"มะ...ไม่นะ" เนตรดาวปฏิเสธเสียงสั่น พยายามดึงสะโพกออกห่างฝ่ามืออันตรายแต่ก็ไม่เป็นผล เพียงแค่นิ้วแข็งขยี้เข้ากับจุดกระสั่น ร่างกายก็อ่อนปวกเปียกเหมือนขี้ผึ้งลนไฟ "อะ...อาาาา" "อย่าปฏิเสธความต้องการของตัวเองเลยครับ" ตุลย์ขยี้ปลายนิ้วหนัก ร่างบางทรุดลงและสั่นสะท้าน ชายหนุ่มยกยิ้มพอใจที่ทำให้พี่สะใภ้แพ้ราบคาบได้ "ตรงนี้ของพี่อยากให้ผมเข้าไปจะแย่" "มะ...อ๊าาา ตรงนั้น" ตุลย์ขยี้นิ้วเป็นวงกลม ใจกลางความสาวสั่นระริกและแข็งขืนขึ้นสู้มือ ตุลย์เบียดแผ่นอกเข้าหาพี่สะใภ้ จมูกโด่งซุกซอกคอหอมกรุ่น สูดกลิ่นความสาวเข้าเต็มปอด "อ่าส์ หอม" เนตรดาวส่งเสียงครางแผ่วรับเสียงแหบพร่า เธอแอ่นเนินสาวเข้าหาน้องชายสามี หลงลืมไปว่าสิ่งที่ทำเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง "อ๊ะ...ตุลย์" ตุลย์สัมผัสได้ถึงความเปียกหยาดเยิ้มที่เปื้อนนิ้ว กางเกงในพี่สะใภ้เปียกแฉะไปทั้งเป้า ผ้าบางนั่นกักเก็บความต้องการของเธอไม่ได้ด้วยซ้ำ "อ่าส์ พี่เนตรเปียกมากเลย เปื้อนนิ้วผมไปหมด" "อื้อ...อ๊ะ" ชายหนุ่มเขี่ยเนื้อผ้าไปด้านข้างเพื่อสัมผัสร่องแฉะด้วยนิ้วโดยไม่ต้องผ่านผ้าอีกต่อไป ทันทีที่นิ้วร้อนทาบทับเนตรดาวก็กระตุกกาย ร่องรักขับน้ำหล่
"ตุลย์จะอยู่ที่นี่เหรอ ดีจริง พี่จะได้มีเพื่อนคุย เนตรเขาทำงานเยอะไม่ค่อยว่างคุยกับพี่" ตรัยหัวเราะร่วนเมื่อภรรยาหันมาส่งค้อนให้ วันนี้น้องชายกลับมาจากบ้านพ่อกับแม่หลังจากกลับไปอ้อนเอาใจคนแก่เกือบอาทิตย์ เป็นช่วงระยะเวลาสั้น ๆ ที่บ้านเงียบเหงาลงถนัดตา ตรัยไม่เคยรู้มาก่อนว่าบ้านที่มีกันแค่สองคนจะเหงาได้ขนาดนี้ ไม่ใช่แค่ตรัย เนตรดาวเองก็ไม่ต่างกัน หลังจากตุลย์กลับบ้านพ่อกับแม่ไปเธอก็รู้ใจหาย ช่วงเวลาที่อยู่ด้วยกันเนตรดาวมีความสุขมาก รสรักที่ตุลย์ปรนเปรอให้มันเต็มอิ่มแต่ก็ชวนให้ต้องการซ้ำ ๆ แต่เพราะเธอไม่ได้สนิทกับตุลย์มากนักในสายตาของสามี เนตรดาวจึงไม่เคยแสดงอาการอะไรออกมา ดีจริง ๆ ที่ตุลย์กลับมา "พรุ่งนี้ผมว่าจะเข้าบริษัท" "หืม?" ตรัยเลิกคิ้วขึ้นสูง มองคนที่หน้าเหมือนกันอย่างกับแกะด้วยความฉงน ตุลย์เนี่ยนะจะเข้าบริษัท เข้าไปทำไมกัน ร้อยวันพันปีไม่เคยเห็นจะสนใจกิจการของครอบครัว "ผมอยากแบ่งเบางานของพี่" "หมายความว่า ตุลย์จะอยู่เมืองไทยถาวร?" "...ครับ" เนตรดาวรีบก้มหน้าลงซ่อนรอยยิ้มไว้ คำพูดของตุลย์ทำให้หัวใจเธอพองโต เธอยอมรับว่ากังวลเรื่องที่ตุลย์จะกลับออสเตรเลีย ซึ่งน้องชายสามี
