“ป๊ะป๋าล่ะครับ!”วันนี้ฉันมีเรียนครึ่งวันเลยฝากให้คุณเขาช่วยดูลูกให้ แต่พอมาถึงบ้านกลับเห็นแค่ลูกนั่งอยู่ในคอกกั้นอยู่คนเดียวแล้วพ่อของลูกฉันหายไปไหน“แมม แมม”พอเห็นแม่เท่านั้นแหละรีบคลานมาหาเลยอยู่บ้านคนเดียวคงจะเหงาพี่ชายก็ไปโรงเรียนกว่าจะกลับคงตอนเย็น“คิดถึงแม่เหรอ?”“มาให้ฟัดแก้มให้หายคิดถึงหน่อยครับ!!”ฉันเปิดประตูก้าวขาเดินเข้าไปในคอกกั้น อุ้มเด็กน้อยตัวกลม ๆ ขึ้นมาฟัดให้หายคิดถึง!“เอิ๊ก!!! อ๊าก แฮ่ แฮ่”ฉันฟัดพุ่งน้อย ๆ อย่างมันเขี้ยว ตัวเล็กก็หัวเราะเสียงดังชอบใจใหญ่“ว่าแต่ป๊ะป๋าน้องพอร์ชไปไหนครับ!”ฉันนั่งลงมองไปรอบ ๆ แต่ก็ไม่มีวี่แววของคุณเขาเลยหายไปไหนนะ“หิวเหรอครับ?”ฉันก้มลงจุ๊บปากเล็กสีชมพู ที่ดูดปากตัวเองเสียงดังจ๊วบจ๊าบ มือเล็กจับที่หน้าอกดวงตากลมโตจ้องมองหน้าอกอย่างออดอ้อน“ป๊ะป๋าไม่อยู่แบบนี้เข้าทางละสิ”คุณเขาดุเรื่องนี้ฉันสักพักใหญ่แล้ว เรื่องที่ฉันชอบเอาลูกกินนมจากเต้า ก็ลูกไม่ยอมดูดขวดนิ ใครจะใจร้ายได้ลงคอที่เขาดุฉันเข้าใจเพราะฉันต้องไปเรียนกว่าจะออกจากบ้านได้แต่ละวันลูกร้องไห้งอแง มันก็ต้องเหนื่อยคุณเขาที่ต้องเป็นคนดูแลเอาใจให้ลูกหยุดร้อง แต่ช่วงนี้ฉันไม่ค
รู้สึกตัวตื่นขึ้นมาอีกทีก็เห็นคุณเขากำลังเล่นกับลูกอยู่“ไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าป๋าพาไปรับลูกแล้วไปทานข้าวบ้านไอ้กันต์กัน”จริงด้วยวันนี้เรามีนัดทานข้าวกับบ้านโน้นไม่ได้เจอญี่ปุ่นเด็กดื้อของเบบี๋หลายวันแล้วคิดถึงอยู่เหมือนกัน“ค่ะ!”ฉันเดินเข้าไปกอดคุณเขาจากด้านหลัง ส่วนลูกชายตัวอ้วน ๆ ดิ้นถีบขาใหญ่อยากลงเล่นแต่พ่อจับกอดไม่ยอมให้ลง เลยร้องลั่นห้องเถียงเก่งเป็นที่ 1“น้องพอร์ช มาแล้ว!!”ทันทีที่เห็นฉันอุ้มน้องเดินเข้าไปรับในโรงเรียน พี่ชายผู้แสนดีอย่างน้องพาร์ทก็วิ่งหน้าตาตื่นมาหาแม่กับน้อง“เอิ๊ก!! อ้อแอ้! เอิ๊ก! อ๊ากก” คนน้องก็น้อยหน้าที่ไหนเห็นพี่ชายดิ้นใหญ่จะไปหาพี่ให้ได้“มาพี่อุ้ม”หึ...เห็นแล้วอดที่จะขำไม่ได้พี่ชายอายุ 6 ขวบแต่ตัวเล็กกระจิ๋วเดียวอุ้มน้องวัย 9 เดือน 10 เดือนที่ดูโตกว่าตัวเอง อย่าเรียกอุ้มเลยแบบนี้หอบชัด ๆ สองแขนเล็กกอดรัดได้แค่พุงน้อย ๆ“วันนี้สนุกไหมครับ!” เป็นเสียงคุณเขาที่เดินยิ้มมาแต่ไกล“สนุกครับ!” ปากตอบพ่อแม่สายตาและมือยังเล่นหยอกล้อกับน้อง“วันนี้ใครจะไปหาน้องญี่ปุ่นนะ!” เมื่อลูกไม่สนใจก็มีคนพยายามจะเรียกร้องความสนใจเสียอย่างนั้น“ผมครับ!!”คนลูกพอได้ยินแ
