หลังจากการเดินแบบเปิดตัวเสื้อผ้าคอลเลคชั่นใหม่ของแบรนด์ผ่านไปได้ด้วยดี ทางแบรนด์จึงได้จัดงานเลี้ยงขอบคุณลูกค้าและผู้ที่มาร่วมงาน รวมไปถึงบรรดานายแบบนางแบบและทีมงานที่มาเดินแบบในงานวันนี้ ซึ่งก็เข้าทางเกรซ นางแบบสาวจากพีพีโมเดลลิ่งพอดี เธอแอบคิดแผนการส่งส่วยให้กับไฮโซคู่ขา เพื่อที่จะได้ทำลายนางแบบสาวดาวรุ่งและของตอบแทนที่เขาบอกว่าจะให้ แม้ระหว่างเดินแบบจะเหลือบไปเห็นบุคคลที่ไม่คิดว่าจะได้พบเจออีกก็ตาม“น้องเมย์ น้องฮาน่า เดี๋ยวนั่งกินอาหารรอพี่อยู่ตรงนี้ก่อนนะคะ พี่ขอตัวไปคุยกับเจ้าของแบรนด์สักครู่” พุดซ้อนบอกสองนางแบบสาวที่เธอดูแล“ค่ะพี่พุดซ้อน” สองสาวตอบออกมาพร้อมกัน ผู้จัดการสาวจึงเดินจากไป“ตอนที่เดินแบบเหมือนจะเห็นบอสนั่งอยู่กับคุณเดลใช่ไหมอะฮาน่า” เมริสาหันไปถามอลินา“จ้ะ สงสัยได้รับเชิญมาด้วยมั้ง” อลินาตอบเพื่อนสนิทยิ้มๆ“แล้วฝรั่งอีกสองคนที่นั่งถัดจากคุณเดลนั่นใครเหรอ”“พี่ชายของคุณเดลเขาน่ะ เขามีพี่ชายแท้ๆ สองคน” เมริสาพยักหน้าขึ้นลงก่อนที่จะใช้ส้อมจิ้มกุ้งในจานขึ้นมาใส่ปาก“แล้วนี่พวกเขาหายไปไหนกันแล้วล่ะ อย่าบอกนะว่าพากันกลับไปก่อนแล้ว” ใบหน้าสวยหวานของเมริสาเหลียวซ้ายแลขวา
“ห้องไหน!!!” เสียงเข้มเค้นถามพนักงานหนุ่มออกมาจนอีกฝ่ายสะดุ้งสุดตัว ก่อนที่เขาจะเหลือบไปเห็นกระบอกสีดำเมื่อมที่อยู่ที่เอวของหนึ่งในชายชุดดำจึงรีบตอบออกมาด้วยความหวาดกลัว “น่ะ...หนึ่ง...สะ...ศูนย์ สี่ครับ” พนักงานหนุ่มถอยกรูดแต่แล้วกลับถูกชายชุดดำทั้งสองจับกุมตัวเอาไว้เพื่อไม่ให้ไปรายงานฝ่ายผู้ว่าจ้าง ร่างสูงโปร่งของฝรั่งหนุ่มเดินมาทางด้านหลังของภรรยาก่อนที่เขาจะโอบไหล่บางของเธอเอาไว้ บุ๊ซที่เดินตามหลังเจ้านายมามองเห็นอาการของนายหญิงก็อดเป็นห่วงไม่ได้เพราะเขาก็พอจะเดาได้ว่านายหญิงถูกวางยาอะไร อลินาสะดุ้งเพียงเล็กน้อยเมื่อร่างกายที่กำลังสั่นเทาปะทะกับร่างกายแข็งแกร่งที่มีกลิ่นหอมที่คุ้นเคยลอดมาเตะจมูก ทำให้กายสาวร้อนรุ่มมากยิ่งขึ้น เธอคว้ามือของเขาขึ้นมาจับแล้วสวมกอดร่างหนาของสามีพลางพึมพำออกมาราวกับกำลังจะสิ้นสติสัมปชัญญะ “ดะ...เดล ฮะ....ฮาน่าร้อนจังเลย” เอเดนรู้ทันทีว่าเกิดอะไรขึ้นกับเธอ เพราะเขาเคยเห็นมาบ่อยครั้งในไนต์คลับของตนที่พวกนักเที่ยวชอบหยดให้พวกสาวๆ ดื่ม เขาหยิบสมาร์ทโฟนออกมาจากกระเป๋ากางเกงแล้วต่อสายหาพี่ชาย “เอวาน... ทางนั้นเรียบร้อยไหม” เสียงทุ้มเอ่ยถามปลายสา
