ทิฟฟานี่เริ่มประหม่า “เอ่อ… อเลฮานโดรน่ะ ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเขาจะส่งพวกมันมาทำไม”สีหน้าของแจ็คสันเปลี่ยนไปในทางที่ไม่ดี “เขารู้เกี่ยวกับการตั้งครรภ์ของคุณก่อนผมอีกเหรอ? และเขายังรู้ว่าคุณอยู่กับผมและส่งอาหารเสริมมาให้คุณอีกด้วย? ทั้งหมดนี้เป็นอาหารเสริมสำหรับสตรีมีครรภ์ทั้งนั้นเลยนะ…”เธอเกาหัวอย่างประหม่า “มันไม่ใช่อย่างที่คุณคิด! ฉันบอกเขาก่อนเพราะฉันคิดว่า ถ้าเขาชอบฉันจริง ๆ ล่ะ? นี่เป็นวิธีที่จะทำให้เขาถอยที่ดีที่สุด ฉันไม่รู้ว่าเขารู้ได้ยังไงว่าฉันอยู่ที่นี่ ฉันไม่ได้บอกเขา!”คำอธิบายของเธอไม่ได้ช่วยให้แจ็คสันรู้สึกดีขึ้นเลย เขายังคงทำหน้าบูดบึ้งเหมือนเดิม “แล้วคุณจะให้ผมคิดว่าอะไร? ผมควรจะขอบคุณเขาที่ดูแลผู้หญิงของผม และลูกที่ไม่รู้ว่าเป็นของผมรึเปล่า เป็นอย่างดี อย่างนั้นเหรอ?”ทิฟฟานี่อารมณ์เสียทันที “คุณหมายความว่ายังไง? คุณกำลังสงสัยว่าเด็กในท้องของฉันเป็นของคุณรึเปล่าอย่างนั้นเหรอ? ก็ได้ เด็กคนนี้เป็นลูกของอเลฮานโดร พอใจไหม? ฉันเคยมีเซ็กส์กับเขาเมื่อนานมาแล้ว นั่นเป็นเหตุผลที่เขาถึงดีกับฉันมาก แต่ทำไมฉันถึงกลับมาคบกับคุณล่ะ? เขามีทั้งเงินและอำนาจ ทำไมฉันถึงไม่อยู่กั
น้ำเสียงของมาร์ครุนแรงไปเล็กน้อย แอเรียนจึงตกใจมาก “ฉะ-ฉัน… ทำไมฉันต้องอยู่แต่บ้านและดูแลลูกตลอดเวลาด้วยล่ะ? คุณยุ่งมาก ๆ ทุกวันเพราะปัญหาในที่ทำงานจนพวกเราแทบจะไม่ได้เจอคุณเลย ฉันแค่พยายามจะแบ่งเบาภาระของคุณ ในบ้านหลังนี้ไม่มีใครทำงานงานแค่อย่างเดียว เช่นเดียวกับที่คุณดูแลสมอร์เมื่อคุณมีเวลา แล้วทำไมฉันถึงจะแบ่งเบาภาระของคุณบ้างไม่ได้เหรอ? ฉันไม่คิดว่าฉันยอมแพ้ต่อเขาเลยนะ และฉันก็ไม่ได้เสียศักดิ์ศรีเลยด้วย ปัญหาถูกแก้ไขแล้ว นั่นเป็นสิ่งที่ดีไม่ใช่เหรอ?”มาร์คเริ่มไม่สบายใจเล็กน้อย “ช่างมันเถอะ ฉันไม่อยากพูดถึงเรื่องนี้แล้ว อย่ากังวลกับปัญหาพวกนี้อีกเลย”แอเรียนไม่ได้คาดคิดปฏิกิริยานี้จากเขา เธอได้พิจารณาถึงความเป็นไปได้ที่มาร์คจะค้นพบเรื่องนี้ แต่มันก็ยังทำให้เธอรู้สึกไม่สบายใจอยู่ดี เธอไม่เคยต้องการจะเป็นแม่บ้านตัวน้อยที่ดี เธอทำสิ่งนี้ก็เพื่อเขา เขาต้องแสดงปฏิกิริยาที่ยิ่งใหญ่ขนาดนั้นด้วยเหรอ? อีโก้เป็นสิ่งที่สำคัญกับผู้ชายขนาดนั้นเลยเหรอ? นอกจากนี้ ไม่เห็นจำเป็นต้องทะเลาะกันเพราะประเด็นนี้เลย“แอริ บางครั้งนายท่านก็มักจะอารมณ์ไม่ดีแบบนี้แหละ เขาอาจจะเหนื่อยเกินไป” แมรี่ปลอบอ
