“ฉันรักษาคำพูดแน่ ถ้าเธอทำให้ฉันไว้ใจอย่างที่เคยบอก” คำพูดของคุณป๋าทำให้ฉันถึงกับชะงัก หายใจไม่ทั่วท้อง ยิ่งสายตาคู่นั้นที่คุณป๋ากำลังจ้องมองฉันอยู่ มันยิ่งทำให้ฉันรู้สึกหวั่นใจ และคิดว่าคุณป๋าอาจจะรู้เรื่องพี่เบสแน่ๆ “...หนูทำให้คุณป๋าไม่ไว้ใจหรอคะ” ฉันทำเชิงถามไป เพราะก็ไม่แน่ใจว่าใช่เรื่องพี่เบสหรือเปล่า ขืนพูดไปแล้วไม่ใช่ คนที่ซวยจะเป็นฉัน “หึ!!” คำตอบที่ได้คือคุณป๋าหัวเราะในลำคอเบาๆ แค่นั้น “คุณป๋าไม่คิดจะให้อิสระกับหนูจริงๆ ที่ผ่านมาคงจะส่งให้ลูกน้องคอยตามหนู อย่างนั้นใช่มั้ยคะ....” ฉันเม้มปากแน่นเพราะลุ้นกับคำตอบ “...ถ้าฉันตอบว่าใช่ เธอก็คงจะโกรธฉัน อย่างนั้นสินะ” “เกินไปหรือเปล่าคะ ในเมื่อเราตกลงกันแล้ว” “ฉันไม่คิดจะยุ่งในที่ส่วนตัวของเธอ แต่เธอเองต่างหากที่ทำให้ฉันหมดความอดทน” คุณป๋าลุกขึ้นมาจากเตียง พุ่งปรี่ตรงมากระชากแขนฉันโดยไม่ทันได้ตั้งตัว ทำให้ร่างของฉันเซไปกระแทกกับแผงอกแกร่งของคุณป๋าอย่างจัง “อื้อ หนูเจ็บ” ฉันนิ่วหน้าเพราะความเจ็บที่คุณป๋าบีบแขนอย่างแรง พยายามแกะมือของคุณป๋าออก แต่ก็ไม่เป็นผล กลับยิ่งทำให้คุณป๋าออกแรงบีบแขนฉันแรงขึ้นอีก “จะพูดเองหรือให้ฉันเ
ในหัวของฉันมันเต็มไปด้วยความสับสน ไม่รู้ว่าพี่เบสต้องการอะไร ทำไมท่าทางของเขาถึงได้เปลี่ยนไปราวกับเป็นคนละคนแบบนี้ “ทำแบบนี้ทำไมคะ” ฉันตัดสินใจถามออกไป เมื่อเห็นว่าพี่เบสขับรถออกจากตัวเมืองแล้ว แต่เขากลับไม่ยอมตอบคำถามของฉัน “พี่เบส จอดรถเถอะนะคะ เมเบลขอร้อง” ฉันไม่รู้จะทำยังไงแล้ว นอกจากอ้อนวอนเขา ทันทีที่ฉันพูดจบพี่เบสก็ระเบิดเสียงหัวเราะออกมาเหมือนคนบ้า “ไม่ต้องกลัว พี่ไม่ทำอะไรที่มันไม่ดีหรอกครับ” “จะพาเมเบลไปไหนคะ บอกได้มั้ย...” “เดี๋ยวก็รู้ครับ” “เพราะเมเบลปฏิเสธพี่เบสใช่มั้ย พี่เบสถึงทำแบบนี้” พี่เบสหัวเราะในลำคอแล้วค่อยๆ หันใบหน้าที่เปื้อนรอยยิ้มมามองฉัน “อย่าสำคัญตัวมากขนาดนั้นสิครับ” คำตอบของพี่เบสทำให้ฉันหน้าชาไปทันที ฉันทำอะไรไม่ได้เลย จะเปิดประตูรถก็ไม่ได้ ทำได้แค่นั่งเงียบและคิดหาทางว่าจะเอายังไง ฉันมองไปที่พวงมาลัยรถก่อนจะตัดสินใจเด็ดขาด ตายก็ตาย! ถ้าไม่ทำอะไรเลยก็ไม่รู้ว่าฉันต้องเจอกับอะไรต่อจากนี้ ฉันเอื้อมมือไปหักพวงมาลัยรถในขณะที่พี่เบสกำลังเผลอ ทำให้รถเสียหลัก แต่!!! แผนการยังไม่ทันสำเร็จ พี่เบสผลักฉันออกอย่างแรงจนร่างของฉันกระแทกเข้ากับประตูรถ พี่เบสบังค
