ในที่สุดแจ็คสันก็เคลื่อนการจูบลูบคลำของพวกเขาไปที่โซฟาเมื่อขาของทิฟฟานี่เริ่มอ่อนล้า ในที่สุดมือของเธอก็เป็นอิสระและเธอก็ตบเขาทันทีเขาผงะไปครู่หนึ่งก่อนจะตรึงแขนเธอเหนือศีรษะและซุกสะโพกของเขาเข้าหาเธอพลางจูบเธอกลิ่นที่โชกเลือดและหอมหวานทำให้ทิฟฟานี่หวาดกลัวจนต้องยอมจำนน คนเราไม่ควรล้อเล่นกับชายขี้เมา เธอเริ่มที่จะเข้าใจสิ่งนี้แล้ว เธอไม่น่าเอารถมาคืนเขาเลย!หลังจากที่ผ่านไประยะหนึ่ง ขณะที่เธอเริ่มหงุดหงิด แจ็คสันก็คำรามเข้าหูของเธอด้วยเสียงที่ทั้งน่าหลงใหลและปะปนด้วยความโกรธ “เขาดีกว่าผมหรือไง? คุณมีอะไรกับเขาหรือยัง? ตอบผมสิ!"สิ่งเดียวที่ทิฟฟานี่รู้สึกได้ตอนนี้คือเพดานที่กำลังเคลื่อนไหว แรงผลักดันของเขารุนแรงอย่างหาที่เปรียบมิได้ มันทำให้เธอไม่สามารถสร้างประโยคที่สมบูรณ์ได้ ทุกครั้งที่เธออ้าปาก เธอจะร้องออกมาด้วยน้ำเสียงที่อาจทำให้ใคร ๆ หน้าแดง ระดับพลังงานของเธออ่อนลงเมื่อเทียบกับความอุดมสมบูรณ์ของเขา และในไม่ช้าเธอก็ผล็อยหลับไปจากการร่วมรักของเขา…คฤหาสน์เทรมอนต์มาร์คเองก็ดื่มเยอะเหมือนกัน อย่างไรก็ตาม เขายังคงเดินได้อย่างมั่นคง สิ่งแรกที่เขาทำเมื่อกลับถึงบ้านคือไปดูแอริสโ
ขณะที่มาร์คกำลังจะจากไป แอเรียนก็อุ้มสมอร์ตัวน้อยเข้ามาหาเขาพลางยิ้ม “บอกลาแดดดี้สิ”มาร์คมองดูรอยน้ำนมที่มุมริมฝีปากของลูกชายและความหึงหวงของเขาก็เพิ่มขึ้น เขาไม่เคยคิดว่าท้ายที่สุดตัวเองจะต้องพ่ายแพ้ต่อสิ่งตัวน้อยเช่นนี้ “คืนนี้ฉันจะรีบกลับบ้านมากินข้าวเย็นนะ”แอเรียนพบความหมายที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังคำพูดของเขาและหน้าแดง "รีบไปเถอะ ไบรอันรอมานานแล้ว”มาร์คจ้องเขม็งไปที่แอริสโตเติลอย่างท้าทายก่อนจะจากไปพลางจูบแอเรียนที่แก้มราวกับว่าจะอวดลูกชายตนเอง และราวกับเขารู้ว่าพ่อของเขาหมายถึงอะไร แอริสโตเติลจึงหันกลับและพยายามจะดูดนมแม่ของเขา มาร์คจึงหน้าซีดทันที เขาหันหลังแล้วเดินจากไปโดยไม่ยอมหันกลับมามอง เขาจะทำให้ลูกชายของเขาต้องชดใช้สำหรับการโจมตีครั้งแรก!ที่ไวท์ วอเตอร์ เบย์ วิลล่าทิฟฟานี่ตื่นขึ้นจากเสียงโทรศัพท์ที่ดังขึ้นของเธอ เธอลืมตาขึ้นและพบว่าตอนนี้เป็นเวลาสิบโมงเช้าแล้ว เธอบังคับตัวเองให้ลุกขึ้นนั่งก่อนที่จะรู้สึกเจ็บปวดตั้งแต่หัวจรดเท้า เธอจึงนอนลงอีกครั้งพลางจ้องมองไปในอากาศเป็นเวลานานมากก่อนจะนึกขึ้นได้ตอนที่จิตใจของเธอหวนนึกถึงทุกสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคืนนี้ เธอหันไปด้าน
