“เขาค่อนข้างดีนะ อย่างน้อยก็ไม่มีใครสามารถมองเห็นข้อบกพร่องของเขาได้ ”แอเรียนลดสายตาลงไปที่นิ้วของเธอเมื่อเธอพูด“ใช่เลย… ทุกคนคิดว่าเขาเป็นคนดี แต่ฉันหวังว่าเขาจะปฏิบัติต่อเธออย่างดีเช่นกัน” ความเศร้าที่อธิบายไม่ได้ในคำพูดของวิลทำให้แอเรียนคอตกเธอรู้สึกได้ถึงความหนักหน่วงของหัวข้อนี้และเธอก็ต้องเปลี่ยนเรื่อง “นายรู้แล้วหรือยังว่าเกิดอะไรขึ้นกับครอบครัวของทิฟฟ์? ไม่มีอะไรที่ฉันทำได้เลย…”วิลพยักหน้า "ใช่ ฉันรู้ ฉันเองก็ทำอะไรไม่ได้เช่นกัน จำนวนเงินนั้นมากเกินไป ทรัพย์สินทั้งหมดของครอบครัวของพวกเขาจะถูกยึดภายในครึ่งเดือนเพื่อชำระหนี้ การกู้ยืมเงินจากธนาคารและสิ่งอื่น ๆ หนี้เพียงอย่างเดียวที่เหลืออยู่ คือ… สิ่งที่พวกเขาเป็นหนี้กับมาร์ค เทรมอนต์ การประมาณของฉันคือยังมีหนี้มูลค่าอย่างน้อยหนึ่งล้านดอลลาร์ที่พวกเขาไม่สามารถชำระได้ ทั้งหมดขึ้นอยู่กับว่า มาร์ค เทรมอนต์ จะจัดการกับมันอย่างไร จากบุคลิกของเขาแล้วฉันไม่คิดว่าเขาจะใช้ความรุนแรง แต่แม้ว่าพวกเขาจะค่อย ๆ จ่าย แต่มันก็ยากสำหรับพวกเขาที่จะกลับมาตั้งตัวได้ใหม่ ดังนั้นพวกเขาอาจต้องใช้เวลาตลอดชีวิตในการชำระหนี้"แอเรียนขมวดคิ้ว “ฉันจ
เจตนาที่อยู่เบื้องหลังคำพูดล้อเลียนของเธอไม่อาจชัดเจนไปกว่านี้แววตาขุ่นเคืองปรากฏขึ้นในดวงตาของมาร์คแทน เขาลุกขึ้นยืนและเดินไปที่หน้าต่าง “คุณออกไปได้แล้ว”แอรี่ผงะ แต่ก็ไม่เต็มใจที่จะยอมแพ้ "อะไรนะคะ? พี่มาร์คที่รัก... เมื่อคืนฉันรีบมาที่นี่และพบคุณเพียงคนเดียวในวันนี้ คุณจะให้ฉันไปเร็ว ๆ แบบนี้ได้อย่างไร?"“อย่าต้องให้ผมพูดอีกเป็นครั้งที่สอง” เขาไม่ได้มองผู้หญิงบนเตียง ความขุ่นเคืองในดวงตาของเขาค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นความโกรธเเอรี่ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องลุกขึ้นและออกไปเธอก่นด่าเป็นพัน ๆ ครั้งเมื่อนึกถึงข้อความที่มาร์คได้รับ แม้ว่าเธอจะไม่รู้เนื้อหาของข้อความ แต่ก็เห็นได้ชัดว่านั่นคือสาเหตุที่แท้จริง คนโง่คนไหนที่ทำลายช่วงเวลาที่แสนยิ่งใหญ่ของเธอ!วันรุ่งขึ้นตอนเที่ยงมาร์คเชิญชาร์ลส์ โมแรนไปทานอาหารกลางวันที่ร้านอาหารเดิมที่พวกเขาเคยทานมาก่อนหน้านี้เมื่อชาร์ลส์มาถึงและรู้ว่าแอรียนน์ไม่อยู่ในสายตาเขาจึงถามมาร์คด้วยรอยยิ้มว่า “แล้วแอเรียนล่ะ อยู่ไหน?”มาร์คปกปิดอารมณ์ของตัวเองได้เป็นอย่างดีเบื้องหลังรอยยิ้มอันสดชื่นของเขา “เธอเดินหน้าและกลับไปที่เมืองหลวงเพื่อเข้าร่วมงานบางอย
