บทที่ 43“ผมว่า เรากินอาหารกันดีกว่าครับ กินไปคุยกันไป มีหลายเรื่องที่ผมอยากรู้ครับ”ทั้งสามเริ่มลงมือกินอาหารแบบจริงจัง ขณะกินธรรม์บดีได้สอบถามเรื่องความชอบของกุลธิรัตน์ เพราะเขาตั้งใจทำบางอย่างให้ภรรยาธรรม์บดีคิดไม่ผิดที่นัดพัชรินทร์กับมิ่งเมืองมานั่งพูดคุย ทั้งสองทำให้เขาพบกับความจริงอีกมุมหนึ่งของกุลธิรัตน์ ซึ่งไม่น่าจดจำและควรบอกกล่าวเล่าเรื่องให้ใครรู้ เมื่อความรู้สึกธรรม์บดีที่มีต่อกุลธิรัตน์เปลี่ยนไป อย่าหวังว่าใครคิดร้ายกับหล่อนได้ เขาจะเป็นอัศวินคอยปกป้องพิษภัยให้กุลธิรัตน์เองเมียข้าใครอย่าแตะ...อีกคนตั้งใจคุ้มครอง แต่อีกคนมีแผนคิดร้ายหมายถึงชีวิต บ้านไม้สองชั้นย่านนครปฐมคือจุดหมายของอนงค์ นางนำรถมาจอดหน้าประตูรั้วไม้ ก่อนก้าวลงจากรถแล้วเดินเข้าไปในบ้านบ้านหลังนี้อยู่กันสามคนคือ คงหัวหน้าครอบครัว นภาภรรยาคงและน้อยหน่า ลูกสาววัยสิบเก้าปีของทั้งคู่ วันนี้คงอยู่กับนภาสองคน ส่วนน้อยหน้าไปทำงานพิเศษในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง“เรื่องที่คุยกันเมื่อคืน ได้เรื่องหรือยัง” อนงค์ถามน้องชาย หลังจากนั่งบนเก้าอี้หวาย“แน่ใจเหรอว่าจะเอาให้ถึงตาย” คงถามย้ำ ราวกับให้มั่นใจว่า พี่สาวยังคงคว
บทที่ 44“แกจะกลัวทำไม ฉันสั่งให้คงไปฆ่ามันอยู่นี่ไง ถ้ามันตาย ความลับก็ยังคงเป็นความลับต่อไป แล้วไม่ต้องทำเป็นกระต่ายตื่นตูมล่ะ เงียบๆ ไว้เหมือนเมื่อก่อน เดี๋ยวเรื่องมันก็ตายไปพร้อมกับมันแล้ว” อนงค์ตอบนภา ส่งสายตาแข็งกร้าวไปที่ผู้สมรู้ร่วมคิดที่ทำหน้าตื่นกลัว “เข้าใจไหม”“เข้าใจจ้ะพี่นงค์” นภารับคำนึกย้อนไปเมื่อยี่สิบเก้าปีก่อน ตอนนั้นหล่อนทำงานในโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง ตำแหน่งเป็นผู้ช่วยพยาบาลแผนกทารกแรกเกิด หน้าที่นภาคือ ดูแลทารกในห้องนั้น หล่อนจึงเดินเข้าเดินออกห้องทารกแรกเกิดได้โดยไม่มีใครสงสัย และไม่มีกล้องวงจรปิด เนื่องจากแผนกที่ตนทำงานอยู่ ย้ายมาจากอีกโซนหนึ่งของโรงพยาบาล การติดตั้งวงจรปิดยังไม่แล้วเสร็จ และนั่นทำให้เกิดช่องโหว่ในการทำเรื่องผิดวินัยในวิชาชีพเป็นที่รู้ว่า ลัดดามีความกังวลเรื่องหลานคนแรกมาก ตามคำทำนายของหมอดู ให้อัลตร้าซาวน์ดูเพศหลายครั้งแต่ก็ไม่เห็นเพศ หากเป็นชายก็ดีไป หากเป็นหญิงนั่นหมายถึงตัวกาลกินีอนงค์กังวลเรื่องนี้มาก นางอุ้มท้องลูกย่อมมีความรักความผูกพัน นางทำในเรื่องที่ไม่เคยบอกใครคือ แอบไปให้หมอตรวจดูเพศลูกในท้อง จนรู้ว่าเป็นผู้หญิง เมื่อรู้อนงค์ถึงก
