หลังจากที่ฉันกับมังกรฟาดฟันกันเสร็จ เราก็ต่างอาบน้ำชำระร่างกาย เมื่อทำอะไรเสร็จเรียบร้อยแล้ว มังกรเขาก็พาฉันไปที่ที่เขาบังคับให้ไปกับเขาตั้งแต่แรก“ทำไมไม่แวะห้างพาฉันซื้อกระเป๋าก่อน” ตอนนี้รถกำลังแล่นผ่านห้างสรรพสินค้าพอดี ฉันเลยเสนอไอเดียให้เขา “ตอนกลับ” เขาตอบสั้นๆ สายตาจับจ้องไปที่ถนน “ไม่คิดจะเบี้ยวใช่ไหม” ฉันถามอย่างไม่มั่นใจ คนอย่างเขาเชื่ออะไรมากไม่ได้หรอก “เธอจะถามอะไรนักหนาวะวันศุกร์ !!” จู่ๆ อีตามังกรก็หันหน้ามาตวาดใส่ฉัน อื้อ จริงสิ ก่อนจะออกมาเขารับสายของใครก็ไม่รู้ จากนั้นเขาก็อารมณ์เสีย แต่ฉันไม่ได้ทำอะไรให้เขาโกรธ ทำไมต้องมาตะคอกใส่กันแบบนี้ด้วย “ก็แล้วจะมาตะคอกใส่ฉันทำไม พูดดีๆ ไม่เป็นรึไง ฮะ!!” ในเมื่อเขาตะคอกใส่ฉันก่อนเอง ฉันก็ไม่ลังเลและไม่กลัวที่จะตะคอกกลับเหมือนกัน “เธออย่ามาขึ้นเสียงใส่ฉัน” สายตาคมกริบจ้องมองใบหน้าของฉันอย่างเอาผิด คิดว่าฉันกลัวรึไง “ทำไม ฉันขึ้นเสียงแล้วทำไม” เขาพ่นลมหายใจออกมาแรงๆ และไม่พูดอะไรต่อ ฉันก็เหมือนกัน ฉันเบือนหน้าหันไปอีกทาง ประมาณครึ่งชั่วโมงได้ รถหรูของมังกรมาจอดที่ไหนก็ไม่รู้ ฉันอยู่เมืองนอกหลายปีเลยไม่ค่อยจะรู้ว่าที่ไหน
ขนแขนฉันมันลุกซู่ไปทั้งตัว ต้องใช่แน่ๆ สองแม่ลูกนี่ต้องเป็นผีอย่างที่ฉันคิดเอาไว้แน่ๆ จู่ๆ มังกรเขาก็ทำท่าจะเปิดประตูรถลงไป “นี่คุณ คุณเห็นเขาใช่ไหม” ฉันรั้งแขนมังกรไว้ก่อนที่เขาจะลงจากรถ และ ถามย้ำเพื่อความแน่ใจ ว่าสองคนนั้นไม่ได้เป็นในสิ่งที่ฉันคิด แต่!! มังกรเขากลับไม่พูดไม่จาอะไรสักคำ เขาแกะมือฉันออก แล้วก็รีบลงจากรถไปเลย เขาเดินตรงไปหาสองแม่ลูกนั่น ก่อนที่เขาจะดึงให้ผู้หญิงคนนั้นตามเขาไปตรงอื่น ฉันมองตามไปจนสุดสายตา ถ้าสองแม่ลูกนั่นไม่ใช่ผี แล้วเขาจะมายืนดักหน้ารถแบบนี้ทำไม แต่หน้าตาผู้หญิงคนนี้คุ้นๆ นะ เหมือนฉันเคยเจอที่ไหน ฉันนึกคิดว่าเคยเจอเธอที่ไหนประมาณสิบนาทีได้ สุดท้ายฉันก็คิดออก ฉันเคยเจอเธอ เจอวันที่ฉันกลับไทย ยัยกิ๊กของอีตามังกร ว่าแต่ยัยนั่นเธออุ้มเด็กน้อยมาแบบนี้ ลูกเธอเหรอ แล้วมังกรเกี่ยวอะไร มาดักหน้ารถทำไม หรือว่าเด็กคนนั้นจะเป็นลูกของ...มะ มังกร จู่ๆ หัวใจของฉันมันก็เต้นรัว ความรู้สึกมันเริ่มหน่วงๆ แปลกๆ มันเหมือนมีอะไรมาบีบรัดตรงกลางอก ความรู้สึกแบบนี้มัน....เจ็บดีจริงๆ ฉันชอบเขาอย่างงั้นเหรอ ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน ถ้าจะให้ฉันนั่งรออยู่บนรถแบบนี้ฉันคงทำไม่ไ