เมื่อใกล้เที่ยง มาร์คก็ทนไม่ไหวอีกต่อไป เขาเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วลงไปข้างล่าง ดูเหมือนว่าเขากำลังจะออกจากบ้าน “เนคไทสีดำของฉันอยู่ที่ไหน” เมื่อเขาถามถึงเนคไทของเขา เขาไม่ได้แม้แต่จะชายตามองแมรี่หรือแอเรียนเลย อย่างไรก็ตาม ในความคิดของเขานั้น มีเพียงแค่เขาและแอเรียนอยู่ในห้อง เขาแสดงออกได้อย่างชัดเจนว่าเขาต้องการเรียกร้องความสนใจจากแอเรียนแต่เพียงผู้เดียว แต่ถึงอย่างนั้นแอเรียนก็ไม่ได้มีท่าทีจะสนใจเขาเลยแม้แต่น้อยเพื่อช่วยมาร์คให้พ้นจากความอึดอัดและลำบากใจที่ไม่ได้รับความสนใจจากแอเรียน แมรี่จึงรีบพูดขึ้นทันควันเพื่อแก้สถานการณ์ว่า “ฉันว่าเดี๋ยวฉันช่วยหาดีกว่า”เขาเริ่มโกรธ "ไม่ต้อง!" หลังจากนั้น เขาก็จัดปกคอเสื้อตัวเองด้วยความหงุดหงิดและเดินตรงดิ่งออกจากบ้านแอเรียนยิ้มเล็กน้อย “กล้าดียังไงถึงมาดุฉัน! ปกติเขาจะแต่งตัวดูดีและเหมาะสมตลอด เขาจะออกจากบ้านด้วยคอเสื้อที่โล่ง ๆ แบบนั้นจริง ๆ เหรอ? ฉันอยากจะรู้จริง ๆ ว่าเขาจะยึดมั่นในความคิดตัวเองได้นานแค่ไหน”แมรี่เองก็อดยิ้มไม่ได้และพูดว่า “ผู้ชายมักจะหยิ่งจองหองและมั่นใจในตนเองสูงเหลือเกิน นี่เป็นเรื่องจริงมาก ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับค
เอริกหัวเราะหนักมากจนหายใจแทบไม่ทัน เขาเกือบจะจับไม้กอล์ฟผิดท่าไปเลยด้วยซ้ำ “เป็นไปได้ยังไงที่นายไม่รู้ด้วยซ้ำว่าภรรยาตัวเองชอบอะไร? นายอยู่กับเธอมานานกว่าสิบปีแล้วนะ ในฐานะเพื่อน ฉันเองไม่คิดว่านายหยิ่งหรือเอาแต่ใจเกินไปเลย แต่ยังไงก็ตาม นายจะต้องพิสูจน์ให้ฉันเห็นด้วยว่านายไม่ได้เป็นแบบนั้นจริง ๆ การรักใครสักคนเป็นมากกว่าการมีเธออยู่ในหัวใจเท่านั้น นายต้องเข้าอกเข้าใจเธอด้วย แต่ถึงอย่างนั้นก็มีบางอย่างที่ฉันสังเกตเห็นนะ ในเมื่อนายเลี้ยงเธอมา เธอจึงมีความคล้ายกับนายในบางแง่มุม คนส่วนใหญ่ก็ไม่ค่อยเข้าใจเธอเช่นกัน แต่ฉันว่านายสามารถเข้าใจเธอได้อย่างเที่ยงแท้เลยเพราะเธอก็เหมือนกับนายนั่นแหละ นายลองคิดและมองเรื่องนี้จากมุมมองที่ต่างออกไปดูสิ”'ลองคิดดูจากมุมมองที่ต่างออกไปเหรอ?' ในไม่ช้า มาร์คก็จมอยู่กับความคิดของเขา 'ถ้าฉันเป็นแอเรียน ฉันจะต้องการอะไร? ฉันจะทำให้เธอกลับมาสนใจฉันอีกครั้งได้อย่างไร?’ เขาไม่รู้ว่าจะรับมือกับเธออย่างไรดีเลย เมื่อเทียบกับเรื่องในที่ทำงาน การรับมือกับภรรยาตัวเองกลับยากกว่ามากสำหรับเขา...ในขณะเดียวกัน แจ็คสันขับรถนานถึงสองสามชั่วโมงเพื่อส่งทิฟฟานี่กลับไ
