มันรู้สึกเหมือนกึ่งหลับกึ่งตื่น เหมือนจะฝัน แต่สัมผัสที่กำลังเคล้นคลึงเรือนร่างเธอมันก็เหมือนจริงเสียจนแยกไม่ออก หูแว่วได้ยินเสียงหอบกระเส่าที่ฟังแล้วแสนจะเซ็กซี่แต่ก็ชวนให้หัวใจวาบหวาม แรงกดแรงบีบเคล้น หรือแม้แต่การลูบไล้ที่ชวนให้กายสาวร้อนวูบวาบ แต่ก็หนาวเหน็บไปในเวลาเดียวกัน ความรู้สึกนี้คืออะไรกันแน่นะหรือว่าเธอจะ...ฝันลามกอยู่!จารุพัชรพยายามยกเปลือกตาขึ้นเพื่อหาคำตอบนั้น แสงสลัวจากโคมไฟที่หัวเตียงทำให้เธอต้องกะพริบตาถี่ๆ เพื่อปรับภาพให้ชัดเจนขึ้น แต่ก็ไม่ได้เห็นอะไรมาก“ที่ไหนวะเนี่ย” หญิงสาวขยับปากงึมงำ เมื่อเห็นเพดานสีแปลกตา ไม่ใช่ห้องเช่าของเธอแน่ แต่ที่ไหนไม่รู้“อ๊ะ...” เพียงคิดจะขยับ ร่างกายก็ไม่อาจขยับเขยื้อนได้ และรู้สึกแปลกประหลาดโดยเฉพาะบริเวณปลายยอดทรวงอวบอิ่มที่เหมือนจะเปียกชื้นมีแรงดูดดึงจนซ่านสยิว หรือแม้แต่หว่างกลางขาที่ถูกเสียดสีด้วยวัตถุแปลกปลอมที่แสนจะร้อนฉ่าชวนให้ขนลุกซู่ไปทั้งตัวหรือเธอจะโดนผีอำ ผีบ้าลามกสมัยนี้ช่างสรรหาวิธีการอำได้สัปดนชวนขนลุกเสียจริง แต่ก็เสียวแปลกๆ แฮะ“สะ...สะ...สัพเพสัตตา สะ…เสียว เอ๊ย! ไม่ใช่! สัตว์ทั้งหลายที่เป็นพะ...เพื่อนทุกข์ อร้า
“แรงอีกหน่อยได้ไหม ฉันจะไม่ไหวแล้ว...”“หึ...” เขาไม่ได้ตอบอะไร แต่กลับเพิ่มดีกรีความแรงบดแทรกเข้ามาอย่างถึงอกถึงใจ จนเธอเผลอส่งเสียงครวญครางแทบไม่เป็นภาษา สมองลืมไปแล้วว่าคนตรงหน้าเป็นใคร และสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ได้มาจากความรักแต่เป็นความใคร่ล้วนๆ อีกทั้งเธอยังยินยอมพร้อมใจมีอารมณ์ร่วมไปกับสิ่งที่เขามอบให้อีกด้วย“กรี๊ดดดด”ร่างอรชรผวาสะท้านไปทั้งตัว เมื่ออารมณ์หวามเดินทางมาถึงจุดหมายปลายทางแห่งความปรารถนา พร้อมกับได้ยินเสียงคำรามกึกก้องของราชสีห์หนุ่มที่ตามเธอมาติดๆ ก่อนที่เขาจะซบใบหน้าชวนฝันหวานลงมาบดจูบที่กลีบปากเธอ พร้อมกับระเบิดลาวาเข้าใส่ช่องทางรักอันแสนคับแคบจนรู้สึกอุ่นวาบไปทั้งช่องท้องอันแบนราบ“เยี่ยมมาก คุณเยี่ยมมาก” คำชมหวานหูทำให้จารุพัชรเผลอยิ้มออกมาอย่างลืมตัว และถูกตอบแทนด้วยจุมพิตแสนหวานอีกรอบ จูบของเขาทำให้เธอรู้สึกตัวเบาหวิวเหมือนขนนกแต่ก็เร่าร้อนดุดันจนทำหัวใจเธอเต้นถี่รัวเธอไม่รู้ว่าบทรักของคนอื่นควรเป็นยังไง แต่บทรักของคนตรงหน้ามันช่างตราตรึงหัวใจ และทำให้ประสบการณ์รักครั้งแรกของเธอลึกซึ้งน่าจดจำไปอีกนานแสนนานในฐานที่ว่า...ครั้งหนึ่งเธอได้กินพระเอกระดับซุปตาร์ เอ๊