มังกรเขาพูดต่อหน้าภรรยาของเขาว่าจะไม่ยอมปล่อยฉันไป เขาไม่สนใจเลยหรือไงว่าภรรยาของเขาจะรู้สึกยังไง “มังกรกลับบ้านกับหวานนะคะ” “เอาลูกกูไปไว้กับม๊า เดี๋ยวพรุ่งนี้กูจะเข้าไปคุยที่บ้านใหญ่” มังกรสั่งลูกน้อง “มันเป็นเรื่องครอบครัวของคุณขอร้องว่าอย่าเอาฉันเข้าไปเกี่ยวข้องอีก ฉันขอไปตามทางของฉัน” “พูดมาก!! จะไปก็ไปสิรีบๆ ไป” แม่นั่นพูดจิกฉัน โดนตบจนเลือดกลบปากขนาดนั้นยังจะมาพูดกระแทกแดกดันฉันอีก “ไปแน่ ขอให้เธอไม่เป็นแม่หม้ายผัวทิ้งก็แล้วกันนะ” ฉันเหยียดยิ้มให้เธอ ก่อนจะหันหลังให้ทั้งสองคนและก้าวขาเดินออกมาจากตรงนั้น ฉันไม่ได้มองหน้าของมังกร ไม่อยากมอง ไม่อยากไปรู้สึก เขามันก็แค่คนหลอกลวง มันน่าตลกสิ้นดี นี่ฉันกำลังคิดว่ามังกรเขาจะรักฉันอย่างงั้นเหรอ ฉันอยากจะหัวเราะดัง ๆ ให้กับความคิดโง่ๆ ของตัวเอง เขาไม่ได้รักฉันเลยสักนิด และฉันก็ควรจะลืมความรู้สึกพวกนี้ หมับ!! มือหนาของใครบางคนคว้ามาจับแขนของฉันจากนั้นก็ออกแรงกระชากให้ฉันไปแนบชิดกับแผงอกแกร่งของเขา ฉันได้กลิ่นของน้ำหอมเย็น ๆ และกลิ่นของบุหรี่จางๆ จากตัวชายคนนี้ มันทำให้ฉันรับรู้ได้ทันทีโดยไม่ต้องคิดลังเลเลยว่าชายคนนี้คือใคร ‘มัง
ฉันชั่งใจในคำพูดของมังกรที่ประกาศออกมาเมื่อครู่ “ที่ผ่านมาคุณยังกักขังฉันไม่พออีกหรือไง” ฉันถามเขาทั้งที่ยังหันหลังอยู่ แต่ก็ไร้เสียงตอบกลับจากเขา ฉันถอนหายใจออกมาเบาๆ ก่อนจะก้าวขาเดินออกจากห้อง ถ้าเขาจะขังฉันตามที่ตัวเองได้พูดเอาไว้เขามันก็เลวเต็มทน ชีวิตมันเป็นของฉันเมื่อก่อนฉันไม่คิดจะหนีฉันยอมทุกอย่าง อาจจะมีบางครั้งที่ฉันอยากจะหนีแต่ก็ไม่เคยจะหนีพ้น เพราะฉันคิดว่าเขาไม่มีครอบครัวการที่เขาจับฉันมาเป็นเชลยกามของเขามันก็ไม่ใช่เรื่องหนักหนาอะไร แต่เมื่อรู้ว่าเขามีครอบครัวแล้ว ฉันก็ไม่อยากที่จะอยู่เป็นเมียน้อยใคร เขาก็ไม่ได้มีแค่ฉันเพราะเราไม่ได้เป็นอะไรกัน ถึงฉันจะรู้สึกกับเขา....แต่ฉันต้องตัดทุกอย่าง และถึงเขาจะเกลียดแค้นพี่ชายของฉันขนาดไหน ความแค้นนั้นฉันไม่สามารถชดใช้แทนพี่ไม้ได้ “ถ้าเธอคิดจะไปจากที่นี่ เธอจะได้รู้วันศุกร์ว่าเธอคิดผิด” มันเป็นคำพูดสุดท้ายของมังกรที่ฉันได้ยินหลังจากที่ฉันเดินพ้นออกมาจากห้อง ฉันเดินลงบันไดโดยไม่คิดจะสนใจอะไร สมองมันโล่งไปหมด ไม่สนใจว่าถ้าออกไปพ้นรั้วบ้านแล้วฉันจะไปอยู่ที่ไหน จะเอาเงินที่ไหนใช้ ตอนนี้สิ่งเดียวที่ฉันต้องการคือ ไปให้พ้นจากบ้านหลัง
