“เสี่ยคะ!”ดอกแก้วเผลอขึ้นเสียงใส่ เมื่อจู่ๆ เสี่ยก็ผละออกห่าง เธอกำลังจะได้ขึ้นไปคว้าปุยเมฆนั่นอยู่แล้วเชียว แต่เสี่ยกลับทิ้งเธอไว้กลางทางดื้อๆ แบบนี้คนใจร้าย“เด็กดื้อ ขึ้นเสียงใส่ฉันเหรอ?”“ก็เสี่ย...”ดอกแก้วตื่นเต็มตาแล้ว สติต่างๆ กลับมาจนครบถ้วน เธอหันหน้าหนีไปอีกทางไม่ยอมพูดต่อ ทั้งอาย ทั้งก
ดอกแก้วเม้มปากแน่น เธอแอ่นอกขึ้นเมื่อปลายนิ้วร้อนขยี้ลงมาบนยอดถันสีชมพูของเธอบ้างเหมือนต้องการเอาคืนมันไม่เจ็บ แต่รู้สึกวูบวาบที่ท้องเหลือเกินเสี่ยก็ไม่ได้เอาคืนแค่นั้น เพราะมือข้างที่ว่างเสี่ยก็ใช้มันบดขยี้เกสรดอกแก้วจนเธอตัวงอ ความชื้นแฉะที่ขับออกมาก่อนหน้าทำให้ทุกอย่างมันลื่นไหลไปหมด“อื้อ!”นิ
“เสี่ยคะ! อ๊ะ!”ดอกแก้วบีบแขนแกร่งแน่น เมื่อเขาออกแรงดันกายเข้ามาอีกครั้งเธอรู้สึกเหมือนจะหายใจไม่ออก มันอึดอัดและตึงแน่นไปหมด ถึงพิธานจะช่วยใช้มือบดขยี้เกสรดอกแก้วเพื่อเรียกอารมณ์สวาทของเธอให้กลับมาอีกครั้ง แต่มันก็ช่วยได้ไม่มากและไม่ใช่แค่ดอกแก้วเท่านั้นที่ลำบาก พิธานเองก็ไม่ต่างกัน เขาไม่เคยเจอ
แต่วันนี้เขาเข้าใจแล้วว่านมหวานมันมีอยู่จริงจากตอนแรกที่แค่อยากปลุกเร้าอารมณ์ของดอกแก้วให้กลับมา กลับกลายเป็นว่าเขาติดใจนมหวานๆ ของเธอเสียเอง เขาดูดเลียจุกสีชมพูทั้งสองข้างอยู่นานสองนาน บีบนวดเนื้อขาวจนเริ่มแดงเป็นรอยนิ้วมือ“เสี่ยขา...”เสียงหวานที่เรียกหาทำให้พิธานตัดใจจากเนื้อหวานในที่สุด เขาขยั
“ท่านครับ มีปัญหาอะไรหรือเปล่าครับ?”ลูกน้องคนสนิทอดใจไม่ไหว เอ่ยถามออกไปทั้งที่ใจก็กล้าๆ กลัวๆถ้าเมื่อวานพิธานแปลกไปแล้ว วันนี้ก็คงเรียกได้ว่าเปลี่ยนไปเป็นคนละคนตั้งแต่ขึ้นรถมาพิธานก็ไม่ได้พูดอะไรซักคำ แต่นั่นไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะเจ้าของบริษัทส่งออกน้ำหอมชื่อดังคนนี้ไม่ใช่คนช่างพูดอยู่แล้ว สิ่งท
นันทิดาอ้าปากค้าง คบกับพิธานมามากกว่าครึ่งชีวิต นี่เป็นครั้งแรกที่เธอรู้สึกว่าเพื่อนสนิทของเธอไม่มีหัวใจไม่มีหัวใจ... ไร้ความรู้สึก สำหรับพิธานคงมีแค่คำว่าผลประโยชน์อยู่ในหัวเท่านั้น“อย่าพูดให้เธอได้ยินเชียว แม้เธอจะเข้าหานายเพราะเงิน แต่เธอก็มีหัวใจ... ไม่เหมือนนาย”นันทิดาปรับเสียงให้เรียบนิ่ง ห
