ทิฟฟานี่ตื่นตระหนก มันเป็นความตื่นตระหนกที่ไม่สามารถปกปิดด้วยแอลกอฮอล์ได้ เธอไม่คิดว่าเธอจะลงเอยและทำให้แจ็คสันโกรธแบบนี้ “อย่าเป็นแบบนี้… ฉันไม่ได้อยู่กับใครเลยจริง ๆ…”แจ็คสันไม่ตอบ เขายังคงทำหน้าบึ้งใส่เธอ เธอกังวลอยากจะหาทางออกแต่น่าเสียดายที่เธอไม่มีความคิดมากมาย ในความตื่นตระหนกของเธอ เธอผลักแจ็คสันลงบนเตียง “เชื่อฉันเถอะ… แค่ครั้งนี้ครั้งเดียว… ฉันไม่ได้โกหกคุณ…”เขาผลักเธอออกไป “ลงไป! ผมเหนื่อยแล้ว ผมไม่อยากทะเลาะกับคุณแล้ว”เธอก้มลงโจมตีริมฝีปากของเขาพลางมองผ่านสายตาที่พร่ามัวของเธอ “ฉันรู้ว่าคุณเหนื่อย ฉันจะช่วยให้คุณผ่อนคลาย” จากนั้นเธอก็ค่อย ๆ เขยิบไปตามร่างกายของเขาโดยหยุดที่ท้องของเขา…แจ็คสันจะกังวลเรื่องความโกรธของเขาในตอนนี้ได้อย่างไร? หัวของเขากำลังกรีดร้องว่า 'ไม่!'"คุณกำลังทำอะไร? ผมไม่มีความสนใจที่จะมีเพศสัมพันธ์แบบเปื้อนเลือดระหว่างที่คุณมีประจำเดือนหรอกนะ ถ้าคุณเมาก็ไปนอนซะ เราจะคุยเรื่องนี้กันในตอนเช้า!”เธอละเลยเขา แอลกอฮอล์เป็นตัวขับเคลื่อนของความกล้าหาญ เธอรวบรวมสติและฝังศีรษะลงไปที่เป้าของเขาเขาอ้าปากค้างและเอื้อมมือออกไปจับที่ด้านหลังศีรษะของเธอ “ค
เธอปัดมือเขาออก ความทรงจำเมื่อคืนนี้ค่อย ๆ ย้อนเข้ามาในหัวของเธอ ตอนนี้เธอสับสนอย่างเต็มขั้น เธอได้ทำสิ่งนั้นจริง ๆ!แจ็คสันขมวดคิ้ว “อะไรกัน? เมื่อกี่คุณยังขอโทษอยู่เลย แต่ตอนนี้คุณกลับมุ่งร้ายเสียแล้ว? ผมยังโกรธอยู่นะ…”เธอพูดไม่ออกและเลือกที่จะเดินหนี “ฉัน… ฉันไม่ได้ทำอะไรผิดเลย อย่างน้อยก็ไม่มีอะไรที่ต้องเป็นห่วง ฉันขอโทษแล้ว เพราะฉะนั้นเราหายกัน ฉันมีงานที่ต้องไปทำ!” จากนั้นเธอก็ลุกขึ้นเตรียมจะจากไปแต่เขาดึงเธอกลับลงมา “ขออีกครั้งนะ ตอนนี้ที่ทำงานค่อนข้างว่างด้วย…”เธอรู้สึกว่าเขาบ้าไปแล้ว ที่นี่คือที่สำนักงานนะ "ไม่! ปล่อยฉันไป! เราจะคุยเรื่องนี้ที่บ้าน!”แจ็คสันปฏิเสธที่จะปฏิบัติตาม เขาก้มไปข้างหน้าและดูดใบหูส่วนล่างของเธอ การหยอกล้อของเขาเกือบทำให้เธอแทบคลั่ง เธอพยายามดิ้นรนด้วยความลังเลและเกือบจะยอมแพ้ ความกลัวทำให้เกิดความรู้สึกเพิ่มขึ้นอีกแบบ เธอเพียงกลัวว่าจะมีใครบางคนจากสำนักงานบุกเข้ามา เธอจำได้ชัดเจนว่าเธอไม่ได้ล็อคประตู…ใบหน้าของเธอแดงก่ำเมื่อออกมาจากห้องทำงานเขา อายเดินเข้าไปหาเธอด้วยความสงสัย “ทำไมหน้าเธอแดงจัง?”ทิฟฟานี่เอามือปิดหน้าตัวเองแล้วรีบเข้าห้องน้ำ
