"ผมจะไปรับคุณ ให้ที่อยู่ของคุณ ผมจะถึงในไม่กี่นาที" เอธานกล่าวครึ่งชั่วโมงต่อมารถของเอธานก็มาถึงนอกประตู คฤหาสน์ เทรมอนต์ แอเรียนพันเสื้อโค้ทของเธอให้แน่นและมุดเข้าไปในรถอย่างรวดเร็ว อุณหภูมิในช่วงดึกเป็นอะไรที่หนาวจนจะแข็งเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยในกะกลางคืนที่ประตูเมืองสังเกตเห็นว่า แอเรียนเข้าไปในรถที่ไม่ใช่ของมาร์คและจดเลขทะเบียนรถอย่างระมัดระวังแอเรียนไม่ได้อยู่ในอารมณ์ที่จะเสี่ยงไปไหนไกล ๆ เธอจึงบอกให้เอธานหยุดที่สี่แยก “มาคุยกันในรถ มันดึกมากแล้วจริง ๆ”เอธานดูหมดแรง “วันนี้ผมเหนื่อยมาก มาที่โรงแรมของผม ผมจะเรียกรถแท็กซี่ให้คุณเมื่อเราคุยธุระกันเสร็จ มีรายละเอียดมากมายที่ต้องอธิบาย และผมไม่อยากทำมันออกมาไม่ดีเมื่อผมทำสิ่งนี้ คุณเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดเพียงคนเดียวของทิฟฟ์ และผมไม่รู้ว่าจะขอความช่วยเหลือจากใครอีก แค่นี้ครั้งเดียว โอเคไหม?”แอเรียนไม่สามารถปฏิเสธเขาได้ เธอจึงตามเอธานกลับไปที่โรงแรมของเขาพวกเขาเดินเข้าไปในห้องพักในโรงแรมของเขา ของซื้อกลับบ้านที่เอธานเคยสั่งไว้ก่อนหน้านี้ถูกส่งมาไม่นาน “คุณอยากได้อะไรไหม?” เขาถามแอเรียนส่ายหัว "ไม่จำเป็น ทำไมคุณกินดึกจัง
น่าเสียดายที่ เอธานไม่ได้ยินเธอและอาบน้ำต่อไป เป็นไปได้มาก ว่าห้องน้ำกันเสียงไม่นานบอดี้การ์ดก็กระชากการ์ดห้องจากทิฟฟานี่ แล้วปลดล็อกประตู ตอนนี้แอเรียนได้เผชิญหน้ากับมาร์ค - มันเหมือนกับการมองไปที่ทุ่งหิมะ แววตาของเขาทำให้เธอรู้สึกผิดมากแม้ว่าเธอจะไม่ได้ทำอะไรผิดก็ตาม เธอถอยห่างออกไปอย่างอับอาย...ทิฟฟานี่พยายามดิ้นรนออกจากการยับยั้งของบอดี้การ์ด เธอรีบวิ่งไปข้างหน้าและปกป้อง แอเรียน “มาร์ค เทรมอนต์ ถ้าคุณมีอะไรจะพูดจงมีอารยะในเรื่องนี้ ฉันก็กังวลพอ ๆ กับคุณ! อย่างไรก็ตามเราสามารถรอให้เอธานออกมาจากห้องน้ำก่อนที่จะคุยกันอย่างไม่อ้อมค้อมได้ไหม? ฉันมั่นใจว่าแอริไม่ใช่คนแบบนั้นและเอธานก็ไม่ใช่ด้วย!”ในที่สุดเอธานก็สังเกตเห็นว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้องภายนอก เขาสวมเสื้อคลุมอาบน้ำและเดินออกมาเห็นคนกลุ่มใหญ่ในห้องของเขา "เกิดอะไรขึ้น?" เขาถามแล้วผงะการจ้องมองของมาร์คเปลี่ยนไปอย่างเย็นชา ทิฟฟานี่ตะคอกอย่างหงุดหงิด “คุณกำลังถามฉันเหรอ? ฉันจะรู้ได้อย่างไร?"ในที่สุดเอธานก็เข้าใจสถานการณ์และอธิบายอย่างรวดเร็วว่า “ผมมีเรื่องที่จะต้องคุยกับแอเรียนเมื่อเรามาถึงโรงแรม ผมทำเสื้อผ้าของผมสกปรกในขณะท
