ฉันนั่งมองดวงอาทิตย์ที่ค่อย ๆ โผล่ขึ้นมาบนท้องฟ้า ไม่ได้นอนทั้งคืนเอาแต่ร้องไห้และรอฟังข่าวว่าเจอคาแลนแล้ว แต่ตอนนี้ยังไม่มีใครติดต่อมา ความเหนื่อยล้าทำให้แทบไม่มีแรงลุกขึ้นไปไหนจนต้องนอนฟุบลงบนโซฟา“กินข้าวหน่อยนะครับคุณมิลา”“พี่เจต จะ... เจอเฮียหรือยังคะ”“ผมสั่งอาหารมาให้ต้องกินนะครับ ถ้านายกลับมาแล้วเห็นคุณมิลาเป็นแบบนี้ผมโดนดุแน่ ๆ”“จะกลับมาใช่ไหม เฮียจะกลับมาหามิลาใช่ไหมคะ” เพียงแค่เอ่ยน้ำมันเสียงสั่น คราบน้ำตายังคงเปื้อนแก้มตั้งแต่เมื่อคืน“ครับ” พี่เจตเองก็เอ่ยตอบเสียงสั่นเครือเหมือนกัน เขาพยายามเข้มแข็งต่อหน้าฉัน “นายจะกลับมาแน่ ๆ”“ช่วยเป็นพี่ชายคนเดิมให้มิลาได้ไหมพี่เจต มิลาไม่เหลือใครแล้ว ตอนนี้มันรู้สึกเหมือนโลกทั้งใบกำลังจะแตกสลาย” ฉันขอร้องคนตรงหน้า เพราะต้องการความสบายใจ จากพี่ชายที่แสนดีคนนี้ ที่ผ่านมาถึงจะเคยพูดตักเตือนไปหลายครั้งแต่พี่เจตยังคงมองฉันด้วยสายตาที่อบอุ่นเสมอ“พี่อยู่หน้าห้องมิลาอยากได้อะไรก็เรียกนะครับ ถ้าเจอตัวนายแล้วพี่จะรีบบอกทันที”“ขอบคุณนะคะที่กลับมาเป็นพี่ชายคนเดิมของมิลา” คลี่ยิ้มจาง ๆ ให้กับพี่เจต สุดท้ายก็แทนตัวเองว่าพี่อย่างเมื่อก่อนทั้งที่
เกือบหนึ่งเดือนแล้ว เวลาผ่านไปเร็วขนาดนี้แต่ทำไมฉันรู้สึกว่ากว่าจะผ่านพ้นไปแต่ละวันมันช่างยากลำบากการค้นหาคาแลนได้สิ้นสุดลงแล้ว แต่เฮียคัลเลนก็ยังเชื่อเหมือนฉัน ลั่นคำพูดเอาไว้ว่าถ้าไม่เจอร่างจะไม่จัดงานศพให้น้องชายเด็ดขาดไม่กล้าสู้หน้าใครเลยทางฝั่งครอบครัวของคาแลน เพราะฝังใจว่าเรื่องทั้งหมดเกิดขึ้นจากตัวเอง ฉันเป็นตัวต้นเรื่อง เป็นสาเหตุ เป็นคนทำให้คาแลนมีจุดจบแบบนี้ตั้งแต่วันนั้นจนตอนนี้ฉันใช้ชีวิตจมปลักกับความเศร้า ความหวังที่เคยมีมันเลือนลางไปทุกวันการสูญเสียมันทำให้เรารู้สึกทรมาน ตอนนี้ไม่ต่างอะไรกับตัวคนเดียว คนที่รักทิ้งฉันไปกันหมด ทั้งคาแลนและมินมินเสียชีวิตในคืนวันนั้น เธอรู้ตัวว่าถูกมาลิคหักหลังจึงช่วยคาแลน แต่พลาดท่าโดนลูกน้องของมาลิคยิง เคย์เดนเล่าว่ากระสุนนัดสุดท้ายที่เจาะกบาลมาลิค มินเป็นคนลั่นไกลยิง ถ้าไม่ได้น้องช่วยคาแลนอาจจะโดนยิงซ้ำอีกนัดก่อนจะตกลงไปในน้ำทะเลสำหรับมินฉันอโหสิกรรมให้ทุกอย่าง อย่างน้อยในช่วงเวลาสุดท้ายของชีวิตน้องก็รู้สึกผิดและกลับใจได้ ถึงแม้จะไม่มีโอกาสได้แก้ตัวก็ตาม การจากไปของมินทำให้ฉันเจ็บปวดมากเหมือนกันทำไมโลกใบนี้ถึงได้โหดร้ายกับฉันมากขน