สมาชิกในครอบครัวของผู้ป่วยให้กระติกน้ำร้อนที่เก่าและดูสกปรกซึ่งมีเพียงพระเจ้าเท่านั้นที่รู้ว่าพวกเขาใช้มันนานแค่ไหน “นี่ไง ใช้มันสิ”ทิฟฟานี่สะอิดสะเอียนเเละไม่ยอมรับมัน “ เนื่องจากคุณมีกระติกน้ำร้อนเป็นของตัวเอง คุณไม่สามารถเติมเองได้หรือไงคะ? คุณโง่ขนาดนั้นเลยเหรอคะ?”เมื่อสมาชิกในครอบครัวคนอื่น ๆ ของผู้ป่วยได้ยินคำสบประมาทพวกเขาทั้งหมดก็ลุกขึ้นยืนอย่างดุเดือด “คุณเรียกใครว่าโง่?! มันเป็นแค่กระติกน้ำร้อน แล้วไงถ้าเราทำมันพัง? เราจะเปลี่ยนให้คุณ คุณต้องพร่ามต่อไปหรือไม่?!”หลังจากใช้ชีวิตของภรรยาที่ร่ำรวยมาตลอดชีวิต ลิเลียน เลน ไม่เคยพบเจอคนแบบนี้มาก่อน เธอรีบเดินขึ้นไปดึงทิฟฟานี่ไว้ข้างหลัง “ไม่เป็นไรทิฟฟ์ แค่ไปซื้อใหม่ อย่าส่งเสียงดังรบกวนการพักผ่อนของพ่อเลยนะ”ทิฟฟานี่จ้องมองไปที่ครอบครัวคนอื่น ๆ จากนั้นก็เดินออกไปและกระแทกประตูที่อยู่ข้างหลังเธอ เธอดูเหมือนว่าเธอมีคำว่า "ไสหัวไป" เขียนอยู่ทั่วใบหน้าของเธอในตอนนี้ ใครก็ตามที่ขวางทางเธอจะเป็นคนที่โชคร้ายเมื่อประตูลิฟต์เปิดออกเธอก็รีบวิ่งออกไปอย่างไม่ทันระวังและชนใครบางคน เนื่องจากเธอโกรธตั้งแต่แรกแล้วเธอจึงตะโกนใส่บุคคลนั้นทัน
แจ็คสัน เวสต์ ยิ้มอย่างเบี้ยว ๆ “เปล่าครับ แต่ผมรู้จักลูกสาวของเขาดี”พยาบาลรู้สึกได้ทันทีราวกับว่าสามีในอนาคตของเธอถูกคนอื่นฉกไปแล้ว ในน้ำเสียงของเธอบ่งบอกถึงความผิดหวังที่เธอไม่สามารถซ่อนเอาไว้ได้ “เอ่อ… ได้เลยค่ะ ดิฉันจะจัดการให้คุณเอง”ณ คฤหาสน์ เทรมอนต์ แอเรียนรวบรวมเงินทั้งหมดที่เธอมีและวางขายภาพวาดของเธอบนอินเทอร์เน็ต น่าเสียดายที่การขายภาพวาดไม่ใช่รูปแบบหนึ่งของรายได้ที่มั่นคง จู่ ๆ เธอก็รู้สึกเสียใจที่ลาออกจากงานอย่างรีบร้อนในตอนนั้น เธอไม่คาดคิดว่าจะเกิดเหตุร้ายเช่นนี้กับครอบครัวเลน หากไม่มีรายได้ที่มั่นคงจึงเป็นเรื่องยากสำหรับเธอที่จะบริจาคเงินแม้เพียงเล็กน้อยก็ตามเธอโอนเงินที่มีให้ทิฟฟานี่ก่อน กลัวว่าทิฟฟานี่จะปฏิเสธความปรารถนาดีของเธอ เธอจึงส่งคำเตือนถึงเธอว่า “เราสามารถเอาชนะความเจ็บปวดนี้ไปได้ด้วยกัน เธอไม่ได้อยู่คนเดียวบนโลกใบนี้ ยังมีฉันและวิล อย่าดื้อรั้นในเวลาแบบนี้เลยนะ'เมื่อทิฟฟานี่ได้รับเงินและข้อความในที่สุดเธอก็น้ำตาไหล เธอไม่สนใจสายตาแปลก ๆ ที่ผู้คนบนท้องถนนจ้องมาที่เธอขณะที่เธอเดินกลับไปที่โรงพยาบาลพร้อมกับกระติกน้ำร้อนที่เพิ่งซื้อมาใหม่ในมือในสถานการณ