แอเรียนไม่ตอบสนองและเพียงแค่จับผ้าขนหนูรอบตัวเธอให้แน่น เธอหลับตาของเธอไม่ยอมมองเขา บางทีเธออาจจะไม่รู้สึกกลัวมากนักหากเลี่ยงที่จะมองเขา...การจ้องมองของมาร์คอยู่ที่รอยแผลเป็นบนไหล่ของเธอ เธอมีรอยแผลนี้เป็นเพราะเขา… แต่ตอนนี้ เขาเห็นมันเป็นเรื่องเย้ยหยัน "คุณทำให้ผมรังเกียจ!"มาร์คจากไปและไม่ได้ทำอะไรกับเธออีก สิ่งนี้แตกต่างจากวิธีการจัดการกับสิ่งต่าง ๆ ตามปกติของเขาประตูห้องนอนปิดดังปัง แอเรียนนั่งตัวแข็งอยู่ข้างเตียงเหมือนหุ่นที่ไร้วิญญาณเธอนอนไม่หลับทั้งคืนและไม่มีใครเรียกให้เธอไปรับมาร์ค เทรมอนต์ ที่เมา เขาจะไม่กลายเป็นคนที่แตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิงในสภาพที่เมามายและซุกที่คอของเธอเหมือนแมว ...ตอนแปดโมงเช้าแมรี่มาเคาะประตู “แอริ เธอตื่นหรือยัง? เธออยากกินอะไรไหม? เกิดอะไรขึ้น…ระหว่างเธอกับนายท่าน?”แอเรียนซ่อนตัวอยู่ใต้ผ้าห่ม “ฉันไม่กินข้าว และมันก็ไม่มีอะไร”แมรี่ถอนหายใจและไม่ถามคำถามอะไรอีกโทรศัพท์ของเธอดังขึ้น แอเรียนไม่รู้สึกอยากรับสาย แต่ในขณะเดียวกันก็รู้สึกหงุดหงิดกับเสียงเรียกเข้าที่ดังขึ้นเรื่อย ๆ เธอหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาอย่างอ่อนแรงรับสายและฟังเสียงของทิฟฟานี
แอเรียนไม่ได้ตอบกลับ มาร์ค เทรมอนต์ จะเชื่อใจเธอได้อย่างไร? เขาไม่เคยเชื่อใจเธอเลย...หัวใจของแมรี่ปวดร้าวเมื่อเห็นเธอเป็นแบบนี้ อย่างไรก็ตามเธอก็ไร้อำนาจเช่นกันคืนนั้นที่แอเรียนยืนกราน แมรี่จึงกลับบ้านไปพักผ่อน ไม่จำเป็นต้องอยู่กับเธอที่โรงพยาบาล เธอแค่ไม่สบายและดูแลตัวเองได้ ส่วนใหญ่เธอจะต้องอยู่ในโรงพยาบาลเป็นเวลาหนึ่งวันภายใต้การสังเกต เธอจะออกไปได้ในวันรุ่งขึ้นดูเหมือนเธอจะหลับไม่ลงอาจเป็นเพราะเธอนอนมากเกินไปในตอนกลางวัน เธอหลับตาและนอนลงบนเตียงในโรงพยาบาลความคิดมากมายรบกวนจิตใจของเธอ"คุณกำลังทำอะไร?!" ใครบางคนที่อยู่นอกวอร์ดตะโกนออกมาในทันใดแอเรียนกระโดดด้วยความตกใจ เธอลืมตาขึ้นเพื่อดูใบหน้าของชายคนหนึ่งที่หายไปจากหน้าต่างบานเล็กเหนือประตู ใครกำลังสอดแนมเธอในความดึกสงัดด?!เธอกลัวเกินกว่าจะอยู่ต่อไปได้ เธอเก็บข้าวของและออกจากโรงพยาบาลโดยสวมชุดของโรงพยาบาล เธอไม่ได้กรอกเอกสารการปล่อยตัวกลับบ้านของเธอด้วยซ้ำทุกอย่างเงียบงันเมื่อเธอกลับไปที่ คฤหาสน์ เทรมอนต์ แสงไฟกะพริบของโคมไฟทางเดินที่ประตูหลักและสวน มาร์คไม่อยู่บ้าน…เธอกลับไปที่ห้องของเธอและนอนซุกตัวอยู่ใต้ผ้าห่ม หั
