ดวงยิหวาเดินกลับเข้าบ้านหลังจากจัดการงานในไร่เสร็จเรียบร้อยแล้วอย่างเหนื่อยแสนเหนื่อย ดีที่ว่าเธอเป็นคนแข็งแรงจึงสามารถทำงานหนักขนาดนี้ได้ ตอนนี้น้องปราณยังอยู่ดูม้าตัวใหม่กับเปลว เปลวจึงอนุญาตให้เธอกลับบ้านมาก่อนเพราะเห็นว่าทำงานมาทั้งวันแล้ว ก็นับว่าเขายังมีเมตตาบ้าง แต่ก่อนที่หญิงสาวจะก้าวขึ้นชั้นบนสายฝนก็วิ่งกระหืดกระหอบเข้ามาหา ดวงยิหวามองใบหน้าที่เปิดทุกความรู้สึกของสายฝนอย่างขันๆ
“มีอะไรรึฝน...”
“อ้าว ทำไมคุณรู้ล่ะคะว่าฝนมีอะไรจะพูด” สายฝนเกาหัวแกรกๆ ดูน่าขันดวงยิหวายิ้มบางๆ
“ก็มีจริงมั้ยล่ะ”
“เอ่อ มีค่ะมี คือว่า...” แล้วสายฝนก็เล่าให้นายสาวฟังด้วยน้ำเสียงที่ตื่นเต้นจนมองเห็นภาพราวเธออยู่ในเหตุการณ์นั้นด้วยเลยทีเดียว
“ขอบใจนะ” ดวงยิหวาพูดสั้นๆ แล้วทำท่าจะเดินขึ้นห้อง
“อ้าว.. แล้วคุณไม่สงสัยอะไรเลยเหรอคะ...” สายฝนเกาหัวท่าทางเหมือนงงกับท่าทางเฉยๆ ของเธอซึ่งดวงยิหวาพอจะเข้าใจดีว่าทำไมสายฝนจึงสงสัยว่าทำไมเธอจึงไม่แสดงอาการอะไรออกมาที่น้ำหวานมาที่นี่ เพราะใครๆ ก็รู้ว่าระหว่างดวงดาหวันกับ น้ำหวานนั้นมีอะไรๆ ที่ไม่กินเส้นกันอยู่มากมาย การที่คู่ปรับมาถึงที่แบบนี้เธอกลับทำเฉยๆ เสียอย่างนั้นมันไม่น่าจะเป็นไปได้ในความคิดของสายฝนนั่นเอง
“ฝนจะไปซื้อของกับแม่ไม่ใช่เหรอ”
“เอ่อ ค่ะ แล้วเอ่อ...”
“ก็ไปสิจ๊ะ...” ดวงยิหวาเลิกคิ้วมองสาวใช้ด้วยท่าทางที่บอกว่า ไปได้แล้ว สายฝนจึงเดินเกาหัวออกไป ดวงยิหวาละสายตาจากสายฝนแล้วมองขึ้นไปชั้นบนด้วยความรู้สึกอยากจะ ลองของ...
เมื่อมาถึงหน้าห้องเธอก็พบความผิดปกติเล็กน้อยเมื่อได้กลิ่นน้ำหอมที่ไม่คุ้นจมูก เหมือนว่าคนใช้น้ำหอมคนนั้นเทน้ำหอมลงบนฝ่ามือประพรมน้ำหอมบนร่างกายด้วยหรือว่าเทอาบเลยรึเปล่าก็ไม่รู้กลิ่นมันถึงได้ฉุนจัดและติดมาขนาดนี้และกลิ่นคงจะติดมือมาเมื่อหยิบจับอะไรกลิ่นน้ำหอมก็ติดไปด้วย ซ้ำติดลูกบิดประตูห้องของเธอด้วย
ช่างไร้รสนิยมในการใช่น้ำหอมจริงเชียว.. ไม่วายที่ดวงยิหวาจะค่อนแคะคนคนนั้นอย่างอดไม่ได้ หญิงสาวลอบยิ้มแล้วค่อยๆ เปิดประตูห้องด้วยอาการปกติไม่แสดงพิรุธใดๆ เมื่อรู้สึกเหมือนถูกจ้องมอง อยากรู้นักว่าน้องเปรียวจะแกล้งอะไรเธออีก และเจ้าของน้ำหอมกลิ่นนี้เป็นใคร คงไม่ใช่คนที่คิดไว้หรอกนะ
“เฮ้อ เหนื่อยจังเลย ง่วงก็ง่วง ขออาบน้ำให้สบายสบายตัวทีเถอะ เหนียวตัวจะแย่...”
ดวงยิหวาจงใจปิดประตูไม่สนิท เพราะกลัวว่าคนที่แอบดูอยู่จะไม่รู้เห็นว่าเธอกำลังทำอะไร แล้วบทบาทการแสดงของเธอจะเริ่มขึ้น…
“กรี๊ดดดด ว้ายยยยย งูๆๆ กรี๊ดดดด... โอ๊ย...” เสียงกรีดร้องที่ดังลั่นแล้วก็เงียบไปนานของคนในห้องทำให้น้องเปรียวกับน้ำหวานออกมาจากที่ซ่อนด้วยความกระวนกระวายใจ ใบหน้าเด็กหญิงซีดขาวเพราะกลัวว่ามารดาจะถูกงูกัดจริงๆ ในขณะที่น้ำหวานทำหน้ายุ่งยากใจ
อะไรกันนี่ ก็งูนั่นมันไม่มีพิษและตายแล้วนี่นาจะกัดคนได้อย่างไรกัน...
“ไหนอาหวานบอกว่างูไม่มีพิษและมันตายแล้วไงคะแล้ว แล้ว... ทำไมคุณแม่เงียบไปล่ะคะ...” เด็กหญิงทำท่าเหมือนจะร้องไห้ มองประตูที่แง้มๆ อยู่อย่างชั่งใจ
“เดี๋ยวเราเข้าไปดูกันนะคะ ถ้าเกิดอะไรร้ายแรงเราจะได้แก้ไขทันก่อนที่อาเปลวจะมา...”