เมื่อนึกถึงตอนนี้เธอเดินไปสุดทางเดินและโทรหาเอธาน โทรศัพท์ดังอยู่นานก่อนจะหยิบขึ้นมา เอธานตอบอย่างเฉยเมย "ว่าไงครับ?"ทิฟฟานี่ไม่ได้สนใจทัศนคติของเขาอีกต่อไปแล้ว เธอสามารถยอมรับคนที่เย็นชาจากภายนอก แต่ภายในอบอุ่น "ขอบคุณ"เอธานจมอยู่กับหน้าจอคอมพิวเตอร์และไม่ได้สนใจคำพูดของเธอเลย "สำหรับอะไร?"ริมฝีปากของเธอโค้งเป็นรอยยิ้ม “หยุดเสแสร้ง นายเป็นคนที่บริจาคเงินให้พ่อของฉันใช่ไหม? ทำไมนายถึงเลือกที่จะไม่เปิดเผยตัวตน? ฉันขอโทษที่ทำให้นายรู้สึกเหงาเมื่อไม่นานมานี้ ตอนนี้มีเรื่องมากมายเกิดขึ้นกับครอบครัวของฉัน อย่าโกรธฉัน ฉันจะไปหานายเมื่อฉันว่าง”เอธานขมวดคิ้ว เขาอยากจะปฏิเสธ แต่ไม่ได้พูดคำที่มาถึงริมฝีปากของเขา ความสนใจของเขาอยู่ที่คอมพิวเตอร์และเขาไม่รู้สึกอยากอธิบายตัวเอง “ฉันไม่ว่าง ฉันจะวางสายนะ”......เป็นเวลาหลังเที่ยงคืนตามเวลาที่มาร์คกลับไปที่ คฤหาสน์ เทรมอนต์ และแอเรียนก็หลับไปแล้ว อย่างไรก็ตาม จู่ ๆ เธอก็ตื่นขึ้นด้วยเสียงรถของเขาจากชั้นล่างเธอเป็นคนหลับยากมาโดยตลอด เสียงใด ๆ สามารถปลุกเธอได้อย่างง่ายดายหลังจากนั้นไม่นานประตูห้องนอนก็ถูกผลักให้เปิดออกเธอไม่ได้พูดอะไร เ
ในขณะที่พวกเขากำลังสนทนากันประตูของวอร์ดก็เปิดออก ทิฟฟานี่ไอสองครั้งและดึงที่ชายเสื้อของแอเรียนเมื่อหันไปรอบ ๆ ดวงตาของแอเรียนยก็พบกับดวงตาที่อ่อนโยนของวิล ซีวาน “โอ้ เธออยู่ที่นี่ด้วย”มันเป็นเพียงคำทักทายธรรมดา ๆ แต่มีอารมณ์ที่ซ่อนอยู่มากมายอยู่ภายใต้นั้นวิลวางอาหารเสริมที่เขาซื้อไว้บนโต๊ะข้างเตียง “ ฉันมาเยี่ยมคุณลุง ฉันไม่คิดว่าจะเจอเธออยู่ที่นี่เช่นกัน สภาพแวดล้อมที่นี่… ไม่ค่อยดีนัก ทิฟฟ์ ทำไมเธอไม่ย้ายเขาไปที่วอร์ดส่วนตัวล่ะ?”ทันทีที่วิลพูดอย่างนั้น สมาชิกในครอบครัวของผู้ป่วยที่มีความขัดแย้งกับทิฟฟานี่เมื่อวานนี้ก็หัวเราะเยาะ “วอร์ดส่วนตัว? พวกเขายังคงเป็นหนี้อยู่ตั้งมากมายขนาดนั้น …”ทิฟฟานี่ตีหน้าอกของเธอแล้วดึงม่านความเป็นส่วนตัวปิด “แค่หมาหลายตัว ไม่ต้องสนใจ”สมาชิกในครอบครัวคนหนึ่งดึงผ้าม่านออกและตะโกนว่า “คุณเรียกใครว่าหมา? คุณไม่มีมารยาท! ไม่แปลกใจทำไมโรงงานของคุณถึงล้มละลาย การมีธุรกิจครอบครัวขนาดใหญ่จะใช้ประโยชน์อะไรได้ในเมื่อคุณไม่มีมารยาทเลย? สมควรแล้วล่ะ!”ทิฟฟานี่พับแขนเสื้อขึ้น “คุณอยากมีเรื่องใช่ไหม? ฉันรู้สึกคันไม้คันมืออยากจะฟาดหน้าคุณจัง ๆ สักที”วิล
ทิฟฟานี่กัดช้อนตัวเอง เหมือนกวางที่ถูกไฟหน้ารถส่องมาที่หน้าในเวลากลางคืน เธอเลื่อนสายตาไปมาระหว่าง วิลและแอเรียน จากนั้นก็เลือกที่จะเงียบ นี่ไม่ใช่สิ่งที่เธอแก้ไขได้วิลขมวดคิ้วมองเธอ “คุณรู้ได้อย่างไรว่าผมอยู่ที่นี่?”เวนดี้ยิ้มแล้วมานั่งข้างๆ “คุณจะเชื่อฉันไหมถ้าฉันบอกคุณว่า ฉันแค่เดินผ่านมาน่ะ?”