อีตาบ้านี่ใช่คนเดียวกับพระเอกหื่นที่รวบหัวรวบหางกินกลางตลอดตัวเธอเมื่อคืนหรือเปล่าเนี่ย คิดแล้วน้ำตาก็พาลจะไหล ไม่ได้เสียใจที่เสียจิ้นให้คนผีบ้าตรงหน้า แต่เจ็บใจที่อีตาบ้าทำเหมือนถูกเธอกระทำชำเรามากกว่า“เอาล่ะ บอกมาดีกว่าว่าใครส่งเธอมาหรือว่าไอ้เวรนั่น...” ชายหนุ่มชะงักปาก เหตุการณ์เมื่อคืนแว่บเข้ามาในสมองฉับพลัน หรือว่ายัยนี่จะเป็นนางนกต่อที่คนพวกนั้นส่งมา“คุณหมายความว่าไง ฉันงงไปหมดแล้วเนี่ย”“ออกไปซะ!”จารุพัชรตะลึงงันจ้องใบหน้าหล่อเหลาที่ดุขึ้งอย่างงุนงง“นี่คุณเป็นบ้าไปแล้วเหรอ อย่างน้อยคุณควรขอ...”“บอกว่าออกไปไง ออกไปเดี๋ยวนี้ โอ๊ะ!” ท้ายประโยคชายหนุ่มก็ต้องผงะเกือบหงายเงิบ เมื่อถูกเขวี้ยงด้วยหมอนใบใหญ่ใส่หน้าดังตุ๊บ“ตาบ้า! นึกว่าตัวเองเป็นใครถึงมาทำกับฉันแบบนี้ เสียแรงที่น้องฉันแอบปลื้มมานาน ตัวจริงงี่เง่าแบบนี้เองเหรอ”“ยัยบ้านี่!” ธิเบศกัดกรามแน่นจนเป็นสัน ตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยมีใครบังอาจทำกับเขาแบบนี้มาก่อน“นายต่างหากที่บ้า ผีบ้าผีบอเอ๊ย หน้ามืดจับฉันมาเล่นจ้ำจี้ทั้งคืนแล้วพอตื่นมาไม่สำนึกผิดขอโทษกันไม่พอ ยังมีหน้ามาไล่ตะเพิดฉันอีกเนี่ยนะ ผู้ชายประสาอะไรเนี่ย”หญิงสาวข
“ที่นี่น่ะหรือที่คุณจะให้ผมมาพบคนสำคัญที่ว่า”ธิเบศถามอย่างระแวดระวัง แม้จะแน่ใจว่าพรอพที่เขาสวมมาจะพลางกายจากผู้คนให้จำไม่ได้ก็เถอะพระเอกหนุ่มมองป้ายห้องไอซียูตรงหน้าอย่างงุนงงไม่เข้าใจ เขาบ้าไปแล้วหรือเปล่าที่เชื่อคนแปลกหน้าที่จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่รู้เลยว่าเจ้าหล่อนชื่ออะไร หวังว่ายัยตัวแสบนี่คงไม่หลอกพาเขามาทำมิดีมิร้ายที่นี่ใช่ไหม“นี่มันเรื่องอะไรกันแน่ แล้วไหนกันคนสำคัญที่ว่าของคุณ”“ในนั้น...เขาอยู่ในห้องไอซียูนั่น ยัยจิ๊บเขาเป็นแฟนพันธุ์แท้ของคุณ...”คำนั้นทำให้พระเอกหนุ่มถึงกับอึ้งไปชั่วขณะ“คือฉันรู้ค่ะว่านี่มันบ้าบิ่นไปหน่อย แต่คุณพูดเองนี่นาว่าขอแค่เชื่อทุกอย่างในโลกนี้ก็สามารถเกิดปาฏิหาริย์ได้ เมื่อวานนี้ก็เป็นวันเกิดของน้องสาวฉัน แต่ตอนนี้เขาต้องอยู่ในห้องไอซียูเพราะถูกรถชนจนเลือดคั่งในสมองรอการผ่าตัด ต้นเหตุมาจากไอ้นี่...” หญิงสาวล้วงกระเป๋าพร้อมหยิบของสิ่งหนึ่งยื่นให้เขาธิเบศก้มลงมองรูปถ่ายในมือหญิงสาว คิ้วเข้มขมวดเป็นปม“น้องฉันต้องการเก็บรูปคุณที่ตกพื้น เลยโดนรถชน”พระเอกหนุ่มถึงกับอึ้งไปนิดๆ เมื่อได้ยินเหตุผลจากปากอีกฝ่าย แต่ทว่าเขาก็ยังไม่ได้เชื่อเธอร้อยเปอร์เซ็นต์