“ไม่มีอะไร...” แจ็คสันหยิบเข็มกลัดใส่กระเป๋าตัวเองและทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น “ผมจะไม่อยู่ทานอาหารกลางวันด้วยแล้วนะ สั่งมาพอดีกับที่คุณจะทานก็พอ พรุ่งนี้เช้าผมมีงานที่ต้องทำ เพราะฉะนั้นผมจะกลับบ้านเพื่อไปพักผ่อนก่อน”เมื่อได้ยินดังนั้น ทิฟฟานี่ก็รู้สึกผิดหวังเล็กน้อย ผู้คนมักพูดว่าเมื่อคนรักกันไม่ได้อยู่ด้วยกัน หัวใจพวกเขาจะโหยหากันมากขึ้น พวกเขาเพิ่งจะกลับมาคบกัน แต่ดูเหมือนพวกเขาจะไม่สนิทสนมแน่นแฟ้นกันเหมือนแต่ก่อน “คุณจะกลับไปตอนนี้เลยเหรอ? คุณกำลังจะกลับทั้ง ๆ ที่เพิ่งจะมาส่งฉันเนี่ยนะ? ทำไมไม่อยู่กับฉันอีกสักหน่อยล่ะ?” เธอหยุดครู่หนึ่งก่อนจะพูดว่า “ไม่เป็นไร ฉันรู้ว่าคุณยุ่งมาก คุณไปเถอะ ฉันไม่อยากรั้งคุณเอาไว้และทำให้คุณต้องเสียเวลา”...ระหว่างทางกลับบ้าน อารมณ์ของแจ็คสันก็เหมือนดั่งท้องฟ้าที่มืดมิดไปด้วยเมฆปกคลุม เขายังไม่ได้เป็นอะไรเมื่อเขาไปส่งเธอ แต่ตอนนี้สภาพอากาศนั้นได้เปลี่ยนแปลงไปแล้ว ในไม่ช้าจะมีพายุฝนฟ้าคะนอง เขารู้ว่าเขาดูไม่ผิด นั่นคือเข็มกลัดของผู้ชายอย่างเห็นได้ชัด เขาคิดในใจว่า 'มันเป็นของใครกันแน่? ของอเลฮานโดรรึเปล่า? อเลฮานโดรได้ไปที่อพาร์ตเมนต์ของเธอรึ
หลังจากที่ถูกมาร์คและเอริกเกลี้ยกล่อมสำเร็จ แจ็คสันก็ไม่ลังเลใจอีกต่อไปและวิดีโอคอลหาทิฟฟานี่ทันทีทิฟฟานี่เพิ่งอาบน้ำเสร็จและกำลังเล่นโยคะอยู่บนเตียง โชคดีที่เธอไม่ได้สวมชุดนอนที่บางเกินไป ไม่อย่างนั้นแจ็คสันจะไม่ยอมให้คนอื่น ๆ เห็นเธอแน่ ๆ ทว่าเธอดูปกติมากขณะที่เธอถามเขาว่า “มีอะไรรึเปล่า? คุณบอกว่าคุณต้องการกลับบ้านเร็วเพื่อไปพักผ่อนไม่ใช่เหรอ? แล้วทำไมคุณถึงอยู่ในร้านอาหารล่ะ? ทานอาหารเสร็จแล้วรีบกลับบ้านเลยนะ แล้วอย่าดื่มล่ะ”แจ็คสันหยิบเข็มกลัดออกมาแล้วโชว์มันให้เธอดู “คุณเคยเห็นไอ้สิ่งนี้รึเปล่า?”ทิฟฟานี่มองที่หน้าจอและพิจารณาสักครู่ก่อนจะตอบเขาไปว่า “ไม่นะ มันเป็นเข็มกลัดเหรอ? ของคุณเหรอ? ฉันไม่ได้ใส่ของแบบนั้นอยู่แล้ว ฉันจะรู้ได้ยังไงล่ะ?"เขาพูดต่อว่า “ผมพบมันที่ห้องของคุณ ใกล้ ๆ ตู้น้ำ มันไม่ใช่ของผม แต่มันเป็นเข็มกลัดผู้ชาย ผมไม่ได้ถามคุณในตอนนั้นแต่พอผมได้คิดดูแล้ว ผมว่าผมควรจะถามคุณตรง ๆ เลยดีกว่า”ทิฟฟานี่ดูเหมือนจะตกใจ เธอคิดในใจว่า 'เข็มกลัดผู้ชายใกล้ตู้กดน้ำเหรอ? มีเพียงอเลฮานโดรเท่านั้นที่เคยมาที่นี่ครั้งหนึ่ง มันต้องเป็นของเขาแน่ ๆ’ จากนั้นเธอก็พูดกับแจ็คสันว่
สีหน้าของมาร์คเคร่งขรึมขึ้นมาทันที “เราจะคุยเรื่องนี้ในห้องทำงาน”เมื่อเขาเดินผ่านห้องนั่งเล่น เขาก็เห็นแอเรียนกำลังเปลี่ยนผ้าอ้อมให้สมอร์ เธอไม่แม้แต่จะเหลียวมองเขาด้วยซ้ำ เขาค่อนข้างอารมณ์เสียกับมันมากจนเขาต้องหายใจเข้าลึก ๆ สองสามครั้งเพื่อระงับอารมณ์ตัวเองเอาไว้หลังจากที่พวกเขาเข้าไปในห้องทำงานแล้ว มาร์คก็นั่งลงบนเก้าอี้ “คุณได้อะไรมา?”