แอเรียนลุกจากเตียงโดยต้องทนกับความรู้สึกไม่สบายตัว เธอคว้าเสื้อผ้าของเธอและตรงไปยังห้องน้ำเพื่อเปลี่ยนมัน เมื่อเธอออกมามาร์คก็เก็บสัมภาระเสร็จแล้วและกำลังรออยู่ที่ประตูสายตาของเขาจมลงเมื่อสังเกตเห็นการเดินที่ผิดปกติเล็กน้อยของเธอ สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปอย่างเย็นชาและความคิดของเขาก็ไม่อาจหยั่งรู้ได้แอเรียนเคลิ้มหลับไปบนเครื่องบิน แต่กลัวว่าจะสัมผัสกับมาร์คถ้าเธอเผลอหลับไป เธอบอกได้เลยว่าเขาอารมณ์ไม่ดี เขาไม่ได้เผชิญหน้ากับการไม่อนุมัติในการไปเที่ยวที่ อายาเช่ ในครั้งนี้ของเธอเมื่อเขากลับไปที่ คฤหาสน์ เทรมอนต์ มาร์คก็รีบไปที่ห้องน้ำเพื่ออาบน้ำ “เขากลับบ้านเมื่อไหร่” แอเรียนถามแมรี่เบา ๆแมรี่จ้องมองเธออย่างว่างเปล่า “นายท่านไม่ได้กลับมาเลย เขาเพิ่งมาถึงวันนี้”แอเรียนรู้สึกรำคาญเล็กน้อย เธอไม่ควรบอกเอริกเกี่ยวกับความตั้งใจที่จะลาออกของเธอ เขาต้องทำข้อมูลรั่วไหลแน่ ๆ เธอไม่ได้คิดถึงเรื่องนี้ในเวลานั้น เธอคิดว่าเมื่อรู้ถึงความสัมพันธ์ในปัจจุบันของเธอกับมาร์ค เขาจะไม่มีวันละทิ้งงานเพื่อตามหาเธอแม้ว่าถ้าเธอจะจากไป...“เปลี่ยนผ้าปูที่นอนทั้งหมด” เธอพูด โดยนึกได้ว่ามาร์คเป็นหวัด “ตากผ้า
เธอถอดเสื้อแจ็คเกตและล้างมือก่อนจะกลับไปที่ห้องนอน เธอยังดมกลิ่นตัวเองเพื่อดูว่ามีกลิ่นเหม็นหลงเหลืออยู่หรือเปล่าเพราะกลัวว่าเขาจะเกลียดเธอความระมัดระวังของเธอถูกสร้างขึ้นตั้งแต่เธออายุแปดขวบกลิ่นยาสูบจาง ๆ ทักทายเธอเมื่อเธอเปิดประตู "มันคืออะไร?" เธอถามพร้อมกับขมวดคิ้วมาร์คยืนอยู่หน้าหน้าต่างสไตล์ฝรั่งเศสและมองออกไปที่หิมะ สูทสั่งตัดพิเศษสีเทาอ่อนของเขาทำให้รูปร่างสูงตรงของเขาดูดีมาก แม้แต่หลังของเขาก็ดูน่าดึงดูด “บริษัทของฉันจะจัดแฟชั่นโชว์ตอนหกโมงเย็น งานออกแบบของคุณจะอยู่ที่นั่นด้วยถ้าคุนต้องการที่จะไป ก้ไปได้”งานออกแบบของเธอ? งานที่ดีอย่างเดียวที่เธอทำคือการออกแบบชุดแต่งงานที่เขาวิพากษ์วิจารณ์ใช่ไหม? รูปแบบถูกปล่อยออกมาอย่างรวดเร็ว “ฉันจะไปค่ะ” แอเรียนตอบอย่างยินดีเขาไม่มีอะไรจะพูดมาก เขายกมือขึ้นแนบริมฝีปากแล้วไอสองครั้ง “คุณยังป่วยอยู่หรือเปล่า?” เธอถามหลังจากหยุดไป “อย่าลืมกินยานะคะ”มาร์คหันกลับมามองเธอดวงตาของเขาแฝงไปด้วยความเย้ยหยัน “อย่าคิดว่าคุณจะทำแบบนั้นได้เพียงเพราะผมมีอะไรกับคุณ มันเป็นเพียงครั้งเดียว ไม่มีใครมั่นใจได้ว่าคุณจะท้อง”แอเรียนจ้องมองด้วยความเจ็