บอกพี่เจตแค่คนเดียวเรื่องท้อง แต่ผ่านไปเพียงสามวันทั้งเฮียคัลเลนและเพื่อนของคาแลนก็หอบข้าวของมาให้ นี่เป็นครั้งแรกที่ได้เห็นรอยยิ้มของทุกคนในรอบเดือน“ฉันคงไม่ได้เห็นหน้าหลานในวันคลอด เดี๋ยวจะรับขวัญให้ก่อนก็แล้วกัน” เคย์เดนยื่นซองสีขาวมาให้ เห็นแล้วทำให้แปลกใจว่ามันคืออะไร“อะไรเหรอคะ?”“ฉันยกธุรกิจทั้งหมดให้ เก็บเอาไว้ให้ลูกของเธอถือซะว่าเป็นขวัญถุงในวันคลอด”ฉันเบิกตากว้างรีบส่ายหน้า เขาให้มากเกินไป มันมากซะจนฉันรับเอาไว้ไม่ได้“ดะ... เดี๋ยวนะคะ คุณจะมายกทุกอย่างให้คนอื่นง่าย ๆ แบบนี้ได้ยัง” ถ้ายกให้หมดแบบนี้เขาจะเอาเงินที่ไหนใช้ ไม่เข้าใจเลยจริง ๆ ว่าเคย์เดนคิดอะไรอยู่“ฉันจะไม่อยู่ที่นี่แล้ว สมบัติพวกนั้นคงไม่ต่างอะไรกับของไร้ค่าที่ถูกทิ้ง เธอรับเอาไว้เถอะมิลา มีพร้อมทุกอย่างมันดีกว่าขาดเหลือ”“มิลาไม่เข้าใจ คุณไม่อยู่ก็ใช่ว่าจะไม่ต้องใช้เงินนะคะ”“ในที่ที่ฉันจะไป ที่นั่นมีพร้อมทุกอย่างมากกว่าที่ฉันมีในตอนนี้หลายร้อยเท่าเธอไม่ต้องห่วงเรื่องนี้”“ยิ่งพูดมิลายิ่งไม่เข้าใจคุณ”ไม่เข้าใจสิ่งที่เคย์เดนพูดเลย คำที่ชวนให้สับสนนั้นคืออะไร แต่เขาไม่ได้พูดอะไรไปมากกว่านี้และฉันก็ไม่อยากซัก
ฉันเหม่อคิดเรื่องราวที่ผ่านมาด้วยหัวใจที่เจ็บปวด ไม่ว่าจะผ่านไปนานเท่าไรความคิดถึงนั้นยังเป็นความรู้สึกที่แสนทรมาน“มามี๊คัสกินอันนี้ ๆ ครับ” เด็กน้อยวัยสามปีใช้นิ้วชี้ ๆ ไปที่หน้าจอทีวีกำลังฉายภาพรายการอาหารอยู่ ท่าทางของลูกชายทำให้ฉันที่กำลังเหม่อเผยรอยยิ้มออกมา “ได้ครับเดี๋ยวมี๊ทำให้กินนะ”“กินเยอะ ๆ ปะ... ปาปี๊จะกลับหาคัส ๆ”“ใช่แล้วครับสุดหล่อของมี๊”ผ่านไปสามปีแล้วสินะ ในช่วงเวลานั้นหากไม่มีลูกชายตัวน้อยฉันคงไม่เข้มแข็งขึ้นมากขนาดนี้ เขาใบหน้าเหมือนพ่อไม่มีผิดในช่วงที่มาคัสกำลังหัดจำภาพฉันมักจะเอารูปคาแลนให้ลูกดูบ่อย ๆ แล้วบอกกับเขาว่านี่คือพ่อลูกชายมักจะถามฉันก่อนนอนในทุก ๆ คืนว่าถ้าตื่นมาแล้วจะเจอปาปี๊ใช่ไหมถ้าย้อนเวลากลับไปได้ฉันอาจจะพูดให้ลูกจำอีกแบบ บอกว่าพ่อของเขาไปอยู่ในที่ที่ไกลแสนไกลจนไม่สามารถกลับมาได้แต่พ่อจะมองเราอยู่เสมอ รู้สึกผิดที่บอกกับลูกว่าพ่อจะกลับมาทำให้เด็กน้อยจำ ผ่านมาถึงสามปีแล้วความหวังที่เคยมีมันริบหรี่จนแทบเป็นไปไม่ได้แล้ว คุณพ่อของคาแลนก็หยุดการค้นหาไปเพราะหมดหวังในวันคลอดจำความรู้สึกนั้นได้ดี ทุกคนไปรวมตัวกันที่โรงพยาบาลเพื่อรอรับขวัญหลานด้วยความต