"อ๊าาาา" เนตรดาวเกร็งกระตุก ช่องทางตอดรัดเอ็นใหญ่แนบแน่น หญิงสาวหลับตาพริ้ม ซึมซับน้ำอุ่นจัดที่ตุลย์ถ่ายทอดเข้ามาในร่างกาย "น้ำเยอะจัง" "ก็ผมเสียว" ตุลย์จูบปากอิ่มดูดดื่ม ท่อนเอ็นใหญ่ฝังแน่นอยู่ที่เดิม เขาไม่ขยับออกจนกว่าจะมั่นใจว่าน้ำเชื้อทั้งหมดจะไม่ไหลย้อนออกมา และเพราะยังฝังตัวอยู่ในรูแคบ ส่วนแข็งขืนจึงไม่หดตัวลงง่าย ๆ "อ๊ะ! ตุลย์" "ครับ ซี๊ดด" ตุลย์กระเด้าเอวเบา ๆ ท่อนเอ็นไหลลื่นเข้าออกง่ายดายเพราะน้ำกามของทั้งตุลย์และเนตรดาวเป็นตัวช่วย ชักเข้าชักออกเล่น ๆ กลายเป็นมีอารมณ์จริง ๆ ตุลย์หมุนคว้านเอว สบตาพี่สะใภ้ด้วยความลุ่มหลง "เหนื่อยยังครับ" "จะเอาอีกเหรอ รอบที่สามแล้วนะ" "ก็มันยังแข็ง" ตุลย์กระเด้าเอวให้เนตรดาวรู้ว่ากำลังพูดถึงส่วนไหน "อยากเอาพี่ทั้งวันเลย" "เนตรต้องกลับบ้าน ตรัยใกล้กลับแล้ว" "อีกตั้งชั่วโมง บ้านเราอยู่ใกล้กันแค่นี้ ทำต่อเถอะนะครับ" "แต่ว่า..." "นะครับที่รัก" เนตรดาวเอียงใบหน้าด้วยความเขินอาย นับวันตุลย์ยิ่งปากหวาน สองเดือนกว่าแล้วที่เรามีสัมพันธ์กันอย่างลับ ๆ แต่ทั้งเธอและตุลย์กลับต้องการกันมากขึ้นไม่รู้จักพอ "อื้อ" ตุลย์จูบแก้มใส เอวสอบตั้งท่า
"ฉันไม่รับเธอ" เสียงแหลมดุดันเป็นเหมือนสายฟ้าฟาดลงกลางหัว ยุพิน หญิงสาวจากต่างจังหวัดอายุยี่สิบสามปีหน้าซีดเซียวด้วยความผิดหวัง หญิงสาวเข้ามาทำงานโรงงานในเมืองหลวงเมื่อปีที่แล้ว ก่อนที่พิษเศรษฐกิจจะทำให้เธอต้องกลายเป็นคนตกงาน สาวบ้านนาไม่เคยย่อท้อ เธอเดินหน้าหางานใหม่จนเจอเข้ากับบ้านเศรษฐีที่เปิดรับสมัครสาวใช้ แต่พอเข้ามาคุยกับคุณนายของบ้านก็กลับได้รับคำตอบที่ตัดความหวังอย่างสิ้นเชิง ยุพินไม่แน่ใจว่าเธอผิดพลาดที่ตรงไหน ถึงจะไม่เคยเป็นแม่บ้านมาก่อนแต่สมัยอยู่บ้านนอกเธอก็ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้านตั้งแต่เด็ก ไม่ว่าจะทำความสะอาด ซักผ้า หรือแม้กระทั่งทำกับข้าวเธอก็ทำได้หมด "อะไรกันแม่อนงค์" เสียงทุ้มก้องกังวาลเต็มไปด้วยอำนาจดังขึ้นจากด้านหลัง ยุพินไม่กล้าหันกลับไปมอง มีเพียงแค่คุณนายอนงค์ที่เห็นว่าเจ้าของเสียงนั้นคือใคร "นงค์กำลังคุยกับคนที่มาสมัครงานค่ะคุณพ่อ" "แล้วว่าอย่างไร" "คงไม่รับค่ะ" "ทำไม" ไพศาล ชายวัยห้าสิบหกปีเดินอ้อมมาข้างหน้าพร้อมกับไม้เท้าคู่ใจ ดวงตาจับจ้องมองหญิงสาวที่นั่งพับเพียบประสานมือก้มหน้าก้มตาอย่างเจียมตัว แม้จะมีอายุเกินครึ่งร้อยแล้วแต่ไพศาลก็ยังแข็งแรงและดูดีเห
"เธอนอนห้องเดียวกับฉันได้หรือไม่ยุพิน" ไพศาลเอ่ยถามความสมัครใจ มันคงดูไม่ดีถ้าหญิงชายนอนร่วมห้องกัน แต่เมื่อเดือนที่แล้วคนดูแลเก่าที่เป็นผู้ชายลาออกไปแต่งงาน เวลากลางคืนคนที่ขาไม่สมประกอบใช้ชีวิตลำบากทีเดียว "ได้ค่ะคุณท่าน" "ดี ตอนกลางคืนฉันเข้าห้องน้ำบ่อย เวลาลุกเร็ว ๆ มันล้มหน้าคะมำทุกที กลัวว่าสักวันจะหัวฟาดพื้นแตกเอาได้" "ยุพินจะดูแลคุณท่านเองค่ะ" ไพศาลเดินเขยกนำไปที่ห้องนอนของตนชั้นล่าง ตั้งแต่ขาได้รับบาดเจ็บเขาก็ตัดสินใจย้ายลงมานอนชั้นล่างถาวร จัดการเปลี่ยนแปลงมุมกว้างของชั้นล่างเป็นห้องนอนกว้างขวางที่มีตั้งแต่ห้องน้ำ ห้องนั่งเล่น และห้องนอน ห้องนั่งเล่นจะถูกกั้นด้วยประตูอีกชั้น แต่ปกติประตูบานนั้นจะไม่ได้ถูกปิดไว้เพื่อความสะดวก ผู้ดูแลของไพศาลจะใช้ห้องนั่งเล่นเป็นห้องนอน ยุพินเองก็เช่นกัน โซฟาตัวกว้างแบบปรับนอนได้คือเตียงนอนของหญิงสาว "นอนบนโซฟานั่นแหละ นอนพื้นจะปวดหลังเอา" "แต่มันเป็นที่ของเจ้านาย..." "ฉันไม่ถือสา ฉันจะถือสามากกว่าถ้าคนที่เลี้ยงไว้ต้องใช้ชีวิตอย่างลำบาก มันเหมือนฉันดูแลคนของตัวเองได้ไม่ดี" เมื่อเจ้านายพูดแบบนั้นยุพินก็ไม่กล้าขัด หญิงสาวยืนกุมมือกลางล
ไพศาลขยับตัวขึ้นนั่งพิงหัวเตียงพร้อมบอกให้ยุพินขยับตามมา หญิงสาวขยับตามแล้วนั่งพับเพียบเรียบร้อย ยุพินมองมาด้วยดวงตากลมแป๋ว ดวงตาเหมือนกวางที่รายล้อมไปด้วยแพขนตายาวงอนคือสเน่ห์ของสาวคนนี้ ไพศาลชอบมองนัก เขารู้สึกเหมือนถูกดึงดูดทุกครั้งที่ดวงตาคู่นี้จ้องมองมา "ยุพิน ลองจับดูสิ" ยุพินขยับมืออย่างกล้า ๆ กลัว ๆ ไม่กี่อึดใจมือเรียวก็วางทับบนเป้ากางเกงขาก๊วยสีเข้ม "อืม" "เจ็บหรือคะคุณท่าน" เสียงครางของไพศาลทำให้ยุพินรีบชักมือออกทันที เธอเกรงว่าจะทำให้คุณท่านเจ็บตัว ดวงตาตกลู่ลงอย่างสงสาร ไพศาลนึกเอ็นดูเด็กคนนี้ เขาจับมือของยุพินมาวางที่เดิมอีกครั้ง "ถ้าฉันส่งเสียงแบบนี้แปลว่าชอบ" คุณท่านออกแรงขยับมือยุพินให้บีบนวดท่อนเอ็นตัวเองเบา ๆ ส่วนแข็งขืนแข็งตัวขึ้นมากกว่าเดิมจนยุพินน้อยเบิกตามองด้วยความสงสัย "อืม ยุพิน" "มันใหญ่ขึ้นค่ะคุณท่าน" "เพราะมันชอบมือเธออย่างไรเล่า" ยุพินได้ยินแบบนั้นก็ใจชื้นขึ้น เธอลองขยับมือด้วยตัวเองโดยไม่ต้องให้คุณท่านนำทาง แล้วก็พบว่าตรงนั้นมันแข็งขึ้นกว่าเดิมเรื่อย ๆ "ยุพิน ดี" ไพศาลที่ห่างมือผู้หญิงมานานครางต่ำ แค่ภายนอกยุพินก็ทำให้เขารู้สึกดีได้มากขนาดนี้
หน้าที่มากขึ้นแลกกับเงินเดือนที่มากขึ้นเป็นเท่าตัว ยุพินทำงานให้คุณท่านมาได้สองเดือนกว่าแล้ว คุณท่านเอ็นดูยุพินมาก นอกจากเวลางานถ้าว่างคุณท่านก็จะสอนภาษาอังกฤษให้ ยุพินที่เคยเรียนมาบ้างเริ่มอ่านออกพูดได้ทีละนิด ทุกครั้งที่หัดพูดหัดอ่านคุณท่านก็จะเอ่ยชมเพื่อให้ยุพินมีกำลังใจเสมอ วันนี้คุณท่านเข้าบริษัท ยุพินที่มีหน้าที่ดูแลคุณท่านแค่ที่บ้านใช้เวลาว่างทำความสะอาดห้องให้คุณท่าน พอทำงานส่วนของตัวเองเสร็จยุพินก็ว่าง คนที่ไม่เคยอยู่นิ่งตัดสินใจเดินเข้าไปในครัว ตั้งใจจะทำมื้อเย็นอร่อย ๆ ให้คุณท่านที่คงเหนื่อยกับงานมาก "อ้าว แม่ยุพิน" แม่ครัวใหญ่ของบ้านเลิกคิ้วขึ้นเมื่อหญิงสาวในชุดพื้นเมืองเดินเข้ามา ไม่ใช่ครั้งแรกหรอกที่ยุพินเข้าครัว แต่ก็ไม่ได้เข้ามาทุกวันยกเว้นวันที่คุณท่านมีอาหารที่อยากกิน "ป้าสมใจ ยุพินขอยืมครัวหน่อยนะจ๊ะ" "ทำอะไรให้คุณท่านล่ะเอ็ง ขยันเหลือเกิน" "วันนี้ยุพินจะทำน้ำพริกหนุ่ม คุณท่านบ่นอยากกินเมื่อคืนจ้ะ" "อ้อ... ตั้งแต่มีเอ็งเข้ามาคุณท่านเจริญอาหารขึ้นนะ" สมใจเท้าคางมองร่างอวบอัดที่ขยับอย่างคล่องตัวทั้ง ๆ ที่สวมผ้าซิ่น เรือนร่างอวบอิ่มทว่าอรชรน่ามองเหลือเกินยามที่
บอกไม่ต้องทน ไพศาลก็จะไม่ทน มือที่บีบเต้าอวบเบา ๆ แปรเปลี่ยนเป็นเคล้นคลึงอย่างหนักหน่วง ยุพินอ้าปากหายใจหอบ แหงนใบหน้าขึ้นสูง ทรวงอกแอ่นขึ้นรับฝ่ามือใหญ่อุ่นร้อน "อะ อา... คุณท่าน" "ครางอีกยุพิน เสียงเธอหวาน ฉันชอบ" ไพศาลกลายร่างเป็นตาแก่หื่นกามเต็มตัว มือทั้งสองข้างบีบเคล้นนมสาวอย่างเมามันส์ ได้ยินเสียงยุพินหอบครางยิ่งได้ใจ มือใหญ่บีบนวดเต็มแรงจนเนื้อขาว ๆ ปลิ้นออกมาตามง่ามนิ้ว "อื้อ" ยุพินทั้งเจ็บทั้งรู้สึกดี ท้องน้อยเหมือนมีคลื่นลูกใหญ่ซัดเข้ามาซ้ำ ๆ ถึงตัวจะอยู่ในน้ำแต่กลับรู้สึกเร่าร้อนเหมือนถูกไฟแผดเผา "คุณท่านขา" "ยุพิน ถอดผ้าซิ่นเธอออกสิ" ยุพินแก้มแดงด้วยความอาย แต่เมื่อเป็นคำสั่งของคุณท่าน ยุพินก็ไม่คิดจะขัดใจ มือค่อย ๆ ปลดผ้าซิ่นออกแล้วพาดไว้กับเสื้อที่โดนปลดออกก่อนหน้า "กางเกงในด้วย" ยุพินเพิ่งรู้ว่าน้ำในอ่างถูกปล่อยออกจนเกือบหมด ดังนั้นตอนนี้คุณท่านจึงเห็นเธอเกือบทั้งตัว "คะ....คุณท่าน" "หืม" "ยุพินอายค่ะ" ไพศาลหัวเราะเอ็นดู มือทั้งสองข้างลดต่ำลงไปที่ขอบผ้าชิ้นสุดท้ายบนร่างกายนวลเนียน "ฉันถอดให้" คำว่าฉันถอดให้ที่ออกมาจากไพศาลเซ็กซี่จนยุพินไม่กล้าสบตาสีเข้
ชึ่บ... ซิบกางเกงถูกรูดลงด้วยฟันขาวจนสุด ผ้าทั้งสองด้านดีดผึงออกจากกัน เผยให้เห็นชั้นในสีเข้มที่อัดแน่นไปด้วยความต้องการของคนวัยหนุ่ม "ใหญ่จัง" พลอยไพลินส่งเสียงอ้อแอ้ ดวงตาหยาดเยิ้มจ้องมองเป้าตุงแน่น ก่อนจะค่อย ๆ อ้าปากออก "พี่พลอย อืม" ฟันขาวงับขอบกางเกงใน เธอช้อนตาขึ้นมองแฟนเด็ก ระหว่างที่ค่อย ๆ ดึงชั้นในที่ห่อหุ่มความเป็นชายออกช้า ๆ "พี่ อึก!" "อ๊ะ!" ท่อนลำขนาดใหญ่ตีเข้าที่ใบหน้าคุณแม่ลูกหนึ่งเบา ๆ เพียงแค่นั้นความชุ่มฉ่ำบริเวณหัวหยักก็เปียกเยิ้มติดกลีบปากและปลายจมูกรั้น บางส่วนเลอะแก้มเนียนเป็นคราบเหนียว "พี่พลอย ผมไม่ไหว" "เดี๋ยวสิ" พลอยไพลินไม่ยอมให้กฤตลุกขึ้นมา เธอนั่งคล่อมขาแฟนเด็ก ใช้หัวเข่าของกฤตเป็นจุดเร้าอารมณ์ให้ตัวเองไม่ต่างจากผู้หญิงร่านรัก "อ๊าาา ดีจัง" หัวเข่าเสียดสีกับเนื้อนุ่มเป็นจังหวะ ไม่นานกฤตก็รู้สึกได้ถึงความเปียกที่ไหลซึมกางเกงลงมา จากนั้นพลอยไพลินก็เร่งจังหวะขึ้นถี่ ๆ ไม่ถึงนาทีร่างกายก็กระตุกเฮือกพร้อมกับส่งเสียงครางหวานออกมา "อ๊างงง" พลอยไพลินเสร็จสมคาหัวเข่าของกฤต เธอหอบหายใจให้อารมณ์กลับมาคงที่ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นแล้วส่งยิ้มหวานให้แฟนเด็ก "
(พี่พลอยกินข้าวหรือยังครับ) "กินแล้ว กฤตล่ะ" (กินแล้วเหมือนกัน พี่พลอย... ผมต้องไปทำงานอีกแล้วอะ) "เหรอ" พลอยไพลินบังคับไม่ให้น้ำเสียงดูเหงาหงอยเกินไป "งั้นกฤตไปทำงานเถอะ ตั้งใจทำงานนะ" (ครับ รักพี่นะ) "อืม" คำบอกรักทำให้พลอยไพลินใจชื้นขึ้นมาได้บ้าง เธอวางสายจากแฟนหนุ่มแล้วหันกลับมาจัดการงานของตัวเองต่อ แต่สมาธิทั้งหมดกลับแตกกระเจิงเพราะเอาแต่คิดถึงกฤตซ้ำ ๆ สองเดือนกว่าแล้วที่กฤตไปฝึกงานที่ระยอง และมันก็เป็นเวลาสองเดือนกว่าที่เราทั้งคู่ไม่ได้เจอหน้ากันเลย "เฮ้อ..." กฤตนั้นงานยุ่งมาก เพชรเองก็ไม่ต่างกัน ยุ่งถึงขั้นที่ระยองใกล้กับกรุงเทพแค่นี้ยังกลับมาหากันไม่ได้ ยุ่งจนแทบไม่ได้คุยกัน บางวันไม่มีแม้แต่สายเดียวจากกฤตและเพชรเลยด้วยซ้ำ กฤตเป็นลูกชายคนสุดท้องของบริษัทก่อสร้างยักษ์ใหญ่ เขาเลือกไปฝึกงานกับบริษัทอื่นเพื่อลดคำครหาว่าใช้เส้นสาย แต่ขนาดหนีจากบริษัทตัวเองไปแล้วกฤตก็ยังถูกนินทาว่าใช้เส้นพ่อ แม่ และพี่ ๆ ถึงได้สอบสัมภาษณ์ผ่าน ลามมาถึงเพชรว่ากฤตฝากเพชรเข้าไปด้วย ทั้งคู่ก็เลยต้องการลบคำสบประมาทด้วยการสร้างผลงานให้เห็น ดังนั้นจึงไม่แปลกเลยที่เด็กฝึกงานทั้งสองคนจะยุ่งเกินเด็กฝ
"มึง!" นิ้วสั่นระริกชี้หน้าเพื่อนสนิท เพชรพยายามห้ามตัวเองอย่างหนักไม่ให้พุ่งเข้าไปต่อยหน้าหล่อ ๆ ของเพื่อน กล้าดียังไงถึงได้หลอกเขาว่าป่วย แถมใช้แฟนสาวของเขาเป็นเครื่องมือแบบนี้อีก "อะไร ไม่ชอบเหรอ" "มึงมัน...แม่ง!" เพชรจำใจลดมือลง จะว่าไปที่กฤตทำก็ไม่ได้แย่เสียทีเดียว เพชรไม่ค่อยได้ใช้เวลากับแฟนเพราะแฟนเรียนหนักและเรียนคนละมหาวิทยาลัย เมื่อวานพอเธอโทรหา ออดอ้อนไม่กี่คำเขาก็พุ่งไปคอนโดเธอทันที หลังจากนั้นก็จับแฟนกินจนลืมเวลา พอกลับบ้านมาตอนสาย ๆ แทนที่คนเปิดประตูบ้านจะเป็นแม่ แต่กลับเป็นเพื่อนสนิทที่ส่งยิ้มกวนประสาทมาให้ พลาดแล้ว เพชรพลาดไปแล้ว "มึงไม่รักษาคำพูด