พ่อบ้านเฮนรี่รายงานตามความจริง “ตระกูลสมิธปิดข่าวได้ดีมาก ดังนั้นมันจึงค่อนข้างยากที่จะสืบถึงก้นบึ้งของสิ่งที่เกิดขึ้น แต่จากเบาะแสบางอย่างที่เราพบเมื่อไม่นานนี้ ดูเหมือนว่าอเลฮานโดรจะประสบอุบัติเหตุเล็กน้อยเมื่อราว ๆ ครึ่งปีถึงหนึ่งปีที่แล้ว ตอนนั้นเขาถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลเพราะถูกยิง และยิ่งกว่านั้น โรงพยาบาลยังถูกไฟไหม้ในขณะที่เขารักษาตัวอยู่ในนั้น ใบหน้าของเขาจึงถูกไฟไหม้เล็กน้อย เขาถึงได้ทำศัลยกรรมเมื่อเร็ว ๆ นี้เพื่อปกปิดรอยไหม้เหล่านั้น แม้ว่ารูปร่างหน้าตาของเขาอาจแตกต่างไปจากเดิม แต่ก็คงไม่มากนัก“ขาของเขาเป็นอัมพาตจากอุบัติเหตุทางรถยนต์เมื่อสองสามปีก่อน นอกจากนี้ ภูมิหลังของตระกูลสมิธยังค่อนข้างจะซับซ้อน พี่น้องและญาติทะเลาะและแก่งแย่ง
ทั้งสองฝ่ายต่างกำลังอยู่ในอารมณ์ที่เย็นชาที่สุดและต้องการให้ความร่วมมือกับอีกฝ่ายน้อยที่สุด และมันกำลังทำให้ความคับข้องใจภายในอกของมาร์คเพิ่มมากขึ้นเท่านั้น“โครงการซ่อมแซมนี้จะมีค่าใช้จ่ายอย่างน้อย 100,000 ดอลลาร์ แค่สำหรับการซ่อมแซมขั้นพื้นฐาน และนี่เป็นเพียงการประมาณการขั้นต้นเท่านั้น! สำหรับบ้านที่มูลค่าประมาณ 1.5 ล้านดอลลาร์แบบนั้นมันจะต้องแพงกว่านั้นแน่นอน มันอาจสูงถึงหลายล้านเลยก็ได้!” มาร์คกล่าวแอเรียนเข้าใจเหตุผลที่อยู่เบื้องหลังการพูดถึงเงินของเขา เขากำลังพยายามที่จะทำให้เธอใจอ่อนเพราะความมีน้ำใจของเขา! แต่เธอจะไม่ยอมจำนน ดังนั้นเธอจึงโต้กลับว่า “โอ้ เข้าใจแล้ว ฉันมีเงินเก็บอยู่สองสามแสน ดังนั้นฉันจะถอนทั้งหมดมาเพื่อสิ่งนี้และยืมเงินส่วนที่ขาดจากคุณ ไม่ต้องห่วง ฉันจะคืนมันให้คุณแน่นอน ฉันอาจจะไม่ได้ทำงาน แต่ฉันยังมีรายได้เสริมจากคาเฟ่ของฉัน วันหนึ่งฉันจะสามารถคืนหนี้ทั้งหมดให้คุณได้แน่นอน”มาร์คสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนที่จะพูดออกมาอย่างขุนเคืองว่า “ทำไมเธอต้องพูดแบบนั้นด้วย? ใครบอกว่าฉันต้องการให้เธอคืนเงินนั้น?”“ถ้านั่นไม่ใช่ปัญหา แล้วคุณจะพูดถึงค่าใช้จ่ายทำไมล่ะ?” เธอ
แน่นอนว่าแอเรียนจะไม่กล้าอุ้มเพลโตอีกเนื่องจากเธอกลัวว่าลูกชายของเธอจะอิจฉาเมื่อแอเรียนบอกให้ทิฟฟานี่ตั้งชื่อเล่นให้เพลโต ทิฟฟานี่ก็ส่ายหัว “ผู้ชายจำเป็นต้องมีชื่อเล่นด้วยเหรอ? ถ้าสมอร์โตไปเป็นหนุ่มหล่อ มันจะไม่ตลกเหรอถ้าเราจะเรียกเขาว่าสมอร์? พวกสาว ๆ ที่ชอบเขาจะต้องหัวเราะจนน้ำตาไหลแน่นอน ชื่อเล่นจะน่ารักแค่ตอนที่ยังเด็กเท่านั้นแหละ”แอเรียนเบะปาก “เธอแค่ขี้เกียจที่จะคิดชื่อ ถูกไหม? เธอเลยอ้างเหตุผลทั้งหมดนี้ ชื่อเล่นเขาก็มีไว้เรียกเฉพาะตอนที่ยังเด็กเท่านั้นแหละ ใครเขาจะเรียกชื่อเล่นกันตอนโตล่ะ?”