ตกเย็นตอนนี้คัลเลนออกไปทำงาน ฉันเลยตั้งใจว่าจะทำมื้อเย็นให้เขากินเป็นการตอบแทน จะบอกว่าเมื่อเช้าอาหารที่คัลเลนทำให้มันอร่อยมากๆ เชื่อแล้วว่าสำหรับเขาไม่มีคำว่าหัดว่าแต่ฉันจะทำอะไรให้คัลเลนกินดี..ก่อนอื่นคงต้องเปิดตู้เย็นดูวัตถุดิบก่อน อืม.. เหมือนจะพอทำพาสต้าได้อยู่มั้ง พาสต้าครีมเห็ดแล้วกัน ฉันหยิบวัตถุดิบในตู้เย็นออกมาเตรียมและนำเห็ดไปล้างทำความสะอาด จากนั้นก็เริ่มลงมือทำอย่างตั้งใจ คัลเลนจะต้องชอบแน่ๆ เวลาผ่านไปสักพักฉันยังทำอาหารไม่เสร็จ แต่ได้ยินเสียงเปิดประตูห้อง คัลเลนน่าจะกลับมาแล้ว แปลกแฮะ วันนี้เขาเลิกไวกว่าทุกวันเลย หมับ!ขณะที่กำลังยืนทำอาหารก็สัมผัสได้ถึงท่อนแขนแกร่งที่คว้าเข้ามากอดเอวฉันแน่น “คิดถึงเมียจัง” ถ้อยคำเรียบง่าย ทว่าน้ำเสียงออดอ้อนของคัลเลนทำเอาฉันอดอมยิ้มไม่ได้ “ทำไมวันนี้เลิกเร็วละคะ” “คิดถึงไง หอมจัง” พูดจบเขาก็ก้มลงดมหัวไหล่ฉันหนึ่งที “ไม่ได้หมายถึงอาหารนะ หมายถึงเธอ” “ปากหวานอีกแล้วนะคะ เกลเขินแย่เลยสิ” ฉันพูดกับคัลเลนพลางทำอาหารไปด้วย“แค่เขินหรอ หื้ม?” คัลเลนเลื่อนริมฝีปากมาขบติ่งหูฉันเบาๆ พร้อมกับพ่นลมหายใจอุ่นร้อนเข้ามา “อื้อ~ กะ เกลทำอาห
หนึ่งเดือนต่อมาฉันกับคัลเลนกำลังนั่งรถกลับหลังจากไปเช็คความคืบหน้าที่โรงแรมมา ตอนนี้การเตรียมงานแต่งของเราประมาณเจ็ดสิบเปอร์เซ็นต์แล้ว อีกสองเดือนจะถึงวันแต่งงานคงเสร็จก่อน ออแกไนซ์ที่คัลเลนจ้างมาเก่งมากทำงานแบบมืออาชีพสุดๆ พอมาถึงที่บ้านทำเอาแทบช็อค เดือนที่แล้วฉันกุมขมับที่คัลเลนเอาป้ายขึ้นโชว์ให้คนทั้งประเทศเห็น มาวันนี้ต้องปวดหัวกับของที่เขาสั่งมา ไม่ว่าจะเป็นกระเป๋า รองเท้า เครื่องเพชร เครื่องประดับแบรนด์ดังๆ “สั่งมาขนาดนี้กะจะมีเมียเพิ่มหรือไง” ฉันจ้องหน้าว่าที่สามีที่ใช้เงินเหมือนกระดาษ “ของเธอทั้งนั้น อย่าหาเรื่องทะเลาะ” “คุณควรถามเกลก่อนว่าอยากได้ของพวกนี้หรือเปล่า” “ถ้าถามเธอก็คงตอบว่าไม่ ซื้อให้ไปเลยดีกว่า” “เอากับคุณสิ!!”“เอาตอนนี้เลยหรอ กลางวันแสกๆ แต่ก็ได้นะ ป้ะขึ้นห้องกัน” “นี่เกลจริงจังอยู่นะ”ไม่รู้ว่าเขาไปเอาควรกวนแบบนี้มาจากไหน ช่วงนี้ชอบพูดจาอะไรเรื่อยเปื่อยแถมยังบ้าๆ บอๆ ไม่เหมือนคัลเลนคนเข้มขรึมก่อนหน้า ความรักทำให้เขาเปลี่ยนไปจนบางทีฉันก็อยากขอร้องว่ากลับมาทำตัวขรึมแบบเดิมเถอะ คัลเลนถอนหายใจเบาๆ แล้วดึงตัวฉันเข้ามาสวมกอด“ฉันอยากทำให้พ่อของเธอเห็นว่าต