แมรี่เก็บรายละเอียดทั้งหมดไว้เพราะไม่กล้าบอกแอเรียน ทั้งหมดที่เธอบอกแอเรียนคือหญิงชราคนนั้นเป็นหวัดหนักและไม่มีอะไรผิดปกติ เธอรอจนกระทั่งแอเรียนกลับเข้าห้องก่อนที่เธอจะโทรหามาร์คว่า “นายท่าน มีบางอย่างเกิดขึ้นกับคุณวินน์, โซอี้ แฮร์ริสและสามีของเธอทำให้คุณวินน์เป็นโรคปอดบวมเฉียบพลัน คุณวินน์มีไข้อย่างต่อเนื่องจนมันทำให้สมองของเธอเสียหาย เธอแก่แล้ว แม้ว่าหมอจะช่วยเธอได้ แต่เธอก็จะมีผลข้างเคียง ฉันทนบอกนายหญิงไม่ได้… เราควรทำอย่างไรดีคะ?”มาร์คขมวดคิ้วอย่างหงุดหงิดในออฟฟิศ “ผมว่าแล้วว่าจะต้องมีอะไรเกิดขึ้น… ผมเข้าใจแล้ว ผมจะจัดการเอง คุณทำถูกแล้ว อย่าให้แอริรู้เด็กขาด”หลังจากที่วางสายมาร์คก็บอกเดวี่ เลขาของเขา ให้ยกเลิกการประชุมทั้งหมดในตอนบ่ายก่อนที่เขาจะรีบไปที่โรงพยาบาลหญิงชราอยู่ในห้องผู้ป่วยหนัก โดยมีโซอี้และสามีของเธอยืนเฝ้าอยู่ข้างนอกพลางดูเหมือนเศร้าและอ้างว้าง ทุกคนรู้ดีว่ามันปลอมหรือไม่“มาร์ค แอริไม่มาเหรอ?” โซอี้รีบถามเมื่อเห็นว่ามาร์คมาคนเดียว“อืม เธอไม่สะดวก ผมจะจัดการทุกอย่างเอง” เขาตอบอย่างใจเย็น“เธอเป็นหลานสาวของเขา คุณย่าของเธอป่วยหนักมาก เธอเพิ่งท้องเองไม่ใ
สามีของเธอเงียบไปทันที เขาหันหลังกลับและจากไปอย่างทุลักทุเลมาร์คฟังคำอธิบายของแพทย์อยู่ในโรงพยาบาล สีหน้าของเขาค่อย ๆ ลดลงหมอดูอึมครึมมาก “เธออายุมากแล้วและช่วงนี้อากาศก็ไม่ค่อยดี เธอควรได้รับการดูแลเป็นอย่างดี พวกเขาควรให้ความสนใจเธออย่างใกล้ชิดตั้งแต่ที่เธอมีไข้อย่างต่อเนื่อง มันพัฒนาเป็นปอดบวมเฉียบพลันได้อย่างไร? ผมไม่เข้าใจว่าผู้ติดตามของเธอกำลังทำอะไรอยู่ หญิงชราคนนั้นหมดสติไปแล้วตอนที่เธอถูกส่งมาที่นี่ สิ่งนี้จะไม่เกิดขึ้นหากเธอไม่ได้เป็นไข้ต่อเนื่องมาสามวัน ครอบครัวไม่สังเกตเห็นว่าเธอเป็นไข้ในช่วงสองสามวันที่ผ่านมาเลยหรือ? ตอนนี้เราสามารถรักษาชีวิตเธอได้ด้วยสายออกซิเจนและยาเท่านั้น ไข้ยังไม่ลดลงเลย ดังนั้นเธอยังไม่พ้นระยะวิกฤต ท้ายที่สุดเธออายุมากแล้ว คุณควรทำใจไว้ดีกว่า”มาร์คกำมือแน่น “ได้โปรดทำให้ดีที่สุด ค่ารักษาพยาบาลจะไม่เป็นปัญหา ใช้ยาและการรักษาทุกอย่างที่คุณทำได้ ตอนนี้ผมเข้าไปหาเธอไม่ได้ใช่ไหม?”หมอหยุดครุ่นคิด “การไปพบผู้ป่วยอาจทำให้เธอติดเชื้อเข้าไปในปอดได้อีก คุณจะสามารถพบเธอได้ถ้าไข้เธอลดลงชั่วคราว เดี๋ยวผมไปตรวจดูให้"หมอเดินเข้าไปตรวจหญิงชรา มาร์ครออยู