หลายวันผ่านไป“พี่พิมพ์หนูฝากลูกสัก 2 ชั่วโมงนะคะ ไว้จะรีบมารับ”“โอเคแค่นี้เองมาเฟียจะได้มีเพื่อน”พี่พิมพ์รับน้องพอร์ชจากฉัน ดีที่น้องไม่เคยงอแงไม่ว่าใครจะอุ้มก็ไม่เคยร้องฉันเลิกเรียนมายังไม่ทันจะได้พูดอะไร คุณเขาก็อาบน้ำแต่งตัวบอกจะเข้าบริษัทตั้งแต่วันนั้นที่บ้านคุณกันต์คุณเขาก็ไม่เหมือนเดิม เขาก็ดีกับฉันทุกอย่างแต่มันมีบางอย่างไม่เหมือนเดิมจากที่เคยคลอเคลียกอดหอมเขาก็เอาแต่ทำงาน ถามคำตอบคำตอนแรกฉันก็นึกว่าเขาเครียด งานคงยุ่งแต่มันหลายวันแล้วเขาหลบหน้าฉันด้วยแบบนี้มันไม่ปกติเคยเล่นกับลูกก็ไม่เล่นเหมือนเดิมเห็นทีปล่อยไว้แบบนี้คงไม่ได้แล้ว ฉันไม่ชอบความเงียบแบบนี้มันอึดอัด ถ้าจะเงียบใส่แบบนี้ทะเลาะกันไปเลยยังสบายใจกว่า“เดี๋ยวแม่มารับนะครับ” ฉันหอมแก้มลูกชายก่อนจะรีบเดินไปขึ้นรถเพื่อคุยกับคุณเขาให้รู้เรื่อง แต่ก็พอจะรู้ว่าเขาเป็นอะไร คงง้อไม่ยากเท่าไรบริษัท...“วันนี้ท่านประธานอารมณ์ไม่ดีใครก็เข้าหน้าไม่ติดเลย”“ทะเลาะกับเมียเหรอ เห็นว่าอายุห่างกันเป็น 10 แบบนี้ฉันก็มีสิทธิ์สิ ฉันทั้งสาวทั้งสวยขนาดนี้มีหวัง!”“หวังกับผีอะสิ! ท่านประธานไม่ได้ง่าย ที่จะคว้าเอาใครมั่วซั่ว! อีกอย่าง
มือสากลูบไล้หน้าท้องดันบราเซียร์สีเนื้อที่ฉันใส่ไว้เหนือเนินอกจ๊วบ!!“อ๊ะ!” สองมือจิกขยุ้มดึงผมคุณเขาเพื่อระบายความเสียวซ่านเมื่อปลายลิ้นเปียก ละเลงดูดดึงยอดถันอย่างหื่นกระหายจนเกิดเสียงดังจ๊วบจ๊าบมืออีกข้างกดดันสะโพกมนโยกขึ้นลงเสียดสีกับความใหญ่โตใต้ร่มผ้ามันเสียวมวนตรงท้องน้อยรู้สึกหายใจไม่ทั่วท้อง มันร้อนวูบวาบไปทั้งตัวแผล็บ!!“อ๊ะ อ๊า ป๊ะป๋านะ...หนูเสียว ~~”ฉันครางเสียงสั่นกอดรัดจิกดึงไรผม แอ่นอกรับสัมผัสปลายอุ้งปากร้อนที่ยังคงปรนเปรอดูดดุนสองเต้าอย่างหื่นกระหาย“หนูไม่ไหวแล้ว”สองมือเลื่อนลงไปรูดซิปกางเกงเขาอย่างรีบเร่ง ก่อนจะควักเอาความแข็งแกร่งออกมา อายก็อายแต่มาถึงขนาดนี้แล้วคงหันหลังกลับไม่ทันแล้วละภาวนาขอแต่อย่าให้ใครเข้ามาตอนนี้เลย แต่ก็แปลกยิ่งตื่นเต้นมันยิ่งกระตุ้นไฟราคะในตัวให้ลุกโชน“......” แต่คนโดนง้อกลับนั่งทำหน้าไม่รู้ร้อนไม่รู้หนาว มองสำรวจเรือนร่างฉันอย่างพิจารณา สายตาหวานเยิ้มคู่นั้นมันยิ่งทำให้ฉันอยากจะกลืนกินแก่นกายลำใหญ่ที่มันชี้โด่อยู่ตรงหน้าให้หายวับไปกับตาเสียตอนนี้“เสียวไหมคะ”ฉันใช้ปลายนิ้วเขี่ยส่วนปลายที่มันมีน้ำใสลื่นไหลเยิ้มออกมาจากรูหัวตัดสีชมพ