“ต่อจากนี้ไปฉันขอให้เธอเลิกคิดเรื่องของคนอื่น โฟกัสแค่ฉันและอนาคตของเราได้ไหม” คัลเลนผละริมฝีปากออกพร้อมกับใช้มือประคองใบหน้าฉันไว้ น้ำเสียงเขาพูดเป็นเชิงขอร้อง “อื้อ ที่เกลคิดมันก็เป็นเรื่องของเรานะคะไม่ใช่คนอื่นซะหน่อย” คนอื่นที่เขาว่ามาน่ะคุณพ่อของเขาเลยนะ“เธอคิดจะเอาความรู้สึกของคนอื่นเข้ามามีผลกระทบต่อความสัมพันธ์ของเราไง ไม่อยากให้คิด” “แต่..” “ใครจะมองยังไงหรือไม่ชอบ ไม่โอเคแล้วมันยังไง เราจะยอมเลิกกันเพราะคนพวกนั้นหรอ ฉันไม่ยอมหรอกนะ” “ไม่นะคะ ไม่ซะหน่อย..” ฉันตอบเสียงแผ่ว รู้สึกว่าตัวเองกำลังเป็นแบบที่คัลเลนบอก“ถ้างั้นก็เลิกสนใจความรู้สึกของคนอื่น เพราะสุดท้ายมันเป็นเรื่องของคนสองคน คือเธอกับฉัน”“….”“คิดแค่ว่ารักเรารักมากและจะสร้างครอบครัวที่อบอุ่นไปด้วยกันแค่นั้นพอ ฉันขอได้ไหม” พูดจบริมฝีปากหนาก็กดจูบลงมาอีกครั้งอย่างอ่อนโยนฉันหลับตาพริ้มและให้คำตอบเขาด้วยการจูบตอบ “เกลจะไม่คิดถึงคนอื่นแล้วค่ะ จากนี้ไปจะโฟกัสแค่คุณ เกลรักคุณมากนะ” ฉันสวมกอดคัลเลนแน่น ตอนนี้เหมือนตัวเองเป็นแมวน้อยงอแงที่อยากอ้อนคนตรงหน้าแบบสุดๆ“ฉันก็รักเธอ รักเธอมาก รักยิ่งกว่าชีวิตของตัวเองซะอีก”
Talk - คัลเลนสองเดือนหลังจากแต่งงาน ผมมุ่งมั่นปั้มลูกกับเกลทุกคืน แต่ผลตรวจก็ยังไม่สมหวัง เราไปปรึกษาหมอแล้วร่างกายปกติดี แต่คงต้องใช้เวลาหน่อย วันนี้ผมให้คุณภรรยาได้พักผ่อนออกไปช็อปปิ้งกับเพื่อนของเธอเพราะไม่อยากใผ้เธออุดอู้อยู่แต่บนเตียง บางครั้งเราอาจจะมุ่งมั่นตั้งใจทำมากเกินไปหน่อย ช่วงนี้คงต้องพักบ้างเพราะเห็นสีหน้าที่อ่อนเพลียของเกลแล้วมันทำให้ตัวผมเองรู้สึกผิด “เกลไปก่อนนะคะ” เกลเดินมาหอมแก้มผมพร้อมรอยยิ้มที่สดใส รอยยิ้มของเธอทำให้ผมตกหลุมรักได้ตลอดเวลา “อย่ามองผู้ชาย” ผมสั่งห้าม ถึงจะอยู่ในฐานะสามีภรรยาแต่ความหวงก็ไม่ได้ลดลงไปเลย เพราะมักจะมีไอ้พวกผู้ชายมองเธออยู่เรื่อย “ในสายตาเกลมีแค่คุณคนเดียวค่ะ” เธอปากหวาน คำพูดพวกนั้นทำให้ผมหลงหัวปักหัวปำ ชีวิตนี้ไม่เคยคิดเลยว่าตัวเองจะตกหลุมรักใครจนโงหัวไม่ขึ้นขนาดนี้ หลังจากเกลลินออกไปผมก็ขับรถไปหาคาแลนที่คอนโด เพราะมีเรื่องธุรกิจต้องคุย โทรหามันก็ไม่รับสายทำให้ต้องไปหาถึงที่ ผมมีคีย์การ์ดห้องของมัน ได้แต่ภาวนาว่าเปิดประตูไปแล้วจะไม่เห็นมันตายคาห้อง เพราะหลายวันมานี้คาแลนเงียบติดต่อไม่ได้ “คาแลนมึงอยู่ห้อ…” ผมนิ่งชะงักพร้อมเสี