แอเรียนดูเหมือนจะไม่รู้ตัวเลยว่าเธอกำลังถูกจับตามองอย่างมีความสุข เธอถูกล้อมรอบไปด้วยอาการอ้าปากค้างและคำชมมากมาย และเธอรู้สึกราวกับว่าหูของเธอมีความหยาบกระด้างมากขึ้นจากปริมาณที่มหาศาลของพวกมัน การแสดงชุดเจ้าสาวเป็นช่วงหลังของแฟชั่นโชว์ เธอใช้เวลาสิบสองนาทีในการรั้งตัวเองและรอให้งานออกแบบของเธอปรากฏบนรันเวย์ แม้ว่าเธอจะไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการผลิตแต่เธอก็เป็น “แม่ผู้ให้กำเนิด”นาทีและวินาทีผ่านไปและการแสดงก็ใกล้จะจบลงแล้ว เธอเริ่มรู้สึกไม่เชื่อ การออกแบบของเธอเป็นไปไม่ได้ที่จะถูกวางไว้ในชุดสุดท้าย ใช่ไหม? อย่างไรก็ตามเธอไม่ได้เป็นสมาชิกในบริษัทของ มาร์ค เทรมอนต์ แล้วถ้ามันไม่ได้อยู่ในตอนจบ นั่นหมายความว่ามาร์คกำลังเล่นกับเธออยู่ใช่ไหม?ทันใดนั้นดนตรีก็เปลี่ยนจากจังหวะทำนองเป็นเพลงที่ไพเราะ นางแบบร่างสูงเพรียวและผิวขาวในชุดสีขาวเดินเข้ามาบนรันเวย์อย่างช้า ๆ แอเรียนอ้าปากค้าง ‘นั่นคือการออกแบบของฉัน…มันคือชิ้นสุดท้ายจริง ๆ !’ชุดเจ้าสาวยาวเลยไปถึงข้อเท้าของนางแบบ มันไม่ได้ยาวและไม่ได้เป็นสุ่มไก่จนเกินไป เธอมักจะมีสไตล์ที่เรียบง่ายที่สุด ดังนั้นเมื่อต้องออกแบบชุดแต่งงานเธอจะไม่
โทรศัพท์ของแอเรียนได้รับข้อความอย่างวุ่นวายนับตั้งแต่ทิฟฟานี่เดินออกไป ในขณะที่ทั้งคู่สนทนากันอย่างดุเดือดผ่านข้อความจู่ ๆ มาร์คก็พูดว่า “โฟกัสที่อาหารของคุณ”แอเรียนส่งอีโมจิ “ชู่ว” ให้ทิฟฟานี่อย่างรวดเร็วจากนั้นก็วางโทรศัพท์ของเธอไป เธอหยิบช้อนส้อมขึ้นมาและจดจ่อกับมื้ออาหารของเธออย่างเชื่อฟัง การเคลื่อนไหวของเธอราบรื่นมากจนไม่มีข้อบกพร่องแม้แต่อย่างเดียว คล้ายกับว่าเมื่อไหร่ก็ตามที่เขาดุเธอ เธอจะมีปฏิกิริยาตามนั้นไม่ว่าจะเป็นตอนที่รับประทานอาหารหรือตอนที่เธอเล่นกับของเล่นก็ตาม เขาตกตะลึงเล็กน้อยเมื่อเห็นปฏิกิริยาของเธอ... ความทรงจำในอดีตของเขากับเธอดูเหมือนจะเต็มไปด้วยความเกลียดชัง…แอเรียนสังเกตเห็นสายตาของมาร์คและเริ่มระมัดระวัง "มันคืออะไร…?"มาร์คหันหน้าหนีและรินไวน์ให้เธอหนึ่งแก้วเธอตกใจมาก เขาไม่เคยดื่มไวน์กับเธอ…หลังจากสองวินาทีของความลังเล เธอก็ชนแก้วของเธอกับเขาในขณะที่เธอกำลังจิบไวน์อยู่จู่ ๆ มาร์คก็ถามว่า “คุณรู้ไหมว่าวันนี้คือวันอะไร?”เมื่อได้เรียนรู้บทเรียนของเธอจากครั้งสุดท้ายที่เธอลืมวันเกิดของเขา แอเรียนคั้นสมองของเธออย่างรวดเร็วและในไม่ช้าก็มีคำตอบ “วันค
ในที่สุดพวกเขากลับไปที่ คฤหาสน์ เทรมอนต์ มาร์ค เทรมอนต์ ช่วยพยุงแอเรียนไปครึ่งตัว เมื่อเห็นสิ่งนี้แมรี่จึงรีบเตรียมผ้าร้อนและตามพวกเขาขึ้นไปชั้นบน เธอไม่อยากจะทำอะไรมากนักเมื่อตอนที่หัวใจของเธอปวดร้าว "นี่มันเกิดขึ้นได้อย่างไร? นายหญิงเธอไม่สามารถดื่มเหล้าได้นะคะ…”มาร์ค เทรมอนต์ ไม่พูดอะไร แมรี่ยื่นผ้าร้อนให้เขา “นายท่าน ดิฉันจะฝากนายหญิงไว้กับคุณ ดิฉันจะลงไปเดี๋ยวนี้”เขาพยักหน้าและเช็ดหน้าของแอเรียนอย่างระมัดระวัง เธอยกมือขึ้นอย่างร่วมมือเพื่อที่เขาจะเช็ดมันได้ “เช็ดให้สะอาด… เขาไม่ชอบอะไรที่สกปรก… เร็วเข้าสิ!”มือของมาร์ค เทรมอนต์ หยุดชั่วคราวจากนั้นริมฝีปากของเขาก็โค้งเป็นรอยยิ้มโดยไม่ได้ตั้งใจช่วงเวลานั้นกินเวลาเพียงสองวินาทีก่อนที่แอเรียนจะผลักเขาออกไปอย่างรวดเร็ว “ไม่เอา… ฉันต้องลบเครื่องสำอางสิ…” โชคดี ที่เธอยังจำได้ว่าเธอแต่งหน้าอยู่แอเรียนขี้เมาไม่ยอมให้เขาช่วย เขาจึงทำได้แค่ตามหลังเธอและคอยดูแลเธอจนกว่าเธอจะทำสำเร็จ ในขณะที่เธอขัดขาตัวเอง มาร์ค เทรรมอนต์ ก็สามารถจับเธอได้อย่างรวดเร็ว เขาไม่ได้ตระหนักถึงความอ่อนโยนในน้ำเสียงของตัวเอง “เป็นเด็กดี ถึงเวลานอนแล้วนะ…”เ
บ่ายเเล้วก็ยังไม่เห็นหน้าเห็นตามาร์ค เทรมอนต์ แอเรียนจึงออกไปซื้อวัสดุวาดภาพและชวนทิฟฟานี่ออกไปในขณะที่เธออยู่ที่นั่นสาว ๆ ไม่ได้ไปเที่ยวด้วยกันเลยนับตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ที่โรงแรม แอเรียนไม่ต้องการให้มิตรภาพของพวกเขาต้องแยกจากกันเพราะเหตุนี้ทั้งคู่เจอกันในร้านกาแฟ เมื่อทิฟฟานี่มาคนเดียว แอเรียนรู้สึกสงสัยเล็กน้อย “ทำไมเธอไม่มากับเอธานล่ะ?”ทิฟฟานี่ถอนหายใจ “ทำไมฉันต้องปล่อยให้เขามากับฉันเพื่อมาเจอเธอด้วยล่ะ หลังจากเหตุการณ์นั้นที่ทำให้อินเทอร์เน็ตเกิดความโกลาหลนี่นา? ฉันอยากเจอเธอมานานแล้ว แต่พ่อบอกว่าอย่าทำอะไรให้มันมันแย่ลง ดังนั้นฉันจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากหมกตัวอยู่แต่ในบ้าน ไม่ว่าในกรณีใดคนเหล่านั้นช่างไร้สาระจริง ๆ พวกเขาสามารถสร้างเรื่องราวที่ต้องการได้ ช่างร้ายกาจจริง ๆ !”รู้สึกว่ามันดีกว่าที่จะอธิบายตัวเองกับทิฟฟานี่ แอเรียนบอกเธอว่า “ทิฟฟ์ ไม่มีอะไรระหว่างเอธานกับฉันจริง ๆ เขากำลังพูดความจริง วันนั้นเขาชวนฉันออกไปคุยเรื่องแต่งงานของพวกเธอ มันจะต้องทำให้เธอประหลาดใจ”“แม้ว่าเธอสองคนจะมีอะไรกันจริง ๆ ฉันก็จะเลือกมิตรภาพมากกว่าความรัก เศษขยะสามารถถูกแทนที่ได้ง่าย ๆ แต
เฮเลนอารมณ์เสีย แต่เธอก็ระงับความโกรธไว้ หลายปีของการปลูกฝังตนเองในฐานะภรรยาของเศรษฐีจะไม่ยอมให้เธอแสดงความโกรธต่อหน้าสาธารณชนตามธรรมชาติแล้วไม่มีทางที่แอเรียนจะขอร้องแอรี่ คินซีย์ “ทำไมฉันต้องขอร้องคุณล่ะ? ฉันถูกเลี้ยงดูมาโดยไม่ได้ถูกสอนให้ฉันก้มหัวให้คนที่ขาดมารยาท ถ้าแม่ของคุณไม่ได้ยืนอยู่ข้าง ๆ คุณ ฉันคงคิดว่าคุณไม่เคยได้รับการเลี้ยงดูที่เหมาะสม”แอรี่หยิบกาแฟขึ้นมาบนโต๊ะและพยายามจะสาดมันใส่แอเรียนด้วยความโกรธ โชคดีที่ทิฟฟานี่ เลน สามารถดึงแอเรียนไว้ได้ทัน ถึงอย่างนั้นกาแฟร้อนเล็กน้อยบางส่วนก็ยังหกเลอะเทอะเสื้อผ้าของทิฟฟานี่การกระทำของแอรี่ทำให้ทิฟฟานี่ขุ่นเคืองมากจนเธอไม่สนใจว่าพวกเขาอยู่ในที่สาธารณะอีกต่อไป เธอผลักแอรี่อย่างแรง “ทำไมคุณไม่ลองทำแบบนั้นอีกครั้งล่ะ?”เฮเลนหน้าซีดด้วยความตกใจและในที่สุดก็ตะคอก "หยุดเดี๋ยวนี้"นิสัยที่ชอบเอาชนะโดยธรรมชาติ จึงไม่มีทางที่แอรี่จะยอมให้การกระทำของทิฟฟานี่ผ่านไปได้ ตามมาด้วยการตบตีกัน เฮเลนรู้สึกโกรธมาก เธอโกรธเอามาก ๆ เธอรู้สึกอับอายจากความสนใจที่พวกเขามองมา ในช่วงเวลาแห่งความสิ้นหวังเธอตบแอรี่ไปเต็มหน้า “ฉันบอกให้เธอหยุดไง!”เสี
ทิฟฟานี่ เลน ยังคงเป็นเด็กผู้หญิงที่อ่อนแอแม้จะมีทัศนคติที่ดูไร้กังวล เมื่อไม่มีประสบการณ์ในเรื่องนี้เธอจึงตื่นตระหนกเล็กน้อย ด้วยมือที่สั่นเทาของเธอ เธอจึงกดหมายเลขของเอธานบนโทรศัพท์มือถือของเธอเอธานมาปิดโทรศัพท์มือถืออะไรในเวลาแบบนี้ เธอโทรอีกครั้งถึง จอห์น เลน พ่อของเธอ โชคดีที่โทรติด แต่ก่อนที่เธอจะได้พูดจอห์นก็ตอบอย่างรวดเร็วว่า“พ่อกำลังประชุมอยู่” แล้ววางสายไปเธอทุบพวงมาลัยด้วยความโกรธเมื่อสายดังขึ้น เธอเหลือบไปเห็นทางเข้าที่จอดรถชั้นใต้ดินและขับรถเข้าไปโดยไม่คิดอะไรเลย ภายในมืดสลัวจึงเป็นเรื่องยากสำหรับผู้คนที่จะขับรถไปมา หากไม่คุ้นเคยกับสถานที่นั้นทิฟฟานี่ไม่กล้าขับรถเร็วมากที่นี่ เธอกำลังเสี่ยงโชคเพื่อดูว่าเธอโชคดีพอที่จะพบลิฟต์หรือไม่หากเธอต้องสละรถของเธอตามที่คาดไว้รถคันหลังตามเธอเข้าไปในลานจอดรถ ตอนนี้เธอรู้ว่ามันเป็นรถตู้ นั่นหมายความว่าอาจมีคนมากกว่าหนึ่งคนในรถ ดังนั้นเธอจึงไม่หวังว่าจะมีคนช่วยในลานจอดรถแห่งนี้เว้นแต่เธอจะโชคดีพอที่จะเจอคนกลุ่มหนึ่งเมื่อเธอเลี้ยวไปที่มุมหนึ่งรถเบนท์ลีย์สีดำก็ปรากฏขึ้นโดยไม่คาดคิด เธอไม่สามารถหลบเลี่ยงได้ทันเวลาจึงกระแทกเบรก เธอ
แน่นอนว่าแอเรียนจะไม่กล้าอุ้มเพลโตอีกเนื่องจากเธอกลัวว่าลูกชายของเธอจะอิจฉาเมื่อแอเรียนบอกให้ทิฟฟานี่ตั้งชื่อเล่นให้เพลโต ทิฟฟานี่ก็ส่ายหัว “ผู้ชายจำเป็นต้องมีชื่อเล่นด้วยเหรอ? ถ้าสมอร์โตไปเป็นหนุ่มหล่อ มันจะไม่ตลกเหรอถ้าเราจะเรียกเขาว่าสมอร์? พวกสาว ๆ ที่ชอบเขาจะต้องหัวเราะจนน้ำตาไหลแน่นอน ชื่อเล่นจะน่ารักแค่ตอนที่ยังเด็กเท่านั้นแหละ”แอเรียนเบะปาก “เธอแค่ขี้เกียจที่จะคิดชื่อ ถูกไหม? เธอเลยอ้างเหตุผลทั้งหมดนี้ ชื่อเล่นเขาก็มีไว้เรียกเฉพาะตอนที่ยังเด็กเท่านั้นแหละ ใครเขาจะเรียกชื่อเล่นกันตอนโตล่ะ?”