46 ป๊ะป๋าของหนูหมับ!!“นะ...หนูพูดว่าอะไรนะ!”แต่ไม่ทันจะได้เดินออกไปไหนสองมือใหญ่ก็คว้าตัวสวมกอดจากด้านหลัง เสียงเข้มสั่นเครือกอดเอวแน่น“ปล่อยค่ะ! ไหนว่าจะทำงาน”ฉันพลิกตัวหันไปมองหน้าสบตาคนแก่ขี้งอน“...มะ...ไม่ทำแล้ว” คุณเขาดูไม่เป็นตัวเองเอาเสียเลยดูตื่นตกใจมึนงงยังไม่หาย“ป๋าไม่ได้หูฝาดไปใช่ไหม” คุณเขาสวมกอดฉันแน่น มันแน่นจนแทบหายใจไม่ออกงับ!!!“หนู! กัดป๋าทำไม!” ฉันอ้าปากงับหัวไหล่เขาอย่างแรง“ถ้าเจ็บก็แสดงว่าไม่ได้ฝันค่ะ” ฉันยกสองแขนขึ้นคล้องคอเขา และแน่นอนสองมือใหญ่กอดรัดดึงตัวฉันแนบชิดติดอกแกร่ง“หนูรักป๊ะป๋า รักมานานแล้ว ได้ยินชัดไหมคะ!”ฉันพูดและยิ้มให้พ่อของลูกที่อยู่ ๆ ก็ร้องไห้น้ำตาอาบสองแก้ม ฉันถึงกับงงเขาร้องไห้ทำไม?“ป๊ะป๋า!!” ฉันถึงกับต้องขมวดคิ้วเข้าหากันเป็นปมแล้วส่ายหัว กลั้นขำแทบไม่ไหว“ร้องไห้ทำไม!”“ไม่ร้องสิคะ หนูแค่บอกรักเอง” ฉันดึงเขาเข้ามากอดปลอบ“ก็ป๋าดีใจ หนูรู้ไหมป๋ารอฟังคำว่ารักจากหนูมานานแค่ไหน!” เขาพูดเสียงสะอื้นสองแขนกอดฉันแน่น“หยุดร้องได้แล้วค่ะเดี๋ยวคนอื่นมาเห็นเข้า มันจะไม่ดีเท่าไรนะ”“แล้วอีกอย่าง” ฉันดันตัวมองหน้าสบตาพ่อของลูกที่ยังคงสะอื้นไ
แน่นอนฉันจูบตอบสองแขนยกขึ้นคล้องคอเอียงหน้า หาองศาที่เหมาะสม มือใหญ่เลื่อนขึ้นมาจับล็อกท้ายทอยแน่นเราจูบกันอย่างดูดดื่มจนลืมไปว่าตอนนี้เราอยู่ในลิฟต์!“อุ๊ย!!!”ทันทีที่ประตูลิฟต์เปิดพนักงานที่ยืนอยู่ข้างนอกต่างตกใจที่เห็นเราสองคนจูบกันฉันพยายามดันตัวคุณเขาออกแต่ทว่าเขากลับยิ่งกดจูบหนัก ๆ อีกครั้งก่อนจะค่อย ๆ ปล่อยริมฝีปากที่บวมเป่งอย่างอ้อยอิ่ง“ป๋ารักหนูนะ”คำพูดหวานหูและสายตาหวานเยิ้มที่เขามองมาที่ฉันมันยิ่งทำให้ฉันเขินอายจนทำอะไรไม่ถูกคุณเขาไม่สนใจพนักงานที่ยืนดูหอมแก้มมือโอบไหล่เดินไปที่โรงจอดรถพอมาถึงโรงรถเขาก็จูบฉันอีกครั้งและจูบอยู่อย่างนั้นนานหลายนาทีฉันเห็นท่าไม่ค่อยดีเลยรีบผลักตัวเขาออกแล้วรีบขึ้นรถก่อนทุกอย่างมันจะเลยเถิดระหว่างที่ขับรถไปรับลูกที่โรงเรียนคุณเขาก็กุมมือเดี๋ยวจูบเดี๋ยวหอมยิ้มไม่หุบฉันก็ได้แต่นั่งยิ้มส่ายหัวอะไรจะเป็นหนักถึงขนาดนี้ก็แค่บอกรักเอง แต่จะว่าไปฉันเองก็มีความสุขไม่ต่างอะไรจากเขาที่ได้บอกความรู้สึกออกไปสำหรับฉันคุณเขาคงเป็นรักแรกและรักสุดท้ายและฉันก็อยากเป็นคนสุดท้ายของเขาเหมือนกัน“รักนะคะป๊ะป๋า!”ฉันยิ้มให้เขาและพูดในใจ เรามองหน้าสบตากันโด
ลิ้นสากเปียกลื่นลากเลียยาวตั้งแต่เนินลงไปถึงสะดือสองมือสากลูบไล้ตามเรียวขาและจับมันอ้ากว้างออก“อ๊ะ” ฉันร้องครางในลำคอเบา ๆ เมื่อปลายลิ้นร้อนแตะตรงส่วนนั้นผ่านแพนตี้ผ้าลูกไม้ตัวบางที่ฉันใส่จ๊วบ!!ด๊วบ!!เขาจูบดูดมันอย่างเอร็ดอร่อย จนมันเปียกแฉะสองมือจิกกำผ้าปูที่นอนแอ่นอกบิดตัวเมื่อถูกปลายลิ้นร้ายเขาทารุณ“ฮื่อ! ป๊ะป๋า มะ...มันเสียวนะคะ!” ฉันกลั้นใจพูดเพราะตอนนี้มันเสียวจนแทบจะพูดไม่เป็นภาษาอยู่แล้ว!