หลังจากมังกรออกไปฉันก็นั่งนิ่งๆ ไม่ขยับ สายตามองดูโซ่เส้นใหญ่ที่มันล่ามขาของตัวเองอยู่ เขามันป่าเถื่อนจริงๆ ยิ่งกว่าที่ฉันคิดเอาไว้ซะอีก จู่ๆ หัวใจดวงน้อยๆ ของฉันมันก็รู้สึกเจ็บปวดขึ้นมาซะดื้อๆ เมื่อคิดถึงเรื่องที่เขามีครอบครัวแล้ว ถ้ามีแค่ภรรยาฉันคงไม่ปวดใจเท่ากับเขามีลูกน้อยด้วยกัน แล้วแบบนี้นะเหรอที่จะหย่า เธอคนนั้นก็คงไม่ยอมทางครอบครัวเขาก็คงไม่ยอม ถ้าเขาไม่หลอกฉันตั้งแต่แรก ฉันคงไม่รู้สึกอะไรกับเขามากขนาดนี้หรอก ถ้าเขาบอกว่าเขามีครอบครัวบางทีฉันคงจะไม่รู้สึกอะไรเลย และคงไม่ยอมให้อะไรมันเกินเลยไปขนาดนี้ นานเท่าไหร่ไม่รู้ที่ฉันนั่งทบทวนทุกอย่างที่ผ่านมา มันทำให้ฉันอยากไปให้พ้น ถึงฉันไม่มีอะไรติดตัวไปเลยสักอย่างฉันก็จะไป เขาบอกว่าเขาเจอพี่ไม้แล้วไม่รู้ว่าเขาโกหกหรือเปล่า ก่อนที่ฉันจะหาทางหนีไปจากเขา ฉันต้องให้เขาพาฉันไปเจอพี่ไม้ให้ได้ แกร่ก (ประตูห้องเปิดเข้ามา) ฉันรีบยกขาขึ้นแล้วถอยหนีทันที เพราะคิดว่าเป็นมังกร แต่!!...ไม่ใช่ ไม่ใช่เขา เป็นลูกน้องของเขา ชายคนนั้นเดินเข้ามาในห้องพร้อมกับจานข้าวในมือ เขาเอาจานวางไว้ให้ฉันตรงพื้นไม่พูดอะไรสักคำเสร็จแล้วก็เดินออกไป ฉันมองจานข้าว
ฉันไม่ตอบและเบือนหน้าหนีแต่กลับถูกมังกรคว้ามาจับปลายคางให้หน้าฉันหันไปตรงกับใบหน้าของเขา เขาโน้มใบหน้าลงมาใช้ปลายจมูกชนกับปลายจมูกของฉัน ลมหายใจร้อน ๆ ของเขามันกำลังทำให้ฉันคลั่ง ฉันพยายามหายใจเข้าออกช้าๆ และโฟกัสสายตาไปมองอย่างอื่น ให้สมองของฉันไม่คิดถึงเรื่องอย่างว่า “เป็นอะไร” มังกรกระซิบตามที่หูของฉันเสียงแหบพร่า เขากำลังยั่วฉันทำไมฉันจะไม่รู้ “อย่ามายุ่งกับฉัน” “เคยห้ามฉันได้ไหม ถ้าไม่ได้ก็อย่าห้าม” มังกรผลักฉันให้นอนราบไปกับที่นอน ยังไม่ทันที่ฉันจะได้ดิ้นสู้ฉันก็รู้สึกว่าแขนขาตัวเองมันอ่อนแรงไปหมด เมื่อมังกรล้วงมือเข้ามาจับเนินสามเหลี่ยมอวบอิ่มภายใต้กางเกงในตัวจิ๋วของฉัน เขาเร็วมากๆ “อ๊ะ อ๊า อ๊าง” ฉันดิ้นพล่านเมื่อนิ้วใหญ่ขยี้เม็ดเสียวของฉันอย่างชำนาญ เขารู้จุดอ่อนของฉันดีและยิ่งฉันเป็นคนที่อารมณ์ทางเพศมันติดง่าย เลยไม่ยากที่เขาจะทำกับฉัน “น้ำเยิ้มขนาดนี้ พร้อมโดนเอาแล้วใช่ไหม” มังกรก้มหน้าลงมาซุกไซ้ซอกคอของฉัน ฉันรู้ว่าเขาทำรอยเอาไว้แต่ไม่อาจจะห้ามอะไรเขาได้เพราะอารมณ์ของฉันมันเกินที่จะฉุดลงมาแล้ว มังกรลุกขึ้นเขาถอดเสื้อผ้าของเขาออก ก่อนจะนั่งลงปลดโซ่เส้นใหญ่ที่ล่ามขาขอ
มังกรเขาหยิบซองบุหรี่ออกจากกระเป๋า เขาเดินไปเปิดบานหน้าต่างออก ทำให้ฉันได้รู้ว่าตอนนี้มันคือเวลากลางคืน ถึงว่าทำไมมันมืดไปหมด “ตอนนี้เวลากี่ทุ่มแล้ว” ฉันถามมังกรที่กำลังยืนหันหลังให้ฉันอยู่ “ห้าทุ่ม” เขาตอบมาสั้นๆ แค่นั้น แล้วจากนั้นเราทั้งคู่ก็เงียบ ฉันรู้ว่าตอนนี้มันมีหลายอย่างที่เปลี่ยนไป ตัวฉันเอง ฉันเองที่ไม่เหมือนเดิม