ฉันร้องไห้น้ำตาไหลอาบแก้มทั้งสองข้างด้วยความกลัวและขยะแขยงคนตรงหน้า พี่เบสกำลังลากไล้ลิ้นสากไปมาบนเนินหน้าอกของฉัน นั่นมันไม่ได้ทำให้รู้สึกดีเลยสักนิด มันมีแต่ความรังเกียจที่ฉันรู้สึกได้ในตอนนี้ “อื้ม~ หอมแถมยังหวานไปทั้งตัว” “อึก~ ไอ้เลว!!” ฉันตะเบ็งเสียงที่แหบแห้งของตัวเองสบถด่าออกไป ทำให้พี่เบสดูเหมือนจะไม่พอใจที่ถูกฉันด่าแบบนี้ แต่เขาก็ยังยิ้มเหมือนคนโรคจิต“เรียกผัวให้พี่ชื่นใจหน่อยสิครับ” “....” ฉันปิดปากเงียบ “กูบอกให้มึงเรียกกูว่าผัว!!” “ฉันไม่เรียกให้เป็นเสนียดติดปากหรอก!!” “ปากดีนักนะมึง” พี่เบสขบกรามแน่น เขาซุกไซร้ใบหน้าลงมาบนซอกคอของฉันอีกครั้ง “มาดูกันว่ามึงจะใจแข็งสักแค่ไหนกันเชียว หึ!!”พูดจบมือหนาก็เลื่อนลงไปตรงหน้าท้องของฉัน ทำให้ฉันรู้ได้ทันทีว่าเขากำลังจะทำอะไร ฉันรวบรวมเรี่ยวแรงทั้งหมดที่มีดิ้นๆ อีกครั้ง ปัก!! กำปั้นใหญ่ต่อยอัดมาที่ท้องของฉันอีกครั้ง และครั้งนี้ฉันจุกจนนอนแน่นิ่งไป “ชอบให้ใช้กำลังตลอดเลยนะคนสวย” “นายครับ นาย!!” เสียงผู้ชายด้านนอกเคาะประตูดังๆ ทำให้พี่เบสแสดงสีหน้าที่หงุดหงิดออกมา แล้วหันไปมองที่ประตู “มีอะไร” “นายออกมาดูเองดีกว่าครับ” พ
ฉันรู้สึกจุกและเสียใจกับคำตอบของคุณป๋า ถึงมันจะไม่ได้เป็นคำพูดที่เลวร้ายอะไร แต่คุณป๋าน่าจะรู้ดีว่ารอยพวกนี้มันไม่ได้เกิดมาจากการเต็มใจของฉัน แล้วทำไมถึงต้องทำท่าทางแบบนี้ แล้วทำไมกัน ทำไมฉันต้องเสียใจ ทำไมฉันต้องแคร์ ในเมื่อก่อนหน้านี้มันไม่เคยมีความรู้สึกแบบนี้มาก่อน “ให้หนูทำแผลให้ได้มั้ยคะ” คุณป๋าเงียบ ทำให้ฉันยิ่งรู้สึกเหมือนตัวเองผิดเอามากๆ “นะคะ ขอให้หนูทำแผลให้...” ครั้งนี้คุณป๋าหันหน้ามามองฉัน แต่ก็แค่แวบเดียวเท่านั้น “ทำเป็นหรือไง” “เป็นสิคะ มันไม่ใช่เรื่องยากหนิ” “ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าซะ!!” พูดป๋าพูดอย่างไม่ชอบใจ ฉันรู้ดีว่ารอยพวกนี้มันไม่น่ามอง ขนาดฉันเองยังไม่อยากจะเห็นมัน ยิ่งเห็นมันก็ยิ่งรู้สึกรังเกียจ “คุณป๋ารอหนูอาบน้ำก่อนได้มั้ยคะ” “อื้ม” ฉันถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอกเมื่อคุณป๋ายอมง่ายๆ ก่อนที่จะเดินหยิบเสื้อผ้าเดินไปที่ห้องน้ำ ฉันพยายามไม่ดูตัวเองที่กระจก ไม่ก้มมองเรือนร่างที่มีรอยแดงช้ำเป็นจ่ำๆ ของตัวเอง เป็นครั้งแรกที่ฉัยอาบน้ำเร็วมากๆ และแต่งตัวด้วยชุดนอนที่มิดชิด เดินออกมาจากห้องน้ำก็เห็นว่าคุณป๋ากำลังนั่งรออยู่บนเตียงไม่ได้หนีไปไหน “เดี๋ยวหนูไปหยิบอุปกรณ์ท