แอเรียนคนชามโจ๊กเบา ๆ ด้วยช้อน เธอไม่ตอบสนองต่อคำแนะนำของแมรี่เมื่อคืนมาร์คไปตามหาเธอนานขนาดนี้เพราะรู้สึกว่าต้องรับผิดชอบหรือเปล่า? เธอไม่เคยรู้สึกว่าเธอมีอิทธิพลต่อพฤติกรรมของเขาได้ ถ้ามาร์คไม่เต็มใจกลับบ้านเขาก็แค่รู้สึกรังเกียจแม้ว่าเธอจะคุกเข่าขอร้องเขาก็ตามข่าวดังกล่าวยังคงแพร่กระจายบนอินเทอร์เน็ต แต่มาร์คไม่ตอบสนองโดยตรง เขายังบริจาคให้โรงเรียนประถมในวันส่งท้ายปีเก่าแอเรียนพบบทความล่าสุดโดยบังเอิญขณะที่เธออ่านข่าว มันเป็นรูปที่แอบถ่ายตอนที่เธออยู่ในโรงพยาบาล เธอนอนอยู่บนเตียงดูซีดเซียวและไม่มีชีวิตชีวา เนื้อหาของบทความมีการตั้งคำถามว่าเธอเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลเนื่องจากความรุนแรงในครอบครัวหรือไม่ และนิสัยที่อ่อนโยนของมาร์ค เทรมอนต์ ไม่มีอะไรไปกว่าแค่ลักษณะภายนอก เมื่อคิดได้แล้วคนที่อยู่นอกหอผู้ป่วยในโรงพยาบาลต้องเป็นคนที่แอบถ่ายรูปเธอเธอหักล้างคำกล่าวอ้างเหล่านี้โดยไม่รู้ตัวในส่วนความคิดเห็น แต่ความคิดเห็นของเธอถูกกลืนหายไปอย่างรวดเร็วท่ามกลางความคิดเห็นจากชาวเน็ตคนอื่น ๆ บางทีมาร์คไม่เคยถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างเปิดเผยในอดีต ดังนั้นความคิดเห็นจึงหลากหลายมาก คำวิพากษ์วิจ
“คุณไม่ควรมาถ้าคุณกังวลจริง ๆ” น้ำเสียงของมาร์คเย็นชาแอรี่ทำหน้ามุ่ยใส่เขา “อ๊ะ มาเถอะ”พ่อบ้านเฮนรี่มองไปที่แอเรียน แต่ก็กลืนคำพูดของเขากลับไป เขาขึ้นไปทักทายมาร์ค “นายท่าน”มาร์ครับรู้แล้วถามว่า “คุณดูแลทุกอย่างที่บ้านหรือยัง?”“ครับ พวกเขาได้รับรางวัลตามนั้น” พ่อบ้านเฮนรี่ตอบมาร์คหยิบการ์ดออกมาและส่งให้พ่อบ้านร์เฮนรี่ “นี่เป็นของคุณ ขอบคุณสำหรับการทำงานหนักในปีนี้”มาร์คทำสิ่งนี้ทุกปี เขามีน้ำใจต่อคนรับใช้ของเขา พ่อบ้านเฮนรี่ไม่ปฏิเสธ “มันคืองานของผมครับ”อาหารถูกเสิร์ฟบนโต๊ะอย่างรวดเร็ว มาร์คนั่งลงที่โต๊ะกับแอรี่ แอเรียนลดศีรษะลงโดยไม่ตั้งใจและพยายามไม่มองไปที่พวกเขา พวกเขาต้องนั่งใกล้ ๆ ตรงข้ามเธอ ราวกับว่า... เธอเป็นคนนอก…“พ่อแม่ของฉันได้ไปพักร้อนที่ต่างประเทศ ฉันเบื่อที่จะอยู่คนเดียวดังนั้นฉันจึงมากับพี่มาร์คที่รัก หวังว่าคุณจะไม่รังเกียจนะ พี่ใหญ่!” แอรี่จงใจอวดแหวนเพชรเม็ดโตบนนิ้วของเธอ ในรอยยิ้มที่หวานเกินไปของเธอคือความรู้สึกถึงความพึงพอใจของเธอ“ตามสบาย” แอเรียนยังคงกินต่อไปโดยไม่ได้มองเธอแม้แต่น้อยแอรี่ไม่พอใจที่แอเรียนไม่ตอบสนองอย่างที่เธอต้องการ “คุณดูไม่มี
