พรึบ“อืม….”ผมตอบเธอเบาๆพร้อมกับยกมือทั้งสองข้างขึ้นไปสวมกอดเธอแผ่นหลังเล็กของเธอกลับพร้อมกับก้มใบหน้าลงไปสูดดมกลุ่มผมเรือนผมสีน้ำตาลอ่อนของเธอ เธอใช้น้ำยาสระผมยี่ห้อไหนกันนะ ถึงได้หอมละมุนขนาดนี้พรึบ“งั้น…นายหิวหรือยัง?”เธอผละร่างเล็กของเธอออกไปจากผมและเอ่ยถามผม ผมก็มองหน้าเธอนิ่งที่ผมกำลังสูดดมกลิ่นผมของเธออย่างเคลิบเคลิ้มอยู่เลยแต่นั่นสิ…ผมรู้สึกหิวไหมนะ…“ป่ะ…”เธอเอ่ยขึ้นพร้อมกับจับมือผมไปกุมไว้“ไปไหน?”ผมถามเธอพร้อมกับขมวดคิ้วมองหน้าเธออย่างงุนงง“ไปกินข้าวไง^\^”เธอตอบผมกลับมาพร้อมกับฉีกยิ้มกว้างให้ผม จนหัวใจของผมเต้นโครมครามขึ้นมาซะอย่างงั้น นี้อาจจะไม่ใช่ครั้งแรกที่ผมได้อยู่ใกล้ชิดกับผู้หญิงคนอื่นนอกจากแม่ของผม ตั้งแต่เด็กจนโตผมอยู่โรงเรียนประจำชายล้วนก็จริงแต่ก็ไม่ค่อยได้เจอเพื่อนผู้หญิง มาเจอก็มหาลัยแล้ว ผมก็ค่อนข้างเป็นคนเงียบๆไม่ค่อยมีเพื่อนผู้หญิงส่วนมากจะขุกตัวอยู่แต่ชมรมและบ้านของผมเพื่อทุ่มเทเวลาให้กับเพลงและการแต่งเพลงรวมไปถึงการเล่นดนตรีและคิดค้นท่าเต้นเบรกแดนซ์และฮิปฮอป ในหัวผมตอนนั้น มีเพียงเรื่องพวกนี้จริงๆถึงจะมีผู้หญิงมากมายเข้ามาขายขนมจีบในชีวิตของผมอยู่บ่อ
ห้างสรรพสินค้าQชั้นดี12:30น.ไอริส อันฤดี…. พรึบ“อิ่มหรือยัง?”เสียงเข้มตึงของผู้ชายร่างสูงโปร่งน่าจะสูงประมาณสัก185เซนติเมตรขึ้นไปน่าจะได้นะ กำลังมองฉันด้วยสายตาเบื่อหน่ายฉันเต็มทนอยู่ ฉันก็ยิ้มแห้งๆให้ไดร์ฟพลางใช้ปลายลิ้นเลียไอศกรีมรสสตรอว์เบอร์รีของฉันไปด้วยอย่างเอร็ดอร่อยพร้อมทำหน้าฟินที่สุดตึกๆๆๆๆๆ“พี่โรมมา!”“กรี๊ดดดดดดดดดด”“เขามาโปรโมตละคร^_^”ฉันนี่แทบจะสำลักไอศกรีมที่กินไปทันทีที่ได้ยินเสียงของเหล่าผู้หญิงพวกนั้นวิ่งถือป้ายไฟไปยังโซนด้านหน้าของชั้นนี้“พี่โรม?”ฉันพึมพำขึ้นอย่างดีใจ ฉันกำลังจะเปลี่ยนจุดหมายปลายทางให้เดิมตามเด็กนักศึกษามหาลัยไปแต่แล้วฉันก็ต้องหยุดความคิดลงเมื่อโดนฝ่ามือของไดร์ฟจับปลายเสื้อยืดของฉันไว้ซะก่อนพรึบ“จะไปไหน?”ไดร์ฟเอ่ยถามฉันเสียงเรียบนิ่งแววตาสงสัย ฉันก็ยิ้มแหยๆให้เขา“เดี๋ยวมาแปปหนึ่ง”“จะไปไหนล่ะ?”“ฉันจะไปขอลายเซ็นพี่โรม”ฉันหันไปบอกไดร์ฟพลางมองต่ำไปที่มือสีขาวเนียนจนมองเห็นเส้นเลือดได้อย่างชัดเจนเป็นเชิงบอกให้เขาปล่อยเสื้อฉัน“ใคร…คือโรม?”ไดร์ฟเอ่ยถามฉันเสียงเข้มและทำหน้างุนงง อะไรกัน ยังมีคนที่ไม่รู้จักพี่โรมของฉันด้วยเหรอเนี่ย“นายไปอยู่