เมื่อพวกเธอกำลังคุยกันอยู่ อยู่ ๆ แจ็คสันก็โทรมา “คุณขับรถไปหาแอเรียนกับเพลโตคนเดียวเลยเหรอ? คุณไม่รู้จักฝีมือการขับรถตัวเองเลยเหรอ? ถ้าเกิดอะไรขึ้นจะทำยังไง? คุณน่าจะขอให้คนขับรถของแม่ไปส่งคุณแทน”ทิฟฟานี่หงุดหงิดมาก “นี่คุณคงอยากให้อะไรเกิดขึ้นกับฉันมากสินะ? ฉันมาถึงแล้ว แค่นั้นยังไม่ดีพออีกเหรอ? ฉันแค่ถอยรถไม่เก่งแค่นั้นเอง ถ้าฉันขับเดินหน้าอย่างเดียวจะมีอะไรร้ายแรงเกิดขึ้นได้บ้าง? คุณทำงานของคุณต่อไปเถอะค่ะ”ทิฟฟานี่อาจจะหงุดหงิด แต่จริง ๆ แล้วเธอก็แอบดีใจ อารมณ์ของเธอชัดเจนมากแม้ก
เมื่อเมลานีทานอาหารเสร็จและพวกเขาออกจากบ้าน อเลฮานโดรก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกทันทีที่พวกเขาขึ้นรถเมลานีเห็นดังนั้นจึงถามเขาว่า “โล่งอกใช่ไหมล่ะ? ฉันบอกแล้วว่าไม่ต้องมา แต่คุณไม่ฟังฉันเอง ฉันเองยังเบื่อพ่อแม่ตัวเองเลย”อเลฮานโดรเงียบโดยไม่ตอบอะไร เขาตื่นเช้ามากและยังคงง่วงนอนอยู่ เขาจึงหลับตาลงและพักสายตาเมลานีเริ่มไม่สบายใจ อเลฮานโดรรู้เรื่องที่เธอแอบติดต่อกับทิฟฟานี่หรือเปล่า? เขาน่าจะ… ไม่รู้เรื่องหรอก ถูกไหม? ไม่อย่างนั้นเขาน่าจะโวยวายไปแล้วแทนที่จะนิ่งสงบแบบนี้ เธอเลยคิดว่าเธอน่าจะบอกเขาก่อนที่เขาจะรู้ด้วยตนเองหลังจากที่ลังเลอยู่ชั่วครู่เธอก็พูดว่า “ฉันติดต่อกับทิฟฟานี่อยู่”ร่างกายของอเลฮานโดรแข็งทื่อโดยไม่รู้ตัว “แล้ว?”เธอคิดถูกแล้วจริง ๆ อเลฮานโดรจะมีปฏิกิริยาก็ต่อเมื่อมันเป็นเรื่องของทิฟฟานี่ แต่นอกจากนั้นเขาจะเมินทุกคำพูดของเธอ เมลานีแอบไม่พอใจ แต่ไม่แสดงให้เขาเห็น “คุณไม่โกรธเหรอ?”อเลฮานโดรลืมตาและมองหน้าเธอ “ทำไมผมจะต้องโกรธด้วย? ยังไงคุณก็ไม่ทำอะไรเธออยู่แล้ว”เมลานีพูดไม่ออก เขามั่นใจขนาดนั้นเลยเหรอว่าเธอจะไม่ทำอะไรทิฟฟานี่? เธอคิดมาเสมอว่าเธอไม่รู้จักอเลฮานโด
อเลฮานโดรรู้ตัวดีว่ามันเป็นเพียงความคิดตามสัญชาตญาณผู้ชายของเขาและไม่มีสิ่งอื่นใดหลังจากนั้นไม่นานหนังตาของเมลานีก็เริ่มหนัก อาจจะเป็นเพราะความเงียบสนิทที่เปรียบดั่งเพลงกล่อมนอนอย่างดี บวกกับครรภ์ของเธอที่ทำให้เธอง่วงเหนื่อยง่ายขึ้น ตอนแรกเธอคิดว่าเธอจะไม่สามารถนอนหลับได้เพราะอเลฮานโดรด้วยซ้ำ…ขณะที่เธอกำลังหาพลิกตัวหาท่านอนที่สบายด้วยความงัวเงีย อยู่ ๆ อเลฮานโดรก็พูดขึ้นมาว่า “หยุดขยับไปขยับมาสักที”เมลานีที่กำลังจะผล็อยหลับตื่นทันทีที่ได้ยินเสียงของเขาที่ดังขึ้นอย่างกะทันหัน เธอเริ่มรู้สึกรำคาญและเหวี่ยงใส่เขา “นี่มันบ้านของฉันและเตียงของฉัน ทำไมฉันจะขยับตัวไม่ได้? นี่คุณอย่าหาเรื่องโดยไม่มีเหตุผลได้ไหม?”