ดวงหน้าและนัยน์ตาที่ฉายแววจริงจังจนทำให้น้ำรินรู้สึกยินดี และตื้นตันใจเป็นล้นพ้น เขาขอแต่งงานกับหล่อนถึงสองครั้งในค่ำคืนอันหนาวเหน็บนี้ ถ้าหากว่าใจดำปฏิเสธออกไป คงกลายเป็นคนเลือดเย็นจนเป็นน้ำแข็ง เหมือนอากาศที่หนาวเหน็บข้างนอกเป็นแน่
“คุณไม่รังเกียจผู้หญิงธรรมดา ๆ อย่างฉันหรือคะ สวยก็ไม่สวย ฐานะต่ำต้อยต่างกับคุณลิบลับราวฟ้ากับดิน คุณจะยอมรับได้หรือคะ? ที่จะต้องแต่งงานกับคนที่ไม่มีอะไรเลยแบบฉัน” น้ำรินจำต้องพูดในสิ่งที่ค้างคาอยู่ในใจมานาน ชายหนุ่มผู้เพอร์เฟกต์ทุกอย่างแบบเขา จะมาแต่งงานกับหล่อนจริง ๆ น่ะหรือ ไม่อยากจะเชื่อเลย
“ถ้าฉันคิดเรื่องพวกนั้น ป่านนี้ฉันคงไม่มานั่งคุกเข่าอยู่ต่อหน้าเธอเป็นชั่วโมงแบบนี้หรอกน้ำริน เชื่อฉัน.. ฉันสัญญาว่าจะดูแลเธอ จะรักเธอไปตลอดชีวิตไม่ว่าจะเจอปัญหาอะไรเราจะฟันฝ่ามันไปด้วยกัน” น้ำรินงุนงงกับถ้อยคำของเขา ปัญหา คนระดับเขายังจะมีปัญหาอะไรให้ฟันฝ่าอีกอย่างนั้นหรือ? แต่อะไรก็ช่างเถอะ ในเมื่อเขาลงทุนทำถึงขนาดนี้แล้ว แม้จะเกิดอะไรขึ้น หล่อนก็พร้อมจะเผชิญหน้าไปพร้อมกับเขาอย่างแน่นอน
“ตกลงค่ะ..ฉันจะแต่งงานกั
“ไม่นะคะ..ชอบมากต่างหาก ชอบมากกว่าที่คุณบอกว่าจะจัดงานแต่งให้ฉันซะอีก” น้ำรินส่ายหน้าไปมาอย่างน่าเอ็นดูมิอาจเปล่งวาจาใด ๆ ออกมา เพราะรู้สึกเต็มตื้นในหัวใจเหลือเกิน หญิงสาวยิ้มหวานหยด เม้มริมฝีปากบางแน่น โผเข้าไปกอดที่ซอกคอแข็งแรงอีกครั้ง ส่ายหน้าไปมา ก่อนจะผละออกมาปาดน้ำตาออกจากดวงตาหวานซึ้ง“คืนนี้..คุณนอนที่นี่กับฉัน จะได้ไหมคะ?” น้ำเสียงหวานใสปนเครือเล็กน้อย เอ่ยออกมาแบบอาย ๆ เอียงคอมองคนตรงหน้าตาแป๋ว รอฟังคำตอบอย่างใจจดจ่อ รู้สึกอายขึ้นมาตงิด ๆ ที่เอ่ยปากชวนเขานอนด้วยอย่างนี้ ทางฝ่ายชายหนุ่มที่เอาแต่นิ่งเงียบ เพราะคาดไม่ถึงว่าหล่อนจะชวนเขาแบบนี้ ซึ่งปกติแล้ว เจ้าหล่อนคงไล่ตะเพิดเขากลับห้องไปแล้ว ชายหนุ่มยิ้มกว้างขวางกับปฏิกิริยาของหญิงสาวผู้เป็นที่รัก ดูเหมือนว่าหล่อนจะเริ่มอ้อนเขาเป็นแล้วนี่ ฮิโรยูกิชอบใจนักที่หล่อนทำท่าทางออดอ้อน ให้ท่าเขาแบบนี้ มันเป็นธรรมชาติอันบริสุทธิ์ของหล่อน ไร้จริตมารยา มองทีไรแล้วให้ชุ่มชื่นหัวใจนัก หล่อนหลับไปแล้ว หลับทั้ง ๆ ที่เขายังมีอารมณ์พิศวาสคุกรุ่นอยู่เต็มอก ฮิโรยูกิได้แต่ครางฮึ่ม ๆ ในลำคอ