วิลไม่ได้พูดอะไร แต่แอเรียนพูดแทน “คุณกินข้าวหรือยังคะ? ถ้าคุณไม่รังเกียจก็ทานด้วยกันเถอะค่ะ”เวนดี้ยิ้มให้เธอแล้วสั่งให้พนักงานนำจานและช้อนส้อมมาให้เธอ “คุณไม่มีแผนอะไรเลยหลังอาหารกลางวันใช่ไหม? ฉันกำลังคิดว่าจะไปช็อปปิ้งกับวิล สาว ๆ อยากไปด้วกันไหมคะ?”แอเรียนเป็นคนแรกที่ตอบเธอ “ฉันต้องไปหางานทำต่อหลังจากนี้ค่ะ”“ฉันต้องกลับไปที่โรงพยาบาลและดูแลพ่อของฉัน คุณสองคนไปสนุกกันเถอะ!” ทิฟฟานี่รีบทำตามความสงสารปรากฏบนใบหน้าของเวนดี้ “เอาล่ะ อย่างนั้นก็เดาว่าจะมีแค่วิลกับฉัน”ไม่นานหลังจากนั้นวิลวางช้อนส้อมลง “ฉันอิ่มแล้ว”ในขณะที่ยังคงแทะกุ้งครึ่งตัว เวนดี้จ้องมองเขาด้วยดวงตาที่ไร้เดียงสุด ๆ ของเธอ “คุณกินน้อยขนาดนั้นเลยเหรอ? ที่นี่อาหารค่อนข้างดีเลยนะคะ คุณน่าจะกินเยอะกว่านี้…”บุคลิกท
ทิฟฟานี่สามารถบอกได้เลยว่า แอเรียนกำลังบังคับให้ตัวเองพูดทุกอย่าง แต่ไม่ได้เลือกที่จะเปิดเผยความรู้สึกที่แท้จริงของเธอ “ตอนนี้ฉันรู้สึกว่ามาร์คปฏิบัติต่อเธอไม่ดีจริงๆ เธอสองคนแต่งงานกันมาสามปีแล้ว แต่เขาไม่เคยซื้อแหวนให้เธอเลยด้วยซ้ำ คนที่ใช่ไม่สามารถลงเอยด้วยกันได้ และคนที่ไม่ใช่กลับผูกกันอย่างแน่นแฟ้น ใครกันแน่ที่ถูกทรมานที่นี่?”แอเรียนไม่ได้สนทนาต่อ พวกเขาแยกทางกันและทันทีที่เธอกลับถึงบ้านเธอก็โพสต์ประวัติส่วนตัวของเธอบนอินเทอร์เน็ต หากมีทางเลือกเธอไม่ต้องการงานที่ต้องไปตามสถานที่ต่าง ๆ ประสบการณ์การทำงานของเธอจนถึงขณะนี้ยังไม่สามารถทำให้เธอเป็นคนที่ชอบออกไปข้างนอกได้ เมื่อเธอคิดเรื่องนี้แล้วเธอก็พบว่าบุคลิกของตัวเองเป็นเรื่องที่น่าขันเมื่อพิจารณาถึงความจริงที่ว่า เธอเติบโตมากับคนอย่างมาร์ค เทรมอนต์มาร์คไม่ได้กลับบ้านอีกครั้งในคืนนี้ แอเรียนถูกทิ้งให้กินคนเดียวบนโต๊ะที่เต็มไปด้วยจานอาหาร “แมรี่ ครั้งหน้าอย่าทำอาหารเยอะขนาดนี้ ถ้ามาร์คไม่กลับบ้าน หนูกินไม่หมดและมันก็สิ้นเปลืองด้วย”แมรี่เพียงแค่ฮัมในการตอบสนอง หลังจากเหตุการณ์ครั้งสุดท้ายที่พ่อบ้านเฮนรี่เกือบถูกไล่ออก เธอก็ไม่กล
แน่นอนว่าแอเรียนจะไม่กล้าอุ้มเพลโตอีกเนื่องจากเธอกลัวว่าลูกชายของเธอจะอิจฉาเมื่อแอเรียนบอกให้ทิฟฟานี่ตั้งชื่อเล่นให้เพลโต ทิฟฟานี่ก็ส่ายหัว “ผู้ชายจำเป็นต้องมีชื่อเล่นด้วยเหรอ? ถ้าสมอร์โตไปเป็นหนุ่มหล่อ มันจะไม่ตลกเหรอถ้าเราจะเรียกเขาว่าสมอร์? พวกสาว ๆ ที่ชอบเขาจะต้องหัวเราะจนน้ำตาไหลแน่นอน ชื่อเล่นจะน่ารักแค่ตอนที่ยังเด็กเท่านั้นแหละ”แอเรียนเบะปาก “เธอแค่ขี้เกียจที่จะคิดชื่อ ถูกไหม? เธอเลยอ้างเหตุผลทั้งหมดนี้ ชื่อเล่นเขาก็มีไว้เรียกเฉพาะตอนที่ยังเด็กเท่านั้นแหละ ใครเขาจะเรียกชื่อเล่นกันตอนโตล่ะ?”