“ค่ะ^_^”ฉันก็ยิ้มรับคำเขาและยื่นมือที่สั่นเทาของตัวเองไปรับหนังสือนิยายของฉันคืนมาจากมือเขา และรีบเดินถอยห่างออกมาจากที่ตรงนั้นทันทีเพื่อให้แฟนคลับคนอื่นๆได้เข้ามาขอลายเซ็นพี่โรมต่อไปพรึบ“มองดูปลื้มเนอะ”เสียงเย้ยหยันของผู้ชายที่คุ้นหูของฉันดังขึ้นทางด้านหลังของฉันที่แอบยืนมองโครงหน้าหล่อเรียวของพี่โรมอยู่ด้วยความหลงใหล“ใช่….ฉันปลื้มเขามาก^_^”“มันหล่อ?”“อื้อ…”ฉันตอบเขาไปแต่ยังไม่ได้หันไปมองหน้าไดร์ฟหรอกนะ“เท่ม่ะ?”“ก็เท่นะ…นายดูแฟนคลับของพี่โรมสิ…เยอะมาก^_^”ฉันพูดพร้อมกับยิ้มอย่างตื้นตันใจแทนพี่โรมจริงๆ“เหอะ…นี่น่ะเหรอเยอะ?”เสียงแค่นหัวเราะดังออกมาจากทางด้านหลังฉันจากคนคนเดิม จึงทำให้ฉันต้องหันไปมองเขาอย่างเอาเรื่องทันที ที่เขากล้ามาดูถูกพี่โรมของฉันได้ขนาดนี้ แต่พอฉันหันไปเขาก็ได้หายตัวไปแล้ว พรึบ พรึบ“ไปไหนของเขานะ…?”ฉันพึมพำขึ้นที่ไดร์ฟได้หายไปจากตรงนี้อย่างรวดเร็ว เมื่อกี้เขายังพูดกระซิบข้างหูฉันอยู่เลยไม่ใช่เหรอไง แล้วทำไมหายไปอย่างไร้ร่องรอยได้เร็วขนาดนี้ ยังกับหายตัวได้อย่างงั้นแหละ“ไดร์ฟ!”ฉันร้องเรียกหาไดร์ฟแต่เป็นเสียงกระซิบนะเพราะกลัวคนอื่นจะรู้ ว่าท่านไดร์ฟแห่งเดอะ
“สวัสดีครับ….” “ผมไดร์ฟ….จะมาร้องเพลงเพลงหนึ่ง…..”“ผมเป็นคนหนึ่ง….ที่ไม่เคยเชื่อเรื่องพรมลิขิตเลยสักนิด…”“แต่วันนี้….พวกคุณทำให้ผมเชื่ออย่างหมดใจแล้วครับ…ว่าพรมลิขิตมีอยู่จริง^_^”ไดร์ฟว่าเสียงหวานอย่่างเอาใจแฟนคลับพร้อมกับกระพริบตาข้างหนึ่งอย่างหว่านเสน่ห์“กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด!!!”ทันทีที่ไดร์ฟเอ่ยจบเสียงของบรรดาเหล่าแฟนคลับก็ต่างพากันร้องกรี๊ดกันอย่างดังสนั่นลั่นห้าง ฉันนี่แทบจะแก้วหูแตกจนต้องยกมือขึ้นมาปิดหูทั้งสองข้างแทบจะทันที ฉันมองไปบนเวทีที่ตอนนี้เห็นไดร์ฟนั่งอยู่บนเก้าอี้ตรงกลางเวทีในมือถือกีต้าร์ไฟฟ้าเตรียมพร้อมลีดจังหวะดนตรีอยู่~ คนตั้งมากมายเป็นหมื่นล้านคน~~แต่เพราะอะไรที่เราสองคน~~ถึงได้มาพบกัน ถึงได้มารักกัน~เสียงของไดร์ฟเอ่ยร้องเพลงออกมาด้วยเสียงนุ่มทุ้มละมุนทำให้คนทั้งหน้าเวทีต่างพากันหยุดส่งเสียงร้องกรี๊ดและตกตะลึงอึ้งกับเสียงที่หวานอย่างมีเสน่ห์ของไดร์ฟหัวหน้าวงเดอะปรินซ์ เสียงของเขาทำให้ฉันตกอยู่ในอาการภวังค์~ในทุกวันมี 24 ชั่วโมง~~แสนล้านนาทีที่มันเลยหมุนไป~~แค่วินาทีเดียว แค่เพียงฉันได้พบเธอ~~เธออยู่ไกลที่ปลายขอบฟ้า~~แต่วันเวลานำพาจนเราได้พบกัน~~ฉ