หล่อนหลับไปแล้ว หลับทั้ง ๆ ที่เขายังมีอารมณ์พิศวาสคุกรุ่นอยู่เต็มอก ฮิโรยูกิได้แต่ครางฮึ่ม ๆ ในลำคอ ก่อนจะกดจมูกหอมพวงแก้มของหล่อนฟอดใหญ่ ฝากไว้ก่อนเถอะแม่แมวน้อย จดทะเบียนเมื่อไหร่ จะเอาคืนให้สาสมเลยทีเดียว ร่างสูงชันศีรษะด้วยมือข้างเดียว นอนตะแคงมองหล่อนอย่างนึกเอ็นดู ก่อนจะหยิบผ้าห่มมาคลุมกายให้หล่อน พลางกอดกระชับร่างเล็กเข้าหาอกกว้างของเขา จุมพิตที่หน้าผากและพวงแก้มสูดกลิ่นหอมที่เรือนผมเข้าเต็มปอด ซึ่งเขาชอบนักชอบหนากับกลิ่นหอมจาง ๆ ของแชมพูที่หล่อนใช้ เมื่อมาติดอยู่บนตัวหล่อนคราใด มันยิ่งทำให้เขาลุ่มหลง จนถอนตัวไม่ขึ้นอยู่อย่างนี้ เห็นทีว่าเขาจะต้องกว้านซื้อยาสระผมยี่ห้อนี้มาไว้ให้หล่อนใช้เป็นประจำเสียแล้วสิ ร่างสูงลุกไปเข้าห้องน้ำชำระร่างกาย เพื่อไปจัดการกับสิ่งที่กำลังจะปะทุขึ้นมาอีกแล้ว เมื่อได้ใกล้ชิดร่างนุ่มนิ่มนี้ ให้ตายเถอะ เขาจะสามารถนอนกอดหล่อนเฉย ๆ โดยไม่ทำอะไรไปตลอดทั้งคืนได้ไหมเนี่ย..สักพักชายหนุ่มก็พาร่างกายสมส่วน ก้าวขึ้นมานอนเคียงข้าง ชะโงกหน้าไปมองใบหน้าขาวกระจ่างใส ที่นอนหลับตาพริ้มอย่างเป็นสุข ไม่รับรู้สักนิด ว่าได้ทารุณความรู้สึกของเขาอย่างร้ายก
“ไม่ลืมหรอกค่ะ ใครเขาจะพลาดโอกาสแบบนี้ไปได้ล่ะคะ มีที่ไหนผู้ชายรูปหล่อ รวยระดับมหาเศรษฐีมาขอแต่งงาน แล้วปฏิเสธกลับไป ฉันว่าผู้หญิงคนนั้นคงโง่สุด ๆ ไปเลยล่ะค่ะ ฮึ ๆ” หญิงสาวพูดทีเล่นทีจริงออกไป แถมยังยิ้มหวานให้กับอีกฝ่าย ที่ก้มหน้าลงมาซุกซบกับอกเล็กกะทัดรัดพลางสูดดมกลิ่นหอมผ่านเสื้อนอนตัวสวย ราวกับว่าจะซึมซับทุกส่วนของหล่อนไว้ในความทรงจำก็ไม่ปาน“เอาล่ะ งั้นก็ลุกได้แล้ว อาบน้ำแต่งตัวให้สวยไปเลยนะวันนี้ ฉันอยากพาเมีย เอ๊ย! ว่าที่ภรรยาไปโชว์คนอื่น ๆ แทบแย่แล้ว”“บ้าน่ะสิ! จะโชว์ใครล่ะ คุณนี่ก็พูดแปลก ๆ แล้วท่านปู่ของคุณว่าไงบ้างคะ เห็นไปคุยกันตั้งนาน”“ไม่ต้องห่วงนะท่านปู่ให้ใบเขียวเราเต็มที่ เอ้า! ไปอาบน้ำได้แล้ว ถ้าขืนยังชักช้าอยู่ล่ะก็ ฉันจะเป็นคนอาบให้เธอเองจริง ๆ ด้วย”“รู้แล้วน่า ใจร้อนจังอ๊ะ! นั่นอะไรคะ? หิมะ..หิมะจริง ๆ ด้วย ฉันเพิ่งเคยเห็นจริง ๆ เป็นครั้งแรกเลยนะคะ อยากลงไปเดินเล่นบนนั้นจังเลย อยากรู้ว่ามันเป็นยังไง สวยจังเลยค่ะ” ไม่น่าเชื่อว่าสวนสวย รกครึ้มไปด้วยหมู่ไม้น้อยใหญ่สีเขียวเต็ม