เธอไม่ทันรู้ตัวว่าเธอเผลอไปโดนขาของเขาขณะที่เธอพลิกตัวไปมา ทันใดนั้นอเลฮานโดรก็ขึ้นคร่อมเธอโดยที่แขนแต่ละข้างของเขาอยู่ข้างตัวเธอเมลานีตกใจและหันหน้าหนีทันที “คุณจะทำอะไร? ลงไปเลยนะ!”กำปั้นของเธอเล็กมาก มันไม่เพียงแต่ไม่สามารถทำให้อเลฮานโดรเจ็บได้ แต่การกระทำของเธอยังทำให้เขามีอารมณ์มากขึ้นอีกด้วย “ผมบอกให้คุณเลิกขยับไง คุณจะไม่ฟังผมใช่ไหม?”เมลานีไม่กล้าที่จะขยับตัวอีกและ
ในความเป็นจริงแล้วอเลฮานโดรกลับรู้สึกสบายใจโดยไม่รู้เหตุผลเมื่อเข้ามาในห้องของเธอ “คุณสบายดีไหม?”เมลานีตะลึงเล็กน้อย “ฉันบอกคุณแล้วว่าคุณไม่ต้องแสดงหรอก ที่นี่ไม่มีใครสักหน่อย แล้วคุณจะแกล้งทำทำไม? ฉันไม่ฟ้องคุณปู่หรอก เพราะฉะนั้นพรุ่งนี้คุณกลับไปเลยก็ได้ ฉันอยู่ที่นี่แล้วสบายดี”อเลฮานโดรไม่สนใจสิ่งที่เมลานนีพูดและเรียกหาเจตต์ผู้ซึ่งนำทุกอย่างที่อเลฮานโดรได้ซื้อให้เธอเข้ามาให้ โต๊ะเครื่องแป้งของเธอเต็มไปด้วยข้าวของมากมายในไม่ช้าหัวใจของเมลานีเริ่มละลายแต่เธอบังคับให้ตัวเองสงบนิ่งต่อไปเมื่อเธอพูดว่า “ขอบคุณสำหรับน้ำใจของคุณนะคะ แต่ฉันขอไม่รับของพวกนี้ดีกว่า เพราะฉันรู้ว่าคุณไม่ได้ให้มันด้วยความเต็มใจ”เจตต์ไม่ต้องการรู้เห็นเกี่ยวกับการทะเลาะของพวกเขา เขาจึงออกไปจากห้องเมื่อวางของเสร็จแล้วอเลฮานโดรพูดนิ่ง ๆ ว่า “ถ้าคุณไม่อยากได้นก็ทิ้งไปสิ เครื่องสำอางพวกนี้ไม่ได้แพงขนาดนั้น พวกเครื่องประดับก็ราคาแค่สองสามแสนดอลลาร์ เพราะฉะนั้นคุณจะทำอะไรกับพวกมันก็แล้วแต่คุณเลย ในเมื่อคุณไม่อยากเห็นหน้าผม ผมกลับวันพรุ่งนี้ก็ได้ นอนเถอะ ผมจะไปอาบน้ำก่อน”เมื่อเมลานีเห็นเขาเดินเข้าไปในห้องน้ำเธอ
ทิฟฟานี่ตระหนักว่ามีบางอย่างผิดปกติก่อนที่เธอจะพูดจบ เธอเงยหน้าขึ้นและเห็นว่าสีหน้าของแจ็คสันเยือกเย็น แววตาของเขาเปล่งประกายด้วยความตื่นตระหนก เธอไม่เข้าใจว่าเขาเป็นอะไรไป “เป็นอะไรเหรอ? ทำไมมองฉันแบบนั้นล่ะ?”มันเหมือนกับว่าเขาเปลี่ยนเป็นคนละคนไปเลย แม้แต่น้ำเสียงของเขาก็เยือกเย็น “เขาแต่งงานเพื่อความสะดวกแบบนั้น คุณยังจะเชื่อจริง ๆ เหรอว่าเขาจะมีความรู้สึกให้เมลานี ลาร์คจริง ๆ ? คุณคิดไปเองทั้งหมด ผมบอกคุณแล้วว่าห้ามไปเจอเขา ไม่ว่ามันจะเป็นเพียงเรื่องบังเอิญหรือตั้งใจยิ่งห้ามแล้วใหญ่ คราวหน้าก็หลีกเลี่ยงเขาซะนะ!”ท่าทีที่เปลี่ยนไปกะทันหันของเขาทำให้ทิฟฟานี่ตกใจกลัว เธอกลืนน้ำลายและไม่รู้ว่าจะต้องพูดอะไรแจ็คสันรีบอาบน้ำให้เสร็จและออกไปโดยปล่อยเธอไว้คนเดียวในห้องน้ำ เธอรู้สึกว่างเปล่าทันที ทุกอย่างกำลังไปได้ดีจนกระทั่งเธอพูดถึงอเลฮานโดรและทุกอย่างกลายมาเป็นแบบนี้… แจ็คสันหนีไปที่ห้องทำงานของเขาหลังจากที่ออกมาจากห้องน้ำเพื่อแอบดูดบุหรี่อย่างต่อเนื่องโดยที่ทิฟฟานี่ไม่รู้ นิ้วที่เขาถือบุหรี่สั่นไม่หยุด เขากลัวเกินกว่าที่จะคิดถึงปฏิกิริยาของทิฟฟานี่เมื่อเธอต้องรู้ว่าจริง ๆ แล้วอเลฮ