ตึกๆๆๆๆๆๆๆ(เสียงรองเท้ากระทบพื้นกระเบื้อง)“กรี๊ดดดดดดดดดดด!!!!”เสียงกรี๊ดดังตามหลังพร้อมกับร่างของผู้คนมากมายที่แออัดกันอยู่ด้านหน้าต่างพากันวิ่งตามร่างของไดร์ฟไปเป็นขบวนที่เขาเดินออกไปจากเวทีแห่งนี้ โดยที่ตอนนี้ด้านหน้าเวทีไร้ผู้คนจะเหลือก็เพียงแค่ฉันคนเดียวที่ยังคงยืนทำหน้าเหวออยู่ พี่โรมเองก็ยืนทำหน้าอึ้งตกใจอยู่บนเวทีโดยที่ข้างๆเขามีพิธีกรยืนทำหน้าเหวออยู่เช่นกัน“อะไรกันวะเนี่ย!!”เสียงหงุดหงิดของพี่โรมเอ่ยออกมาอย่างไม่พอใจที่เหล่าบรรดาแฟนคลับของเขาพากันวิ่งตามร่างของไดร์ฟไปจนไม่หลงเหลือเลยสักคนเดียว“ไดร์ฟน่ะไดร์ฟ!”ฉันโวยขึ้นอีกคนที่ไดร์ฟหาเรื่องให้ตัวเองและฉันอีกแล้ว ถ้าเรื่องนี้รู้ถึงหูของผู้จัดการล่ะก็มีหวัง ฉันตายแน่!!“ไอไปก่อนนะคะ…พี่โรม”ฉันหันมาเอ่ยลาพี่โรมที่เขากำลังหัวเสียกับการกระทำของไดร์ฟเป็นอย่างมากที่ไดร์ฟมาแย่งแฟนคลับของเขาไปซะหมดเลย“ครับ….”“ไว้เจอกันค่ะ…”ฉันยิ้มกว้างให้พี่โรมและยกมือโบกลาเขา“น้องไอก็จะไปตามไอ้ไดร์ฟนั้นด้ายเหมือนกันเหรอครับ?”“เปล่าหรอกค่ะ…ไอจะไปซื้อโทรศัพท์นะคะ…พอดีโทรศัพท์ของไอพัง^_^”ฉันเอ่ยบอกพี่โรมไป เขาที่ตอนแรกทำหน้าไม่พอใจนึกว่าฉันจะตาม
“ฉันขอโทษนะ….”ฉันเอื้อมมือไปจับมือไดร์ฟมากุมไว้และเอ่ยบอกเขาไป ฉันไม่อยากให้เรื่องนี้มาทำร้ายจิตใจของเขา ยิ่งหัวใจของเขาในตอนนี้มันก็อ่อนแอ่และอ่อนล้ามากพออยู่แล้ว…. พรึบ “อะไรอ่ะ?”ฉันเอ่ยถามไดร์ฟไปอย่างสงสัยที่เขายัดซองเอกสารสีน้ำตาลใส่มือฉัน “เงิน…ค่าที่ฉันทำโทรศัพท์ของเธอแตก…”ไดร์ฟเอ่ยเสียงเรียบบอกฉัน พร้อมกับเขาปล่อยมือจากฉัน พรึบ “จะไปไหน?”ฉันถามเขาไปอย่างตกใจที่ไดร์ฟกำลังจะเดินออกไปจากฉัน ฉันรีบคว้าข้อมือของเขามากุมไว้อย่างไว “ฉันจะกลับบ้าน…เธอไปซื้อโทรศัพท์เถอะ…”ไดร์ฟตอบเสียงเรียบและนิ่งเฉย เขาไม่ได้หันมามองหน้าฉัน ฉันก็ทำได้เพียงแค่เม้มริมฝีปากแน่น เพราะฉันไม่อยากให้ความหวังกับไดร์ฟเรื่องของเราที่มันไม่มีทางเป็นไปได้ “งั้น…เจอกันที่บ้านนายนะ^_^”ฉันยิ้มและเอ่ยบอกไดร์ฟไป และรอจนกว่าเขาจะพยักหน้ารับคำฉัน ฉันรอเขาที่นิ่งเงียบไปสักพักและเขาก็พยักหน้าเป็นคำตอบให้ฉัน พรึบ ฉันจึงยอมปล่อยมือเขาให้เป็นอิสระ และลุกขึ้นยืนมองแผ่นหลังกว้างของไดร์ฟที่ค่อยๆเดินห่างออกไปจากฉัน อย่างช้าๆและในที่สุดเขาก็หายไป…ทำไมฉันถึงยอมปล่อยเขาไปแบบนี้ ทั้งๆที่เขาป่วยอยู่นะ ถ้าอารมณ์เขาดาวน์ขึ้นมาแล
“ทำไม!!!”“ทำไมวะ!!”“ทำไมกูต้องเกิดมา!!!!”“อ๊าาาาาาาาาาาาา!”“มีพ่อแบบนี้….!!!”“เกิดมาทำไม!!!!!!!”เสียงของไดร์ฟตะโกนเสียงดังจนฉันแอบสงสารคอเขานะ“เข้าไปจับตัวไดร์ฟสิ!”เสียงตวาดอย่างออกคำสั่งจากผู้ชายที่แต่งตัวภูมิฐานเอ่ยขึ้นบอกการ์ดชุดดำร่างใหญ่สามสี่คนที่พากันยืนตกตะลึงอยู่ให้ออกไปจับตัวไดร์ฟ การ์ดก้มหัวน้อมรับคำสั่งและวิ่งเข้าไปหมายจะจับตัวไดร์ฟ“อย่าเข้ามานะเว้ย!!”“ไม่งั้น….กูแทงจริงๆด้วย!”