“เอาล่ะ ไปกันได้แล้ว อย่ามัวชักช้าอยู่เลย หากสายกว่านี้จะรอคิวนานนะ” ผู้อาวุโสกล่าวเตือน เมื่อเห็นว่าทั้งสองยืนจ้องมองกันแบบตะลึงอยู่อย่างนั้น โดยเฉพาะหลานชายเขา“ไปกันเถอะที่รัก” ฮิโรยูกิหันมายิ้มเก้อ ๆ กับผู้อาวุโสก่อนจะก้าวเข้าไปฉุดข้อมือเล็ก กระชับไว้กับมือหนาใหญ่ของเขา ออกไปยังรถหรู โดยมีสารถีรออยู่ก่อนแล้ว น้ำริน ยังเก้ ๆ กัง ๆ กับท่าทางร้อนรนของชายหนุ่ม จึงได้แต่โค้งศีรษะให้กับผู้สูงอายุ แล้ววิ่งตามแรงฉุดรั้งของคนใจร้อน ยิ้มในหน้าอย่างเป็นสุขกับสรรพนามที่เขาเรียกต่อหน้าปู่ของเขา ที่รัก.. น้ำรินมองหิมะที่กำลังตกอยู่นอกหน้าต่างรถอย่างมีความสุข ดวงตาเต็มไปด้วยความยินดี และอิ่มเอิบในหัวใจเป็นล้นพ้น หญิงสาวเลื่อนกระจกลง แล้วยื่นมือออกไปเพื่อสัมผัสกับเม็ดหิมะที่ตกลงมาไม่ขาดสาย ส่วนมืออีกข้างที่ยังกุมอยู่กับมือใหญ่กระชับแน่นเข้าหากันอย่างเผลอไผล“นี่คือสัญญาที่จะผูกมัด ฉันไว้กับเธอนะน้ำริน ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อจากนี้ เราจะฝ่าฟันมันไปด้วยกัน และต่อไปนี้เราคือคนคนเดียวกัน เธอจะสัญญากับฉันได้ไหม? เมื่อเกิดปัญหา หรือแม้กระทั่งอุปสรรคต่าง ๆ ข
ฮิโรยูกิพาหญิงสาวมายังห้องอาหารของโรงพยาบาล ราวกับว่าเขาได้นัดใครไว้แล้วดูจากการที่ชายหนุ่มเดินตรงดิ่งเข้าไปด้านในทันที โดยไม่ลังเลเลยสักนิดว่าจะเลือกนั่งโต๊ะไหนดี และแล้วก็เจอคำตอบ เมื่อได้พบกับบุคคลที่หล่อนรู้จักดี ซึ่งนั่นก็หมายถึง ยูอิจิ ฮานะ และ คิมฮีจิน น้ำรินเห็นยูอิจิมองมาทางฮิโรยูกิกับหล่อน พร้อมกับโบกไม้โบกมือเพื่อให้ทั้งสองมองเห็น“ขอโทษนะ ที่ทำให้รอนาน พอดีเราไปสาย ก็เลยต้องรอคิวนานหน่อย พอเสร็จก็รีบออกมาเลย” ทุกคนในกลุ่มอมยิ้ม เมื่อฮิโรยูกิรีบออกตัวราวกับจะประกาศให้รู้ว่าพวกเขาไปไหนกันมา “อืมม์..ไม่เป็นไรนั่งก่อนสิ เชิญครับคุณน้ำริน” ยูอิจิเอ่ย ก่อนจะชักชวนให้ทั้งสองหนุ่มสาวนั่งเก้าอี้ว่างสองตัว ที่อยู่ตรงข้ามกับพวกเขาน้ำรินยิ้มทักทายทุกคน ก่อนจะนั่งลงไปยังเก้าอี้ที่สามีเลื่อนออกมาให้ก่อนจะหันไปส่งยิ้มหวานหยดกลับไป คล้ายขอบคุณกลายๆ“ดีใจจังเลยค่ะที่ได้พบคุณอีกครั้ง แล้วก็ยินดีด้วยนะคะที่คุณได้แต่งงานกับฮีโร่ ตอนแรกที่ได้รับโทรศัพท์ จากคุณยูอิจิ ยังงงอยู่เลย ไม่นึกว่าจะเร็วขนาดนี้ แต่เมื่อได้มาเห็นกับตาแบบนี้แล้ว ก็หายงงเลยล่ะค
หนึ่งเดือนแรกที่หล่อนต้องปรับตัว ให้เข้ากับการเป็นนายหญิงของบ้าน แทบทำตัวไม่ถูกไปเลยทีเดียว ทุกคนที่เคยมองว่าหล่อนเป็นแค่ผู้หญิงที่เจ้านายของพวกเขาพาเข้ามาเพื่อเป็นคู่นอนเท่านั้น บัดนี้ได้กลายเป็นนายหญิงอย่างเต็มตัว พวกเขาเหล่านั้นกลับกลายเป็นคนละคน ต่างก็ให้ความเคารพ และคอยปรนนิบัติกับหล่อนเป็นอย่างดี