“ค่ะ ฉันมันบ้า คนบ้าๆ แบบฉันมันทำได้ทุกอย่างแหละเพื่อคนที่ตัวเองรัก และคุณอย่าลืมสิว่าคุณสัญญากับฉันว่ายังไง หากคุณผิดสัญญากับฉัน ฉันก็ไม่จำเป็นต้องรักษาสัญญาที่ให้ไว้กับคุณ ฉันจะแฉ!”หญิงสาวเห็นแววหวาดระแวงในแววตาคมกล้าคู่นั้นก็เริ่มใจชื้น พระเอกชื่อดังที่ไม่เคยมีข่าวด่างพร้อยอย่างเขาย่อมต้องกลัวเรื่องเสียชื่อเสียงกันบ้างหากต้องมีข่าวทำสาวท้องแล้วไม่รับผิดชอบ แต่ทว่า...“เรื่องมายารักทวงแค้นสินะ”“คะ?”“ก็ไอ้บทที่คุณพูดเมื่อกี้ไง ถ้าผมไม่ทำตามที่คุณต้องการก็จะเที่ยวไปบอกคนอื่นว่าท้องกับผม คุณนี่ดูละครมากไปจนเพี้ยน แล้วมโนว่าตัวเองเป็นนางเอกหรือไง เอาเถอะ อยากไปบอกใครก็ไป ผมไม่แคร์” พระเอกหนุ่มเอ่ยอย่างเย็นชาทำเอาคนฟังหน้าเสีย“ถ้าว่างมาก หรืออยากเป็นดารานักก็ช่วยกลับไปซ้อมบทให้ดีกว่านี้หน่อยเถอะ ฝีมือง่อยๆ แบบคุณ บทตัวประกอบยังดีเกินไปเลย”คำสบประมาทนั่นทำเอาหญิงสาวถึงกับอึ้งจนพูดไม่ออก แต่ยังไม่ทันที่จะได้โต้ตอบอะไร คนปากร้ายก็หันหลังทำท่าจะจากไปเสียแล้วฉันมันบ้า! หญิงสาวกุมขมับ นี่เธอควรปล่อยเรื่องนี้ไป หรือควรดันทุรังต่อดีเนี่ย ระหว่างที่ลังเลตัดสินใจไม่ถูกนั้นเอง จู่ๆ เธอก็เห็นน
“ยัยจิ๊บ! คุณดูนั่นสิคะ ยัยจิ๊บขยับเปลือกตา ฉันว่าเขาได้ยินที่คุณพูดนะ”ธิเบศเผลอยิ้มตามอย่างดีใจไปด้วย เขาบีบมือน้อยเบาๆ ราวกับต้องการส่งพลังให้แฟนคลับคนสำคัญ“ถ้าน้องได้ยินที่พี่พูดจริง ก็ลืมตาสักนิดได้ไหม จะได้ถ่ายเซลฟี่กันไงครับ”ราวกับมีปาฏิหาริย์ เปลือกตาของคนไข้ค่อยๆ ปรือขึ้นอย่างยากลำบาก แต่ก็ส่งสัญญานที่ดีทำให้คนเป็นพี่สาวต้องปิดปากไม่ให้กรีดเสียงออกมาด้วยความดีใจสุดขีด“คุณเอาโทรศัพท์มือถือเข้ามาด้วยไหม” หญิงสาวรีบพยักหน้ารัวๆ รับ พลางล้วงหยิบมือถือออกมาส่งให้เขา“เอาล่ะ พี่จะทำตามสัญญา ถ่ายเซลฟี่กันนะครับคนเก่ง” เขาเอ่ยพร้อมกับเลื่อนหน้ากากอนามัยออก และส่งสัญญานให้พี่สาวคนไข้ขยับเข้ามาใกล้ๆ ก่อนที่จะคว้าโทรศัพท์จากมือเธอและถ่ายรูปเซลฟี่ให้เสียเอง“เอาล่ะ ยิ้มหน่อยนะครับคนเก่ง คุณด้วยยิ้มหน่อยสิอย่าทำหน้าบูด” จารุพัชรค้อนใส่จอมบงการ แต่ก็ยอมคลี่ยิ้มมองกล้อง “เอาล่ะ หนึ่งสองสาม...”แชะๆจารุพัชรรู้สึกลำคอตีบตันกับสิ่งที่อีกฝ่ายทำให้ เขาสานฝันให้กับ