น้ำหวานบอกเด็กหญิงแล้วค่อยๆ เปิดประตูห้องของดวงยิหวาข้าไป แล้วน้ำหวานกับน้องเปรียวก็เบิกตากว้างอย่างตกใจเมื่อเห็นร่างดวงยิหวาที่นอนนิ่งไม่ไหวอยู่กับพื้นตรงหน้าเตียง
“คุณแม่... แย่แล้ว อาหวานเราจะทำไงกันดีล่ะคะ คุณแม่จะเป็นอะไรรึเปล่าฮือๆๆ” เด็กหญิงเดินเข้าไปหาร่างที่นอนนิ่งของมารดาอย่างกล้าๆ กลัวๆ เพราะความผิดที่ตนเองทำและความเสียใจหากมารดาตายไปจริงๆ
“คะ คงไม่เป็นไรล่ะมั้ง อาจจะ จะ แค่ตกใจจนสลบไป”
น้ำหวานพูดเสียงสั่นแล้วทำท่าจะเดินกลับออกไปด้วยความกลัวว่าตนจะโดนข้อหาทำร้ายคนในบ้านของเปลวจนเสียชีวิต งูนั่นมันไม่มีพิษและมันก็เหมือนจะตายแล้วตอนเอามา มันนอนนิ่งไม่ไหวติงไม่หายใจ แล้วงูมันจะกัดคนได้อย่างไร ยิ่งเห็นร่างที่นอนนิ่งของแม่เลี้ยงดาหวันน้ำหวานก็ยิ่งกังวล
“อาหวานคะ คุณแม่ยังหายใจอยู่ค่ะ มานี่สิคะ มาช่วยกัน...” แล้วหญิงสาวก็ชะงักกึกเมื่อเด็กหญิงร้องเรียก
“ตะ แต่ อาว่าจะไปตามคนมาช่วย..”
“แต่อาหวานเป็นคนเอางูมาแกล้งคุณแม่นะคะ อาหวานต้องมาดูคุณแม่ของน้องเปรียวสิคะ เร็วเข้าค่ะ แล้วน้องเปรียวจะโทร. หาอาหมอวิทย์”
“จ้ะๆ” เมื่อเด็กหญิงพูดอย่างนี้น้ำหวานจึงเดินกลับมา ส่วนเด็กหญิงก็รีบวิ่งออกไปเพื่อโทรศัพท์แต่ไม่ทันที่น้องเปรียวจะก้าวพ้นห้องก็ต้องหยุดชะงักเพราะเสียงกรีดร้องโหยหวนของน้ำหวาน
“กรี๊ดดดด อ้ายยย งูๆ ช่วยด้วยยยย...”
น้ำหวานกรีดร้องเสียงหลงเมื่อในขณะที่กำลังจะก้มมองดูว่าคนที่นอนนิ่งนั้นตายหรือยังมีชีวิตอยู่ก็ลืมตาขึ้นพร้อมกับเอางูที่ตนเองนำมาตวัดพันรอบคอของเธอ
“ฮะๆ ฮ่าๆ เป็นไงล่ะ เต้นเหมือนงิ้วออกโรงเลยใช่มั้ย ให้มันรู้ซะบ้างว่าอย่าบังอาจมาทำแบบนี้กับฉัน...” ดวงยิหวาในครบดวงดาหวันลุกขึ้นหัวเราะมองคนที่เต้นเป็นเจ้าเข้าด้วยแววตาสะใจ
“คุณแม่ ไม่เป็นอะไรใช่มั้ยคะ...” เด็กหญิงเดินเข้ามาถามมารดาด้วยแววตาสงสัยและไม่เข้าใจ
“ไม่จ้ะลูกรัก แต่หากงูนั้นเป็นงูมีพิษจริงๆ คุณแม่คงตายไปแล้วเพราะลูกร่วมมือกับคนอื่นมาทำร้ายคุณแม่ หนูเกลียดคุณแม่จนอยากจะทำร้ายคุณแม่ขนาดนี้เลยหรือคะน้องเปรียว...”
“น้องเปรียว...” เด็กหญิงก้มหน้านิ่งด้วยความรู้สึกผิด น้ำตาไหลออกมาอย่างไม่อาจเก็บกักไว้ได้ เมื่อคิดว่าหากมารดาเสียชีวิตไปจริงๆ จะเป็นอย่างไร
“ไม่เป็นไรหรอกจ้ะลูก ตอนนี้คุณแม่ปลอดภัยแล้วอย่าร้องไห้นะจ๊ะ...” ดวงยิหวาโอบกอดร่างเล็กๆ ของน้องเปรียวไว้และเด็กหญิงก็โอบเธอแน่นเหมือนกลัวว่าเธอจะหายไป ตอนนี้น้องเปรียวเพิ่งค้นพบว่าตนกลัวว่าจะเสียมารดาไปจริงๆ
ตอนที่11.“กรี๊ดๆ นังบ้า แกมาเอางูออกไปที นังดาหวัน นังบ้า กรี๊ดดด ฉันจะฟ้องพี่เปลว...”เสียงแปดหลอดของอาน้ำหวานคนสวยที่ฟังไม่ไพเราะเหมือนเดิมเลยสักนิดดังขึ้นขัดความซาบซึ้งของสองแม่ลูกดวงยิหวาหันไปมองอย่างไม่พอใจแล้วเดินไปคว้างูออกมาจากคอน้ำหวานแล้วถือไว้เหมือนมันเป็นของเล่นซ้ำยังแกว่งไปมาใกล้ๆ ใบหน้าของน้ำหวานที่ถอยร่นไปอย่างหวาดกลัวขยะแขยง“ตามสบายค่ะ อย่าลืมบอกคุณเปลวด้วยล่ะว่าเธอเป็นคนเอางูมาไว้ในห้องฉัน แล้วฉันเองก็จะบอกคุณเปลวด้วยว่าเธอมาเสี้ยมสอนให้ลูกฉันทำแบบนี้...”“อย่านะคะคุณแม่ น้องเปรียวกลัวอาเปลวดุเอา น้องเปรียวขอโทษ..” เด็กหญิงร้องบอกแววตาของน้องเปรียวดูหวาดหวั่นน่าสงสาร“แกกล้าเหรอ...” น้ำหวานแทรกขึ้นอย่างไม่พอใจเมื่อเห็นน้องเปรียวเหมือนจะแปรพรรคและตนก็จะโดนเล่นงานอยู่คนเดียว“แน่นอนฉันกล้า... หรือว่าเธอจะลองดูก็ได้ว่าฉันจะกล้ามั้ย” ดวงยิหวามองน้ำหวานอย่างท้าทาย... “กรี๊ดดด... นังบ้า นังดาหวัน นางมารร้าย...” น้ำหวานกรีดร้องอยู่ในรถของตัวเองเมื่อเธอออกมาจากบ้านไร่ตะวันงามด้วยสารรูปที่เรียกได้ว่ายับเยิน เธอไม่เคยรู้สึกเสียเหลี่ยมและเสียหน้ามากขนาดนี้มาก่อน คุณน้ำหวานค