หัวใจของแอรี่ตกไปอยู่ที่ตาตุ่ม เธอไม่ค่อยเห็นมาร์คดูจริงจังและน่ากลัวขนาดนี้เธอไม่เข้าใจว่าทำไมแอเรียนถึงไม่ทิ้งมาร์คไป แม้ว่าเธอจะไม่ได้รักเขาก็ตาม เธอไม่เข้าใจเลยว่าทำไมมาร์คถึงไม่อยากให้พรพวกเขา แม้ว่าเขาจะดูไม่สนใจเธอก็ตาม ทั้งหมดนี้เป็นเพราะความหยิ่งผยองในฐานะผู้ชายหรือเปล่า? หากเป็นเช่นนี้ต่อไปเธอจะเป็นคนรักที่เป็นความลับของมาร์คตลอดไป เธออยากเป็นนายหญิงเทรมอนต์มากกว่าสิ่งใด แอเรียนทำได้อย่างง่ายดาย แต่เธอก็ไม่ได้ให้ความสำคัญกับมันเลย แอรี่อดไม่ได้ที่จะรู้สึกเสียใจกับความคิดนี้ในขณะที่มาร์คกำลังทำงานอยู่ในห้องทำงาน แอรี่เดินเข้าไปในห้องของเขาเพื่อไปอาบน้ำ จากนั้นเธอก็หยิบชุดนอนผ้าไหมของแอเรียนมาใส่ ราวกับว่าเธอเป็นนายหญิงของบ้าน เธอเดินเข้าไปในห้องนั่งเล่นและสั่งพ่อบ้านเฮนรี่อย่างหยิ่งผยองว่า “ไปเตรียมห้องรับรองแขกให้พร้อม”พ่อบ้านเฮนรี่ยังคงยืนนิ่งและจ้องมองไปที่แอเรียนแอเรียนกำลังอ่านนิตยสารบนโซฟาอย่างไม่ไยดี “ไปสิคะ ลุงเฮนรี่”จากนั้นพ่อบ้านเฮนรี่ก็สั่งคนรับใช้ให้เตรียมห้อง แอรี่มองไปที่พ่อบ้าน “แม้แต่สุนัขก็ยังรู้วิธีอ่านอารมณ์ของนายหญิง หลังจากที่เลี้ยงมานาน แย่จังที
แอเรียน ลุกขึ้นและขึ้นไปชั้นบน แต่ก็ต้องหยุดอีกครั้งเมื่อเธออยู่ที่หน้าห้องของมาร์คในขณะที่แอเรียนกำลังลังเลอยู่นั้น พ่อบ้านเฮนรี่ก็เปิดประตูออกโดยไม่มีที่ว่างให้เธอได้เตรียมใจเธอหลีกเลี่ยงที่จะจ้องมองไปภายในห้อง เธอจะตอบสนองอย่างไรหากเห็นสิ่งที่ไม่ควรเห็น?“นายท่านครับ นายหญิงสุขภาพไม่ดีดังนั้นตอนนี้เธอจำเป็นต้องพักผ่อนครับ กรุณาส่งบุคคลที่ไม่สำคัญไปที่ห้องรับรองแขกด้วยครับ” น้ำเสียงของพ่อบ้านเฮนรี่ดูอ่อนน้อมถ่อมตน แต่ก็มีน้ำหนักของผู้มีอำนาจมาร์คสูบบุหรี่อยู่บนเก้าอี้ตรงหน้าต่างสไตล์ฝรั่งเศส เขาเพียงแค่มองไปที่แอเรียนอย่างเงียบ ๆ“คุณเรียกใครว่า บุคคลที่ไม่สำคัญ มิทราบ?” แอรี่โต้กลับอย่างรวดเร็ว “พี่มาร์คที่รักยังคงสูบบุหรี่อยู่ ถ้าเธอรู้สึกไม่สบายแล้วทำไมเธอไม่ไปนอนในห้องรับรองแขกล่ะ พี่ใหญ่?”แอเรียนไม่พูดอะไร เธอเพียงมองไปที่มาร์คเท่านั้นพ่อบ้านเฮนรี่ค่อย ๆ สะกิดเธอเข้าไปในห้อง มันเป็นการผลักดันอย่างเงียบ ๆ ของเขาที่เตือนให้แอเรียนรู้ว่าเธอไม่ควรเป็นคนขี้ขลาดอีกต่อไป “เธอไม่เหมาะที่จะนอนในห้องนี้เว้นแต่ว่าฉันจะหย่ากับเขาแล้ว กรุณาออกไปด้วย”แอรี่เม้มริมฝีปากทันทีและวิ่
แน่นอนว่าแอเรียนจะไม่กล้าอุ้มเพลโตอีกเนื่องจากเธอกลัวว่าลูกชายของเธอจะอิจฉาเมื่อแอเรียนบอกให้ทิฟฟานี่ตั้งชื่อเล่นให้เพลโต ทิฟฟานี่ก็ส่ายหัว “ผู้ชายจำเป็นต้องมีชื่อเล่นด้วยเหรอ? ถ้าสมอร์โตไปเป็นหนุ่มหล่อ มันจะไม่ตลกเหรอถ้าเราจะเรียกเขาว่าสมอร์? พวกสาว ๆ ที่ชอบเขาจะต้องหัวเราะจนน้ำตาไหลแน่นอน ชื่อเล่นจะน่ารักแค่ตอนที่ยังเด็กเท่านั้นแหละ”แอเรียนเบะปาก “เธอแค่ขี้เกียจที่จะคิดชื่อ ถูกไหม? เธอเลยอ้างเหตุผลทั้งหมดนี้ ชื่อเล่นเขาก็มีไว้เรียกเฉพาะตอนที่ยังเด็กเท่านั้นแหละ ใครเขาจะเรียกชื่อเล่นกันตอนโตล่ะ?”