หญิงสาวลูบหน้าท้องที่ตอนนี้ยังแบนราบ แต่เธอรู้ว่ามีสิ่งมีชีวิตที่นอนอยู่ในนั้น แม้ไม่ทันได้คาดคิดหรือตั้งใจ ต้องโทษที่เธอมัวแต่เสียใจเรื่องน้องสาว และยุ่งๆ เรื่องจัดงานศพทำให้หลงลืมเรื่องความสัมพันธ์ลึกซึ้งที่เกิดขึ้นในคืนนั้น จนไม่ได้จัดการป้องกันใดๆ ทำให้ผลลัพธ์ออกมาแบบนี้“นี่ใช่เธอหรือเปล่ายัยจิ๊บ เธอกลับมาหาพี่อีกครั้งใช่ไหม”คนกำลังเป็นแม่ยิ้มกับตัวเองด้วยหัวใจที่เต็มตื้น ชีวิตที่เคว้งคว้างเหมือนมีหลักให้ยึดเกาะหัวใจอีกครั้ง แม้ว่าคนที่ร่วมสร้างชีวิตน้อยๆ นี่จะไม่มีวันรู้ว่าเขาฝากอะไรไว้ให้เธอ แต่เธอก็จะดูแลเลือดเนื้อเชื้อไขของเขาอย่างดี โดยที่จะทำตามสัญญาที่เคยให้เขาไว้ว่าหากเขาทำตามที่เธอขอร้องเธอจะลืมเรื่องทุกอย่างที่เกิดขึ้นในคืนนั้น ไม่เรียกร้องอะไรจากเขา และไม่มาให้เขาเห็นหน้าอีกตลอดไป...หญิงสาวทอดสายตามองสบตาบุรุษที่มองมาจากรูปโปสเตอร์โฆษณาตรงหน้า“ไม่ต้องห่วงนะคุณ ฉันจะทำตามสัญญา ลูกคนนี้ฉันจะตั้งใจเลี้ยงเขาให้ดีที่สุด”ก็ดีเหมือนกันอย่างน้อยเธอเสียน้องไปคน แต่กลับได้ลูกมาอีกคน อย่างน้อยชีวิตนี้ก็ยังมี
ความแออัดนั่นเริ่มจะส่งผลให้เธอมวนในช่องท้องแปลกๆ หรืออาจเป็นเพราะเธอไม่ได้กินข้าวเที่ยงตรงเวลา ไม่ก็เพราะได้กลิ่นน้ำหอมของใครบางคนในกลุ่มนั้นชวนให้คลื่นเหียนมีอาการผะอืดผะอมเหมือนอยากจะอาเจียนขึ้นมา ระหว่างที่หญิงสาวกำลังพยายามจะหาทางออกจากสถานการณ์คับขันตรงหน้า ทันใดนั้นเองหูของเธอก็พลันได้ยินเสียงประกาศจะบนเวทีดังขึ้น“มาถึงช่วงเวลาที่ทุกคนรอคอย ผมขอเชิญทุกท่านพบกับบุคคลที่สำคัญที่สุดของงานเปิดตัวสุดยอดแบรนด์แอมบาสเดอร์คนใหม่ล่าสุดของบัตรแกรนด์พรีเมียร์ อภิสิทธิ์เหนือจินตนาการ จากธนาคารเดอะแกรนด์ในวันนี้ ขอเสียงปรบมือดังๆ ให้กับพระเอกซุปตาร์เบอร์หนึ่งของเมืองไทย คุณธิเบศ ดิฐวัฒน์ แบรนด์แอมบาสเดอร์คนใหม่ของเราด้วยครับ”ปัง! เสียงเปเปอร์ชู๊ตระเบิดอย่างกึกก้องพร้อมกับเสียงกรี๊ดจากเหล่าแฟนคลับทำให้หูของจารุพัชรดับไปชั่วขณะเมื่อกี้พิธีกรประกาศว่าอะไรนะเธอฟังไม่ค่อยถนัด หากเมื่อสายตาของเธอมองขึ้นไปบนเวทีก็ทำให้หญิงสาวเบิกตาโพล่งอย่างตกตะลึงตาค้าง เมื่อได้เห็นพระเอกของงานที่เปิดตัวมาอย่างอลังการในชุดสูทสีน้ำเงินหรูซึ่งเป็นสีประจำของธนาคารแห่งนั้น