พรึบ!ฟิ้ว ~~~คุณป๋าเขาไม่สนใจฟังถอดเสื้อพร้อมแพนตี้ตัวน้อยออกจากตัวขว้างทิ้งลงพื้นอย่างไม่ไยดี“อืม”แผล็บ!!แจ๊ะ! แจ๊ะ!ปลายลิ้นสากลื่นยังคงทำการทารุณกรรมน้องหนูฉันต่อ และฉันต้องดิ้นพล่านเมื่อเขาสอดดุนลิ้นร้ายผลุบเข้าออกร่องสวาท ทั้งดูดทั้งเลียทำเอาฉันแทบดิ้นตายด้วยความเสียว แต่ต้องเก็บกดเสียงห้ามตัวเองไม่ให้ส่งเสียงครางออกมากลัวลูกจะตื่น“ฮื่อ! ป๊ะป๋า นะ...หนูไม่ไหวแล้วนะ! กรี๊ดดดด” สองมือกำหมัดแน่นส่งเสียงกรีดร้องในลำคอ เมื่อปลายลิ้นร้อนไม่ปรานีร่องแคบฉันเลยเขาตวัดลิ้นละเลงติ่งเกสรสลับกับดูดแรง ๆ และสอดดันดุนลิ้นผลุบเข้าออกถี่รัว เพียงแค่ไม่กี่นาทีต่อมาร่างฉันมันสั่นกระสับกระส่ายก
“ลูกไม่ยอมดูดขวด!” คุณป๋าเขามองฉันอย่างคาดโทษและส่งลูกให้ฉัน“หนูขอโทษ!” ฉันได้แต่ทำหน้าสำนึกผิด เสื้อผ้าก็ยังไม่ได้ใส่ลูกก็จะกินนม“แอ้!!”“รู้แล้วครับไม่ต้องมาทำหน้าอ้อนเลย ก็อ้อนแบบนี้แม่ถึงใจอ่อนให้หนูกินจากเต้าจนป๊ะป๋าดุ” ฉันเอาลูกนอนลงที่ตักทันทีที่เห็นเต้าตามเคยตัวเล็กดีใจจนตัวสั่นจ๊วบ!!ด๊วบ!!“เบา...ไอ้เสือ นมแม่ช้ำหมดแล้วลูก!” คุณป๋าเขาคลานเข่าขึ้นมาบนเตียงจูบที่เท้าเล็ก“ทำอะไรไม่เอามันจั๊กจี้!” ฉันเอามือดันตัวเขาที่เอาหัวหนุนตักแล้วอ้าปากงับเต้าอีกข้าง“ทีลูกดูดไม่เห็นเป็นอะไรป๋าก็หิวเหมือนกันกินหน่อยนะ!” เขามันบ้า! ดูดดึงหน้าอกแล้วดูดแรงด้วยแรงพอจนน้ำนมมันทะลักออกมานั่นแหละ“ป๊ะป๋า! ไม่เอาพอแล้วลูกกินนมอยู่นะ!” ฉันพูดดุ ๆ“หึ...ป๋าแค่ล้อเล่นเอง”“แล้วพาร์ท ล่ะคะ” ทำไมฉันถึงรู้สึกผิดต่อลูกอยู่ตลอดนะ“มีอะไรหรือเปล่า”คุณเขานั่งช้อนด้านหลังเอาคางเกยไหล่ มือสากเอื้อมมาหยอกล้อเล่นกับตัวเล็กที่พอนมเข้าปากก็เงียบไปเลย“ป๊ะป๋า!” ฉันเอียงคอหันไปจ้องหน้าเขา“ฮือ ว่าไงครับเป็นอะไรทำไมทำหน้าเศร้า ๆ” คุณเขาจุ๊บที่ปากฉันเบา ๆ“ป๊ะป๋ารักน้องพาร์ทไหม” ฉันพูดเสียงสั่น ไม่รู้ฉันคิดอะไรทำ
“เป็นไง”“ตกลงว่าท้องไหม?”ปรเมศวร์เอ่ยน้ำเสียงตื่นเต้นเมื่อเห็นร่างบางของภรรยาสาวเดินออกมาจากห้องน้ำ“ฟองเบียร์ล่ะ” แต่เธอกลับไม่สนใจเดินผ่านหน้าสามีหนุ่มสายตาสอดส่องหาลูกสาวตัวน้อย“แนน! หนูตอบป๋าก่อนตกลงท้องไหม!” ท่อนแขนแกร่งคว้าเอวคอดดึงร่างเล็กเข้ามากอดเมื่อเห็นอีกฝ่ายไม่สนใจ“ป๊ะป๋า! ปล่อยอึดอัดหายใจไม่ออก” สองมือเล็กผลักดันหน้าอกอย่างรำคาญ“เหม็นด้วย! ““ไหนบอกว่าเลิกได้แล้วทำไมยังได้กลิ่นบุหรี่!” เธอชักสีหน้าไม่พอใจทำจมูกฟุดฟิดเมื่อได้กลิ่นเหม็นของบุหรี่ติดปลายจมูก“อะไรป๋าไม่ได้สูบ คงจะลูกค้าสูบมันเลยติดเสื้อ ป๋าเลิกนานแล้ว” ปรเมศวร์รีบอธิบายอย่างกระตือรือร้น แต่เห็นอาการแปลก ๆ ของเมียรักเขาก็ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ด้วยความดีใจ“ดีใจมากไหมคะ” คนตัวเล็กคลี่ยิ้มบางเมื่อได้เห็นรอยยิ้มบนใบหน้าสามี หลังจากที่พยายามจะมีลูกอีกคนมาหลายเดือนและในวันนี้ก็สิ้นสุดการรอคอยแต่จะเป็นลูกสาวอย่างที่เขาหวังไหม อันนี้คงต้องว่ากันอีกที“ที่สุดครับ!”“หนูน่ารักที่สุดเลยรู้ไหม!”พรึบ!ร่างบางถูกช้อนอุ้มเดินตรงไปยังเตียงนอน“คงได้เวลาป๋าต้องทำงานให้น้อยลงเพื่อจะได้ดูแลหนูกับลูกให้มากขึ้นแล้วสินะ!” เขาพูด
“ไทเกอร์!!”“ไอ้ไทเกอร์!!!”ปรเมศวร์ส่งเสียงเรียกลูกน้องหนุ่มที่ซึ่งกำลังหัวหมุนกับเจ้าสองแสบลูกชายเจ้านายเสียงแข็ง“ครับนาย” ชายหนุ่มวิ่งหอบตรงเข้าหาผู้เป็นนาย“ดูฟองเบียร์ด้วยกูมีธุระ!”“แล้วดูลูก ๆ กูดี ๆ ล่ะ อย่าให้ไปวิ่งเล่นแถวสระน้ำ!”“ถ้าลูกกูเป็นอะไรไปมึงตาย!”สิ้นประโยคเด็กน้อยแก้มใสวัยห้าเดือนเศษก็ถูกยัดใส่มือลูกน้องหนุ่มที่ทำหน้ามึนงง“นาย!” แต่ยังไม่ทันที่เจ้านายหนุ่มจะได้เดินไปไหนเขาก็อุ้มเด็กน้อยไปขวางหน้าไว้เสียก่อน“อะไรของมึงอีก?” เจ้านายหนุ่มมองหน้าลูกน้องอย่างไม่สบอารมณ์เพราะจิตใจมันลอยล่องไปอยู่ที่สระน้ำ“แล้ว...” ลูกน้องหนุ่มมองไปที่สองพี่น้องที่กำลังเล่นต่อสู้กันอยู่“มันเป็นหน้าที่มึง! ไว้กูขึ้นเงินเดือนให้!”เขาพูดแค่นั้นก็จะรีบสาวเท้ายาว ๆ ไปหาภรรยาสาวที่กำลังเล่นน้ำอย่างสบายใจ โดยที่ไม่รู้ตัวว่าภัยร้ายกำลังจะถึงตัวเพราะชุดบิคีนีตัวจิ๋วที่เธอสวมใส่……“ไม่ตายวันนี้จะตายวันไหน! ไอ้ไทเกอร์!” ไทเกอร์ได้แต่บ่นตามหลังเจ้านาย ทำหน้าเหมือนแบกโลกไว้ทั้งใบ“อ้อแอ้ อ้อแอ้” แต่ต้องสีหน้าเปลี่ยนเมื่อเสียงหวานเล็กดังอ้อแอ้ มือเล็กนุ่มนิ่มลูบจับที่หน้าเขาอย่างอ่อนโยน“เห็นแบบ
“กรี๊ด อุแว้!!”“พอร์ช! ลูกอีกแล้วนะแกล้งน้องทำไม!”เฮ้อ! ฉันละเหนื่อยใจกับลูกชายคนนี้ ตั้งแต่วันนั้นจนมาถึงตอนนี้ก็ผ่านมาแล้ว 3 เดือนกว่า ๆ ทุกอย่างเงียบกริบทางตำรวจพยายามสืบหาที่มาของเด็กแต่ไร้ซึ่งวี่แวว ฉันกับคุณป๋าเลยรับเลี้ยงสาวน้อยและรับเป็นลูกบุญธรรมน้องฟองเบียร์ เด็กหญิง พิชามญชุ์ โชติฐิติเมธานนท์พิชามญชุ์ ผู้งดงามด้วยความรู้ ชื่อนี้หลวงตาเป็นคนตั้งให้ และต้องขอบคุณป๊ะป๋าที่ตามใจฉันให้ลูกใช้นามสกุลเดียวกันกับเราได้เพราะไม่รู้วันเกิดเด็กที่แน่ชัดเราเลยเอาวันที่เจอน้องเป็นวันเกิด และดีที่คุณป๋าเขามีเส้นสายจัดการเรื่องเอกสารให้ลูกได้มีสิทธิ์ทุกอย่างเหมือนคนอื่น ๆแต่ต้องปวดหัววันละแปดรอบกับไอ้ตัวแสบลูกชายคนเล็ก