เมื่อพวกเธอกำลังคุยกันอยู่ อยู่ ๆ แจ็คสันก็โทรมา “คุณขับรถไปหาแอเรียนกับเพลโตคนเดียวเลยเหรอ? คุณไม่รู้จักฝีมือการขับรถตัวเองเลยเหรอ? ถ้าเกิดอะไรขึ้นจะทำยังไง? คุณน่าจะขอให้คนขับรถของแม่ไปส่งคุณแทน”ทิฟฟานี่หงุดหงิดมาก “นี่คุณคงอยากให้อะไรเกิดขึ้นกับฉันมากสินะ? ฉันมาถึงแล้ว แค่นั้นยังไม่ดีพออีกเหรอ? ฉันแค่ถอยรถไม่เก่งแค่นั้นเอง ถ้าฉันขับเดินหน้าอย่างเดียวจะมีอะไรร้ายแรงเกิดขึ้นได้บ้าง? คุณทำงานของคุณต่อไปเถอะค่ะ”ทิฟฟานี่อาจจะหงุดหงิด แต่จริง ๆ แล้วเธอก็แอบดีใจ อารมณ์ของเธอชัดเจนมากแม้ก
เมื่อเมลานีทานอาหารเสร็จและพวกเขาออกจากบ้าน อเลฮานโดรก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกทันทีที่พวกเขาขึ้นรถเมลานีเห็นดังนั้นจึงถามเขาว่า “โล่งอกใช่ไหมล่ะ? ฉันบอกแล้วว่าไม่ต้องมา แต่คุณไม่ฟังฉันเอง ฉันเองยังเบื่อพ่อแม่ตัวเองเลย”อเลฮานโดรเงียบโดยไม่ตอบอะไร เขาตื่นเช้ามากและยังคงง่วงนอนอยู่ เขาจึงหลับตาลงและพักสายตาเมลานีเริ่มไม่สบายใจ อเลฮานโดรรู้เรื่องที่เธอแอบติดต่อกับทิฟฟานี่หรือเปล่า? เขาน่าจะ… ไม่รู้เรื่องหรอก ถูกไหม? ไม่อย่างนั้นเขาน่าจะโวยวายไปแล้วแทนที่จะนิ่งสงบแบบนี้ เธอเลยคิดว่าเธอน่าจะบอกเขาก่อนที่เขาจะรู้ด้วยตนเองหลังจากที่ลังเลอยู่ชั่วครู่เธอก็พูดว่า “ฉันติดต่อกับทิฟฟานี่อยู่”ร่างกายของอเลฮานโดรแข็งทื่อโดยไม่รู้ตัว “แล้ว?”เธอคิดถูกแล้วจริง ๆ อเลฮานโดรจะมีปฏิกิริยาก็ต่อเมื่อมันเป็นเรื่องของทิฟฟานี่ แต่นอกจากนั้นเขาจะเมินทุกคำพูดของเธอ เมลานีแอบไม่พอใจ แต่ไม่แสดงให้เขาเห็น “คุณไม่โกรธเหรอ?”อเลฮานโดรลืมตาและมองหน้าเธอ “ทำไมผมจะต้องโกรธด้วย? ยังไงคุณก็ไม่ทำอะไรเธออยู่แล้ว”เมลานีพูดไม่ออก เขามั่นใจขนาดนั้นเลยเหรอว่าเธอจะไม่ทำอะไรทิฟฟานี่? เธอคิดมาเสมอว่าเธอไม่รู้จักอเลฮานโด
อเลฮานโดรรู้ตัวดีว่ามันเป็นเพียงความคิดตามสัญชาตญาณผู้ชายของเขาและไม่มีสิ่งอื่นใดหลังจากนั้นไม่นานหนังตาของเมลานีก็เริ่มหนัก อาจจะเป็นเพราะความเงียบสนิทที่เปรียบดั่งเพลงกล่อมนอนอย่างดี บวกกับครรภ์ของเธอที่ทำให้เธอง่วงเหนื่อยง่ายขึ้น ตอนแรกเธอคิดว่าเธอจะไม่สามารถนอนหลับได้เพราะอเลฮานโดรด้วยซ้ำ…ขณะที่เธอกำลังหาพลิกตัวหาท่านอนที่สบายด้วยความงัวเงีย อยู่ ๆ อเลฮานโดรก็พูดขึ้นมาว่า “หยุดขยับไปขยับมาสักที”เมลานีที่กำลังจะผล็อยหลับตื่นทันทีที่ได้ยินเสียงของเขาที่ดังขึ้นอย่างกะทันหัน เธอเริ่มรู้สึกรำคาญและเหวี่ยงใส่เขา “นี่มันบ้านของฉันและเตียงของฉัน ทำไมฉันจะขยับตัวไม่ได้? นี่คุณอย่าหาเรื่องโดยไม่มีเหตุผลได้ไหม?”