Talk - Cullen “คุณคัลเลนคะมีคนมาขอพบค่ะ” ขณะที่กำลังนั่งเช็คเอกสารอยู่ในห้องทำงานแม่บ้านก็เดินมาบอก ทำให้ผมขมวดคิ้วแปลกใจเพราะวันนี้เป็นวันหยุดไม่น่าจะมีคนมาขอพบถึบที่บ้าน “ใคร?”“ชื่อเรย์ค่ะ จะให้เข้าพบไหมคะ” พอได้ยินชื่อทำให้ผมหัวเราะหึในลำคอ คงมีเรื่องน่าสนุกเพราะคนอย่างไอ้เรย์ถึงขั้นมาเจอที่บ้าน “อืม พามันไปรอที่ห้องรับแขก เดี๋ยวฉันตามไป” หลังจากแม่บ้านออกไปไม่นานผมก็ลุกขึ้นยืนบิดตัวยืดเส้นยืดสาย ก่อนจะเปิดลิ้นชักหยิบปืนออกมาเหน็บไว้ข้างตัว เอาไว้ป้องกันเผื่อเหตุฉุกเฉิน เพราะคนอย่างไอ้เรย์มันไว้ใจไม่ได้ #ภายในห้องรับแขก ไม่คิดว่าคนอย่างไอ้เรย์จะกล้ามาเหยียบถึงที่บ้านของศัตรูที่มันบอกว่าเกลียดนักหนาได้ แต่วันนี้มันกลับมาที่นี่อยากรู้จริงๆ ว่าเหตุผลอะไร“คิดถึงกูถึงขั้นมาหาที่บ้านเลยหรอวะ” ผมถามยียวนกวนประสาทมันพร้อมยิ้มกว้างต้อนรับ ก่อนจะถูกมองด้วยสายตาที่ไม่เป็นมิตร “หรือว่าเหงา กูจะได้ส่งลูกน้องไปเผาโรงงานมึงเล่นๆ ให้เสียหายสักสองสามร้อยล้าน” “มึงจะหยุดพูดได้หรือยัง” “กูยอมให้มึงเข้าบ้านมาก็ดีแค่ไหนแล้วไอ้เรย์” ผมบอกก่อนจะนั่งลงบนโซฟาที่อยู่ตรงข้าม ก่อนจะเอาปืนออกมาแล้วห
Talk - Gallinหลังจากที่ได้อ่านข้อความของคัลเลนมันทำให้คิดมากพอสมควร แต่ไม่ได้เอาเรื่องนี้ปรึกษาทิชาเพราะอยากรีบกลับบ้านมาคุยกับพี่ชายให้รู้เรื่องก่อน “พี่เรย์อยู่ไหน” ฉันถามการ์ดที่ยืนเฝ้าอยู่หน้าบ้าน “อยู่ที่สระครับ” เมื่อรู้ตำแหน่งของพี่ชายก็รีบเดินบึ่งมาที่สระน้ำทันที ตอนนี้พี่เรย์กำลังว่ายน้ำเล่นอยู่ในสระด้วยท่าทางที่ผ่อนคลาย “ทำแบบนี้ทำไม” ฉันตะเบ็งเสียงถามอย่างหาเรื่อง ทำให้พี่เรย์หยุดว่ายน้ำแล้วขึ้นจากสระเดินไปหยิบผ้าขนหนูมาเช็ดผมโดยไม่ได้ตอบในทันที ฉันที่ร้อนใจจึงถามอีกครั้ง “เกลพูดกับพี่เรย์อยู่นะ!!” “มันบอกว่าอะไรล่ะ?” ท่าทางที่ดูไม่ได้สงสัยกับคำถามของฉันทำให้แน่ใจแล้วว่าเรื่องที่คัลเลนพูดเป็นความจริง“พี่เรย์ยกเกลให้เขาจริงๆ หรอ” น้ำเสียงที่สั่นเครือเอ่ยถามออกไปด้วยความรู้สึกผิดหวัง รู้ว่าพี่เรย์ไม่ใช่พี่ชายคนเดิมที่เคยหวังดีเหมือนเมื่อก่อนแต่ก็ไม่คิดว่าจะขนาดนี้ พี่เรย์ถอนหายใจออกมาก่อนเบือนหน้าหนี “พี่จำเป็นต้องทำตามที่พ่อสั่ง เกลก็น่าจะรู้เหตุผล” “พี่เรย์ยังเห็นเกลเป็นน้องสาวอยู่ไหม” หยดน้ำตามันไหลอาบแก้ม ฉันพยายามเข้มแข็งแล้วแต่เรื่องนี้มันอ่อนไหวไม่สามารถห้ามน
