สามวันต่อมา“ตามเข้ามาทำไม” รวงข้าวเหลียวหลังไปถามร่างสูงที่เดินตามเข้ามาในห้องน้ำ“อาบพร้อมกัน จะได้ไม่เสียเวลา” เขาตอบออกไป ทั้ง ๆ ที่ไม่ได้คิดอย่างที่พูด“ไม่เอา จะอาบคนเดียว” รวงข้าวดันแผงอกให้ออกจากห้องน้ำ“...” คริสเตียนไม่คิดจะฟังคำพูดรวงข้าว ดึงผ้าขนหนูจากเอวจนเผยให้เห็นงูยักษ์ที่กำลังตื่นพร้อมรบเหมือนกับเจ้าของ“นี่คุณคริส...ปิดเลยนะ” รวงข้าวรีบหันหลังให้ แล้วแหวเสียงกลับไป ไม่ใช่ว่าเขินอาย แต่เธอเบื่อหน่ายกับนิสัยชอบอวดของเต็มที“นั่ง” เขาไม่คิดจะฟังอะไรทั้งสิ้น เอื้อมมือจับมือบางให้เดินตามเข้าไปด้านใน ก่อนที่คริสเตียนจะดันให้รวงข้าวนั่งบนฝาชักโครก ทำให้งูยักษ์อยู่ตำแหน่งเดียวกับปากบางสีหวาน“คุณคงไม่ได้หมายถึง...” รวงข้าวเงยหน้าถามแล้วเลื่อนสายตาลงมาจ้องมองบางอย่างตรงหน้าที่กำลังชี้มาเกือบสัมผัสกันกับปากของเธอ“อ้าปาก” คริสเตียนเอื้อมมือมาลูบศีรษะ ค่อย ๆ ไล่นิ้วเรียวลงมาแตะริมฝีปากเบา ๆ ใช้หัวแม่มือบี้ปากแล้วยัดนิ้วเข้าไป“อื้อ..คุณคริส”“อมให้หน่อยนะ...รวงข้าว” ร่างสูงก้มลงมากระซิบเสียงกระเส่าสื่ออารมณ์หมายชัดเจน ออดอ้อนตามฉบับผู้ชายดิบเถื่อน“ไม่เอา ฉันเหนื่อยไปหมดแล้ว”เ
พึ่บ! สายตาคู่หวานก้มหาบางอย่างที่เก็บไว้เป็นอย่างดี ทว่าตอนนี้มันไม่ได้อยู่ที่เดิมอีกแล้ว“ไปไหนนะ” รวงข้าวบ่นด้วยความสงสัย ปกติแล้วเธอไม่ใช่คนขี้ลืม แต่ทำไมถึงหาไม่เจอ“อยู่ไหนเนี่ย” เธอเปิดลิ้นชักค้นทุกโต๊ะ ผลก็ออกมาเหมือนเดิม“คุณคริสจะเอาไปรึเปล่า” คิ้วเล็กขมวดเข้าหากันอย่างคิดไม่ตก "แต่เขาจะเอาไปทำไม" จนสุดท้ายต้องออกจากห้องนอนเพื่อไปถามเจ้าของห้องที่กำลังทำงานอยู่เพื่อต้องการรู้ความจริงตึกตึก...รวงข้าวสาวเท้าเข้าไปหย่อนตัวใกล้ ๆ กับคริสเตียนที่กำลังดูบางอย่างในโน้ตบุ๊ก“หืม!?” ไม่ทันที่รวงข้าวจะเอ่ยถาม เขาก็วางทุกสิ่งที่กำลังทำเพื่อหันมาสนใจรวงข้าว“คุณเห็น...” เธอเงียบไปสักพักชั่งใจว่าจะถามออกไปดีไหม“ว่าไง เห็นอะไร” คริสเตียนถามกลับทันที“ยาคุม คุณเห็นรึเปล่า” แต่แล้วรวงข้าวก็ตัดสินใจเอ่ยถามอย่างไม่ลังเลอีกต่อไปเพราะมันคือสิ่งสำคัญที่ไม่อยากให้เกิดขึ้นในจังหวะที่สถานการณ์ไม่แน่ชัด ไม่รู้ว่าชายหนุ่มข้าง ๆ สามารถฝากหัวใจให้ดูแลได้เต็มร้อยรึเปล่า“ฉันเอาไปทิ้งแล้ว” เขาตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงปกติ“ฮะ!! คุณจะบ้าเหรอ ทำไมคุณทำอย่างนี้”ทำเอารวงข้าวใจหายแว๊บไม่คิดว่าจะเป็นฝีมือคริสเต