เอาเถอะ นาทีนี้ชีวิตคนต้องมาก่อนเรื่องอื่นค่อยว่ากันทีหลัง หญิงสาวหลับตาเพื่อเลี่ยงภาพบาดใจ แต่ทว่า...“ผมผายปอดไม่เป็น!”หญิงสาวลืมตามองคนพูดทันใด“ขอโทษครับ ใครผายปอดแบบเม้าท์ทูเม้าท์ได้บ้าง” ธิเบศหันไปถามเหล่าไทยมุงหน้าตาเฉย และไม่นานก็มีพลเมืองดีอาสา“ผมทำได้ครับ ผมเคยฝึกมา” คนพูดคือชายวัยกลางคนตัวใหญ่ผิวคล้ำ แม้ท่าทีจะดูน่ากลัวไปนิด แต่ถือว่าเขามีน้ำใจ“งั้นช่วยกันหน่อยนะครับ ถือว่าเอาบุญ” ธิเบศลงเสียงหนักในประโยคสุดท้าย ก่อนรีบขยับหลีกทางให้พลเมืองดีเข้ามาทำหน้าที่แทน ส่วนเขาก็รีบยืนข้างๆ ภรรยาที่ตอนนี้ทำหน้าเหวอ ก่อนกระซิบที่ข้างหูเธอเบาๆ“รอดูฉากเด็ดนะ”ฉากเด็ด! ฉากเด็ดอะไรล่ะ หญิงสาวได้แต่มองหน้าสามีสุดหล่ออย่างงุนงง ก่อนหันไปจ้องมองนาทีชีวิตของเมลดาตาแทบไม่กะพริบพลเมืองดีคนนั้นท่าทางจะมีความรู้ในการปฐมพยาบาลเบื้องต้นคนจมน้ำจริงอย่างที่พูด เขาจัดการลงมือช่วยหญิงสาวอย่างคล่องแคล่ว หากทว่าตอนที่เขากำลังจะทำการเป่าปากแบบเม้าท์ทูเม้าท์นั้นเอง จู่ๆ คนที่นอนนิ่งก็ล
จารุพัชรเหลือบมองใบหน้าหล่อเหลาที่ดุขึ้งจากอารมณ์ขุ่นมัวที่ค้างมาจากอดีตแฟนเก่า มืออุ่นๆ ของเขายังกุมมือเธอไว้แน่น และวงแขนแข็งแรงก็โอบอุ้มยอดดวงใจตัวน้อยไว้ไม่ปล่อยเธอไม่เคยเห็นเขาโมโหมากเท่านี้มาก่อน หากสิ่งที่เมลดาทำนั้นก็สมควรที่จะทำให้เขาไม่พอใจ“คุณธิมคะ” อดไม่ได้เลยเรียกเขาเบาๆ“หืม...คุณมีอะไรเหรอ เมื่อกี้เจ็บตรงไหนหรือเปล่า”“แจนไม่ได้เป็นอะไรค่ะ ส่วนลูกก็คงตกใจแต่ยังไม่ทันโดนทำร้ายอะไร”ธิเบศถอนหายใจ พลางหยุดเดินแล้วหันมาสบตา“ผมขอโทษนะ”“ขอโทษเรื่องอะไรคะ แจนกับลูกต้องขอบคุณคุณต่างหากที่เข้ามาปกป้องเราสองคน ขอบคุณนะคะ” หญิงสาวส่งยิ้มให้ ทำให้สีหน้าดุๆ คลายลง“ขอบคุณเฉยๆ เหรอ แล้วรางวัลของผู้กล้าล่ะ”จารุพัชรมองคนพูดอย่างหมั่นใส้ แต่ทว่าเธอก็ยอมเขย่งปลายเท้าขึ้นและบรรจงจูบที่แก้มของเขาเบาๆ ไปทีหนึ่ง แต่เจ้าตัวกลับยื่นปากให้ หญิงสาวยิ้มเขินๆ“พอแล้วค่ะ อายลูกบ้าง”“อายทำไมเนอะลูกเนอะ หนูชอบให้พ่อกับแม่ส
“นี่แก!” เมลดามองศัตรูหัวใจราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ เจ็บใจที่ผิดแผน ต้องโทษที่ยัยเด็กบ้านี่ทำให้เธอเสียอาการจนดูแย่ในสายตาบุรุษที่หมายปอง“ธิมคะ...เมไม่ได้ตั้งใจจริงๆ นะคะ...”“ไม่ตั้งใจงั้นเหรอ...