ขณะที่เขากำลังหาสวิตช์เปิดไฟบนกำแพงเพื่อที่จะเปิดไฟทิฟฟานี่ก็หยุดเขาเอาไว้ “ไม่! ฉันชอบแบบปิดไฟมากกว่า ฉันอายนิดหน่อยน่ะ”เขารู้ดีว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่ เธอกลัวว่ารอยแตกของเธอจะทำให้เขาหมดอารมณ์ เขายิ้มและจุ๊บหน้าผากเธอ “ไม่เอาน่า ปกติคุณไม่ขี้อายนี่ ผมไม่ยักรู้ว่าคุณจะอายเป็นด้วยซ้ำ ผมไม่มีวันที่จะหมดอารมณ์กับคุณหรอก คุณได้รอยแตกเหล่านั้นมาเพราะคุณอุ้มท้องลูกของผม พวกมันเป็นรางวัลแห่งเกียรติยศของคุณนะ”ทิฟฟานี่เชื่อคำพูดของเขา เขามีลิ้นที่กะล่อนที่ช่วยให้เขาสามารถถ่ายทอดคำพูดเหล่านั้นอย่างราบรื่นได้จริง ๆแจ็คสันเปิดไฟเมื่อเธอกำลังเหม่อลอยในห้วงความคิดทิฟฟานี่รีบหยิบผ้าห่มมาคลุมตัวเองทันทีที่ไฟสว่างขึ้น “โธ่ อะไรเนี่ย! ฉันไม่อยากเปิดไฟ ขอเวลาฉันปรับตัวหน่อยสิคะ!”เขายิ้มอย่างมีเลศนัยขณะที่เมินคำบ่นของเธอและคว้าแขนเธอเพื่อหยุดเธอจากการดิ้นหนี…เธอลืมหายใจเมื่อเขาจับคางของเธอ สายตาเธอเริ่มพร่ามัวหมอนใบหนึ่งนอนอยู่บนพื้นหน้าเตียงราวกับว่ามันรับความป่าเถื่อนของพวกเขาไม่ได้...หลังจากที่เสร็จภารกิจแล้ว ทิฟฟานี่ก็ขดตัวในอ้อมแขนของแจ็คสันและวาดวงกลมบนแขนของเขาแจ็คสันจับมือของเธ
”หยุดทำไมล่ะคะ?” แอเรียนถาม “เล่นต่อสิ”“เธอก็มาผลักสิ ไม่อย่างนั้นก็มานั่งกับสมอร์” มาร์คชักชวนแอเรียนเคยตกชิงช้าเมื่อตอนที่เธอยังเด็ก เธอจึงหวาดกลัว “ไม่ ๆ ไม่ คุณเล่นกับเขาเลย เดี๋ยวฉันผลักให้ ขาคุณก็ออกจะยาว คุณน่าจะแกว่งตัวเองได้สบาย ไม่เห็นจะต้องพึ่งฉันเลย แล้วคุณจะขอให้ฉันผลักทำไม?”เขาเลิกคิ้วหนึ่งข้างและตอบว่า “เพื่อที่เธอจะได้มีส่วมร่วมด้วยแทนที่จะยืนเหม่อลอยอยู่ยังไงล่ะ…”มีบางอย่างผิดปกติในคำพูดของเขา…แอเรียนยอมแพ้และเดินไปข้างหลังพวกเขา เธอวางมือบนหลังเขาและออกแรงผลักแอริสโตเติลจะส่งเสียงร้องด้วยความดีใจเป็นครั้งคราว ดูเหมือนว่าแอริสโตเติลไม่ได้มีความสุขได้เฉพาะเวลาที่เล่นกับเจนิซ เพียงแต่ว่าเวลาที่แอเรียนเล่นกับเขาเธอมักจะเล่นแบบนิ่ม ๆ และเงียบ ๆ เพราะเขาคือลูกคนแรกของเธอและมันเป็นครั้งแรกที่เธอต้องเล่นกับเด็กทารก เพราะฉะนั้นยังมีอีกหลายอย่างที่เธอยังต้องเรียนรู้อีก...ในขณะเดียวกันที่ไวท์ วอเตอร์ เบย์ วิลล่าหลังจากที่ทานข้าวกันเสร็จแจ็คสันก็กำลังล้างจานในห้องครัวตามปกติ ทิฟฟานี่สามารถจ้องเขาในชุดผ้ากันเปื้อนได้ทั้งวัน เธอไม่ได้ทำอะไรเลยนอกจากยืนพิงกำแพงในห้