ตอนที่12.“นี่เธอ หยุดดิ้นก่อนได้มั้ย”“ไม่หยุด จนกว่าคุณจะปล่อยฉัน”“แล้วถ้าหากฉันไม่ปล่อยล่ะ” คำตอบแบบกวนๆ ทำให้ดวงยิหวากัดฟันแน่นด้วยความโมโห เธอไม่เคยเสียท่าให้ผู้ชายลามกที่พยายามลวนลามเธอสักครั้ง ครั้งนี้ก็เช่นกัน...“ได้ ไม่ปล่อยใช่มั้ย นี่แน่ะๆๆ”หญิงสาวกระทืบเท้าเล็กๆ ลงบนหลังเท้าแกร่งแรงๆ แล้วใช้ความว่องไวเอี้ยวตัวมากัดใบหูของเขาอย่างแม่นยำเมื่อเปลวคลายวงแขนเล็กน้อยเพราะเจ็บเท้า“โอ๊ยๆ นี่เธอ ยัยเด็กบ้า”เปลวร้องลั่นปล่อยร่างบางทันที เมื่อวงแขนแข็งแรงคลายออกหญิงสาวก็เตรียมจะวิ่งออกไปให้พ้นร่างสูง แต่แล้วก็ต้องหวีดร้องออกมาอย่างตระหนกเมื่อเปลวคว้าเอวบางไว้ได้อีกครั้งและคราวนี้เขากับเธอก็ล้มกลิ้งอยู่บนพื้นพรมนุ่มโดยที่เปลวเปลวคร่อมร่างงามไว้จนดวงยิหวาไม่อาจจะขยับไปไหนได้เลย“ปล่อยนะคุณจะรังแกพี่สะใภ้เลยเหรอ ทุเรศที่สุด” ตวาดเสียงเขียวในใจก็เต้นระส่ำไม่เป็นจังหวะ“แต่เธอไม่ใช่...” เปลวหลุดปากพูดไปแค่นั้นแล้วก้มลงปิดปาก ระเรื่อที่จะขยับต่อว่าเขาก่อนที่เธอจะแหกปากร้องลั่นบ้านโลกทั้งโลกของดวงยิหวาเหมือนจะสะเทือนหวั่นไหวราวจะถล่มทลายเมื่อริมฝีปากร้อนผะผ่าวของเปลวทาบลงมายังกลีบปากขอ
ตอนที่13.“นี่ เธอ” เปลวเรียกหญิงสาวอีกครั้งเมื่อเจ้าหล่อนเอาแต่นิ่งเฉย และในที่สุดดวงยิหวาลุกขึ้นแล้วหันมามองหน้าคนตัวโตตาเขียวปัดเมื่อคิดว่าเขาจะมาจิกใช้เธออีกแน่ๆ “อะไร มีอะไรก็ว่ามา ฉันเหนื่อยและเจ็บมือหมดแล้วเนี่ย เห็นมั้ย จะใช้อะไรนักหนาฮะ”“ฉันไม่ได้จะมาใช้เธอแค่จะมาชวนไปดูม้าตัวใหม่ จะไม่ไปก็ได้นะ ฉันไปล่ะ”“เฮ้ย.. เดี๋ยวๆ คุณว่าอะไรนะม้าตัวใหม่เหรอ” ดวงยิหวาถลันมาขวางไว้ มือบางดันอกแกร่งไว้ก่อนด้วยความสนใจม้าตัวใหม่ที่เปลวพูดถึง“ฮื่อ แต่ดูท่าทางเธอคงไม่อยากไปกับฉันหรอก ถ้าอย่างนั้นฉันไปล่ะ” เปลวเมินหน้าเหมือนไม่ใส่ใจแล้วเดินหนีไปดวงยิหวารีบเดินตามเขาไปทันที...ดวงยิหวารู้สึกตื่นเต้นจนเก็บอาการไม่มิดเมื่อรถคันใหญ่พาเธอมายังทุ่งหญ้ากว้างท้ายไร่ ซึ่งม้าหนุ่มตัวหนึ่งกำลังวิ่งวนไปมาอย่างคึกคะนองไม่ยอมให้ใครเข้าใกล้แม้จะมีคนงานหลายคนพยายามจะจับมัน“นั่นม้าตัวใหม่ที่เพิ่งได้มา พ่อมันเป็นม้าแข่งฝีเท้าเร็วระดับแชมป์โลกแม่มันก็เป็นม้าแข่งที่กระโดดข้ามเครื่องกีดขวางได้ดีเยี่ยม เธอคิดว่าเจ้าตัวนี้มันจะเป็นไง..” เปลวถามพลางเฝ้าสังเกตอาการของหญิงสาว“มันก็สุดยอดน่ะสิ ดูสิ นั่น เวลามันยืน