เกลลิน-Talkฉันกำลังนั่งเล่นอยู่ที่ห้องรับแขกเห็นคัลเลนเดินหน้าเครียดเข้ามา “ไปหาคาแลนมาเป็นไงบ้างคะ” “หัวดื้อ ไร้เหตุผล อีโก้” สีหน้าคัลเลนดูไม่ค่อยสบอารมณ์เท่าไหร่ “เหมือนคุณแรกๆ เลยค่ะ ^_^” ฉันพูดแหย่เพราอยาดให้เขาอารมณ์ดี “ก็แค่แรกๆ ตอนนี้เหมือนแมวขี้อ้อนของเธอตัวนึง” เขาทำเสียงอ่อนพร้อมกับซบหน้าลงมาบนไหล่ “เหนื่อยไหมคะ เกลทำอะไรให้กินไหม”“ไม่เอาอะ ไม่หิวข้าว หิวคนมากกว่า” “คนบ้า! นี่มันยังเย็นอยู่เลยนะคะ” “งั้นแสดงว่าถ้าไม่เย็นแล้วกินได้ ?” ถามอย่างกับว่าปกติไม่ได้มีอะไรกันก่อนนอน ยิ่งพักนี้เขาอยากมีลูกมากเรื่องเซ็กซ์แทบไม่เคยขาด“คุณก็ทำทุกคืนอยู่แล้วนี่คะ” ฉันเบ้ปากใส่“ก็ทำบ่อยๆ ลูกจะได้มาเกิดสักทีไง”“ของแบบนี้เดี๋ยวถ้ามันจะมาก็มาเองแหละค่ะ คุณอย่ากดดันหรือเครียดเกินไปสิ มันมีผลนะ” ฉันรู้ว่าคัลเลนอยากมีลูกมาก ฉันเองก็อยากมีให้เขาเหมือนกัน แต่เราก็ปรึกษาหมอแล้ว แค่ต้องใช้เวลา“ครับๆ รู้แล้วครับเมีย” ไม่พูดเปล่า แต่คัลเลนยังเดินเข้ามาหอมแก้มฉัน “วันนี้ไปกินข้าวนอกบ้านกันเถอะ อยากใช้เวลาอยู่กับเธอ” “เอาแบบนั้นก็ได้ค่ะ ^_^” จากนั้นเราทั้งคู่ก็ออกไปดินเนอร์มื้อเย็นด้วยกันท
Talk - คาแลนควันบุหรี่สีขาวขุ่นลอยคลุ้งไปทั่วห้องทำงานภายใต้ตึกคาสิโน สายตาคมจ้องมองรูปภาพที่ตัวเองกำลังคุกเข่าขออดีตคนรักแต่งงาน ผมหัวเราะหึในลำคออย่างสมเพชกับสิ่งที่เคยได้ทำลงไปความรักครั้งก่อนทำให้เจ็บหนักจนชีวิตแทบพัง อดีตที่เจ็บปวดตามหลอกหลอนอยู่สองปี กว่าจะเป็นผู้เป็นคนขึ้นมาได้“นายครับ ผมเจอคนที่ให้ตามหาแล้ว” เสียงลูกน้องมือขวาคนสนิทเอ่ยขึ้นก่อนจะนำภาพถ่ายมาวางไว้ตรงหน้าก้มมองภาพถ่ายที่วางเรียงอยู่ เธอยังสวยงดงามและเปล่งประกายเหมือนเดิม แต่ติดตรงที่ความรู้สึกไม่เหมือนเดิมแล้ว เพราะเธอมันก็เป็นแค่ผู้หญิงทรยศที่ย่ำยีหัวใจของผม“เธอทำงานให้กับมาลิค”“มึงว่ายังไงนะ” ผมจ้องหน้าลูกน้องอย่างคาดคั้นเอาคำตอบ เพราะตกใจไม่น้อยที่ได้ยินว่าอดีตคนรักกำลังทำงานให้กับศัตรู“มันกลับมาแล้วครับนาย”“สายรายงานมาว่า ตั้งแต่เธอปรากฏตัว ก็เข้าออกที่บริษัทของมาลิคอยู่บ่อย ๆ”“มันน่าแปลกที่พอมาลิคกลับมาให้หลังไม่นาน เธอก็ปรากฏตัว”การที่ถูกเธอหันหลังให้ในตอนนั้น มันยังไม่ทำให้รู้สึกแค้นได้มากเท่าตอนนี้ ที่ได้รู้ว่าเธอทำงานให้กับศัตรูของตัวเอง“ตั้งแต่เมื่อไร”“สองเดือนครับ”“หายหน้าไปตั้งกี่ปี กลับ
อาทิตย์ต่อมา ถึงเวลาที่ต้องทำตามคำสั่งมาลิค โดยการไปที่บริษัทของคาแลนในฐานะคนของบริษัทคู่แข่งเพื่อยื่นข้อเสนอให้เขาแน่นอนว่าฉันแทบนอนไม่หลับทั้งคืนเพราะเอาแต่คิดฟุ้งซ่านที่จะได้เจอกับอดีตคนรัก มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยแต่ก็ขัดคำสั่งไม่ได้เพราะเดินเข้ามาในบริษัทด้วยชุดยูนิฟอร์มของบริษัทคู่แข่ง ไม่แปลกที่พนักงานของที่นี่จะมองด้วยสายตาไม่เป็นมิตร