มาร์คสังเกตเห็นว่าเวลาของเขากำลังจะหมดลงและพูดอย่างปลอบโยนว่า “ไม่ต้องกังวลนะครับคุณย่า ตั้งใจให้หายดีแล้วผมจะพาคุณกลับบ้านและต่อจากนี้ไปคุณจะไปอยู่กับเรา คุณไม่ผิดที่หยุดการแต่งงานของพวกเขา ดังนั้นคุณไม่จำเป็นต้องรู้สึกผิด แอริรู้ดีว่าคุณดีกับเธอแค่ไหน เธอก็หวังให้คุณหายดีเช่นกัน”การหายใจของหญิงชราเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในทันที เธอไม่สามารถพูดได้อีกต่อไป มาร์ครีบวิ่งไปหาหมอ "เธอหายใจถี่ขึ้น ได้โปรดไปช่วยดูเธอหน่อยครับ!"หมอรีบวิ่งเข้าไปในห้องผู้ป่วยหนัก ณ จุดนั้น ลมหายใจของหญิงชราเริ่มคงที่แต่เธอก็ยังดูไม่ดี หมอพยายามพูดกับหญิงชราว่า “คุณได้ยินผมไหม?”หญิงชราพยักหน้าด้วยความยากลำบาก หมอถอนหายใจอย่างโล่งอก “คุณต้องใจเย็นลงหน่อย เดี๋ยวก็ดีขึ้น”“มัน… จะ… ยากสำหรับฉันที่จะหายดีอีกครั้ง… ใช่ไหม… ใช่ไหม? พูดตรง ๆ...” หญิงชราพูดด้วยเสียงแหบหมอหยุดก่อนจะพูดต่อ “มันไม่ได้สิ้นหวังอย่างสิ้นเชิง… ร่างกายของผู้สูงอายุนั้นแข็งแกร่งไม่น้อยไปกว่าคนอายุน้อย อย่างไรก็ตาม มันต้องใช้ความพยายามนิดหน่อย เข้มแข็งไว้นะครับ"ทาบิธาหัวเราะ “ไม่ ฉันใช้ชีวิตอยู่มานานพอแล้ว ได้โปรด… เขียนพินัยกรรมของฉัน… ใ
ปกติมาร์คมักจะกลับบ้านเร็ว อย่างไรก็ตาม วันนี้เขาไม่อยากกลับบ้าน เขาไม่รู้ว่าจะต้องเผชิญหน้ากับแอเรียนอย่างไร เขากลัวว่าจะเปิดเผยทุกอย่างให้เธอรู้โดยไม่ตั้งใจจิตใจของเขาปั่นป่วนด้วยคำพูดที่หญิงชราพูดในห้องผู้ป่วยหนัก เขาดึงโทรศัพท์ออกมาแล้วโทรหาเฮนรี่ว่า “เฮนรี่ พาโซอี้ วินน์และสามีของเธอมาที่ห้องทำงานของผมเดี๋ยวนี้”พวกเขามาถึงครึ่งชั่วโมงต่อมา โซอี้เห็นสีหน้าของมาร์คและรู้ว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้อง ในทางกลับกัน สามีที่โง่เขลาของเธอกำลังชื่นชมความยิ่งใหญ่ของตึกเทรมอนต์ ทาวเวอร์โซอี้รู้สึกสับสน “มาร์ค… คุณเรียกพวกเรามาที่นี่ทำไม?”มาร์คยิ้มชั่วร้าย “คุณรู้ไหมว่าคุณย่าป่วยได้อย่างไร?”สามีของโซอี้แข็งทื่อแล้วถูจมูกอย่างรู้สึกผิด โซอี้บริสุทธิ์ในเรื่องนี้อย่างชัดเจน “มันเป็นเรื่องปกติอย่างยิ่งที่จะเป็นหวัดในสภาพอากาศเช่นนี้ ช่วงนี้ฉันยุ่งมากและแม่ก็ไม่เคยพูดถึงอาการป่วยของเธอเลย เธอมีอาการไอ ฉันจึงให้ยาแก่เธอ ฉันไม่ได้สนใจอะไรเป็นพิเศษ ฉันเพิ่งรู้ว่ามันแย่แค่ไหนเมื่ออยู่ ๆ เธอก็หมดสติไป ตอนนี้ การจัดการกับเรื่องต่าง ๆ ด้วยเงินคงจะง่ายกว่าและเมื่อคุณดูแลเรื่องต่าง ๆ หญิงชราจะต้องฟื้
โซอี้ไม่มีอารมณ์ที่จะขอค่าชดเชย หลังจากทุกอย่างที่สามีของเธอได้ทำลงไป เธอก็ไม่มีความกล้าที่จะขอเงินแม้แต่เหรียญเดียว “ฉันไม่ต้องการอะไรทั้งนั้น ฉันไม่สามารถเผชิญหน้ากับแม่ของฉันได้ โปรดดูแลเรื่องการจัดการของงานศพ พรุ่งนี้ฉันจะออกจากเมืองหลวงนี้ทันที”อย่างไรก็ตาม สามีของเธอไม่มีพอใจด้วย “เธอโง่เหรอ? ถ้าเธอต้องการจะปฏิเสธก็แล้วแต่ แต่ฉันต้องการเงิน! นั่นคือแม่ของเธอ ฉันช่วยดูแลเขามายี่สิบปีแล้ว!”