#คฤหาสน์หลังใหญ่ เป็นครั้งแรกที่ได้เห็นบ้านของเขา มันใหญ่โตเกินกว่าจะเรียกว่าบ้านซะอีก ขนาดใหญ่กว่าบ้านของฉันหลายเท่า มีคนคอยยืนเฝ้าทั่วทั้งบริเวณไม่ต่ำกว่ายี่สิบคน ดูท่าคงจะมีศัตรูเยอะถึงได้มีลูกน้องเฝ้าเยอะขนาดนี้ เมื่อรถหรูจอดเทียบที่โรงจอดรถฉันก็เปิดประตูแล้วลงมายืดเส้นยืดสาย ทำตัวเองให้เป็นปกติถึงแม้ข้างในใจจะพังยับเยินขนาดไหนก็ตาม “เชิญเข้าไปในบ้านค่ะคุณเกล” แม่บ้านเดินมาต้อนรับและยิ้มให้อย่างเป็นมิตร จะมีก็แต่ผู้หญิงที่เพิ่งยื่นมือมาช่วยถือกระเป๋าให้เธอมองด้วยสายตาไม่เป็นมิตรสักเท่าไร ดูเหมือนจะอายุน้อยกว่าฉัน “คัลเลนไม่อยู่หรอคะ” “คุณคัลเลนออกไปบริษัทค่ะ ฝากให้ป้าดูแลคุณเกล” ถึงว่าถ้าอยู่เขาคงมาต้อนรับด้วยตัวเองแล้ว คนอย่างคัลเลนน่ะชอบปั่นหัวคนอื่นจะตายไป แต่ก็ดีเหมือนกันที่ไม่เจอเขา แม่บ้านพาเดินเข้ามาด้านในตัวคฤหาสน์โดยมีผู้หญิงอายุน้อยที่ดูท่าไม่ชอบฉันตามไม่ห่าง จริงๆ ก็ไม่อยากคิดอะไรไม่ดีหรอกนะ แต่เหมือนเธอคนนี้จะมีความสัมพันธ์กับคัลเลน ดูท่าคนในบ้านจะรู้ดีว่าฉันจะมาที่นี่เพราะไม่มีใครแสดงท่าทีตกใจหรือสงสัย“ห้องคุณเกลอยู่ชั้นสองนะคะ ส่วนชั้นสามจะเป็นห้องของคุณคาแล
บนโต๊ะอาหารไม่มีบทสนทนาใดๆ ต่อจากนั้น เราต่างเงียบ อาหารมื้อแรกในบ้านหลังใหญ่ที่ไม่คุ้นเคยมันช่างฝืดคอเรียกได้ว่ากล่ำกลืนกินก็ได้ ไม่ใช่เพราะรสชาติแย่แต่เพราะมีคนตัวสูงนั่งร่วมโต๊ะด้วยต่างหาก หลังจากกินข้าวเสร็จฉันก็เตรียมตัวขึ้นห้อง แต่ยังไม่ทันจะได้เดินขึ้นบันไดเสียงทุ้มก็เอ่ยขึ้นมาซะก่อน ทำให้ต้องหยุดชะงัก “รีบร้อนจังเลยนะ” “ก็…ง่วงแล้ว” “หืม เธอนอนเวลานี้?”“อะ อื้อ” “หนึ่งทุ่มเนี่ยนะ?” หัวคิ้วหนาขมวดชนกันหลังได้ฟังคำตอบ แน่นอนว่าฉันโกหก ถึงจะเตรียมใจมาดีแล้วแต่พอคิดถึงสิ่งที่เขาเคยทำมันก็รู้สึกไม่พร้อมขึ้นมาซะอย่างนั้น “วันนี้เพลียๆ น่ะ” “เธอดูรนๆ นะ”“ปะ….เปล่า” “หึ” เขากระตุกยิ้มมุมปากเมื่อเห็นท่าทางของฉัน ก่อนจะคว้าแขนมาโอบเอวแล้วดึงให้แนบชิดกับตัวพร้อมกับโน้มใบหน้าลงมาใกล้ๆ “คืนนี้เตรียมตัวไว้ให้ดี…เพราะฉันคงไม่ปล่อยให้เธอนอนง่ายๆ” ….เฮือก ถึงกับต้องลอบกลืนน้ำลายหนืดลงคอเมื่อได้ยินคำที่ชวนให้ขนลุก แถมพอพูดจบเขาก็ฝังจมูกลงมาที่ซอกคอของฉัน ทำตัวโรจจิตแบบนี้จะไม่ให้กลัวได้ยังไง ถึงจะทำใจกล้า เคยคิดอะไรไว้บ้างก็เถอะ แต่ฉันน่ะจะรับมือเขาได้จริงๆ หรอเวลาอยู่บนเตียง คนที่ไ