เมื่อมาถึงห้องทำงานของผู้บริหารสูงสุดฉันก็เอ่ยบอกกับเลขา“นัดไว้แล้วค่ะ”เลขาที่นั่งก้มหน้าอยู่เงยขึ้นมองก่อนจะขมวดคิ้วแปลกใจ“ให้แจ้งว่าใครขอพบคะ”“มิลาค่ะ”ถึงจะดูแปลกใจแต่เธอก็ไม่ได้ซักถามอะไรเพียงแค่ยกโทรศัพท์ต่อสายไปหาคนที่อยู่ด้านในห้อง“เชิญคุณมิลาเข้าพบบอสได้เลยค่ะ”เมื่อได้รับคำตอบกลับก็ทำให้คนที่พกความมั่นใจมาเต็มร้อยในตอนแรกอย่างฉันต้องรู้สึกประหม่า คิดว่าแค่คุยให้มันจบ ๆ ไป แต่เอาเข้าจริงแม้แต่แรงจะเอื้อมไปจับลูกบิดเปิดประตูยังไม่มียืนมองดูประตูบานใหญ่อยู่นานจนเลขาเริ่มแปลกใจ ในที่สุดฉันก็ถอนหายใจเฮือกใหญ่รวบรวมความกล้ายกมือขึ้นมาผลักประตูแล้วแทรกตัวเข้ามาภายในห้องอุณหภูมิเย็นเฉียบจากเครื่องปรับอากาศกระทบผิวทำให้ขนลุกซู่ไปทั้งตัว เข
@ คลับรู้ตัวอีกทีตอนนี้ฉันก็อยู่ที่คลับกับคาแลนแล้ว ทั้งที่ไม่ควรตอบตกลงเลยด้วยซ้ำภายในห้องวีไอพีของคลับมีฉันและคาแลนนั่งอยู่ มันเป็นห้องกระจกที่มองออกไปจะเห็นตรงเวทีชัดเจน ทว่าคนด้านนอกไม่สามารถมองเห็นด้านในได้ ค่อนข้างเป็นส่วนตัวบรรยากาศภายในห้องถูกปกคลุมไปด้วยความเงียบ คาแลนเอาแต่ดื่มและจดจ้องใบหน้าของฉันอย่างไม่ละสายตา แน่นอนว่าคนที่ถูกจ้องอย่างฉันทำตัวไม่ถูก ไม่รู้จะวางสายตาที่ตรงไหนจึงได้แต่ก้มหน้าก้มตาผ่านไปครู่ใหญ่ก็มีผู้ชายคนหนึ่งเปิดประตูเข้ามา ทั้งหน้าตา การแต่งตัว ดูมีราศีคงไม่ใช่แค่พนักงานเสิร์ฟแน่ ๆ“ยินดีต้อนรับสู่เดอะมูนคลับ ไม่คิดว่าคุณคาแลนจะมาที่คลับของผม ไม่อย่างนั้นคงจัดเด็กไว้รอ” ดูท่าแล้วหนุ่มหล่อคนนี้คงจะเป็นเจ้าของคลับในยามราตรีแห่งนี้ คำพูดที่ฟังเป็นทางการแต่เหมือนการหยอกล้อตามประสาคนรู้จักกันซะมากกว่า“แค่อยากมาดูว่าเจ๊งหรือยัง”“ยังปากหมาเหมือนเดิมเลยนะคาแลน”ฟังจากคำทักทายแล้วทั้งคู่คงสนิทกันมาก แต่ไม่เคยเห็นหน้าผู้ชายคนนี้มาก่อน เขาคงรู้จักหลังเลิกกับฉันไปแล้ว“มึงก็ปากหมาไม่ต่างจากกูนะเคย์เดน”คนที่ถูกต่อว่าไหวไหล่ก่อนจะตวัดสายตามามองฉันที่นั่งอยู่อี
วันเวลาผ่านไปเนิ่นนานจนฉันคลอดลูกคนที่สองให้กับคาแลน รอบนี้ได้ลูกสาวเขาดีใจมากเลยนะ เพราะเจ้าตัวได้คนโตเป็นลูกชายสมใจแล้วเจ้าหญิงตัวน้อยวัยหกเดือนของเรามีชื่อว่าเมลร่า ฉันกับคาแลนชอบชื่อลูกมาก ๆ เพราะมันเหมาะกับหน้าตาน่ารักจิ้มลิ้มอย่างลูกสาวฉันที่สุดเผลอแป๊บเดียวมาคัสในก็ได้เป็นพี่ชายคน แถมยังเห่อน้องมากอีกด้วย ถ้ามีโอกาสหรือมีจังหวะมาคัสก็จะคอยช่วยฉันเลี้ยงน้องตลอด“มามี๊น้องตื่นหรือยังครับ” หมอบอกว่ามาคัสฉลาดรอบรู้ และมีพัฒนาการในด้านต่าง ๆ ที่ดีเยี่ยมฉันปลื้มใจมากที่เห็นลูกเติบโตมาอย่างดี“ยังเลยลูก ไว้รอน้องตื่นแล้วค่อยไปเล่นกับน้องนะ”“ครับ วันนี้มาคัสมีนิทานจะมาเล่าให้น้องฟังด้วย” ได้ยินแบบนั้นคนเป็นแม่อย่างฉันก็อดที่จะอมยิ้มไม่ได้“จริงเหรอครับ มาคัสของมามี๊เก่งที่สุดเลย ขอบคุณนะลูก” ฉันก้มลงกอดลูกชายหัวแก้วหัวแหวนพร้อมกับหอมหัวเบา ๆ หนึ่งที ฉันกับคาแลนมักจะพูดขอบคุณลูกบ่อย ๆ ในเวลาที่เขาทำสิ่งดี ๆ“มาคัสรักน้อง อยากดูแลน้องครับ”“ลงมาได้ยินประโยคนี้ทำเอาปาปี๊ชื่นใจที่สุดเลยลูก” ระหว่างนั้นคาแลนก็เดินลงมาจากชั้นสองพอดี เขากำลังเตรียมตัวไปทำงาน“ปาปี๊~” พอเห็นพ่อเดินลงมามาคั
สามเดือนผ่านไป ฉันกับคาแลนเพิ่งกลับจากโรงพยาบาล วันนี้คุณหมอนัดไปตรวจและอัลตราซาวนด์ดูเพศลูกสภาวะแท้งคุกคามตอนนี้ดีขึ้นแล้ว ด้วยอายุครรภ์ที่มากขึ้นด้วยไม่ต้องเฝ้าระวังอย่างตอนแรก“ทำหน้าขมวดคิ้วตั้งแต่ออกมาจากโรงพยาบาลแล้วนะคะ เป็นอะไรบอกมิลาหน่อย” ฉันถามสามีที่กำลังทำหน้าเครียดตั้งแต่รู้เพศลูก “เฮียไม่อยากให้ลูกเราเป็นผู้หญิงเหรอคะ”ฉันเม้มปากเบา ๆ ไม่ได้อยากคิดแต่ท่าทางของคาแลนทำให้ต้องถามไปอย่างนั้น เขาแปลกไปเมื่อรู้เพศทั้งที่ก่อนหน้าเราตั้งชื่อลูกไว้แล้วทั้งชายและหญิง“ลูกเฮียนะหนู ถามแบบนั้นได้ยังไง”“ก็เฮียทำหน้าเครียด”“เฮียแค่คิดว่าตัวเองต้องหวงลูกมากแน่ ๆ”ระบายยิ้มออกมาบนใบหน้าพร้อมโล่งใจทันทีที่ได้ยินคำตอบนั้น นึกว่าไม่ชอบใจซะอีกที่แท้ก็หวงลูกสาวนี่เอง“คงต้องให้การ์ดเฝ้าตั้งแต่เด็ก ให้เข้าโรงเรียนหญิงล้วนนะหนู”“แบบนี้ถ้ายัยหนูจะมีแฟน…” ยังพูดไม่จบประโยคคนตัวสูงก็รีบขัด “อย่าเพิ่งคิดไปถึงขั้นนั้นสิหนู เฮียใจหาย”“กับมาคัสเฮียไม่เห็นห่วงเลย”“มาคัสเป็นผู้ชาย”“คุณพ่อขี้หวงคิดมากตั้งแต่ลูกยังไม่คลอดออกมาเลยนะคะ” ฉันแซวพร้อมยกนิ้วขึ้นเกลี่ยแก้มอย่างหยอกล้อ คาแลนเอามือมาจับมื
อาทิตย์ผ่านไป ฉันกับคาแลนจดทะเบียนสมรสเรียบร้อยแล้ว ในตอนนี้เราคือสามีภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายตอนนี้คาแลนกำลังนอนหนุนอยู่บนตักของฉันแล้วใช้มือลูบท้องไปมาอย่างนั้นนานหลายนาทีแล้ว“อยากรู้แล้วว่าลูกจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย” ใบหน้าคมคายเงยขึ้นมองฉันแล้วพูดต่อ “ถ้าได้ผู้หญิงเฮียคงหวงมากแน่”ฉันยิ้มกว้างให้กับคำพูดนั้นของคนที่หนุนตักอยู่ ก่อนจะเอามือลูบผมเขาเบา ๆ“หวงได้แต่อย่าไปกำหนดชีวิตของลูกมากเกินไปนะคะ”“เฮียไม่ทำอย่างนั้นแน่นอนหนูสบายใจได้”คาแลนจับมือของฉันไปจูบเบา ๆ ช่วงนี้ชีวิตคู่ของเรามันลงตัวมาก ๆ ไร้อุปสรรคเหมือนอย่างก่อนหน้า ตัดสินใจไม่ผิดจริง ๆ ที่เลือกรักผู้ชายคนนี้ตั้งแต่แรก“อาทิตย์หน้าเฮียว่าง