ฉันกับคุณป๋ามองหน้าฉันอยู่พักใหญ่ คำถามนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่คุณป๋าถาม แต่ความรู้สึกของฉันตอนนี้มันเปลี่ยนไปแล้ว ถ้าเป็นเมื่อก่อนฉันจะตอบอย่างไม่ลังเลเลยว่า ฉันไม่ต้องการข้อให้คุณป๋าเลิกยุ่งกับผู้หญิงทุกคน แต่ตอนนี้ฉันไม่สามารถพูดคำคำนั้นได้อีก “ความรู้สึกไม่ใช่ของเล่นค่ะ” “ฉันพูดว่าความรู้สึกเป็นของเล่นตั้งแต่เมื่อไหร่ ?” “ก็ที่คุณป๋าถามหาสิ่งแลกเปลี่ยนไงคะ แค่นี้มันก็บอกได้แล้วว่าคุณป๋ามองเรื่องนี้เป็นแค่เกม” คำพูดของฉันทำให้คุณป๋ากระตุกยิ้มมุมปาก นิ้วใหญ่แตะลงบนเนินหน้าอกข้างซ้ายของฉัน พร้อมกับลมหายใจร้อนผ่าวที่เป่ากระทบลงมา “นี่คือสิ่งที่ฉันต้องการจากเธอแทนความซื่อสัตย์ของฉัน” ฉันเงียบหัวใจดวงน้อยเต้นรัวขึ้นมาอีกครั้งเมื่อรู้ความหมายของคำพูดนั้นที่คุณป๋าเพิ่งพ่นมันออกมา ฉันค่อยๆ ลุกขึ้นหมุนตัวแล้วนั่งลงบนตักแกร่งอีกครั้งในท่าที่หันหน้ามาประจันกับคุณป๋า “ลืมไปแล้วหรือเปล่าคะว่าหนูอยู่ในฐานะอะไร...” “เมียของฉัน” คุณป๋าพูดสวนขึ้นมาในทันที แววตาที่มันเปลี่ยนไปคู่นั้น ทำให้หัวใจของฉันมันเต้นรัวไม่เป็นท่า “หนูเป็นลูกเลี้ยงต่างหากค่ะ” “เมื่อก่อนใช่ แต่ตอนนี้เธอเป็นเมียของฉัน” ค
Talk เมเบลตึกดึก… ต่อให้ฉันจะพยายามข่มตาในนอนหลับเท่าไหร่ แต่ก็ทำไม่ได้ ไม่รู้ว่าคุณป๋าไปไหนตั้งแต่ตอนบ่าย จนป่านนี้สี่ทุ่มแล้วก็ยังไม่กลับมาที่บ้าน ฉันหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูเวลาหลายต่อหลายครั้งจนกระทั่งผ่านไปจนถึงเวลาห้าทุ่มครึ่ง ก็ได้ยินเสียงของเสียงรถยนต์แล่นเข้ามาภายในรั้วบ้าน ฉันรีบลุกขึ้นไปแง้มๆ ผ้าม่านดู เพราะห้องของฉันมันมองเห็นทางฝั่งโรงจอดรถพอดี เป็นรถของคุณป๋าที่เพิ่งขับเข้ามาจอด “คงจะไปหาผู้หญิงมาสินะ ถึงได้กลับดึกดื่นป่านนี้!!” ฉันพ่นลมหายใจออกมาแรงๆ และพูดด้วยความหงุดหงิด ไม่รู้ว่าสิ่งที่ฉันคิดมันจะเป็นเรื่องจริงหรือเปล่า ขนาดไม่รู้ว่าจริงไม่จริงฉันยังหงุดหงิดขนาดนี้เลย ฉันกลับมานอนลงบนเตียงเหมือนเดิม แต่ก็ยังนอนไม่หลับอยู่ดี ใจมันกระวนกระวาย ทำไมคุณป๋าถึงทำให้ฉันฟุ้งซ่านได้ขนาดนี้กัน แกร็ก! จู่ๆ ประตูห้องนอนของฉันก็ถูกเปิดเข้ามา ฉันจึงรีบกดปิดหน้าจอโทรศัพท์แล้วแกล้งหลับทันที ในเวลานี้คงไม่มีใครนอกจากคุณป๋า อีกทั้งชั้นบนของบ้านก็ไม่อนุญาตให้ใครขึ้นมาด้วย เสียงฝีเท้าย้ำหนักๆ เดินมาหยุดข้างๆ กับเตียง รับรู้ได้ทันทีว่าที่นอนข้างๆ ตัวมันยวบยาบเหมือนคุณป๋านั่งลงมา “ฉ