ตอนที่14.“เอ๊ะ ก็ไหนว่าแม่ของเปรียวหนีตามชู้รักไปแล้วรถตกเขาตายไปแล้วนี่คะ” เด็กหญิงที่เพิ่งกลับมาจากกรุงเทพฯ ถามน้าสาวอย่างสงสัย“ก็นั่นล่ะจ้ะ แต่ดวงดาหวันน่ะรอดมาได้ แค่มีแผลถลอกนิดหน่อยไม่ถึงกับตายหรอกจ้ะคุณเปลวเลยให้กลับมาพักฟื้นที่บ้านไร่”“อ้อ เหรอคะ”“แต่ไม่รู้ว่าสมองกระทบกระเทือนรึเปล่า กลับมาคราวนี้แปลกๆ ดูรักน้องเปรียวกับน้องปราณอย่างกับแม่งูหวงไข่ แต่ความร้ายกาจยังเหมือนเดิม” พูดเสียงหวานเหมือนพูดเรื่องทั่วๆ ไป แต่ทำให้หลานสาวตาวาวด้วยความอยากรู้อยากเห็น“น้าหวานไปไร่โน้นกับน้องรินมั้ยคะ” “ไม่หรอกจ้ะ น้ากลัวดาหวันจะทำร้ายเอาเพราะดาหวันเขาหวงพ่อเลี้ยงเปลวอย่างกับเป็นภรรยาพ่อเลี้ยงเสียเอง น้าไปทีไรก็โดนต่อว่ากล่าวหาว่าไปให้ท่าพ่อเลี้ยงเปลวจนน้ากลัวคนจะมองไม่ดี” น้ำหวานทำเสียงเศร้าใบหน้างามหม่นหมอง หญิงสาวแอบยิ้มในใจเมื่อรินลดามองตนอย่างสงสาร“ไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวน้องรินช่วยเอง” เด็กหญิงบอกน้าสาวอย่างลิงโลด ส่วนผู้เป็นน้านั้นแทบกรีดร้องด้วยความยินดี...“มาทำไม” เปลวถามตรงๆ มองคนตรงหน้าอย่างแปลกใจเมื่อเห็นว่าดวงยิหวามาที่ทำงานทั้งที่วันนี้เขาอนุญาตให้เธอหยุดงานหนึ่งวัน“ก็เห็น
ตอนที่15.“คุณพูดอะไรกับหมอวิทย์ เกี่ยวกับฉันใช่มั้ย”ดวงยิหวาเข้ามาถามเปลวด้วยความร้อนรนใบหน้าสวยดูกังวลจนเปลวนึกอยากจะแกล้งให้เธอวุ่นวายใจมากขึ้น“อ้าวแล้วทำไมฉันจะต้องพูดเรื่องเธอด้วย”“ก็เวลาที่คุณพูดกันก็หันมามองฉัน ฉันเห็นนะไม่ได้ตาบอด”“ก็ถ้าหากฉันพูดเรื่องของเธอแล้วทำไมล่ะ อ้อ จะบอกให้ก็ได้ว่าฉันคุยกับไอ้หมอเรื่องอะไร” เปลวปรายมองคนที่นั่งรถมาด้วย“เรื่องอะไร” ดวงยิหวาตาโตด้วยความอยากรู้“ก็ไอ้หมอมันสงสัยว่าเธอเป็นดาหวันตัวปลอมน่ะสิ...”ดวงยิหวาใจไหววูบใบหน้าสวยซีดลงเล็กน้อยแล้วรีบหลบสายตาคมของเปลวที่มองมาเสมองวิวทิวทัศน์ข้างทางโดยไม่พูดอะไร จึงไม่เห็นสีหน้าของอีกคนที่มีรอยยิ้มน้อยๆ ติดอยู่ที่ริมฝีปาก ในขณะที่คนมีชนักปักหลังครุ่นคิดวุ่นวายนั่งนิ่งมาตลอดทาง...“เดี๋ยวนี้เปรียวไม่ค่อยได้ออกมาเล่นข้างนอกเลยนะ รินมาหาทีไรก็เห็นว่าไปทำงานในไร่กับคุณอาเปลวทุกทีเลย โดนคุณแม่บังคับรึเปล่าเปรียว”รินลดาเปิดประเด็นหลังจากที่วางแผนชักชวนน้าสาวมาที่ไร่ตะวันงามด้วยแผนการบางอย่าง ซึ่งงานนี้น้ำหวานก็เพียงแต่ทำตัวให้น่าสงสารในสายตาของรินลดาเพื่อใช้หลานสาวเป็นสะพานเพื่อมาที่ไร่ตะวันงามอีกครั้ง
ตอนที่16. “ริน...” น้องเปรียวหน้าเสียเมื่อเจอคำขู่แบบนี้ เธอไม่ต้องการเป็นผู้ที่โดดเดี่ยวไม่มีเพื่อนเล่นเหมือนอย่าง น้ำค้าง เพื่อนในห้องเรียนเดียวกันที่ไม่มีใครอยากคบหาหรือเข้าใกล้เพราะรินลดาจะจัดการกับคนที่ไม่ทำตามคำสั่งด้วยการกระทำที่ร้ายกาจ“หากเปรียวเลือกรินก็ต้องเชื่อฟังริน หากเลือกแม่ เปรียวก็ไม่ต้องมาคบกับริน จำเอาไว้”เด็กหญิงวายร้ายทิ้งคำพูดใส่หน้าน้องเปรียวก่อนจะเดินไปหาน้าสาวที่ติดเครื่องรถยนต์รอ ซึ่งคำพูดของเด็กหญิงทั้งสองคุยกันนั้นดวงยิหวาได้ยินชัดเจน หญิงสาวเลือดขึ้นหน้าอยากจะจับเด็กปากกล้าอย่างรินลดามาหวดก้นสักทีสองที ดงงยิหวากำลังจะร้องขัดน้าหลานแต่น้องเปรียวก็พูดขึ้นเสียก่อน“สะใจใช่มั้ยที่ทำให้ทุกคนเกลียดน้องเปรียว ดีใจใช่มั้ยที่น้องเปรียวไม่มีใครแล้ว เพราะคุณแม่คนเดียวที่ทำลายมิตรภาพของเปรียวกับริน ฮือออ” เด็กหญิงแผดเสียงใส่แล้ววิ่งเข้าบ้านไปท่ามกลางความงงงันของดวงยิหวา“แล้วเธอจะได้รู้ว่าใครสำคัญที่สุดที่นี่ ฮ่าๆๆ” น้ำหวานเลื่อนกระจกรถลงเบะปากใส่ดวงยิหวาอย่างสะใจก่อนจะขับรถออกไป“หึ อย่าให้ฉันปรี๊ดขึ้นมาเชียวยายน้ำเน่า..” ดวงยิหวาแลบลิ้นตามหลังรถยนต์หรูของน้ำหวานไ