ไดร์ฟเอ่ยขึ้นพร้อมกับจอปลายแจกันที่แหลมคมที่เขาเขวี้ยงมันแตกชี้ไปที่ท้องของเขาทำให้การ์ดหยุดชะงักทันทีและหันไปมองยังผู้ชายที่แต่งตัวดูภูมิฐานอย่างรอคำสั่ง ชายคนนั้นทำหน้าตื่นตกใจทำอะไรไม่ถูก“ไดร์ฟ…ใจเย็นๆนะ….”ผู้จัดการของไดร์ฟเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนเพื่อเกลี้ยกล่อมไดร์ฟให้ใจเย็นลง แต่เปล่าเลย ไดร์ฟไม่ใจเย็นลงอย่างที่เขาคิด“พวกมึง…ออกไปให้หมด!!!”ไดร์ฟตวาดเสียงดังพร้อมกับแกว่งปลายแจกันแหลมไปตรงด้านหน้าของเขา เพื่อทำการสื่อว่าถ้าใครเข้ามา เขาแทงแน่“และถ้าผมตาย….คุณอย่ามางานศพผมนะ…”ไดร์ฟว่าพร้อมกับหันปลายแจกันแหลมกลับไปเข้าหาตัวเขา“เหมือนที่คุณ….ไม่ไปงานศพของแม่ผม…”แววตาทีี่ดุดันของไดร์ฟม
“ขอโทษนะ…ที่ปล่อยให้นายกลับบ้านคนเดียว….”ฉันเอ่ยออกไปด้วยความรู้สึกผิดที่ฉันไม่น่าทำแบบนั้นเลยจริงๆ ฉันไม่ควรปล่อยให้เขาอยู่คนเดียว“เจ็บไหม…?”ไดร์ฟเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนแววตาที่เขามองหน้าฉันสลับกับหางคิ้วที่แตกของฉันมันเต็มไปด้วยความอ่อนโยนและความเป็นห่วง ฉันก็คลี่ยิ้มบางๆให้ไดร์ฟและส่ายศีรษะไปมาเป็นคำตอบฉันไม่เป็นอะไร ฉันไม่เจ็บเลยเพื่อไม่ให้เขาเป็นห่วงฉันไปมากกว่านี้“แล้วนายล่ะ….นายเจ็บไหม…?”ฉันเอ่ยถามไดร์ฟกลับไปอย่างเป็นห่วงพลางยื่นมือไปจับที่ข้อมือของไดร์ฟที่มีผ้าก๊อซสีขาวพันอยู่รอบๆข้อมือของเขา ถ้าฉันเดาไม่ผิด เขาคงคิดที่จะฆ่าตัวตายอีกแล้วใช่ไหม?“ไอ….ฉันขอโทษ….”ไดร์ฟมองหน้าฉันด้วยแววตาสั่นไหวที่ฉันเอามือลูบไปที่ข้อมือของเขาและร้องไห้ออกมาอย่างหนักมากกว่าเดิมจนร่างของฉันสั่นไหวด้วยแรงสะอื้น“อย่าตายเลยนะ….อยู่กับฉัน….อยู่กับฉันเถอะนะไดร์ฟ….”ฉันเอ่ยบอกไดร์ฟไปด้วยน้ำเสียงขอร้องและโผเข้าสวมกอดเอวสอบของไดร์ฟอีกครั้งพร้อมกับเอาใบหน้าซุกไซ้อกแกร่งที่แสนจะอบอุ่นของเขา หัวใจของไดร์ฟเต้นรัวแรงขึ้นเหมือนกับหัวใจของฉันตึกตักๆๆๆ“ไปจับตัวเด็กผู้หญิงคนนี้ให้ออกไปจากบ้านของฉัน!!!”เสียงท
มีผู้คนอยู่มากมายแต่หัวใจมันกลับเหงาขึ้นทุกทีแต่เมื่อฉันได้พบกับเธอสิ่งที่เธอให้ฉันไม่รู้มันคืออะไรโลกใบใหญ่ใบเดิมกลับไม่เคยต้องเหงาใจแค่ฉันนั้นยังมีเธออยู่ตรงนี้เธอเป็นมากกว่ารักเพราะเธอนั้นคือครึ่งชีวิตฉันใช้เวลาทั้งชีวิตเพื่อตามหาและรอคอยเธอมาแสนนานและสุดท้ายก็เจอว่าเธอคือทุกอย่างที่เติมเต็มหัวใจจากนี้ทุกลมหายใจฉันคือเธอ….