เมื่อพวกเธอกำลังคุยกันอยู่ อยู่ ๆ แจ็คสันก็โทรมา “คุณขับรถไปหาแอเรียนกับเพลโตคนเดียวเลยเหรอ? คุณไม่รู้จักฝีมือการขับรถตัวเองเลยเหรอ? ถ้าเกิดอะไรขึ้นจะทำยังไง? คุณน่าจะขอให้คนขับรถของแม่ไปส่งคุณแทน”ทิฟฟานี่หงุดหงิดมาก “นี่คุณคงอยากให้อะไรเกิดขึ้นกับฉันมากสินะ? ฉันมาถึงแล้ว แค่นั้นยังไม่ดีพออีกเหรอ? ฉันแค่ถอยรถไม่เก่งแค่นั้นเอง ถ้าฉันขับเดินหน้าอย่างเดียวจะมีอะไรร้ายแรงเกิดขึ้นได้บ้าง? คุณทำงานของคุณต่อไปเถอะค่ะ”ทิฟฟานี่อาจจะหงุดหงิด แต่จริง ๆ แล้วเธอก็แอบดีใจ อารมณ์ของเธอชัดเจนมากแม้ก
เมื่อเมลานีทานอาหารเสร็จและพวกเขาออกจากบ้าน อเลฮานโดรก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกทันทีที่พวกเขาขึ้นรถเมลานีเห็นดังนั้นจึงถามเขาว่า “โล่งอกใช่ไหมล่ะ? ฉันบอกแล้วว่าไม่ต้องมา แต่คุณไม่ฟังฉันเอง ฉันเองยังเบื่อพ่อแม่ตัวเองเลย”อเลฮานโดรเงียบโดยไม่ตอบอะไร เขาตื่นเช้ามากและยังคงง่วงนอนอยู่ เขาจึงหลับตาลงและพักสายตาเมลานีเริ่มไม่สบายใจ อเลฮานโดรรู้เรื่องที่เธอแอบติดต่อกับทิฟฟานี่หรือเปล่า? เขาน่าจะ… ไม่รู้เรื่องหรอก ถูกไหม? ไม่อย่างนั้นเขาน่าจะโวยวายไปแล้วแทนที่จะนิ่งสงบแบบนี้ เธอเลยคิดว่าเธอน่าจะบอกเขาก่อนที่เขาจะรู้ด้วยตนเองหลังจากที่ลังเลอยู่ชั่วครู่เธอก็พูดว่า “ฉันติดต่อกับทิฟฟานี่อยู่”ร่างกายของอเลฮานโดรแข็งทื่อโดยไม่รู้ตัว “แล้ว?”เธอคิดถูกแล้วจริง ๆ อเลฮานโดรจะมีปฏิกิริยาก็ต่อเมื่อมันเป็นเรื่องของทิฟฟานี่ แต่นอกจากนั้นเขาจะเมินทุกคำพูดของเธอ เมลานีแอบไม่พอใจ แต่ไม่แสดงให้เขาเห็น “คุณไม่โกรธเหรอ?”อเลฮานโดรลืมตาและมองหน้าเธอ “ทำไมผมจะต้องโกรธด้วย? ยังไงคุณก็ไม่ทำอะไรเธออยู่แล้ว”เมลานีพูดไม่ออก เขามั่นใจขนาดนั้นเลยเหรอว่าเธอจะไม่ทำอะไรทิฟฟานี่? เธอคิดมาเสมอว่าเธอไม่รู้จักอเลฮานโด
อเลฮานโดรรู้ตัวดีว่ามันเป็นเพียงความคิดตามสัญชาตญาณผู้ชายของเขาและไม่มีสิ่งอื่นใดหลังจากนั้นไม่นานหนังตาของเมลานีก็เริ่มหนัก อาจจะเป็นเพราะความเงียบสนิทที่เปรียบดั่งเพลงกล่อมนอนอย่างดี บวกกับครรภ์ของเธอที่ทำให้เธอง่วงเหนื่อยง่ายขึ้น ตอนแรกเธอคิดว่าเธอจะไม่สามารถนอนหลับได้เพราะอเลฮานโดรด้วยซ้ำ…ขณะที่เธอกำลังหาพลิกตัวหาท่านอนที่สบายด้วยความงัวเงีย อยู่ ๆ อเลฮานโดรก็พูดขึ้นมาว่า “หยุดขยับไปขยับมาสักที”เมลานีที่กำลังจะผล็อยหลับตื่นทันทีที่ได้ยินเสียงของเขาที่ดังขึ้นอย่างกะทันหัน เธอเริ่มรู้สึกรำคาญและเหวี่ยงใส่เขา “นี่มันบ้านของฉันและเตียงของฉัน ทำไมฉันจะขยับตัวไม่ได้? นี่คุณอย่าหาเรื่องโดยไม่มีเหตุผลได้ไหม?”