เสียงน้ำจากในห้องน้ำคงไม่ดังเท่าเสียงหัวใจที่เต้นรัวของฉันในตอนนี้ อยากจะเปิดประตูห้องหนีแต่ทำไม่ได้ เพราะเลือกไปแล้ว ติ้ง~ แชตแจ้งเตือนฉันรีบหยิบโทรศัพท์มาดู Ticha: แกนอนหรือยัง ฉัน: ยัง มีอะไรหรือเปล่า Ticha: พรุ่งนี้ไปเดินห้างกันไหม กระเป๋าออกคลอแล็คชั่นใหม่ฉันอยากได้ ฉัน: เดี๋ยวดูก่อนนะว่าว่างหรือเปล่า Ticha: เข้าบริษัทหรอ ฉัน: อือประมาณนั้น แกร็ก! ประตูห้องน้ำเปิดออกมาทำให้ฉันวางโทรศัพท์ลงทันที การกระทำที่รีบร้อนทำให้ถูกคนตรงหน้ามองด้วยสายตาสงสัย “คุยกับใคร” “คุยกับเพื่อนค่ะ” ฉันเม้มริมฝีปากแน่นรู้สึกหายใจไม่ทั่วท้องเมื่อเห็นหุ่นของคนตรงหน้า เขาคงจะดูแลตัวเองดีมากๆ ซิกแพ๊คสวยที่เรียงกันเป็นลอนทำให้ฉันต้องลอบกลืนน้ำลาย “เธอเป็นของของฉันแล้ว จำไว้ว่าห้ามคุยกับผู้ชายคนอื่น” “แบบนี้เกลก็เหงาแย่สิคะ” ฉันบอกพร้อมยิ้มกว้าง แต่ทว่าคนตรงหน้ากลับมองด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง “อย่าให้ฉันรู้” “รับรองเลยค่ะ เกลไม่ทำให้คุณรู้แน่นอน” “เกลลิน” เขาเรียกชื่อฉันเสียงดุแววตาจริงจับทำให้ต้องหุบยิ้มทันที ไม่คิดว่าจะจริงจังแบบนี้ “เลือกได้หรือยังว่าจะใช้ทอยอันไหน” “………” ฉันมองแท่งเซ็กส์ทอยที่
สองวันต่อมา….ฉันนอนอยู่บนเตียงด้วยสภาพที่ไร้เรี่ยวแรงเสื้อผ้าไม่ได้ใส่เลยสักชิ้น รู้สึกตัวร้อนหนาวสั่นตลอดเวลาไม่มีแรงแม้กระทั่งลุกขึ้นไปกินข้าว “ฉันจะให้แม่บ้านยกอาหารขึ้นมาให้” เจ้าของร่างสูงเอ่ยบอกขณะกำลังแต่งตัวด้วยชุดสูทเพื่อออกไปบริษัท “อื้อ” แม้แต่เสียงที่จะเปล่งออกไปยังไม่มีเลย มันบอบช้ำไปทั้งตัว รู้สึกเหมือนกำลังจะตาย คัลเลนเดินมาหยุดข้างๆ เตียง จากนั้นเขาก็โน้มตัวลงมาจูบบนหน้าผากสัมผัสที่นุ่มนวลต่างจากกระทำที่ป่าเถื่อนบนเตียงสิ้นเชิง“แค่นี้ก็หมดแรงแล้วหรอ ไม่เห็นเก่งเหมือนปากเลย”“คุณทำแบบนั้นสองวันติด ไม่ตายก็ดีเท่าไรแล้ว” ฉันเปล่งเสียงออกไปอย่างไม่พอใจ หากลุกขึ้นไปอาละวาดได้คงทำไปแล้วที่บอกว่าเขาทำกิจกรรมบนเตียงสองวันติดนั้นไม่เกินจริง เขาหมกมุ่นอยู่กับฉันในห้องไม่ออกไปไหนเลย ทั้งวันเราร่วมรักกันจนนับครั้งไม่ถ้วน ทำทุกที่ไม่ว่าจะเป็นบนเตียง โซฟา โต๊ะ ในห้องน้ำ ในอ่าง หรือแม้กระทั่งระเบียงห้องก็ไม่เว้น จึงไม่แปลกที่ฉันจะนอนซมหมดเรี่ยวแรงขนาดนี้ “อุตส่าห์ช่วยให้เธอปรับตัวได้เร็วๆ เห็นไหมเธอชอบมันขนาดไหน ครางไม่หยุดเลยนะ” “พะ พอแล้ว” ฉันดึงผ้าห่มขึ้นมาปิดหน้าแต่ก็ถูกฝ่
Take - Cnllen อยู่ที่ฮ่องกงผมกับไอ้คาแลนก็แยกกันไปเช็คโกดังและบริษัท ที่นี่เรามีบริษัทส่งออกชิ้นส่วนรถยนต์แต่เล็กกว่าของไทย “เรียบร้อยดีทุกอย่างใช่ไหม”“ครับนาย ช่วงนี้ปกติดีทุกอย่าง”“ของที่สั่งไว้จะผลิตทันหรือเปล่า”“ทันตามกำหนดแน่นอนครับ” “อืมๆ” คุยกับลูกน้องเรื่องคุณภาพของสินค้าและความเรียบร้อยอยู่ครู่ใหญ่ผมก็ขับรถออกจากโกดังกลับมาพักที่บ้าน จะว่าพักก็ไม่ได้เพราะผมกำลังดื่มอยู่ “งานเรียบร้อยดีหรือเปล่า” ไอ้คาแลนที่เพิ่งกลับจากบริษัทเดินมาถาม “อืม” “แล้วมึงเครียดอะไร”“กูแค่อยากดื่ม” “หน้ามึงตอนนี้กำลังเครียด” “กูไม่ได้เครียด แค่อยากแดกมึงจะเค้นเอาอะไร” “กูแค่ถามไอ้นี่” คาแลนถามพร้อมกับนั่งลง ทำอย่างกับเห็นผมดื่มแล้วเป็นเรื่องใหญ่ไปได้ปกติก็ดื่มเป็นประจำไม่เห็นมันจะสนใจ “ไม่ไปบ้านใหญ่?” “แล้วทำไมมึงไม่ไป” “กูไม่อยากไปเจอเมียพ่อ”“ส่วนกูไม่อยากไปเจอลูกสาวของเมียใหม่พ่อ” ผมกับไอ้คาแลนพูดคุยกันถึงเรื่องของพ่อ พ่ออยู่ที่ฮ่องกงกับครอบครัวใหม่ แน่นอนว่าผมสองคนไม่ค่อยถูกชะตากับสองแม่ลูกนั่นสักเท่าไร เวลามาฮ่องกงก็เลี่ยงไปเจอตลอด “ยัยเด็กนั่นเลิกตามวอแวมึงหรือยัง”“กูบล็อกท
ยอมรับว่าตกใจนิดหน่อยเพราะไม่คิดว่าบารอนจะเข้ามาทัก เราไม่ได้สนิทกันเป็นการส่วนตัวถึงแม้จะถูกผู้ใหญ่จับคู่ให้ แต่ทุกอย่างมันจบแล้ว และเราก็เคยเจอกันแค่ครั้งเดียวตอนที่อยู่บริษัท “ค่ะ มาแค่สองคน” ฉันตอบพร้อมยิ้มให้ตามมารยาท “ขอคุยด้วยได้ไหมครับ”“คุยอะไรหรอคะ คือเราสองคนมีเรื่องต้องคุยกันด้วยหรอ”“คนสวยๆ นี่ใจร้ายจังเลยนะครับ” ทิชามองหน้าฉันทันทีเมื่อได้ยินประโยคตัดพ้อจากคนตัวสูงที่ยืนอยู่“คุยก็ได้ค่ะ” ฉันตอบคนที่ยืนอยู่ก่อนจะหันมาบอกเพื่อน “เดี๋ยวฉันมานะแก” “อือ อย่าไปนานนะ แกก็รู้ว่าเพราะอะไร ฉันไม่อยากให้แกเดือดร้อน”“อือ” ฉันรู้ความหมายจากคำพูดของทิชาดี เพราะรู้ว่าคัลเลนมีสายเยอะ หูตาเขากว้างขวางไม่ว่าทำอะไรคงไม่สามารถรอดพ้นสายตาของเขาได้ ฉันเดินตามบารอนมาที่ด้านหลังของคลับเป็นมุมสูบบุหรี่คนไม่ค่อยเยอะเท่าไร ที่ยอมออกมาด้วยเพราะสงสัยว่าเขาจะคุยอะไร “ทำไมจู่ๆ ถึงยกเลิก ทั้งที่ผู้ใหญ่คุยเรื่องของเราแล้ว” อ่า เรื่องนี้เองสินะที่เขาอยากรู้ แต่มันไม่ใช่เรื่องใช่นี่ ทำไมสายตาถึงได้มองแบบไม่พอใจขนาดนั้น “เกลไม่ชอบถูกบังคับค่ะ อีกอย่างเราไม่รู้จักกันจะมาแต่งงานกันได้ยังไง ยกเลิกไป
วันเวลาผ่านไปเนิ่นนานจนฉันคลอดลูกคนที่สองให้กับคาแลน รอบนี้ได้ลูกสาวเขาดีใจมากเลยนะ เพราะเจ้าตัวได้คนโตเป็นลูกชายสมใจแล้วเจ้าหญิงตัวน้อยวัยหกเดือนของเรามีชื่อว่าเมลร่า ฉันกับคาแลนชอบชื่อลูกมาก ๆ เพราะมันเหมาะกับหน้าตาน่ารักจิ้มลิ้มอย่างลูกสาวฉันที่สุดเผลอแป๊บเดียวมาคัสในก็ได้เป็นพี่ชายคน แถมยังเห่อน้องมากอีกด้วย ถ้ามีโอกาสหรือมีจังหวะมาคัสก็จะคอยช่วยฉันเลี้ยงน้องตลอด“มามี๊น้องตื่นหรือยังครับ” หมอบอกว่ามาคัสฉลาดรอบรู้ และมีพัฒนาการในด้านต่าง ๆ ที่ดีเยี่ยมฉันปลื้มใจมากที่เห็นลูกเติบโตมาอย่างดี“ยังเลยลูก ไว้รอน้องตื่นแล้วค่อยไปเล่นกับน้องนะ”“ครับ วันนี้มาคัสมีนิทานจะมาเล่าให้น้องฟังด้วย” ได้ยินแบบนั้นคนเป็นแม่อย่างฉันก็อดที่จะอมยิ้มไม่ได้“จริงเหรอครับ มาคัสของมามี๊เก่งที่สุดเลย ขอบคุณนะลูก” ฉันก้มลงกอดลูกชายหัวแก้วหัวแหวนพร้อมกับหอมหัวเบา ๆ หนึ่งที ฉันกับคาแลนมักจะพูดขอบคุณลูกบ่อย ๆ ในเวลาที่เขาทำสิ่งดี ๆ“มาคัสรักน้อง อยากดูแลน้องครับ”“ลงมาได้ยินประโยคนี้ทำเอาปาปี๊ชื่นใจที่สุดเลยลูก” ระหว่างนั้นคาแลนก็เดินลงมาจากชั้นสองพอดี เขากำลังเตรียมตัวไปทำงาน“ปาปี๊~” พอเห็นพ่อเดินลงมามาคั
สามเดือนผ่านไป ฉันกับคาแลนเพิ่งกลับจากโรงพยาบาล วันนี้คุณหมอนัดไปตรวจและอัลตราซาวนด์ดูเพศลูกสภาวะแท้งคุกคามตอนนี้ดีขึ้นแล้ว ด้วยอายุครรภ์ที่มากขึ้นด้วยไม่ต้องเฝ้าระวังอย่างตอนแรก“ทำหน้าขมวดคิ้วตั้งแต่ออกมาจากโรงพยาบาลแล้วนะคะ เป็นอะไรบอกมิลาหน่อย” ฉันถามสามีที่กำลังทำหน้าเครียดตั้งแต่รู้เพศลูก “เฮียไม่อยากให้ลูกเราเป็นผู้หญิงเหรอคะ”ฉันเม้มปากเบา ๆ ไม่ได้อยากคิดแต่ท่าทางของคาแลนทำให้ต้องถามไปอย่างนั้น เขาแปลกไปเมื่อรู้เพศทั้งที่ก่อนหน้าเราตั้งชื่อลูกไว้แล้วทั้งชายและหญิง“ลูกเฮียนะหนู ถามแบบนั้นได้ยังไง”“ก็เฮียทำหน้าเครียด”“เฮียแค่คิดว่าตัวเองต้องหวงลูกมากแน่ ๆ”ระบายยิ้มออกมาบนใบหน้าพร้อมโล่งใจทันทีที่ได้ยินคำตอบนั้น นึกว่าไม่ชอบใจซะอีกที่แท้ก็หวงลูกสาวนี่เอง“คงต้องให้การ์ดเฝ้าตั้งแต่เด็ก ให้เข้าโรงเรียนหญิงล้วนนะหนู”“แบบนี้ถ้ายัยหนูจะมีแฟน…” ยังพูดไม่จบประโยคคนตัวสูงก็รีบขัด “อย่าเพิ่งคิดไปถึงขั้นนั้นสิหนู เฮียใจหาย”“กับมาคัสเฮียไม่เห็นห่วงเลย”“มาคัสเป็นผู้ชาย”“คุณพ่อขี้หวงคิดมากตั้งแต่ลูกยังไม่คลอดออกมาเลยนะคะ” ฉันแซวพร้อมยกนิ้วขึ้นเกลี่ยแก้มอย่างหยอกล้อ คาแลนเอามือมาจับมื
อาทิตย์ผ่านไป ฉันกับคาแลนจดทะเบียนสมรสเรียบร้อยแล้ว ในตอนนี้เราคือสามีภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายตอนนี้คาแลนกำลังนอนหนุนอยู่บนตักของฉันแล้วใช้มือลูบท้องไปมาอย่างนั้นนานหลายนาทีแล้ว“อยากรู้แล้วว่าลูกจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย” ใบหน้าคมคายเงยขึ้นมองฉันแล้วพูดต่อ “ถ้าได้ผู้หญิงเฮียคงหวงมากแน่”ฉันยิ้มกว้างให้กับคำพูดนั้นของคนที่หนุนตักอยู่ ก่อนจะเอามือลูบผมเขาเบา ๆ“หวงได้แต่อย่าไปกำหนดชีวิตของลูกมากเกินไปนะคะ”“เฮียไม่ทำอย่างนั้นแน่นอนหนูสบายใจได้”คาแลนจับมือของฉันไปจูบเบา ๆ ช่วงนี้ชีวิตคู่ของเรามันลงตัวมาก ๆ ไร้อุปสรรคเหมือนอย่างก่อนหน้า ตัดสินใจไม่ผิดจริง ๆ ที่เลือกรักผู้ชายคนนี้ตั้งแต่แรก“อาทิตย์หน้าเฮียว่าง