ไปเที่ยวกันนะครับ”“เที่ยวที่ไหนเหรอคะ” ฉันมองคนบนตักที่กำลังยิ้มหวาน“หนูมีที่ไหนที่อยากไปไหม”“ทุกที่ที่มีเฮีย มิลามีความสุข”“เฮ้อ เฮียรักหนูจะตายแล้วมิลา”ร่างหนาหยัดตัวขึ้นนั่ง แล้วยกมือมาประคองใบหน้าของฉันพร้อมจ้องด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความอบอุ่น ก่อนจะโน้มลงมาเรื่อย ๆ ระยะห่างระหว่างใบหน้าค่อย ๆ แคบลงจนกระทั่งริมฝีปากกดซับลงมา“อื้อ~”รสจูบที่อบอวลไปด้วยความอ่อนโยนและนุ่มนวล
วันต่อมา ตื่นมาไม่เห็นคาแลนอยู่ในห้องแล้ว มาคัสก็หายไปจากห้องของเขาเหมือนกัน ฉันค่อย ๆ เดินลงจากบันไดอย่างเชื่องช้าลงมาที่ชั้นล่าง ก่อนจะนั่งบนรถเข็นเพราะถ้าคนตัวสูงเห็นฉันเดินคงถูกดุแน่ ๆรถเข็นจะเป็นแบบขับเคลื่อนอัตโนมัติโดยใช้มือบังคับปุ่มบนที่พักแขน ได้ยินเสียงแว่วมาจากทางครัวจึงไปดูภาพที่เห็นคือคาแลนกับลูกชายอยู่ในชุดผ้ากันเปื้อน ทั้งคู่กำลังช่วยกันทำอาหาร มาคัสดูท่าจะชอบช่วยพ่อเขาทำใหญ่เลย ฉันกำลังทอดสายตามองสองพ่อลูกด้วยรอยยิ้ม“มามี๊” อุตส่าห์แอบตรงมุมแล้วแท้ ๆ แต่ลูกชายตัวน้อยหันมาเจอจนได้ คาแลนหันมองตามเสียงเรียกของลูก ก่อนจะถอนหายใจเบา ๆ “หนูลงมายังไงคะ?”น้ำเสียงที่เอ่ยถามอย่างนุ่มนวลนั้นต่างจากแววตาที่กำลังจ้องแบบดุ ทำเอาฉันไม่กล้าตอบร่างหนาที่ใส่ชุดกันเปื้อนเดินมาหยุดตรงหน้าแล้วนั่งลงเอามือมาลูบวนบนท้องของฉันพร้อมกับฟ้องลูก“ดูมี๊สิ ดื้อเดินลงมาเองแบบนี้ปาปี๊ขอดุได้ไหม”“ลูกบอกว่าไม่ได้ค่ะ”“ลูกหรือแม่ครับ?”“เฮียอย่าดุมิลาสิ” ฉันเบ้ปากส่งสายตาออดอ้อนทำให้ คาแลนส่ายหน้าไปมาช้า ๆ ด้วยใบหน้าที่เปื้อนรอยยิ้ม เห็นแบบนั้นก็รู้ว่ารอดแล้ว“คราวหลังไม่เอาแบบนี้นะมิลา เฮียเป็นห
1 เดือนผ่านไปฉันได้ออกจากโรงพยาบาลมาพักรักษาตัวที่บ้าน เราย้ายมาอยู่บ้านหลังที่ซื้อไว้ในตอนนั้นแล้ว เพิ่งตกแต่งเสร็จเมื่ออาทิตย์ก่อนส่วนใหญ่ฉันจะนอนอยู่บนเตียงเวลาจะไปเข้าห้องน้ำหรือเดินไปไหนคาแลนจะช่วยประคอง ถ้าออกไปข้างนอกต้องนั่งรถเข็น เพราะคุณหมอสั่งห้ามเรื่องไม่ควรขยับร่างกายเยอะมาคัสได้แยกไปนอนอีกห้องสมใจคุณพ่อของเขาแล้ว เพราะคาแลนกลัวว่าลูกจะนอนดิ้นมาโดนท้อง แต่ตัวลูกชายไม่งอแงแล้วก็อยากแยกห้องเหมือนกัน แหงสิพ่อเขาจัดห้องเตรียมไว้ถูกใจขนาดนั้น“พรุ่งนี้มีประชุม เฮียคงกลับมาตอนบ่ายนะมิลา”“ไหวเหรอคะ ช่วงนี้เฮียอาการไม่ค่อยดีเลย” มองคนตัวสูงอย่างเป็นห่วง เขาแพ้ท้องแทนฉันหนักมาก เรียกได้ว่าเหม็นอาหารทุกอย่าง กินอะไรเข้าไปก็อ้วกออกหมด กินได้แค่ของเปรี้ยวเห็นแล้วนึกเห็นใจมาก ๆ เพราะเคยผ่านมาก่อนรู้ว่าทรมานขนาดไหน ใบหน้าหล่อตอนนี้ซูบผอมลงไปค่อนข้างเยอะ“ประชุมผู้ถือหุ้นประจำเดือนยังไงก็ต้องไปครับ” คาแลนก้มลงมาจูบหน้าผากของฉันแผ่วเบา ตอนนี้กำลังนั่งดูทีวีอยู่ชั้นล่างของบ้าน“คันเลนจะมาส่งมาคัสกี่โมงคะ”“คงสองทุ่ม กินมื้อเย็นที่บ้านใหญ่ก่อน” วันนี้ลูกชายงอแงอยากไปเล่นกับน้องคีย์และ