ร่างกายของดอกแก้วกลับมาเป็นปกติแล้ว เธอสามารถใช้ชีวิตได้เหมือนเดิมโดยไม่ติดขัด เดินเหินได้สะดวก ไม่มีร่องรอยอะไรหลงเหลือไว้แม้แต่รอยเดียว และเธอก็ไม่นึกถึงคนที่หายไปตั้งแต่วันนั้นอีกตั้งแต่วันนั้นก็ผ่านมาหนึ่งอาทิตย์แล้ว ดอกแก้วใช้เวลาในแต่ละวันหมดไปกับการอ่านหนังสือและรับงานกับคนที่เคยรู้จัก แม้จะ
เธอพยายามฝืนแล้ว แต่เธอกินไม่ลง มันรู้สึกมวนที่ท้องไปหมดเวลาที่ได้อยู่ใกล้เสี่ยแบบนี้“เธอผอมลง เพราะกินข้าวเหมือนแมวดมแบบนี้หรือเปล่า”พิธานถามขึ้นเมื่อเห็นว่าดอกแก้วรวบช้อนแล้ว เธอกินไปแค่ครึ่งเดียว น้อยขนาดนั้นจะไปอิ่มได้อย่างไร“เมื่อกลางวันดอกแก้วเผลอทานเยอะ มันยังย่อยไม่ทันค่ะ”“อ้อ...” พิธานพ
.บ่าวสาวแยกย้ายกันอาบน้ำหลังจากผู้ใหญ่กลับออกไปหมดแล้ว ดอกแก้วที่อาบน้ำก่อนเป่าผมจนแห้งสนิท ก่อนจะปีนขึ้นเตียงและหยิบมือถือขึ้นมากดเล่น ดวงตากวางเบิกกว้างเมื่อเห็นรูปภาพบางอย่างที่ไม่คิดว่าจะได้เห็นมาก่อน“เจ้น้ำ? แด๊ด?”มันเป็นรูปที่คนสองคนนั่งยิ้มให้กล้องท่ามกลางดินเนอร์ใต้แสงเทียนที่ดูโรแมนติก เ
“เจ้ดีใจด้วยจริงๆ”“ฉันรู้” ดอกแก้วลูบหลังปลอบคนที่ร้องไห้เหมือนเด็กด้วยความเข้าใจ เพราะเจ้น้ำหวังดีกับเธอเสมอมา เธอจึงเข้าใจว่าทำไมพี่สาวถึงได้ปล่อยโฮออกมาแบบนี้ “ขอบคุณเจ้มากจริงๆ ถ้าไม่ใช่เพราะเจ้... ดอกแก้วคงไม่ได้เจอคุณพิธาน”“ทุกอย่างมันคงถูกกำหนดไว้อยู่แล้ว” น้ำดันร่างของเจ้าสาวออกห่าง เธอเอ่
ฤกษ์ส่งตัวเข้าหอของพิธานกับดอกแก้วคือสองทุ่มตรง ที่จริงแล้วดาวเรืองหาฤกษ์ที่ดีกว่านี้ได้ แต่เพราะมันดึกเกินไปและพิธานไม่อยากให้คนท้องอ่อนๆ ต้องเข้านอนดึก เขาจึงขอแม่ยายให้หาฤกษ์ใหม่ให้เป็นช่วงหัวค่ำแทน ดังนั้นหลังจากพูดคุยบนเวทีเสร็จแขกที่มาร่วมงานก็ไม่ได้เห็นหน้าบ่าวสาวอีก รวมถึงเด็กๆ ทั้งสองก็มีพี