ไดร์ฟหันมายิ้มและมองหน้าฉันตลอดเวลาเสียงของเขาที่ขับร้องเพลงนี้ มันช่างเต็มไปด้วยความละมุนนุ่มนวลและความรักที่เขาต้องการจะสื่อความหมายและความรู้สึกที่อยู่ในหัวใจของเขาเพื่อขับร้องออกมาเป็นเนื้อเพลงจริงๆหากว่าเธอนั้นคือความรักก็เป็นรักที่ดีจนไม่มีคำบรรยายฉันโชคดีเหลือเกินที่มีเธอเดินข้างกายชีวิตนั้นได้เติมเต็มสิ่งที่ขาดหายเสียงของเพลงได้เงียบลงไปแต่ไดร์ฟกลับยิ้มให้ฉันและร้องเพลงด้วยเสียงที่ไร้ดนตรีและท่วงทำนองให้ฉันฟังแบบสดๆ“เธอเป็นมากกว่า…เพราะเธอนั้นคือครึ่งชีวิต…”“ฉันใช้เวลาทั้งชีวิตเพื่อรอ…เพื่อตามหาและรอคอยเธอมาแสนนาน”“และสุดท้ายก็เจอว่าเธอคือทุกอย่างที่เติมเต็มหัวใจ”“จากนี้ทุกลมหายใจฉันคือเธอ….”ไดร์ฟร้องจบก็ขยับใบหน้าของเขาเข้ามาหาฉันจ
“อื้อออออไดร์ฟ…”“ฉันยังไม่พร้อมนะ…”“ฉันมีประจำเดือน!!!”ฉันพูดบอกไดร์ฟไปเสียงเข้มพลางหดคออย่างรู้สึกจั๊กจี้เพื่อหนีสัมผัสที่รุกล้ำของไดร์ฟ“ฮึฮ่าๆๆๆๆๆ”เสียงหัวเราะของไดร์ฟที่มันดูอร่อยซะเหลือเกินทำให้ฉันต้องหันกลับไปมองหน้าเขาอย่างเอาเรื่อง“ขำอะไร?”ฉันกดเสียงต่ำถามไดร์ฟไป เขาก็พยายามกลั้นขำจนน้ำตาของเขาเอ่อคลอรอบตัวตาคู่สวยทั้งสองข้าง“ก็ขำเธอไง…เธอนี่ก็ช่างจินตนาการนะ…แถมยังลามกอีกตั้งหาก….”“ไดร์ฟ!”ฉันเรียกเขาเสียงเข้มหน้าตาบึ้งตึง ไดร์ฟก็ส่ายศีรษะไปมากับความคิดของฉันที่มันชวนให้ฉันจินตนาการ“นายนั้นแหละ…ลามกให้ฉันจับอะไรของนายก็ไม่รู้!!”ฉันว่าเสียงห้วนพร้อมกับทำไม่พอใจ“ลองมองดูดิ…ว่าที่ฉันให้เธอจับกับสิ่งที่เธอคิดจินตนาการไปไกลแล้วน่ะ…มันใช่อย่างเดียวกันหรือเปล่า…”ไดร์ฟเอ่ยบอกฉันเสียงขำขัน ฉันก็ย่นจมูกใส่เขาและยังไม่ยอมก้มไปมองว่าสิ่งที่ฉันกำลังจับอยู่ในตอนนี้กับสิ่งที่ฉันคิดจินตนาการมันใช่อย่างเดียวกันหรือเปล่า“มองดูสิ….”“หรือเธออยากจะเห็นไอ้สิ่งที่เธอจินตนาการจริงๆ…เธอไม่อยากรู้หรือว่าสิ่งที่เธอคิดกับสิ่งที่เป็นจริง…”“มันจะมีรูปร่างลักษณะเหมือนกันหรือเปล่า….”ไดร์ฟกระซิบเสีย
“ทีนี้…บอกได้ยังครับ…ว่าไองอนไดรฤ์ฟเรื่องอะไร?”ไดร์ฟเอ่ยขึ้นด้วยเสียงละมุน ฉันก็ย่นจมูกใส่เขา “ขี้งอน….”เขากดเสียงต่ำว่าฉัน“เรื่องของฉัน!”ฉันก็ทำหน้ามุ่ยใส่เขาและเถียงเขากลับไป“แหนะ….จะให้ฉันง้อ…ฉันง้อด้วยวิธีของฉันนะ…”ไดร์ฟว่าพลางทำแววตามีเลศนัยและยังมองต่ำลงไปที่หน้าอกของฉันอย่างสื่อให้ฉันรู้ว่าวิธีการง้อของเขาคืออะไร เห้ยไอ้หื่นเอ้ย!!!“ตกลงจะบอกได้หรือยัง…ว่าเธองอนฉันเรื่องอะไร?”ไดร์ฟเอ่ยถามฉันใหม่อีกครั้ง ฉันก็มองหน้าเขาและหรี่ตามองหน้าเขาอย่างจับผิด“นายมีอะไรจะสารภาพกับฉันไหมล่ะ?”ฉันกดเสียงต่ำเอ่ยถามไดร์ฟกลับไป เขาก็ขมวดคิ้วหนาเข้มเข้าหากันอย่างงุนงงและสงสัยกับคำพูดของฉันที่ถามเขา “สารภาพ…?”ไดร์ฟทวนคำถามของฉันใหม่ ฉันก็พยักหน้าหงึกๆเป็นคำตอบให้เขาไป“ฉันเคยบอกเธอไปแล้วหนิ…ว่าฉันชอบเธอ…”“และอยากคบกับเธอ….”“แต่เธอก็ปฏิเสธฉัน….”ไดร์ฟว่าเสียงอ่อนลงแววตาของเขาสั่นไหวอย่างเห็นได้ชัด ใช่ฉันยังไม่ได้บอกเขาว่าฉันโสดแล้วหนิ แต่ก็ไดร์ฟไม่ยอมขอฉันคบใหม่อีกครั้งหนิแล้วจะให้ฉันไปตอบตกลงเขาได้ยังไงล่ะ“ไม่ใช่เรื่องนี้….”ฉันเถียงเขากลับ เขาก็ขมวดคิ้วงงหนักเข้าไปกว่าเดิมอีก ฉันก็ทำหน้าเข้
22:40น.บ้านไอริสไอริส อันฤดี….“เฮ้อ….”ฉันทิ้งตัวลงนอนบนโซฟากลางบ้านอย่างคนหมดแรงและอิดโรยกับความเหนื่อยล้าทั้งวันของฉันในวันนี้ ยัยลูกหว้าเจ้าแม่นักช้อปช้อปจนห้างปิดไปเลยจ้า ไปตั้งแต่ห้างเปิดยันห้างปิด!สุดจริงนางคนนี้“เที่ยวจนลืมฉันไปเลยนะ…”เสียงเรียบๆของผู้ชายที่คุ้นหูของฉันเอ่ยขึ้นดังมาจากทางด้านหลังของฉันตรงบริเวณศีรษะของฉันที่เอนพิงพนักโซฟาอยู่ ฉันจึงรีบลืมตาขึ้นอย่างตกใจกับใบหน้าหล่อของไดร์ฟที่เขายืนอยู่ด้านหลังโซฟาและก้มหน้าลงมามองหน้าฉันทำให้ปลายจมูกของเราสองคนแตะกัน“โอ้ย!”ไดร์ฟร้องเสียงหลงเมื่อฉันใช้มือทั้งสองข้างผลักหน้าหล่อๆของเขาให้ถอยห่างออกไปจากฉันพร้อมกับยันตัวลุกพรวดพราดขึ้นมาอย่างรวดเร็ว“นาย…เข้าบ้านฉันมาได้ยังไง?”ฉันถามไดร์ฟไปอย่างสงสัย ฉันว่าฉันล็อคบ้านแล้วนะ แต่ทำไมไดร์ฟเข้ามาในบ้านของฉันได้ล่ะ “ฉันมานั่งรอเธอตั้งแต่ฟ้ายังไม่มืด…”“จนตอนนี้…จะห้าทุ่มแล้ว…”ไดร์ฟว่าเสียงอ่อนพลางทำสีหน้างอแงใส่ฉัน“แล้วไง…ไม่ได้ใช้ให้รอ…”ฉันพูดเสียงห้วนอย่างคนที่ไม่ค่อยพอใจเขาสักเท่าไหร่ ที่เขาโกหกฉันว่าเขาไม่เคยจูบกับผู้หญิงคนอื่นนอกจากฉัน!!!“แหนะ….ทำไมหน้างอจัง….”“ฉันอุตส่า
ห้างสรรพสินค้าQ15:30น.ไอริส อันฤดี…..“เฮ้อ….”ฉันผ่อนลมหายใจออกมาอย่างเหนื่อยล้าและปวดเมื่อยท่อนขาของฉันทั้งสองข้างไปหมดที่เดินตามยัยลูกหว้าเข้าร้านนู้นทีร้านนี้ที จนสองมือของฉันเต็มไปด้วยถุงเสื้อผ้าของเธอหมดแล้วจ้าพรึบ“ยัยไอ!!!”เสียงเรียกชื่อฉันอย่างดังกังวานมาจากยัยลูกหว้าที่ฉันเลิกเดินตามเธอและเปลี่ยนมานั่งพักตรงกลางของห้างชั้นล่างเเทนด้วยท่าทางเหนื่อยล้าเต็มทน“ฉันไม่ไหวแล้ว…ยัยลูกหว้า…”ฉันตอบเสียงอ่อนไป ลูกหว้าก็ทำหน้าเบ้ก่อนจะเดินกระทืบเท้ามาหาฉันอย่างเอาเรื่อง“เธอเล่นเดินตั้งสามชั่วโมงเต็มแบบนี้….”ฉันบ่นอุบพลางทำหน้าออดอ้อนยัยลูกหว้าไป เธอก็ผ่อนลมหายใจใส่ฉันก่อนจะเดินมาทิ้งตัวกระแทกนั่งลงข้างตัวฉัน“ก็มันเพลิน…”เธอว่าเสียงอ้อมแอ้มตอบฉันกลับมา“นี่ดีนะ…ที่วันนี้ไม่มีของSaleน่ะ….ไม่งั้นฉันจะต้องเหนื่อยกว่านี้แน่ๆ…”ฉันบอกยัยลูกหว้าไปพลางนึกถึงตอนช่วงที่เสื้อผ้าแบรนด์เนมลดกระหน่ำซัมเมอร์เซลล์ที่ยัยลูกหว้าลากฉันมาด้วยเพื่อให้ฉันมาช่วยเธอยื้อแย่งน่ะฉันเกือบจะโดนเหยียบตายต้องคลานเข่าออกมาจากโซนที่เขาจัดลดราคาแหนะ เพราะฉันไม่ใช่เจ้าแม่สายนักช้อปอย่างยัยลูกหว้าหนิ เลยไม่ค่อยอินกับ