ทิฟฟานี่คว้าผ้าปูที่นอนพลางสูญเสียการควบคุม “ฉะ-ฉันจะรู้ได้ยังไง? เขาไม่เคยบอกฉันก่อน ฉันจะรู้ได้อย่างไรว่าเขาคิดอะไรอยู่?”ดวงตาของแจ็คสันไม่มีความปรารถนาในขณะที่เขาจ้องตาที่พร่ามัวและแก้มที่แดงก่ำของเธอ เขารู้ว่าผู้หญิงจะไม่โกหกในช่วงเวลาแบบนี้เขาจึงลุกขึ้นและฉีกยิ้มออกมา “อย่างน้อยคุณก็ซื่อสัตย์”ทิฟฟานี่ทั้งเขินอายและผิดหวัง “แจ็คสัน เวสต์! คุณข้ามเส้นไปแล้วนะ! คุณคิดว่าเราเป็นอะไรกัน? คุณล้อเล่นกับฉันเมื่อคุณต้องการและทิ้งฉันเมื่อคุณเห็นควรงั้นเหรอ? ฉันไม่ต่างจากผู้หญิงคนอื่น ๆ เลยหรือไง? เข้าใจซะใหม่นะ — ฉันไม่ใช่ของเล่นของคุณ!”เขาถึงกับผงะ เขาตระหนักว่าเขาได้ข้ามเส้นจริง ๆ "ผมไม่ได้…"เขาไม่ได้? ทิฟฟานี่ปฏิเสธที่จะเชื่อเขาในตอนนี้ เขาทำมันอย่างชัดเจน เขาไล่ตามเธออย่างไม่ลดละแล้วจู่ ๆ ก็เพิกเฉยต่อเธอ และตอนนี้ เพราะอะไรก็ไม่รู้ เขาก็กลับมาหาเธออีกครั้ง เธอรู้สึกถูกดูหมิ่นอย่างมาก!เธอกัดฟันและลุกจากเตียงก่อนจะหยิบเสื้อผ้าของเธอแล้วรีบเข้าห้องน้ำ เพื่อป้องกันการสูญเสียความแข็งแกร่งให้กับเขา อีกเธอจึงล็อกประตูก่อนที่จะตะโกนใส่เขาว่า “อย่าเล่นแสร้งโง่กับฉันนะ ฉันคงตาบอดที่หล
ทิฟฟานี่ตัวแข็งทื่อก่อนจะหันกลับไปพบว่าแจ็คสันถือพวงกุญแจของเธออยู่ เธอซื้อพวงกุญแจนั้นมาเอง แน่นอนว่าเธอจะจำมันได้ในแวบแรก เธอไม่คาดคิดว่าเขาจะเล่นไม้นี้ "คุณ…"แจ็คสันมีเพียงผ้าขนหนูผืนเล็กพันรอบเอวของเขา ทำให้สามารถมองเห็นกล้ามเนื้อส่วนบนของร่างกายเขาได้ชัดเจน หยดน้ำบนปลายผมที่เปียกชื้นไหลลงมาบนร่างกายของเขา เขาปล่อยกลิ่นหอมของการชำระล้างร่างกายและดูเหมือนเทพเจ้าแห่งเพศสัมพันธ์ที่เดินได้ ภาพของมันส่งผลให้เลือดในเส้นเลือดของทิฟฟานี่สูบฉีดอย่างไรก็ตาม เธอสามารถรักษาสถานการณ์ไว้ได้และแสร้งทำเป็นไม่ได้หลงใหลในความงามของเขาเลย ก่อนที่เธอจะดึงกุญแจจากมือเขาและยัดกุญแจเข้าไปในรูกุญแจแจ็คสันไม่ได้หยุดเธอ เขาเพียงมองเธอเปิดประตูอย่างเงียบ ๆ เมื่อเธอก้าวออกไป เขาก็เตือนเธอว่า “วันนี้อากาศค่อนข้างร้อน คุณแน่ใจเหรอว่าจะเดินออกจากหมู่บ้านนี้และเรียกแท็กซี่เอา? คุณไม่คิดจะรอผมหน่อยเหรอ? ผมกำลังจะออกไปข้างนอกพอดี ดังนั้นผมไปส่งคุณได้ หรือคุณจะเอารถไปก็ได้นะ”ทิฟฟานี่หยุดทันที เธอมองขึ้นไปที่ดวงอาทิตย์ที่แผดเผาเหนือเธอพลางนึกถึงร่างกายที่เจ็บปวดและอ่อนล้าของเธอและว่าบริเวณไวท์ วอเอตร์ เบย