บทที่ 45“ขอบใจนายสองคนมากนะที่มาเป็นพยานให้ฉันกับลูกหมี” ธรรม์บดียิ้มให้เพื่อน “สักวันเสาร์ ฉันจะเลี้ยงเหล้านายสองคนนะ”“ก่อนจะถึงวันเสาร์ วันนี้ฉันจัดงานปาร์ตี้ที่บ้าน นายจะไปหรือเปล่า” ตอนแรกมั่นใจว่า ธรรม์บดีไม่พลาดงานนี้ ทว่าตอนนี้ชักไม่แน่ใจ เพราะอีกฝ่ายเปรียบเสมือนข้าวใหม่ปลามัน อาจไม่อยากมางานนี้“ไปสิ นัดกันไว้แล้วนี่ แต่อาจพาลูกหมีไปด้วยนะ นายโอเคไหม” ธรรม์บดีตอบทันที “ฉันจะได้แนะนำให้ลูกหมีรู้จักเพื่อนๆ ของฉันด้วย”“ไม่มีปัญหา งานนี้ใครอยากชวนแฟน ชวนเมีย ชวนผัว ชวนกิ๊กมาด้วย ได้ทั้งหมด ขอแค่มาสังสรรค์ก็พอ” ดิสพงษ์ไม่ขัดข้อง“โอเค งั้นเจอกันที่งานนะ” ดิสพงษ์บอกเพื่อนรัก“ฉันกับโฟร์คไปก่อนนะ เจอกันเย็นนี้เพื่อน”นรภัทรกับดิสพงษ์เดินไปยังรถยนต์ของตน ธรรม์บดีหันมายิ้มให้ภรรยา กุมมือหล่อนไว้ พากันเดินไปขึ้นยานพาหนะคันหรู ที่จะนำพาทั้งคู่ไปยังวัดแห่งหนึ่งเพื่อทำบุญ เป็นสิริมงคลต่อการเริ่มต้นชีวิตคู่ของพวกเขาทั้งสอง ชนินทร์ไม่ใช่คนสายบุญ ไม่เคยคิดอยากจะทำบุญเลยสักครั้ง เรียกได้ว่าห่างไกลวัดเลยก็ว่าได้ แต่ที่ต้องมาวัดเพราะมีเรื่องสำคัญคุยกับลุงฉ่ำ มัคนายกวัด เรื่องที่ชนิน
บทที่ 46 ธรรม์บดีพากุลธิรัตน์มาวัดที่เดือนดาวมาบ่อยๆ จึงคุ้นเคยกับที่นี่ หลังจากพากุลธิรัตน์ไปไหว้พระ เขาพาหล่อนไปทำสังฆทานกับหลวงตา ตลอดเวลาที่ทำบุญ กุลธิรัตน์ไม่ต้องทำอะไรเลย นอกจากพนมมือไหว้พระ ธรรม์บดีจัดการให้หล่อนทุกอย่างเริ่มตั้งแต่ลงจากรถ ความที่วันนี้แสงแดดคล้ายคนโกรธใครมาเป็นร้อยปี ส่องแสงเจิดจ้ามาก ธรรม์บดีนำร่มที่ติดรถไว้มากางให้กุลธิรัตน์ หล่อนหมายกางเอง ทว่าธรรม์บดีไม่ยอม กุลธิรัตน์จะว่าอะไรได้ ได้แต่กล่าวขอบคุณ ส่งยิ้มหวาน เขาไม่ได้ทำเพียงแค่นี้ ชายหนุ่มไปเอาดอกไม้ธูปเทียนให้ จุดธูปเทียนให้เสร็จสรรพ จากนั้นจึงไปไหว้หลวงตา“รอฉันแปปนะ ฉันเข้าห้องน้ำก่อน” ธรรม์บดีบอกภรรยา ที่พยักหน้ารับรู้ “ไปนั่งตรงนั้นดีกว่า จะได้ไม่ร้อน”ธรรม์บดีกางร่มให้กุลธิรัตน์เดินไปนั่งใต้ต้นหูกวางต้นใหญ่ ที่มีม้าหินสองตัวไว้นั่ง เมื่อภรรยานั่งเรียบร้อย เขาจึงก้าวเดินเข้าห้องน้ำ ขณะกุลธิรัตน์นั่งรอธรรม์บดี ชายหนุ่มคนหนึ่งที่ไม่ได้เจอหน้ากันหลายเดือน เดินออกจากห้องน้ำ มาทางที่กุลธิรัตน์นั่งอยู่ ส่งผลให้ทั้งคู่เจอกัน“ลูกหมี” ชนินทร์ที่เห็นพี่สาวก่อน ส่งเสียทัก กุลธิรัตน์ทำหน้าแปลกใจที่เห