ฉันใช้มือดันตัวคุณป๋าออก ทำให้ที่คุณป๋าจะเงยหน้าขึ้นมามองฉันด้วยสายตาที่ไม่ชอบใจสักเท่าไหร่ “ทำไม ?” “มาถึงก็จะทำเรื่องอย่างว่าเลยหรอคะ แค่นี้เองหรอ…” มันพูดไปในเชิงตัดพ้อ พอฉันถามออกไปแบบนั้นคุณป๋าก็พ่นลมหายใจออกมาแรงๆ แล้วดึงเสื้อของฉันลงปิดหน้าอกให้เรียบร้อย ก่อนจะยกตัวฉันลงจากตักแกร่งของตัวเอง ฉันถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก เพราะไม่คิดว่าแค่คำพูดคำเดียวของฉัน จะทำให้คุณป๋าหยุดการกระทำนี้ได้ “อ่ะ คะ คุณป๋า…” ฉันตาโตขึ้นมาทันทีอย่างตกใจเมื่อจู่ๆ คุณป๋าก็ล้มตัวนอนลงมาบนตักของฉัน “ฉันทำงานหนักมาทั้งอาทิตย์ อยากจะผ่อนคลายแต่เธอไม่ยอม ใจดำจริงๆ” คุณป๋าบ่นพึมพำทั้งที่ยังหลับตาอยู่ “ถ้าจะนอนก็กลับไปนอนที่บ้านสิคะ มานอนแบบนี้ได้ไง” “ทำไมจะไม่ได้ ฉันจะนอนที่นี่หรือที่บ้านมันก็ขึ้นอยู่กับการตัดใจของฉัน” คุณป๋าตอบอย่างเอาแต่ใจ “…..” หัวใจดวงน้อยมันเต้นรัวเมื่อก้มลงมองดูคุณป๋าที่กำลังนอนหลับตาอยู่บนตักของฉัน บ้าจริง!! หยุดคิดอะไรบ้าๆ แบบนั้นสักที ฉันได้แต่ห้ามความคิดฟุ้งซ่านของตัวเอง “คุณป๋าเปลี่ยนไปนะคะ….” “เธอก็เปลี่ยนไปเหมือนกัน” “ทำไมถึงเก็บหนูมาเลี้ยงล่ะคะ ตอนนั้นทำไมไม่ปล่อยให
หลังจากจบบทกาม ฉันก็รีบไปล้างตัวในห้องน้ำแล้วก็เปลี่ยนใส่ชุดใหม่ เมื่อจัดการกับตัวเองเสร็จแล้วก็เดินออกมาด้านนอก เห็นว่าคุณป๋ายังนั่งอยู่ตรงโซฟาแถมยังไม่ยอมใส่เสื้อ ใส่เพียงแค่กางเกงตัวเดียว ฉันรีบเดินไปเก็บเสื้อผ้าของตัวเองที่กระจัดกระจายบนพื้นหน้าโซฟาโดยมีสายตาของคุณป๋าจ้องมองอยู่ตลอดเวลา “ใส่เสื้อสิคะ” ฉันเงยหน้าขึ้นบอกกับคุณป๋า “ยังไม่อยากใส่” คุณป๋าตอบก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดๆ “เดี๋ยวมีใครมาเห็นเข้า จะอธิบายว่ายังไงคะ” “ก็บอกไปว่าฉันกับเธอเพิ่งเอากันเสร็จ” คุณป๋าตอบโดยไม่ใส่ใจอะไรมากนัก แต่เมื่อฉันได้ยินคำพูดของคุณป๋าแล้ว ทำให้ไม่ค่อยชอบใจเท่าไหร่ คุณป๋าเหล่ตามามองฉันก่อนจะถอนหายใจออกมาเบาๆ “ใครจะเข้ามาได้ เธอทำเหมือนกับว่าห้องเธอเป็นพื้นที่สาธารณะ” มันก็จริงอย่างที่คุณป๋าพูด ใครจะเข้ามาถ้าฉันไม่อนุญาต แถมพี่กล้าก็ยังยืนเฝ้าหน้าห้องอยู่ขนาดนั้น “อื้อ! ปล่อยหนูนะคะ จะทำอะไรอีก” ฉันจ้องคุณป๋าตาเขม็งเมื่อถูกรั้งแขนเอาไว้ คุณป๋าไม่ตอบอะไรแต่กลับกระตุกแขนทำให้ร่างของฉันเซแถลล้มลงไปนั่งบนตักแกร่งอย่างไม่ได้ตั้งใจ คุณป๋าปัดผมที่เกะกะอยู่บนต้นคอของฉันออก ก่อนจะฝังจูบลงมาประ
คุณป๋ายืนกอดอกทำหน้ายักษ์ไม่รับมุกที่ฉันส่งไปให้ ใจคอจะตีฉันด้วยไม้เรียวนี่จริงๆ หรือไง“เลือกได้หรือยัง” คุณป๋าถามเสียงเข้ม สมองของฉันคิดอะไรไม่ได้นอกจากเรื่องอย่างว่า ฉันค่อยๆ ลุกขึ้นจากเตียงเดินมาหยุดตรงหน้าของคุณป๋า“เลือกได้แล้วค่ะ” “เลือกอันไหนก็หยิบขึ้นมา”ฉันวางมือลงบนแผงอกแกร่ง แล้วค่อยๆ เลื่อนมือลงช้าๆ ลูบไล้ซิกแพ๊คแน่นๆ กำยำของคุณป๋าลงมาคลำตรงเป้ากางเกง“หนูเลือกอันนี้ค่ะ ^_^” “เมเบล!!” คุณป๋าดุฉันอีกแล้ว