ชายหนุ่มเสนอราคาอีกครั้งก่อนที่โฮสต์จะทันได้พูดขึ้น เดวี่ถึงกับตื่นตระหนก เขาโน้มตัวเข้าไปที่หูของมาร์คและกระซิบว่า “คุณเทรมอนต์ครับ เราควรประมูลต่อไหมครับ? ตอนนี้เราอยู่ที่ราคาที่เราประมาณการไว้แล้ว เราจะใช้จ่ายเกินงบประมาณถ้าเราประมูลต่อ…”มาร์คหรี่ตาและพยักหน้า เดวี่ปาดเหงื่อเย็นเยียบออกจากคิ้วและจ้องเขม็งไปที่ผู้ก่อปัญหา ประมูลนี้ควรจะจบเร็วมาก แต่หากเป็นเช่นนี้ต่อไป พวกเขาอาจจะต้องรอรอบต่อไปและมันอาจทำให้การประชุมในช่วงบ่ายต้องล่าช้าทว่าคู่แข่งของเขากลับเสนอราคาต่อโดยไม่คาดคิดพลางดูสงบมากอีกด้วยราวกับว่าเขาแน่ใจว่าจะชนะ หัวใจของมาร์คกระตุกและเขาก็เปลี่ยนใจในทันใด "ยอมเถอะ"“ถามจริง ผู้ชายคนนั้นมาจากไหนกัน?” เดวี่บ่นเมื่อพวกเขาออกจากการประมูล “เราจับตาดูที่ดินผืนนั้นมานานกว่าครึ่งเดือนแล้วและเขาซื้อมันด้วยราคาที่สูงอย่างนี้ นี่เขาพยายามสร้างปัญหาให้เราหรือตัวเองกันแน่? เขาต้องการที่ดินนั้นไปเพื่ออะไร? เขาจะต้องใช้เวลานานกว่าที่เขาจะได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนของเขา ผู้ชายคนนั้นเป็นอะไร… เขาไม่รู้เหรอว่าที่ดินผืนหนึ่งราคาเท่าไหร่? เราสามารถประหยัดเงินงบประมาณได้บางส่วนหากเราได
ทิฟฟานี่ชะงัก “อะไรเนี่ย? คุณก็ถามคำถามนี้กับฉันด้วยเหรอ? คุณถามเพราะคุณอยากรู้จริง ๆ หรือแจ็คสันให้คุณมาถามแบบนี้? พวกคุณเป็นอะไรกัน? ฉันอธิบายไปแล้ว ไม่มีอะไรเกิดขึ้นระหว่างฉันกับอเลฮานโดร อย่างมากเราก็เป็นแค่เพื่อนกัน! ถ้าคุณยังทำแบบนี้กับฉัน ฉันจะบอกแอริ คอยดูได้เลย!”มาร์คถูช่องว่างระหว่างคิ้วของเขาพลางรู้สึกปวดหัวอย่างมาก “อเลฮานโดรแย่งชิงที่ดินไปจากผมโดยชนะผมระหว่างการประมูล คุณคิดว่าผมจะมีเวลาพอที่จะมากังวลเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของคุณกับแจ็คสันเหรอ? ดูเหมือนว่าผมจะไม่ได้อะไรจากคุณเลย บาย"ทิฟฟานี่จ้องที่โทรศัพท์ของเธอเมื่อสายถูกวางโดยไม่พูดอะไรเลย สิ่งเดียวที่เธอจับได้คือ อเลฮานโดรได้แย่งชิงที่ดินไปจากมาร์ค ถ้ามาร์ค เทรมอนต์ถามเธอเป็นการส่วนตัว แสดงว่าสถานการณ์จะต้องร้ายแรง จากความสัมพันธ์ของเธอกับอเลฮานโดร เธอจะไม่สามารถถามอะไรเขาเกี่ยวกับเรื่องนี้ผ่านทางโทรศัพท์ธรรมดา ๆ ได้ เธอจะต้องทำมันในระหว่างมื้อต่อไปของพวกเขาความคิดเรื่องอาหารเตือนเธอว่าเธอเกือบจะลืมไปว่าเธอต้องไปพบกับอเลฮานโดรในวันนี้ ณ จุดนี้ เธอไม่ต้องการทำอย่างอื่นนอกจากการกลิ้งไปมาบนเตียง ตอนแรกเธอสัญญาว่าจะหย
เธอไม่อยากจะมองเขาแบบนี้ เธอไม่อยากรู้สึกอึดอัด เธอจึงไม่มีทางเลือกและทำได้เพียงแค่ทำตัวเหมือนว่าไม่เข้าใจเขาเอาซะเลย “นี่มันเป็นเรื่องระหว่างคุณกับมาร์ค เทรมอนต์ มันไม่ใช่เรื่องของฉันเลย แต่มันจะเป็นอีกเรื่องนะถ้าคุณไปหาเรื่องแอเรียน มีหวังฉันได้เอามีดมาปาดคุณแน่” เธอพูดอย่างตลกขบขันอเลฮานโดรขำเบา ๆ “ฮ่าฮ่า ผมรู้น่า ผมจะไม่ทำอย่างนั้นหรอก”ณ คฤหาสน์เทรมอนต์ในที่สุดมาร์คก็ได้รู้สึกถึงการพักผ่อนหย่อนใจเมื่อเขาถึงบ้าน ความเหนื่อยล้าของการทำงานในออฟฟิศสลายหายไปเมื่อเขาได้เห็นแอเรียนและลูกชายของเขาเจ้าตัวน้อยเพิ่งจะกินนมและมีแรงเต็มที่ เขาทั้งออดอ้อนและออกเสียงเหมือนเขากำลังจะพูดอะไร มาร์คเพียงเหลือบมองลูกชายของเขาและเดินขึ้นไปอาบน้ำตามปกติ“แมรี่ คุณเคยคิดไหมว่าบางทีเขาอาจจะไม่ชอบเด็กทารก?” แอเรียนพึมพำแมรี่ไม่เห็นด้วย “ทำไมเธอถึงพูดแบบนั้นล่ะ? เขาอาจจะไม่ได้อุ้มเจ้าหนูน้อยแอริสโตเติลบ่อยนัก แต่นั่นเป็นเพราะเขายุ่งไม่ใช่เหรอ? ทุกอย่างที่เขาหามาได้เป็นของพวกเธอด้วยนะ อย่าจินตนาการอะไรไปเองเลย”แอเรียนเม้มปาก “สมอร์มาถึงบ้านไม่ถึงสองวัน แต่เขาก็ดูเหมือนเขาไม่ได้ใยดีอะไรเลย อย่
มาร์คจับคำใบ้ของแอเรียนได้ทันที เขาดึงหน้าตรงและเดินกลับเข้าไปในบ้าน “เธอไม่ควรคิดที่จะไปทำงานในร้านขายของหวานของเธอดีกว่า อยู่บ้านดูแลลูกไปเถอะ เราไม่ได้ร้อนเงินซะหน่อย”แอเรียนสำลักคำพูดของเธอก่อนที่เธอจะพูดได้ เธอเย้ยหยันและไม่พูดถึงเรื่องนี้อีก เขาพูดถูก สถานที่นั้นอยู่ไกลและแอริสโตเติลยังเด็กมาก มันจะดีที่สุดสำหรับเขาหากเขาได้อยู่กับพ่อแม่ วัยเด็กของเธอและมาร์คไม่มีความสุข ดังนั้นเธอจึงตระหนักดีถึงผลกระทบของวัยเด็กที่บอบช้ำทางจิตใจ เธอจึงไม่ต้องการให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอยกับลูกน้อยของเธอ นี่เป็นเหตุผลที่สำคัญที่สุดที่เธอเลือกที่จะอยู่กับเขา เธอมีหน้าที่ที่ต้องทำเพราะเธอเป็นคนให้กำเนิดเขาสู่โลกนี้ นี่ไม่ใช่เกมแอริสโตเติลดูเหมือนจะไม่ง่วงหลังอาหารเย็น ดังนั้นแอเรียนจึงต้องอุ้มเจ้าตัวเล็กไปรอบ ๆ บ้าน พัสดุสองชิ้นมาถึงระหว่างวัน อันหนึ่งเป็นของขวัญให้ทารกจากนายา และอีกอันมาจากเฮเลน เฮเลนไม่ได้เข้าร่วมงานเฉลิมฉลองหนึ่งเดือนของแอริสโตเติลโดยบอกว่าเธอกำลังเดินทางไปทำธุรกิจ ของขวัญของเธอก็เลยมาถึงช้า การเดินทางเพื่อธุรกิจเป็นเพียงข้ออ้าง ในความเป็นจริง เธอไม่ต้องการให้แอเรียนต้องทนกั
แน่นอนว่าแอเรียนจะไม่กล้าอุ้มเพลโตอีกเนื่องจากเธอกลัวว่าลูกชายของเธอจะอิจฉาเมื่อแอเรียนบอกให้ทิฟฟานี่ตั้งชื่อเล่นให้เพลโต ทิฟฟานี่ก็ส่ายหัว “ผู้ชายจำเป็นต้องมีชื่อเล่นด้วยเหรอ? ถ้าสมอร์โตไปเป็นหนุ่มหล่อ มันจะไม่ตลกเหรอถ้าเราจะเรียกเขาว่าสมอร์? พวกสาว ๆ ที่ชอบเขาจะต้องหัวเราะจนน้ำตาไหลแน่นอน ชื่อเล่นจะน่ารักแค่ตอนที่ยังเด็กเท่านั้นแหละ”แอเรียนเบะปาก “เธอแค่ขี้เกียจที่จะคิดชื่อ ถูกไหม? เธอเลยอ้างเหตุผลทั้งหมดนี้ ชื่อเล่นเขาก็มีไว้เรียกเฉพาะตอนที่ยังเด็กเท่านั้นแหละ ใครเขาจะเรียกชื่อเล่นกันตอนโตล่ะ?”เมื่อพวกเธอกำลังคุยกันอยู่ อยู่ ๆ แจ็คสันก็โทรมา “คุณขับรถไปหาแอเรียนกับเพลโตคนเดียวเลยเหรอ? คุณไม่รู้จักฝีมือการขับรถตัวเองเลยเหรอ? ถ้าเกิดอะไรขึ้นจะทำยังไง? คุณน่าจะขอให้คนขับรถของแม่ไปส่งคุณแทน”ทิฟฟานี่หงุดหงิดมาก “นี่คุณคงอยากให้อะไรเกิดขึ้นกับฉันมากสินะ? ฉันมาถึงแล้ว แค่นั้นยังไม่ดีพออีกเหรอ? ฉันแค่ถอยรถไม่เก่งแค่นั้นเอง ถ้าฉันขับเดินหน้าอย่างเดียวจะมีอะไรร้ายแรงเกิดขึ้นได้บ้าง? คุณทำงานของคุณต่อไปเถอะค่ะ”ทิฟฟานี่อาจจะหงุดหงิด แต่จริง ๆ แล้วเธอก็แอบดีใจ อารมณ์ของเธอชัดเจนมากแม้ก
เมื่อเมลานีทานอาหารเสร็จและพวกเขาออกจากบ้าน อเลฮานโดรก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกทันทีที่พวกเขาขึ้นรถเมลานีเห็นดังนั้นจึงถามเขาว่า “โล่งอกใช่ไหมล่ะ? ฉันบอกแล้วว่าไม่ต้องมา แต่คุณไม่ฟังฉันเอง ฉันเองยังเบื่อพ่อแม่ตัวเองเลย”อเลฮานโดรเงียบโดยไม่ตอบอะไร เขาตื่นเช้ามากและยังคงง่วงนอนอยู่ เขาจึงหลับตาลงและพักสายตาเมลานีเริ่มไม่สบายใจ อเลฮานโดรรู้เรื่องที่เธอแอบติดต่อกับทิฟฟานี่หรือเปล่า? เขาน่าจะ… ไม่รู้เรื่องหรอก ถูกไหม? ไม่อย่างนั้นเขาน่าจะโวยวายไปแล้วแทนที่จะนิ่งสงบแบบนี้ เธอเลยคิดว่าเธอน่าจะบอกเขาก่อนที่เขาจะรู้ด้วยตนเองหลังจากที่ลังเลอยู่ชั่วครู่เธอก็พูดว่า “ฉันติดต่อกับทิฟฟานี่อยู่”ร่างกายของอเลฮานโดรแข็งทื่อโดยไม่รู้ตัว “แล้ว?”เธอคิดถูกแล้วจริง ๆ อเลฮานโดรจะมีปฏิกิริยาก็ต่อเมื่อมันเป็นเรื่องของทิฟฟานี่ แต่นอกจากนั้นเขาจะเมินทุกคำพูดของเธอ เมลานีแอบไม่พอใจ แต่ไม่แสดงให้เขาเห็น “คุณไม่โกรธเหรอ?”อเลฮานโดรลืมตาและมองหน้าเธอ “ทำไมผมจะต้องโกรธด้วย? ยังไงคุณก็ไม่ทำอะไรเธออยู่แล้ว”เมลานีพูดไม่ออก เขามั่นใจขนาดนั้นเลยเหรอว่าเธอจะไม่ทำอะไรทิฟฟานี่? เธอคิดมาเสมอว่าเธอไม่รู้จักอเลฮานโด
อเลฮานโดรรู้ตัวดีว่ามันเป็นเพียงความคิดตามสัญชาตญาณผู้ชายของเขาและไม่มีสิ่งอื่นใดหลังจากนั้นไม่นานหนังตาของเมลานีก็เริ่มหนัก อาจจะเป็นเพราะความเงียบสนิทที่เปรียบดั่งเพลงกล่อมนอนอย่างดี บวกกับครรภ์ของเธอที่ทำให้เธอง่วงเหนื่อยง่ายขึ้น ตอนแรกเธอคิดว่าเธอจะไม่สามารถนอนหลับได้เพราะอเลฮานโดรด้วยซ้ำ…ขณะที่เธอกำลังหาพลิกตัวหาท่านอนที่สบายด้วยความงัวเงีย อยู่ ๆ อเลฮานโดรก็พูดขึ้นมาว่า “หยุดขยับไปขยับมาสักที”เมลานีที่กำลังจะผล็อยหลับตื่นทันทีที่ได้ยินเสียงของเขาที่ดังขึ้นอย่างกะทันหัน เธอเริ่มรู้สึกรำคาญและเหวี่ยงใส่เขา “นี่มันบ้านของฉันและเตียงของฉัน ทำไมฉันจะขยับตัวไม่ได้? นี่คุณอย่าหาเรื่องโดยไม่มีเหตุผลได้ไหม?”เธอไม่ทันรู้ตัวว่าเธอเผลอไปโดนขาของเขาขณะที่เธอพลิกตัวไปมา ทันใดนั้นอเลฮานโดรก็ขึ้นคร่อมเธอโดยที่แขนแต่ละข้างของเขาอยู่ข้างตัวเธอเมลานีตกใจและหันหน้าหนีทันที “คุณจะทำอะไร? ลงไปเลยนะ!”กำปั้นของเธอเล็กมาก มันไม่เพียงแต่ไม่สามารถทำให้อเลฮานโดรเจ็บได้ แต่การกระทำของเธอยังทำให้เขามีอารมณ์มากขึ้นอีกด้วย “ผมบอกให้คุณเลิกขยับไง คุณจะไม่ฟังผมใช่ไหม?”เมลานีไม่กล้าที่จะขยับตัวอีกและ
ในความเป็นจริงแล้วอเลฮานโดรกลับรู้สึกสบายใจโดยไม่รู้เหตุผลเมื่อเข้ามาในห้องของเธอ “คุณสบายดีไหม?”เมลานีตะลึงเล็กน้อย “ฉันบอกคุณแล้วว่าคุณไม่ต้องแสดงหรอก ที่นี่ไม่มีใครสักหน่อย แล้วคุณจะแกล้งทำทำไม? ฉันไม่ฟ้องคุณปู่หรอก เพราะฉะนั้นพรุ่งนี้คุณกลับไปเลยก็ได้ ฉันอยู่ที่นี่แล้วสบายดี”อเลฮานโดรไม่สนใจสิ่งที่เมลานนีพูดและเรียกหาเจตต์ผู้ซึ่งนำทุกอย่างที่อเลฮานโดรได้ซื้อให้เธอเข้ามาให้ โต๊ะเครื่องแป้งของเธอเต็มไปด้วยข้าวของมากมายในไม่ช้าหัวใจของเมลานีเริ่มละลายแต่เธอบังคับให้ตัวเองสงบนิ่งต่อไปเมื่อเธอพูดว่า “ขอบคุณสำหรับน้ำใจของคุณนะคะ แต่ฉันขอไม่รับของพวกนี้ดีกว่า เพราะฉันรู้ว่าคุณไม่ได้ให้มันด้วยความเต็มใจ”เจตต์ไม่ต้องการรู้เห็นเกี่ยวกับการทะเลาะของพวกเขา เขาจึงออกไปจากห้องเมื่อวางของเสร็จแล้วอเลฮานโดรพูดนิ่ง ๆ ว่า “ถ้าคุณไม่อยากได้นก็ทิ้งไปสิ เครื่องสำอางพวกนี้ไม่ได้แพงขนาดนั้น พวกเครื่องประดับก็ราคาแค่สองสามแสนดอลลาร์ เพราะฉะนั้นคุณจะทำอะไรกับพวกมันก็แล้วแต่คุณเลย ในเมื่อคุณไม่อยากเห็นหน้าผม ผมกลับวันพรุ่งนี้ก็ได้ นอนเถอะ ผมจะไปอาบน้ำก่อน”เมื่อเมลานีเห็นเขาเดินเข้าไปในห้องน้ำเธอ
ทิฟฟานี่ตระหนักว่ามีบางอย่างผิดปกติก่อนที่เธอจะพูดจบ เธอเงยหน้าขึ้นและเห็นว่าสีหน้าของแจ็คสันเยือกเย็น แววตาของเขาเปล่งประกายด้วยความตื่นตระหนก เธอไม่เข้าใจว่าเขาเป็นอะไรไป “เป็นอะไรเหรอ? ทำไมมองฉันแบบนั้นล่ะ?”มันเหมือนกับว่าเขาเปลี่ยนเป็นคนละคนไปเลย แม้แต่น้ำเสียงของเขาก็เยือกเย็น “เขาแต่งงานเพื่อความสะดวกแบบนั้น คุณยังจะเชื่อจริง ๆ เหรอว่าเขาจะมีความรู้สึกให้เมลานี ลาร์คจริง ๆ ? คุณคิดไปเองทั้งหมด ผมบอกคุณแล้วว่าห้ามไปเจอเขา ไม่ว่ามันจะเป็นเพียงเรื่องบังเอิญหรือตั้งใจยิ่งห้ามแล้วใหญ่ คราวหน้าก็หลีกเลี่ยงเขาซะนะ!”ท่าทีที่เปลี่ยนไปกะทันหันของเขาทำให้ทิฟฟานี่ตกใจกลัว เธอกลืนน้ำลายและไม่รู้ว่าจะต้องพูดอะไรแจ็คสันรีบอาบน้ำให้เสร็จและออกไปโดยปล่อยเธอไว้คนเดียวในห้องน้ำ เธอรู้สึกว่างเปล่าทันที ทุกอย่างกำลังไปได้ดีจนกระทั่งเธอพูดถึงอเลฮานโดรและทุกอย่างกลายมาเป็นแบบนี้… แจ็คสันหนีไปที่ห้องทำงานของเขาหลังจากที่ออกมาจากห้องน้ำเพื่อแอบดูดบุหรี่อย่างต่อเนื่องโดยที่ทิฟฟานี่ไม่รู้ นิ้วที่เขาถือบุหรี่สั่นไม่หยุด เขากลัวเกินกว่าที่จะคิดถึงปฏิกิริยาของทิฟฟานี่เมื่อเธอต้องรู้ว่าจริง ๆ แล้วอเลฮ