“ฮึก!” หญิงสาวหันหลังหลบมุม ความสุขชั่วคราวที่เกิดขึ้นหายไปในชั่วพริบตา“นี่เราโดนหลอกเหรอ” ไม่พึมพำกับตัวเองนาน เรียวขายาวก้าวเดินหน้าทันที ครั้งนี้คงเป็นโอกาสเดียวที่จะหนีไปให้ไกลที่สุด“ตกลงจากเหยื่อกลายเป็นว่าที่พี่สะใภ้อย่างที่ยัยเค้กบอกจริงด้วย”“ไม่ใช่!!”“ไม่ใช่ก็ไม่ใช่” คำพูดของคริสเตียนยังคงวนเวียนในสมองซ้ำแล้วซ้ำเล่า ฝีเท้าเล็กแทรกตัวเข้าไปในลิฟต์ สะอื้นออกมาอย่างอัดอั้นไม่ได้ รวงข้าวไม่สนสายตาที่กำลังมองมารอบ ๆ ตัวเธอ ปล่อยให้น้ำตาได้เป็นเครื่องยืนยันว่าครั้งนี้เธอเจ็บปวดมากแค่ไหนกับความผิดหวัง“รวงข้าวต้องอยู่กับกูจนกว่าจะรู้ความจริงทั้งหมด”“ฉันมีค่าแค่นี้ใช่ไหม” คราวนี้รวงข้าวตะโกนออกมา ปาดน้ำตาที่ไหลรินเปรอะเปื้อนสองแก้มนวล เมื่อประตูลิฟต์เปิดออกไม่รอให้ความเสียใจอยู่กับตัวเองนาน รีบสาวเท้าวิ่งออกจากโรงแรมทันที@อีกด้าน“พี่จะหลอกเขาเหรอ” เคนตะถามออกไปเสียงดัง ไม่ค่อยชอบวีธีการของพี่ชายสักเท่าไหร่“ไม่ได้หลอกเว้ย” ทว่าคริสเตียนก็เอ่ยออกมาน้ำเสียงจริงจังเช่นกัน“ไม่หลอกก็เหมือนหลอกนั่นแหละ” เคนตะยังคงคิดอย่างที่พูด“ไม่ได้หลอก กูต้องสนความปลอดภัยของทุกคน”“แล้วไม่แคร์คว
“อะไรวะ กล้องตลอดทาง มันจะไม่เห็นได้ไง” คริสเตียนกระแทกเสียงไม่พอใจคำรายงานของอดัม สายตาคมตอนนี้แดงเดือดเต็มที่ ภายในใจร้อนรนไปหมดแทบจะพลิกแผ่นดินหาให้รู้แล้วรู้รอด“นั่นดิ” เคนตะเสริมต่อ โอกาสที่กล้องทุกตัวเสียพร้อมกันมันเป็นเหตุที่โจ่งแจ้งเกินไปจนทำให้คิดว่างานนี้ต้องมีที่มาที่ไปอย่างแน่นอน“ไม่เห็นจริง ๆ ครับ กล้องไหนที่สามารถจับภาพมุมที่คุณรวงข้าวหนีได้ ภาพก็ดันเบลอหรือมืดหมด”“...” คำตอบของอดัมเป็นไปตามคาดอย่างที่สองพี่น้องคิดไว้“กล้องของโรงแรมล่ะ” ทำให้คริสเตียนถามเพื่อแน่ใจอะไรบางอย่าง“เห็นแค่ด้านหน้าโรงแรมหลังจากนั้นไม่มีอีกเลย” อะเดลช่วยเสริมรายงานจากที่ได้ข้อมูลมา“กูหมายถึงในโรงแรมตั้งแต่บนดาดฟ้า”“ครับ...ผมเซฟข้อมูลในมือถือมาด้วยครับ” อะเดลเข้าใจทันทีว่าเจ้านายต้องการดูอะไร“เปิดให้กูดูหน่อย” ร่างสูงใหญ่เท้าสะเอวยื่นมือเพื่อตรวจเช็กอย่างรอบคอบ เขาต้องการดูให้แน่ชัดว่ารวงข้าวหนีไปเพราะคำพูดของเขา ไม่ใช่ตั้งใจจะหนีไปจากกันจริง ๆ และการหนีครั้งนี้ที่ไม่ใช่การหนีเพียงผู้หญิงตัวคนเดียวแต่ได้รับการช่วยเหลือจากคนที่มีอำนาจเหนือเขาภาพในลิฟต์มันตอกย้ำชัดเจนว่าเกิดจากคำพูดของเขา