“ไม่ให้มีก็ไม่ให้มีจ้ะ…จะตะโกนทำไมเนี่ย…”ฉันว่าเสียงอ่อยพลางยื่นมือไปลูบต้นแขนของลูกหว้าให้เธอใจเย็นๆลง “เธอรู้ป่ะ…ว่าทางค่ายของไดร์ฟเคยจับให้ไดร์ฟจิ้นกับศิลปินเดี่ยวหญิงในค่าย…”“จะรู้ได้ไง…ฉันเพิ่งจะรู้จักไดร์ฟได้ไม่ถึงสองเดือนเองนะ…”ฉันว่าเสียงอ่อนพลางหลบสายตาดุดันของลูกหว้าอย่างส่อพิรุธสุดๆ“หึ…งั้นฉันจะเล่าให้เธอฟัง…”ลูกหว้าว่าพลางแสยะยิ้มชั่วร้ายอย่างนางร้ายในละครหลังข่าวก่อนจะกรีดตามองหน้าฉันทำให้ฉันรู้สึกแอบเสียวสันหลังวาบขึ้นมา“ศิลปินหญิงคนนั้นชื่อเทียนไข…”“เธอเป็นศิลปินน้องใหม่ของค่ายTE…”“พอเข้ามาปุบ…ทางค่ายก็จัดให้ถ่ายทำMVเพลงให้ของเดอะปรินซ์เลยเพื่อให้เธอเป็นที่รู้จักน่ะ…ซึ่งในMVเพลงนั้นไดร์ฟของฉันโชคร้ายจับฉลากได้เป็นพระเอกMV”“จับฉลากเป็นพระเอกMV?”ฉันทวนคำพูดของลูกหว้าใหม่เพื่อความแน่ใจว่าฉันไม่ได้ฟังผิดแน่ๆใช่ไหม ทำไมต้องจับฉลากด้วยล่ะ“ใช่…จับฉลากเพราะไดร์ฟของฉันไม่ชอบเล่นฉากเลิฟซีนค่ะ…”ลูกหว้าว่าเสียงเข้มแววตาเป็นประกายพร้อมรอยยิ้มที่บ่งบอกได้ว่าเธอกำลังปลื้มปริ่มกับไดร์ฟมาก แต่จะบอกอะไรให้รู้นะ ว่าไอ้คนที่เธอบอกว่าเขาไม่ชอบเล่นฉากเลิฟซีนเนี่ย จูบเก่งและหื่นสุดๆจ้
“ใช่^_^”ลูกหว้ายืดอกและทำหน้าเชิดอย่างคนที่มั่นอกมั่นใจ ฉันก็ยิ้มแหยๆให้เธอไป เพราะฉันจะเอาเรื่องนี้ไปบอกไดร์ฟข่าวของเขาจะได้ไม่หลุดอีกหึๆๆ^_^“เธออยากรู้เรื่องของไดร์ฟไม่ใช่เหรอไง?”“ใช่…”“ตั้งแต่เขาเข้ามาประกวดเลยไหมล่ะ?”“ได้…^_^”ฉันพยักหน้าอย่างตื่นเต้น เพราะฉันเองก็พอจะรู้เรื่องของไดร์ฟมาพอคร่าวๆบ้างแล้วแต่ฉันอยากรู้ให้ลึกกว่านี้น่ะ “งั้นเริ่มเลย…”ลูกหว้าว่าพร้อมกับยิ้มกว้างให้ฉันแววตาของเธอเป็นประกาย เธอคงจะชอบไดร์ฟมากจริงๆและถ้าเธอรู้ว่าฉันเองก็ชอบไดร์ฟมาก เธอจะโกรธฉันไหมนะ?“นี่….สมาชิกของวงเดอะปรินซ์…”ลูกหว้าว่าพร้อมใช้มือกางแผ่นรูปขนาดใหญ่ที่ใหญ่พอๆกับที่นอนหกฟุตของเธอลงตรงหน้าฉัน“นี่…ไดร์ฟ…ไดร์ฟเป็นหัวหน้าของวงหรือลีดเดอร์ของวงนั่นเอง….”“ไดร์ฟมีความสามารถครบถ้วนตามที่ท่านประธานค่ายต้องการ….และก็บราๆๆๆ”ลูกหว้าก็เล่าเรื่องราวของไดร์ฟให้ฉันฟังทุกอย่างเท่าที่เธอและแฟนคลับคนอื่นๆรู้ แต่ที่เธอไม่รู้คือ คือเรื่องที่ไดร์ฟป่วยเป็นซึมเศร้า และถ้าจะถามหาสาเหตุจากลูกหว้า เธอก็คงไม่รู้อยู่ดี บางทีฉันควรจะเลิกสงสัยได้แล้ว ว่าอะไรคือสาเหตุที่ทำให้ไดร์ฟป่วยเป็นซึมเศร้าเพราะตอนนี้เขาก็