คอยดูเถอะจะทำให้ครางลั่นห้องเลย “ก็เลือกแล้วนี่คะ เอามันมาฟาดหนูสิ” ฉันปล่อยมือออกจากเป้ากางเกงของคุณป๋า ก่อนจะปลดเปลื้องเสื้อผ้าของตัวเองออกจนหมด แล้วเดินไปนั่งลงบนเตียงอย่างเชื้อเชิญให้คุณป๋าอดใจไม่ไหว คุณป๋ามองเรือนร่างที่เปลือยเปล่าของฉันตาไม่กระพริบ พร้อมกับขบกรามแน่นเพื่อระงับอารมณ์กามของตัวเอง “นิ่งอยู่ทำไมล่ะคะ ไม่อยากตีหนูแล้วหรอ”“จะดื้อไปถึงไหนห๊ะ!!”“หนูเปล่าดื้อสักหน่อย” คุณป๋าเดินตรงมาหาฉัน ก่อนจะกดร่างของฉันให้นอนราบไปกับที่นอนแล้วขึ้นมาคร่อม “ชอบแบบนี้ ?” “ใครบ้างอยากโดนตีล่ะคะ” ฉันยกมือขึ้นคล้องคอของคุณป๋าเอาไว้ “อยากโดนคุณป๋าปู้ยี่ปู้ยำมากกว่า ^
3 ปีผ่านไปไวเหมือนโกหก ฉันแต่งงานกับคุณป๋าแล้ว แต่งแบบงงๆ ในตอนนั้นที่คุณป๋าคุกเข่าขอฉันแต่งงาน หลังจากนั้นสองอาทิตย์เราทั้งคู่ก็จูงมือกันเข้าหอ จดทะเบียนสมรสเป็นสามีภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายที่ผ่านมสฉันไม่สามารถปฏิเสธได้ว่าคุณป๋าดูแลฉันดีมาก และซื่อสัตย์กับฉันอย่างที่เคยสัญญาเอาไว้ว่าจะไม่ทำให้ฉันเสียใจ แต่!!! หนึ่งเรื่องที่ฉันไม่ชอบเลยคาอเรื่องห้าม ห้ามใส่สั้น ห้ามมองผู้ชาย ห้ามไปเที่ยวคลับ ในตอนนี้ฉันแทบจะเก็บกดตายอยู่แล้ว “เมเบลดื่มดิวะ แมลงวันลงไปวางไข่ในแก้วแล้วมั้งนั่น” ฟาร์นบอกพร้อมกับโยกตัวไปมาตามเสียงเพลง ในตอนนี้ฉันอยู่ที่คลับกับฟาร์นและเอวา ไม่ต้องแปลกใจว่าฉันมาโผล่ที่นี่ได้ยังไง ก็เพราะว่าคุณป๋าไปธุระที่ต่างประเทศน่ะสิ ไปหนึ่งอาทิตย์ แน่นอนว่าฉันที่เก็บกดมานานสามปีต้องไม่พลาดโอกาสทองแบบนี้แน่ ฉันออกมาดื่มกับเพื่อนทุกวันหลังจากที่คุณป๋าบินไปต่างประเทศ คิดดูสิว่าเก็บกดมากขนาดไหน แล้วฉันก็กำชับพวกลูกน้องของคุณป๋าเอาไว้แล้วทุกคนว่าห้ามปริปากฟ้องเรื่องที่ฉันมาเที่ยว ไม่อย่างนั้นจะไล่ออกให้หมด แน่นอนว่าทุกคนเชื่อฟัง เพราะในตอนนี้ฉันก็เปรียบเสหมือนคุณหญิงของบ้านฉันยกแก้วข
ในตอนนี้ฉันกำลังนั่งทำแผลให้กับคุณป๋าอยู่ คิดแล้วก็ขำ ใครจะไปคิดว่าคุณป๋าจะมีมุมที่อ่อนแอแบบนี้ ความรักมักทำให้คนอ่อนแอเสมอ “ห้ามโดนน้ำนะคะเดี๋ยวแผลจะอักเสบ” “เป็นหมอหรือไง” คุณป๋าทำหน้ามุ่ยใส่ฉัน “เป็นเมียคุณหิรัญค่ะ ^_^” พอฉันพูดแบบนั้นคุณป๋าก็หน้าแดงขึ้นมาเฉียบพลัน ก่อนที่จะคว้ามือมาดึงตัวฉันไปสวมกอด เสียงหัวใจของคุณป๋ามันกำลังเต้นรัว ทำให้ฉันอดที่จะยิ้มออกมาไม่ได้ ในตอนนี้บรรยากาศภายในห้องเงียบสนิท มีเพียงเสียงหัวใจของฉันกับคุณป๋าที่มันกำลังเต้นรัวแข่งกัน “คุณป๋าเคยคิดจะแต่งงานบ้างมั้ยคะ…” ไม่รู้เหมือนกันว่าอะไรดลใจให้ฉันเอ่ยถามคำนี้ออกไป “ทำไมจะไม่เคย แต่พอมาคิดๆ ดูแล้วงานแต่งงานมันก็ไม่ได้สำคัญไปมากกว่าที่วันนี้เธออยู่กับฉัน” พูดจบคุณป๋าก็ผละกอดออก มือหนาช้อนปลายคางของฉันให้เงยขึ้นมองตัวเอง “ถามแบบนี้แปลว่าเธออยากแต่งงาน ?”