มันเหมือนโลกทั้งใบหยุดหมุนไปชั่วขณะ ฉันได้แต่ถามคำเดิม ๆ กับตัวเองซ้ำ ๆ ว่านี่มันคือภาพลวงตาหรือเปล่า แต่ทุกอย่างมันชัดเจนขึ้นเมื่อเห็นผู้คนเดินผ่านไปมา พี่เจตที่กำลังร้องไห้ มาคัสที่กำลังกอดขาพรที่ขอก่อนนอนทุกคืนในวันนี้… เป็นจริงแล้วสิ่งที่ผุดขึ้นมาในหัวหลังจากนั้นมันเต็มไปด้วยคำถามที่ว่าเขาหายไปไหนมา สามปีที่ผ่านมาไปอยู่ที่ไหน ทุกคนแทบจะพลิกแผ่นดินหากลับไม่เจอ ทำไมถึงกลับมาเอาป่านนี้“หนู”น้ำเสียงที่คิดถึงมาตลอดระยะเวลาสามปีเรียกชื่อของฉัน น้ำตามันไหลพรั่งพรูออกมาอาบแก้มก่อนจะค่อย ๆ ทรุดตัวนั่งลงกับพื้นอย่างหมดแรง“ฮึก~” ไม่มีคำพูดใดนอกจากเสียงสะอื้นที่ระเบิดอารมณ์ออกมา ภาวนาขอให้นี่ไม่ใช่ฝันร่างหนาอุ้มลูกน้อยเดินมาหยุดตรงหน้า ก่อนจะค่อย ๆ ย่อตัวนั่งลง“มี๊อย่าร้อง” ลูกชายที่อยู่ในอ้อมแขนของคนเป็นพ่อเอื้อมมือมาเช็ดน้ำตาออกจากแก้มให้“เฮียขอโทษ ขอโทษที่ปล่อยให้หนูอยู่คนเดียวนานขนาดนี้” เสียงทุ้มสั่นเครือดวงตาคู่นั้นแดงก่ำแต่พยายามข่มอารมณ์เอาไว้ก่อนจะกดปลายจมูกหอมแก้มลูกชาย“ฮึก~ใจร้าย เฮียใจร้าย” มันเจ็บปวดแต่ก็คิดถึงมาก ๆ เมื่อพูดคำนั้นออกมาฉันก็ยกแขนขึ้นโผล่กอดเขาแน่น“หายไปไ
ฉันนั่งมองคาแลนกำลังเล่นกับมาคัส ลูกไม่นึกสงสัยหรือกลัวเลยตอนเจอกับพ่อครั้งแรก ทั้งที่เห็นเพียงแค่รูปภาพมาตลอด มันคงเป็นภาพจำที่ฉันพูดบ่อย ๆ ว่าพ่อจะกลับมาหา“นายครับ นายตัวจริงใช่ไหม” พี่เจตยังคงถามคำเดิมซ้ำ ๆ ตั้งแต่เจอกันจนถึงตอนนี้“ต้องให้กูพูดอีกกี่ครั้งไอ้เจต” คนถูกถามเริ่มออกท่าบ่น ก่อนจะอุ้มมาคัสขึ้นมาไว้ในอ้อมแขน“ก็ผมไม่คิดว่านายจะกลับมา” พี่เจตทำท่าเหมือนจะร้องไห้อีกครั้ง คาแลนยิ้มส่ายหน้าไปมาคงเพราะไม่เคยเห็นลูกน้องคนสนิทของตัวเองเป็นอย่างนี้มาก่อน“กูกลับมาแล้ว ขอบคุณที่ดูแลมิลากับมาคัสอย่างดี โบนัสปีนี้กูให้มึงเจ็ดหลัก”“ไม่ได้ต้องการอะไร ดูแลเพราะเห็นว่ามิลาเป็นน้องสาว มาคัสก็เป็นลูกของมึงที่เป็นทั้งเจ้านายและเพื่อน กูต้องดูแลนายน้อยอยู่แล้ว” ไม่บ่อยเลยที่จะได้เห็นพี่เจตพูดจากันเองกับคาแลนอย่างนี้ ซึ่งเจ้าตัวไม่ติดอะไรอยู่แล้ว“รู้ไหมว่ากูให้มึงได้มากกว่านี้อีก แต่รู้ไงว่าคนอย่างมึงคงปฏิเสธ”“ขอบคุณ”ฉันลุกขึ้นปล่อยให้สองคนคุยกัน เพราะถึงเวลาทำอาหารแล้วเดี๋ยวมันจะค่ำซะก่อน “อย่าให้ลูกออกไปเล่นนอกระเบียงนะคะมิลาไปทำอาหารก่อน”“ไม่ต้องทำหรอกหนู เฮียว่าจะเข้าไปบ้านใหญ่”“
เสื้อผ้าบนตัวของทั้งสองถูกถอดออกกระจัดกระจายเกลื่อนพื้น ความคิดถึง โหยหาด้วยแรงอารมณ์ทำให้คาแลนกดจูบลงบนริมฝีปากบางครั้งแล้วครั้งเล่าดวงตากลมกำลังมองร่างกายกำยำของคนรักอย่างเปิดเผย ก่อนมือเล็กจะยกขึ้นลูบวนบนหน้าท้องแกร่ง“ชอบมากเหรอ หืม” เมื่อเห็นว่าร่างบางเอาแต่มองพร้อมลูบมือวนไปมาอยู่อย่างนั้นคาแลนจึงเอ่ยถาม ทำให้พวงแก้มเนียนขึ้นสี“อื้อ”“ตอนเฮียไม่อยู่หนูช่วยตัวเองบ้างหรือเปล่า”คำถามที่ชวนให้รู้สึกร้อนวูบวาบในท้องทำให้มิลาต้องเม้มปากแน่น