บทที่ 47 ศูนย์ขายมือถือยี่ห้อดังคือเป้าหมายแรกหลังจากกินอาหารเสร็จ กุลธิรัตน์ไม่ได้คิดว่า เขาซื้อโทรศัพท์ให้ตน พอรู้ก็ปฏิเสธตามเคย เพราะราคาแต่ละเครื่อง แพงหลักหมื่น ราคาห้าพันสำหรับกุลธิรัตน์ก็ถือว่าแพงมากแล้ว “ไปดูร้านอื่นดีกว่าค่ะ แต่ละเครื่องแพงๆ ทั้งนั้นเลย ลูกหมีไม่เคยใช้ของแพงค่ะ” “ไม่เคยใช้ก็ลองใช้สิ ราคาไม่แพงด้วย” กุลธิรัตน์มองหน้าคนพูดว่า ราคามือถือเกือบสี่หมื่นเจ็ดคือไม่แพง สำหรับธรรม์บดีอาจมองว่าราคาจับต้องได้ แต่สำหรับกุลธิรัตน์ มันคือของใช้ฟุ่มเฟือยที่ราคาสูงเกินเอื้อม “แต่ว่า...” หล่อนไม่ทันอ้าปากค้าง คนอยากซื้อชิงพูดกับพนักงาน ราวกับว่าไม่สนใจเสียงค้าน “รุ่นนี้มีกี่สีครับ” “รุ่นนี้มีสี่สีค่ะ ตอนนี้ที่ร้านเหลือสีดำสีเดียวค่ะ” พนักงานตอบ “งั้นจัดมาเลยครับ” “ค่ะ รอสักครู่ค่ะ” “คุณอิฐคะ มันแพงไปค่ะ ลูกหมีไม่เคยใช้ของแพง ไม่เคยใช้ยี่ห้อนี้ด้วย ลูกหมีกลัวใช้ไม่คุ้ม เอายี่ห้ออื่นดีกว่าค่ะ แค่ห้าหกพันก็พอค่ะ” กุลธิรัตน์พยายามรั้งความตั้งใจเขา “ก็อย่างที่ฉันบอกไงว่า ไม่เคยใช้ก็
บทที่ 48“หายแล้วค่ะ” อนงค์ตอบ ก่อนแจงเพื่อไม่ให้แม่สามีสงสัย “เมื่อวานตอนเย็น นงค์โทรไปคุยกับคุณนิ่มเรื่องงานของสมาคมค่ะ นงค์เลยถือโอกาสถามค่ะ”“ฉันมีความคิดแปลกๆ นะนงค์”“ยังไงคะคุณแม่” ลูกสะใภ้ถามกลับ“ฉันรู้สึกแปลกๆ กับนังเมญ่าน่ะสิ เกลียดลูกหมีว่ามากแล้ว ทำไมไม่รู้ถึงได้เกลียดนังเมญ่ามากกว่าลูกหมีก็ไม่รู้ ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน” อนงค์ชะงักกับคำพูดลัดดา มองหน้าแม่สามีด้วยประกายตาไม่พอใจ แต่ก็ต้องเก็บซ่อนความรู้สึกไว้เต็มกำลัง“ทำไมคุณแม่รู้สึกอย่างนี้ค่ะ คุณแม่ไม่เคยเจอหนูเมญ่า เลยไม่รู้ว่า ตัวจริงหนูเมญ่าน่ารักมากเลยนะคะ สวยน่ารัก พูดจาก็เพราะค่ะ” อนงค์พูดให้ลัดดาเข้าใจใหม่“ทำไมฉันจะไม่เคยเจอ ฉันเคยเจอย่ะ แถมยังเจอฤทธิ์เดชมันด้วย ไม่น่าเชื่อเลยนะว่า เป็นลูกคุณนิ่ม แต่ทำไมกิริยามารยาทถึงเหมือนคนไม่มีสกุล ไม่ได้ถูกอบรมสั่งสอน เอ...หรือว่าคุณนิ่มจะไม่เคยสั่งสอนลูกก็ไม่รู้” ลัดดานึกถึงเก็จมณีก็เบ้หน้า “มารยาทต่ำ”“เคยเจอที่ไหนคะคุณแม่ คุณแม่จำผิดคนหรือเปล่าคะ”“ตอนแรกก็แค่คุ้นๆ หน้า จำไม่ได้ว่าเคยเจอที่ไหน มานึกได้ก็ตอนอยู่ในงาน เพราะเธอเคยเอารูปให้ฉันดู นิสัยเลวสวนทางกับหน้าตา” ย