เมื่อพวกเธอกำลังคุยกันอยู่ อยู่ ๆ แจ็คสันก็โทรมา “คุณขับรถไปหาแอเรียนกับเพลโตคนเดียวเลยเหรอ? คุณไม่รู้จักฝีมือการขับรถตัวเองเลยเหรอ? ถ้าเกิดอะไรขึ้นจะทำยังไง? คุณน่าจะขอให้คนขับรถของแม่ไปส่งคุณแทน”ทิฟฟานี่หงุดหงิดมาก “นี่คุณคงอยากให้อะไรเกิดขึ้นกับฉันมากสินะ? ฉันมาถึงแล้ว แค่นั้นยังไม่ดีพออีกเหรอ? ฉันแค่ถอยรถไม่เก่งแค่นั้นเอง ถ้าฉันขับเดินหน้าอย่างเดียวจะมีอะไรร้ายแรงเกิดขึ้นได้บ้าง? คุณทำงานของคุณต่อไปเถอะค่ะ”ทิฟฟานี่อาจจะหงุดหงิด แต่จริง ๆ แล้วเธอก็แอบดีใจ อารมณ์ของเธอชัดเจนมากแม้ก
เมื่อเมลานีทานอาหารเสร็จและพวกเขาออกจากบ้าน อเลฮานโดรก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกทันทีที่พวกเขาขึ้นรถเมลานีเห็นดังนั้นจึงถามเขาว่า “โล่งอกใช่ไหมล่ะ? ฉันบอกแล้วว่าไม่ต้องมา แต่คุณไม่ฟังฉันเอง ฉันเองยังเบื่อพ่อแม่ตัวเองเลย”อเลฮานโดรเงียบโดยไม่ตอบอะไร เขาตื่นเช้ามากและยังคงง่วงนอนอยู่ เขาจึงหลับตาลงและพักสายตาเมลานีเริ่มไม่สบายใจ อเลฮานโดรรู้เรื่องที่เธอแอบติดต่อกับทิฟฟานี่หรือเปล่า? เขาน่าจะ… ไม่รู้เรื่องหรอก ถูกไหม? ไม่อย่างนั้นเขาน่าจะโวยวายไปแล้วแทนที่จะนิ่งสงบแบบนี้ เธอเลยคิดว่าเธอน่าจะบอกเขาก่อนที่เขาจะรู้ด้วยตนเองหลังจากที่ลังเลอยู่ชั่วครู่เธอก็พูดว่า “ฉันติดต่อกับทิฟฟานี่อยู่”ร่างกายของอเลฮานโดรแข็งทื่อโดยไม่รู้ตัว “แล้ว?”เธอคิดถูกแล้วจริง ๆ อเลฮานโดรจะมีปฏิกิริยาก็ต่อเมื่อมันเป็นเรื่องของทิฟฟานี่ แต่นอกจากนั้นเขาจะเมินทุกคำพูดของเธอ เมลานีแอบไม่พอใจ แต่ไม่แสดงให้เขาเห็น “คุณไม่โกรธเหรอ?”อเลฮานโดรลืมตาและมองหน้าเธอ “ทำไมผมจะต้องโกรธด้วย? ยังไงคุณก็ไม่ทำอะไรเธออยู่แล้ว”เมลานีพูดไม่ออก เขามั่นใจขนาดนั้นเลยเหรอว่าเธอจะไม่ทำอะไรทิฟฟานี่? เธอคิดมาเสมอว่าเธอไม่รู้จักอเลฮานโด
อเลฮานโดรรู้ตัวดีว่ามันเป็นเพียงความคิดตามสัญชาตญาณผู้ชายของเขาและไม่มีสิ่งอื่นใดหลังจากนั้นไม่นานหนังตาของเมลานีก็เริ่มหนัก อาจจะเป็นเพราะความเงียบสนิทที่เปรียบดั่งเพลงกล่อมนอนอย่างดี บวกกับครรภ์ของเธอที่ทำให้เธอง่วงเหนื่อยง่ายขึ้น ตอนแรกเธอคิดว่าเธอจะไม่สามารถนอนหลับได้เพราะอเลฮานโดรด้วยซ้ำ…ขณะที่เธอกำลังหาพลิกตัวหาท่านอนที่สบายด้วยความงัวเงีย อยู่ ๆ อเลฮานโดรก็พูดขึ้นมาว่า “หยุดขยับไปขยับมาสักที”เมลานีที่กำลังจะผล็อยหลับตื่นทันทีที่ได้ยินเสียงของเขาที่ดังขึ้นอย่างกะทันหัน เธอเริ่มรู้สึกรำคาญและเหวี่ยงใส่เขา “นี่มันบ้านของฉันและเตียงของฉัน ทำไมฉันจะขยับตัวไม่ได้? นี่คุณอย่าหาเรื่องโดยไม่มีเหตุผลได้ไหม?”