ส่วนคุณทิม เพื่อนสนิทของพิธานอีกหนึ่งคนก็หลงหลานๆ ไม่ต่างกัน ตอนนี้คุณทิมมีคนรักแล้ว ยังไม่ได้แต่งงานแต่ก็หมั้นกันไว้เรียบร้อย แต่นั่นก็แปลว่าคุณทิมยังปั๊มลูกไม่ได้แม้จะอยากมีใจจะขาด เพราะคุณจี แฟนสาวของคุณทิมขอไว้ว่าอยากทำงานต่ออีกซักหน่อยดอกแก้วมองตัวเองในกระจกแล้วยิ้มออกมา เธอไม่เคยคิดว่าชีวิตขอ
“ครับ แต่งงานที่บ้านของดอกแก้วเขา ไม่ได้จัดอะไรใหญ่โต แค่ผูกข้อไม้ข้อมือ จดทะเบียนสมรส ส่วนงานที่กรุงเทพฯ คราวแรกก็ตั้งใจจัดทันทีที่กลับมาจากเชียงใหม่ แต่ลูกชายมาอยู่ในท้องก่อนเลยต้องเลื่อนออกไป”“แบบนี้คุณดอกแก้วน้อยใจไหมคะ? เพราะเหมือนว่าคุณไม่ได้ถูกเปิดเผยเท่าไหร่ มีแต่ข่าวลือซึ่งไม่มีอะไรมายืนยั
เสียงเปิดประตูห้องน้ำเรียกสายตาจากคนบนเตียงให้หันไปมอง พิธานวางหนังสือที่อ่านอยู่ลง ก่อนจะเดินเข้าไปโอบกอดภรรยาที่ดูอ่อนล้ากว่าปกติหลวมๆ“เหนื่อยมากไหม?”ช่วงนี้เป็นช่วงเตรียมตัวสำหรับงานแต่ง และเพราะงานแต่งที่จะจัดขึ้นไม่ใช่งานเล็กๆ เหมือนที่เชียงใหม่ เพื่อหน้าตาของเจ้าของบริษัทอย่างพิธานจึงทำให้งา
“ดอกแก้วดุเหรอคะ?” หญิงสาวชี้นิ้วเข้าหาตัวเอง เธอนี่นะดุ จับลูกแรงๆ ซักครั้งยังไม่เคย แค่บอกให้ไปกินข้าวก็แปลว่าเธอดุแล้วอย่างนั้นเหรอ?เธอไม่ได้ดุหรอก แต่พ่ออย่างคุณพิธานนั่นแหละที่ตามใจลูกมากไป“เปล่าจ้ะ” พิธานรีบเข้าไปกอดเอวบางไว้ เสียงทุ้มดัดลงให้เล็กกว่าปกติเพื่อออดอ้อน “ดอกแก้วของคุณพิธานไม่ดุ
จู่ๆ เสียงใสๆ ของลูกสาวก็ร้องขึ้น พิธานหน้าตึงแทบจะทันที ส่วนดอกแก้วก็ได้แต่ยิ้มขำและหันไปคุยกับลูกสาวตัวจ้อย“น้องแมทค่ะ น้องแมทเป็นน้องหนูนะลูก”“แมท!”“น้องดาวคะ-““แมทธิวเกิดหลังน้องดาวแค่ไม่กี่เดือนเอง ถือว่ารุ่นเดียวกันได้” คนเป็นปู่รีบช่วยหลานสาว สำหรับเขาไม่ได้รู้สึกว่าการเรียกชื่อกันเฉยๆ ขอ
สามปีต่อมา.“พี่ดล ไหนกระเป๋าที่คุณยายให้คับ?”“นี่คับ!”“น้องดาว ชุดที่คุณปู่ซื้อให้ไม่อึดอัดเกินไปใช่ไหมคะลูก?”“ม่ายค่า”“ดีมาก ถ้าอย่างนั้นเราไปรอแด๊ดดี้กับคุณแม่ที่รถกัน”“เย้ๆ”เสียงเจี๊ยวจ๊าวของสองเด็กและสองผู้ใหญ่เงียบหายไป แทนที่ด้วยเสียงหัวเราะของคนเป็นพ่อและแม่ ดอกแก้วที่กำลังเก็บของชิ้น