“มะ ไม่หรอกค่ะ หนูยังไงก็ได้ตามใจคุณป๋า เพราะสถานะของเราด้วย คงยากที่คนอื่นจะยอมรับ” ฉันยื่นริมฝีปากไปหอมแก้มคุณป๋า “แค่ตอนนี้คุณป๋ารักและซื่อสัตย์กับหนู หนูก็ดีใจมากกว่าการได้ใส่ชุดเจ้าสาวอีกค่ะ” “พรุ่งนี้จะมีงานจัดเลี้ยงของบริษัท ไปกับฉันนะ ในฐานะเ
ถึงจะคิดว่าคุณป๋าไม่ได้อยู่หน้าประตูแล้วแต่ฉันก็ยังโวยวาย เอาแต่ทุบประตูห้องอยู่แบบนั้นเผื่อคุณป๋าจะเห็นใจกลับมาเปิดให้ “อื้อ หนูทุบประตูจนมือแดงหมดแล้วนะคะ” ฉันแสร้งทำเป็นพูด ถ้าคุณป๋าแอบฟังอยู่คงจะเห็นใจ นี่ฉันเป็นเมียเชียวนะ จะใจดำขนาดนั้นหรือไง แต่!!! ไร้สัญญาณใดๆ จากด้านนอก เงียบกริบไม่ได้ยินเสียงอะไรทั้งนั้น “คุณป๋าหนูปวดฉี่ ฉี่จะลาดแล้ว” ปังๆๆๆๆ พูดจบฉันก็ทุบประตูห้องรัวๆ “คุณป๋าหนูพูดจริงๆ นะ เปิดประตูให้หน่อย หนูจะไม่ทำแล้ว ไม่ดื้อแล้ว” ไม่ว่าจะตะเบ็งเสียงออกไปเท่าไหร่ก็ไร้วี่แววจากนั้นด้านนอก ถ้าคุณป๋าคิดจะขังฉันไว้ในห้องนี้ถึงเช้าจริงๆ ฉันจะหักเงินจากวันละสามร้อยให้เหลือวันละร้อยห้าสิบเลยคอยดูเถอะ!!ฉันนั่งลงที่พื้นอย่างหมดแรง ทั้งแหกปากตะโกนทั้งทุบประตูห้องผ่านไปครึ่งชั่วโมงทุกอย่างยังคงเงียบ ฉันก้มหน้าลงดูมือของตัวเองทั้งสองข้างที่แดงเถือกจากกับเคาะประตูรัวๆ ติดกันเป็นเวลานาน“ไม่คิดเลยว่าคุณป๋าจะใจดำได้มากขนาดนี้” ฉันพัดพ้อออกมาเพราะความโกรธ ใช่! ฉันเองที่ผิดไปยั่วโมโหคุณป๋าทำให้ฟิวขาด แต่ใครจะไปคิดล่ะว่าคุณป๋าจะมาขังไว้แบบนี้ ที่คิดไว้มันคนละแบบกันเลย ป่านนี้ไม
น้ำเสียงอำมหิตของคุณป๋าทำให้ขนทั้งตัวของฉันมันลุกซู่ คืนนี้คงจะเจอศึกหนักอีกแล้วสินะ ไหนๆ ก็จะเจอศึกหนักแล้วขอแกล้งหน่อยแล้วกัน อยากเห็นจังว่าเวลาคนแก่หึงมากๆ จะเป็นยังไง ไม่ใช่ว่าไม่เคยเห็นหรอกเพราะปกติคุณป๋าก็ขี้หึง แต่ครั้งนี้อยากทำให้หึงสุดๆ ไปเลย แล้วก็ไปจบที่เตียง คืนนี้ฉันคงต้องร้องขอชีวิตกับคุณป๋าอีกแน่ๆ “นี่เอวาไปเข้าห้องน้ำกัน ^_^” เอวามองฉันอย่างแปลกใจที่จู่ๆ ฉันก็ชวนไปห้องน้ำ คุณป๋าที่ได้ยินฉันพูดจึงกระตุกแขนเบาๆ แล้วพูดเสียงเข้ม “ถ้าอยากไปเข้าห้องน้ำ ฉันจะพาไป” “ไม่เอาค่ะ หนูอยากไปกับเอวามากกว่า” ฉันรีบปฏิเสธ ขืนให้ไปด้วยก็ไม่สนุกสิ ฉันตั้งท่าจะลุกขึ้นอีกครั้งแต่คุณป๋าไม่ยอมปล่อยมือที่รั้งเอวของฉันอยู่ ฉันจึงหันไปทำหน้าดุใส่ “ปล่อยนะคะ” คุณป๋าพ่นลมหายใจออกมาแรงๆ ดูก็รู้ว่าไม่อยากให้ฉันลุกขึ้นจากตักของตัวเอง แต่ถึงอย่างนั้นก็ยอมปล่อยมือออก ฉันจับมือเอวาให้ลุกขึ้น ก่อนจะจูงมือพาเดินเข้ามาในบ้าน “เดี๋ยว! ห้องน้ำอยู่ทางนั้นแกจะไปไหนเมเบล” เอวาชี้ไปทางห้องน้ำชั้นล่างของบ้าน“ใครบอกว่าฉันอยากจะมาเข้าห้องน้ำจริงๆ ล่ะ”“หื้อ อะไรของแกเนี่ยเมเบล” “ตามมาเถอะน่า ถามเยอะจริ