บทที่ 49วันนี้เช่นเคยที่ธรรม์บดีไปส่งกุลธิรัตน์ที่บ้านกรกนก หล่อนแต่งกายด้วยชุดที่สามีซื้อให้ นอกจากเสื้อผ้า ยังมีกระเป๋าใบใหม่ราคาเฉียดแสน รองเท้าก็ราคาไม่เบาแค่สามหมื่นห้า มือถือราคาเกือบครึ่งแสน ธรรม์บดีขนแบรนด์เนมใส่ตัวภรรยา ไม่ให้น้อยหน้าใคร พูดถึงเรื่องไม่น้อยหน้าใคร เมื่อวานช่วงค่ำ ในงานปาร์ตี้ที่ดิสพงศ์จัดขึ้นที่บ้าน เหล่าเพื่อนทั้งหลายต่างพากันแปลกใจที่ธรรม์บดีแนะนำตัวกุลธิรัตน์ ให้เพื่อนรู้จักในฐานะภรรยา เรียกเสียงแซวจากเพื่อนได้เป็นอย่างดี แต่ธรรม์บดีไม่สนใจกลับยืดอกรับเต็มปากว่า ตนเองมีเจ้าของแล้ว การทำงานของกุลธิรัตน์เป็นไปตามปกติ อุ้มที่เหลือวันทำงานอีกสองวัน สอนงานกุลธิรัตน์เช่นเคย ซึ่งกุลธิรัตน์เป็นคนสอนง่าย เข้าใจอะไรง่าย อุ้มเชื่อว่ากุลธิรัตน์ต้องทำงานได้ดี นอกจากเรื่องงาน กุลธิรัตน์เอาใจใส่กรกนก ทำของว่างให้กิน มื้อกลางวันก็ทำอาหารให้ โดยวันนี้หล่อนทำราดหน้าทะเล ส่วนของหวานคือ สัปปะรดลอยแก้ว กุลธิรัตน์ไม่ได้ทำให้แค่กรกนกกินเพียงคนเดียว ยังเผื่อชนิตพรและเก็จมณีที่อยู่บ้านด้วย เก็จมณีลงมาจากชั้นบนในเวลาเกือบเที่ยง ซึ่งเป็นเวลาปกติตามประส
บทที่ 50 ธรรม์บดีตั้งใจว่า เสร็จจากธุระสำคัญที่มีพัชรินทร์กับมิ่งเมืองคอยช่วยเหลือ จะกลับไปทำงานเพราะช่วงบ่ายสองโมงมีประชุม แต่ก็ต้องเปลี่ยนความคิด เมื่อรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับกุลธิรัตน์ เขารีบบึ่งรถไปบ้านกรกนกด้วยความร้อนใจ ระคนไม่พอใจ ช่วงสิบโมงครึ่งธรรม์บดีมีนัดกับพัชรินทร์กับมิ่งเมือง ที่วางแผนให้ทั้งคู่พาพุ่มพวง คนรับใช้ในบ้านลัดดามาหาตนที่ทำงาน ทว่าระยะทางจากบ้านลัดดาไปบริษัทธรรม์บดีไกลกันมาก หากพุ่มพวงที่อ้างว่าไปตลาดหายไปนานกว่าปกติ เจ้านายอาจสงสัยได้ ธรรม์บดีจึงเปลี่ยนสถานที่นัดหมาย เป็นร้านกาแฟแถวตลาด พูดคุยกันเสร็จ พุ่มพวงจะได้จ่ายตลาดต่อเลย เหตุผลของการนัดหมายพุ่มพวงครั้งนี้ ธรรม์บดีอยากรู้รายละเอียดเชิงลึกที่มิ่งเมืองกับพชัรินทร์ไม่รู้ คนที่บอกเล่าได้ดีที่สุดคือ คนในบ้านลัดดา จะเป็นใครไม่ได้เลยนอกจากสาวใช้ในบ้าน พุ่มพวงให้ความร่วมมืออย่างดี เพราะใจหนึ่งสงสาร เห็นใจกุลธิรัตน์มาโดยตลอด แต่หล่อนเป็นเพียงสาวใช้ ช่วยเหลือกุลธิรัตน์มากไม่ได้ เรื่องราวจากปากพุ่มพวง ตอกย้ำให้ธรรม์บดีรู้ว่า ความรุนแรงในครอบครัว เกิดขึ้นได้กับคนทุกชนชั้น กุลธิร
บทที่ 86 “น้าคงจำผมได้ใช่ไหมครับ เจ้าของเงินห้าแสนที่ให้น้าแก้กรรมให้เมียผมเมื่อสิบวันก่อน” ธรรม์บดีถามหลังจากทรุดตัวนั่งบนโซฟา “ค่ะ จำได้ค่ะ” เสียงตอบค่อนข้างสั่น หัวใจเต้นแรง “ไหนล่ะครับ หลักฐานว่าน้าแก้กรรมให้แล้ว ตั้งแต่จ่ายเงินไป ผมไม่ได้รับการติดต่อจากน้าเลย” ธรรม์บดีทวง สมใจแม้ว่าใจหวาดหวั่น แต่นางตั้งสติได้ เปิดคลิปที่บันทึกไว้ให้ธรรม์บดีดู “นี่ไงคะ น้าว่าจะส่งให้ดูก็ลืมทุกที” สมใจทำสีหน้าปกติ “คลิปนี้หรือครับ ที่น้าทำพิธีให้เมียผม” ธรรม์บดีถามย้ำ “แน่ใจนะครับว่าเป็นพิธีแก้กรรมให้เมียผม” “ใช่ค่ะ คลิปนี้แหละค่ะ” สมใจตอบไม่ติดขัด ครั้งนี้สมใจใจไม่สู้ดีนัก นางต้มตุ๋นคนมาเยอะ ไม่เคยถูกจับได้เลยสักครั้ง แม้บางหนจะคล้ายถูกจับผิดได้ แต่ก็ผ่านช่วงนั้นมาได้ ทว่าเวลานี้ นางใจเต้นระส่ำมาก กลัว กังวลอย่างบอกไม่ถูก “เอ...