แทบไม่ต้องทำอะไรเลยด้วยซ้ำฮิโรยูกิได้สั่งให้ครูเข้ามาสอนทั้งภาษาญี่ปุ่นและเกาหลี สลับสับเปลี่ยนหมุนเวียนกันอย่างจริง ๆ จัง ๆ เรียนถึงขนบธรรมเนียมประเพณี ระเบียบมารยาท การวางตัว และการพูดจากับผู้ที่เป็นผู้ใหญ่กว่า จนกระทั่งปัจจุบันนี้หล่อนพอที่จะพูดทั้งสองภาษาได้มากแล้ว และตอนนี้หล่อนกำลังเรียนการทำอาหารทุกประเภท ทั้งเกาหลีและญี่ปุ่น ขณะเดียวกันก็ต้องเรียนวิธีการชงชา ซึ่งอันนี้ต้องยกความดีให้ฮีจิน ที่คอยเป็นสารถีขับรถพาหล่อนไปโน่นมานี่ เธอเอ่ยปากชมว่าหล่อนเรียนรู้ได้เร็ว“ว่าไงล่ะ..ทำไมเงียบไปน้ำริน! เธอเป็นอะไรหรือเปล่า? บอกมาเร็ว เธออยู่กับฮีจินหรือเปล่า?”“อ๊ะ..ค่ะ ฉันอยู่กับคุณฮีจินค่ะ พอดีว่าตอนนี้กำลังเรียนวิชาชงชาอยู่น่ะ อาจารย์เขาเฮ
ฮิโรยูกิยืนนิ่งเล็งปากกระบอกปืน ไปยังรถคันที่กำลังย้อนกลับมาหมายจะเอาชีวิตเขาอย่างไม่ยอมลดละเช่นกัน รถคันดังกล่าววิ่งกลับเข้ามาหาด้วยความเร็วสูง ฮิโรยูกิเบี่ยงหลบกระสุนปืนที่มันยิงมาอย่างฉิวเฉียด ลูกตะกั่วแค่ถากต้นแขนเขาเท่านั้น แต่กระนั้นก็ไม่ได้ทำให้เขาคิดจะก้าวถอยหลังแม้แต่น้อย ความเจ็บเพียงน้อยนิดมันไม่เท่ากับความเจ็บใจที่ถูกลูบคมมังกรอย่างเขา เจ้ามือปืนโผล่หน้าออกมานอกตัวรถ เล็งกระสุนปืนหมายจะเอาชีวิตเขาให้ได้ พลางสบประมาทฮิโรยูกิในใจ มันช่างกล้าดีนักที่บังอาจออกมายืนเด่นเป็นสง่าอยู่กลางถนนเพียงคนเดียวเช่นนี้ อยากตายนักใช่ไหมปัง! ปัง! ปัง! เอี๊ยด! โครม! เพล้ง!เสียงปืนสามนัดดังติด ๆ กัน ตามด้วยเสียงรถที่เสียหลัก พุ่งเข้าไปชนยังราวสะพาน สองผู้ก่อการอันอุกอาจตายคาที่ จากกระสุนปืนที่เจาะเข้ากลางหน้าผากด้วยความแม่นยำของฮิโรยูกิ หลังจากนั้นความโกลาหลก็เกิดขึ้นอีก รายรอบสนามบินพลุกพล่านไปด้วยผู้คนที่แตกตื่น เสียงเซ็งแซ่ดังไปจนทั่วท้องสนามบิน บรรดาเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยต่างก็กรูกันเข้ามายังที่เกิดเหตุ เสียงไซเรนดังเข้ามาใกล้ ณ จุดเกิดเหตุ
ณ ตึกสูงราว ๆ สามสิบชั้น ซึ่งเป็นอาณาเขตที่พำนักของทาจิบานะ โทรุ นักธุรกิจวัยกลางคน เขากำลังยืนหันหน้าเข้าหากระจกติดฟิล์มกรองแสงเบื้องหน้าด้วยสายตาเข้มขรึม มือหนาไขว้หลังไว้ด้วยกันทั้งสองข้าง กางขาเล็กน้อยด้วยท่าทางมั่นคง“ขอโทษครับท่าน” สมุนมือขวาของเขากำลังก้มหน้างุด ยอมรับผิดที่ทำงานพลาดเป็นหนที่สองแล้ว“แกคิดว่าจะพูดคำนั้น ไปอีกสักกี่ที กับอีแค่เด็กอมมืออย่างเจ้าฮิโรยูกิคนเดียวยังฆ่ามันไม่ได้! ฮ๊ะ!” สมุนของโทรุต่างก็สะดุ้งกันไปเป็นแถบ ๆ ถอยฉากออกมา ก้มหน้าลงไปอีก เมื่อผู้เป็นเจ้านายหันมาทางพวกเขาช้า ๆ น้ำเสียงเริ่มเข้มขึ้นด้วยแรงโทสะ มือใหญ่กระแทกโต๊ะดังปัง“มันพาลูกน้องไปไม่กี่คนไม่ใช่เรอะ! พวกแกไม่คิดว่า มันน่าทุเรศบ้างเลยรึยังไงกัน!”