แสงแดดที่สาดส่องผ่านทางผ้าม่านในยามสายปลุกให้คนที่นอนกอดก่ายกันอยู่บนเตียงนอนรู้สึกตัวตื่น ไฮโซหนุ่มยิ้มกริ่มออกมาราวกับว่ากำลังมีความสุขกับสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคืนที่ผ่านมา ก่อนที่เขาจะโน้มใบหน้าลงไปกดจูบบนหน้าผากของคนที่นอนกอดเขาอยู่ แต่แล้วเขาก็ต้องตกใจจนตาเบิกโพลงเมื่อได้เห็นว่าคนที่เขาร่วมรักตลอดทั้งคืนนั้นคือใคร“เห้ย!!! เกรซ!!! นี่มันเรื่องบ้าอะไรกันวะ!!!”เสียงเข้มดังออกมาจนคนที่นอนหลับอยู่ได้สติทันที เธอดีดตัวลุกขึ้นนั่งทั้งที่หน้าอกยังเปลือยเปล่า ก่อนที่จะยกมือทั้งสองข้างขึ้นมากุมศีรษะแล้วเงยหน้าขึ้นมองเจ้าของเสียงที่เธอร่วมหลับนอนกับเขามาทั้งคืน“อะไรกันคะ เอ๊ะ!!! คุณลัก ทำไม... ทำไมคุณถึงมานอนที่นี่ได้ละคะ” หญิงสาวที่เพิ่งได้สติถึงกับตาเบิกโพลงและส่งเสียงอุทานออกมาด้วยความตกใจ“พัง!!! พังไม่เป็นท่า แผนบ้าอะไรของเธอเนี่ย” ร่างหนาผุดลุกขึ้นจากเตียงนอนก่อนที่เสียงเรียกเข้าจากสมาร์ทโฟนเครื่องหรูของเขาจะดังขึ้นมากริ๊ง....กริ๊ง....กริ๊ง.....ไฮโซหนุ่มหยุดต่อว่าคู่ขาของตน แล้วเดินตามเสียงที่ดังไปจนเจอต้นตอของเสียงที่กำลังสั่นร้องอยู่ในกระเป๋ากางเกงที่เขาถอดทิ้งเอาไว้เมื่อคืน ดูเบ
“เกรซว่ามันเป็นเรื่องแน่นอนอยู่แล้วค่ะ ที่พวกนักข่าวจะมารอทำข่าวของเรา ถ้าอย่างนั้นเกรซว่าเราแยกกันไปก็แล้วกันนะคะคุณลัก ไม่ต้องห่วงว่าเกรซจะเรียกร้องให้คุณรับผิดชอบ เพราะว่าแผนการนี้เป็นความผิดพลาดของเกรซเอง”หญิงสาวพูดจบก็คว้ากระเป๋าถือของตนแล้วรีบเดินออกจากห้องพักไปทันที ดีที่ภายในกระเป๋าของเธอนั้นมีแว่นตาสีดำอยู่ด้วย มันจึงช่วยอำพรางใบหน้าของเธอไปได้สักนิด ระหว่างทางเธอเอาแต่คิดทบทวนเรื่องราวที่เกิดขึ้นว่ามันเป็นแบบนี้ได้อย่างไร หรือพวกฝรั่งพวกนั้นจะไม่ได้กลับออกจากงานไปอย่างที่คิดทางด้านไฮโซหนุ่มก็ขอความช่วยเหลือจากทางโรงแรมให้ช่วยกันนักข่าวให้ พร้อมทั้งขู่ว่าจะฟ้องเรียกร้องค่าเสียหายที่ทำให้มีคลิปหลุดออกไป เขาออกจากโรงแรมมุ่งตรงกลับบ้านของตนอย่างอารมณ์เสีย จากนี้ไปเขาจะเอาหน้าที่ไหนไปร่วมงานสังคม และกลับบ้านไปเขาจะต้องพบเจอกับบิดาที่กำลังโมโหเขาอยู่อีก ไฮโซหนุ่มกุมศีรษะแล้วสบถออกมา“โถ่เอ๊ย!!! ไม่น่าเชื่อแผนการของเกรซเลย ใครมันเป็นคนที่คอยช่วยเธออยู่วะ”เขานึกไปถึงตอนแผนการที่เขาวางเอาไว้ครั้งก่อนที่เชียงใหม่ ครั้งนั้นก็ล้มเหลวไม่เป็นท่าเพราะมีคนมาช่วยเธอเอาไว้ ครั้งนี้ก็ดูเหมื