ผมว่าคลิปนี้ผมเคยเห็นนะครับ” ธรรม์บดีพูด ขณะหยิบมือถือตนขึ้นมาเปิดคลิป ก่อนหันหน้าจอมมือถือให้สมใจดู “นี่ไงครับ พิธีกรรมเหมือนกันเลย เป็นแบบนี้แล้ว คลิปที่น้าให้ผมดู จะใช้พิธีกรรมที่น้าทำให้เมียผมจริงหรื
บทที่ 85 “พี่อิฐ...อา...พี่อิฐ” เขาเร่งเร้าอารมณ์กุลธิรัตน์เก่งมาก จุดเชื่อมต่อขยับเข้าออกเนิบช้า บางจังหวะมีเผลอกระแทกแรงๆ แต่เพียงไม่กี่ครั้ง มือใหญ่ทำงานอยู่สองจุดคือ หนึ่งนวดเฟ้นทรวงอกสล้างทั้งสองข้าง หมนุยอดถันบ้างบางเวลา จุดที่สองคือ เนินสวาทเต็มมือ เขาวางนิ้วลงบนเม็ดกระสัน สะกิดบ้าง บดบี้บ้าง ทำงานควบคู่กับเอวใหญ่กระชั้นกายแกร่งเข้าสู่คูหาสวรรค์ “พี่อิฐ พี่อิฐ”“ลูกหมี...ที่รัก...อา” ความสุขสมของกุลธิรัตน์ โอบรัดลำทวนใหญ่จนเขาเสียวไปทั่วตัว เร่งจังหวะมากขึ้นอีกหน่อย เพื่อให้ตนทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้า “ที่รัก...ที่รักของพี่”ธรรม์บดีหยุดแช่นิ่งตัวตนในจังหวะสุดท้าย กอดร่างอวบอิ่มไว้แน่น จูบหัวไหล่หล่อนเบาๆ หลังจากดึงกายชายออกจากตัว เขาอุ้มร่างคนท้องเข้าห้องน้ำ เพื่ออาบน้ำให้หล่อนสดชื่น เวลานอนจะได้หลับสบาย แล้วเสร็จก็พาภรรยามานอนที่เตียง“พี่รักลูกหมีนะครับ” เช่นทุกคืนก่อนนอน ที่เขาเอ่ยคำนี้ ก้มหน้าจูบหน้าผากกุลธิรัตน์“ลูกหมีรักพี่อิฐค่ะ” ผลัดกันบอกรัก เติมความหวานให้กันและกัน ธรรม์บดียิ้ม เอนตัวนอนข้างหล่อน โอบกอดภรรยาที่รักสุดหัวใจ และไม่มีวันให้ใครทำร้ายหล่อนได้แม้แต่ปลายก้อย หาก
บทที่ 84 “วันนี้ลูกหมีคงตกใจน่าดู พี่จูบปลอบขวัญละกันนะครับ”ธรรม์บดีรั้งร่างอวบเข้ามากอด เขาบรรจงแนบปากลงบนกลีบปากนุ่มละมุน ตรึงใจเขาเรื่อยมาแม้ว่าผ่านมาหลายปี กุลธิรัตน์เป็นสตรีคนเดียวในโลกที่ธรรม์บดีปรารถนา และวางหัวใจให้ จุมพิตครั้งนี้ไม่ต่างกับครั้งก่อน ยังคงอ่อนหวาน อ่อนโยนและเรียกร้องไปในที เปรียบเสมือนเป็นจุดเริ่มต้นของบทเพลงรัก ที่เขากำลังป้อนให้ภรรยา อายุครรภ์หกเดือนไม่ใช่ปัญหา ธรรม์บดีรู้ดีว่า ตนต้องทำอย่างไร ให้เขาและภรรยามีความสุข ในขณะเดียวกันก็ทะนุถนอมลูกน้อยในครรภ์ หลังจากจุมพิตปากหวานสะท้านใจจนพอใจ เขาละห่างเพื่อจัดการชุดนอนของกุลธิรัตน์ให้พ้นตัว เมื่อหล่อนอยู่ในสภาพไร้ซึ่งอาภรณ์ เขาวางมือลงบนท้องนูน ลูบแผ่วเบา คล้ายทักทายคนสำคัญในนั้น ร่างอวบอิ่มถูกดันให้นอนราบบนที่นอน ธรรม์บดีเอนตัวเกยก่าย มือใหญ่วางลงบนดอกบัวสล้าง ที่ใหญ่กว่าปกติเล็กน้อย บีบเบาๆ เคล้นหนักมือพอประมาณ “พี่รักลูกหมีที่สุดในโลก” ธรรม์บดีเอ่ยคำหวาน จุมพิตปากสาวอีกรอบ ไม่นานนักเขาเปลี่ยนเป้าหมายไปยังแก้มนวล แวะเวียนหอมหลายฟอด ปลุกความซ่านสยิวให้สาวเจ้าตรง
บทที่ 83 “น้าดูดวงให้ใครมาเยอะค่ะ แล้วทุกคนก็เชื่อตามที่น้าแนะนำ แต่ก็มีบ้างค่ะที่ไม่เชื่อ คนเชื่อและทำตามก็ดีไป แก้กรรมได้ทัน บางคนไม่เชื่อ ไม่ทำตามที่น้าบอก เลยเกิดเรื่องไม่ดี อย่างคนนึงค่ะ น้าบอกว่าหลานที่เกิดมาถ้าเป็นผู้ชายจะดี แต่ถ้าเป็นหญิงไม่ดี เธอกลับไม่เชื่อน้าค่ะ สุดท้ายก็ได้หลานผู้หญิง ครอบครัวเลยวิบัติ ถ้าเชื่อน่าแล้วทำตามล่ะก็ คงไม่เป็นแบบนี้” สมใจพูดโอ้อวดกุลธิรัตน์หน้าเสียขึ้นมาทันใด มีความตกใจเข้าแทรก เพราะเรื่องราวคล้ายกับลัดดา ที่เชื่อหมอดูมากเหลือเกิน หล่อนจับมือสามีไว้แน่น ซึ่งธรรม์บดีรับรู้ได้ว่า ภรรยารู้สึกเช่นไร เดือนดาว มณี กรกนกทำหน้าเหมือนมีอะไรติดในใจ กับเรื่องราวคุ้นๆ “แล้วโหงวเฮ้งเมียผมเป็นยังไงครับ มีอะไรร้ายแรงหรือเปล่าครับ” ธรรม์บดีถามราวกับว่าสนใจ เขาอยากรู้ว่า สมใจจะมาไม้ไหน “แล้วพอจะบอกผมได้ไหมครับว่า ชื่อของคนที่คุณบอกว่า ไม่เชื่อคำพูดคุณ แล้วครอบครัววิบัติ คือใคร” “ได้สิคะ ยกตัวอย่างคนนี้ค่ะ ชื่อลัดดา น้าบอกเธอว่า ถ้าหลานเกิดมาเป็นผู้หญิงจะไม่ดี แต่เธอไม่เชื่อค่ะ ให้หลานสาวเกิดมาจนได้ ก็เลยเกิดเรื่องไม่ดี” สมใจได้รับเ
บทที่ 82 วันหยุดยาวหลายวัน สองครอบครัวมีทริปเที่ยวทะเล ตามที่ธวัฒน์ชลอยากมา สถานที่ที่ทั้งหมดเลือกคือ ทะเลแถวจังหวัดตรัง บ้านพักริมทะเลของญาติกรกนกคือบ้านพักของพวกเขา ครั้งนี้มากันครบองค์ประชุม นอกจากเหตุผลตามใจธวัฒน์ชล อีกเหตุผลหนึ่งคือ ธรรม์บดีมาติดต่อซื้อบ้านพักที่อยู่ห่างไปสี่ร้อยเมตร เจ้าของประสบปัญหาทางการเงิน จึงขายในราคาต่ำกว่าราคาประเมิน เมื่อฐากูรรู้เรื่องจึงนำมาบอกธรรม์บดี เขาสนใจเพราะคิดว่า ต่อยอดได้ ผ่านมาสี่ปีความพยายามฐากูรในการผลิตทายาทไม่เป็นผล ทั้งวิธีธรรมชาติและพึ่งวิวัฒนาการทางการแพทย์ ทั้งสองจึงไม่รีบเร่ง คิดในแง่บวกคือ หากมีบุญวาสนาต่อกัน ทายาททั้งคู่คงมาเอง การไม่รีบร้อน ปล่อยไปตามบุญพาวาสนา ทั้งคู่ตกลงกันว่า สุดท้ายไม่มีลูกจริง ก็จะเลี้ยงหลานที่เกิดจากกุลธิรัตน์กับเก็จมณี เพราะถือว่า เป็นคนในครอบครัวทั้งสองเช่นกัน เอ่ยถึงเก็จมณี ความรักครั้งแรกของหล่อนพังทลาย เมื่อเขาคนนั้นคือน้องชายตนเอง เก็จมณีจึงกลบความรักของตนไว้ก้นบึงหัวใจ ไม่เปิดใจรับใครทั้งสิ้น แม้คนที่มาจีบ บางคนโปรไฟล์เลิศ หล่อ รวย ดูดีมีชาติตระกูล หล่อนขอรับชายเ