กูบอกว่าสองอาทิตย์" "กูสั่งให้มึงห่างกับแฟนมึงสองอาทิตย์บ้างไหมล่ะ" "ไอ้กฤต" "ทะเลาะอะไรกันเด็ก ๆ" พลอยไพลินเดินออกมาจากห้องครัวพร้อมคุกกี้หวานน้อยของโปรดของเพชร ในตอนที่เธอจะนั่งลงบนโซฟาเอวก็ถูกแขนแกร่งรวบไปนั่งบนตักหน้าตาเฉย "กฤต!" "ไอ้กฤต! ลามปามนะมึง" "ทำไม นี่เมียกู" ฟอด! "แก้มนี้ก็ของกู" "กฤต!!" "ไอ้!!" เพชรชี้หน้าเพื่อน ทั้งโกรธทั้งหมั่นไส้ อยากลุกไปต่อยหน้ามันซักทีให้หายกวนประสาท ติดที่แม่ของเขาถูกจั
กฤตยันตัวขึ้น จับขาเรียวขึ้นพาดบ่าหนึ่งข้าง มันเป็นท่าโปรดของกฤต ส่วนพลอยไพลินนั้นตาโต ตื่นเต้นกับสิ่งที่กฤตทำทุกอย่าง เธอเป็นแม่ลูกหนึ่งที่อ่อนประสบการณ์ ครั้งแรกของเธอไม่มีอะไรน่าจดจำ แต่ครั้งนี้มันต่าง เธออยากเฝ้ามองทุกขั้นตอนที่กฤตทำ อยากจดจำทุกท่วงท่าและลีลาของเด็กคนนี้ "พี่พลอย" "หืม" "ถ้ารอบนี้ผมแตกเร็วห้ามแซวกันนะครับ พี่โคตรแน่นเลย ผมเหมือนจะตาย" พลอยไพลินพยักหน้ารับ กฤตเมื่อได้ท่าก็ค่อย ๆ ดึงท่อนเอ็นออกจากรูสวาทคับแคบ เสียงซี๊ดปากเบา ๆ ดังขึ้นจากเด็กหนุ่มเพราะเนื้อนุ่มดูดตอดเหมือนไม่ต้องการให้เขาออกไปไหน กฤตก้มลงมอง ดวงตาวาววับจ้องมองปากทางที่อ้าขยายอมท่อนเอ็นอวบใหญ่ไว้แทบปริขาด "พี่พลอย" "กฤต อื้อ" แม่ลูกหนึ่งรู้สึกเหมือนถูกดึงวิญญาณออกจากร่าง ทั้งอึดอัด ทั้งเจ็บ แล้วก็เสียวในเวลาเดียวกัน เธออยากให้กฤตขยับทำอะไรให้ความอึดอัดนี้หายไป แต่พอกฤตขยับตัวร่างกายเธอกลับดูดรั้งกฤตเอาไว้อย่างตะกละตะกราม "ผ่อนคลายหน่อยครับ ผมอยากกระแทกพี่จะแย่" "พี่ อ๊ะ พยายามอยู่" กฤตดึงท่อนเอ็นออกไปเกือบสุด มีเพียงแค่หัวหยักบานใหญ่ที่แช่คาในรูฉ่ำน้ำ เขามองภาพสวยงามนั้นอึดใจ ก่อนสะโพกสอบจะ
"พี่พลอย" "หืม?" กฤตกลืนน้ำลายเหนียว ๆ ลงคอ ดวงตาไล่มองเรือนร่างเล็กตามสไตล์หญิงเอเชียแต่ไม่ได้ผอมแห้ง พลอยไพลินมีเนื้อให้บีบจับ แต่ก็มีกล้ามเนื้อน้อย ๆ บ่งบอกว่าเป็นคนรักสุขภาพ หุ่นโค้งเว้าไม่ต่างจากนาฬิกาทราย อกอวบ สะโพกผายและเอวคอด ร่องสิบเอ็ดตรงหน้าท้องเสริมให้เธอดูเซ็กซี่เย้ายวน "พี่พลอยไม่เหมือนคนอายุสามสิบห้า" "ทำไม" "พี่โคตรสวย" กฤตวางมือลงบนหน้าท้องที่มีกล้ามน้อย ๆ "เซ็กซี่โคตร ๆ เลย" "กฤตเอาเปรียบนะ เห็นพี่ทั้งตัวแล้วแต่กฤตยังเสื้อผ้าครบอยู่เลย" "อ่า..." กฤตได้ยินแบบนั้นก็รีบลุกขึ้นถอดเสื้อผ้าออกอย่างรวดเร็ว ทันทีที่ได้เห็นเรือนกายที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามของเด็กหนุ่มพลอยไพลินก็หน้าร้อนผ่าว แต่นั่นไม่เท่ากับตอนที่กางเกงในสีเข้มถูกรูดออก ส่วนกลางลำตัวอวบใหญ่เหยียดตรงและชี้มาที่หน้าเธอ กฤตผิวขาว ตรงนั้นก็เลยขาวสะอาด ส่วนหัวสีแดงระเรื่อ พลอยไพลินเอนหน้าหนี เธอไม่ใช่หญิงบริสุทธิ์แต่ก็ไม่ต่าง เซ็กส์ครั้งเดียวแถมตอนนั้นไม่ได้ทำอะไรนอกจากนอนให้ผู้ชายคนนั้นกระทำย่ำยี มันต่างกับตอนนี้ที่ได้เห็นร่างกายของกฤตทุกสัดส่วน "พี่พลอยครับ" กฤตคร่อมทับลงมาอีกครั้ง ริมฝีปากนุ่มพรมจูบข้า