แล้วส่ายหน้า “มะ... ไม่เคย”เธอไม่เคยทำแบบนั้นเลยสักครั้ง และไม่เข้าใจว่าอะไรที่ทำให้คาแลนนึกถามอย่างนั้น“แปลว่าตอนนี้ข้างในมันคงจะแน่น”มือหนาลูบไล้และบีบเคล้นเรียวขาขาวก่อนจะเลื่อนต่ำลงมาสัมผัสจุดสงวนตรงกลางระหว่างขา มิลาสะดุ้งเม้มปากแน่นเริ่มหายใจติดขัดเมื่อคนด้านบนกำลังใช้นิ้วบดขยี้จุดกระสัน“อ๊ะ อ๊า~” เสียงหวานครางออกมาเบา ๆ พร้อมบิดเร้าเรือนร่างอย่างทรมาน“เฮียใส่เข้าไปสองนิ้วเลยนะคะ”เสียงทุ้มเอ่ยบอกคนรักไม่รอฟังคำตอบ เขาสอดใส่นิ้วเข้ามาในช่องทางรักทันที ความคับแน่นเริ่มบีบรัดทำให้จินตนาการไปว่าหากเป็นตัวตนเข้าไปข้างในจะตอดรัดขนาดไหน“จะ
วันต่อมา ฉันตื่นสายจากกิจกรรมเมื่อคืน เมื่อลืมตาขึ้นมาแล้วไม่เจอคนที่นอนอยู่ข้าง ๆ หัวใจดวงน้อยมันก็วูบไหว คาแลนบอกว่าจะกอดฉันไว้แน่น ๆ จนเช้า ไหนสัญญาว่าหากตื่นขึ้นจะเจอเขาอยู่ข้างกายฉันกำลังกลัว… กลัวเขาจะหายไปอีกครั้งคิดแบบนั้นดวงตาก็มีน้ำสีใสเอ่อล้นขึ้นมา พยายามข่มใจเอาไว้แล้วรีบลุกจากเตียงเปิดประตูห้องอย่างร้อนรน“ปาปี๊เล่น ๆ อันนี้ครับ”“มาครับ เดี๋ยวปาปี๊เล่นด้วย”มันโล่งอกกับภาพที่เห็น ตอนนี้คาแลนกำลังเล่นกับลูกชาย ในมือของทั้งสองมีรถบังคับของเล่นอยู่คนละคันและกำลังจะแข่งกันคนที่กำลังเล่นกับลูกชายเงยหน้าขึ้นมามองฉันที่กำลังยืนดูอยู่ตรงประตูห้อง“ตื่นแล้วเหรอหนู มาคัสร้องงอแงเฮียก็เลยออกมาเล่นกับลูก”หยดน้ำตาไหลอาบแก้ม มันตื้นตันกับภาพตรงหน้า ที่พ่อกับลูกเล่นด้วยกัน ฉันได้แต่จินตนาการว่าจะเป็นยังไง แต่วันนี้ไม่ต้องจินตนาการภาพนั้นอีกแล้ว“หนู” คนตัวสูงรีบลุกขึ้นยืนเดินมาหาฉันที่กำลังร้องไห้ แขนแกร่งดึงรั้งสวมกอดแน่น “หนูร้องไห้ทำไม”“ฮึก~ มิลาดีใจ”“โธ่ คนดีของเฮีย อย่าร้องนะคะ”“มามี๊ไม่ร้อง” มาคัสเดินมากอดขาเงยหน้าขึ้นมอง ฉันผละกอดจากคาแลนก่อนจะนั่งลงตรงหน้าลูกชายตัวน้อย“
วันเวลาผ่านไปเนิ่นนานจนฉันคลอดลูกคนที่สองให้กับคาแลน รอบนี้ได้ลูกสาวเขาดีใจมากเลยนะ เพราะเจ้าตัวได้คนโตเป็นลูกชายสมใจแล้วเจ้าหญิงตัวน้อยวัยหกเดือนของเรามีชื่อว่าเมลร่า ฉันกับคาแลนชอบชื่อลูกมาก ๆ เพราะมันเหมาะกับหน้าตาน่ารักจิ้มลิ้มอย่างลูกสาวฉันที่สุดเผลอแป๊บเดียวมาคัสในก็ได้เป็นพี่ชายคน แถมยังเห่อน้องมากอีกด้วย ถ้ามีโอกาสหรือมีจังหวะมาคัสก็จะคอยช่วยฉันเลี้ยงน้องตลอด“มามี๊น้องตื่นหรือยังครับ” หมอบอกว่ามาคัสฉลาดรอบรู้ และมีพัฒนาการในด้านต่าง ๆ ที่ดีเยี่ยมฉันปลื้มใจมากที่เห็นลูกเติบโตมาอย่างดี“ยังเลยลูก ไว้รอน้องตื่นแล้วค่อยไปเล่นกับน้องนะ”“ครับ วันนี้มาคัสมีนิทานจะมาเล่าให้น้องฟังด้วย” ได้ยินแบบนั้นคนเป็นแม่อย่างฉันก็อดที่จะอมยิ้มไม่ได้“จริงเหรอครับ มาคัสของมามี๊เก่งที่สุดเลย ขอบคุณนะลูก” ฉันก้มลงกอดลูกชายหัวแก้วหัวแหวนพร้อมกับหอมหัวเบา ๆ หนึ่งที ฉันกับคาแลนมักจะพูดขอบคุณลูกบ่อย ๆ ในเวลาที่เขาทำสิ่งดี ๆ“มาคัสรักน้อง อยากดูแลน้องครับ”“ลงมาได้ยินประโยคนี้ทำเอาปาปี๊ชื่นใจที่สุดเลยลูก” ระหว่างนั้นคาแลนก็เดินลงมาจากชั้นสองพอดี เขากำลังเตรียมตัวไปทำงาน“ปาปี๊~” พอเห็นพ่อเดินลงมามาคั
สามเดือนผ่านไป ฉันกับคาแลนเพิ่งกลับจากโรงพยาบาล วันนี้คุณหมอนัดไปตรวจและอัลตราซาวนด์ดูเพศลูกสภาวะแท้งคุกคามตอนนี้ดีขึ้นแล้ว ด้วยอายุครรภ์ที่มากขึ้นด้วยไม่ต้องเฝ้าระวังอย่างตอนแรก“ทำหน้าขมวดคิ้วตั้งแต่ออกมาจากโรงพยาบาลแล้วนะคะ เป็นอะไรบอกมิลาหน่อย” ฉันถามสามีที่กำลังทำหน้าเครียดตั้งแต่รู้เพศลูก “เฮียไม่อยากให้ลูกเราเป็นผู้หญิงเหรอคะ”ฉันเม้มปากเบา ๆ ไม่ได้อยากคิดแต่ท่าทางของคาแลนทำให้ต้องถามไปอย่างนั้น เขาแปลกไปเมื่อรู้เพศทั้งที่ก่อนหน้าเราตั้งชื่อลูกไว้แล้วทั้งชายและหญิง“ลูกเฮียนะหนู ถามแบบนั้นได้ยังไง”“ก็เฮียทำหน้าเครียด”“เฮียแค่คิดว่าตัวเองต้องหวงลูกมากแน่ ๆ”ระบายยิ้มออกมาบนใบหน้าพร้อมโล่งใจทันทีที่ได้ยินคำตอบนั้น นึกว่าไม่ชอบใจซะอีกที่แท้ก็หวงลูกสาวนี่เอง“คงต้องให้การ์ดเฝ้าตั้งแต่เด็ก ให้เข้าโรงเรียนหญิงล้วนนะหนู”“แบบนี้ถ้ายัยหนูจะมีแฟน…” ยังพูดไม่จบประโยคคนตัวสูงก็รีบขัด “อย่าเพิ่งคิดไปถึงขั้นนั้นสิหนู เฮียใจหาย”“กับมาคัสเฮียไม่เห็นห่วงเลย”“มาคัสเป็นผู้ชาย”“คุณพ่อขี้หวงคิดมากตั้งแต่ลูกยังไม่คลอดออกมาเลยนะคะ” ฉันแซวพร้อมยกนิ้วขึ้นเกลี่ยแก้มอย่างหยอกล้อ คาแลนเอามือมาจับมื
อาทิตย์ผ่านไป ฉันกับคาแลนจดทะเบียนสมรสเรียบร้อยแล้ว ในตอนนี้เราคือสามีภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายตอนนี้คาแลนกำลังนอนหนุนอยู่บนตักของฉันแล้วใช้มือลูบท้องไปมาอย่างนั้นนานหลายนาทีแล้ว“อยากรู้แล้วว่าลูกจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย” ใบหน้าคมคายเงยขึ้นมองฉันแล้วพูดต่อ “ถ้าได้ผู้หญิงเฮียคงหวงมากแน่”ฉันยิ้มกว้างให้กับคำพูดนั้นของคนที่หนุนตักอยู่ ก่อนจะเอามือลูบผมเขาเบา ๆ“หวงได้แต่อย่าไปกำหนดชีวิตของลูกมากเกินไปนะคะ”“เฮียไม่ทำอย่างนั้นแน่นอนหนูสบายใจได้”คาแลนจับมือของฉันไปจูบเบา ๆ ช่วงนี้ชีวิตคู่ของเรามันลงตัวมาก ๆ ไร้อุปสรรคเหมือนอย่างก่อนหน้า ตัดสินใจไม่ผิดจริง ๆ ที่เลือกรักผู้ชายคนนี้ตั้งแต่แรก“อาทิตย์หน้าเฮียว่าง