ตอนที่17.“จริงเหรอ เล่าให้ฟังหน่อยสิว่าทำไมเรียกยายแม่เลี้ยงดาหวันนั่นว่าแม่เลี้ยงร่านสวาท”“โอ๊ย นี่นังหนูหล่อนฟังนะ อะ เอ่อ...”เจ๊เมี้ยนเจ้าของร้านกาแฟประจำตลาดโบกไม้โบกมือแสดงท่าทางประกอบการเม้าท์อย่างเมามันของแกก่อนจะหันมาทางต้นเสียงของคนถามซึ่งเมื่อเห็นใบหน้าของผู้ที่ถามชัดๆ ก็ถึงกับยกมือค้างตาโตพูดไม่ออกอ้าปากหวอได้แต่อ้าปากพะงาบๆ ส่วน เจ๊เช็งเจ้าของร้านขายข้าวแกงซึ่งตักข้าวแกงให้ลูกค้าไปแต่ปากก็พูดไปอย่างสนุกสนาน“อะไรของแกวะนังเมี้ยนไม่เล่าให้เขาฟังล่ะหยุดทำไม แหม เดี๋ยวเรื่องนี้ฉันขอเล่าเอง คันปากมานานแล้ว จะบอกอะไรให้นะ ยายแม่เลี้ยงดาหวันนั่นน่ะมันเป็นคนสวยก็จริงนะ แต่แหม ผู้ชายทั้งบางนี้มันกวาดเก็บแต้มมาหมดล่ะ ไม่สนว่าลูกเขาผัวใคร มันเที่ยวนอนกับเขาไปทั่ว นี่ๆ ผัวนังบัวแย้มข้างร้านฉันนี่ก็ เคย เอ่อ เคย..”เจ๊เช็งซึ่งตักข้าวราดแกงให้ลูกค้าเสร็จก็หมายจะหันมาเม้าท์ให้สะใจกับคู่หูขาเม้าท์ถึงกับตาเหลือกพูดไม่ออกเมื่อหันมาเจอหน้าของคนที่กำลังพูดถึง“ว่าไงเจ๊ ยังไงต่อ...” ดวงยิหวายื่นหน้าไปใกล้ แต่ผู้สูงวัยทั้งสองก็ได้แต่ยืนอ้ำอึ้งด้วยท่าทางน่าขันไม่น้อย คนที่รู้จักฤทธิ์ของสองขา
ตอนที่18“เอ้า เอาไป มีอะไรก็เล่ามา” หญิงสาวโยนซองสีขาวไปตรงหน้าของเจ๊เช็งอย่างไว้ตัว ด้วยเธอเห็นว่าเจ๊เช็งกับเจ๊เมี้ยนนั้นเป็นคนที่ต่ำต้อยกว่า หาเช้ากินค่ำและไม่มีชาติตระกูลพอที่เธอจะต้องปฏิบัติด้วยความเคารพนับถือ ในขณะที่เจ๊เช็งกับเจ๊เมี้ยนแอบมองสบตากันด้วยความรู้สึกรังเกียจหญิงสาวตรงหน้ายิ่งนัก แต่เงินของเจ้าหล่อนก็หอมหวานพอที่จะไม่ใส่ใจการกระทำที่ไม่รู้หัวหงอกหัวดำของน้ำหวานเอาเงินไว้ก่อนแล้วเรื่องอื่นค่อยว่ากัน..“ก็ไม่มีอะไรมากก็แค่...” แล้วเจ๊ทั้งสองก็เล่าเรื่องที่น้ำหวานอยากรู้อย่างเมามัน ทั้งใส่ไข่ใส่สี ใส่อารมณ์ในการเล่าเรื่องจนเห็นภาพซึ่ง ผู้สูงวัยกว่าทั้งสองเลือกที่จะพูดให้น้ำหวานรู้สึกรุ่มร้อนด้วยความริษยาแม่เลี้ยงแห่งไร่ตะวันงาม มันเป็นวิธีเอาคืนอย่างหนึ่งกับคนที่ไม่เคยเห็นหัวคนอื่น และไม่มีสัมมาคารวะอย่างน้ำหวาน สองเจ๊ขาเม้าท์มองหน้ากันอย่างสะใจเมื่อน้ำหวานกลับไปด้วยท่าทางเหมือนคนที่โดนหมามุ่ยจนคันไปทั้งตัวพร้อมกับโดนน้ำร้อนลวกไปในเวลาเดียวกัน“ฮ่าๆ สะใจกูจริงๆ เล้ย นังเมี้ยน เอานี่ส่วนของแก ฉันว่างานนี้ยายน้ำเน่านั่นนอนไม่หลับไปทั้งคืนแหงๆ เลยว่ะ ฮ่าๆ”ทั้งสองแบ่งเงิน
ตอนที่82. ตอนอวสานบทส่งท้าย...น้องเปรียวกับน้องปราณโบกมือลาเพื่อนๆ ซึ่งพ่อแม่มารับกลับบ้านด้วยรอยยิ้ม เด็กทั้งสองมีความสุขที่สุด ณ ตอนนี้ พวกเขาไม่ได้รู้สึกเจ็บปวดหรือขาดความรักความอบอุ่นแม้แต่น้อย แม้ดวงยิหวาจะไม่ใช่แม่ที่แท้จริงแต่ความรักความผูกพันที่มีในสายเลือดก็ผูกพวกเขาไว้ด้วยกันอย่างเหนียวแน่นยิ่งกว่าอะไรทั้งหมด“เด็กๆ จ๊ะ มาทานข้าวกันได้แล้วค่ะ พี่ฝนจะตั้งโต๊ะแล้ว”ดวงยิหวาเรียกลูกๆ ด้วยรอยยิ้ม เธอรู้สึกดีใจที่น้องเปรียวรู้จักคิดแยกแยะและให้อภัยรินลดา หญิงสาวเชื่อว่าเด็กทั้งสองจะเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันไปในอนาคต“คุณแม่ว่าน้องเปรียวทำถูกมั้ยคะ” เด็กหญิงถามหน้ายุ่ง“ถูกสิคะ การให้อภัยเป็นสิ่งที่ดี การมีเพื่อนก็เป็นสิ่งที่ดี ลูกของคุณแม่น่ารักที่สุดค่ะ” ดวงยิหวายิ้มแล้วลูบเรือนผมของน้องเปรียวเบาๆ อย่างรักใคร่เอ็นดู“แล้วสามีละครับที่รัก น่ารักรึเปล่า” เปลวถามขึ้นพร้อมทั้งยื่นหน้ามาจุ๊บแก้มนวลใสของภรรยาต่อหน้าเด็กๆ ดวงยิหวาหันมาค้อนขวับแล้วหยิกหมับเข้าที่ต้นแขนแกร่งเต็มแรงด้วยความหมั่นไส้ที่สามีชอบแสดงความรักกับเธอต่อหน้าเด็กๆ แบบนี้“คนบ้าหน้าไม่อาย นี่แน่ะๆ”“โอ๊ยๆ เจ็บครับที่รั
