมึกไว้ก่อนที่มันจะเข้ามาวุ่นวายกับหน้าอกของเธอ แก้มใสซับสีเลือดเข้ม ส่ายหน้าไปมาด้วยความขวยเขิน เพราะทิวาจับเธอจูบทั้ง ๆ ที่ยังยืนอยู่หน้าประตู ไปหื่นมาจากไหนกัน "คิดถึงใจจะขาด" "เวอร์" "ไม่เวอร์ เราโคตรคิดถึงเอม อยากกอด อยากจูบ อยากเอาจะแย่" "ลามก! อ๊ะ" ชะเอมรีบคว้าต้นคอของชายหนุ่มไว้ ร่างเล็กลอยละลิ่วไปที่โซฟาขนาดกลาง ทิวาวางชะเอมลงได้ก็รีบดึงทึ้งเสื้อผ้าตัวเองออกไม่เป็นทิศเป็นทาง "เดี๋ยวสิทิว" หญิงสาวร้องห้ามเมื่อทิวาเริ่มมายุ่มย่ามกับเสื้อผ้าของเธอ อยากถอดก็ถอดไปคนเดียวสิ "ไม่ไหวแล้ว" "คุยกันก่อน อื้อ" "ไม่คุยแล้ว เราพูดไปหมดแล้ว" ทิวาจับขาเรียวอ้าออกกว้าง ชะเอมแต่งตัวแบบสาวญี่ปุ่น
ทิวาตื่นมาพร้อมกับสมองที่โล่งโปร่ง ความหนักอึ้งจากพิษไข้หายไปจนเกือบหมดเพราะได้ยาดี ชายหนุ่มยันกายขึ้นนั่งบนเตียงนุ่มที่ว่างเปล่า "เอม" ไม่มีเสียงตอบรับ ทิวาบิดขี้เกียจอย่างเกียจคร้าน ตาแทบเปิดไม่ขึ้นเพราะจำได้ว่าเพิ่งได้นอนเมื่อไม่ถึงห้าชั่วโมงก่อน น่าแปลกที่ขนาดเขายังเหนื่อยขนาดนี้ แต่ชะเอมกลับลุกจากเตียงได้ "เอม อยู่ไหน" ห้องกว้างยังคงเงียบสนิท ทิวาลุกขึ้นยืน เขาหยิบบ็อกเซอร์มาสวมลวก ๆ ก่อนจะเดินออกไปด้านนอก "เอม..." ชายหนุ่มคิ้วกระตุก เมื่อไม่เห็นคนที่กำลังตามหา ในห้องนอนไม่มี ข้างนอกก็ไม่มี แม้แต่เสื้อผ้าสักตัวก็ไม่เหลือ ชะเอมหนีเขาไปแล้ว "ดื้อ" ทิวาส่ายหน้าให้กับความดื้อด้านของเพื่อนที่ตอนนี้เลื่อนสถานะมาเป็นเมีย "คิดว่าจะปล่อยให้หนีไปได้อีกหรือไง" . . "เมื่อคืนเอมกลับมากี่โมงนะ" ผู้เป็นแม่เอ่ยถามตามประสา แต่ลูกสาวกลับสะดุ้งเพราะมีความผิดติดหลัง "เอม....ไม่ได้ดูนาฬิกาค่ะ" "อืม แล้วทิวเป็นอย่างไรบ้าง ดีขึ้นบ้างไหม" "ตอนเอมกลับมาตัวไม่ร้อนแล้วค่ะ" "ดีแล้ว ถ้าไม่หายคงต้องแบกไปหาหมอให้ได้" หญิงวัยกลางคนหัวเราะเบา ๆ ชวนให้ชะเอมต้องหัวเราะตามอย่างเสียไม่ได้ ในใจเ
ชะเอมไม่มองหน้าเพื่อนอีกหลังจากตอบรับสั้น ๆ แต่หูได้ยินเสียงเนื้อผ้าเสียดสีเต็มสองรูหู ทำให้รู้ว่าทิวากำลังถอดเสื้อผ้าของตัวเองออก "เอม" มือบางถูกชักจูงไปสัมผัสบางสิ่งที่ร้อนผ่าวและแข็งตึง "เอม" "อืม" "ทำให้เราหน่อย" ชะเอมเบนสายตากลับมามอง แก้มทั้งสองข้างร้อนจัดเมื่อเห็นสิ่งที่อยู่ในมือ "ทิว" "นะครับ" เสียงออดอ้อนของเพื่อนทำให้ชะเอมใจอ่อนยวบ ร่างเล็กฝืนความอาย มือค่อย ๆ รูดสิ่งนั้นเข้าออกช้า ๆ "อืม" ชะเอมเงยหน้าขึ้นมองใบหน้าของเพื่อน ทิวาหลับตาสนิทพร้อมส่งเสียงครางออกมา "ซี๊ด...อาห์" ทิวาในตอนนี้ไม่เหมือนทิวาที่ชะเอมรู้จัก ใบหน้าของเขาบิดเบี้ยว ปากบางส่งเสียงครางออกมาไม่ขาดสาย ชะเอมไม่คิดว่าวันหนึ่งจะได้เห็นสีหน้าแบบนี้จากคนที่แอบรัก มือบางขยับเร็วขึ้น เธอเอาอกเอาใจทิวาเท่าที่จะทำได้ แต่จู่ ๆ ชายหนุ่มก็จับมือเธอออกห่างจากแท่งร้อน "ทิว..." "พอก่อน" "เราทำแย่มากเลยเหรอ" "เปล่า" ทิวาดูดกลีบปากอิ่มแรง ๆ โทษฐานที่คิดไปเอง "ดีมาก...ดีมาก ๆ ต่างหาก ดีจนเรากลัวว่าจะแตกก่อน" ชะเอมได้ยินแบบนั้นก็หน้าแดงแปร๊ด หญิงสาวแสร้งมองไปทั่วห้องเพื่อหลบสายตาหื่นกระหายของเพื่อน ทิวาในว