ดวงตาของมาร์ควาววับด้วยความรำคาญ “คุณเป็นคนที่ให้การสนับสนุนคุณย่าหรือคุณย่าให้การสนับสนุนคุณกันแน่? ผมไม่มีอารมณ์ที่จะโต้เถียงกับคุณ คุณควรตระหนักให้ดีถึงสิ่งที่คุณได้ทำลงไป คุณย่าบอกผมทุกอย่างก่อนที่เธอจะเสีย อาชญากรรมที่คุณก่อขึ้นนั้นจัดอยู่ในหมวดหมู่ของการล่วงละเมิดในผู้สูงอายุ ผมสามารถฟ้องคุณได้! ออกไปซะถ้าคุณไม่อยากติดคุก!”สามีของโซอี้ดูไม่กระสับกระส่าย “เธอตายแล้ว ใครจะรู้ว่าสิ่งที่คุณพูดเป็นความจริงหรือไม่? คุณมีหลักฐานหรือเปล่า? อะไร คุณคิดว่าคุณสามารถทำแบบนั้นได้เพียงเพราะคุณมีเงินงั้นเหรอ? ฟ้องผมเลย ผมไม่กลัวหรอก! คุณยังต้องทำตามกฎหมายแม้ว่าคุณจะมีเงินก็ตาม คุณไม่ต้องการให้แอเร
ทิฟฟานี่กลับจากที่ทำงานเร็วกว่าเวลาเลิกงานครึ่งชั่วโมง เพื่อชดเชยที่เธอละเลยแจ็คสัน เธอจึงตัดสินใจเข้าห้องครัวและทำอาหารเย็นเอง ใช่ เธอยอมรับว่าทักษะการทำอาหารของเธออาจจะแย่นิดหน่อย แต่เพียงความตั้งใจเท่านั้นที่สำคัญเมื่อได้ยินว่าเธอออกจากงานเร็วกว่าปกติ แจ็ตสัน ผู้ซึ่งคิดว่ากิจกรรมล่าสุดของเธอนั้นน่าสงสัย จึงตามเธอกลับไปที่ไวท์ วอเตอร์ เบย์อย่างเงียบ ๆ เกือบจะทันทีที่เขาเข้าบ้านไปเขาก็ได้ยินเสียงก่องแก่งออกมาจากห้องครัว ดังนั้นเขาจึงก้าวเข้าไปในห้องที่มีเสียงดังกล่าวลอดออกมาเขาไม่แปลกใจเลยที่ห้องครัวตกอยู่ในความโกลาหลทิฟฟานี่กัดฟัน “คือว่า มันควรจะเป็นอาหารเย็น...”แจ็คสันถอนหายใจด้วยความยอมแพ้ “ไม่เป็นไร ทิฟฟ์ ให้ผมทำดีกว่า ผมยังต้องกลับไปที่บริษัทเพื่อทำงานล่วงเวลาหลังอาหารเย็นอีก ผมพนันได้เลยว่าคุณจะต้องใช้เวลาถึงเช้ากว่าที่คุณจะสร้างผลงานชิ้นเอกของคุณให้สำเร็จ”ก่อนที่เธอจะทันได้ตอบกลับ โทรศัพท์ที่เธอเพิ่งซื้อมาใหม่ก็ดังขึ้นและตัดประโยคของเธอเธอเหลือบมองหน้าจอที่แจ้งเธอว่ามันเป็นสายจากนักสืบอย่างรวดเร็วแม้ว่าเธอจะไม่ได้บันทึกชื่อผู้ติดต่อดังกล่าวแต่เธอก็จำหมายเลขนั้นได
แน่นอนว่าแอเรียนจะไม่กล้าอุ้มเพลโตอีกเนื่องจากเธอกลัวว่าลูกชายของเธอจะอิจฉาเมื่อแอเรียนบอกให้ทิฟฟานี่ตั้งชื่อเล่นให้เพลโต ทิฟฟานี่ก็ส่ายหัว “ผู้ชายจำเป็นต้องมีชื่อเล่นด้วยเหรอ? ถ้าสมอร์โตไปเป็นหนุ่มหล่อ มันจะไม่ตลกเหรอถ้าเราจะเรียกเขาว่าสมอร์? พวกสาว ๆ ที่ชอบเขาจะต้องหัวเราะจนน้ำตาไหลแน่นอน ชื่อเล่นจะน่ารักแค่ตอนที่ยังเด็กเท่านั้นแหละ”แอเรียนเบะปาก “เธอแค่ขี้เกียจที่จะคิดชื่อ ถูกไหม? เธอเลยอ้างเหตุผลทั้งหมดนี้ ชื่อเล่นเขาก็มีไว้เรียกเฉพาะตอนที่ยังเด็กเท่านั้นแหละ ใครเขาจะเรียกชื่อเล่นกันตอนโตล่ะ?”