เผลอเป็นไม่ได้แอบหยิกแก้มน้องทุกทีอย่างวันนี้ก็เหมือนกันน้องนั่งเล่นหัวเราะ อยู่ ๆ คนพี่วิ่งมาจากไหนไม่รู้หยิกแก้มน้องจนเป็นรอย จนน้องร้องกรี๊ด“แบร่!!!” แล้วยังไม่ทันจะได้พูดอะไรกันมาแลบลิ้นใส่แล้ววิ่งไปหาพี่ชายทันที ให้มันได้แบบนี้สิ! ลูกคนนี้นิ“นี่ก็อีกคนเขาแกล้งขนาดนี้ยังมองตามตาละห้อย แล้วอะไรคือยิ้มหวานคะ? หนูไม่เจ็บเหรอลูก”ฉันทายาใส่แก้มขาวใสที่เป็นรอยแดงอย่า
ประเทศจีน...“แนน!!”“จะทะเลาะกับป๋าให้ได้ใช่ไหม!”“ได้!”“งั้นขึ้นห้อง ถอดเสื้อผ้าเรามีเรื่องต้องคุยกัน!”สิ้นคำพูดร่างฉันก็ถูกกระชากขึ้นไปบนห้อง และจากนั้นไม่ต้องพูดถึงว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง!คนบ้าอะไรจะถอดเสื้อผ้าคุยกัน เขาหาเรื่องรังแกฉันมากกว่า!“ทีนี้หายโมโหยัง” ก็แบบนี้ทุกทีพอได้แล้วก็มาอ้อน ทีตอนลากขึ้นเตียงเกรี้ยวกราดที่สุด“......” ฉันเงียบ! ดีนะที่วันนี้พี่ไทเกอร์พาสองหนุ่มไปเที่ยว ฉันเลยแวะไปหาคุณป๋าที่บริษัท แต่ต้องไปเห็นอะไรที่มันทำให้อารมณ์เสียเพราะแบบนี้ฉันถึงไม่อยากกลับมาที่นี่ ที่บ้านหลังนี้ เพราะมันมีอะไรหลายอย่างที่มันทำให้ฉันรู้สึกเจ็บ“ป๋าไม่ได้อะไรกับผู้หญิงพวกนั้นแล้วนะ เราก็อยู่ด้วยกันตลอด แค่เอาหนูคนเดียวป๋าก็ไม่มีเวลาทำอย่างอื่นแล้ว”ฉันเข้าใจเพราะเรื่องมันก็นานแล้วแต่มันก็หงุดหงิดใจอยู่ดี ที่เห็นผู้หญิงที่เขาเคยควง!“ป๋าเป็นเด็กดีแล้วนะครับ” ลมหายใจอุ่น ๆ พ่นรดที่ต้นคออย่างแผ่วเบา“หนูเข้าใจแต่หนูไม่ชอบ ไม่ชอบที่พวกเธอมองป๊ะป๋าด้วยสายตาท่าทางอ่อยแบบนั้น หนูหวง!”ฉันพลิกตัวมุดหน้าซุกแผงอกแกร่ง เพิ่งจะกลับมาอยู่จีนได้ไม่ถึงอาทิตย์กลับต้องมาทะเลาะกันเสียแล้วแ
หลายเดือนผ่านไป...งานแต่งถูกจัดขึ้นอย่างใหญ่โต ทั้ง ๆ ที่ฉันขอแค่งานเล็ก ๆ แต่ป๊ะป๋าบอกมันไม่ได้เพราะด้วยฐานะฉันตอนนี้ที่เป็นถึงน้องสาวเจ้าของบริษัทส่งออกใหญ่โตของประเทศและคุณเขาที่เป็นถึงประธานบริษัทค้าเพชรอันดับต้น ๆ จะให้จัดงานเล็ก ๆ มันเป็นไปไม่ได้“แม่สวยจังครับ!” น้องพาร์ทที่วันนี้อยู่ในชุดสูทสีขาวพูดมองแม่แล้วเอาแต่นั่งยิ้มกริ่ม ส่วนน้องพอร์ชตอนนี้กำลังซน ก็ช่วงวัยของเขาแหละกำลังหัดเดินไม่เคยจะอยู่นิ่งดีที่ได้พี่ไทเกอร์คอยดูแลวิ่งตามตั้งแต่เช้าจนตอนนี้ พี่ไทเกอร์ยังไม่ได้พักเลยแต่ความซนยังไม่เท่าน้องญี่ปุ่นลูกสาวคนสวยของเบบี๋ รายนั้นบอกเลยทั้งซนทั้งแสบส่วนคนที่สบายหน่อยคือพี่พิมพ์ เพราะน้องมาเฟียคือนิ่งสุขุมถอดแบบพี่เทเลอร์มาทุกอย่าง! ฉันละปลื้มใจแทนพี่สาวเพราะไม่ต้องมานั่งปวดหัววิ่งไล่จับลูกเหมือนฉันส่วนคุณเจ้าบ่าวป๊ะป๋าคนหล่อ ก็ดีใจจนกินไม่ได้นอนไม่หลับ เข้าใจว่าตื่นเต้นแต่ฉันเป็นผู้หญิงแท้ ๆ ยังไม่ตื่นเต้นจนออกหน้าออกตาเท่าเขาเลยไม่ใช่ไม่ดีใจที่ได้แต่งานมันก็ดีใจแต่ป๊ะป๋าเขาดีใจเกินไป อยู่ด้วยกันมากี่ปี ลูกสองคนก็โตจนวิ่งไล่เตะก้นพ่อได้แล้ว ทุกวันนี้ฉันเหมือนมีลูกชายส