ตอนที่81.“ก็มองเหมือนจะถอดเสื้อผ้ายิหวา แบบนี้ไง คนบ้า”เธออ้อมแอ้มตอบรู้สึกร้อนผ่าวขึ้นมาทั่วร่างกับสายตาของสามีที่มองมาเหมือนจะกลืนกินทั้งที่เธอสวมเสื้อเชิ้ตตัวใหญ่ของเขาอยู่ แต่ภายใต้เสื้อตัวใหญ่ที่ยาวถึงโคนขาเสลาก็ไร้สิ่งอื่นห่อหุ้มความงามของอิสรีไว้และตอนนี้ดวงยิหวาก็รู้สึกเหมือนไม่ได้ใส่อะไรอยู่ดี“อื้ม สามีของยิหวานี่หื่นจริงๆ เลยนะครับ ไม่ไหวเลยมองภรรยาแบบจะกลืนกินได้ยังไงกัน สู้กินจริงๆ ไม่ดีกว่าเหรอ..” เขาเย้ายิ้มๆ ยกร่างบางมานั่งบนเคาน์เตอร์หินอ่อนตัวยาวตรงอ่างล้างหน้าที่สามารถขึ้นไปนั่งได้สบายๆ ทันที“อุ้ย พี่เปลวไม่นะ ยิหวาอยากอาบน้ำ หิวแล้ว”“ก็ใครว่าเราจะไม่อาบน้ำล่ะที่รัก”“ก็ปล่อยสิคะ ยิหวาจะอาบน้ำ พี่เปลวอาบแล้วก็ออกไปสิ” หญิงสาวต่อรองเมื่อเห็นใบหน้าเกลี้ยงเกลาหล่อเหลาของสามีที่บ่งบอกว่าจัดการตัวเองเรียบร้อยแล้วก็ใจสั่นหวิวเพราะแรงปรารถนาจากดวงตาคมมันชัดเจนเหลือเกิน นี่อย่าบอกนะว่าเขาจะ...“ยิหวาจ๋า พี่อยากรักยิหวาอีกแล้ว”ไม่พูดเปล่าแต่ร่างแกร่งแทรกเข้ามาระหว่างเรียวขาเสลาแล้วโน้มใบหน้างามลงมาชิด ปลายจมูกคมปัดเบาๆ กับปลายจมูกรั้นอย่างหยอกเย้าแล้วริมฝีปากหยักก็บดจูบ
ตอนที่80.“คุณแม่ก็บอกว่า หากสิ้นปีนี้ไม่มีวี่แววว่าจะได้อุ้มหลาน พี่เตรียมตัวกระเด็นออกจากชีวิตลูกสาวท่านไปเลย” เปลวยิ้มกรุ้มกริ่มมองเธอตาหวานเชื่อมอย่างมีความหมาย ดวงยิหวาหน้าแดงรู้ทันทีว่าตนพลาดท่าคนเจ้าเล่ห์เสียแล้ว“ยี้ คนบ้า เจ้าเล่ห์กับยิหวาอีกแล้วนะ อุ้ย ไม่เอาค่ะ นี่ยังไม่มืดนะคะเพิ่งจะสี่โมงเย็นเอง” หญิงสาวจะลุกหนีคนเจ้าเล่ห์ที่เริ่มมือไม้อยู่ไม่สุขแต่ก็ดูเหมือนจะช้าไป “ไม่เป็นไรหรอกที่รัก เราทำอะไรกันเพลินๆ เผลอแป๊บเดียวมันก็ค่ำแล้ว มาทำเจ้าตัวเล็กให้คุณแม่อุ้มดีกว่าไม่อย่างนั้นพี่ได้โดนเฉดหัวออกจากชีวิตยิหวาแน่ๆ เลย”ชายหนุ่มพูดงึมงำอยู่กับซอกคอขาวเนียนที่เริ่มเปลี่ยนเป็นสีชมพู ดวงยิหวาใจสั่นเมื่อรู้ตัวดีว่าไม่สามารถต้านทานแรงพิศวาสอันเร่าร้อนจากสามีได้ ริมฝีปากบางระเรื่อที่พยายามจะคัดค้านก็ถูกครอบครองด้วยปากร้อนๆ ของคนที่รอเวลานี้มาทั้งวันอย่างหิวกระหาย ลิ้นหนาสอดไล้ดูดกลืนเรียวลิ้นเล็กอย่างเร่าร้อนช่ำชอง ดวงยิหวาครางเบาๆ ด้วยความซ่านหวิวมือร้อนผ่าวก็กำจัดเสื้อผ้าของเธอออกจากร่างกายอย่างรวดเร็วจนดวงยิหวานึกทึ่งที่เขาสามารถทำได้รวดเร็วกว่าที่เธอถอดเองเสียอีก“อื้ม พี่เปลว
ตอนที่79.“เออนะ เหมือนกันทั้งคนทั้งม้า ไอ้วิทย์อยากจะบ้า”หมอวิทย์ทำท่าเหมือนอยากจะขาดใจตาย เจ้าม้าสาวเอียงคอมองเขาตาใสแจ๋ว มันคงจะสงสัยว่ามนุษย์คนนี้เป็นอะไรไปเป็นแน่แท้เปลวเดินตรงขึ้นไปห้องหอแสนหวาน ชายหนุ่มเปิดประตูเข้าไปก็พบว่าห้องว่างเปล่าแต่ได้ยินเสียงน้ำไหลซู่ๆ อยู่ในห้องน้ำเปลวยิ้มกริ่มจินตนาการไปไกล“ยิหวาจ๋า ทำอะไรอยู่จ๊ะที่รัก..”แสร้งร้องเรียกภรรยาแต่เธอไม่ตอบเขาจึงเดินไปเปิดประตูห้องน้ำด้วยความคาดหวังว่าจะเห็นร่างเปลือยเปล่างดงามของภรรยาอยู่ภายใต้สายน้ำเย็นฉ่ำแต่..