ไปเที่ยวกันนะครับ”“เที่ยวที่ไหนเหรอคะ” ฉันมองคนบนตักที่กำลังยิ้มหวาน“หนูมีที่ไหนที่อยากไปไหม”“ทุกที่ที่มีเฮีย มิลามีความสุข”“เฮ้อ เฮียรักหนูจะตายแล้วมิลา”ร่างหนาหยัดตัวขึ้นนั่ง แล้วยกมือมาประคองใบหน้าของฉันพร้อมจ้องด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความอบอุ่น ก่อนจะโน้มลงมาเรื่อย ๆ ระยะห่างระหว่างใบหน้าค่อย ๆ แคบลงจนกระทั่งริมฝีปากกดซับลงมา“อื้อ~”รสจูบที่อบอวลไปด้วยความอ่อนโยนและนุ่มนวล
วันต่อมา ตื่นมาไม่เห็นคาแลนอยู่ในห้องแล้ว มาคัสก็หายไปจากห้องของเขาเหมือนกัน ฉันค่อย ๆ เดินลงจากบันไดอย่างเชื่องช้าลงมาที่ชั้นล่าง ก่อนจะนั่งบนรถเข็นเพราะถ้าคนตัวสูงเห็นฉันเดินคงถูกดุแน่ ๆรถเข็นจะเป็นแบบขับเคลื่อนอัตโนมัติโดยใช้มือบังคับปุ่มบนที่พักแขน ได้ยินเสียงแว่วมาจากทางครัวจึงไปดูภาพที่เห็นคือคาแลนกับลูกชายอยู่ในชุดผ้ากันเปื้อน ทั้งคู่กำลังช่วยกันทำอาหาร มาคัสดูท่าจะชอบช่วยพ่อเขาทำใหญ่เลย ฉันกำลังทอดสายตามองสองพ่อลูกด้วยรอยยิ้ม“มามี๊” อุตส่าห์แอบตรงมุมแล้วแท้ ๆ แต่ลูกชายตัวน้อยหันมาเจอจนได้ คาแลนหันมองตามเสียงเรียกของลูก ก่อนจะถอนหายใจเบา ๆ “หนูลงมายังไงคะ?”น้ำเสียงที่เอ่ยถามอย่างนุ่มนวลนั้นต่างจากแววตาที่กำลังจ้องแบบดุ ทำเอาฉันไม่กล้าตอบร่างหนาที่ใส่ชุดกันเปื้อนเดินมาหยุดตรงหน้าแล้วนั่งลงเอามือมาลูบวนบนท้องของฉันพร้อมกับฟ้องลูก“ดูมี๊สิ ดื้อเดินลงมาเองแบบนี้ปาปี๊ขอดุได้ไหม”“ลูกบอกว่าไม่ได้ค่ะ”“ลูกหรือแม่ครับ?”“เฮียอย่าดุมิลาสิ” ฉันเบ้ปากส่งสายตาออดอ้อนทำให้ คาแลนส่ายหน้าไปมาช้า ๆ ด้วยใบหน้าที่เปื้อนรอยยิ้ม เห็นแบบนั้นก็รู้ว่ารอดแล้ว“คราวหลังไม่เอาแบบนี้นะมิลา เฮียเป็นห
1 เดือนผ่านไปฉันได้ออกจากโรงพยาบาลมาพักรักษาตัวที่บ้าน เราย้ายมาอยู่บ้านหลังที่ซื้อไว้ในตอนนั้นแล้ว เพิ่งตกแต่งเสร็จเมื่ออาทิตย์ก่อนส่วนใหญ่ฉันจะนอนอยู่บนเตียงเวลาจะไปเข้าห้องน้ำหรือเดินไปไหนคาแลนจะช่วยประคอง ถ้าออกไปข้างนอกต้องนั่งรถเข็น เพราะคุณหมอสั่งห้ามเรื่องไม่ควรขยับร่างกายเยอะมาคัสได้แยกไปนอนอีกห้องสมใจคุณพ่อของเขาแล้ว เพราะคาแลนกลัวว่าลูกจะนอนดิ้นมาโดนท้อง แต่ตัวลูกชายไม่งอแงแล้วก็อยากแยกห้องเหมือนกัน แหงสิพ่อเขาจัดห้องเตรียมไว้ถูกใจขนาดนั้น“พรุ่งนี้มีประชุม เฮียคงกลับมาตอนบ่ายนะมิลา”“ไหวเหรอคะ ช่วงนี้เฮียอาการไม่ค่อยดีเลย” มองคนตัวสูงอย่างเป็นห่วง เขาแพ้ท้องแทนฉันหนักมาก เรียกได้ว่าเหม็นอาหารทุกอย่าง กินอะไรเข้าไปก็อ้วกออกหมด กินได้แค่ของเปรี้ยวเห็นแล้วนึกเห็นใจมาก ๆ เพราะเคยผ่านมาก่อนรู้ว่าทรมานขนาดไหน ใบหน้าหล่อตอนนี้ซูบผอมลงไปค่อนข้างเยอะ“ประชุมผู้ถือหุ้นประจำเดือนยังไงก็ต้องไปครับ” คาแลนก้มลงมาจูบหน้าผากของฉันแผ่วเบา ตอนนี้กำลังนั่งดูทีวีอยู่ชั้นล่างของบ้าน“คันเลนจะมาส่งมาคัสกี่โมงคะ”“คงสองทุ่ม กินมื้อเย็นที่บ้านใหญ่ก่อน” วันนี้ลูกชายงอแงอยากไปเล่นกับน้องคีย์และ