เธอไม่ทันรู้ตัวว่าเธอเผลอไปโดนขาของเขาขณะที่เธอพลิกตัวไปมา ทันใดนั้นอเลฮานโดรก็ขึ้นคร่อมเธอโดยที่แขนแต่ละข้างของเขาอยู่ข้างตัวเธอเมลานีตกใจและหันหน้าหนีทันที “คุณจะทำอะไร? ลงไปเลยนะ!”กำปั้นของเธอเล็กมาก มันไม่เพียงแต่ไม่สามารถทำให้อเลฮานโดรเจ็บได้ แต่การกระทำของเธอยังทำให้เขามีอารมณ์มากขึ้นอีกด้วย “ผมบอกให้คุณเลิกขยับไง คุณจะไม่ฟังผมใช่ไหม?”เมลานีไม่กล้าที่จะขยับตัวอีกและ
ในความเป็นจริงแล้วอเลฮานโดรกลับรู้สึกสบายใจโดยไม่รู้เหตุผลเมื่อเข้ามาในห้องของเธอ “คุณสบายดีไหม?”เมลานีตะลึงเล็กน้อย “ฉันบอกคุณแล้วว่าคุณไม่ต้องแสดงหรอก ที่นี่ไม่มีใครสักหน่อย แล้วคุณจะแกล้งทำทำไม? ฉันไม่ฟ้องคุณปู่หรอก เพราะฉะนั้นพรุ่งนี้คุณกลับไปเลยก็ได้ ฉันอยู่ที่นี่แล้วสบายดี”อเลฮานโดรไม่สนใจสิ่งที่เมลานนีพูดและเรียกหาเจตต์ผู้ซึ่งนำทุกอย่างที่อเลฮานโดรได้ซื้อให้เธอเข้ามาให้ โต๊ะเครื่องแป้งของเธอเต็มไปด้วยข้าวของมากมายในไม่ช้าหัวใจของเมลานีเริ่มละลายแต่เธอบังคับให้ตัวเองสงบนิ่งต่อไปเมื่อเธอพูดว่า “ขอบคุณสำหรับน้ำใจของคุณนะคะ แต่ฉันขอไม่รับของพวกนี้ดีกว่า เพราะฉันรู้ว่าคุณไม่ได้ให้มันด้วยความเต็มใจ”เจตต์ไม่ต้องการรู้เห็นเกี่ยวกับการทะเลาะของพวกเขา เขาจึงออกไปจากห้องเมื่อวางของเสร็จแล้วอเลฮานโดรพูดนิ่ง ๆ ว่า “ถ้าคุณไม่อยากได้นก็ทิ้งไปสิ เครื่องสำอางพวกนี้ไม่ได้แพงขนาดนั้น พวกเครื่องประดับก็ราคาแค่สองสามแสนดอลลาร์ เพราะฉะนั้นคุณจะทำอะไรกับพวกมันก็แล้วแต่คุณเลย ในเมื่อคุณไม่อยากเห็นหน้าผม ผมกลับวันพรุ่งนี้ก็ได้ นอนเถอะ ผมจะไปอาบน้ำก่อน”เมื่อเมลานีเห็นเขาเดินเข้าไปในห้องน้ำเธอ
ทิฟฟานี่ตระหนักว่ามีบางอย่างผิดปกติก่อนที่เธอจะพูดจบ เธอเงยหน้าขึ้นและเห็นว่าสีหน้าของแจ็คสันเยือกเย็น แววตาของเขาเปล่งประกายด้วยความตื่นตระหนก เธอไม่เข้าใจว่าเขาเป็นอะไรไป “เป็นอะไรเหรอ? ทำไมมองฉันแบบนั้นล่ะ?”มันเหมือนกับว่าเขาเปลี่ยนเป็นคนละคนไปเลย แม้แต่น้ำเสียงของเขาก็เยือกเย็น “เขาแต่งงานเพื่อความสะดวกแบบนั้น คุณยังจะเชื่อจริง ๆ เหรอว่าเขาจะมีความรู้สึกให้เมลานี ลาร์คจริง ๆ ? คุณคิดไปเองทั้งหมด ผมบอกคุณแล้วว่าห้ามไปเจอเขา ไม่ว่ามันจะเป็นเพียงเรื่องบังเอิญหรือตั้งใจยิ่งห้ามแล้วใหญ่ คราวหน้าก็หลีกเลี่ยงเขาซะนะ!”ท่าทีที่เปลี่ยนไปกะทันหันของเขาทำให้ทิฟฟานี่ตกใจกลัว เธอกลืนน้ำลายและไม่รู้ว่าจะต้องพูดอะไรแจ็คสันรีบอาบน้ำให้เสร็จและออกไปโดยปล่อยเธอไว้คนเดียวในห้องน้ำ เธอรู้สึกว่างเปล่าทันที ทุกอย่างกำลังไปได้ดีจนกระทั่งเธอพูดถึงอเลฮานโดรและทุกอย่างกลายมาเป็นแบบนี้… แจ็คสันหนีไปที่ห้องทำงานของเขาหลังจากที่ออกมาจากห้องน้ำเพื่อแอบดูดบุหรี่อย่างต่อเนื่องโดยที่ทิฟฟานี่ไม่รู้ นิ้วที่เขาถือบุหรี่สั่นไม่หยุด เขากลัวเกินกว่าที่จะคิดถึงปฏิกิริยาของทิฟฟานี่เมื่อเธอต้องรู้ว่าจริง ๆ แล้วอเลฮ