เมื่อพวกเธอกำลังคุยกันอยู่ อยู่ ๆ แจ็คสันก็โทรมา “คุณขับรถไปหาแอเรียนกับเพลโตคนเดียวเลยเหรอ? คุณไม่รู้จักฝีมือการขับรถตัวเองเลยเหรอ? ถ้าเกิดอะไรขึ้นจะทำยังไง? คุณน่าจะขอให้คนขับรถของแม่ไปส่งคุณแทน”ทิฟฟานี่หงุดหงิดมาก “นี่คุณคงอยากให้อะไรเกิดขึ้นกับฉันมากสินะ? ฉันมาถึงแล้ว แค่นั้นยังไม่ดีพออีกเหรอ? ฉันแค่ถอยรถไม่เก่งแค่นั้นเอง ถ้าฉันขับเดินหน้าอย่างเดียวจะมีอะไรร้ายแรงเกิดขึ้นได้บ้าง? คุณทำงานของคุณต่อไปเถอะค่ะ”ทิฟฟานี่อาจจะหงุดหงิด แต่จริง ๆ แล้วเธอก็แอบดีใจ อารมณ์ของเธอชัดเจนมากแม้ก
เมื่อเมลานีทานอาหารเสร็จและพวกเขาออกจากบ้าน อเลฮานโดรก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกทันทีที่พวกเขาขึ้นรถเมลานีเห็นดังนั้นจึงถามเขาว่า “โล่งอกใช่ไหมล่ะ? ฉันบอกแล้วว่าไม่ต้องมา แต่คุณไม่ฟังฉันเอง ฉันเองยังเบื่อพ่อแม่ตัวเองเลย”อเลฮานโดรเงียบโดยไม่ตอบอะไร เขาตื่นเช้ามากและยังคงง่วงนอนอยู่ เขาจึงหลับตาลงและพักสายตาเมลานีเริ่มไม่สบายใจ อเลฮานโดรรู้เรื่องที่เธอแอบติดต่อกับทิฟฟานี่หรือเปล่า? เขาน่าจะ… ไม่รู้เรื่องหรอก ถูกไหม? ไม่อย่างนั้นเขาน่าจะโวยวายไปแล้วแทนที่จะนิ่งสงบแบบนี้ เธอเลยคิดว่าเธอน่าจะบอกเขาก่อนที่เขาจะรู้ด้วยตนเองหลังจากที่ลังเลอยู่ชั่วครู่เธอก็พูดว่า “ฉันติดต่อกับทิฟฟานี่อยู่”ร่างกายของอเลฮานโดรแข็งทื่อโดยไม่รู้ตัว “แล้ว?”เธอคิดถูกแล้วจริง ๆ อเลฮานโดรจะมีปฏิกิริยาก็ต่อเมื่อมันเป็นเรื่องของทิฟฟานี่ แต่นอกจากนั้นเขาจะเมินทุกคำพูดของเธอ เมลานีแอบไม่พอใจ แต่ไม่แสดงให้เขาเห็น “คุณไม่โกรธเหรอ?”อเลฮานโดรลืมตาและมองหน้าเธอ “ทำไมผมจะต้องโกรธด้วย? ยังไงคุณก็ไม่ทำอะไรเธออยู่แล้ว”เมลานีพูดไม่ออก เขามั่นใจขนาดนั้นเลยเหรอว่าเธอจะไม่ทำอะไรทิฟฟานี่? เธอคิดมาเสมอว่าเธอไม่รู้จักอเลฮานโด
อเลฮานโดรรู้ตัวดีว่ามันเป็นเพียงความคิดตามสัญชาตญาณผู้ชายของเขาและไม่มีสิ่งอื่นใดหลังจากนั้นไม่นานหนังตาของเมลานีก็เริ่มหนัก อาจจะเป็นเพราะความเงียบสนิทที่เปรียบดั่งเพลงกล่อมนอนอย่างดี บวกกับครรภ์ของเธอที่ทำให้เธอง่วงเหนื่อยง่ายขึ้น ตอนแรกเธอคิดว่าเธอจะไม่สามารถนอนหลับได้เพราะอเลฮานโดรด้วยซ้ำ…ขณะที่เธอกำลังหาพลิกตัวหาท่านอนที่สบายด้วยความงัวเงีย อยู่ ๆ อเลฮานโดรก็พูดขึ้นมาว่า “หยุดขยับไปขยับมาสักที”เมลานีที่กำลังจะผล็อยหลับตื่นทันทีที่ได้ยินเสียงของเขาที่ดังขึ้นอย่างกะทันหัน เธอเริ่มรู้สึกรำคาญและเหวี่ยงใส่เขา “นี่มันบ้านของฉันและเตียงของฉัน ทำไมฉันจะขยับตัวไม่ได้? นี่คุณอย่าหาเรื่องโดยไม่มีเหตุผลได้ไหม?”