เธอไม่ทันรู้ตัวว่าเธอเผลอไปโดนขาของเขาขณะที่เธอพลิกตัวไปมา ทันใดนั้นอเลฮานโดรก็ขึ้นคร่อมเธอโดยที่แขนแต่ละข้างของเขาอยู่ข้างตัวเธอเมลานีตกใจและหันหน้าหนีทันที “คุณจะทำอะไร? ลงไปเลยนะ!”กำปั้นของเธอเล็กมาก มันไม่เพียงแต่ไม่สามารถทำให้อเลฮานโดรเจ็บได้ แต่การกระทำของเธอยังทำให้เขามีอารมณ์มากขึ้นอีกด้วย “ผมบอกให้คุณเลิกขยับไง คุณจะไม่ฟังผมใช่ไหม?”เมลานีไม่กล้าที่จะขยับตัวอีกและ
ในความเป็นจริงแล้วอเลฮานโดรกลับรู้สึกสบายใจโดยไม่รู้เหตุผลเมื่อเข้ามาในห้องของเธอ “คุณสบายดีไหม?”เมลานีตะลึงเล็กน้อย “ฉันบอกคุณแล้วว่าคุณไม่ต้องแสดงหรอก ที่นี่ไม่มีใครสักหน่อย แล้วคุณจะแกล้งทำทำไม? ฉันไม่ฟ้องคุณปู่หรอก เพราะฉะนั้นพรุ่งนี้คุณกลับไปเลยก็ได้ ฉันอยู่ที่นี่แล้วสบายดี”อเลฮานโดรไม่สนใจสิ่งที่เมลานนีพูดและเรียกหาเจตต์ผู้ซึ่งนำทุกอย่างที่อเลฮานโดรได้ซื้อให้เธอเข้ามาให้ โต๊ะเครื่องแป้งของเธอเต็มไปด้วยข้าวของมากมายในไม่ช้าหัวใจของเมลานีเริ่มละลายแต่เธอบังคับให้ตัวเองสงบนิ่งต่อไปเมื่อเธอพูดว่า “ขอบคุณสำหรับน้ำใจของคุณนะคะ แต่ฉันขอไม่รับของพวกนี้ดีกว่า เพราะฉันรู้ว่าคุณไม่ได้ให้มันด้วยความเต็มใจ”เจตต์ไม่ต้องการรู้เห็นเกี่ยวกับการทะเลาะของพวกเขา เขาจึงออกไปจากห้องเมื่อวางของเสร็จแล้วอเลฮานโดรพูดนิ่ง ๆ ว่า “ถ้าคุณไม่อยากได้นก็ทิ้งไปสิ เครื่องสำอางพวกนี้ไม่ได้แพงขนาดนั้น พวกเครื่องประดับก็ราคาแค่สองสามแสนดอลลาร์ เพราะฉะนั้นคุณจะทำอะไรกับพวกมันก็แล้วแต่คุณเลย ในเมื่อคุณไม่อยากเห็นหน้าผม ผมกลับวันพรุ่งนี้ก็ได้ นอนเถอะ ผมจะไปอาบน้ำก่อน”เมื่อเมลานีเห็นเขาเดินเข้าไปในห้องน้ำเธอ
ทิฟฟานี่ตระหนักว่ามีบางอย่างผิดปกติก่อนที่เธอจะพูดจบ เธอเงยหน้าขึ้นและเห็นว่าสีหน้าของแจ็คสันเยือกเย็น แววตาของเขาเปล่งประกายด้วยความตื่นตระหนก เธอไม่เข้าใจว่าเขาเป็นอะไรไป “เป็นอะไรเหรอ? ทำไมมองฉันแบบนั้นล่ะ?”มันเหมือนกับว่าเขาเปลี่ยนเป็นคนละคนไปเลย แม้แต่น้ำเสียงของเขาก็เยือกเย็น “เขาแต่งงานเพื่อความสะดวกแบบนั้น คุณยังจะเชื่อจริง ๆ เหรอว่าเขาจะมีความรู้สึกให้เมลานี ลาร์คจริง ๆ ? คุณคิดไปเองทั้งหมด ผมบอกคุณแล้วว่าห้ามไปเจอเขา ไม่ว่ามันจะเป็นเพียงเรื่องบังเอิญหรือตั้งใจยิ่งห้ามแล้วใหญ่ คราวหน้าก็หลีกเลี่ยงเขาซะนะ!”ท่าทีที่เปลี่ยนไปกะทันหันของเขาทำให้ทิฟฟานี่ตกใจกลัว เธอกลืนน้ำลายและไม่รู้ว่าจะต้องพูดอะไรแจ็คสันรีบอาบน้ำให้เสร็จและออกไปโดยปล่อยเธอไว้คนเดียวในห้องน้ำ เธอรู้สึกว่างเปล่าทันที ทุกอย่างกำลังไปได้ดีจนกระทั่งเธอพูดถึงอเลฮานโดรและทุกอย่างกลายมาเป็นแบบนี้… แจ็คสันหนีไปที่ห้องทำงานของเขาหลังจากที่ออกมาจากห้องน้ำเพื่อแอบดูดบุหรี่อย่างต่อเนื่องโดยที่ทิฟฟานี่ไม่รู้ นิ้วที่เขาถือบุหรี่สั่นไม่หยุด เขากลัวเกินกว่าที่จะคิดถึงปฏิกิริยาของทิฟฟานี่เมื่อเธอต้องรู้ว่าจริง ๆ แล้วอเลฮ