ขณะที่เขากำลังหาสวิตช์เปิดไฟบนกำแพงเพื่อที่จะเปิดไฟทิฟฟานี่ก็หยุดเขาเอาไว้ “ไม่! ฉันชอบแบบปิดไฟมากกว่า ฉันอายนิดหน่อยน่ะ”เขารู้ดีว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่ เธอกลัวว่ารอยแตกของเธอจะทำให้เขาหมดอารมณ์ เขายิ้มและจุ๊บหน้าผากเธอ “ไม่เอาน่า ปกติคุณไม่ขี้อายนี่ ผมไม่ยักรู้ว่าคุณจะอายเป็นด้วยซ้ำ ผมไม่มีวันที่จะหมดอารมณ์กับคุณหรอก คุณได้รอยแตกเหล่านั้นมาเพราะคุณอุ้มท้องลูกของผม พวกมันเป็นรางวัลแห่งเกียรติยศของคุณนะ”ทิฟฟานี่เชื่อคำพูดของเขา เขามีลิ้นที่กะล่อนที่ช่วยให้เขาสามารถถ่ายทอดคำพูดเหล่านั้นอย่างราบรื่นได้จริง ๆแจ็คสันเปิดไฟเมื่อเธอกำลังเหม่อลอยในห้วงความคิดทิฟฟานี่รีบหยิบผ้าห่มมาคลุมตัวเองทันทีที่ไฟสว่างขึ้น “โธ่ อะไรเนี่ย! ฉันไม่อยากเปิดไฟ ขอเวลาฉันปรับตัวหน่อยสิคะ!”เขายิ้มอย่างมีเลศนัยขณะที่เมินคำบ่นของเธอและคว้าแขนเธอเพื่อหยุดเธอจากการดิ้นหนี…เธอลืมหายใจเมื่อเขาจับคางของเธอ สายตาเธอเริ่มพร่ามัวหมอนใบหนึ่งนอนอยู่บนพื้นหน้าเตียงราวกับว่ามันรับความป่าเถื่อนของพวกเขาไม่ได้...หลังจากที่เสร็จภารกิจแล้ว ทิฟฟานี่ก็ขดตัวในอ้อมแขนของแจ็คสันและวาดวงกลมบนแขนของเขาแจ็คสันจับมือของเธ
”หยุดทำไมล่ะคะ?” แอเรียนถาม “เล่นต่อสิ”“เธอก็มาผลักสิ ไม่อย่างนั้นก็มานั่งกับสมอร์” มาร์คชักชวนแอเรียนเคยตกชิงช้าเมื่อตอนที่เธอยังเด็ก เธอจึงหวาดกลัว “ไม่ ๆ ไม่ คุณเล่นกับเขาเลย เดี๋ยวฉันผลักให้ ขาคุณก็ออกจะยาว คุณน่าจะแกว่งตัวเองได้สบาย ไม่เห็นจะต้องพึ่งฉันเลย แล้วคุณจะขอให้ฉันผลักทำไม?”เขาเลิกคิ้วหนึ่งข้างและตอบว่า “เพื่อที่เธอจะได้มีส่วมร่วมด้วยแทนที่จะยืนเหม่อลอยอยู่ยังไงล่ะ…”มีบางอย่างผิดปกติในคำพูดของเขา…แอเรียนยอมแพ้และเดินไปข้างหลังพวกเขา เธอวางมือบนหลังเขาและออกแรงผลักแอริสโตเติลจะส่งเสียงร้องด้วยความดีใจเป็นครั้งคราว ดูเหมือนว่าแอริสโตเติลไม่ได้มีความสุขได้เฉพาะเวลาที่เล่นกับเจนิซ เพียงแต่ว่าเวลาที่แอเรียนเล่นกับเขาเธอมักจะเล่นแบบนิ่ม ๆ และเงียบ ๆ เพราะเขาคือลูกคนแรกของเธอและมันเป็นครั้งแรกที่เธอต้องเล่นกับเด็กทารก เพราะฉะนั้นยังมีอีกหลายอย่างที่เธอยังต้องเรียนรู้อีก...ในขณะเดียวกันที่ไวท์ วอเตอร์ เบย์ วิลล่าหลังจากที่ทานข้าวกันเสร็จแจ็คสันก็กำลังล้างจานในห้องครัวตามปกติ ทิฟฟานี่สามารถจ้องเขาในชุดผ้ากันเปื้อนได้ทั้งวัน เธอไม่ได้ทำอะไรเลยนอกจากยืนพิงกำแพงในห้