“สวัสดี... มิสเตอร์อภิวัฒน์ มิสเตอร์อภิลักษณ์” น้ำเสียงเย็นชาดังออกมาจากริมฝีปากหนาสีกุหลาบของแขกไม่ได้รับเชิญเอเดนเดินไปนั่งลงที่โซฟาทันทีที่ทักทายสองพ่อลูกเสร็จโดยไม่ต้องรอให้สองพ่อลูกเชื้อเชิญ ก่อนที่เขาจะยกขาขึ้นมาไขว่ห้าง แขนแข็งแรงทั้งสองข้างวางราบไปตามแนวของพนักพิงโซฟาตัวยาว“มิสเตอร์คือใครครับ ระ...เรารู้จักกันด้วยเหรอ... แล้วมาหาผมต้องการอะไร”นายอภิวัฒน์ประคองบุตรชายให้ลุกขึ้นยืน ก่อนที่จะเอ่ยถามอีกฝ่ายเป็นภาษาอังกฤษออกมาด้วยความหวาดกลัว“ผมเอเดน วินเทอร์ ตอนนี้ผมคือผู้ถือหุ้นของบริษัทจิวเวลรี่แบรนด์นีสจำนวนสี่สิบเปอร์เซ็นต์ ยินดีที่ได้พบกับผู้นำตระกูลพารักษ์ และเจ้าของบริษัทจิวเวลรี่แบรนด์นีส แต่คงจะดีกว่านี้ถ้าลูกชายของคุณไม่ไปแตะต้องคนในตระกูลของผมเข้า” คำตอบของฝรั่งหนุ่มทำเอาอีกฝ่ายตาค้างตกใจ เพราะนามสกุลนี้คือนามสกุลที่เขาเพิ่งจะคุยกับบุตรชายเมื่อสักครู่“ความจริงแล้ว หุ้นของบริษัทคุณผมไม่ได้อยากได้เลยแม้แต่นิด แต่เพราะลูกชายของคุณทำให้ผมรู้สึกเหมือนโดนเหยียบย่ำศักดิ์ศรีไปเกินหน่อย ผมเลยจำเป็นต้องซื้อมันเอาไว้เพื่อขายทอดตลาดในวันที่ผมอารมณ์ไม่ดี”มือหนาหยิบบุหรี่ขึ้นมา
น้ำหวาน : ฮัลโหลเกรซ : พี่น้ำหวาน นี่เกรซเองค่ะน้ำหวาน : อือ... ว่าไงเกรซเกรซ : ที่พี่เคยเตือนเกรซ พี่รู้มาก่อนแล้วใช่ไหมว่ายัยนั่นมีคนคอยสนับสนุนเธออยู่น้ำหวาน : ใช่สิ พี่ถึงได้เตือนเธอไง... แต่ดูท่าทางคงจะไม่ฟังสินะ ถึงได้เกิดเรื่องขึ้นมาเกรซ : เอ๊ะ!!! พี่น้ำหวาน ทำไมพูดแบบนี้ล่ะคะน้ำหวาน : เรื่องนี้ไม่มีใครช่วยเธอได้หรอกนะ ถ้ายังอยากมีชีวิตอยู่ก็ล้มเลิกความคิดที่จะไปยุ่งเกี่ยวกับเธอคนนั้นซะ พี่บอกเธอได้แค่นี้ โชคดีนะเกรซ...ปลายสายวางไปหลังพูดจบ อดีตนางแบบสาวน้ำตาไหลพรากเพราะคิดว่าสิ่งที่สร้างมาต้องพังพินาศเพียงเพราะความอิจฉาริษยาอีกฝ่าย ถึงว่าพี่น้ำหวานถึงได้เลิกเกลียดชังอีกฝ่าย เพราะว่าเธอไม่อยากมีจุดจบแบบนี้นี่เองและข่าวเกี่ยวกับบริษัทจิวเวลลี่ของตระกูลไฮโซลักกำลังมีปัญหาอยู่ในตอนนี้ก็อาจจะเป็นเพราะผู้ที่อยู่เบื้องหลังของนางแบบสาวคนนั้นก็ได้“กรี๊ด!!!! ฮือๆๆๆ ทำไมชีวิตฉันต้องมาเจออะไรแบบนี้ด้วย”เกรซกรีดร้องทรุดลงกับพื้นและปล่อยโฮทันที เห็นทีประเทศนี้คงจะไม่มีที่ให้เธอยืนอีกต่อไปแล้ว อดีตนางแบบสาวหยุดร้องไห้ฟูมฟายและตัดสินใจค้นหาของแบรนด์เนมของตนที่มีอยู่ภายในห้อง เพื่อเอา
หลังจากผ่านเรื่องราวที่เกือบจะกลายเป็นเรื่องราวใหญ่โตของตัวเอง แทนนางแบบสาวรุ่นพี่ที่ชื่อเสียงฉาวโฉ่เพียงข้ามคืน อลินาก็ได้กลับมาขบคิดถึงเส้นทางชีวิตของเธอในหน้าที่การงานในวันข้างหน้า การเป็นนางแบบไม่ใช่อาชีพที่เธอใฝ่ฝันอยากจะทำ แต่ที่ทำเพียงเพราะอยากจะใช้เวลาว่างตอนที่อยู่ประเทศไทยเก็บเกี่ยวประสบการณ์ในสิ่งที่เธอไม่เคยทำมาก่อน บางทีหากเธอไม่มาทำงานตรงนี้ คนอื่นที่มีความฝันอยากจะทำอาชีพนี้อาจจะมีโอกาสก็ได้“ที่รัก