ขณะที่เขากำลังหาสวิตช์เปิดไฟบนกำแพงเพื่อที่จะเปิดไฟทิฟฟานี่ก็หยุดเขาเอาไว้ “ไม่! ฉันชอบแบบปิดไฟมากกว่า ฉันอายนิดหน่อยน่ะ”เขารู้ดีว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่ เธอกลัวว่ารอยแตกของเธอจะทำให้เขาหมดอารมณ์ เขายิ้มและจุ๊บหน้าผากเธอ “ไม่เอาน่า ปกติคุณไม่ขี้อายนี่ ผมไม่ยักรู้ว่าคุณจะอายเป็นด้วยซ้ำ ผมไม่มีวันที่จะหมดอารมณ์กับคุณหรอก คุณได้รอยแตกเหล่านั้นมาเพราะคุณอุ้มท้องลูกของผม พวกมันเป็นรางวัลแห่งเกียรติยศของคุณนะ”ทิฟฟานี่เชื่อคำพูดของเขา เขามีลิ้นที่กะล่อนที่ช่วยให้เขาสามารถถ่ายทอดคำพูดเหล่านั้นอย่างราบรื่นได้จริง ๆแจ็คสันเปิดไฟเมื่อเธอกำลังเหม่อลอยในห้วงความคิดทิฟฟานี่รีบหยิบผ้าห่มมาคลุมตัวเองทันทีที่ไฟสว่างขึ้น “โธ่ อะไรเนี่ย! ฉันไม่อยากเปิดไฟ ขอเวลาฉันปรับตัวหน่อยสิคะ!”เขายิ้มอย่างมีเลศนัยขณะที่เมินคำบ่นของเธอและคว้าแขนเธอเพื่อหยุดเธอจากการดิ้นหนี…เธอลืมหายใจเมื่อเขาจับคางของเธอ สายตาเธอเริ่มพร่ามัวหมอนใบหนึ่งนอนอยู่บนพื้นหน้าเตียงราวกับว่ามันรับความป่าเถื่อนของพวกเขาไม่ได้...หลังจากที่เสร็จภารกิจแล้ว ทิฟฟานี่ก็ขดตัวในอ้อมแขนของแจ็คสันและวาดวงกลมบนแขนของเขาแจ็คสันจับมือของเธ
”หยุดทำไมล่ะคะ?” แอเรียนถาม “เล่นต่อสิ”“เธอก็มาผลักสิ ไม่อย่างนั้นก็มานั่งกับสมอร์” มาร์คชักชวนแอเรียนเคยตกชิงช้าเมื่อตอนที่เธอยังเด็ก เธอจึงหวาดกลัว “ไม่ ๆ ไม่ คุณเล่นกับเขาเลย เดี๋ยวฉันผลักให้ ขาคุณก็ออกจะยาว คุณน่าจะแกว่งตัวเองได้สบาย ไม่เห็นจะต้องพึ่งฉันเลย แล้วคุณจะขอให้ฉันผลักทำไม?”เขาเลิกคิ้วหนึ่งข้างและตอบว่า “เพื่อที่เธอจะได้มีส่วมร่วมด้วยแทนที่จะยืนเหม่อลอยอยู่ยังไงล่ะ…”มีบางอย่างผิดปกติในคำพูดของเขา…แอเรียนยอมแพ้และเดินไปข้างหลังพวกเขา เธอวางมือบนหลังเขาและออกแรงผลักแอริสโตเติลจะส่งเสียงร้องด้วยความดีใจเป็นครั้งคราว ดูเหมือนว่าแอริสโตเติลไม่ได้มีความสุขได้เฉพาะเวลาที่เล่นกับเจนิซ เพียงแต่ว่าเวลาที่แอเรียนเล่นกับเขาเธอมักจะเล่นแบบนิ่ม ๆ และเงียบ ๆ เพราะเขาคือลูกคนแรกของเธอและมันเป็นครั้งแรกที่เธอต้องเล่นกับเด็กทารก เพราะฉะนั้นยังมีอีกหลายอย่างที่เธอยังต้องเรียนรู้อีก...ในขณะเดียวกันที่ไวท์ วอเตอร์ เบย์ วิลล่าหลังจากที่ทานข้าวกันเสร็จแจ็คสันก็กำลังล้างจานในห้องครัวตามปกติ ทิฟฟานี่สามารถจ้องเขาในชุดผ้ากันเปื้อนได้ทั้งวัน เธอไม่ได้ทำอะไรเลยนอกจากยืนพิงกำแพงในห้