“เอ่อ..แต่..แต่ท่านครับ..เราได้ข้อมูลมาใหม่ สายของเราสืบได้ว่ามันจดทะเบียนสมรสกับผู้หญิงคนหนึ่ง ก่อนหน้านั้นเห็นมันพาผู้หญิงคนนี้ไปเดินห้างฯ ดูเหมือนว่าจะเป็นผู้หญิงไทยครับ นี่คือรูปของหล่อนกับฮิโรยูกิตอนที่ไปเที่ยวด้วยกันครับ” ทาจิบานะ โทรุ หยิบรูปถ่ายขนาดเอสี่ปึกหนึ่ง ท
การกระทำของทั้งสองได้เรียกน้ำตาให้กับคนที่พบเห็น บริเวณห้องฉุกเฉินได้เป็นอย่างดี ชั่ววินาทีนั้นราวกับว่าได้หยุดทุกสิ่งทุกอย่างให้หยุดอยู่กับที่ ไม่เว้นแม้แต่ผู้ป่วยที่ร้องโอดโอย เพราะความเจ็บปวดจากบาดแผลบริเวณหน้าขา เพิ่งถูกเข็นผ่านเข้ามาภายใน ต้องหยุดชะงักงันไปชั่วขณะ เหลือบมองมายังคู่หนุ่มสาวทั้งสองด้วยความงุนงงสงสัย ลืมความเจ็บปวดเมื่อครู่ไปเลยทีเดียว ทางด้านผู้สูงอายุทั้งสาม ถึงกับอึ้งไปกับการกระทำของทั้งสองหนุ่มสาว ความรู้สึกตื้นตัน และเห็นความตั้งใจจริงของทั้งสอง แสดงให้รู้ว่าพวกเขารักกันมากมายขนาดไหน ฝ่ายชายถึงกับสามารถตัดขาดจากสมบัติและวงศ์ตระกูลได้เลย เพื่อแลกกับการได้ครองรักกับหญิงสาวร่างเล็กบอบบางข้างกาย ลี ฮาซันถึงกับหยิบผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาซับที่หางตา มองไปทางด้านผู้เป็นสามีคล้องวงแขนเข้ากับลำแขนของอีกฝ่ายซุกหน้ากับอกของสามี ด้วยความรู้สึกตื้นตันใจ ทางด้านลี จางชีก็มีอาการไม่ต่างจากกันนัก จึงแตะที่แขนของภรรยาอย่างปลอบประโลม ชายชราหนึ่งเดียวนั้นก็ไม่ได้มีอาการแตกต่างจากคนอื่นเท่าใดนัก ร่างที่ค่อนข้างค้อมเล็กน้อย ไขว้มือที่เหี่ยวย่นไว้ด้านหลังข้างหนึ่ง ส่วนอีกข้างวางอยู่บน
น้ำรินพยายามลืมตาตื่น รู้สึกมึนงงไปหมด อาการคลื่นไส้ จะเป็นลม หายเป็นปลิดทิ้งหลังจากที่ได้ให้น้ำเกลือ และนอนพักเต็มอิ่มแล้ว ดวงตาที่เปียกชื้นไปด้วยน้ำอุ่น ๆ เค็ม ๆ ถูกเช็ดออกจากดวงหน้าด้วยนิ้วเรียวใหญ่อย่างเบามือของผู้เป็นสามี“ตื่นแล้วหรือ? เป็นไงบ้าง? ยังเวียนหัวอยู่หรือเปล่า?” คำถามรัวถี่ติด ๆ กันจนคนถูกถามแทบตอบไม่ทัน จึงได้แต่ส่ายศีรษะไปมาเบา ๆ เพื่อให้อีกฝ่ายสบายใจ หล่อนไม่อยากให้เขาเป็นกังวลมากนัก“ไอ้หมอหัวล้านกับเจ้ายูมันให้เธอกลับบ้านได้ แต่ฉันว่าเธอยังไม่แข็งแรงดีเลย ยังไงนอนพักดูอาการที่นี่สักคืนดีไหม” ผู้เป็นภรรยาส่ายหัวดิกเมื่อ ได้ยินผู้เป็นสามีบอกให้นอนพักที่นี่สักคืน“ไม่เอาค่ะ หายดีแล้ว ไม่เวียนหัว ไม่คลื่นไส้ ไม่มีอาการอะไรทั้งนั้นแล้ว ฉันหายดีแล้วจริง ๆ นะคะ” อยากจะบอกเหลือเกินว่า แค่ตื่นขึ้นมาแล้วได้เจอหน้าเขา มาอยู่ใกล้ ๆ อย่างนี้อาการต่าง ๆ ก็หายเป็นปลิดทิ้งทันทีเลยล่ะ“จริงนะ ห้ามโกหก เป็นพยาบาลอะไรไม่ชอบโรงพยาบาลเฮ้อ!” ชายหนุ่มชะโงกหน้า มองเสี้ยวหน้าภรรยาตัวน้อยด้วยความมันเขี้ยว มือใหญ่วางแปะที่ศีรษะเล็กนั้น เขย่าเบา ๆ อย่างเอ็นดู“กลับบ้านกันเถอะนะคะ” คนไข้ตัว
“ดี..แล้วก็เอาหัวล้าน ๆ ของไอ้หมอคนเมื่อกี้ออกไปห่างเมียกันหน่อยได้ไหม กันไม่ชอบขี้หน้ามันเลยว่ะ” ฮิโรยูกิหันมากระซิบข้างหูเพื่อนรักทันทีที่หันไปเห็นแพทย์คนเมื่อสักครู่ เดินเลี่ยงออกไปทางด้านซ้ายของเตียงคนไข้ นั่นก็เรียกรอยยิ้มให้ยูอิจิได้เป็นอย่างดี ขี้หึงจริง ๆ นะเพื่อนเรา แม้แต่หมอแก่ร่างท้วม กับหัวที่มีผมทางตอนหน้าเหลือน้อยไปหน่อยเท่านั้นเอง ไปหาว่าเขาหัวล้านซะนี่ ร้ายจริง ๆ“ออกไปก่อนเถอะเพื่อน ไม่ต้องห่วงทางนี้ กันจะช่วยดูให้อีกแรงหนึ่ง” คำยืนยันของยูอิจิ บอกว่าภรรยาของเขาไม่ได้เป็นอะไรมาก ทำให้ชายหนุ่มถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก ร่างสูงจึงยอมถอยห่างออกมาแต่ไม่ได้ไปไหนไกล เขายังคงปักหลักยืนอยู่ห่าง ๆ ในมุมห้องแคบนั้น พลางกอดอกมองแพทย์และพยาบาลตรวจร่างกายหล่อนเงียบ ๆ“ฮีโร่..ฮีโร่..ตื่นเถอะ”“อ๊ะ! ฮ๊ะ! ยู..เมียฉันล่ะเมียฉันเป็นไงบ้าง!” ร่างสูงผวาตกใจตื่น เมื่อได้ยินเสียงยูอิจิปลุกให้ตื่น เขาเผลอหลับไปตั้งแต่เมื่อไหร่กัน“หึ..ตื่นขึ้นมาก็โวยวายเลยนะ คุณน้ำรินปลอดภัยแล้ว หมอให้น้ำเกลือ แล้วย้ายเธอไปนอนพักดูอาการที่ห้องข้าง ๆ โน่นแล้ว”“เหรอ? แล้วอยู่ไหนล่ะ?”“เดี๋ยวสิเพื่อน นี่นายไม่อ
“อือ ๆ ก็ว่าอย่างนั้นล่ะ” แล้วก็มีเสียงงึมงำจากคนรอบข้าง ที่บ่งบอกว่าเห็นด้วยกับความเห็นของเขา และนั่นก็ให้คุณคิม เซยอนชักสีหน้าอย่างไม่พอใจให้สามีทันที“เอาอย่างนี้สิ อะไรที่เป็นฝีมือของเธอ เราก็ชิมอันนั้นก็แล้วกัน..