ในช่วงสองสามวันที่ผ่านมาข่าวของคาแลนกับคุณหนูลี่กำลังเป็นที่พูดถึงในวงกว้าง เพราะทั้งคู่ต่างมีหน้าตาทางสังคม คาแลนให้พี่ชายช่วยเรื่องปิดข่าวทั้งหมดให้เร็วที่สุดส่วนฉันก็พยายามไม่ดูข่าวห่างจากมือถือเพราะมันทำให้เครียดไม่เป็นผลดีเท่าไร ยิ่งตอนนี้มีอาการแท้งคุกคาม“ตอนเย็นคัลเลนจะพามาคัสมาที่โรงพยาบาลนะหนู” คนที่กำลังนั่งปลอกผลไม้เอ่ยบอก เราไม่ได้พูดคุยเรื่องนั้นเพราะต่างรู้ดีว่ามันไม่มีอะไร และฉันก็ไม่ได้ถามว่าเขาจะจัดการกับผู้หญิงอย่างลี่เว่ยหลินยังไง“ลูกงอแงไหมคะ” ฉันเป็นห่วงลูกชายตัวน้อยกลัวจะงอแงแต่ถ้าจะให้มาอยู่ที่โรงพยาบาลคงไม่ได้“ที่บ้านใหญ่มีเพื่อนเล่นลูกไม่งอแงเลย”“มาคัสรู้ไหมคะว่ากำลังจะมีน้อง”“ยังครับ ถ้ารู้คงดีใจที่จะมีเพื่อนเล่น”“เฮียไม่เข้าบริษัทเลย ไม่ต้องเฝ้ามิลาตลอดก็ได้” สามวันแล้วที่ฉันนอนติดเตียงที่โรงพยาบาลส่วนคาแลนไม่ได้เข้าบริษัทเลย“เฮียเอางานที่บริษัทมาทำที่นี่ดีกว่าทิ้งให้หนูอยู่คนเดียว” เขาปลอกผลไม้เสร็จพอดีจากนั้นก็ยกจานมานั่งเก้าอี้ข้าง ๆ เตียงแล้วป้อนฉัน“พรุ่งนี้เฮียจะออกไปจัดการปัญหากับเว่ยหลิน”“ค่ะ”“ทางนั้นเรียกร้องให้รับผิดชอบที่ทำลูกสาวเขาเสียห
Talk - คาแลนตอนนี้ผมนั่งอยู่ที่หน้าห้องฉุกเฉิน สองมือกำแน่นก้มหน้าก้มตา ภาพเลือดที่ไหลออกมาจากตรงนั้นยังติดตา เกือบสติหลุดที่เห็นมิลาหมดสติไป“มิลาเป็นอะไร” คัลเลนเพิ่งมาถึงโรงพยาบาลมันรีบเดินมาถาม ผมได้แต่ส่ายหน้าแทนคำตอบพร้อมน้ำตาที่ไหลอาบแก้มตอนนี้ผมกำลังกลัว กลัวทุกอย่าง“จู่ ๆ ทำไมถึงเกิดเรื่องขึ้น”“ลี่เอาเหล้ามาให้กู ใครจะไปคิดว่าเธอใส่ยาลงไปในแก้วนั้น” ผมบอกพร้อมมือที่กำแน่นกว่าเดิมหลังจากโดนยาลี่พยายามยัดเยียดตัวเองให้กับผม โชคดีที่ตอนนั้นยังพอมีสติเอาตัวเองออกมาจากห้องน้ำได้ แต่ตอนทำกับมิลาในรถผมไม่รู้ตัวเลยว่ารุนแรงไปขนาดไหนเลือดถึงได้ไหลออกมาเยอะขนาดนั้น“ผู้หญิงคนนี้แม่งน่ากลัวฉิบหาย!!”“จัดการถอนหุ้นและยุติงานในเครือเว่ยหลินให้หมด ครั้งนี้ต่อให้คุณเฉียงมาอ้อนวอนกูจะไม่ให้อภัย”“อืม เดี๋ยวกูจัดการให้มึงไม่ต้องห่วง ตระกูลนี้ถูกจดลงบัญชีดำแน่ ๆ”“อาการมิลาเป็นยังไงบ้างคะ” เกลลินเอ่ยถามผมด้วยท่าทางเป็นห่วง“เลือด… มีเลือดไหลออกมา” ผมตอบเสียงสั่นสองมือกำแน่นจนเห็นเส้นเลือดปูดขึ้นขณะที่นั่งรอผ่านไปครู่ใหญ่ประตูห้องฉุกเฉินก็ถูกผลักพร้อมหมอที่แทรกตัวออกมายืนด้านหน้า ผมรีบลุก