หลังจากนั้นไม่นาน อเลฮานโดรและเจตต์ก็เดินออกมาจากห้างสรรพสินค้าและขึ้นรถไปอเลฮานโดรจ้องกองสินค้าสำหรับผู้หญิงข้าง ๆ เขา ระหว่างคิ้วของเขาแอบมีร่องรอยของความไม่พอใจเจตต์มองเขาผ่านกระจกมองหลัง “ท่านครับ อย่าปล่อยให้เรื่องอื่นเบี่ยงเบนความตั้งใจของท่านเลยครับ ท่านตัดสินใจที่จะไปเยี่ยมนายหญิงที่อายาเช่แล้ว” เขาเตือนเบา ๆ “ดอน สมิธจะไม่มีวันมอบสมบัติของตระกูลสมิธให้ท่านถ้าท่านลงมือในตอนนี้”อเลฮานโดรมองออกไปนอกหน้าต่างและตอบอย่างใจเย็นว่า “รู้แล้ว”เขาคงจะไม่ได้ออกมาซื้อของในวันนี้หากดอน สมิธไม่ได้กดดันเขา เขายังต้องเหนื่อยซื้อของมากมายให้เมลานีอีกด้วย เขาไม่ได้คาดคิดว่าจะเจอแอเรียนและทิฟฟานี่ที่นี่เหมือนกัน ดูจากสีหน้าของแอเรียนแล้ว มาร์คคงจะบอกเธอทุกอย่างแล้วเขาได้ต้นไม้นั้นมาจากคนอื่นอีกที มันเป็นสายพันธุ์ที่หายากจากนาฟาเอธ เขาต้องลำบากอย่างมากเพื่อที่จะนำมันกลับเข้ามาในประเทศ และไม่มีใครรู้เลยว่ามันจะออกดอกเมื่อไหร่ ถ้ามันได้รับการดูแลอย่างพิถีพิถัน มันคงจะออกดอกในไม่ช้า ตอนแรกเขาตั้งใจว่าเขาจะเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงของเขากับทิฟฟานี่เมื่อต้นไม้นั้นออกดอก แต่น่าเสียดายที่การเปลี่ย
หลังจากที่คุยกันนานพอสมควร ในที่สุดทิฟฟานี่ก็จำได้ว่าเธอมาที่นี่เพื่อซื้อเครื่องสำอางกับแอเรียน เธอหันไปหาแอเรียนและพบกับสีหน้าที่แปลกไปบนใบหน้าของแอเรียน “แอริ เป็นอะไรเหรอ?” เธอถามด้วยความสงสัย “ทำไมดึงหน้าแบบนั้นล่ะ? เธอโอเครึเปล่า?”แอเรียนหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนที่จะตอบว่า “ไม่ ฉันรู้สึกเหนื่อย ๆ นิดหน่อย ฉันไม่อยากช้อปปิ้งแล้ว ไปกันเถอะ”ทิฟฟานี่เอื้อมมือไปจับหน้าผากของแอเรียน “เพราะโรคเลือดจางของเธอรึเปล่า? เธอดูซูบ ๆ นะ ไว้ฉันจะบอกให้มาร์คขุนเธอให้อ้วน แต่ไหน ๆ เราก็มาถึงที่นี่แล้ว ทำไมไม่ซื้อของของเธอเลยล่ะ? เหลือแค่ต้องจ่ายเงินเอง ไม่นานขนาดนั้นหรอก ไปนั่งก่อนไหม? เดี๋ยวฉันจ่ายให้”อเลฮานโดรหันมามองแอเรียน แววตาของเขาแฝงไปด้วยการยั่ยยุ ทั้งคู่ต่างตระหนักถึงสถานการณ์ในตอนนี้ดีแอเรียนกลบเกลื่อนความโกรธของเธอและหาม้านั่ง เธอหวังเพียงว่าทิฟฟานี่จะเร่งรีบซื้อเครื่องสำอางเพื่อที่พวกเธอจะได้รีบออกไปจากที่นี่ ทุก ๆ วินาทีที่อยู่กับอเลฮานโดรถือเป็นความเสี่ยง“ทิฟฟานี่ ต้นไม้ที่ผมให้คุณออกดอกหรือยังครับ?” อเลฮานโดรจงใจถามถึงต้นไม้ในกระถาง ทิฟฟานี่ยื่นบัตรเครดิตของเธอให้พนักงานคิดเง