คุณกำลังคิดอะไรอยู่หืม....” เสียงทุ้มเอ่ยถามคนที่เขากำลังนอนกอดเธออยู่จากทางด้านหลัง“เดลคะ งานของคุณอันตรายมากใช่ไหมคะ” มือบางยกขึ้นมาลูบท่อนแขนแข็งแรงที่โอบรัดช่วงเอวขอดของเธออยู่“อืม... ก็เป็นเรื่องปกติของพวกเรา มันก็มีทั้งอันตรายและไม่อันตราย” เขาตอบออกมาด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาด้วยกลัวว่าเธอจะเปลี่ยนใจ รับไม่ได้ที่มีสามีทำอาชีพที่อันตราย“ถ้าฮาน่าบอกว่า ฮาน่าอยากจะอยู่เคียงข้างคุณ ฮาน่าทำแบบนั้นได้ใช่ไหมคะ”“แน่นอนสิ คุณเป็นภรรยาของผม และเป็นผู้หญิงคนที่สองรองจากแม่ที่ผมรัก” เขาพลิกร่างบางให้หันกลับมาก่อนที่จะค่อมร่างงามของเธอเอาไว้“เรา...มามีลูก มีหลานให้พ่อกับแม่กันดีไหม
เขานั่งไขว่ห้างมองไปรอบๆ ก็เห็นว่าสายตาของพวกผู้ชายทั้งหนุ่มและแก่ต่างมองภรรยาของเขาด้วยสายตาที่แสดงออกว่าสนใจในตัวเธอ จนทำให้เขาอยากจะสั่งให้ลูกน้องไปควักลูกตาคนพวกนั้นแล้วเอาไปโยนให้สิงโตในกรงที่พ่อของเขาเลี้ยงเอาไว้ดูเล่น ไม่ได้มีเพียงอลินาเท่านั้นที่ได้รับความสนใจจากสายตาของหนุ่มๆ ภายในงาน เพราะเอเดนเองก็เป็นจุดสนใจของบรรดาสาวๆ ที่มาร่วมงานในวันนี้เช่นกัน โดยเฉพาะพวกนางแบบด้วยกันที่ไม่รู้จักฝรั่งหนุ่ม“อุ๊ย!!! ฝรั่งคนนั้นที่เคยไปที่บริษัทเราใช่ไหมอะ” นางแบบสาวคนหนึ่งในสังกัดของพีพีโมเดลลิ่งเอ่ยถามเพื่อนนางแบบด้วยกันขึ้นมา“อืมใช่... ว่าแต่เขามาดูใครอะ”อลินาเหลือบมองตามสายตาของสองสาวไปก็พบว่าสามีนั่งอยู่ในกลุ่มของผู้ร่วมงาน และเป็นฝรั่งในบทสนทนาของสองสาว หญิงสาวเลิกคิ้วสูงด้วยความสงสัยว่าสามีไปที่บริษัทพีพีโมเดลลิ่งทำไม และไปตอนไหนกัน“นายครับ ดอกไม้ที่สั่งเอาไว้ได้แล้วครับ”ดอกกุหลาบสีแดงช่อโตถูกส่งมาจากมือหนาของบอดี้การ์ดหนุ่ม เอเดนรับมาสายตาคมจ้องมองไปยังด้านหลังของเวที ที่มีบรรดานางแบบยืนมองมาทางเขาอยู่เช่นกัน แต่ทว่าสายตาคมกลับมองผ่านสองนางแบบสาวด้านหน้าไปยังร่างระหงของภรรยาท
เมื่อรถตู้คันหรูไปถึงหน้าเพ้นส์เฮ้าส์ขนาดใหญ่ อลินาถึงกับตกตะลึงในความร่ำรวยของสามี เพราะคนที่จะมีเพ้นส์เฮ้าส์ในพื้นที่กว้างขนาดนี้ในเมืองชิคาโก้ได้ย่อมเป็นคนที่มีฐานะทางการเงินมากพอสมควร“ยินดีต้อนรับจ้ะหนูฮาน่า” มาดามเอวาน่ารีบออกมาทักทายต้อนรับลูกสะใภ้คนเล็ก“นี่แม่ผมเอง มาดามเอวาน่า” เอเดนกระซิบบอกภรรยา อลินาจึงเดินเข้าไปจับมือทักทายและสวมกอดกับแม่ของสามี“ขอบคุณสำหรับการต้อนรับที่อบอุ่นนะคะ”“เรียกแม่สิลูก ต่อไปนี้หนูคือลูกสะใภ้ของแม่ ถ้าเอเดนรังแกหนูหรือทำตัวไม่ดีกับหนูบอกแม่ได้เลย แม่จะจัดการให้” มาดามเอวาน่ายิ้มออกมาอย่างพอใจพลางให้ท้ายลูกสะใภ้คนสวย“แม่... นี่ผมลูกแม่นะ”มาเฟียหนุ่มทักท้วงก่อนที่สองสาวต่างวัยจะจับจูงพากันเดินเข้าไปนั่งภายในห้องรับแขกของเพ้นส์เฮ้าส์โดยไม่สนใจชายหนุ่มอีก เอเดนหันไปมองหน้าบุ๊ซกับเกริก สองหนุ่มพยายามกลั้นขำพลางส่ายหน้าไปมา“ไม่ทันไรแม่ฉันก็ยึดเมียฉันซะแล้ว” เขาบ่นออกมาก่อนที่จะรีบสาวเท้าก้าวตามสองสาวเข้าไปภายในเพ้นส์เฮ้าส์ของตนอลินาได้รับการต้อนรับจากครอบครัววินเทอร์เป็นอย่างดี ทั้งพ่อแม่สามีและพี่ชายทั้งสองของสามีปฏิบัติกับเธอราวกับเจ้าหญิง หลั
เช้าวันต่อมาอลินาและเอเดนก็ได้เดินทางกลับประเทศสหรัฐอเมริกาโดยเครื่องบินส่วนตัวของตระกูลวินเทอร์ ฮิวโก้ เมริสา เจ๊ลูซี่ และพุดซ้อนได้เดินทางมาส่งทั้งสองขึ้นเครื่อง ความสัมพันธ์ของเมริสากับฮิวโก้ได้พัฒนาขึ้นอย่างเงียบๆ โดยที่ไม่มีใครในบริษัทรู้ แต่อลินานั้นรู้ดีว่าทั้งเพื่อนและเจ้านายกำลังปลูกต้นรักกัน“ขอให้หนูโชคดีนะคะน้องฮาน่า ดีใจที่ได้พบเจอและได้ร่วมงานกัน” เจ๊ลูซี่เอ่ยลาอดีตนางแบบสาวที่เธอเอ็นดูและมองว่าอนาคตก็คงจะไปได้ไกลกว่านี้หากเธอยังไม่มีพันธะอะไร“พี่ดีใจนะที่ได้ดูแลฮาน่า ขอบคุณที่เป็นเด็กที่น่ารักตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา กลับมาเที่ยวหากันบ่อยๆ นะจ๊ะ” พุดซ้อนเอ่ยน้ำตาซึม แม้จะเป็นเวลาไม่นานที่ได้ดูแลเด็กสาวในฐานะผู้จัดการส่วนตัว แต่ความผูกพันกลับมีให้อีกฝ่ายไม่น้อย“ขอบคุณพี่ลูซี่และพี่พุดซ้อนมากๆ เลยนะคะที่ใจดีกับฮาน่ามาตั้งแต่วันแรกที่ได้พบกัน ฮาน่าจะไม่มีวันลืมพวกพี่และจะกลับมาเที่ยวหาบ่อยๆ ค่ะ” สามสาวต่างวัยเข้าสวมกอดลากันก่อนที่จะผละออกจากกัน อลินาจึงหันไปกอดลาเพื่อนสนิทบ้าง“เมย์ขอให้ฮาน่ามีความสุขในชีวิตคู่นะ ขอให้ทั้งสองรักกันไปนานๆ ถ้าเป็นไปได้กลับมาที่ประเทศไทยอีกทีเ
หลังจากที่ทั้งสองสามีภรรยาอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อยแล้วก็พากันไปรับประทานอาหารเช้าที่ห้องอาหาร ก่อนที่จะได้ไปดำน้ำดูปะการังตามแผนการที่วางเอาไว้ ทั้งสองกลายเป็นจุดสนใจของนักท่องเที่ยวและพนักงานอยู่ไม่น้อยเพราะเพิ่งจะมีข่าวออกไป ยิ่งไปกว่านั้นบอดี้การ์ดสองคนของมาเฟียหนุ่มก็ดูหล่อเหลาน่าสนใจไม่แพ้กัน“ดูท่าทางบุ๊ซกับเกริกจะได้สาวไทยเป็นแฟนแล้วล่ะ” อลินาเอ่ยออกมาขณะมองไปยังสองหนุ่มที่มีสาวๆ เข้ามาทักทาย“เจ้าสองคนนั้นเห็นหน้าตานิ่งๆ แบบนี้สาวๆ ชอบยิ่งกว่าผมอีกนะ” เอเดนบอกภรรยาก่อนที่จะตักไข่ม้วนในจานใส่ปาก“ไม่จริงมั้งคะ ฮาน่าว่าคุณหล่อกว่าพวกเขาอีก”อลินากระซิบบอกก่อนที่จะยิ้มหวานออกมา ได้ยินคนอื่นชมมาก็ตั้งมากมายกลับไม่รู้สึกอะไร แต่พอมาได้ยินภรรยาชมเท่านั้นมาเฟียหนุ่มถึงกับเสียอาการ มือหนาวางมีดและส้อมลงพร้อมเอ่ยถามเธอออกมา“เราไม่ไปดำน้ำแล้วดีไหมที่รัก”“ทำไมคะ เราจองไว้แล้วนี่คะ” อลินาละสายตาจากจานอาหารตรงหน้าแล้วมองใบหน้าของสามี“ก็คุณทำให้ผมอยากจะพาคุณกลับขึ้นห้องไปทำอย่างอื่นแทนการไปดำน้ำน่ะสิ”เขาตอบเธอยิ้มๆ หญิงสาวจึงส่งค้อนน้อยๆ ไปให้สามี ภาพของสองสามีภรรยาหยอกล้อพูดคุยกั
ภาพความงดงามของท้องทะเลในยามที่พระอาทิตย์ตกดิน ทำให้จิตใจที่เหนื่อยล้าของใครหลายๆ คนรู้สึกผ่อนคลาย ในอ่างน้ำจากุซซี่ภายในห้องพักสุดหรูที่ทอดยาวออกไปทางทะเล มีร่างสูงใหญ่ผิวขาวเนียนนั่งพิงอ่างอยู่ด้านหน้ามีร่างระหงในชุดว่ายน้ำทูพีชสีดำสุดเซ็กซี่นั่งพิงแผงอกเต็มไปด้วยกล้ามเนื้อของเขาอยู่ มือหนาลูบไล้ไปมาบริเวณหัวไหล่ขาวเนียนก่อนที่เขาจะก้มลงจุมพิตบนไหล่งาม“อืม.... หอมจัง”“ดะ...เดลคะ เราอยู่ข้างนอกห้องนะ คุณคงไม่ได้คิดกำลังทำเรื่องอย่างว่าใช่ไหม” ถึงแม้ที่พักแห่งนี้จะดูเหมือนมีความเป็นส่วนตัว แต่อะไรมันก็เกิดขึ้นได้ กันไว้ก็ดีกว่าแก้ไม่ใช่หรอกหรือ“หึๆ คุณลืมไปแล้วเหรอที่รัก... ว่าผมไม่ใช่คนที่จะมาล้อเล่นด้วยง่ายๆ น่ะ ไม่ต้องกังวลนะไม่มีใครกล้ามาแตะต้องเราหรอก” คำพูดของเขาทำเอาคนเป็นภรรยาอย่างเธอรู้สึกหมั่นไส้ขึ้นมา แต่ก่อนที่จะได้ต่อความให้ยืดยาว มือหนาของสามีก็ดึงกระตุกปลดสายบราบิกินีตัวจิ๋วของเธอออกเสียแล้ว“ว๊าย!!!”อลินาอุทานออกมาพลางยกมือขึ้นมาปิดบังเต้างามทั้งสองข้างของเธอเอาไว้ ก่อนที่จะถูกฝ่ามือหนาของสามีจับปลายคางของเธอให้หันมารับจูบที่แสนวาบหวาม จนร่างกายรู้สึกอ่อนระทวยให้อ้
ภายในสตูดิโอถ่ายภาพของบริษัทอเดลโมเดลลิ่งมีบรรดานายแบบและนางแบบกำลังนั่งรอถ่ายภาพกันอยู่ เมื่ออลินาเดินเข้าไปก็เรียกสายตาจากทุกคนและความเงียบก็เกิดขึ้นในทันที แต่แล้วรอยยิ้มต้อนรับก็ปรากฏบนใบหน้าของทุกคน“สวัสดีค่ะพี่ๆ ทุกคน วันนี้ฮาน่าจะมาลา” หญิงสาวยกมือไหว้พลางเอ่ยออกมา“สวัสดีค่ะ/สวัสดีครับ น้องฮาน่า” ทุกคนทักทายหญิงสาวกลับ"น่าเสียดายที่น้องฮาน่าตัดสินใจลาวงการ พี่ว่าเธอยังดังได้กว่านี้อีกนะ” อินทัชบอกกับหญิงสาวขึ้นมาเป็นคนแรก“นั่นสิ พี่ก็คิดแบบนั้น คุณเอเดนไม่ได้บังคับน้องฮาน่าใช่ไหมคะ” อิงค์ อิงวรากระซิบถามเรียกรอยยิ้มจากใบหน้าสวยเฉี่ยวของอลินาได้เป็นอย่างดี เธอส่ายหน้าไปมาเบาๆ แทนคำตอบ“พี่อิงค์ มองข้ามเรื่องถูกบังคับไปได้เลยค่ะ เพราะคุณเอเดนทั้งรักและตามใจฮาน่าจะตายไป” เพื่อนสนิทอย่างเมริสาตอบแทน อลินารู้สึกเขินจนหน้าแดง ที่เพื่อนของเธอพูดนั้นไม่ผิดนัก เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เธอตัดสินใจด้วยตัวเอง“พวกพี่ขอแสดงความยินดีด้วยนะน้องฮาน่า กลับมาเที่ยวหาพวกเราบ้างนะ” บรรดาพี่ๆ พนักงานในบริษัทเอ่ยออกมา“ค่ะ เดี๋ยวฮาน่าจะบินมาเยี่ยมบ่อยๆ”อลินายิ้มออกมาทั้งน้ำตา เพียงเวลาไม่กี่เดือนท