เธอไม่ทันรู้ตัวว่าเธอเผลอไปโดนขาของเขาขณะที่เธอพลิกตัวไปมา ทันใดนั้นอเลฮานโดรก็ขึ้นคร่อมเธอโดยที่แขนแต่ละข้างของเขาอยู่ข้างตัวเธอเมลานีตกใจและหันหน้าหนีทันที “คุณจะทำอะไร? ลงไปเลยนะ!”กำปั้นของเธอเล็กมาก มันไม่เพียงแต่ไม่สามารถทำให้อเลฮานโดรเจ็บได้ แต่การกระทำของเธอยังทำให้เขามีอารมณ์มากขึ้นอีกด้วย “ผมบอกให้คุณเลิกขยับไง คุณจะไม่ฟังผมใช่ไหม?”เมลานีไม่กล้าที่จะขยับตัวอีกและ
ในความเป็นจริงแล้วอเลฮานโดรกลับรู้สึกสบายใจโดยไม่รู้เหตุผลเมื่อเข้ามาในห้องของเธอ “คุณสบายดีไหม?”เมลานีตะลึงเล็กน้อย “ฉันบอกคุณแล้วว่าคุณไม่ต้องแสดงหรอก ที่นี่ไม่มีใครสักหน่อย แล้วคุณจะแกล้งทำทำไม? ฉันไม่ฟ้องคุณปู่หรอก เพราะฉะนั้นพรุ่งนี้คุณกลับไปเลยก็ได้ ฉันอยู่ที่นี่แล้วสบายดี”อเลฮานโดรไม่สนใจสิ่งที่เมลานนีพูดและเรียกหาเจตต์ผู้ซึ่งนำทุกอย่างที่อเลฮานโดรได้ซื้อให้เธอเข้ามาให้ โต๊ะเครื่องแป้งของเธอเต็มไปด้วยข้าวของมากมายในไม่ช้าหัวใจของเมลานีเริ่มละลายแต่เธอบังคับให้ตัวเองสงบนิ่งต่อไปเมื่อเธอพูดว่า “ขอบคุณสำหรับน้ำใจของคุณนะคะ แต่ฉันขอไม่รับของพวกนี้ดีกว่า เพราะฉันรู้ว่าคุณไม่ได้ให้มันด้วยความเต็มใจ”เจตต์ไม่ต้องการรู้เห็นเกี่ยวกับการทะเลาะของพวกเขา เขาจึงออกไปจากห้องเมื่อวางของเสร็จแล้วอเลฮานโดรพูดนิ่ง ๆ ว่า “ถ้าคุณไม่อยากได้นก็ทิ้งไปสิ เครื่องสำอางพวกนี้ไม่ได้แพงขนาดนั้น พวกเครื่องประดับก็ราคาแค่สองสามแสนดอลลาร์ เพราะฉะนั้นคุณจะทำอะไรกับพวกมันก็แล้วแต่คุณเลย ในเมื่อคุณไม่อยากเห็นหน้าผม ผมกลับวันพรุ่งนี้ก็ได้ นอนเถอะ ผมจะไปอาบน้ำก่อน”เมื่อเมลานีเห็นเขาเดินเข้าไปในห้องน้ำเธอ
ทิฟฟานี่ตระหนักว่ามีบางอย่างผิดปกติก่อนที่เธอจะพูดจบ เธอเงยหน้าขึ้นและเห็นว่าสีหน้าของแจ็คสันเยือกเย็น แววตาของเขาเปล่งประกายด้วยความตื่นตระหนก เธอไม่เข้าใจว่าเขาเป็นอะไรไป “เป็นอะไรเหรอ? ทำไมมองฉันแบบนั้นล่ะ?”มันเหมือนกับว่าเขาเปลี่ยนเป็นคนละคนไปเลย แม้แต่น้ำเสียงของเขาก็เยือกเย็น “เขาแต่งงานเพื่อความสะดวกแบบนั้น คุณยังจะเชื่อจริง ๆ เหรอว่าเขาจะมีความรู้สึกให้เมลานี ลาร์คจริง ๆ ? คุณคิดไปเองทั้งหมด ผมบอกคุณแล้วว่าห้ามไปเจอเขา ไม่ว่ามันจะเป็นเพียงเรื่องบังเอิญหรือตั้งใจยิ่งห้ามแล้วใหญ่ คราวหน้าก็หลีกเลี่ยงเขาซะนะ!”ท่าทีที่เปลี่ยนไปกะทันหันของเขาทำให้ทิฟฟานี่ตกใจกลัว เธอกลืนน้ำลายและไม่รู้ว่าจะต้องพูดอะไรแจ็คสันรีบอาบน้ำให้เสร็จและออกไปโดยปล่อยเธอไว้คนเดียวในห้องน้ำ เธอรู้สึกว่างเปล่าทันที ทุกอย่างกำลังไปได้ดีจนกระทั่งเธอพูดถึงอเลฮานโดรและทุกอย่างกลายมาเป็นแบบนี้… แจ็คสันหนีไปที่ห้องทำงานของเขาหลังจากที่ออกมาจากห้องน้ำเพื่อแอบดูดบุหรี่อย่างต่อเนื่องโดยที่ทิฟฟานี่ไม่รู้ นิ้วที่เขาถือบุหรี่สั่นไม่หยุด เขากลัวเกินกว่าที่จะคิดถึงปฏิกิริยาของทิฟฟานี่เมื่อเธอต้องรู้ว่าจริง ๆ แล้วอเลฮ