เลิกเรียน ฉันนัดกับเพื่อนและพี่กินให้มาที่บ้านของฉันตอนหนึ่งทุ่ม พอขึ้นมาบนรถฉันก็รีบบอกคุณป๋าไว้ก่อนว่าวันนี้เพื่อนจะมาที่บ้าน “วันนี้หนูนัดเอวากับฟาร์นให้มาปาร์ตี้ที่บ้านนะคะ” ฉันบอกแต่บอกไม่หมด เพราะไม่ได้บอกว่าพี่ดินจะมาที่บ้านด้วยเหมือนกัน“ปาร์ตี้ ?” คุณป๋ามองหน้าฉันแล้วขมวดคิ้วเป็นปม “ก็ใช่ไงคะ ขอไปคลับคุณป๋าก็ไม่อนุญาต หนูเลยชวนเพื่อนมาดื่มที่บ้าน”“ทำไมถึงไม่ถามฉันก่อน ?” “ทำไมล่ะคะ หนูไม่มีสิทธิ์จะทำอะไรตามใจตัวเองเลยหรือไง ต้องขออนุญาตทุกครั้งเลยใช่มั้ยคะ” คุณป๋าถอนหายใจออกมาเบาๆ “มันไม่ใช่แบบนั้น ฉันก็แค่อยากให้เธอบอกก่อน”“นี่ไง หนูก็บอกคุณป๋าอยู่นี่ไงล่ะคะ” ทั้งฉันและคุณป๋าต่างก็ทำเงียบใส่กัน อยากจะงอนก็งอนไปเถอะวันนี้ฉันไม่ง้อหรอก ไม่ยอมให้ฉันไปเที่ยวดีนัก อีกอย่างฉันก็แค่ชวนเพื่อนมาดื่มที่บ้านเอง นี่แหละ ฉันกับคุณป๋ามักจะงอนกันเพราะเรื่องไม่เป็นเรื่องประจำ พอมาถึงบ้านคุณป๋าก็เหมือนจะอารมณ์ดีขึ้น เดินมาเปิดประตูรถให้ แต่ยังฟอร์มอยู่ “ฝากบอกให้พี่กล้าจัดเตรียมของที่สระว่ายน้ำด้วยนะคะ เดี๋ยวหนูจะขึ้นไปอาบน้ำ” ฉันออกคำสั่ง “ห้ามใส่บิกินี่” คุณป๋าชี้หน้าฉันออกคำสั
ฉันนั่งหน้าบึ้งภายในรถโดยมีคุณป๋าเป็นคนมาส่งที่มหาวิทยาลัย จะให้หน้าบึ้งได้ไงล่ะ ก็เพราะคุณป๋าน่ะสิ หยิบกระโปรงตัวที่ยาวคลุมตาตุ่มมาให้ใส่ คิดแล้วก็ไม่น้าเก็บกระโปรงตัวนี้เอาไว้เลย คอยดูเถอะกลับบ้านไปฉันจะเผามันทิ้งซะ!!“ทำหน้าให้มันดีๆ หน่อย” คุณป๋าหันหน้ามาบอกในขณะที่กำลังขับรถอยู่ “ไม่ต้องมาพูดกับหนูเลย!!” “แค่ให้ใส่กระโปรงยาวแค่นี้ ต้องโกรธฉันมากขนาดนั้นเลยหรือไง”“ยาวแค่นี้ พูดมาได้ไงว่ายาวแค่นี้ อีกนิดเดียวก็จะลากดินอยู่แล้วนะคะ” “มันก็ดูเหมาะกับเธอดี” คุณป๋าทำหน้ากวน เหอะ! เหมาะอะไรล่ะ “มีผัวแล้วจะใส่สั้นๆ ไปอ่อยใคร!!” เอ้า! จู่ๆ คุณป๋าก็ทำเสียงดุใส่ฉันเฉยเลย แถมยังทำหน้าบึ้งอีกด้วย “อื้อ กระโปรงยาวแบบนี้ก็สวยไปอีกแบบนะคะ ใส่สบายด้วย ^_^” ต้องเป็นฉันที่เป็นฝ่ายยอมอ่อนข้อให้ เพราะไม่อยากจะทะเลาะกันให้ยืดยาว “อยู่เป็น” คุณป๋าพึมพำออกมาเบาๆ ทำให้ฉันจิ๊ปากใส่ แต่ก็แอบๆ ทำเพราะเดี๋ยวจะงอนอีก ยิ่งช่วงนี้คนแกยิ่งชอบอารมณ์ขึ้นๆ ลงๆ อยู่ด้วย #มหาวิทยาลัย“หื้อ! เอวาเธอช่วยฉันดูทีว่าไม่ได้ตาฟาดไปใช่มั้ย วันนี้เมลมันใส่กระโปรงแทบจะลากดินเลยว่ะ” พอมาถึงฟาร์นมันก็พูดล้อฉันขึ้นมาทันท