เมี้ยวววว เจ้าแมวเหมียวสีตุ่นๆ กระดำกระด่างหน้าตาน่าเกลียดเปียกมะลอกมะแลกถูกยื่นมาตรงหน้าตามด้วยเสียงหัวเราะสดใสของภรรยา“อะไรกันนี่ยิหวา..” เปลวหน้าหงิกเมื่อมันไม่ได้เป็นอย่างที่เขาคิดไว้สักนิด“ก็น้องแมวไงคะ พอดีว่าฝนเจอมันหลงมาอยู่ข้างรั้วเมื่อกี้ ยิหวาเลยจะเลี้ยงมันไว้แต่ตัวมันเปรอะมากก็เลยพามามันมาอาบน้ำเช็ดตัวให้แห้งค่ะ”เธอบอกแล้วพามันไปเช็ดตัวและไดร์เป่าขนให้มันอย่างอ่อนโยนเจ้าแมวน้อยก็อยู่นิ่งให้บริการมันด้วยท่าทางแสนสุขน่าหมั่นไส้ เปลวเดินไปกอดร่างบางไว้แล้วซุกจมูกลงกับพวงแก้มนุ่มอย่างออดอ้อนกลัวว่า
ตอนที่78.“ยิหวาจ๋า สวยเหลือเกินคนดี..” เปลวครางแผ่วละเรียวลิ้นจากยอดทรวงสีหวานที่ดูดกลืนกินอย่างเอร็ดอร่อยเพื่อมุ่งไปยังทุ่งดอกไม่แสนสวยที่ส่งกลิ่นหอมยั่วยวนให้ดื่มกินความหวานล้ำที่เคยได้ลิ้มรสมาก่อนหน้านี้ทำให้เปลวแทบอดใจไม่ไหวที่จะได้ลิ้มรสน้ำหวานจากดอกไม้สาวฉ่ำเยิ้มหลอกล่อให้เขาหลงใหลมึนเมา มือหนาเลื่อนไล้ไปยังต้นขาและสะโพกตึงแน่นลูบไล้วนเวียนใกล้ดงดอกไม้งามหยอกเย้าให้เธอดิ้นพล่านด้วยความซ่านกระสัน ดวงยิหวาเผยอครางกระเส่ามือเรียวจิกบ่ากว้างของเขาแน่นเพื่อระบายความเสียวเสียด เลือดในกายสาวร้อนระอุเดือดพล่านราวกับว่ากายของเธอจะมอดไหม้ลงไปเพราะลิ้นและมือร้อนๆ ของเขา“อื้ม พี่เปลว อา...” ดวงยิหวาครางกระเส่าเมื่อลิ้นร้อนไล้เลียต่ำลงไปยังสะดือน่ารักและต่ำลงๆ จนถึงกึ่งกายสาวพร้อมกับนิ้วแกร่งเดินทางมาถึงจุดอ่อนไหวชื้นฉ่ำด้วยน้ำหวานเอ่อซึมยั่วเย้าให้ดูดดื่มและเปลวก็ไม่รอช้าที่จะทำดังนั้นและเมื่อลิ้นร้อนแตะแต้มลงบนกลีบดอกไม้งามดวงยิหวาก็สะดุ้งสุดตัวทั้งยังครางออกมาด้วยความซ่านกระสันสุดใจ ร่างงามส่ายพลิ้วดั่งใบไม้ต้องลมเมื่อถูกความเสียวซ่านโจมตีจากทั้งมือและปากของเขาก็ทำให้เธอแทบขาดใจ แล้วร่
ตอนที่77.แต่เพราะพ่อเลี้ยงเปลวไม่อยากให้ใครพูดถึงเพราะสงสารหลานๆ จึงให้ดวงยิหวาสวมรอยเป็นดวงดาหวันไปชั่วคราวรอจนมั่นใจว่าหลานๆ รับได้จึงจะบอกความจริงให้รับรู้ ซึ่งทุกคนก็เข้าใจดีเพราะเจ๊ขาเม้าท์ทั้งสองถึงแม้จะเป็นคนที่ค่อนข้างพูดมากและชอบจับกลุ่มนินทาคนอื่นแต่พวกนางก็พูดในเรื่องที่มีมูลความจริงทุกเรื่อง ดังนั้นความเป็นมาของดวงยิหวาจึงไม่มีใครติดใจทั้งยังร่วมยินดีกับการแต่งงานอันยิ่งใหญ่ของพ่อเลี้ยงเปลวกับดวงยิหวาที่กำลังจะมีขึ้นอีกด้วยเมื่อเรื่องวุ่นวายต่างๆ ผ่านไปเปลวก็จัดการทำบุญและจัดการเรื่องศพของดวงดาหวันที่เอื้องอำพรางคดีด้วยการฝังไว้ที่ชายป่าท้ายไร่นั่นเองซึ่งอาคมได้บอกกับเขาตอนที่ยอมจำนนต่อความผิดที่ก่อไว้แต่สุดท้ายเมื่ออาคมรู้ว่าหญิงสาวที่ตนรักนั้นได้จบชีวิตลงเขาก็ฆ่าตัวตายในคุก นับว่าอาคมมีความรักที่จริงใจต่อเอื้องมากอย่างไม่น่าเชื่อ เปลวได้นำอัฐิของปราบกับดวงดาหวันและเอื้องมาทำบุญครั้งใหญ่และนำไปเก็บไว้รวมกันอย่างน้อยๆ พี่ชายของเขาก็คงจะได้อยู่ใกล้ๆ คนที่รัก และเอื้องก็คงจะได้รับรู้ว่าตนมีญาติมีพี่น้องอยู่ในโลกใบนี้แต่สำหรับดวงดาหวันซึ่งจากโลกนี้ไปโดยที่เธอไม่มีโอกาสได้บ