ข่าวการลาวงการของนางแบบสาวดาวรุ่งเรียกความสนจากแฟนๆ ที่ติดตามเธอทั่วทั้งประเทศ ต่างพากันรู้สึกเสียดายที่ต่อไปจะไม่มีโอกาสได้เห็นนางแบบสาวก้าวเข้าสู่วงการบันเทิง แต่หลายๆ คนก็รู้สึกยินดีที่ได้รับรู้ว่าหญิงสาวได้พบกับผู้ชายที่เธอรักและรักเธอจนได้ตัดสินใจกลับไปแต่งงานใช้ชีวิตครอบครัวร่วมกัน“เจ๊ลูซี่ นี่มันเรื่องจริงเหรอคะที่ว่าสามีของน้องฮาน่าเป็นมาเฟียน่ะ”ธัญญ่า ผู้จัดการส่วนตัวของอิงวราเอ่ยถามเจ๊ลูซี่ออกมาด้วยน้ำเสียงตกใจ เพราะที่ผ่านมาเธอนั้นไม่ได้ญาติดีกับเด็กสาวมากนัก เพราะรู้สึกไม่ค่อยถูกชะตากับเด็กเส้นที่เข้าวงการโดยไม่ต้องพยายามอะไร“จริงสิยะ อีกอย่างตอนนี้เธอก็ได้กลายมาเป็นผู้ถือหุ้นลำดับที่สองรองจากท่านประธานแล้วด้วย เพราะสามีของเธอก็คือเพื่อนสนิทของท่านประธานที่ได้ร่วมทุนกันก่อตั้งบริษัทนี้มา"บรรดาผู้จัดการส่วนตัวของเหล่านายแบบนางแบบในบริษัทต่างพากันตกตะลึง จากที่เมื่อวาน อลินานั้นยังเป็นแค่เพียงนางแบบสาวดาวรุ่งธรรมดา วันนี้กลับกลายมาเป็นผู้ถือหุ้นที่มีมากเป็นลำดับสองของหุ้นทั้งหมด“น้องก็ไม่เคยปิดนะว่าน้องมีสามีแล้ว เพียงแต่ก่อนหน้านั้นน้องยังไม่เคยเจอกับสามีมาก่อนก็เท่านั
เขานั่งไขว่ห้างมองไปรอบๆ ก็เห็นว่าสายตาของพวกผู้ชายทั้งหนุ่มและแก่ต่างมองภรรยาของเขาด้วยสายตาที่แสดงออกว่าสนใจในตัวเธอ จนทำให้เขาอยากจะสั่งให้ลูกน้องไปควักลูกตาคนพวกนั้นแล้วเอาไปโยนให้สิงโตในกรงที่พ่อของเขาเลี้ยงเอาไว้ดูเล่น ไม่ได้มีเพียงอลินาเท่านั้นที่ได้รับความสนใจจากสายตาของหนุ่มๆ ภายในงาน เพราะเอเดนเองก็เป็นจุดสนใจของบรรดาสาวๆ ที่มาร่วมงานในวันนี้เช่นกัน โดยเฉพาะพวกนางแบบด้วยกันที่ไม่รู้จักฝรั่งหนุ่ม“อุ๊ย!!! ฝรั่งคนนั้นที่เคยไปที่บริษัทเราใช่ไหมอะ” นางแบบสาวคนหนึ่งในสังกัดของพีพีโมเดลลิ่งเอ่ยถามเพื่อนนางแบบด้วยกันขึ้นมา“อืมใช่... ว่าแต่เขามาดูใครอะ”อลินาเหลือบมองตามสายตาของสองสาวไปก็พบว่าสามีนั่งอยู่ในกลุ่มของผู้ร่วมงาน และเป็นฝรั่งในบทสนทนาของสองสาว หญิงสาวเลิกคิ้วสูงด้วยความสงสัยว่าสามีไปที่บริษัทพีพีโมเดลลิ่งทำไม และไปตอนไหนกัน“นายครับ ดอกไม้ที่สั่งเอาไว้ได้แล้วครับ”ดอกกุหลาบสีแดงช่อโตถูกส่งมาจากมือหนาของบอดี้การ์ดหนุ่ม เอเดนรับมาสายตาคมจ้องมองไปยังด้านหลังของเวที ที่มีบรรดานางแบบยืนมองมาทางเขาอยู่เช่นกัน แต่ทว่าสายตาคมกลับมองผ่านสองนางแบบสาวด้านหน้าไปยังร่างระหงของภรรยาท