เวลาล่วงเลยมาจนถึงวันที่มหาวิทยาลัยของฉันเปิดภาคเทอม…วันนี้คุณป๋าจะต้องไปส่งฉันที่มหาวิทยาลัยด้วยตัวเองและไปรับ นี้ไม่ใช่กฏที่ตัวฉันตั้งขึ้น แต่เป็นกฏของคุณป๋าเองต่างหาก แถมยังสั่งห้ามไม่ให้ฉันมองผู้ชายคนไหนอีกด้วย “ขอยกเว้นพี่ดินสักคนไม่ได้หรอคะ” ฉันอ้อนคุณป๋าในขณะที่กำลังแต่งตัวอยู่ พี่ดินคือพี่ชายที่แสนดีคนหนึ่ง เขาเคยช่วยฉันในหลายเรื่อง จะให้ฉันทำเมินใส่เขาคงไม่ได้“ไม่ได้!!” คุณป๋าตอบเสียงแข็ง“หัดมีเหตุผลบ้างสิคะ” “จะใส่ใจมันทำไมนักหนา!!” อีกแล้ว พูดถึงพี่ดินทีไรก็ทักจะมีปากเสียงกันตลอด ล่าสุดฉันขอไปกินข้าวกับพี่ดิน อย่กจะเลี้ยงขอบคุณเขาก็ถูกห้ามแล้วก็มีปากเสียงกันใหญ่โต “เขาเป็นคนดีนะคะ”คุณป๋าเงียบทำเมินไม่สนใจคำพูดของฉัน ก็ได้ถ้าอยากจะเมินใส่กันแบบนี้ ฉันเอื้อมมือหยิบกระโปรงนักศึกษาตัวที่สั้นที่สุดในตู้เสื้อผ้าออกมา แล้สสวมใส่มัน หลังจากที่ใส่กระโปรงแล้วก็หันกลับมามองคุณป๋า เห็นว่าตอนนี้คุณป๋ากำลังจ้องหน้าฉันตาเขม็งอยู่ “ไปส่งหนูได้แล้วค่ะ จะสายแล้ว”“ไม่คิดบ้างหรือไงว่ากระโปรงที่ใส่อยู่มันจะขัดหูขัดตาฉันขนาดไหน” คุณป๋าตวัดสายตาจ้องเขม็งมองกระโปรงของฉัน“หนูก็ใส่แบบนี้
เฮือก!! ใจมันกระตุกวูบทันทีเมื่อได้ยินคำพูดที่รู้ทันแผนการของคุณป๋า ใบหน้าของฉันซีดเผือดพร้อมกับมีเหงื่อเม็ดเล็กๆ ผุดขึ้นมา ฉันหลับตาลงแล้วนับหนึ่งถึงสามในใจ ก่อนจะลุกขึ้นจากตักแกร่งแล้ววิ่งหนี แต่!! ทำได้เพียงแค่ลุกขึ้น ร่างของฉันก็ถูกคุณป๋าคว้าจับที่เอวเอาไว้ออกแรงดึงให้กลับมานั่งลงบนตักของตัวเองเหมือนเดิม บ้าที่สุด!! “คิดจะหนี มันง่ายไปหรือเปล่า” ฉันค่อยๆ หันหน้ามองคุณป๋าที่กำลังทำหน้ายักษ์ใส่ ก่อนจะตัดสินใจถาม “พะ พี่กล้าบอกหรอคะ” คุณป๋าส่ายหน้าไปมาแทนคำตอบ ได้ไง! ถ้าพี่กล้าไม่บอกแล้วคุณป๋าจะรู้ได้ยังไง “ฉันแอบฟังเธอคุยกับมัน” เฮือก!! ให้ตายเถอะ สรุปคือฉันพลาดที่ไม่ได้สังเกตอะไรให้ดีๆ ก่อนใช่มั้ย “ส่วนยานั่นที่เธอคิดว่าเป็นยานอนหลับ มันเป็นแค่ยาบำรุง” มือหนาจับปลายคางของฉันให้เงยขึ้น “ฉันเป็นคนสั่งให้ไอ้กล้าเปลี่ยน”“……” ฉันค่อยๆ เม้มปากเข้าหากันแน่น ไม่รอดแน่ ถึงจะชอบเวลาที่มีอะไรกับคุณป๋า แต่ฉันไม่ค่อยชอบเลยเวลาที่ต้องถูกลงโทษ เพราะนั่นหมายความว่านอกจากคืนนี้จะไม่ได้ไปคลับแล้ว ฉันยังจะไม่ได้นอนอีกทั้งคืน คุณป๋ากดจูบหนักๆ ลงมาบนริมฝีปากของฉันเพื่อเป็นการลงโทษ ริมฝีปากมั