สองวันต่อมา… 07:00น.คาเฟ่Aบ้านของลูกหว้า ห้องนอนลูกหว้า…“ลูกหว้า….”“อื้ออออ!”เสียงอื้ออึงในลำคอที่แสดงถึงความไม่พอใจจากคนใต้ผ้าห่มที่โดนฉันปลุกเธอแต่เช้าแบบนี้ดังออกมาพรึบ“ตื่นได้แล้วลูกหว้า!”ฉันเรียกลูกหว้าพร้อมกับยื่นมือไปดึงผ้าห่มออกมาจากเรือนร่างของยัยลูกหว้าที่นอนตื่นสายกินบ้านกินเมืองแบบนี้“โอ้ย…นี้มันวันหยุดฉัน!!”ลูกหว้าโวยเสียงดังอย่างไม่สบอารมณ์ เพราะอาทิตย์หนึ่งเธอมีวันหยุดเพียงแค่วันเดียวยังไงล่ะ“ยัยไอ!!”ลูกหว้าพูดออกมาอย่างหงุดหงิดก่อนจะลุกขึ้นนั่งพรวดมองหน้าฉันอย่างไม่พอใจที่ฉันปลุกเธอและสร้างความรำคาญให้เธอเป็นอย่างมาก เพราะนี่มันวันหยุดของเธอแท้ๆ แต่ฉันอยากรู้เรื่องของไดร์ฟมากและคนคนเดียวที่จะบอกฉันทุกเรื่องเกี่ยวกับไดร์ฟได้นั่นก็คือยัยลูกหว้าเพื่อนสุดเลิฟของฉันคนนี้ยังไงล่ะ^_^“ลูกหว้าจ๋าาาาาาา”“ลูกหว้าจ๊ะ^_^”ฉันทำตาปิ๊งๆและเรียกลูกหว้าเสียงออดอ้อนออเซาะจนยัยลูกหว้าเบะปากและกลอกตามองบนอย่างคนที่หมั่นไส้ฉันมากๆ“มีอะไรยะ!”“มาหาฉันแต่เช้า?”ลูกหว้าว่าพลางเอามือของเธอไปสางผมที่ยุ่งเหยิงของเธอให้เป็นทรง ฉันก็อมยิ้มและมองหน้าเธออย่างมีเลศนัย“ฉันอยากรู้เรื่องของได
เร็วเท่าความคิดฉันผลักหน้าอกไดร์ฟอย่างไวและเเรงด้วยจนทำให้ร่างของไดร์ฟเกือบหงายหลังน่ะ ดีนะที่เขาตั้งตัวทันน่ะ ไม่งั้นไดร์ฟได้เลือดแน่วันนี้พรึบ“ทะลึ่ง!”ฉันว่าเสียงเข้มหน้าตาบึ้งตึง ไดร์ฟที่กำลังยันตัวขึ้นมาก็ทำสายตากรุ้มกริ่มให้ฉัน“เธอเอง..ก็ทะลึ่งเหมือนกันแหละ^_^”“กินไปเลยไดร์ฟ!!”ฉันเสียงดังกลบเกลื่อนเพราะความเขินอายที่ฉันทำเรื่องหน้าอายที่สุดไป ฉันเลิกสนใจไดร์ฟและหันมาก้มหน้าก้มตากินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปในชามของฉันโดยไม่สนใจไดร์ฟที่เขากินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปอย่างเรียบร้อยมาก มากซะจนผู้หญิงอย่างฉันดูกินมูมมามไปเลยอ่ะ20นาทีต่อมา….“ไอริส….”ไดร์ฟเอ่ยเรียกฉันเสียงแผ่วเบา“หืม?”ฉันที่เอาชามไปเก็บแล้วก็กลับมานั่งลงข้างๆไดร์ฟที่นั่งอยู่บนโซฟาตัวเดิมก็เอ่ยขานรับเขาไปพลางมองหน้าเขาด้วยความสงสัย“เธอ….”“อะไร?”“ขอไลน์หน่อยดิ^//^”“ขอไปทำไม?”ฉันมองหน้าไดร์ฟที่ยิ้มร่าด้วยความสงสัย “เผื่อเอาไว้โทรหาเธอ..เวลาที่คิดถึงไง…”“เพราะอีกหลายวันแหนะ…กว่าฉันจะมาหาเธอได้อีก…”ไดร์ฟว่าเสียงแผ่วเบาพร้อมกับทำหน้าเศร้าสลดลง ฉันก็พยักหน้าเข้าใจ“ฉันต้องเข้าห้องอัดเสียงน่ะ…จะปล่อยเพลงใหม่”“อืม…”“ไม่ถามในฐ