บทที่ 81บ้านหิรัญภักดีหลังเท่าเดิม เพิ่มเติมคือ สมาชิกในบ้าน และความสุขที่มากขึ้นทุกวัน คนที่สร้างความสุขใจให้ทุกคน เป็นใครไม่ได้นอกจากเด็กชายธวัฒน์ชลหรือน้องชอปเปอร์ วัยสี่ขวบ จุดศูนย์รวมแห่งความรัก สร้างความบันเทิงให้ทุกคนไม่น้อย ไม่เพียงแค่ครอบครัวหิรัญภักดีที่ได้รับความสุข ครอบครัวอนันตเสรีได้รับความสุขเช่นกัน โดยเฉพาะกรกนก นางมีความสุขนอกจากมีหลานชายไว้อุ้มชู เก็จมณีลูกสาวนอกสายเลือดที่นางรักไม่ต่างกับลูก เป็นคนดีขึ้นมากแบบหนึ่งล้านเปอร์เซ็นต์ จากเดิมที่ไม่คิดทำอะไร เวลานี้เป็นเจ้าของร้านสเต็กที่ได้รับความนิยมในเวลาเพียงแค่หกเดือน ชื่อร้านของเก็จมณี ไม่ได้เลิศหรู เป็นภาษาต่างประเทศที่หลายร้านมักใช้ หล่อนใช้ชื่อ ร้านสเต็กกรกนก เพราะคิดว่า มารดาคือสิ่งมงคลที่สุดสำหรับชีวิต เป็นแม่ที่สมบูรณ์แบบในทุกด้าน และเป็นแม่ที่ให้โอกาสลูกเสมอ โดยเฉพาะกับหล่อน ลูกที่นางไม่ควรได้รับโอกาสจากใคร นิสัยเก็จมณีเปลี่ยนไปเช่นกัน จากใช้ของฟุ่มเฟือย เก่งแต่ซื้อ แต่ไม่ค่อยใช้ เข้ากับคำพูดที่ว่า ของมันต้องมี โดยไม่สนใจเรื่องราคา เวลานี้เก็จมณีไม่ใช่นักช็อป หล่อนใช้ของที่มีอยู่สลับกันไป
บทที่ 80ข่าวคราวเรื่องอนงค์กับลัดดา ไม่ได้มีอิทธิพลต่อครอบครับกรกนกและกุลธิรัตน์ สองแม่ลูกคิดว่า มันคือข่าวสารปกติ ไม่ได้ยินดียินร้าย ให้ความสงสารหรือต้องไปเยี่ยมดูอาการ ลัดดายังมีชีวิตอยู่ แต่อยู่อย่างทุกข์ทรมานทั้งร่างกายและจิตใจ อภิรักษ์กับคีรยาไม่สนใจนาง รวมถึงลูกคนอื่นต่างหันหน้าหนี มีหรือญาติพี่น้องจะใส่ใจ เมินเฉยกันทุกคน สร้างความบอบช้ำทางใจให้นางไม่น้อย ร้องไห้แทบทุกวัน คนที่ดูแลลัดดาคือ ลูกจ้างที่อภิรักษ์จ้างมาแต่ก็ดูแลลัดดาไม่ดีเท่าที่ควร ปล่อยปะละเลย ให้นอนจมกองของขับถ่าย เป็นนานกว่าจะมาเปลี่ยนให้ แถมยังหยิกแขน ตีขาลัดดาบ่อยๆ จนเกิดรอยไปทั่ว อภิรักษ์เห็นก็ไม่ดุด่าว่ากล่าวลูกจ้าง ทำเป็นมองไม่เห็น หัวใจลัดดายิ่งร้าวรานมากขึ้นหลายเท่า อาการอัมพฤกษ์ขยับตัวไปไหนไม่ได้ ทำให้ลัดดามีเวลาคิดทบทวน เรื่องในอดีต ความเชื่อมั่นในคำทำนายของหมอดู คือชนวนแรก หากวันนั้นนางมีสตินึกคิด ไม่หลงเชื่อแบบปักใจ ให้ทุกสิ่งอย่างเป็นไปตามกำหนด หาใช่เพราะตัวนางชี้นำ เรื่องร้ายในครอบครัวคงไม่เกิดขึ้นใครกันแน่ที่เป็นตัวซวย เป็นตัวกาลกินีนำพาความวิบัติมาให้ ตอนนี้ลัดดารู้แล้วว่า คือใ