“เตรียมเครื่อง กูจะไปเชียงใหม่!!” ร่างสูงใหญ่เดินหน้านิ่งออกคำสั่งตามที่คิดไว้ เขาไม่อยากรออะไรอีกแล้ว สิ่งที่ทำผิดพลาดไว้เขาต้องรีบแก้ไขทั้งเรื่องในอดีตและเรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้นสด ๆ ร้อน ๆ“แน่ใจนะครับว่าคุณรวงข้าวจะหนีไปหลบที่เชียงใหม่ มันง่ายเกินไปไหม” อดัมแสดงความคิดเห็น และเอ่ยสรรพนามใหม่เมื่อรู้ว่าผู้หญิงคนนั้นมีความสำคัญกับเจ้านายมากแค่ไหน“มันไม่ได้ง่ายอย่างที่คิดหรอก” คริสเตียนมั่นใจอย่างนั้น แต่อย่างน้อยเขาต้องไปถึงเชียงใหม่ก่อนเพราะคิดว่าคนที่พารวงข้าวหนีต้องไม่ใช้เครื่องในการเดินทาง“พี่คริส!!” คัพเค้กวิ่งตามออกมาด้วยความเป็นห่วง“...” คริสเตียนเหลียวหน้ากลับไปมองตามเสียงเรียก“ให้เค้กไปด้วย” ก่อนจะไปยืนด้านหน้าพี่ชายหมับ!“พี่ไม่ได้ไปเที่ยว อยู่ที่นี่แหละ” มือหนายื่นออกไปลูบศีรษะอย่างอ่อนโยน ถึงแม้ตอนนี้ภายในใจจะร้อนรนมากก็ตาม“แต่เค้กเป็นห่วงพี่รวงข้าว กลัวจะเกิดอันตราย” คัพเค้กเอ่ยออกมาสีหน้าสลดไม่น้อย“ปู่ไม่ทำอะไรร้ายแรงหรอก แค่กีดกันไม่ให้สมหวังเท่านั้นเอง” เคนตะเดินตามมาติด ๆ ก่อนจะเอ่ยเสริมต่อจากความคิดคัพเค้ก“ใครจะไปรู้ ปู่ไม่เคยเก็บใครไว้สักคน” เธอรู้ดีว่าตระกู
เอี๊ยดดด!!“โธ่เว้ย ทำไมต้องเป็นแบบนี้ด้วยวะ” คริสเตียนหักหลบพวงมาลัยเข้าข้างทางด้วยความโมโหที่วันนี้...วันทั้งวันไม่ได้เบาะแสอะไรสักอย่างก๊อกๆ...อดัมอะเดลขับรถตามหลังมาติด ๆ จึงจอดรถเพื่อลงไปหาเจ้านาย“นายครับกลับไปพักก่อนเถอะครับ หักโหมแบบนี้เดี๋ยวจะวูบเอาได้” เมื่อคริสเตียนลดกระจกรถลง อดัมเอ่ยด้วยความเป็นห่วง“พวกมึงตามกูมาทำไมวะ” แต่คริสเตียนกลับตะคอกใส่ มองลูกน้องสองคนอย่างไม่สบอารมณ์นัก แทนที่จะไปทำหน้าที่ตัวเองแต่กลับมาตามเขา โดยที่ไม่ได้เกิดประโยชน์อะไรสักนิด“ผมกลัวว่านายจะใจร้อนจนเป็นอันตราย” อะเดลเอ่ยขึ้นมาบ้าง ยิ่งตอนนี้เจ้านายหนุ่มไม่มีสติพอที่จะทำอะไรได้ ในใจยังคงวนเวียนแค่เรื่องเดียว ยิ่งหาไม่เจอยิ่งทำให้ความร้อนรุ่มปะทุออกมายากที่จะควบคุมปึง!!“มึงแช่งกูเหรอฮะ!!” คริสเตียนเปิดประตูลงจากรถเข้าไปกระชากคอเสื้ออะเดลทันที“ไม่ใช่อย่างนั้นครับนาย...ไอ้อดัม” มือหนาของอะเดลจับมือคริสเตียนไว้ ก่อนจะเอ่ยเรียกชื่อคนข้าง ๆ เพื่อให้ทำไรสักอย่าง“ใจเย็น ๆ ก่อนครับนาย...”“...กูว่ามึงเข้าไปขับแทนนายเถอะ” ก่อนที่อดัมจะกระแทกไหล่ให้อะเดลหลบเข้าไปในรถ“มึงคิดว่านายจะยอมเหรอวะ”ทว่าอะเ
สามเดือนผ่านไปอุ๊บ!แหวะ!