ริมฝีปากบางถูกบดขยี้อีกครั้ง มิลาพยายามดันตัวเองออกเพราะเจ็บกับสัมผัสดูดดึงของคนตัวสูงที่ขาดสติ เมื่อถูกขัดใจเธอก็ถูกคนตัวโตใช้สายตาคมจ้องเขม็งยาปลุกเซ็กส์ทำให้คาแลนไม่ใช่ผู้ชายอ่อนโยนอีกต่อไป อารมณ์ของเขาเต็มไปด้วยความรุนแรงอยากจะฉีกเสื้อผ้าของว่าที่ภรรยาคนสวยออกเป็นชิ้น ๆมือหนาเปิดประตูรถยนต์ก่อนจะจับร่างบางยัดเข้าไปข้างในตรงเบาะหลัง“เฮียมีสติหน่อยได้ไหมคะ”เสียงหวานพยายามเตือนสติแต่ไม่ได้ผล เมื่อประตูรถปิดลงร่างหนาก็นั่งลงข้าง ๆ เร่งปลดหัวเข็มขัดและตะขอกางเกง เห็นแบบนั้นทำให้มิลากลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่คว้ามือกำเส้นผมนุ่นแล้วกดลงมาตรงเป้ากางเกง ใช้แท่งเนื้อร้อนถูเบา ๆ บนกลีบปากกระจับ“ช่วยทำให้มันสงบลงหน่อย” เสียงทุ้มกระเส่ามองใบหน้าสวยที่กำลังหวาดกลัวจากกระกระทำที่รุนแรงมิลาค่อย ๆ ลดตัวนั่งลงด้านล่างแทรกตรงกลางท่อนขาแกร่ง และใช้ปากของตัวเองตามคำสั่งของคนที่โดนยา เธอรู้ว่าเขากำลังทรมานและเต็มใจช่วย“หนู ซี๊ด~”ริมฝีปากบางดูดดุนแท่งเนื้อขนาดใหญ่คับปากจนเปื้อนน้ำลายสีใส ยิ่งเอาเข้าไปลึกจนสุดลำคอก็ยิ่งถูกใจอีกคน“เธอทำอะไรเฮียบ้าง” ใบหน้าหวานเงยขึ้นมาถามพร้อมใช้มือชักรูดแก่นกายใหญ่ไ
งานเลี้ยงตระกูลเว่ยหลิน ฉันอยู่ในชุดราตรีลายลูกไม้สีครีมเดินเข้ามาในงานคู่กับคาแลนที่อยู่ในชุดสูทสีขาวน้ำเงินงานจัดขึ้นยิ่งใหญ่สมเกียรติมีแขกมากหน้าหลายตาเดินหลั่งไหลเข้ามาภายในงานรวมทั้งนักข่าวที่รัวแสงแฟลชถ่ายภาพราวกับคนที่มาร่วมงานนี้เป็นดาราชื่อดังยิ่งตอนคาแลนเดินคู่กับฉันมีเสียงฮือฮาของคนที่ได้พบเห็นดังขึ้น ส่วนหนึ่งมาจากเหตุการณ์ที่เขาหายไปเหมือนคนที่ตายแล้ว ไม่มีใครคิดว่าจะกลับมา คนที่ได้เจอตัวเป็น ๆ ถึงกับยกมือขึ้นป้องปากทำตาโตอย่างเหลือเชื่อ“เป็นเกียรติมากเลยค่ะที่พี่คาแลนกับว่าที่ภรรยามาร่วมงานในวันนี้” คุณหนูลี่เดินมาต้อนรับเราสองคน ก่อนจะพาเดินมายังโต๊ะที่จัดเตรียมเอาไว้ให้เป็นโต๊ะที่อยู่ติดหน้าเวที คุณคัลแลนและภรรยาก็มางานนี้เหมือนกัน รวมถึงคุณพ่อของเขาด้วยแต่ท่านนั่งแยกอีกโต๊ะร่วมกับตระกูลเว่ยหลินที่อยู่ใกล้ ๆ กันนั่งรอที่โต๊ะไม่นานคัลเลนและภรรยาก็มาถึง เราไม่ได้พาลูกมาด้วยเพราะเป็นงานใหญ่ไม่เหมาะที่จะพาเด็ก ๆ มา“คุณเกลลินสวยมากเลยค่ะ” ฉันเอ่ยชมคุณเกลที่อยู่ในชุดราตรีสีขาว เธอสวยมาก ๆ ตอนเดินตีคู่มากับคัลเลนยิ่งเห็นว่าทั้งสองเหมาะสมกันมากจริง ๆ“คุณมิลาก็สวยมาก ๆ เ