ไปเที่ยวกันนะครับ”“เที่ยวที่ไหนเหรอคะ” ฉันมองคนบนตักที่กำลังยิ้มหวาน“หนูมีที่ไหนที่อยากไปไหม”“ทุกที่ที่มีเฮีย มิลามีความสุข”“เฮ้อ เฮียรักหนูจะตายแล้วมิลา”ร่างหนาหยัดตัวขึ้นนั่ง แล้วยกมือมาประคองใบหน้าของฉันพร้อมจ้องด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความอบอุ่น ก่อนจะโน้มลงมาเรื่อย ๆ ระยะห่างระหว่างใบหน้าค่อย ๆ แคบลงจนกระทั่งริมฝีปากกดซับลงมา“อื้อ~”รสจูบที่อบอวลไปด้วยความอ่อนโยนและนุ่มนวล
วันต่อมา ตื่นมาไม่เห็นคาแลนอยู่ในห้องแล้ว มาคัสก็หายไปจากห้องของเขาเหมือนกัน ฉันค่อย ๆ เดินลงจากบันไดอย่างเชื่องช้าลงมาที่ชั้นล่าง ก่อนจะนั่งบนรถเข็นเพราะถ้าคนตัวสูงเห็นฉันเดินคงถูกดุแน่ ๆรถเข็นจะเป็นแบบขับเคลื่อนอัตโนมัติโดยใช้มือบังคับปุ่มบนที่พักแขน ได้ยินเสียงแว่วมาจากทางครัวจึงไปดูภาพที่เห็นคือคาแลนกับลูกชายอยู่ในชุดผ้ากันเปื้อน ทั้งคู่กำลังช่วยกันทำอาหาร มาคัสดูท่าจะชอบช่วยพ่อเขาทำใหญ่เลย ฉันกำลังทอดสายตามองสองพ่อลูกด้วยรอยยิ้ม“มามี๊” อุตส่าห์แอบตรงมุมแล้วแท้ ๆ แต่ลูกชายตัวน้อยหันมาเจอจนได้ คาแลนหันมองตามเสียงเรียกของลูก ก่อนจะถอนหายใจเบา ๆ “หนูลงมายังไงคะ?”น้ำเสียงที่เอ่ยถามอย่างนุ่มนวลนั้นต่างจากแววตาที่กำลังจ้องแบบดุ ทำเอาฉันไม่กล้าตอบร่างหนาที่ใส่ชุดกันเปื้อนเดินมาหยุดตรงหน้าแล้วนั่งลงเอามือมาลูบวนบนท้องของฉันพร้อมกับฟ้องลูก“ดูมี๊สิ ดื้อเดินลงมาเองแบบนี้ปาปี๊ขอดุได้ไหม”“ลูกบอกว่าไม่ได้ค่ะ”“ลูกหรือแม่ครับ?”“เฮียอย่าดุมิลาสิ” ฉันเบ้ปากส่งสายตาออดอ้อนทำให้ คาแลนส่ายหน้าไปมาช้า ๆ ด้วยใบหน้าที่เปื้อนรอยยิ้ม เห็นแบบนั้นก็รู้ว่ารอดแล้ว“คราวหลังไม่เอาแบบนี้นะมิลา เฮียเป็นห
1 เดือนผ่านไปฉันได้ออกจากโรงพยาบาลมาพักรักษาตัวที่บ้าน เราย้ายมาอยู่บ้านหลังที่ซื้อไว้ในตอนนั้นแล้ว เพิ่งตกแต่งเสร็จเมื่ออาทิตย์ก่อนส่วนใหญ่ฉันจะนอนอยู่บนเตียงเวลาจะไปเข้าห้องน้ำหรือเดินไปไหนคาแลนจะช่วยประคอง ถ้าออกไปข้างนอกต้องนั่งรถเข็น เพราะคุณหมอสั่งห้ามเรื่องไม่ควรขยับร่างกายเยอะมาคัสได้แยกไปนอนอีกห้องสมใจคุณพ่อของเขาแล้ว เพราะคาแลนกลัวว่าลูกจะนอนดิ้นมาโดนท้อง แต่ตัวลูกชายไม่งอแงแล้วก็อยากแยกห้องเหมือนกัน แหงสิพ่อเขาจัดห้องเตรียมไว้ถูกใจขนาดนั้น“พรุ่งนี้มีประชุม เฮียคงกลับมาตอนบ่ายนะมิลา”“ไหวเหรอคะ ช่วงนี้เฮียอาการไม่ค่อยดีเลย” มองคนตัวสูงอย่างเป็นห่วง เขาแพ้ท้องแทนฉันหนักมาก เรียกได้ว่าเหม็นอาหารทุกอย่าง กินอะไรเข้าไปก็อ้วกออกหมด กินได้แค่ของเปรี้ยวเห็นแล้วนึกเห็นใจมาก ๆ เพราะเคยผ่านมาก่อนรู้ว่าทรมานขนาดไหน ใบหน้าหล่อตอนนี้ซูบผอมลงไปค่อนข้างเยอะ“ประชุมผู้ถือหุ้นประจำเดือนยังไงก็ต้องไปครับ” คาแลนก้มลงมาจูบหน้าผากของฉันแผ่วเบา ตอนนี้กำลังนั่งดูทีวีอยู่ชั้นล่างของบ้าน“คันเลนจะมาส่งมาคัสกี่โมงคะ”“คงสองทุ่ม กินมื้อเย็นที่บ้านใหญ่ก่อน” วันนี้ลูกชายงอแงอยากไปเล่นกับน้องคีย์และ