“แม่ข้าว แม่ข้าวเป็นอะไร” คิมหันต์วิ่งเข้าไปยืนข้าง ๆ มองดูแม่บุญธรรมที่กำลังอาเจียนอย่างหนักตลอดเวลาหนึ่งอาทิตย์ที่ผ่านมา“เข้าบ้านไปก่อนคิม เดี๋ยวแม่ข้าวดีขึ้น จะตามเข้าไป” มือบางของรวงข้าวดันให้เด็กน้อยเข้าไปในบ้าน“ไม่เอา คิมอยากดูแม่ข้าว”“คิมหันต์!!” ทำให้รวงข้าวกดเสียงเรียกชื่อเพื่อไม่ให้แสดงความดื้อรั้นออกมา“ก็ได้ครับ” คิมหันต์หน้าจ๋อย เดินคอตกเข้าบ้านทันทีหญิงสาวมองดูเด็กชายผิวขาวจนลับสายตา มือบางยกขึ้นมาลูบหน้าอกตัวเอง ครุ่นคิดถึงอาการที่กำลังเป็นอยู่“ไม่จริงใช่ไหม” ก่อนที่รวงข้าวจะเลื่อนมือลงมาลูบหน้าท้องแบนเรียบอย่างสงสัย ตอนแรกเข้าใจว่าเป็นเพราะความเครียดเลยทำให้ประจำเดือนเคลื่อน ทว่าอาการที่เป็นอยู่มันฟ้องชัดว่าสิ่งที่กลัวมาตลอดกำลังจะเกิดขึ้น“เราจะทำยังไงดี” รวงข้าวแทบหมดแรง ไม่มีเรี่ยวแรงจะยืนต่อ ค่อย ๆ หย่อนตัวนั่งเก้าอี้ไม้หลังบ้าน ตั้งสติเพื่อแก้ปัญหาทุกอย่างตึก!ตึก!“รวงข้าว ไหวไหมบอกป้าได้นะ” แย้มยายของคิมหันต์เดินเข้ามานั่งข้าง ๆ หลังจากที่คิมหันต์วิ่งไปตามที่กระท่อม“...” รวงข้าวส่ายหน้า จนปัญญากับเรื่องที่เกิดขึ้น เธอไม่รู้จะรับ
ร่างสูงใหญ่ลงจากเครื่องบินเจ็ทส่วนตัว ใบหน้าซูบโทรมเริ่มจะมีความหวังขึ้นมาบ้าง เมื่อมองรอบ ๆ ที่เป็นดอยห่างไกลจากในตัวเมืองค่อนข้างมาก ความจริงที่นี่เขาเคยให้ลูกน้องมาตามหาแล้วครั้งหนึ่งแต่กลับไม่มีเบาะแสอะไรสักอย่าง ทว่าครั้งนี้เขารู้สึกถึงความหวังสุดท้าย รู้สึกถึงการรอคอยตลอดสามเดือนกำลังจะสมหวัง“มืดค่ำแบบนี้ แน่ใจนะครับว่าจะเข้าไปในบ้านหลังนั้นจริง ๆ ” อดัมถามออกมา กวาดสายตามองรอบ ๆ ที่ตอนนี้ ดึกเกินกว่าจะรบกวนคนในบ้าน“กูไม่รออะไรทั้งนั้น” คริสเตียนตอบพร้อมก้าวเท้าต่อไปตามที่ลูกน้องรายงานพิกัดคริสเตียนมองบ้านที่มีขนาดเล็ก ข้าง ๆ ล้อมรอบด้วยต้นไม้ หากรวงข้าวอยู่ที่นี่จริง ปู่ของเขาก็เล่นได้แสบมาก ที่ปล่อยให้เมียเขาอยู่ตามลำพังท้ายหมู่บ้าน เห็นทีต้องเคลียร์บางอย่างกับปู่บ้างแล้วก๊อก ๆก๊อก ๆ“ใครครับแม่ข้าว” คิมหันต์ลุกขึ้นนั่งตามรวงข้าว เงยหน้าอย่างงัวเงีย“คิมนอนต่อเถอะ เดี๋ยวแม่ข้าวไปเปิดเอง”“ไม่เป็นไรครับ คิมไปเปิดเอง” ทว่าคิมหันต์ไม่ยอม กระโดดลงจากเตียงเพื่อไปทำหน้าที่แทนแม่บุญธรรม เพราะเข้าใจว่าเป็นยายตัวเองแอ๊ดดด~ดวงตาคมกวาดสายตาเข้าไปในตัวบ้านเมื่อมีคนเปิดประตูให้ ทว่า
อาฟเตอร์ปาร์ตี้ หลังจากรวงข้าวตอบรับการแต่งงาน คริสเตียนก็เร่งงานภายในหนึ่งอาทิตย์เพื่อให้รวงข้าวสวมใส่ชุดเจ้าสาวได้สวยที่สุด ก่อนที่เจ้าตัวน้อยในท้องจะแสดงฤทธิ์เดชเผยให้ทุกคนได้เห็น“ไม่รู้จะมีอาฟเตอร์ปาร์ตี้ทำไม” คริสเตียนบ่นออกมาเพราะเขาอยากเข้าหอเต็มทีแล้ว“คุณเคนตะรีเฟสมาครับ ผมไม่กล้าขัดเลยจัดตารางงานตามนี้” อดัมรายงานทันที“แล้วไหนคนที่อยากอยู่งานปาร์ตี้ที่สุด หายหัวไปไหนแล้ว” สายตาคมกวาดสายตามองหาน้องชายสุดแสบ ที่ปล่อยให้แขกในงานสนุกกันเอง ทั้ง ๆ ที่เป็นแขกของเคนตะทั้งนั้น“ผมเห็นขึ้นลิฟต์ไปสักพักใหญ่แล้วครับ” อะเดลเอ่ยตามที่เห็น“คัพเค้กไปตามพี่เคน บอกให้ลงมาในงานได้แล้ว” คางูยะนั่งฟังบทสนทนาของหลายชายคนโตก่อนจะบอกหลานสาวเพียงคนเดียวที่นั่งร่วมโต๊ะอยู่ด้วย“ทำไมต้องเป็นเค้กด้วยล่ะคะ” ทำเอาคัพเค้กถึงกับหน้าบึ้งตึง ย่นจมูกส่ายหน้าไม่ยอมลุกจากเก้าอี้ง่าย ๆ“ไปเถอะเค้ก ในงานก็มีแต่เพื่อนไอ้เคน บอกให้มันมารับแขกหน่อย” เจ้าบ่าวป้ายแดงรีบเอ่ยอีกเสียง เหลือบมองเจ้าสาวเป็นระยะ ยิ่งชุดที่รวงข้าวสวมใส่เผยให้เห็นร่องอกขาวเนียน จนเขาแทบจะอดใจไม่ไหวอยู่แล้ว“ลูกน้องพี่คริสก็มี ทำไมไม่ใช้บ
รวงข้าวทอดสายตามองตามนิ่ง ๆ เมื่อคริสเตียนเดินออกไปจากจุดนั้น“ตามผัวไปสิวะ ยืนเซ่ออยู่ทำไม” วิมลดันแผนหลังลูกสาวเพื่อกระตุ้นเตือน“...” ทว่ารวงข้างยังคงยืนเฉยเมย ลังเลว่าทุกอย่างคือความจริงใช่ไหม ไม่มีฉากบังหน้าอะไรตบตาเธออีก“อ้าวอีนี่ เอาใจผัวอะเป็นไหม คงไม่อยากให้ลูกในท้องไม่มีพ่อหรอกนะ” หญิงวัยกลางคนถึงกับเกาศีรษะ เบื่อหน่ายนิสัยเย็นชาเต็มที“...”“ไปสิวะ!!” ก่อนที่วิมลจะดันให้รวงข้าวยอมก้าวเท้าตามออกไปตึก!ตึก!“ปู่” คริสเตียนเอ่ยเรียกคางูยะไว้ ก่อนที่มาเฟียเฒ่าจะขึ้นเครื่องบินเจ็ทกลับไปซะก่อน “จะตามฉันออกมาทำไม ไม่ไปดูแลลูกเมียแกล่ะ” คางูยะไม่คิดจะหันกลับไปมอง ไม่ได้โกรธเคืองอะไรทั้งสิ้น แค่ไม่พร้อมที่จะเผชิญหน้ากับสิ่งที่ตัวเองสะสางไม่เสร็จ“ผมเข้าใจทุกอย่างที่ปู่ทำแล้ว ต่อไปผมจะเป็นคนสืบเรื่องนี้ จะไม่ปล่อยเวลาให้สูญเปล่าอีก”กึก!“ต่อไปแกอย่าลืมนะ ว่าจุดอ่อนของแกคือลูกและเมีย” คางูยะหันมาบอกด้วยสีหน้าสลด“ครับ ผมจะรีบจัดการให้เร็วที่สุด ก่อนรวงข้าวจะคลอด” เขาให้สัญญาและทุกอย่างจะต้องเป็นไปตามที่พูด“...” มาเฟียเฒ่าพยักหน้า แล้วหมุนตัวกลับไปขึ้นเครื่องบินตามเดิมคริสเตียนยื
แม่!!” รวงข้าวมองหญิงวัยกลางคนที่เดินเข้ามาหยุดตรงหน้า พร้อมทั้งชายชราที่ยืนถือไม้เท้าแววตาดุดันพึ่บ! คริสเตียนปล่อยโอบกอดจากร่างบางแล้วหมุนตัวหันไปมองแขกใหม่ทันที“ปู่!!” ก่อนที่เขาจะเอ่ยอย่างตกใจ ไม่คิดว่าคางูยะจะตามมาได้เร็วขนาดนี้ และที่สำคัญกลับพาแม่รวงข้าวมาด้วย งานนี้คงไม่ง่ายอย่างที่คิดไว้“กลับบ้านกับฉัน...