คนที่คุณควรขอโทษคือลูกและเมียผมต่างหาก อ้อ! แล้วที่คุณว่าลูกผมว่าพ่อแม่ไม่สั่งสอนน่ะ ผมว่าคงไม่ใช่ลูกผมหรอกที่ควรโดนว่า แต่เป็นคุณต่างหาก...” เมลดาสะอึก หน้าเสีย ดวงตาคู่งามมีน้ำตาคลอ ไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะปากร้ายขนาดนี้“ธิมคะ ทำไมคุณว่าเมหนักแบบนี้ เมบอกแล้วไงว่าไม่ได้ตั้งใจ แล้วเมก็ยังไม่ได้ทำร้ายลูกคุณเลยนะคะ”“พอเถอะนะเม ผมไม่อยากฟังคำแก้ตัวอะไรของคุณ เอาเป็นว่า เราต่างคนต่างอยู่ดีกว่านะ คุณจะทำเป็นไม่รู้จักผมเลยก็ได้ ผมไม่สน แต่อย่ามายุ่งกับลูกเมียผมอีก จะให้ดีคุณช่วยหายไปเหมือนวันนั้นได้ไหม ผมจะขอบคุณมาก”โอ้...จารุพัชรนิ่วหน้านิดๆ แอบเจ็บแทนคนฟัง ธิเบศเวอร์ชั่นปราบมารนี้อาจดูใจร้ายไปสักหน่อยสำหรับเมลดา แต่กลับกร้าวใจคนเป็นภรรยาเหลือเกิน พ่อคนหวงลูกหวงเมีย พ่อพระเอกนอกจอโอ๊ย...พ่อทูนหั
“จะรีบไปไหนล่ะคะ”เมลดาก้าวเข้ามาหาสองแม่ลูก วันนี้เธอสวมชุดว่ายน้ำทูพีชมีเสื้อคลุมเนื้อบางเบาสวมทับไว้อย่างสวยเก๋และดูเซ็กซี่ เรือนร่างของนางแบบสาวตรงหน้างดงามอย่างไม่มีที่ติ“คุณนั่นเอง มาเดินเล่นเหรอคะ”จารุพัชรยิ้มให้อีกฝ่ายอย่างเป็นมิตร ไม่มีเหตุผลที่จะต้องแสดงท่าทีเป็นปฏิปักษ์ต่อกัน“เมมาดูพระอาทิตย์ขึ้นน่ะค่ะ พอดีเห็นคุณกับ...ลูกเสียก่อน” เมลดาส่งยิ้มหวานให้ “นี่ลูกคุณเหรอคะ หนูชื่ออะไรเอ่ย”“ชื่อน้องทับทิมค่ะ”ชื่อนั้นทำให้คนฟังหน้าเสียไปนิดๆตั้งชื่อพ้องกับชื่อพ่อขนาดนี้ กลัวใครไม่รู้หรือไงว่าสามีชื่ออะไร เมลดาค่อนขอดคนตรงหน้าในใจอย่างหมั่นไส้ แต่ใบหน้าสวยยังคงยิ้มหวาน“แหม...ถ้าไม่บอกคงไม่รู้นะคะว่าเป็นลูกธิม”คนฟังชักทะแม่งหู ใครๆ ก็บอกว่าลูกสาวเธอหน้าเหมือนพ่ออย่างกับแกะจากพิมพ์เดียวกัน คำพูดของคนตรงหน้ามีนัยยะใดแอบแฝงหรือเปล่านะ“ขอโทษนะคะที่ฉันพูดตรงไปหน่อย แต่จริงๆ ฉันอยากบอกว่าหนูทับทิมหน้าเหมือนคุณมากกว่า ไม่ค่อยมีเค้าธิ
เมลดากัดฟันแน่น เมื่อเห็นอดีตคนที่เธอเคยทิ้งไปอย่างไม่ไยดีคอยเอาใจผู้หญิงหน้าตาบ้านๆ คนนั้นอย่างหวานชื่น ทั้งที่ยัยนั่นไม่มีอะไรคู่ควรกับเขาสักอย่าง คนที่ไม่อาจเทียบกับเมลดานางแบบสาวสวยไฮโซคนนี้แม้ปลายเล็บด้วยซ้ำคิดไปแล้วก็แสนจะเจ็บใจ ค่าที่วันนั้นเธอไม่น่าใจเร็วด่วนได้หลงไปกับเปลือกนอกจอมปลอมของสามีไฮโซคนปัจจุบันอ้อ! ไม่ใช่สิ เขาคนนั้นกำลังจะกลายเป็นอดีตสามีต่างหาก ในเมื่อเธอกำลังจะฟ้องหย่าเร็วๆ นี้แล้วดวงตาสวยเฉี่ยวมองไปที่ใบหน้าหล่อเหลาของอดีตแฟนเก่า ธิเบศในวันนี้หล่อเหลาและมีออร่าจับ ต่างจากธิเบศคนเก่าที่เธอทิ้งไปอย่างไม่ลังเลในวันนั้น