ในช่วงสองสามวันที่ผ่านมาข่าวของคาแลนกับคุณหนูลี่กำลังเป็นที่พูดถึงในวงกว้าง เพราะทั้งคู่ต่างมีหน้าตาทางสังคม คาแลนให้พี่ชายช่วยเรื่องปิดข่าวทั้งหมดให้เร็วที่สุดส่วนฉันก็พยายามไม่ดูข่าวห่างจากมือถือเพราะมันทำให้เครียดไม่เป็นผลดีเท่าไร ยิ่งตอนนี้มีอาการแท้งคุกคาม“ตอนเย็นคัลเลนจะพามาคัสมาที่โรงพยาบาลนะหนู” คนที่กำลังนั่งปลอกผลไม้เอ่ยบอก เราไม่ได้พูดคุยเรื่องนั้นเพราะต่างรู้ดีว่ามันไม่มีอะไร และฉันก็ไม่ได้ถามว่าเขาจะจัดการกับผู้หญิงอย่างลี่เว่ยหลินยังไง“ลูกงอแงไหมคะ” ฉันเป็นห่วงลูกชายตัวน้อยกลัวจะงอแงแต่ถ้าจะให้มาอยู่ที่โรงพยาบาลคงไม่ได้“ที่บ้านใหญ่มีเพื่อนเล่นลูกไม่งอแงเลย”“มาคัสรู้ไหมคะว่ากำลังจะมีน้อง”“ยังครับ ถ้ารู้คงดีใจที่จะมีเพื่อนเล่น”“เฮียไม่เข้าบริษัทเลย ไม่ต้องเฝ้ามิลาตลอดก็ได้” สามวันแล้วที่ฉันนอนติดเตียงที่โรงพยาบาลส่วนคาแลนไม่ได้เข้าบริษัทเลย“เฮียเอางานที่บริษัทมาทำที่นี่ดีกว่าทิ้งให้หนูอยู่คนเดียว” เขาปลอกผลไม้เสร็จพอดีจากนั้นก็ยกจานมานั่งเก้าอี้ข้าง ๆ เตียงแล้วป้อนฉัน“พรุ่งนี้เฮียจะออกไปจัดการปัญหากับเว่ยหลิน”“ค่ะ”“ทางนั้นเรียกร้องให้รับผิดชอบที่ทำลูกสาวเขาเสียห
Talk - คาแลนตอนนี้ผมนั่งอยู่ที่หน้าห้องฉุกเฉิน สองมือกำแน่นก้มหน้าก้มตา ภาพเลือดที่ไหลออกมาจากตรงนั้นยังติดตา เกือบสติหลุดที่เห็นมิลาหมดสติไป“มิลาเป็นอะไร” คัลเลนเพิ่งมาถึงโรงพยาบาลมันรีบเดินมาถาม ผมได้แต่ส่ายหน้าแทนคำตอบพร้อมน้ำตาที่ไหลอาบแก้มตอนนี้ผมกำลังกลัว กลัวทุกอย่าง“จู่ ๆ ทำไมถึงเกิดเรื่องขึ้น”“ลี่เอาเหล้ามาให้กู ใครจะไปคิดว่าเธอใส่ยาลงไปในแก้วนั้น” ผมบอกพร้อมมือที่กำแน่นกว่าเดิมหลังจากโดนยาลี่พยายามยัดเยียดตัวเองให้กับผม โชคดีที่ตอนนั้นยังพอมีสติเอาตัวเองออกมาจากห้องน้ำได้ แต่ตอนทำกับมิลาในรถผมไม่รู้ตัวเลยว่ารุนแรงไปขนาดไหนเลือดถึงได้ไหลออกมาเยอะขนาดนั้น“ผู้หญิงคนนี้แม่งน่ากลัวฉิบหาย!!”“จัดการถอนหุ้นและยุติงานในเครือเว่ยหลินให้หมด ครั้งนี้ต่อให้คุณเฉียงมาอ้อนวอนกูจะไม่ให้อภัย”“อืม เดี๋ยวกูจัดการให้มึงไม่ต้องห่วง ตระกูลนี้ถูกจดลงบัญชีดำแน่ ๆ”“อาการมิลาเป็นยังไงบ้างคะ” เกลลินเอ่ยถามผมด้วยท่าทางเป็นห่วง“เลือด… มีเลือดไหลออกมา” ผมตอบเสียงสั่นสองมือกำแน่นจนเห็นเส้นเลือดปูดขึ้นขณะที่นั่งรอผ่านไปครู่ใหญ่ประตูห้องฉุกเฉินก็ถูกผลักพร้อมหมอที่แทรกตัวออกมายืนด้านหน้า ผมรีบลุก