ขณะที่เขากำลังหาสวิตช์เปิดไฟบนกำแพงเพื่อที่จะเปิดไฟทิฟฟานี่ก็หยุดเขาเอาไว้ “ไม่! ฉันชอบแบบปิดไฟมากกว่า ฉันอายนิดหน่อยน่ะ”เขารู้ดีว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่ เธอกลัวว่ารอยแตกของเธอจะทำให้เขาหมดอารมณ์ เขายิ้มและจุ๊บหน้าผากเธอ “ไม่เอาน่า ปกติคุณไม่ขี้อายนี่ ผมไม่ยักรู้ว่าคุณจะอายเป็นด้วยซ้ำ ผมไม่มีวันที่จะหมดอารมณ์กับคุณหรอก คุณได้รอยแตกเหล่านั้นมาเพราะคุณอุ้มท้องลูกของผม พวกมันเป็นรางวัลแห่งเกียรติยศของคุณนะ”ทิฟฟานี่เชื่อคำพูดของเขา เขามีลิ้นที่กะล่อนที่ช่วยให้เขาสามารถถ่ายทอดคำพูดเหล่านั้นอย่างราบรื่นได้จริง ๆแจ็คสันเปิดไฟเมื่อเธอกำลังเหม่อลอยในห้วงความคิดทิฟฟานี่รีบหยิบผ้าห่มมาคลุมตัวเองทันทีที่ไฟสว่างขึ้น “โธ่ อะไรเนี่ย! ฉันไม่อยากเปิดไฟ ขอเวลาฉันปรับตัวหน่อยสิคะ!”เขายิ้มอย่างมีเลศนัยขณะที่เมินคำบ่นของเธอและคว้าแขนเธอเพื่อหยุดเธอจากการดิ้นหนี…เธอลืมหายใจเมื่อเขาจับคางของเธอ สายตาเธอเริ่มพร่ามัวหมอนใบหนึ่งนอนอยู่บนพื้นหน้าเตียงราวกับว่ามันรับความป่าเถื่อนของพวกเขาไม่ได้...หลังจากที่เสร็จภารกิจแล้ว ทิฟฟานี่ก็ขดตัวในอ้อมแขนของแจ็คสันและวาดวงกลมบนแขนของเขาแจ็คสันจับมือของเธ
”หยุดทำไมล่ะคะ?” แอเรียนถาม “เล่นต่อสิ”“เธอก็มาผลักสิ ไม่อย่างนั้นก็มานั่งกับสมอร์” มาร์คชักชวนแอเรียนเคยตกชิงช้าเมื่อตอนที่เธอยังเด็ก เธอจึงหวาดกลัว “ไม่ ๆ ไม่ คุณเล่นกับเขาเลย เดี๋ยวฉันผลักให้ ขาคุณก็ออกจะยาว คุณน่าจะแกว่งตัวเองได้สบาย ไม่เห็นจะต้องพึ่งฉันเลย แล้วคุณจะขอให้ฉันผลักทำไม?”เขาเลิกคิ้วหนึ่งข้างและตอบว่า “เพื่อที่เธอจะได้มีส่วมร่วมด้วยแทนที่จะยืนเหม่อลอยอยู่ยังไงล่ะ…”มีบางอย่างผิดปกติในคำพูดของเขา…แอเรียนยอมแพ้และเดินไปข้างหลังพวกเขา เธอวางมือบนหลังเขาและออกแรงผลักแอริสโตเติลจะส่งเสียงร้องด้วยความดีใจเป็นครั้งคราว ดูเหมือนว่าแอริสโตเติลไม่ได้มีความสุขได้เฉพาะเวลาที่เล่นกับเจนิซ เพียงแต่ว่าเวลาที่แอเรียนเล่นกับเขาเธอมักจะเล่นแบบนิ่ม ๆ และเงียบ ๆ เพราะเขาคือลูกคนแรกของเธอและมันเป็นครั้งแรกที่เธอต้องเล่นกับเด็กทารก เพราะฉะนั้นยังมีอีกหลายอย่างที่เธอยังต้องเรียนรู้อีก...ในขณะเดียวกันที่ไวท์ วอเตอร์ เบย์ วิลล่าหลังจากที่ทานข้าวกันเสร็จแจ็คสันก็กำลังล้างจานในห้องครัวตามปกติ ทิฟฟานี่สามารถจ้องเขาในชุดผ้ากันเปื้อนได้ทั้งวัน เธอไม่ได้ทำอะไรเลยนอกจากยืนพิงกำแพงในห้