ก็ใครจะรู้เล่าว่าเขาจะกลายเป็นพระเอกซุปเปอร์สตาร์เหมือนอย่างวันนี้ เพราะถ้ารู้คนที่นั่งตรงหน้าเขาต้องเป็นเธอไม่ใช่ผู้หญิงกระจอกๆ คนนั้นยิ่งเห็นเขาเอาอกเอาใจภรรยา ดูเหมือนว่าเขาจะรักเธอคนนั้นมากเท่าไหร่ หัวใจเธอก็ยิ่งร้อนรนราวกับไฟเผาผลาญ นึกอยากย้อนวันเวลากลับไปในวันที่เคยรักกันอีกครั้ง เธอยังจำได้ว่าธิเบศทั้งรักและเอาอกเอาใจเธอมากแค่ไหน ความเร่าร้อนของเขาทำให้เธอติดใจไม่หาย แม้สามีคนปัจจุบันก็ยังไม่ทำให้เธอพอใจเท่า
“กุ้งผัดกระเทียมพริกไทยดำนี่อร่อยดี เดี๋ยวผมแกะให้นะ” ธิเบศ เอ่ยหน้าตาเฉย พลางแกะกุ้งตัวโตในจานตนก่อนตักให้เธอราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้นโอ๊ย...อีพี่ธิมเวอร์ชั่นเลือดเย็น!!!นี่เธอควรดีใจหรือสงสารผู้หญิงคนนั้นดีล่ะเนี่ย“ทำแบบนั้นกับเธอจะดีเหรอคะ”“หรือคุณอยากให้ผมบอกเบอร์ตัวเองล่ะ” คนถูกถามชะงักไป“ถ้าคุณอยากบอก แจนจะไปห้ามอะไรได้”“ได้สิ แต่คุณไม่ต้องห่วงหรอก ผมรู้ดีว่าอะไรควรทำ อะไรไม่ควรทำ ผมไม่อยากให้เราต้องมีปัญหากันทีหลัง” คนฟังชะงักไป พลางคิดตามมันก็จริงแฮะ เธอเคยเห็นในละครบ่อยๆ ฉากที่นางร้ายพยายามเข้ามายุแหย่ทำให้พระเอกกับนางเอกเข้าใจผิด แล้วส่วนใหญ่มันก็สำเร็จสมใจนางร้าย 99% เสียด้วย ใครจะไปนึกว่าเธอต้องมาเจอเหตุการณ์แบบในละครน้ำเน่าพวกนั้น ยังดีที่ไม่ต้องมีฉากลุกขึ้นตบธิเบศถอนหายใจเบาๆ พลางยื่นมือมากุมมือภรรยาสาวไว้“ผมชอบอยู่กับปัจจุบันมากกว่าอดีตนะ อะไรที่ผ่านมาแล้วน่าจดจำก็จำ แต่ถ้ามันไม่น่าจำ ผมก็ไม่อยากเก็บไว้ให้รกสมอง”“แ
“นี่คุณแจน ภรรยาของผม แจนครับ นี่คือคุณเมลดา เขาเป็น ‘อดีตคนเคยรู้จัก’...” เมลดาชะงักกึก“แค่คนรู้จักเท่านั้นเองหรือคะ แต่เท่าที่เมจำได้ตอนนั้นเรารักกันมาก มากเสียจนคุณเคยบอกว่าอยากแต่งงานกับเมด้วยซ้ำนะคะ”จารุพัชรถึงกับสะอึก อึ้งไปชั่วขณะ พอหันไปมองสามีก็เห็นสีหน้านิ่ง แต่แววตาดุขึ้ง ดูท่าเรื่องที่ว่าคงมีมูลอยู่มากทีเดียว“เมยังไม่เคยลืมช่วงเวลาที่เราอยู่ด้วยกัน เมคิดถึงธิมมากเลยนะคะ”หืม...คิดจะเปิดเกมส์บุกกันแบบนี้เลยเหรอแม่คุณ“ยินดีที่ได้รู้จักนะคะคุณเมลดา” จารุพัชรส่งยิ้มให้ ราวกับไม่ถือสา แต่ตามองคนตรงหน้าอย่างประเมินผลเงียบๆผู้หญิงที่ยืนอยู่ตรงหน้าทั้งสวยทั้งรูปร่างดีราวกับดารานางแบบ การแต่งกาย หรือบุคลิกภาพก็ไม่ได้ต่ำทรามอะไร ดูไปแล้วก็เหมาะสมกับธิเบศไม่น้อย ยกเว้นก็แต่แววตาของเจ้าหล่อนที่เผยความปรารถนาออกมาชัดเจนโจ่งแจ้งไปหน่อย แต่ทุกอย่างไม่สำคัญสิ่งที่สำคัญที่สุดคือคนข้างกายเธอต่างหากที่คิดอย่างไร ยังอาวรณ์กับอดีต หรือไม่คิดอะไรด้วยแล้ว นี่ต่างหากที่สำคัญ และเท่