หลังจากผ่านเรื่องราวที่เกือบจะกลายเป็นเรื่องราวใหญ่โตของตัวเอง แทนนางแบบสาวรุ่นพี่ที่ชื่อเสียงฉาวโฉ่เพียงข้ามคืน อลินาก็ได้กลับมาขบคิดถึงเส้นทางชีวิตของเธอในหน้าที่การงานในวันข้างหน้า การเป็นนางแบบไม่ใช่อาชีพที่เธอใฝ่ฝันอยากจะทำ แต่ที่ทำเพียงเพราะอยากจะใช้เวลาว่างตอนที่อยู่ประเทศไทยเก็บเกี่ยวประสบการณ์ในสิ่งที่เธอไม่เคยทำมาก่อน บางทีหากเธอไม่มาทำงานตรงนี้ คนอื่นที่มีความฝันอยากจะทำอาชีพนี้อาจจะมีโอกาสก็ได้“ที่รัก คุณกำลังคิดอะไรอยู่หืม....” เสียงทุ้มเอ่ยถามคนที่เขากำลังนอนกอดเธออยู่จากทางด้านหลัง“เดลคะ งานของคุณอันตรายมากใช่ไหมคะ” มือบางยกขึ้นมาลูบท่อนแขนแข็งแรงที่โอบรัดช่วงเอวขอดของเธออยู่“อืม... ก็เป็นเรื่องปกติของพวกเรา มันก็มีทั้งอันตรายและไม่อันตราย” เขาตอบออกมาด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาด้วยกลัวว่าเธอจะเปลี่ยนใจ รับไม่ได้ที่มีสามีทำอาชีพที่อันตราย“ถ้าฮาน่าบอกว่า ฮาน่าอยากจะอยู่เคียงข้างคุณ ฮาน่าทำแบบนั้นได้ใช่ไหมคะ”“แน่นอนสิ คุณเป็นภรรยาของผม และเป็นผู้หญิงคนที่สองรองจากแม่ที่ผมรัก” เขาพลิกร่างบางให้หันกลับมาก่อนที่จะค่อมร่างงามของเธอเอาไว้“เรา...มามีลูก มีหลานให้พ่อกับแม่กันดีไหม
น้ำหวาน : ฮัลโหลเกรซ : พี่น้ำหวาน นี่เกรซเองค่ะน้ำหวาน : อือ... ว่าไงเกรซเกรซ : ที่พี่เคยเตือนเกรซ พี่รู้มาก่อนแล้วใช่ไหมว่ายัยนั่นมีคนคอยสนับสนุนเธออยู่น้ำหวาน : ใช่สิ พี่ถึงได้เตือนเธอไง... แต่ดูท่าทางคงจะไม่ฟังสินะ ถึงได้เกิดเรื่องขึ้นมาเกรซ : เอ๊ะ!!! พี่น้ำหวาน ทำไมพูดแบบนี้ล่ะคะน้ำหวาน : เรื่องนี้ไม่มีใครช่วยเธอได้หรอกนะ ถ้ายังอยากมีชีวิตอยู่ก็ล้มเลิกความคิดที่จะไปยุ่งเกี่ยวกับเธอคนนั้นซะ พี่บอกเธอได้แค่นี้ โชคดีนะเกรซ...ปลายสายวางไปหลังพูดจบ อดีตนางแบบสาวน้ำตาไหลพรากเพราะคิดว่าสิ่งที่สร้างมาต้องพังพินาศเพียงเพราะความอิจฉาริษยาอีกฝ่าย ถึงว่าพี่น้ำหวานถึงได้เลิกเกลียดชังอีกฝ่าย เพราะว่าเธอไม่อยากมีจุดจบแบบนี้นี่เองและข่าวเกี่ยวกับบริษัทจิวเวลลี่ของตระกูลไฮโซลักกำลังมีปัญหาอยู่ในตอนนี้ก็อาจจะเป็นเพราะผู้ที่อยู่เบื้องหลังของนางแบบสาวคนนั้นก็ได้“กรี๊ด!!!! ฮือๆๆๆ ทำไมชีวิตฉันต้องมาเจออะไรแบบนี้ด้วย”เกรซกรีดร้องทรุดลงกับพื้นและปล่อยโฮทันที เห็นทีประเทศนี้คงจะไม่มีที่ให้เธอยืนอีกต่อไปแล้ว อดีตนางแบบสาวหยุดร้องไห้ฟูมฟายและตัดสินใจค้นหาของแบรนด์เนมของตนที่มีอยู่ภายในห้อง เพื่อเอา