เพราะฉันเลือกที่จะเงียบใส่เขาไม่โวยวายเหมือนก่อนนั้น “อยากไปเที่ยวที่ไหนไหม” จู่ๆ มังกรก็พูดขึ้น แต่ฉันไม่ตอบเพราะคิดว่าเขาคงไม่ได้ถามฉัน เขาอาจจะกำลังคุยโทรศัพท์อยู่ เพราะอย่างมังกรเขามีพื้นที่ให้ฉันแค่ห้องแคบๆ แบบนี้เท่านั้นแหละ “วันศุกร์” ครั้งนี้เขาเรียกชื่อฉันพร้อมกับหันหน้ามา ในมือของเขายังคีบมวนบุหรี่อยู่ “คุณถามฉัน ?” ฉันถามกลับอย่างแปลกใจ เพราะไม่เชื่อ มันไม่น่าเชื่อว่าเขาจะถามเรื่องนี้ “ถ้าไม่ถามเธอ แล้วจะให้ฉันถามใคร” “ใครจะไปรู้คิดว่าคุยโทรศัพท์กับเมีย” ฉันสวนกลับไปแบบนั้นมันเลยทำให้มังกรเขาทำท่าฟึดฟัดใส่ฉันทันที“วันศุกร์!!” มังกรเรียกชื่อฉันเสียงเข้ม พูดถึงเมียแค่นี้ทำเป็นขึ้นเสียงใส่ เหอะ!! ทั้งที่ตัวเองมีครอบครัวมันยากที่จะยอมรับขนาดนั้นเลยร
สุดท้ายฉันก็อดไม่ได้ที่จะต้องตามคนเอาแต่ใจตัวเองอย่างมังกรไป แต่ก็ไม่รู้ว่าเขาเดินหายไปไหน เรือบ้านี่ก็ลำใหญ่ซะจริงๆ กว่าจะเดินรอบทั้งลำเล่นเอาฉันเหนื่อยไปเลยทีเดียว “อุตส่าห์จะง้อ ปล่อยให้เป็นบ้าตายไปเลยก็แล้วกัน” ฉันถอนหายใจออกมาเบาๆ และถอดใจไม่ตามหาเขาแล้วเพราะมันเหนื่อย เดี๋ยวเขาสร่างเมาเมื่อไหร่ฉันก็เจอเขาเองนั่นแหละ ฉันเดินวกกลับไปทางห้องนอน มันเหมือนฉันได้ยินเสียงอะไรบางอย่าง ตอนแรกก็คิดว่าตัวเองหูไม่ดี แต่เมื่อเดินไปใกล้ ๆ กับประตูห้องเสียงมันก็ชัดเจน ฉันไม่ได้หูแว่วไปเอง มันคือเสียงของคนที่กำลังมีอะไรกันอยู่ เสียงร้องครวญครางของผู้หญิง และที่มากไปว่านั้นผู้หญิงคนนั้นเธอครางชื่อมังกรออกมา ฉันได้ยินเต็มสองหูของตัวเอง ฉันจับลูกบิดประตูบิดไปมาเพื่อจะเปิดเข้าไปแต่ประตูกลับล็อก ฉันพยายามหายใจเข้าออกช้าๆ เป่าลมที่ปากออกเพื่อระบายความอัดแน่นในใจ ก่อนจะคิดตอกย้ำตัวเองว่าฉันกับมังกรเราไม่ได้เป็นอะไรกัน ฉันกับเขา ก็เหมือนกับเขากับผู้หญิงคนอื่น ฉันถอยหลังออกห่างจากประตูเรื่อยๆ จากนั้นก็วิ่ง ฉันวิ่งไปเหมือนคนสติหลุด อยากจะร้องแต่ก็ต้องกลั้นเอาไป แบบนี้ไงฉันถึงเกลียดความรัก เพราะมันเ
ทะเล ฉันกับมังกรออกเดินทางมาเที่ยวทะเลกันมาถึงก็ช่วงบ่ายแก่ๆ แล้ว ตอนนี้บรรยากาศมันน่าใส่บิกินี่เดินเล่นริมหาดซะจริงๆ เรามากันที่หาดส่วนตัวมังกรเช่าหาดส่วนตัว หาดที่เขาจับตัวฉันมาขังไว้นั่นแหละ พอมาถึงมังกรก็สั่งให้ลูกน้องเขากลับไปให้หมดทุกคน ที่หาดเหลือเพียงแค่เราสองคนเท่านั้น “จำได้ไหมว่าเธอกับฉันเคยเอากันตรงนั้น” มังกรชี้ไปตรงหาดทรายสีขาวสะอาดมีเก้าอี้ไว้สำหรับนั่งชมวิวทะเลสีฟ้าคราม “อยากระลึกความหลังเหรอคะ ?” ฉันถามแบบยิ้มๆ มังกรไม่ตอบอะไรเขายักคิ้วให้ฉันก่อนจะอุ้มร่างฉันไปเดินไปนั่งบนเก้าอี้ตัวที่เราทั้งคู่เคยมีอะไรกัน “แต่วันนั้นฉันจำได้ว่าฉันใส่บิกินี่นะ” ฉันบอกมังกรที่กำลังลูบไล้ต้นขาอ่อนของฉันไปมา “อย่าหาเรื่องใส่ตัว !!” มังกรบอกเสียงแข็ง “อะไรกัน!! ที่นี่ไม่มีใครอยู่แล้วทำไมถึงยังไม่ให้ฉันใส่บิกินี่อีก” ฉันหันหน้าไปโวยวายเขาแบบไม่สบอารมณ์ทันที “ถ้าอยากใส่ก็ใส่แค่ในห้อง ตรงนี้ไม่ได้!!” “ในห้อง !!!” “เอออ !!” “คุณมันบ้า โอ๊ยยย!!” ฉันร้องเสียงหลงเมื่อถูกมังกรบีบก้นแรงๆ เขามองฉันสายตาดุๆ “ไม่สนแหละยังไงฉันก็จะใส่ !!” “ฉันไม่ให้ใส่ !!”“เอามาห้าล้านสิ ฉันจะเชื่อฟ
1 อาทิตย์ผ่านไป... “บี๋ขาา~ ชุดนี้สวยไหม ^_^” ฉันเดินฉันไปนั่งตักของมังกรที่กำลังเหมือนจะพูดคุยอะไรกับลูกน้องของเขาอยู่ ฉันขอร้องอ้อนวอนมังกรมาตลอดหนึ่งอาทิตย์ที่ผ่านมาให้เขาเรียกฉันว่าบี๋แต่เขาก็ไม่ยอม เลยมีแค่ฉันที่เรียกเขาคนเดียว แต่ฉันไม่ลดละความพยายามหรอก เป็นสามีภรรยากันมันก็ต้องมีมุมมุ้งมิ้งบ้างสิ จริงไหมล่ะ ลูกน้องของมังกรที่นั่งอยู่นับสิบคนหันมามองที่ฉันเป็นตาเดียว ก็แหงสิเพราะตอนนี้ฉันกำลังใส่ชุดบิกินี่ตัวจิ๋วสีแดงสดอยู่ ที่ใส่บิกินี่ลงมาก็เพราะพรุ่งนี้ฉันกับมังกรจะไปทะเลกัน ประมาณว่าไปเที่ยวก่อนแต่งงานประมาณนี้ และถึงแม้ว่าจะท้องแต่ก็แซ่บได้นะคะ “ชุดบ้าอะไร แล้วใส่ลงมาแบบนี้ทำห่าอะไรวะ !!” มังกรหัวเสียทันทีที่เห็นชุดบิกินี่สีแดงสดของฉัน แต่เขาก็ไม่ได้ผลักให้ฉันลุกขึ้นจากตักเขาไปไหนนะ แต่กลับกอดฉันเอาไว้แน่นไม่ยอมให้ฉันหันหน้าไปทางลูกน้องของเขาเลย “บี๋ ปล่อยเค้าก่อนมันอึดอัด !!” ฉันพูดพลางใช้มือดันตัวมังกรออกแต่เจ้าตัวเขาก็ไม่ยอมปล่อยให้ฉันเป็นอิสระเลย “มองห่าอะไรกัน ออกไปให้หมด !!” มังกรออกคำสั่งอย่างเกรี้ยวกราดพวกลูกน้องของเขารีบพากันก้มหน้าก้มตาเดินออกไปกันแทบจะไม
หลังจากที่มังกรขอฉันแต่งงานและฉันตอบตกลงแล้วเรียบร้อย เราทั้งคู่ก็ไปที่โรงพยาบาลเพื่อไปตรวจครรภ์และฝากครรภ์ เสร็จแล้วก็แวะที่บ้านมังกรเพื่อคุยกับพ่อแม่เขาเรื่องแต่งงาน ครั้งนี้ทางบ้านของมังกรไม่ห้ามอะไร แถมคุณพ่อคุณแม่เขาน่ารักกับฉันมากๆ ด้วย “ไปดูบ้านกันนะ” “หื้อ บ้านอะไรคะ ?” ฉันขมวดคิ้วเป็นปมอย่างแปลกใจ จู่ๆ มังกรก็พูดบอกว่าจะไปดูบ้านใครบ้างจะไม่งง “บ้านของเราไง ^_^” “คุณจะซื้อบ้านเหรอคะ ?” “ไม่ใช่จะซื้อ แต่ฉันซื้อแล้วต่างหาก” มังกรยิ้มน้อยยิ้มใหญ่เขาดูมีความสุขมาก ส่วนฉันก็ไม่ต่างอะไรกับเขาหรอก มันจริงอยู่ที่ฉันไม่สามารถลืมเรื่องราวในวันนั้นได้ แต่วันนี้เขาทำให้ฉันมีความสุข ทุกอย่างที่ผ่านมามันคืออดีต