หลังจากนั้นไม่นาน อเลฮานโดรและเจตต์ก็เดินออกมาจากห้างสรรพสินค้าและขึ้นรถไปอเลฮานโดรจ้องกองสินค้าสำหรับผู้หญิงข้าง ๆ เขา ระหว่างคิ้วของเขาแอบมีร่องรอยของความไม่พอใจเจตต์มองเขาผ่านกระจกมองหลัง “ท่านครับ อย่าปล่อยให้เรื่องอื่นเบี่ยงเบนความตั้งใจของท่านเลยครับ ท่านตัดสินใจที่จะไปเยี่ยมนายหญิงที่อายาเช่แล้ว” เขาเตือนเบา ๆ “ดอน สมิธจะไม่มีวันมอบสมบัติของตระกูลสมิธให้ท่านถ้าท่านลงมือในตอนนี้”อเลฮานโดรมองออกไปนอกหน้าต่างและตอบอย่างใจเย็นว่า “รู้แล้ว”เขาคงจะไม่ได้ออกมาซื้อของในวันนี้หากดอน สมิธไม่ได้กดดันเขา เขายังต้องเหนื่อยซื้อของมากมายให้เมลานีอีกด้วย เขาไม่ได้คาดคิดว่าจะเจอแอเรียนและทิฟฟานี่ที่นี่เหมือนกัน ดูจากสีหน้าของแอเรียนแล้ว มาร์คคงจะบอกเธอทุกอย่างแล้วเขาได้ต้นไม้นั้นมาจากคนอื่นอีกที มันเป็นสายพันธุ์ที่หายากจากนาฟาเอธ เขาต้องลำบากอย่างมากเพื่อที่จะนำมันกลับเข้ามาในประเทศ และไม่มีใครรู้เลยว่ามันจะออกดอกเมื่อไหร่ ถ้ามันได้รับการดูแลอย่างพิถีพิถัน มันคงจะออกดอกในไม่ช้า ตอนแรกเขาตั้งใจว่าเขาจะเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงของเขากับทิฟฟานี่เมื่อต้นไม้นั้นออกดอก แต่น่าเสียดายที่การเปลี่ย
หลังจากที่คุยกันนานพอสมควร ในที่สุดทิฟฟานี่ก็จำได้ว่าเธอมาที่นี่เพื่อซื้อเครื่องสำอางกับแอเรียน เธอหันไปหาแอเรียนและพบกับสีหน้าที่แปลกไปบนใบหน้าของแอเรียน “แอริ เป็นอะไรเหรอ?” เธอถามด้วยความสงสัย “ทำไมดึงหน้าแบบนั้นล่ะ? เธอโอเครึเปล่า?”แอเรียนหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนที่จะตอบว่า “ไม่ ฉันรู้สึกเหนื่อย ๆ นิดหน่อย ฉันไม่อยากช้อปปิ้งแล้ว ไปกันเถอะ”ทิฟฟานี่เอื้อมมือไปจับหน้าผากของแอเรียน “เพราะโรคเลือดจางของเธอรึเปล่า? เธอดูซูบ ๆ นะ ไว้ฉันจะบอกให้มาร์คขุนเธอให้อ้วน แต่ไหน ๆ เราก็มาถึงที่นี่แล้ว ทำไมไม่ซื้อของของเธอเลยล่ะ? เหลือแค่ต้องจ่ายเงินเอง ไม่นานขนาดนั้นหรอก ไปนั่งก่อนไหม? เดี๋ยวฉันจ่ายให้”อเลฮานโดรหันมามองแอเรียน แววตาของเขาแฝงไปด้วยการยั่ยยุ ทั้งคู่ต่างตระหนักถึงสถานการณ์ในตอนนี้ดีแอเรียนกลบเกลื่อนความโกรธของเธอและหาม้านั่ง เธอหวังเพียงว่าทิฟฟานี่จะเร่งรีบซื้อเครื่องสำอางเพื่อที่พวกเธอจะได้รีบออกไปจากที่นี่ ทุก ๆ วินาทีที่อยู่กับอเลฮานโดรถือเป็นความเสี่ยง“ทิฟฟานี่ ต้นไม้ที่ผมให้คุณออกดอกหรือยังครับ?” อเลฮานโดรจงใจถามถึงต้นไม้ในกระถาง ทิฟฟานี่ยื่นบัตรเครดิตของเธอให้พนักงานคิดเง