ในช่วงสองสามวันที่ผ่านมาข่าวของคาแลนกับคุณหนูลี่กำลังเป็นที่พูดถึงในวงกว้าง เพราะทั้งคู่ต่างมีหน้าตาทางสังคม คาแลนให้พี่ชายช่วยเรื่องปิดข่าวทั้งหมดให้เร็วที่สุดส่วนฉันก็พยายามไม่ดูข่าวห่างจากมือถือเพราะมันทำให้เครียดไม่เป็นผลดีเท่าไร ยิ่งตอนนี้มีอาการแท้งคุกคาม“ตอนเย็นคัลเลนจะพามาคัสมาที่โรงพยาบาลนะหนู” คนที่กำลังนั่งปลอกผลไม้เอ่ยบอก เราไม่ได้พูดคุยเรื่องนั้นเพราะต่างรู้ดีว่ามันไม่มีอะไร และฉันก็ไม่ได้ถามว่าเขาจะจัดการกับผู้หญิงอย่างลี่เว่ยหลินยังไง“ลูกงอแงไหมคะ” ฉันเป็นห่วงลูกชายตัวน้อยกลัวจะงอแงแต่ถ้าจะให้มาอยู่ที่โรงพยาบาลคงไม่ได้“ที่บ้านใหญ่มีเพื่อนเล่นลูกไม่งอแงเลย”“มาคัสรู้ไหมคะว่ากำลังจะมีน้อง”“ยังครับ ถ้ารู้คงดีใจที่จะมีเพื่อนเล่น”“เฮียไม่เข้าบริษัทเลย ไม่ต้องเฝ้ามิลาตลอดก็ได้” สามวันแล้วที่ฉันนอนติดเตียงที่โรงพยาบาลส่วนคาแลนไม่ได้เข้าบริษัทเลย“เฮียเอางานที่บริษัทมาทำที่นี่ดีกว่าทิ้งให้หนูอยู่คนเดียว” เขาปลอกผลไม้เสร็จพอดีจากนั้นก็ยกจานมานั่งเก้าอี้ข้าง ๆ เตียงแล้วป้อนฉัน“พรุ่งนี้เฮียจะออกไปจัดการปัญหากับเว่ยหลิน”“ค่ะ”“ทางนั้นเรียกร้องให้รับผิดชอบที่ทำลูกสาวเขาเสียห
Talk - คาแลนตอนนี้ผมนั่งอยู่ที่หน้าห้องฉุกเฉิน สองมือกำแน่นก้มหน้าก้มตา ภาพเลือดที่ไหลออกมาจากตรงนั้นยังติดตา เกือบสติหลุดที่เห็นมิลาหมดสติไป“มิลาเป็นอะไร” คัลเลนเพิ่งมาถึงโรงพยาบาลมันรีบเดินมาถาม ผมได้แต่ส่ายหน้าแทนคำตอบพร้อมน้ำตาที่ไหลอาบแก้มตอนนี้ผมกำลังกลัว กลัวทุกอย่าง“จู่ ๆ ทำไมถึงเกิดเรื่องขึ้น”“ลี่เอาเหล้ามาให้กู ใครจะไปคิดว่าเธอใส่ยาลงไปในแก้วนั้น” ผมบอกพร้อมมือที่กำแน่นกว่าเดิมหลังจากโดนยาลี่พยายามยัดเยียดตัวเองให้กับผม โชคดีที่ตอนนั้นยังพอมีสติเอาตัวเองออกมาจากห้องน้ำได้ แต่ตอนทำกับมิลาในรถผมไม่รู้ตัวเลยว่ารุนแรงไปขนาดไหนเลือดถึงได้ไหลออกมาเยอะขนาดนั้น“ผู้หญิงคนนี้แม่งน่ากลัวฉิบหาย!!”“จัดการถอนหุ้นและยุติงานในเครือเว่ยหลินให้หมด ครั้งนี้ต่อให้คุณเฉียงมาอ้อนวอนกูจะไม่ให้อภัย”“อืม เดี๋ยวกูจัดการให้มึงไม่ต้องห่วง ตระกูลนี้ถูกจดลงบัญชีดำแน่ ๆ”“อาการมิลาเป็นยังไงบ้างคะ” เกลลินเอ่ยถามผมด้วยท่าทางเป็นห่วง“เลือด… มีเลือดไหลออกมา” ผมตอบเสียงสั่นสองมือกำแน่นจนเห็นเส้นเลือดปูดขึ้นขณะที่นั่งรอผ่านไปครู่ใหญ่ประตูห้องฉุกเฉินก็ถูกผลักพร้อมหมอที่แทรกตัวออกมายืนด้านหน้า ผมรีบลุก