เราเริ่มต้นใหม่กันได้ — คฤหาสน์หลังใหญ่ นั่งรถมาไม่นานมังกรก็พาฉันเลี้ยวเข้ามาในรัวของคฤหาสน์หรูหลังใหญ่ นี่เหรอที่เขาเรียกว่าบ้าน นี่มันวังชัดๆ มองดูด้วยตาเปล่าฉันไม่สามารถประเมินราคาคฤหาสน์หลังนี้ได้เลยเพราะมันใหญ่โตมากจริงๆ “ชอบไหม ?” มังกรหันมาถามฉันพร้อมกับเอามือมากอดเอวฉัน ตอนนี้เรากำลังยืนอยู่หน้าคฤหาสน์“ชอบสิคะ ของฟรีใครจะไม่ชอบ ^_^”“ใครบอกว่าฟรี เธอต้องเอาตัวมาขั
วันต่อมา.... “วันศุกร์ วันศุกร์ ตื่นสิวะเธอจะนอนกินบ้านกินเมืองไปถึงไหน” เสียงของมังกรปลุกฉัน มันไม่เหมือนที่ฉันคิดเอาไว้เลยว่าถ้าฉันให้อภัยเขาแล้ว ตื่นมาตอนเช้ามังกรเขาจะจูบลงที่หน้าผากฉันเบาๆ พร้อมกับกระซิบบอกที่ข้างหูของฉันว่า ‘อรุณสวัสดิ์ที่รัก’ บนหัวเตียงจะต้องมีนมร้อนวางไว้ให้ฉันดื่ม โอเค ฉันคงจะเพ้อฝันมากไป ตอนนี้มังกรเขย่าร่างฉันแรงๆ จนหัวฉันสั่นคลอนไปหมดเพื่อปลุกให้ฉันตื่น “อื้อ ตื่นแล้ว” ฉันบอกมังกร พร้อมกับลืมตาขึ้นมองหน้าเขา “ไปฝากครรภ์” “อื้อ” “เป็นอะไร ทำไมทำหน้าแบบนั้น” มังกรขมวดคิ้วเป็นปมถามฉัน เขาไม่รู้ตัวเลยหรือไง รู้แบบนี้ไม่ให้อภัยซะยังดีกว่า“คุณน่ะ ช่วยทำตัวอ่อนโยนกว่านี้มันจะตายหรือไง” “เธอดูหน้าฉันด้วย นี่ฉันซื้อน้ำหอมขวดละล้านเพื่อมาเอาใจเธอแบบนี้อ่อนโยนพอยัง” ฉันพ่นลมหายใจออกมาแรงๆ ฉันผิดเองที่หวังว่ามังกรเขาจะอ่อนโยนมากกว่านี้ “รู้แบบนี้ฉันไม่ให้อภัยคุณหรอก” “ทำไมเธอพูดแมวๆ แบบนี้ล่ะวันศุกร์” มังกรยืนเท้าเอวจ้องหน้าฉันตาเขม็ง “อึก อึก...” ฉันยกมือขึ้นมาปิดปากก่อนจะรีบวิ่งเข้าห้องน้ำไปอ้วก ครั้งนี้ฉันปิดประตูล็อกกลอนไม่ปล่อยให้มังกรเขาเข้ามาลูบห
ฉันเม้มปากแน่น รู้สึกว่าตัวเองกำลังใจอ่อนให้กับลูกอ้อนของมังกร เขากำลังพังกำแพงในใจของฉันได้สำเร็จ ทั้งที่ฉันลืมเรื่องที่เขาทำไม่ได้ก็จริง แต่ฉันก็อยากจะเริ่มต้นใหม่กับเขาดูอีกครั้ง... “คุณ คุณจะไม่ทำร้ายฉันอีกใช่ไหม...”ตึกตัก ตึกตัก! เสียงหัวใจดวงน้อยๆ ของฉันมันเต้นรัวขึ้นมาทันทีที่ฉันเริ่มเปิดใจรับฟังเขา “ฉันจะทำแบบนั้นไปเพื่ออะไรในเมื่อฉันรักเธอมากขนาดนี้” “อย่างคุณเชื่อได้จริงหรือเปล่า” ฉันมองมังกรอย่างชั่งใจ“ให้ฉันพิสูจน์ให้ดูไหม ?” “ยังไง ?” ฉันขมวดคิ้วเข้าหากันเป็นปม แต่มังกรเขายิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ออกมา มือหนาปล่อยมือของฉันออกจากนั้นมังกรก็ยืนขึ้นเต็มตัว เขาถอดเสื้อออกโยนทิ้งไปด้านหลังก่อนจะเลื่อนมือลงไปปลดเข็มขัดกางเกงของตัวเองออกเช่นกัน “จะทำอะไร !!” ฉันพูดเสียงดัง ทั้งที่รู้อยู่เต็มอกยังจะถามเขาอีก “อย่างเธอพูดปากเปล่าคงไม่เชื่อ ก็เลยจะให้ดูการกระทำไง...” “นี่ คุณ ฉะ ฉันท้องอยู่นะ” “จะพิสูจน์ เบาๆ” มังกรกระตุกยิ้มมุมปากก่อนที่เขาจะถอดกางเกงยีนส์ราคาแพงออก “ฉันยังไม่หายโกรธ !!”“งั้นเหรอ หื้มม” ตอนนี้ร่างกายของมังกรเหลือเพียงบ็อกเซอร์แค่ชิ้นเดียว เขาดูจะไม่สะทกสะ