หลังจากนั้นไม่นาน อเลฮานโดรและเจตต์ก็เดินออกมาจากห้างสรรพสินค้าและขึ้นรถไปอเลฮานโดรจ้องกองสินค้าสำหรับผู้หญิงข้าง ๆ เขา ระหว่างคิ้วของเขาแอบมีร่องรอยของความไม่พอใจเจตต์มองเขาผ่านกระจกมองหลัง “ท่านครับ อย่าปล่อยให้เรื่องอื่นเบี่ยงเบนความตั้งใจของท่านเลยครับ ท่านตัดสินใจที่จะไปเยี่ยมนายหญิงที่อายาเช่แล้ว” เขาเตือนเบา ๆ “ดอน สมิธจะไม่มีวันมอบสมบัติของตระกูลสมิธให้ท่านถ้าท่านลงมือในตอนนี้”อเลฮานโดรมองออกไปนอกหน้าต่างและตอบอย่างใจเย็นว่า “รู้แล้ว”เขาคงจะไม่ได้ออกมาซื้อของในวันนี้หากดอน สมิธไม่ได้กดดันเขา เขายังต้องเหนื่อยซื้อของมากมายให้เมลานีอีกด้วย เขาไม่ได้คาดคิดว่าจะเจอแอเรียนและทิฟฟานี่ที่นี่เหมือนกัน ดูจากสีหน้าของแอเรียนแล้ว มาร์คคงจะบอกเธอทุกอย่างแล้วเขาได้ต้นไม้นั้นมาจากคนอื่นอีกที มันเป็นสายพันธุ์ที่หายากจากนาฟาเอธ เขาต้องลำบากอย่างมากเพื่อที่จะนำมันกลับเข้ามาในประเทศ และไม่มีใครรู้เลยว่ามันจะออกดอกเมื่อไหร่ ถ้ามันได้รับการดูแลอย่างพิถีพิถัน มันคงจะออกดอกในไม่ช้า ตอนแรกเขาตั้งใจว่าเขาจะเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงของเขากับทิฟฟานี่เมื่อต้นไม้นั้นออกดอก แต่น่าเสียดายที่การเปลี่ย
หลังจากที่คุยกันนานพอสมควร ในที่สุดทิฟฟานี่ก็จำได้ว่าเธอมาที่นี่เพื่อซื้อเครื่องสำอางกับแอเรียน เธอหันไปหาแอเรียนและพบกับสีหน้าที่แปลกไปบนใบหน้าของแอเรียน “แอริ เป็นอะไรเหรอ?” เธอถามด้วยความสงสัย “ทำไมดึงหน้าแบบนั้นล่ะ? เธอโอเครึเปล่า?”แอเรียนหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนที่จะตอบว่า “ไม่ ฉันรู้สึกเหนื่อย ๆ นิดหน่อย ฉันไม่อยากช้อปปิ้งแล้ว ไปกันเถอะ”ทิฟฟานี่เอื้อมมือไปจับหน้าผากของแอเรียน “เพราะโรคเลือดจางของเธอรึเปล่า? เธอดูซูบ ๆ นะ ไว้ฉันจะบอกให้มาร์คขุนเธอให้อ้วน แต่ไหน ๆ เราก็มาถึงที่นี่แล้ว ทำไมไม่ซื้อของของเธอเลยล่ะ? เหลือแค่ต้องจ่ายเงินเอง ไม่นานขนาดนั้นหรอก ไปนั่งก่อนไหม? เดี๋ยวฉันจ่ายให้”อเลฮานโดรหันมามองแอเรียน แววตาของเขาแฝงไปด้วยการยั่ยยุ ทั้งคู่ต่างตระหนักถึงสถานการณ์ในตอนนี้ดีแอเรียนกลบเกลื่อนความโกรธของเธอและหาม้านั่ง เธอหวังเพียงว่าทิฟฟานี่จะเร่งรีบซื้อเครื่องสำอางเพื่อที่พวกเธอจะได้รีบออกไปจากที่นี่ ทุก ๆ วินาทีที่อยู่กับอเลฮานโดรถือเป็นความเสี่ยง“ทิฟฟานี่ ต้นไม้ที่ผมให้คุณออกดอกหรือยังครับ?” อเลฮานโดรจงใจถามถึงต้นไม้ในกระถาง ทิฟฟานี่ยื่นบัตรเครดิตของเธอให้พนักงานคิดเง