ตอนที่76.ไร่ตะวันงามคือที่ที่พ่อเลี้ยงธวัชจะไม่กล้าเข้าไปก้าวก่าย ดังนั้นอาคมจึงพาคนรักหลบหนีมาจากไร่พ่อเลี้ยงธวัชมาอยู่ที่ไร่ตะวันงามหลังจากศัลยกรรมเปลี่ยนแปลงใบหน้าใหม่ให้แปลกจากเดิมและเปลี่ยนชื่อจากคำแก้วเป็น เอื้อง พ่อเลี้ยงธวัชจึงจำคำแก้วไม่ได้และดวงดาหวันก็จำคำแก้วไม่ได้เช่นกันทุกคนจึงรู้จักเพียงเอื้องสาวใช้คนซื่อแสนเรียบร้อย กว่าสิบปีที่คำแก้วอยู่ที่ไร่ตะวันงามหญิงสาวก็เฝ้าใส่ความเกลียดชังแม่เลี้ยงดาหวันให้กับทุกๆ คนไม่เว้นแม้แต่ลูกๆ ของดวงดาหวัน เธอเฝ้าเลี้ยงดูเด็กๆ อย่างดีเพื่อที่จะได้แก้แค้นดาหวันด้วยการบ่มเพาะความเกลียดชังใส่หัวของเด็กๆ นั่นเอง จนเมื่อคำแก้วถูกเปลวให้ออกจากไร่ตะวันงามเธอก็ไปศัลยกรรมใบหน้าอีกครั้งให้เหมือนกับดวงดาหวัน ซึ่งก็เป็นเรื่องง่ายเพราะรูปร่างและรูปหน้าของเธอกับดวงดาหวันมีส่วนที่คล้ายกันอยู่มาก เพียงแต่ไม่มีใครสังเกตเพราะดวงดาหวันมักแต่งหน้าเข้มจัดจ้าน...หลังจากที่ศัลกรรมหน้าตาแล้วหญิงสาวก็ปลอมตัวไปเป็นคนรับใช้อยู่ในไร่ของน้ำหวานด้วยการใส่ฟันปลอมให้ฟันเหยิน ติดไฝเม็ดใหญ่ผมเผ้าไม่เป็นรูปทรงทำตัวเป็นสาวใช้เฉิ่มเชยขี้ริ้วขี้เหร่เพื่อสังเกตการณ์ความเป็
ตอนที่75.ดวงยิหวาค่อยๆ ลูบเปลือกตาเอื้องให้หลับลง ทุกคนที่อยู่ตรงนั้นต่างยืนมองหญิงสาวทั้งสองเงียบๆ โดยไม่พูดอะไรออกมาได้แต่มองภาพตรงหน้าด้วยความเศร้าสลดและสะเทือนใจ...ดวงยิหวาร่ำไห้ประคองร่างอ่อนปวกเปียกไร้วิญญาณของเอื้องมาโอบกอดไว้ด้วยความอาลัย แม้จะไม่เคยรักผูกพันกันในฐานะพี่สาวน้องสาวมาก่อนแต่สายเลือดในกายของพวกเธอก็คือสายเลือดที่เกิดจากหน่อเนื้อเดียวกัน เปลวเดินมาหาหญิงสาวอันเป็นที่รักพร้อมกับน้องเปรียว ร่างสูงทรุดลงกอดร่างสั่นระริกด้วยแรงสะอื้นไห้ของดวงยิหวาไว้แนบอกแกร่งทั้งยังรวบร่างน้องเปรียวเข้าไปกอดไว้ด้วยกันอย่างแสนรักยิ่งชีวิต“อโหสิให้ฉันด้วยนะเอื้อง..” ชายหนุ่มหลับตาลงแล้วพูดฝากความในใจไปกับสายลมที่พัดมากรูใหญ่ก่อนทุกอย่างจะผ่านพ้นไปน้ำหวานกับวริศก็ถูกจับและดำเนินคดีในข้อหาสมรู้ร่วมคิดการค้าไม้เถื่อนแม้ว่าน้ำหวานจะไม่ได้เข้าไปมีส่วนรู้เห็นในเรื่องค้าไม้เถื่อนก็ตาม แต่ก็ตกเป็นผู้ต้องสงสัยในการฆาตกรรมแม่เลี้ยงดาหวัน และก็นับว่าหญิงสาวจะซวยแบบซ้ำซ้อนที่ไม่รู้ว่าสาวใช้ตัวดำหน้าตาขี้ริ้วขี้เหร่ที่ตนเพิ่งรับเข้าทำงานก็คือเอื้อง ซึ่งศัลยกรรมเปลี่ยนใบหน้าแล้วปลอมตัวเข้ามาเพื่
ตอนที่74.เมื่อพ้นร่างของเปลวเอื้องก็โผนเข้ามาหมายจะแทงดวงยิหวาด้วยความบ้าคลั่งแต่ดวงยิหวาหลบได้ทันแล้วจับข้อมือของเอื้องไว้อย่างว่องไว สองสาวยื้อยุดกันอยู่ด้วยท่าทางหวาดเสียวเอื้องมีแรงเยอะกว่าคนปกติมากอย่างที่ดวงยิหวาคาดไว้ ดวงยิหวาออกแรงบิดข้อมือเอื้องก่อนจะผลักเต็มแรงจนเอื้องเซถลาไปปะทะกับต้นไม้ใหญ่ซึ่งอยู่ใกล้ๆ จนศีรษะของเอื้องกระแทกกับลำต้นอย่างจังเลือดสดๆ ไหลลงมาอาบแก้มขาวซีดด้านหนึ่ง“กรี๊ดดด นังยิหวา แกทำฉันเลือดออก แก...” ยิ่งเห็นเลือดของตัวเองเอื้องก็ยิ่งคลั่งเอื้องกัดฟันกรอดด้วยความเจ็บใจดวงตาแดงก่ำกราดเกรี้ยวราวไม่ใช่ดวงตามนุษย์ เลือดจากบาดแผลที่ศีรษะไหลเข้าตาจนแดงฉานอย่างที่เรียกว่า เลือดเข้าตา.. เอื้องวิ่งถลันเข้ามาหาดวงยิหวาอย่างรวดเร็ว ดวงยิหวาถูกเอื้องกระโดดถีบลำตัวอย่างแรงจะเซไปหลายก้าวทั้งยังถูกเอื้องผลักไปชนกับต้นไม้จนร่างเพรียวทรุดลงกับพื้น“พ่อเลี้ยงคะเราจะไม่เข้าไปช่วยยิหวาหรือคะ..”คุณดาริกาซึ่งออกมาดูเหตุการณ์ด้วยความห่วงใยบุตรสาวเต็มไปด้วยความกังวลเมื่อเห็นว่าเอื้องนั้นบ้าคลั่งเพียงใด “เรารอดูอยู่ตรงนี้ก่อนดีกว่าครับ ผมเชื่อมั่นในยิหวาว่าจะจัดการกับเอื้องไ