“ลูกไม่ยอมดูดขวด!” คุณป๋าเขามองฉันอย่างคาดโทษและส่งลูกให้ฉัน“หนูขอโทษ!” ฉันได้แต่ทำหน้าสำนึกผิด เสื้อผ้าก็ยังไม่ได้ใส่ลูกก็จะกินนม“แอ้!!”“รู้แล้วครับไม่ต้องมาทำหน้าอ้อนเลย ก็อ้อนแบบนี้แม่ถึงใจอ่อนให้หนูกินจากเต้าจนป๊ะป๋าดุ” ฉันเอาลูกนอนลงที่ตักทันทีที่เห็นเต้าตามเคยตัวเล็กดีใจจนตัวสั่นจ๊วบ!!ด๊วบ!!“เบา...ไอ้เสือ นมแม่ช้ำหมดแล้วลูก!” คุณป๋าเขาคลานเข่าขึ้นมาบนเตียงจูบที่เท้าเล็ก“ทำอะไรไม่เอามันจั๊กจี้!” ฉันเอามือดันตัวเขาที่เอาหัวหนุนตักแล้วอ้าปากงับเต้าอีกข้าง“ทีลูกดูดไม่เห็นเป็นอะไรป๋าก็หิวเหมือนกันกินหน่อยนะ!” เขามันบ้า! ดูดดึงหน้าอกแล้วดูดแรงด้วยแรงพอจนน้ำนมมันทะลักออกมานั่นแหละ“ป๊ะป๋า! ไม่เอาพอแล้วลูกกินนมอยู่นะ!” ฉันพูดดุ ๆ“หึ...ป๋าแค่ล้อเล่นเอง”“แล้วพาร์ท ล่ะคะ” ทำไมฉันถึงรู้สึกผิดต่อลูกอยู่ตลอดนะ“มีอะไรหรือเปล่า”คุณเขานั่งช้อนด้านหลังเอาคางเกยไหล่ มือสากเอื้อมมาหยอกล้อเล่นกับตัวเล็กที่พอนมเข้าปากก็เงียบไปเลย“ป๊ะป๋า!” ฉันเอียงคอหันไปจ้องหน้าเขา“ฮือ ว่าไงครับเป็นอะไรทำไมทำหน้าเศร้า ๆ” คุณเขาจุ๊บที่ปากฉันเบา ๆ“ป๊ะป๋ารักน้องพาร์ทไหม” ฉันพูดเสียงสั่น ไม่รู้ฉันคิดอะไรทำ
ลิ้นสากเปียกลื่นลากเลียยาวตั้งแต่เนินลงไปถึงสะดือสองมือสากลูบไล้ตามเรียวขาและจับมันอ้ากว้างออก“อ๊ะ” ฉันร้องครางในลำคอเบา ๆ เมื่อปลายลิ้นร้อนแตะตรงส่วนนั้นผ่านแพนตี้ผ้าลูกไม้ตัวบางที่ฉันใส่จ๊วบ!!ด๊วบ!!เขาจูบดูดมันอย่างเอร็ดอร่อย จนมันเปียกแฉะสองมือจิกกำผ้าปูที่นอนแอ่นอกบิดตัวเมื่อถูกปลายลิ้นร้ายเขาทารุณ“ฮื่อ! ป๊ะป๋า มะ...มันเสียวนะคะ!” ฉันกลั้นใจพูดเพราะตอนนี้มันเสียวจนแทบจะพูดไม่เป็นภาษาอยู่แล้ว!พรึบ!ฟิ้ว ~~~คุณป๋าเขาไม่สนใจฟังถอดเสื้อพร้อมแพนตี้ตัวน้อยออกจากตัวขว้างทิ้งลงพื้นอย่างไม่ไยดี“อืม”แผล็บ!!แจ๊ะ! แจ๊ะ!ปลายลิ้นสากลื่นยังคงทำการทารุณกรรมน้องหนูฉันต่อ และฉันต้องดิ้นพล่านเมื่อเขาสอดดุนลิ้นร้ายผลุบเข้าออกร่องสวาท ทั้งดูดทั้งเลียทำเอาฉันแทบดิ้นตายด้วยความเสียว แต่ต้องเก็บกดเสียงห้ามตัวเองไม่ให้ส่งเสียงครางออกมากลัวลูกจะตื่น“ฮื่อ! ป๊ะป๋า นะ...หนูไม่ไหวแล้วนะ! กรี๊ดดดด” สองมือกำหมัดแน่นส่งเสียงกรีดร้องในลำคอ เมื่อปลายลิ้นร้อนไม่ปรานีร่องแคบฉันเลยเขาตวัดลิ้นละเลงติ่งเกสรสลับกับดูดแรง ๆ และสอดดันดุนลิ้นผลุบเข้าออกถี่รัว เพียงแค่ไม่กี่นาทีต่อมาร่างฉันมันสั่นกระสับกระส่ายก