เรามาวัดกันที่รสชาติเป็นไง” และก็เป็นท่านปู่อีกตามเคยที่เอื้อมมือมาช่วยหล่อนไว้ ทำให้น้ำรินลอบถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก การทดสอบเรื่องอาหารผ่านไปด้วยดี ผลที่ออกมาหล่อนได้คะแนนเกือบเก้าสิบเปอร์เซ็นต์ ซึ่งนับว่าสูงมากเลยทีเดียว และสุดท้ายก็คือการชงชาที่ถูกต้อง ขณะที่กำลังนำถาดน้ำชาไปเสิร์ฟให้ผู้หลักผู้ใหญ่นั้นเอง วูบหนึ่งหล่อนรู้สึกหน้ามืด วิงเวียนจนแทบล้ม แต่ก็พยายามข่มใจไว้ พลางยืดอกขึ้นสูดลมหายใจเพื่อเอาออกซิเจนเข้าปอดลึก ๆ เฮือกหนึ่ง แต่จนแล้วจนรอดเรื่องที่หญิงสาวไม่ต้องการให้เกิดมันก็เกิดขึ้นจนได้“อุ๊บ! อ๊ะ!” เพล้ง! จู่ ๆ หญิงสาวก็รู้สึกคลื่นไส้ขึ้นมาอย่างกะทันหัน เมื่อกลิ่นของชาชั้นดีโชยมาแตะเข้าที่จมูก กลิ่นของมันทำให้แก๊สในกระเพาะอาหารปั่นป่วนจนวิ่งมาจุกอยู่ที่ลำคอ แทบอ้วกออกมา เท่านั้นเองโดยที่ไม่ทันได้ตั้งตัว หล่อนเผลอยกมือขึ้นมาปิดปาก ทำให้น้ำหนักถูกเทไปที่มืออีก
สามวันแล้วสินะที่หล่อนโดนการทดสอบแบบเล็ก ๆ น้อย ๆ จากคุณอาหญิง วันแรกเธอให้หล่อนขัดถูเครื่องใช้โบราณที่อยู่ในครัว ทำอยู่เป็นวันกว่าจะเสร็จก็เล่นเอามือถลอกไปเลยทีเดียว ถัดมาอีกวันหนึ่งหล่อนถูกทดสอบการทำอาหารซึ่งหล่อนถนัดนักล่ะ ไม่ว่าเธอจะสั่งให้ทำอะไรหล่อนก็ทำมันออกมาได้เป็นอย่างดี และนั่นก็ทำให้คุณลี ฮาซัน เริ่มมีปฏิสัมพันธ์กับหล่อนดีขึ้น วันนี้เธอช่วยสอนวิธีชงชาที่ถูกวิธีให้กับหล่อนอย่างละเอียดถี่ถ้วน ฮีจินมาเยี่ยมหล่อนเมื่อช่วงบ่าย ก่อนจะกลับหล่อนได้ยื่นของสิ่งหนึ่งมาให้ นั่นก็คือหนังสือเกี่ยวกับประวัติศาสตร์เกาหลีในแต่ละยุคสมัย คุณลีบอกว่าอีกสองวันจะมีการประชุมผู้อาวุโสของตระกูล ให้หล่อนเตรียมตัวให้พร้อม เมื่อถึงวันนั้นเธอบอกว่าจะคอยช่วยหล่อนอีกแรงหนึ่ง น้ำรินรู้สึกดีใจเหลือเกิน ที่สามารถเอาชนะใจคุณลี ฮาซันได้ เพียงแค่ระยะเวลาอันสั้น ส่วนคนอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นแม่บ้าน พ่อบ้านเก่าแก่ ต่างก็ให้ความเป็นกันเองกับหล่อนมากขึ้นผิดกับวันแรก ๆ ที่หล่อนมาถึงที่นี่ลิบลับ หญิงสาวกลับเข้ามาในห้องนอนอีกครั้งในช่วงเย็น หลังจากร่วมรับประทานอาหารมื้อเย็นกับผู้ใหญ่เรียบร้อยแล้ว ร่างเล็กก้าวเข้าไป
ช่วงเดือนพฤษภาคมที่เกาหลีแลดูสดชื่นนัก ความสวยงามของดอกไม้ในช่วงปลายฤดูใบไม้ผลิ พันธุ์ไม้ต่าง ๆ ผลิดอกบานสะพรั่งก่อนที่จะมีใบสีเขียวชอุ่มตามมา ไกด์จำเป็นอธิบายให้หล่อนฟังว่า ริมทางที่รถวิ่งผ่านมาส่วนมากจะเป็นต้นเมเปิลต้นอึนแฮง ( ต้นแป๊ะก๊วย) ต้นบอทือ ( ต้นหลิว) ต้นบอช ( ต้นซากุระ) ต้นชัน (คล้ายต้นสน) ส่วนที่อยู่บนเนินเขาจะมีดอกจิลดัลแล สีชมพูอมม่วง ดอกแคนารีสีเหลือง