คุณแม่ลูกหนึ่งเดินเข้าห้องน้ำพร้อมผ้าเช็ดตัวเพื่อชำระคราบเหงื่อไคล บ้านของพลอยไพลินเป็นทาวน์โฮมสองชั้นขนาดเล็กกระทัดรัด สองห้องนอน สองห้องน้ำ ชั้นล่างมีห้องรับแขกที่เป็นห้องนั่งเล่นไปในตัว ห้องครัวและโต๊ะกินข้าว ห้องน้ำหนึ่งห้องสำหรับแขก ส่วนชั้นบนเป็นห้องนอนสองห้อง และห้องน้ำหนึ่งห้อง ดังนั้นพลอยไพลินจึงไม่มีห้องน้ำส่วนตัว แต่เธอก็ไม่เคยเดือดร้อนเพราะอยู่กับลูกชายแค่สองคน ไม่เคยมีปัญหาประเภทแย่งห้องน้ำกันให้ปวดหัว หญิงสาวฮัมเพลงในลำคอเบา ๆ ระหว่างลูบไล้ใยบวบไปทั่วร่างกายอวบอิ่ม พลอยไพลินเป็นแม่ลูกหนึ่งที่มีหุ่นเว้าโค้งน่าอิจฉา ผิวขาวผ่อง หน้าอกหน้าใจอวบใหญ่เกินตัว เอวคอดบาง สะโพกผาย หน้าท้องมีกล้ามเนื้อนิด ๆ เพราะเธอชอบออกกำลังกาย พลอยไพลินตั้งท้องเพชรตั้งแต่อายุสิบสี่ พ่อของเพชรชื่ออะไรเธอไม่อยากจำ จำได้แค่ว่าเขาเป็นรุ่นพี่มอหกที่โรงเรียนเดียวกัน เป็นนักกีฬา ประธานนักเรียน หล่อ และรวย ส่วนพลอยไพลินนั้นเป็นเด็กสาวหน้าตาน่ารัก เรียบร้อย เรียนเก่ง ฐานะกลาง ๆ และไม่เคยออกนอกลู่นอกทาง เด็กสาวที่อายุยังน้อยและไม่มีประสบการณ์มากมายถูกรุ่นพี่คนดังจีบ ตอนนั้นพลอยไพลินเหมือนอยู่ในทุ่งดอกไ
"แม่ครับ วันนี้ไอ้กฤตจะมานอนบ้านนะ" เสียงตะโกนดังแว่วมาจากหน้าบ้าน พลอยไพลินล้างมือเช็ดกับผ้าสะอาดจนแห้งแล้วเดินออกไปหาลูกชายที่กำลังก้าวออกจากบ้านพอดี "เพชร มาให้แม่หอมหน่อย" "ไม่เอาครับ เพชรโตแล้ว อีกแค่ปีเดียวก็เรียนจบแล้วแต่แม่ยังไม่เลิกหอมเพชรอีก" "ก็แม่รักเพชรนี่" "เพชรก็รักแม่ แต่เพชรอายคนอื่น เพื่อนล้อว่าเพชรเป็นลูกแหง่" พลอยไพลินหน้างอ ลูกชายเห็นแบบนั้นก็เดินมากอดเอวคอดบางที่แทบไม่อยากจะเชื่อว่าผู้ชายตัวโตขนาดนี้เคยนอนอยู่ในนั้นตั้งเก้าเดือน "แค่กอดเพชรไม่ว่า แต่หอมแก้มเพชรไม่อยากให้ทำแล้ว" คุณแม่เลี้ยงเดี่ยวพยักหน้าเข้าใจ เพชรอายุยี่สิบเอ็ดปีแล้ว สูงกว่าเธอตั้งยี่สิบเซน เจ้าตัวคงอายที่ถูกแม่หอมแก้มเป็นเด็ก ๆ "เพชรกลัวว่าคนจะเข้าใจผิดว่าแม่เป็นแฟนเพชร" "ใครคิดแบบนั้น" "เยอะแยะ เวลาไปไหนมาไหนไม่มีใครคิดว่าเราเป็นแม่ลูกหรอก ก็แม่เพชรหน้าเด็กขนาดนี้ ลำพังตัวเพชรไม่เท่าไหร่ แต่เพชรกลัวคนเอาแม่ไปนินทา" พลอยไพลินลูบหัวทุย พอได้ฟังเหตุผลของลูกก็พอจะเข้าใจได้ว่าทำไมลูกชายถึงไม่ยอมให้หอมเหมือนเมื่อก่อน "ลูกแม่โตเป็นหนุ่มแล้วสินะ" . . พลอยไพลินปีนี้มีอายุสามสิบห้าปีเต็ม