เธอไม่ทันรู้ตัวว่าเธอเผลอไปโดนขาของเขาขณะที่เธอพลิกตัวไปมา ทันใดนั้นอเลฮานโดรก็ขึ้นคร่อมเธอโดยที่แขนแต่ละข้างของเขาอยู่ข้างตัวเธอเมลานีตกใจและหันหน้าหนีทันที “คุณจะทำอะไร? ลงไปเลยนะ!”กำปั้นของเธอเล็กมาก มันไม่เพียงแต่ไม่สามารถทำให้อเลฮานโดรเจ็บได้ แต่การกระทำของเธอยังทำให้เขามีอารมณ์มากขึ้นอีกด้วย “ผมบอกให้คุณเลิกขยับไง คุณจะไม่ฟังผมใช่ไหม?”เมลานีไม่กล้าที่จะขยับตัวอีกและ
ในความเป็นจริงแล้วอเลฮานโดรกลับรู้สึกสบายใจโดยไม่รู้เหตุผลเมื่อเข้ามาในห้องของเธอ “คุณสบายดีไหม?”เมลานีตะลึงเล็กน้อย “ฉันบอกคุณแล้วว่าคุณไม่ต้องแสดงหรอก ที่นี่ไม่มีใครสักหน่อย แล้วคุณจะแกล้งทำทำไม? ฉันไม่ฟ้องคุณปู่หรอก เพราะฉะนั้นพรุ่งนี้คุณกลับไปเลยก็ได้ ฉันอยู่ที่นี่แล้วสบายดี”อเลฮานโดรไม่สนใจสิ่งที่เมลานนีพูดและเรียกหาเจตต์ผู้ซึ่งนำทุกอย่างที่อเลฮานโดรได้ซื้อให้เธอเข้ามาให้ โต๊ะเครื่องแป้งของเธอเต็มไปด้วยข้าวของมากมายในไม่ช้าหัวใจของเมลานีเริ่มละลายแต่เธอบังคับให้ตัวเองสงบนิ่งต่อไปเมื่อเธอพูดว่า “ขอบคุณสำหรับน้ำใจของคุณนะคะ แต่ฉันขอไม่รับของพวกนี้ดีกว่า เพราะฉันรู้ว่าคุณไม่ได้ให้มันด้วยความเต็มใจ”เจตต์ไม่ต้องการรู้เห็นเกี่ยวกับการทะเลาะของพวกเขา เขาจึงออกไปจากห้องเมื่อวางของเสร็จแล้วอเลฮานโดรพูดนิ่ง ๆ ว่า “ถ้าคุณไม่อยากได้นก็ทิ้งไปสิ เครื่องสำอางพวกนี้ไม่ได้แพงขนาดนั้น พวกเครื่องประดับก็ราคาแค่สองสามแสนดอลลาร์ เพราะฉะนั้นคุณจะทำอะไรกับพวกมันก็แล้วแต่คุณเลย ในเมื่อคุณไม่อยากเห็นหน้าผม ผมกลับวันพรุ่งนี้ก็ได้ นอนเถอะ ผมจะไปอาบน้ำก่อน”เมื่อเมลานีเห็นเขาเดินเข้าไปในห้องน้ำเธอ
ทิฟฟานี่ตระหนักว่ามีบางอย่างผิดปกติก่อนที่เธอจะพูดจบ เธอเงยหน้าขึ้นและเห็นว่าสีหน้าของแจ็คสันเยือกเย็น แววตาของเขาเปล่งประกายด้วยความตื่นตระหนก เธอไม่เข้าใจว่าเขาเป็นอะไรไป “เป็นอะไรเหรอ? ทำไมมองฉันแบบนั้นล่ะ?”มันเหมือนกับว่าเขาเปลี่ยนเป็นคนละคนไปเลย แม้แต่น้ำเสียงของเขาก็เยือกเย็น “เขาแต่งงานเพื่อความสะดวกแบบนั้น คุณยังจะเชื่อจริง ๆ เหรอว่าเขาจะมีความรู้สึกให้เมลานี ลาร์คจริง ๆ ? คุณคิดไปเองทั้งหมด ผมบอกคุณแล้วว่าห้ามไปเจอเขา ไม่ว่ามันจะเป็นเพียงเรื่องบังเอิญหรือตั้งใจยิ่งห้ามแล้วใหญ่ คราวหน้าก็หลีกเลี่ยงเขาซะนะ!”ท่าทีที่เปลี่ยนไปกะทันหันของเขาทำให้ทิฟฟานี่ตกใจกลัว เธอกลืนน้ำลายและไม่รู้ว่าจะต้องพูดอะไรแจ็คสันรีบอาบน้ำให้เสร็จและออกไปโดยปล่อยเธอไว้คนเดียวในห้องน้ำ เธอรู้สึกว่างเปล่าทันที ทุกอย่างกำลังไปได้ดีจนกระทั่งเธอพูดถึงอเลฮานโดรและทุกอย่างกลายมาเป็นแบบนี้… แจ็คสันหนีไปที่ห้องทำงานของเขาหลังจากที่ออกมาจากห้องน้ำเพื่อแอบดูดบุหรี่อย่างต่อเนื่องโดยที่ทิฟฟานี่ไม่รู้ นิ้วที่เขาถือบุหรี่สั่นไม่หยุด เขากลัวเกินกว่าที่จะคิดถึงปฏิกิริยาของทิฟฟานี่เมื่อเธอต้องรู้ว่าจริง ๆ แล้วอเลฮ