ฉันเงียบและรีบเดินหนีมังกรทันทีเพราะรู้สึกว่าตอนนี้หน้าของฉันมันคงจะแดงเถือกจนผิดสังเกต “อ้าวพริ้ง พี่สิงห์ ไปไหนกันมาเมื่อวานไม่เห็นอยู่ที่บ้านเลย ?” ฉันกำลังจะเดินขึ้นไปบนห้องแต่เผอิญเจอกับพริ้งและพี่สิงห์กำลังเดินมาพอดี “ยุ่ง !!” พี่สิงห์พูดขึ้น คิดว่าฉันไม่รู้หรือไง แค่ไม่อยากจะถามอะไรให้มันวุ่นวายเฉยๆ หรอก เพราะฉันก็ไม่ใช่คนดีอะไร “พี่วันศุกร์จะกลับเมื่อไหร่คะ พริ้งอยากกลับแล้ว” พริ้งถามฉัน “เหอะ !!” พี่สิงห์สบถออกมาในลำคอเบาๆ เขาเอาลิ้นดันกระพุ้งแก้มอย่างไม่สบอารมณ์นัก“เดี๋ยวก็กลับแล้วอีกวันสองวัน....” “ไม่กลับ พวกคุณกลับไปกันได้เลยวันศุกร์จะไม่ไปไหนทั้งนั้น” ฉันพ่นลมหายใจออกมาอย่างเบื่อหน่ายเมื่อมังกรพูดขัดคำพูดของฉัน ไม่รู้ว่าเขาเดินมาได้ยินเรื่องที่ฉันกับพริ้งคุยกันตั้งแต่เมื่อไหร่ “เอ๊ะ ทำไมพี่เขาถึงได้ออกจากโรงพยาบาลเร็วนักล่ะคะ วันก่อนยังอาการหนักอยู่เลยนี่นาพริ้งจำได้” พริ้งมองมังกรแววตาเต็มไปด้วยความสงสัย “....” ฉันเงียบไม่รู้จะตอบน้องมันไปว่ายังไงดี “เธอนี่ชอบยุ่งเรื่องคนอื่นจังวะ เป็นเด็กเป็นเล็กจะสงสัยเอาอะไร” พี่สิงห์ดุพริ้งเสียงดัง “พริ้งแค่ถาม ทำไมต้องม
ฉันรีบผลักมังกรออกก่อนจะรีบวิ่งเข้าไปในห้องน้ำ เพื่อไปอ้วก ไม่รู้เป็นอะไร จู่ๆ ก็เหม็นกลิ่นตัวมังกรจนหน้ามืด “อึก อึก อ้วกกก....” ฉันนั่งกอดชักโครกและโก่งคออ้วกจนแทบจะหมดแรง จากที่ร้องไห้เมื่อกี้ฉันหยุดร้องแล้ว “วันศุกร์...” “อึก อ้วก ออกไปฉันเหม็น !!” ฉันดันมังกรให้ออกไป แต่เขากลับไม่ยอม “ฉันแค่จะลูบหลังให้ ทำไมต้องทำท่ารังเกียจขนาดนั้นด้วยวะ !!” “อึก เหม็น อ้วกกก ออกไป!!” ฉันหันไปตวาดมังกรเสียงดังลั่น ครั้งนี้มังกรยอมออกไปแต่โดยดี ฉันถอนหายใจออกมายาวๆ หน้ามืดจะเป็นลมอยู่แล้ว นี่ถ้ามังกรไม่ออกไปนะฉันต้องเป็นลมแน่ๆ หลังจากอ้วกเสร็จฉันก็เดินหน้าซีดเผือดออกมาจากห้องน้ำ ฉันทิ้งร่างกายที่ใกล้จะหมดแรงล้มนอนลงไปบนเตียงโดยไม่สนใจเลยว่ามังกรจะนอนอยู่ด้วย ตอนนี้ฉันไม่สนใจอะไรทั้งนั้น มันเหนื่อย แต่!!! ยังไม่ทันที่ฉันจะหลับตา ฉันก็ต้องรู้สึกผะอืดผะอมอยากจะอ้วกอีกแล้ว มันเหม็นกลิ่นอีตามังกรจริงๆ นะ ยิ่งอยู่ใกล้นี่ขึ้นคอเลย “ออกไปไกลๆ ได้ไหม ไปนอกห้องได้ยิ่งดีฉันบอกว่าเหม็นไม่เข้าใจหรือไง !!” “อะไรวะ ฉันคนนะไม่ใช่ถังขยะ อีกอย่างน้ำหอมฉันขวดละสามแสนเธอจะมาบอกว่ามันเหม็นได้ไง” “ถ้าคุณไม่