แน่นอนฉันจูบตอบสองแขนยกขึ้นคล้องคอเอียงหน้า หาองศาที่เหมาะสม มือใหญ่เลื่อนขึ้นมาจับล็อกท้ายทอยแน่นเราจูบกันอย่างดูดดื่มจนลืมไปว่าตอนนี้เราอยู่ในลิฟต์!“อุ๊ย!!!”ทันทีที่ประตูลิฟต์เปิดพนักงานที่ยืนอยู่ข้างนอกต่างตกใจที่เห็นเราสองคนจูบกันฉันพยายามดันตัวคุณเขาออกแต่ทว่าเขากลับยิ่งกดจูบหนัก ๆ อีกครั้งก่อนจะค่อย ๆ ปล่อยริมฝีปากที่บวมเป่งอย่างอ้อยอิ่ง“ป๋ารักหนูนะ”คำพูดหวานหูและสายตาหวานเยิ้มที่เขามองมาที่ฉันมันยิ่งทำให้ฉันเขินอายจนทำอะไรไม่ถูกคุณเขาไม่สนใจพนักงานที่ยืนดูหอมแก้มมือโอบไหล่เดินไปที่โรงจอดรถพอมาถึงโรงรถเขาก็จูบฉันอีกครั้งและจูบอยู่อย่างนั้นนานหลายนาทีฉันเห็นท่าไม่ค่อยดีเลยรีบผลักตัวเขาออกแล้วรีบขึ้นรถก่อนทุกอย่างมันจะเลยเถิดระหว่างที่ขับรถไปรับลูกที่โรงเรียนคุณเขาก็กุมมือเดี๋ยวจูบเดี๋ยวหอมยิ้มไม่หุบฉันก็ได้แต่นั่งยิ้มส่ายหัวอะไรจะเป็นหนักถึงขนาดนี้ก็แค่บอกรักเอง แต่จะว่าไปฉันเองก็มีความสุขไม่ต่างอะไรจากเขาที่ได้บอกความรู้สึกออกไปสำหรับฉันคุณเขาคงเป็นรักแรกและรักสุดท้ายและฉันก็อยากเป็นคนสุดท้ายของเขาเหมือนกัน“รักนะคะป๊ะป๋า!”ฉันยิ้มให้เขาและพูดในใจ เรามองหน้าสบตากันโด
46 ป๊ะป๋าของหนูหมับ!!“นะ...หนูพูดว่าอะไรนะ!”แต่ไม่ทันจะได้เดินออกไปไหนสองมือใหญ่ก็คว้าตัวสวมกอดจากด้านหลัง เสียงเข้มสั่นเครือกอดเอวแน่น“ปล่อยค่ะ! ไหนว่าจะทำงาน”ฉันพลิกตัวหันไปมองหน้าสบตาคนแก่ขี้งอน“...มะ...ไม่ทำแล้ว” คุณเขาดูไม่เป็นตัวเองเอาเสียเลยดูตื่นตกใจมึนงงยังไม่หาย“ป๋าไม่ได้หูฝาดไปใช่ไหม” คุณเขาสวมกอดฉันแน่น มันแน่นจนแทบหายใจไม่ออกงับ!!!“หนู! กัดป๋าทำไม!” ฉันอ้าปากงับหัวไหล่เขาอย่างแรง“ถ้าเจ็บก็แสดงว่าไม่ได้ฝันค่ะ” ฉันยกสองแขนขึ้นคล้องคอเขา และแน่นอนสองมือใหญ่กอดรัดดึงตัวฉันแนบชิดติดอกแกร่ง“หนูรักป๊ะป๋า รักมานานแล้ว ได้ยินชัดไหมคะ!”ฉันพูดและยิ้มให้พ่อของลูกที่อยู่ ๆ ก็ร้องไห้น้ำตาอาบสองแก้ม ฉันถึงกับงงเขาร้องไห้ทำไม?“ป๊ะป๋า!!” ฉันถึงกับต้องขมวดคิ้วเข้าหากันเป็นปมแล้วส่ายหัว กลั้นขำแทบไม่ไหว“ร้องไห้ทำไม!”“ไม่ร้องสิคะ หนูแค่บอกรักเอง” ฉันดึงเขาเข้ามากอดปลอบ“ก็ป๋าดีใจ หนูรู้ไหมป๋ารอฟังคำว่ารักจากหนูมานานแค่ไหน!” เขาพูดเสียงสะอื้นสองแขนกอดฉันแน่น“หยุดร้องได้แล้วค่ะเดี๋ยวคนอื่นมาเห็นเข้า มันจะไม่ดีเท่าไรนะ”“แล้วอีกอย่าง” ฉันดันตัวมองหน้าสบตาพ่อของลูกที่ยังคงสะอื้นไ