“ความแน่นอนคือความไม่แน่นอน อย่าไปยึดติดอะไรมากเลยค่ะ นั่นลูกหลับแล้ว” ธิเบศหันไปมองเจ้าตัวน้อยที่เอียงคอซบไหล่พ่อหลับปุ๋ยไปตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้“ถ้าถึงวันนั้น วันที่ผมไม่ได้เป็นดาราชื่อดัง ไม่ใช่ธิม-ธิเบศที่ใครๆ ก็ชื่นชอบ แต่กลายเป็นนายธิเบศผู้ชายธรรมดา คุณจะว่าไง”“จะไปว่าอะไร ก็แค่หาสามีใหม่สิคะ” คำนั้นทำให้ชายหนุ่มหันขวับ“ว่าไงนะ”“ฮ่าๆ ฉันล้อเล่นค่ะ ดูคุณทำหน้าเข้าสิ” จารุพัชรหัวเราะคิก ก่อนที่จะหันไปมองสบตาเขา“คุณจะเป็นดาราดัง หรือเป็นคนธรรมดาแล้วไง ตราบใดที่คุณเป็นพ่อของลูกและเป็นสามีที่ดีของแจนแบบนี้ ก็พอแล้วนี่คะ”“ไดอะล็อกนี้คุ้นๆ จัง แต่ผมชอบแฮะ”“แจนก็แค่ผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่ง ไม่ได้ต้องการอะไรมากมาย ขอแค่มีคุณกับลูก แจนก็มีความสุขแล้ว” หญิงสาวเงยหน้าสบตาเขาอย่างจริงใจ ก่อนที่จะเผยอริมฝีปากรับจุมพิตแสนหวานของสามีที่โน้มลงมาทาบทับอย่างนุ่มนวลชวนฝันสองหนุ่มสาวและลูกน้อยโอบกอดกันท่ามกลางบรรยากาศยามเย็นที่ตะวันใกล้ลับขอบ
“ไงธิม...ที่พักโอเคไหม”เสียงทักทายมาตามสายของผู้จัดการคู่ใจทำให้พระเอกหนุ่มที่กำลังทอดสายตามองไปที่ชายหาดซึ่งมีร่างเพรียวบางนั่งอยู่บนผืนทรายสีขาวละเอียดราวกับแป้ง ข้างกายมีลูกสาวตัวน้อยนั่งจุมปุ๊ก ทั้งสองกำลังเล่นของเล่นกันอย่างสนุกสนาน เสียงหัวเราะใสๆ คลอกับเสียงคลื่นทะเลทำให้เขาพลอยเพลิดเพลินไปด้วย“ธิม...ฟังพี่อยู่หรือเปล่า”“ครับ ฟังอยู่ครับ”“แล้วเรื่องละครเรื่องใหม่ที่พี่ส่งไปธิมจะว่ายังไงรับหรือเปล่า บทพระเอกพ่อลูกอ่อนน่ะ”ธิเบศยิ้มกับตัวเอง เมื่อได้ยินคำนั้น“ถ้าพี่บีอ่านแล้วโอเค ก็ตอบรับไปได้เลยครับ อ้อ! แจ้งทางกองไปด้วยว่า...”“ไม่จูบจริงทุกกรณี เลิฟซีนต้องไม่ถึงเนื้อถึงตัวมาก” ศุภกรดักคอพระเอกในสังกัดอย่างรู้แกว เพราะหลังๆ ชายหนุ่มค่อนข้างเคร่งเรื่องนี้มาก จะบทไหนเขาก็ไม่เกี่ยงทั้งนั้น หากตกลง เขาก็รับเล่น“เท่านี้ใช่ไหมครับ”“เดี๋ยวๆ จะรีบไปไหนกัน พี่ยังพูดไม่จบ มีอีกงานเพิ่งเข้ามาวันนี้ เป็นงานถ่ายโฆษณาสินค้าพวกสเปรย์