ขณะที่เขากำลังหาสวิตช์เปิดไฟบนกำแพงเพื่อที่จะเปิดไฟทิฟฟานี่ก็หยุดเขาเอาไว้ “ไม่! ฉันชอบแบบปิดไฟมากกว่า ฉันอายนิดหน่อยน่ะ”เขารู้ดีว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่ เธอกลัวว่ารอยแตกของเธอจะทำให้เขาหมดอารมณ์ เขายิ้มและจุ๊บหน้าผากเธอ “ไม่เอาน่า ปกติคุณไม่ขี้อายนี่ ผมไม่ยักรู้ว่าคุณจะอายเป็นด้วยซ้ำ ผมไม่มีวันที่จะหมดอารมณ์กับคุณหรอก คุณได้รอยแตกเหล่านั้นมาเพราะคุณอุ้มท้องลูกของผม พวกมันเป็นรางวัลแห่งเกียรติยศของคุณนะ”ทิฟฟานี่เชื่อคำพูดของเขา เขามีลิ้นที่กะล่อนที่ช่วยให้เขาสามารถถ่ายทอดคำพูดเหล่านั้นอย่างราบรื่นได้จริง ๆแจ็คสันเปิดไฟเมื่อเธอกำลังเหม่อลอยในห้วงความคิดทิฟฟานี่รีบหยิบผ้าห่มมาคลุมตัวเองทันทีที่ไฟสว่างขึ้น “โธ่ อะไรเนี่ย! ฉันไม่อยากเปิดไฟ ขอเวลาฉันปรับตัวหน่อยสิคะ!”เขายิ้มอย่างมีเลศนัยขณะที่เมินคำบ่นของเธอและคว้าแขนเธอเพื่อหยุดเธอจากการดิ้นหนี…เธอลืมหายใจเมื่อเขาจับคางของเธอ สายตาเธอเริ่มพร่ามัวหมอนใบหนึ่งนอนอยู่บนพื้นหน้าเตียงราวกับว่ามันรับความป่าเถื่อนของพวกเขาไม่ได้...หลังจากที่เสร็จภารกิจแล้ว ทิฟฟานี่ก็ขดตัวในอ้อมแขนของแจ็คสันและวาดวงกลมบนแขนของเขาแจ็คสันจับมือของเธ
”หยุดทำไมล่ะคะ?” แอเรียนถาม “เล่นต่อสิ”“เธอก็มาผลักสิ ไม่อย่างนั้นก็มานั่งกับสมอร์” มาร์คชักชวนแอเรียนเคยตกชิงช้าเมื่อตอนที่เธอยังเด็ก เธอจึงหวาดกลัว “ไม่ ๆ ไม่ คุณเล่นกับเขาเลย เดี๋ยวฉันผลักให้ ขาคุณก็ออกจะยาว คุณน่าจะแกว่งตัวเองได้สบาย ไม่เห็นจะต้องพึ่งฉันเลย แล้วคุณจะขอให้ฉันผลักทำไม?”เขาเลิกคิ้วหนึ่งข้างและตอบว่า “เพื่อที่เธอจะได้มีส่วมร่วมด้วยแทนที่จะยืนเหม่อลอยอยู่ยังไงล่ะ…”มีบางอย่างผิดปกติในคำพูดของเขา…แอเรียนยอมแพ้และเดินไปข้างหลังพวกเขา เธอวางมือบนหลังเขาและออกแรงผลักแอริสโตเติลจะส่งเสียงร้องด้วยความดีใจเป็นครั้งคราว ดูเหมือนว่าแอริสโตเติลไม่ได้มีความสุขได้เฉพาะเวลาที่เล่นกับเจนิซ เพียงแต่ว่าเวลาที่แอเรียนเล่นกับเขาเธอมักจะเล่นแบบนิ่ม ๆ และเงียบ ๆ เพราะเขาคือลูกคนแรกของเธอและมันเป็นครั้งแรกที่เธอต้องเล่นกับเด็กทารก เพราะฉะนั้นยังมีอีกหลายอย่างที่เธอยังต้องเรียนรู้อีก...ในขณะเดียวกันที่ไวท์ วอเตอร์ เบย์ วิลล่าหลังจากที่ทานข้าวกันเสร็จแจ็คสันก็กำลังล้างจานในห้องครัวตามปกติ ทิฟฟานี่สามารถจ้องเขาในชุดผ้ากันเปื้อนได้ทั้งวัน เธอไม่ได้ทำอะไรเลยนอกจากยืนพิงกำแพงในห้