ริมฝีปากบางถูกบดขยี้อีกครั้ง มิลาพยายามดันตัวเองออกเพราะเจ็บกับสัมผัสดูดดึงของคนตัวสูงที่ขาดสติ เมื่อถูกขัดใจเธอก็ถูกคนตัวโตใช้สายตาคมจ้องเขม็งยาปลุกเซ็กส์ทำให้คาแลนไม่ใช่ผู้ชายอ่อนโยนอีกต่อไป อารมณ์ของเขาเต็มไปด้วยความรุนแรงอยากจะฉีกเสื้อผ้าของว่าที่ภรรยาคนสวยออกเป็นชิ้น ๆมือหนาเปิดประตูรถยนต์ก่อนจะจับร่างบางยัดเข้าไปข้างในตรงเบาะหลัง“เฮียมีสติหน่อยได้ไหมคะ”เสียงหวานพยายามเตือนสติแต่ไม่ได้ผล เมื่อประตูรถปิดลงร่างหนาก็นั่งลงข้าง ๆ เร่งปลดหัวเข็มขัดและตะขอกางเกง เห็นแบบนั้นทำให้มิลากลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่คว้ามือกำเส้นผมนุ่นแล้วกดลงมาตรงเป้ากางเกง ใช้แท่งเนื้อร้อนถูเบา ๆ บนกลีบปากกระจับ“ช่วยทำให้มันสงบลงหน่อย” เสียงทุ้มกระเส่ามองใบหน้าสวยที่กำลังหวาดกลัวจากกระกระทำที่รุนแรงมิลาค่อย ๆ ลดตัวนั่งลงด้านล่างแทรกตรงกลางท่อนขาแกร่ง และใช้ปากของตัวเองตามคำสั่งของคนที่โดนยา เธอรู้ว่าเขากำลังทรมานและเต็มใจช่วย“หนู ซี๊ด~”ริมฝีปากบางดูดดุนแท่งเนื้อขนาดใหญ่คับปากจนเปื้อนน้ำลายสีใส ยิ่งเอาเข้าไปลึกจนสุดลำคอก็ยิ่งถูกใจอีกคน“เธอทำอะไรเฮียบ้าง” ใบหน้าหวานเงยขึ้นมาถามพร้อมใช้มือชักรูดแก่นกายใหญ่ไ
งานเลี้ยงตระกูลเว่ยหลิน ฉันอยู่ในชุดราตรีลายลูกไม้สีครีมเดินเข้ามาในงานคู่กับคาแลนที่อยู่ในชุดสูทสีขาวน้ำเงินงานจัดขึ้นยิ่งใหญ่สมเกียรติมีแขกมากหน้าหลายตาเดินหลั่งไหลเข้ามาภายในงานรวมทั้งนักข่าวที่รัวแสงแฟลชถ่ายภาพราวกับคนที่มาร่วมงานนี้เป็นดาราชื่อดังยิ่งตอนคาแลนเดินคู่กับฉันมีเสียงฮือฮาของคนที่ได้พบเห็นดังขึ้น ส่วนหนึ่งมาจากเหตุการณ์ที่เขาหายไปเหมือนคนที่ตายแล้ว ไม่มีใครคิดว่าจะกลับมา คนที่ได้เจอตัวเป็น ๆ ถึงกับยกมือขึ้นป้องปากทำตาโตอย่างเหลือเชื่อ“เป็นเกียรติมากเลยค่ะที่พี่คาแลนกับว่าที่ภรรยามาร่วมงานในวันนี้” คุณหนูลี่เดินมาต้อนรับเราสองคน ก่อนจะพาเดินมายังโต๊ะที่จัดเตรียมเอาไว้ให้เป็นโต๊ะที่อยู่ติดหน้าเวที คุณคัลแลนและภรรยาก็มางานนี้เหมือนกัน รวมถึงคุณพ่อของเขาด้วยแต่ท่านนั่งแยกอีกโต๊ะร่วมกับตระกูลเว่ยหลินที่อยู่ใกล้ ๆ กันนั่งรอที่โต๊ะไม่นานคัลเลนและภรรยาก็มาถึง เราไม่ได้พาลูกมาด้วยเพราะเป็นงานใหญ่ไม่เหมาะที่จะพาเด็ก ๆ มา“คุณเกลลินสวยมากเลยค่ะ” ฉันเอ่ยชมคุณเกลที่อยู่ในชุดราตรีสีขาว เธอสวยมาก ๆ ตอนเดินตีคู่มากับคัลเลนยิ่งเห็นว่าทั้งสองเหมาะสมกันมากจริง ๆ“คุณมิลาก็สวยมาก ๆ เ