บทที่ 79 หกเดือนต่อมา ที่นอนหลังที่ใช้มานานเกือบห้าปี กำลังถูกทดสอบว่า ยังคงทำงานได้ดีหรือไม่ หรือว่าต้องเปลี่ยนใหม่เพื่อประสิทธิภาพดีกว่า การทดสอบของเขาและหล่อนคือ พลอดรัก ริมฝีปากสองหนุ่มสาวแนบชิด ต่างฝ่ายต่างมอบจูบเร่าร้อน คุกรุ่นด้วยไอเสน่หาเคลือบผิวกาย มือใหญ่กอบกุมอกอวบ เคล้นไม่แรงมาก ก่อนละห่างเรียวปากนุ่มละมุน มายังอวัยวะที่มือสัมผัส มอบความกระสันซ่านให้สาวสวยด้วยปากและลิ้น ประโลมเลียแผ่วเบา ทว่าเผ็ดร้อน ลิ้นตวัดบนเม็ดบัวเบาๆ ไรฟันขบกัดอย่างหยอกล้อ “พี่อิฐ...อา...พี่อิฐ” กุลธิรัตน์ครางจากความเสียวเล่นงาน ท้องไส้หล่อนปั่นป่วน เพลิงสวาทเริ่มสุมในร่างกายมากขึ้นทุกขณะ เขาเติมเชื้อไฟต่อเนื่อง มือเคลื่อนต่ำไปยังดอกไม้งาม จุดที่ทำให้ร่างสาวร้อนดังไฟนาบ วูบวาบจนหล่อนต้องปล่อยเสียรัญจวน ระบายความร้อนสุมทรวง “อา...พี่อิฐ...พี่อิฐ”นิ้วมือบดบี้เม็ดละมุดหนักมือ เนื้อตัวกุลธิรัตน์สั่นตามแรงกดเน้น ที่เพิ่มความแรง ก่อนเปลี่ยนเป็นระรัวนิ้ว หญิงสาวรู้สึกว่า กำลังถูกพายุปรารถนาเล่นงาน ก่อนพายุนั้นลูกจมดิ่งแทรกซ้อนลงไปในดอกผกา ปลุกเร้าทุกความสยิวซ่านในกายโหมกระพือ
บทที่ 78 ลัดดาร้องไห้กับสภาพตัวเอง คนที่เคยเดินได้ ไปไหนมาไหนตามใจ ต้องมานั่งนอนติดเตียง มีหรือจะไม่ทรมานใจ ราวกับว่าหัวใจถูกราดด้วยน้ำกรด แสบร้อน ย่อยยับ มาโบกทับด้วยความใจร้ายใจดำของลูกชายกับคีรยาที่ทำกับตนเช่นนี้ ไม่เห็นว่านางเป็นคนในครอบครัว ทิ้งขว้างไม่สนใจใยดี เสมือนฉีกหัวใจนางออกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย นางทำอะไรไม่ได้นอกจากร้องไห้ ร้องให้กับความเสียใจ เจ็บปวดทุกข์ทรมาน ห้องที่อยู่ตรงกันข้ามกับห้องลัดดา คือห้องของอนงค์ หลังจากงานศพชนินทร์ที่จัดอย่างเรียบง่าย มีแขกมาไม่มากนัก ด้วยสภาพร่างกายลัดดา อภิรักษ์ไม่ให้ไปร่วมงานด้วย อนงค์กลายเป็นคนละคน หัวเราะบ้าง ร้องไห้บ้าง บางครั้งนั่งเหม่อลอย กอดรูปภาพชนินทร์ พร่ำรำพันคำขอโทษ หอมรูปภาพในมือ แล้วร้องไห้ “อีนิ่ม เอาลูกกูคืนมานะ แล้วเอาลูกมึงไป เอาลูกกูคืนมา เมญ่าลูกแม่ ลูกแม่...ฮือ”จิตใจอนงค์ถวิลหาเก็จมณีไม่น้อย นางเอ่ยปากไม่หยุด โวยวายหาว่ากรกนกชิงเก็จมณีไป ด่าทอไม่ขาดปาก สลับกับร้องไห้ สภาพน่าสงสาร ทว่ากลับไม่มีใครเห็นใจสักคน ตกบ่าย ขณะลัดดากับอนงค์ไร้คนสนใจ รถบีเอ็มดับบลิวแล่นมาจอดหน้าป