หลังจากนั้นไม่นาน อเลฮานโดรและเจตต์ก็เดินออกมาจากห้างสรรพสินค้าและขึ้นรถไปอเลฮานโดรจ้องกองสินค้าสำหรับผู้หญิงข้าง ๆ เขา ระหว่างคิ้วของเขาแอบมีร่องรอยของความไม่พอใจเจตต์มองเขาผ่านกระจกมองหลัง “ท่านครับ อย่าปล่อยให้เรื่องอื่นเบี่ยงเบนความตั้งใจของท่านเลยครับ ท่านตัดสินใจที่จะไปเยี่ยมนายหญิงที่อายาเช่แล้ว” เขาเตือนเบา ๆ “ดอน สมิธจะไม่มีวันมอบสมบัติของตระกูลสมิธให้ท่านถ้าท่านลงมือในตอนนี้”อเลฮานโดรมองออกไปนอกหน้าต่างและตอบอย่างใจเย็นว่า “รู้แล้ว”เขาคงจะไม่ได้ออกมาซื้อของในวันนี้หากดอน สมิธไม่ได้กดดันเขา เขายังต้องเหนื่อยซื้อของมากมายให้เมลานีอีกด้วย เขาไม่ได้คาดคิดว่าจะเจอแอเรียนและทิฟฟานี่ที่นี่เหมือนกัน ดูจากสีหน้าของแอเรียนแล้ว มาร์คคงจะบอกเธอทุกอย่างแล้วเขาได้ต้นไม้นั้นมาจากคนอื่นอีกที มันเป็นสายพันธุ์ที่หายากจากนาฟาเอธ เขาต้องลำบากอย่างมากเพื่อที่จะนำมันกลับเข้ามาในประเทศ และไม่มีใครรู้เลยว่ามันจะออกดอกเมื่อไหร่ ถ้ามันได้รับการดูแลอย่างพิถีพิถัน มันคงจะออกดอกในไม่ช้า ตอนแรกเขาตั้งใจว่าเขาจะเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงของเขากับทิฟฟานี่เมื่อต้นไม้นั้นออกดอก แต่น่าเสียดายที่การเปลี่ย
หลังจากที่คุยกันนานพอสมควร ในที่สุดทิฟฟานี่ก็จำได้ว่าเธอมาที่นี่เพื่อซื้อเครื่องสำอางกับแอเรียน เธอหันไปหาแอเรียนและพบกับสีหน้าที่แปลกไปบนใบหน้าของแอเรียน “แอริ เป็นอะไรเหรอ?” เธอถามด้วยความสงสัย “ทำไมดึงหน้าแบบนั้นล่ะ? เธอโอเครึเปล่า?”แอเรียนหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนที่จะตอบว่า “ไม่ ฉันรู้สึกเหนื่อย ๆ นิดหน่อย ฉันไม่อยากช้อปปิ้งแล้ว ไปกันเถอะ”ทิฟฟานี่เอื้อมมือไปจับหน้าผากของแอเรียน “เพราะโรคเลือดจางของเธอรึเปล่า? เธอดูซูบ ๆ นะ ไว้ฉันจะบอกให้มาร์คขุนเธอให้อ้วน แต่ไหน ๆ เราก็มาถึงที่นี่แล้ว ทำไมไม่ซื้อของของเธอเลยล่ะ? เหลือแค่ต้องจ่ายเงินเอง ไม่นานขนาดนั้นหรอก ไปนั่งก่อนไหม? เดี๋ยวฉันจ่ายให้”อเลฮานโดรหันมามองแอเรียน แววตาของเขาแฝงไปด้วยการยั่ยยุ ทั้งคู่ต่างตระหนักถึงสถานการณ์ในตอนนี้ดีแอเรียนกลบเกลื่อนความโกรธของเธอและหาม้านั่ง เธอหวังเพียงว่าทิฟฟานี่จะเร่งรีบซื้อเครื่องสำอางเพื่อที่พวกเธอจะได้รีบออกไปจากที่นี่ ทุก ๆ วินาทีที่อยู่กับอเลฮานโดรถือเป็นความเสี่ยง“ทิฟฟานี่ ต้นไม้ที่ผมให้คุณออกดอกหรือยังครับ?” อเลฮานโดรจงใจถามถึงต้นไม้ในกระถาง ทิฟฟานี่ยื่นบัตรเครดิตของเธอให้พนักงานคิดเง