หลังจากนั้นไม่นาน อเลฮานโดรและเจตต์ก็เดินออกมาจากห้างสรรพสินค้าและขึ้นรถไปอเลฮานโดรจ้องกองสินค้าสำหรับผู้หญิงข้าง ๆ เขา ระหว่างคิ้วของเขาแอบมีร่องรอยของความไม่พอใจเจตต์มองเขาผ่านกระจกมองหลัง “ท่านครับ อย่าปล่อยให้เรื่องอื่นเบี่ยงเบนความตั้งใจของท่านเลยครับ ท่านตัดสินใจที่จะไปเยี่ยมนายหญิงที่อายาเช่แล้ว” เขาเตือนเบา ๆ “ดอน สมิธจะไม่มีวันมอบสมบัติของตระกูลสมิธให้ท่านถ้าท่านลงมือในตอนนี้”อเลฮานโดรมองออกไปนอกหน้าต่างและตอบอย่างใจเย็นว่า “รู้แล้ว”เขาคงจะไม่ได้ออกมาซื้อของในวันนี้หากดอน สมิธไม่ได้กดดันเขา เขายังต้องเหนื่อยซื้อของมากมายให้เมลานีอีกด้วย เขาไม่ได้คาดคิดว่าจะเจอแอเรียนและทิฟฟานี่ที่นี่เหมือนกัน ดูจากสีหน้าของแอเรียนแล้ว มาร์คคงจะบอกเธอทุกอย่างแล้วเขาได้ต้นไม้นั้นมาจากคนอื่นอีกที มันเป็นสายพันธุ์ที่หายากจากนาฟาเอธ เขาต้องลำบากอย่างมากเพื่อที่จะนำมันกลับเข้ามาในประเทศ และไม่มีใครรู้เลยว่ามันจะออกดอกเมื่อไหร่ ถ้ามันได้รับการดูแลอย่างพิถีพิถัน มันคงจะออกดอกในไม่ช้า ตอนแรกเขาตั้งใจว่าเขาจะเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงของเขากับทิฟฟานี่เมื่อต้นไม้นั้นออกดอก แต่น่าเสียดายที่การเปลี่ย
หลังจากที่คุยกันนานพอสมควร ในที่สุดทิฟฟานี่ก็จำได้ว่าเธอมาที่นี่เพื่อซื้อเครื่องสำอางกับแอเรียน เธอหันไปหาแอเรียนและพบกับสีหน้าที่แปลกไปบนใบหน้าของแอเรียน “แอริ เป็นอะไรเหรอ?” เธอถามด้วยความสงสัย “ทำไมดึงหน้าแบบนั้นล่ะ? เธอโอเครึเปล่า?”แอเรียนหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนที่จะตอบว่า “ไม่ ฉันรู้สึกเหนื่อย ๆ นิดหน่อย ฉันไม่อยากช้อปปิ้งแล้ว ไปกันเถอะ”ทิฟฟานี่เอื้อมมือไปจับหน้าผากของแอเรียน “เพราะโรคเลือดจางของเธอรึเปล่า? เธอดูซูบ ๆ นะ ไว้ฉันจะบอกให้มาร์คขุนเธอให้อ้วน แต่ไหน ๆ เราก็มาถึงที่นี่แล้ว ทำไมไม่ซื้อของของเธอเลยล่ะ? เหลือแค่ต้องจ่ายเงินเอง ไม่นานขนาดนั้นหรอก ไปนั่งก่อนไหม? เดี๋ยวฉันจ่ายให้”อเลฮานโดรหันมามองแอเรียน แววตาของเขาแฝงไปด้วยการยั่ยยุ ทั้งคู่ต่างตระหนักถึงสถานการณ์ในตอนนี้ดีแอเรียนกลบเกลื่อนความโกรธของเธอและหาม้านั่ง เธอหวังเพียงว่าทิฟฟานี่จะเร่งรีบซื้อเครื่องสำอางเพื่อที่พวกเธอจะได้รีบออกไปจากที่นี่ ทุก ๆ วินาทีที่อยู่กับอเลฮานโดรถือเป็นความเสี่ยง“ทิฟฟานี่ ต้นไม้ที่ผมให้คุณออกดอกหรือยังครับ?” อเลฮานโดรจงใจถามถึงต้นไม้ในกระถาง ทิฟฟานี่ยื่นบัตรเครดิตของเธอให้พนักงานคิดเง