คริสเตียน!!” คางูยะกระแทกไม้เท้ากับพื้น น้ำเสียงเอ่ยสั่งเรียบ ๆ แต่ถึงเเม้จะนิ่งเรียบแต่แฝงด้วยอำนาจบางอย่าง“ไม่ครับ ผมจะกลับก็ต่อเมื่อปู่อนุญาตให้เราสองคนได้สร้างครอบครัวด้วยกัน” ร่างสูงไม่เพียงแต่เอ่ยแต่ยื่นมือลงไปจับมือบางไว้แน่น เขาพร้อมที่จะเผชิญทุกอย่างจริง ๆ และไม่คิดจะยอมเเพ้ง่าย ๆ“หึ ดีนี่ทำให้หลานที่เชื่อฟังฉันมาตลอดสามารถออกนอกลู่นอกทางได้ สมใจเธอแล้วสินะ” มาเฟียเฒ่าแสยะยิ้มมองใบหน้าหญิงสาวข้างๆหลานชาย“...” ทุกคนต่างเงียบเกรงกลัวอำนาจในกำมือคางูยะที่สามารถสั่งทำลายล้างทุกสิ่งที่ขวางหน้า“เธอเคยรับปากกับฉันว่ายังไงฮะ!!” ก่อนที่คางูยะจะยื่นไม้เท้าเชยคางรวงข้าวให้เชิดขึ้นต่อหน้าต่อตาทุกคน“หยุดขู่เมียผมสักที เมื่อไหร่ปู่จะปล่อยให้พวกผมมีชีวิตที่เลือกเองบ้าง” คริ
แววตาคมเหลือบมองเด็กชายตัวเล็กผิวขาวที่กำลังนั่งเล่นรอเวลาทานอาหารเช้า คริสเตียนสาวเท้าเข้าไปหย่อนตัวนั่งข้าง ๆ จนทำให้ดวงตาใสบริสุทธิ์จับจ้องคริสเตียนตาแป๋ว“เมื่อไหร่คุณลุงจะกลับ” คิมหันต์วางของเล่นในมือ ขยับตัวออกเล็กน้อย เพราะรวงข้าวเตือนไม่ให้ยุ่งเกี่ยว“เลิกเรียกลุงได้แล้ว” คริสเตียนไม่พอใจนัก แต่ก็เก็บกลั้นเอาไว้“ก็คุณลุงแก่แล้วนี่ครับ”“เฮ้ย! เคยโดนหนังยางดีดปากไหมวะ” แต่แล้วคำพูดที่เอ่ยออกมา ทำเอาคริสเตียนตะคอกกลับไปเสียงเข้ม“น่ากลัว..ว่าแล้วทำไมแม่ข้าวถึงไม่รัก” คิมหันต์ฉีกยิ้มเมื่อเห็นอีกฝ่ายกำลังหน้าบึ้ง“รู้ได้ไงว่าแม่นายไม่รักฉัน อ้อ อีกอย่างต่อไปฉันต้องเป็นพ่อนาย ควรเปลี่ยนคำเรียกซะใหม่” เพราะหลังจากง้อรวงข้าวสำเร็จคงต้องรับคิมหันต์ไปเป็นลูกอย่างถูกกฎหมาย“ผมไม่อยากมีพ่อ แค่แม่ข้าวคนเดียวก็พอแล้ว” คิมหันต์ส่ายไปส่ายมาพร้อมทั้งกอดอกตัวเอง“ไม่ได้!! ถ้างั้นฉันจะไม่ให้นายเป็นลูกเมียฉันอีก” ถึงแม้จะมีน้องชายที่กวนประสาทถึงสองคน แต่ความอดทนเขาเริ่มจะหมดเต็มทีเมื่อต้องมานั่งต่อล้อต่อเถียงกับคิมหันต์“ขู่ผมเหรอ ผมไม่กลัวหรอก” คิมหันต์ยักคิ้วไม่ได้หวาดกลัวสักนิด“...” ทำเอาร่
“อะไรของคุณเนี่ย” รวงข้าวเงยหน้าถามด้วยความสงสัย จู่ ๆ คริสเตียนก็ลากเธอมาหลังต้นไม้“ไล่มันกลับไปเดี๋ยวนี้” ก่อนที่ร่างสูงจะเอ่ยเสียงเข้ม แววตาบ่งบอกชัดเจนว่าหมายถึงใคร“คุณก็เห็นว่าพี่ไดรฟ์ไม่กลับ”“งั้นพี่จัดการเอง” ว่าแล้วก็ปล่อยมือรวงข้าวเพื่อเดินกลับไปที่น้ำตกที่มีอดัมอะเดลค่อยเป็นเกราะคุ้มกันไม่ให้ไดรฟ์เข้าใกล้รวงข้าวได้“หยุดเลย คุณเองก็ควรจะกลับนะ ก่อนที่ปู่คุณจะตามมา” รวงข้าวรีบหยิบยกเรื่องนี้มาขู่ เพราะเชื่อว่าไม่นานคางูยะต้องทำอะไรสักอย่างแน่“รวงข้าว พี่ไม่ใช่เด็ก ๆ แล้วนะ อายุก็เลขสามแล้วสร้างครอบครัวได้สบาย ๆ” ทำให้ร่างสูงหันมาเผชิญหน้ากับรวงข้าวอีกครั้ง แล้วเอ่ยน้ำเสียงจริงจัง“แต่ฉันไม่ใช่ผู้หญิงที่เหมาะกับคุณ” เธอก้มหน้าไม่สบตา ยังจำคำพูดคริสเตียนได้ทุกคำ“เอาอะไรมาวัดว่าไม่เหมาะ อย่าคิดแทนพี่”“อย่ามาพูดดีหน่อยเลย ฉันไม่มีวันหลงกลคุณอีกหรอก” ก่อนที่รวงข้าวจะเบี่ยงหน้าไม่อยากคุยกับคนเจ้าเล่ห์ต่อ“ข้าว...ฟังพี่อธิบายก่อน” คริสเตียนจึงตั้งใจจะอธิบายทุกอย่าง ถึงแม้สถานที่จะไม่อำนวยก็ตาม แต่ดีว่าเข้าใจผิดอยู่แบบนี้ไปเรื่อย ๆ“ข้าวไปกับพี่” ไดรฟ์เข้ามาเอื้อมมือดึงรวงข้าวอ