ขณะที่เขากำลังหาสวิตช์เปิดไฟบนกำแพงเพื่อที่จะเปิดไฟทิฟฟานี่ก็หยุดเขาเอาไว้ “ไม่! ฉันชอบแบบปิดไฟมากกว่า ฉันอายนิดหน่อยน่ะ”เขารู้ดีว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่ เธอกลัวว่ารอยแตกของเธอจะทำให้เขาหมดอารมณ์ เขายิ้มและจุ๊บหน้าผากเธอ “ไม่เอาน่า ปกติคุณไม่ขี้อายนี่ ผมไม่ยักรู้ว่าคุณจะอายเป็นด้วยซ้ำ ผมไม่มีวันที่จะหมดอารมณ์กับคุณหรอก คุณได้รอยแตกเหล่านั้นมาเพราะคุณอุ้มท้องลูกของผม พวกมันเป็นรางวัลแห่งเกียรติยศของคุณนะ”ทิฟฟานี่เชื่อคำพูดของเขา เขามีลิ้นที่กะล่อนที่ช่วยให้เขาสามารถถ่ายทอดคำพูดเหล่านั้นอย่างราบรื่นได้จริง ๆแจ็คสันเปิดไฟเมื่อเธอกำลังเหม่อลอยในห้วงความคิดทิฟฟานี่รีบหยิบผ้าห่มมาคลุมตัวเองทันทีที่ไฟสว่างขึ้น “โธ่ อะไรเนี่ย! ฉันไม่อยากเปิดไฟ ขอเวลาฉันปรับตัวหน่อยสิคะ!”เขายิ้มอย่างมีเลศนัยขณะที่เมินคำบ่นของเธอและคว้าแขนเธอเพื่อหยุดเธอจากการดิ้นหนี…เธอลืมหายใจเมื่อเขาจับคางของเธอ สายตาเธอเริ่มพร่ามัวหมอนใบหนึ่งนอนอยู่บนพื้นหน้าเตียงราวกับว่ามันรับความป่าเถื่อนของพวกเขาไม่ได้...หลังจากที่เสร็จภารกิจแล้ว ทิฟฟานี่ก็ขดตัวในอ้อมแขนของแจ็คสันและวาดวงกลมบนแขนของเขาแจ็คสันจับมือของเธ
”หยุดทำไมล่ะคะ?” แอเรียนถาม “เล่นต่อสิ”“เธอก็มาผลักสิ ไม่อย่างนั้นก็มานั่งกับสมอร์” มาร์คชักชวนแอเรียนเคยตกชิงช้าเมื่อตอนที่เธอยังเด็ก เธอจึงหวาดกลัว “ไม่ ๆ ไม่ คุณเล่นกับเขาเลย เดี๋ยวฉันผลักให้ ขาคุณก็ออกจะยาว คุณน่าจะแกว่งตัวเองได้สบาย ไม่เห็นจะต้องพึ่งฉันเลย แล้วคุณจะขอให้ฉันผลักทำไม?”เขาเลิกคิ้วหนึ่งข้างและตอบว่า “เพื่อที่เธอจะได้มีส่วมร่วมด้วยแทนที่จะยืนเหม่อลอยอยู่ยังไงล่ะ…”มีบางอย่างผิดปกติในคำพูดของเขา…แอเรียนยอมแพ้และเดินไปข้างหลังพวกเขา เธอวางมือบนหลังเขาและออกแรงผลักแอริสโตเติลจะส่งเสียงร้องด้วยความดีใจเป็นครั้งคราว ดูเหมือนว่าแอริสโตเติลไม่ได้มีความสุขได้เฉพาะเวลาที่เล่นกับเจนิซ เพียงแต่ว่าเวลาที่แอเรียนเล่นกับเขาเธอมักจะเล่นแบบนิ่ม ๆ และเงียบ ๆ เพราะเขาคือลูกคนแรกของเธอและมันเป็นครั้งแรกที่เธอต้องเล่นกับเด็กทารก เพราะฉะนั้นยังมีอีกหลายอย่างที่เธอยังต้องเรียนรู้อีก...ในขณะเดียวกันที่ไวท์ วอเตอร์ เบย์ วิลล่าหลังจากที่ทานข้าวกันเสร็จแจ็คสันก็กำลังล้างจานในห้องครัวตามปกติ ทิฟฟานี่สามารถจ้องเขาในชุดผ้ากันเปื้อนได้ทั้งวัน เธอไม่ได้ทำอะไรเลยนอกจากยืนพิงกำแพงในห้