ริมฝีปากบางถูกบดขยี้อีกครั้ง มิลาพยายามดันตัวเองออกเพราะเจ็บกับสัมผัสดูดดึงของคนตัวสูงที่ขาดสติ เมื่อถูกขัดใจเธอก็ถูกคนตัวโตใช้สายตาคมจ้องเขม็งยาปลุกเซ็กส์ทำให้คาแลนไม่ใช่ผู้ชายอ่อนโยนอีกต่อไป อารมณ์ของเขาเต็มไปด้วยความรุนแรงอยากจะฉีกเสื้อผ้าของว่าที่ภรรยาคนสวยออกเป็นชิ้น ๆมือหนาเปิดประตูรถยนต์ก่อนจะจับร่างบางยัดเข้าไปข้างในตรงเบาะหลัง“เฮียมีสติหน่อยได้ไหมคะ”เสียงหวานพยายามเตือนสติแต่ไม่ได้ผล เมื่อประตูรถปิดลงร่างหนาก็นั่งลงข้าง ๆ เร่งปลดหัวเข็มขัดและตะขอกางเกง เห็นแบบนั้นทำให้มิลากลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่คว้ามือกำเส้นผมนุ่นแล้วกดลงมาตรงเป้ากางเกง ใช้แท่งเนื้อร้อนถูเบา ๆ บนกลีบปากกระจับ“ช่วยทำให้มันสงบลงหน่อย” เสียงทุ้มกระเส่ามองใบหน้าสวยที่กำลังหวาดกลัวจากกระกระทำที่รุนแรงมิลาค่อย ๆ ลดตัวนั่งลงด้านล่างแทรกตรงกลางท่อนขาแกร่ง และใช้ปากของตัวเองตามคำสั่งของคนที่โดนยา เธอรู้ว่าเขากำลังทรมานและเต็มใจช่วย“หนู ซี๊ด~”ริมฝีปากบางดูดดุนแท่งเนื้อขนาดใหญ่คับปากจนเปื้อนน้ำลายสีใส ยิ่งเอาเข้าไปลึกจนสุดลำคอก็ยิ่งถูกใจอีกคน“เธอทำอะไรเฮียบ้าง” ใบหน้าหวานเงยขึ้นมาถามพร้อมใช้มือชักรูดแก่นกายใหญ่ไ
งานเลี้ยงตระกูลเว่ยหลิน ฉันอยู่ในชุดราตรีลายลูกไม้สีครีมเดินเข้ามาในงานคู่กับคาแลนที่อยู่ในชุดสูทสีขาวน้ำเงินงานจัดขึ้นยิ่งใหญ่สมเกียรติมีแขกมากหน้าหลายตาเดินหลั่งไหลเข้ามาภายในงานรวมทั้งนักข่าวที่รัวแสงแฟลชถ่ายภาพราวกับคนที่มาร่วมงานนี้เป็นดาราชื่อดังยิ่งตอนคาแลนเดินคู่กับฉันมีเสียงฮือฮาของคนที่ได้พบเห็นดังขึ้น ส่วนหนึ่งมาจากเหตุการณ์ที่เขาหายไปเหมือนคนที่ตายแล้ว ไม่มีใครคิดว่าจะกลับมา คนที่ได้เจอตัวเป็น ๆ ถึงกับยกมือขึ้นป้องปากทำตาโตอย่างเหลือเชื่อ“เป็นเกียรติมากเลยค่ะที่พี่คาแลนกับว่าที่ภรรยามาร่วมงานในวันนี้” คุณหนูลี่เดินมาต้อนรับเราสองคน ก่อนจะพาเดินมายังโต๊ะที่จัดเตรียมเอาไว้ให้เป็นโต๊ะที่อยู่ติดหน้าเวที คุณคัลแลนและภรรยาก็มางานนี้เหมือนกัน รวมถึงคุณพ่อของเขาด้วยแต่ท่านนั่งแยกอีกโต๊ะร่วมกับตระกูลเว่ยหลินที่อยู่ใกล้ ๆ กันนั่งรอที่โต๊ะไม่นานคัลเลนและภรรยาก็มาถึง เราไม่ได้พาลูกมาด้วยเพราะเป็นงานใหญ่ไม่เหมาะที่จะพาเด็ก ๆ มา“คุณเกลลินสวยมากเลยค่ะ” ฉันเอ่ยชมคุณเกลที่อยู่ในชุดราตรีสีขาว เธอสวยมาก ๆ ตอนเดินตีคู่มากับคัลเลนยิ่งเห็นว่าทั้งสองเหมาะสมกันมากจริง ๆ“คุณมิลาก็สวยมาก ๆ เ