เช้าวันต่อมาตึกตึก...รวงข้าวเดินวนไปวนมารอบเตียงตั้งแต่หัวรุ่ง ครุ่นคิดหาทางเอาตัวรอดจากร่างสูงนอกห้อง“เราจะให้เขารู้เรื่องนี้ไม่ได้เด็ดขาด” เธอลูบหน้าท้องตัวเองที่มีอีกหนึ่งชีวิต“แต่เราจะหนีเขายังไง แล้วไหนจะเรื่องแม่อีกล่ะ” ถ้าหากคางูยะรู้เรื่องที่คริสเตียนมาตามเธอที่นี่ แม่ของเธอจะเป็นอันตรายไหมคิดได้อย่างนั้นรวงข้าวจึงชะโงกหน้าผ่านทางหน้าต่างเพื่อหาทางแก้ปัญหา ก่อนจะเห็นบอดีการ์ดยืนอยู่รอบบ้าน“ขนมาเยอะขนาดนี้ ไม่รอดอีกแน่” เธอส่ายหน้าเหนื่อยล้ากับสิ่งที่เผชิญ ทำไมความสุขที่เกิดขึ้นในชีวิตเธอมันสั้นนิดเดียว เมื่อไหร่เธอจะมีความสุขกับเขาบ้าง“แม่ข้าว...ทำอะไร” คิมหันต์ลุกขึ้น ใช้นิ้วมือขยี้ดวงตามองรวงข้าวที่กำลังยืนดูบางอย่างนอกหน้าต่าง“เอ่อ..ตื่นแล้วเหรอคิม” ทำให้รวงข้าวหันกลับมาตามเสียง“ครับ”“...” เธอยิ้มจาง ๆ เมื่อใกล้เวลาต้องออกไปเจอร่างสูงในเวลาที่ไม่อยากเห็นหน้าแบบนี้“ว่าไงครับ แม่ข้าวไปทำอะไรที่หน้าต่าง” แต่แล้วคิมหันต์กลับถามสิ่งที่ยังไม่ได้คำตอบต่อ“เปล่า นอนต่ออีกไหม” รวงข้าวจึงเดินไปใกล้ ๆ พร้อมเอื้อมมือลูบศีรษะเด็กชายที่กำลังจ้องเธอตาแป๋ว“ไม่ล่ะครับ คิมออกไปด้า
ร่างสูงใหญ่ลงจากเครื่องบินเจ็ทส่วนตัว ใบหน้าซูบโทรมเริ่มจะมีความหวังขึ้นมาบ้าง เมื่อมองรอบ ๆ ที่เป็นดอยห่างไกลจากในตัวเมืองค่อนข้างมาก ความจริงที่นี่เขาเคยให้ลูกน้องมาตามหาแล้วครั้งหนึ่งแต่กลับไม่มีเบาะแสอะไรสักอย่าง ทว่าครั้งนี้เขารู้สึกถึงความหวังสุดท้าย รู้สึกถึงการรอคอยตลอดสามเดือนกำลังจะสมหวัง“มืดค่ำแบบนี้ แน่ใจนะครับว่าจะเข้าไปในบ้านหลังนั้นจริง ๆ ” อดัมถามออกมา กวาดสายตามองรอบ ๆ ที่ตอนนี้ ดึกเกินกว่าจะรบกวนคนในบ้าน“กูไม่รออะไรทั้งนั้น” คริสเตียนตอบพร้อมก้าวเท้าต่อไปตามที่ลูกน้องรายงานพิกัดคริสเตียนมองบ้านที่มีขนาดเล็ก ข้าง ๆ ล้อมรอบด้วยต้นไม้ หากรวงข้าวอยู่ที่นี่จริง ปู่ของเขาก็เล่นได้แสบมาก ที่ปล่อยให้เมียเขาอยู่ตามลำพังท้ายหมู่บ้าน เห็นทีต้องเคลียร์บางอย่างกับปู่บ้างแล้วก๊อก ๆก๊อก ๆ“ใครครับแม่ข้าว” คิมหันต์ลุกขึ้นนั่งตามรวงข้าว เงยหน้าอย่างงัวเงีย“คิมนอนต่อเถอะ เดี๋ยวแม่ข้าวไปเปิดเอง”“ไม่เป็นไรครับ คิมไปเปิดเอง” ทว่าคิมหันต์ไม่ยอม กระโดดลงจากเตียงเพื่อไปทำหน้าที่แทนแม่บุญธรรม เพราะเข้าใจว่าเป็นยายตัวเองแอ๊ดดด~ดวงตาคมกวาดสายตาเข้าไปในตัวบ้านเมื่อมีคนเปิดประตูให้ ทว่า