หลังจากนั้นไม่นาน อเลฮานโดรและเจตต์ก็เดินออกมาจากห้างสรรพสินค้าและขึ้นรถไปอเลฮานโดรจ้องกองสินค้าสำหรับผู้หญิงข้าง ๆ เขา ระหว่างคิ้วของเขาแอบมีร่องรอยของความไม่พอใจเจตต์มองเขาผ่านกระจกมองหลัง “ท่านครับ อย่าปล่อยให้เรื่องอื่นเบี่ยงเบนความตั้งใจของท่านเลยครับ ท่านตัดสินใจที่จะไปเยี่ยมนายหญิงที่อายาเช่แล้ว” เขาเตือนเบา ๆ “ดอน สมิธจะไม่มีวันมอบสมบัติของตระกูลสมิธให้ท่านถ้าท่านลงมือในตอนนี้”อเลฮานโดรมองออกไปนอกหน้าต่างและตอบอย่างใจเย็นว่า “รู้แล้ว”เขาคงจะไม่ได้ออกมาซื้อของในวันนี้หากดอน สมิธไม่ได้กดดันเขา เขายังต้องเหนื่อยซื้อของมากมายให้เมลานีอีกด้วย เขาไม่ได้คาดคิดว่าจะเจอแอเรียนและทิฟฟานี่ที่นี่เหมือนกัน ดูจากสีหน้าของแอเรียนแล้ว มาร์คคงจะบอกเธอทุกอย่างแล้วเขาได้ต้นไม้นั้นมาจากคนอื่นอีกที มันเป็นสายพันธุ์ที่หายากจากนาฟาเอธ เขาต้องลำบากอย่างมากเพื่อที่จะนำมันกลับเข้ามาในประเทศ และไม่มีใครรู้เลยว่ามันจะออกดอกเมื่อไหร่ ถ้ามันได้รับการดูแลอย่างพิถีพิถัน มันคงจะออกดอกในไม่ช้า ตอนแรกเขาตั้งใจว่าเขาจะเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงของเขากับทิฟฟานี่เมื่อต้นไม้นั้นออกดอก แต่น่าเสียดายที่การเปลี่ย
หลังจากที่คุยกันนานพอสมควร ในที่สุดทิฟฟานี่ก็จำได้ว่าเธอมาที่นี่เพื่อซื้อเครื่องสำอางกับแอเรียน เธอหันไปหาแอเรียนและพบกับสีหน้าที่แปลกไปบนใบหน้าของแอเรียน “แอริ เป็นอะไรเหรอ?” เธอถามด้วยความสงสัย “ทำไมดึงหน้าแบบนั้นล่ะ? เธอโอเครึเปล่า?”แอเรียนหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนที่จะตอบว่า “ไม่ ฉันรู้สึกเหนื่อย ๆ นิดหน่อย ฉันไม่อยากช้อปปิ้งแล้ว ไปกันเถอะ”ทิฟฟานี่เอื้อมมือไปจับหน้าผากของแอเรียน “เพราะโรคเลือดจางของเธอรึเปล่า? เธอดูซูบ ๆ นะ ไว้ฉันจะบอกให้มาร์คขุนเธอให้อ้วน แต่ไหน ๆ เราก็มาถึงที่นี่แล้ว ทำไมไม่ซื้อของของเธอเลยล่ะ? เหลือแค่ต้องจ่ายเงินเอง ไม่นานขนาดนั้นหรอก ไปนั่งก่อนไหม? เดี๋ยวฉันจ่ายให้”อเลฮานโดรหันมามองแอเรียน แววตาของเขาแฝงไปด้วยการยั่ยยุ ทั้งคู่ต่างตระหนักถึงสถานการณ์ในตอนนี้ดีแอเรียนกลบเกลื่อนความโกรธของเธอและหาม้านั่ง เธอหวังเพียงว่าทิฟฟานี่จะเร่งรีบซื้อเครื่องสำอางเพื่อที่พวกเธอจะได้รีบออกไปจากที่นี่ ทุก ๆ วินาทีที่อยู่กับอเลฮานโดรถือเป็นความเสี่ยง“ทิฟฟานี่ ต้นไม้ที่ผมให้คุณออกดอกหรือยังครับ?” อเลฮานโดรจงใจถามถึงต้นไม้ในกระถาง ทิฟฟานี่ยื่นบัตรเครดิตของเธอให้พนักงานคิดเง