"ขอโทษด้วยนะคะที่เมื่อตอนกลางวันปล่อยให้คุณรอเก้อ" ทอปัดหน้าเสีย ยิ่งเห็นว่าแพททริคส่งยิ้มไม่ถือสามาให้เธอยิ่งรู้สึกผิด เมื่อกลางวันเธอกลับมาไม่ทัน เหตุผลก็ไม่ใช่เพราะใครเลย "ไม่เป็นไรครับ คุณขอโทษผมหลายครั้งแล้วนะ แถมยังชดเชยด้วยดินเนอร์บรรยากาศดี ๆ แบบนี้อีก" "แต่ฉันก็ยังรู้สึกผิดอยู่ดี" "เขาบอกว่าไม่เป็นไรก็ไม่เป็นไรสิ" เสียงของบุคคลที่สามเอ่ยขัดขึ้นโดยไม่สนมารยาท "มิสเตอร์แพททริค แม่ครัวของเราฝีมือดีมาก ผมอยากให้คุณลองทานปลาเนื้ออ่อนผัดฉ่าดู ไม่เผ็ด คุณทานได้" ราเมศพูดเองเออเองพลางตักเนื้อปลาขาว ๆ ราดด้วยน้ำสีส้มสดใสไปใส่ในจานของว่าที่คู่ค้า ฉีกยิ้มให้แล้วพยักเพยิดให้แพททริคกินมันเข้าไป ทอปัดมองทั้งสองคนด้วยท่าทางหนักใจ ตัวแพททริคไม่เท่าไหร่ แต่ราเมศนี่สิ ไม่รู้วันนี้ผีอะไรเข้าสิงถึงได้ทำตัวแปลก ๆ ตั้งแต่ตั้งใจมีอะไรกับเธอจนเลยเวลาอาหารเที่ยง ไม่ว่าทอปัดจะร้อง(คราง)ห้ามเท่าไหร่ก็ไม่ฟัง จับเธอเปลี่ยนท่าไปหลายท่าจนน้ำตกที่เคยใสขุ่นมัวถึงยอมพาเธอกลับบ้าน แต่นั่นก็เลยเวลาอาหารเที่ยงมาชั่วโมงกว่าแล้ว ทอปัดรีบติดต่อหาแพททริค นักธุรกิจตาน้ำข้าวไม่ได้ต่อว่าอะไร เขาบอกว่าเข้าใจและ
ไร่ราเมศเข้าสู่ฤดูเก็บเกี่ยวผลผลิต ช่วงนี้เจ้าของไร่จึงยุ่งเป็นพิเศษ เขาต้องตื่นไปไร่แต่เช้ามืด และกลับบ้านหลังจากตะวันตกดินไปแล้ว ส่วนทอปัดเองก็งานหนัก หลังจากผ่านฝึกงานมาได้เธอก็ได้ทำงานในส่วนของการส่งออกสินค้า หลายครั้งเธอต้องเข้าเมืองไปติดต่องาน หรือไม่ก็ต้องต้อนรับลูกค้าที่เข้ามาชมไร่ก่อนตัดสินใจลงทุน ทอปัดนั้นจบภาษามา เธอพูดได้ทั้งอังกฤษและจีน ลูกค้าส่วนใหญ่ที่เจอก็เป็นชาวต่างชาติ พวกเขาค่อนข้างเฟรนลี่ไม่ถือตัว พูดคุยหยอกล้อกับทอปัดเป็นประจำ "วันนี้คุณสวย" แพททริค หนุ่มตาน้ำข้าวชาวอังกฤษวัยสามสิบกลาง ๆ คือลูกค้าที่ทอปัดต้องดูแลตลอดทั้งอาทิตย์นี้ เขามาพักที่ไร่ในบ้านสำหรับแขก ชมไร่ ขี่ม้า และทำกิจกรรมทุกอย่างในไร่อย่างสนุกสนาน ผ่านมาสามวันเขาเริ่มสนิทกับทอปัด พูดคุยหยอกล้อตามนิสัยหนุ่มเจ้าชู้ ทอปัดไม่ถือสาเพราะผลเรื่องการลงทุนกำลังไปในทางที่ดี ถ้ามีแพททริคมาช่วยลงทุนไร่ราเมศคงขยายไปได้ไกลกว่านี้ รวมถึงจะได้กลุ่มลูกค้าจากอังกฤษด้วย "ขอบคุณค่ะ คุณเองก็หล่อนะคะ" ทอปัดยกนิ้วโป้งให้ แพททริคหัวเราะจนตาปิด รู้สึกรักประเทศไทยมากกว่าเดิม ประเทศไทยมีทั้งที่เที่ยวสวย อาหารอร่อย และคน