ฉันกลับมาที่บ้านโดยมีลูกน้องของมังกรเป็นคนขับรถมาส่งถึงบ้านแถมยังเดินตามติดฉันเข้าไปในบ้านอย่างกับเงา เพราะมังกรสั่งให้ตามฉัน“ตามมาทำไม ฉันถึงบ้านแล้วกลับไปสิ” ฉันหยุดเดินก่อนจะหันหลังไปบอกลูกน้องของมังกร “นายสั่งว่าให้ตาม....”“ถ้าฉันเข้าห้องน้ำก็ต้องตามด้วยงั้นสินะ !!” ฉันสวนกลับทันควัน “เอ่อ....”“รอที่หน้าบ้านฉันไม่หนีไปไหนหรอก” พูดจบฉันก็เดินเข้าบ้าน ส่วนลูกน้องของมังกรยังดีที่ยังเชื่อฟังไม่เดินตามฉันมาในบ้าน ฉันไม่น่าไปหลงกลคนอย่างเขาเลย ผู้ชายอะไรหลอกกันอยู่ได้ เห็นความรู้สึกของฉันเป็นของเล่นหรือไงกัน “วะ วันศุกร์จะมาทำไมไม่โทรมาบอกพี่ก่อน” พี่ไม้พอเห็นฉันกลับมาบ้านก็มีท่าทางแปลกๆ ทั้งที่เห็นน้องสาวมาน่าจะดีใจ แต่กลับทำหน้าตกใจอย่างกับเห็นฉันเป็นผีอย่างไงอย่างงั้น “จะมาบ้านตัวเองต้องโทรรายงานด้วยหรือไง พี่ไม้โกหกวันศุกร์แบบนี้ได้ยังไง ทำไมต้องช่วยคนแบบนั้นพี่ไม้ก็รู้ว่า....” เสียงของฉันกลืนหายเขาไปในลำคอทันทีเมื่อเห็นผู้หญิงที่เดินมาหยุดด้านหลังของพี่ไม้ มันคงไม่ใช่เรื่องแปลกและเรื่องใหญ่ถ้าพี่ชายของฉันจะพาผู้หญิงเข้ามาในบ้าน แต่ผู้หญิงคนนั่นคือ.....ภรรยาเก่าของมังกร“
มังกรเบิกตากว้างก่อนจะก้มมองที่ขาของตัวเอง เหมือนว่าเขาลืมตัว“อ่ะ เอ่อ คือฉัน แบบว่ามัน มันไม่ใช่แบบนั้น...” เขาพูดโดยที่ไม่กล้าเงยหน้าขึ้นมาสบตากับฉันเลย “ไม่ใช่แบบนั้นงั้นเหรอ แล้วที่คุณเดินลงมาจากเตียงมันคืออะไร เพิ่งเดินได้งั้นสิ !!”“วันศุกร์ฉันมีเหตุผล ถ้าฉันไม่....”เพียะ!! ไม่รอฟังเขาพูดจบ ฉันฟาดฝ่ามือใส่หน้าของมังกรเต็มแรงจนหน้าเขาหันไปตามแรงตบของฉัน เขาเอาความรู้สึกของฉันมาล้อเล่นแบบนี้ได้ยังไง ฉันเป็นห่วงเขามากขนาดไหน มันคงเป็นเรื่องสนุกสำหรับเขาสินะ “อย่ามายุ่งกับฉันอีก !!” พรึบ!! ฉันผลักแผงอกแกร่งของมังกรออกจากตัว เหมือนเขากำลังเหม่อเลยทำให้มือที่จับแขนฉันอยู่หลุดออกไปตามแรงผลักของฉันด้วย “เธอนั่นแหละอย่ายุ่งกับมัน ถ้าเธอออกไปกับมันฉันจะสั่งให้ลูกน้องเก็บมันทันที ถ้าไม่เชื่อเธอก็ลองท้าทายฉันดูสิวันศุกร์”“มังกร คุณไม่มีสิทธิ์มา อื้อ...” จู่ๆ มังกรก็ยกมือขึ้นมาประคองใบหน้าของฉันเอาไว้ ก่อนที่เขาจะโน้มใบหน้าลงมาประกบริมฝีปากจูบฉันโดยที่ฉันยังไม่ทันได้ตั้งตัว “อื้อ อื้ออออ” ฉันใช้มือทุบไปที่กลางแผงอกแกร่งของมังกรรัวๆ แต่เขาดูไม่สะทกสะท้านอะไรเลยสักนิด เขามาจูบฉันโช