สามเดือนผ่านไปอุ๊บ!แหวะ!“แม่ข้าว แม่ข้าวเป็นอะไร” คิมหันต์วิ่งเข้าไปยืนข้าง ๆ มองดูแม่บุญธรรมที่กำลังอาเจียนอย่างหนักตลอดเวลาหนึ่งอาทิตย์ที่ผ่านมา“เข้าบ้านไปก่อนคิม เดี๋ยวแม่ข้าวดีขึ้น จะตามเข้าไป” มือบางของรวงข้าวดันให้เด็กน้อยเข้าไปในบ้าน“ไม่เอา คิมอยากดูแม่ข้าว”“คิมหันต์!!” ทำให้รวงข้าวกดเสียงเรียกชื่อเพื่อไม่ให้แสดงความดื้อรั้นออกมา“ก็ได้ครับ” คิมหันต์หน้าจ๋อย เดินคอตกเข้าบ้านทันทีหญิงสาวมองดูเด็กชายผิวขาวจนลับสายตา มือบางยกขึ้นมาลูบหน้าอกตัวเอง ครุ่นคิดถึงอาการที่กำลังเป็นอยู่“ไม่จริงใช่ไหม” ก่อนที่รวงข้าวจะเลื่อนมือลงมาลูบหน้าท้องแบนเรียบอย่างสงสัย ตอนแรกเข้าใจว่าเป็นเพราะความเครียดเลยทำให้ประจำเดือนเคลื่อน ทว่าอาการที่เป็นอยู่มันฟ้องชัดว่าสิ่งที่กลัวมาตลอดกำลังจะเกิดขึ้น“เราจะทำยังไงดี” รวงข้าวแทบหมดแรง ไม่มีเรี่ยวแรงจะยืนต่อ ค่อย ๆ หย่อนตัวนั่งเก้าอี้ไม้หลังบ้าน ตั้งสติเพื่อแก้ปัญหาทุกอย่างตึก!ตึก!“รวงข้าว ไหวไหมบอกป้าได้นะ” แย้มยายของคิมหันต์เดินเข้ามานั่งข้าง ๆ หลังจากที่คิมหันต์วิ่งไปตามที่กระท่อม“...” รวงข้าวส่ายหน้า จนปัญญากับเรื่องที่เกิดขึ้น เธอไม่รู้จะรับ
เอี๊ยดดด!!“โธ่เว้ย ทำไมต้องเป็นแบบนี้ด้วยวะ” คริสเตียนหักหลบพวงมาลัยเข้าข้างทางด้วยความโมโหที่วันนี้...วันทั้งวันไม่ได้เบาะแสอะไรสักอย่างก๊อกๆ...อดัมอะเดลขับรถตามหลังมาติด ๆ จึงจอดรถเพื่อลงไปหาเจ้านาย“นายครับกลับไปพักก่อนเถอะครับ หักโหมแบบนี้เดี๋ยวจะวูบเอาได้” เมื่อคริสเตียนลดกระจกรถลง อดัมเอ่ยด้วยความเป็นห่วง“พวกมึงตามกูมาทำไมวะ” แต่คริสเตียนกลับตะคอกใส่ มองลูกน้องสองคนอย่างไม่สบอารมณ์นัก แทนที่จะไปทำหน้าที่ตัวเองแต่กลับมาตามเขา โดยที่ไม่ได้เกิดประโยชน์อะไรสักนิด“ผมกลัวว่านายจะใจร้อนจนเป็นอันตราย” อะเดลเอ่ยขึ้นมาบ้าง ยิ่งตอนนี้เจ้านายหนุ่มไม่มีสติพอที่จะทำอะไรได้ ในใจยังคงวนเวียนแค่เรื่องเดียว ยิ่งหาไม่เจอยิ่งทำให้ความร้อนรุ่มปะทุออกมายากที่จะควบคุมปึง!!“มึงแช่งกูเหรอฮะ!!” คริสเตียนเปิดประตูลงจากรถเข้าไปกระชากคอเสื้ออะเดลทันที“ไม่ใช่อย่างนั้นครับนาย...ไอ้อดัม” มือหนาของอะเดลจับมือคริสเตียนไว้ ก่อนจะเอ่ยเรียกชื่อคนข้าง ๆ เพื่อให้ทำไรสักอย่าง“ใจเย็น ๆ ก่อนครับนาย...”“...กูว่ามึงเข้าไปขับแทนนายเถอะ” ก่อนที่อดัมจะกระแทกไหล่ให้อะเดลหลบเข้าไปในรถ“มึงคิดว่านายจะยอมเหรอวะ”ทว่าอะเ