และดอกซากุระ หรือดอกชนามู สีขาวอมชมพู ต่างผลิดอกออกมาประชัน เปรียบเสมือนสีผ้าต่าง ๆ พืด ปูประดับประดาไว้อย่างสวยงาม ต้นไม้ที่ให้ร่มเงา ยืนเรียงรายริมถนนเริ่มผลิใบอ่อนบ้างแล้ว ตามกิ่งก้านจะมีนกเจบีตัวเล็ก ๆ สีดำส่งเสียงร้องอย่างร่าเริง รถคันจิ๋ววิ่งลัดเลาะผ่านภูเขาที่ดูคดเคี้ยว จากกรุงโซลออกมาแถวชานเมือง ได้สักพักใหญ่ ๆ คนขับกิตติมศักดิ์ของหล่อนก็หักพวงมาลัยเพื่อเลี้ยวขวาขึ้นไปบนเนินสูงเบื้องหน้า วิ่งผ่านรั้วกำแพงสูงใหญ่เข้าไปด้านใน ก่อนจะจอดนิ่งสนิทหน้าลานกว้าง น้ำรินก้าวลงจากรถพลางเหม่อ
“อืมม์ เก่งขึ้นทุกวันนะเราใครสอนกันนะ โอ๊ะ! หึ ๆ” พูดออกไปแล้วก็ต้องร้องครวญครางด้วยความเจ็บ เมื่อถูกกำปั้นน้อย ๆ ทุบที่หน้าอกทีหนึ่งจากคนตัวเล็กตรงหน้า แก้มแดงระเรื่อทำให้เขาอดใจไม่ไหว ช้อนร่างหล่อนอุ้มขึ้นมากระชับไว้ในวงแขนอันอบอุ่น ก่อนจะพามาวางลงบนที่นอนโดยมีร่างสูงหนาตามมาติด ๆ ลมหายใจรินรดกันจนแทบจะสัมผัสได้ ตาต่อตาประสานกันนิ่ง ชายหนุ่มแนบหน้าเข้ามาใกล้เกลือกจมูกโด่งสวยเป็นสัน กับแก้มเนียนอมชมพูสูดดมความหอมอย่างรักใคร่หลงใหล ก่อนจะเลื่อนริมฝีปากจากมุมปากประกบไว้แนบแน่น มือหนึ่งช้อนไว้ที่ท้ายทอยของหล่อน ส่วนมืออีกข้างก็ทำการสำรวจร่างกาย ลูบไล้ไปทั่วก่อนจะสอดหายเข้าไปใต้เนื้อผ้า.. สักพักชุดนอนเนื้อผ้าบางเบาก็ถูกปลดออกจากร่าง เหลือไว้เพียงร่างขาวนวลเนียนกระจ่างตา“ยังเช้าอยู่เลยนะคะ” หญิงสาวจำต้องยกมือขึ้นแตะที่แขนของสามีเป็นเชิงเตือน เมื่อเห็นว่าผู้เป็นสามีจะไม่หยุดอยู่แค่นั้น“ไม่เห็นเป็นไรเลยเช้า ๆ นั่นแหละดี”“แต่ว่า..คุณต้องไปทำงาน”“อื้อ..อย่าดื้อน่า เมื่อกี้ยังเชื้อเชิญอยู่เลย นะ..ขอหน่อยนะที่รัก หลายวันแล้วนะที่เราไม่ได้อยู่ด้วยกันเลย อีกหน่อยเธอก็ต้องไปที่โซลแล้ว เมื่อถึ
แต่ดูเหมือนว่าจะไม่ทำให้มันสะดุ้งสะเทือนเลยแม้แต่น้อย สุดท้ายจึงใช้ส้นเท้ากระทืบลงที่หลังเท้าของมันเต็มแรง ก่อนจะก้มลงไปกัดที่มือหยาบหนาบริเวณที่มันโอบเหนือเอวหล่อนขึ้นมา เมื่อถูกฟันคม ๆ ของหล่อนกดลึกเข้าไปในผิวเนื้อจนมันรู้สึกเจ็บ ร้องจ๊ากออกมา จนสะบัดมือ สะบัดเท้าเร่า ๆ หญิงสาวมองเห็นความหวังที่จะรอดไปได้ขึ้นมารำไร จึงรีบสลัดตัวออกจากแขนใหญ่ล่ำ ที่พันธนาการหล่อนอยู่ทันที ก่อนจะก้มลงไปหยิบปืนที่หล่นอยู่แทบเท้าเมื่อครู่ด้วยมืออันสั่นเทา นิ้วชี้กระชับพร้อมที่จะเหนี่ยวไกเพื่อกระชากวิญญาณของพวกมันได้ทุกเมื่อ หญิงสาวอยู่ในท่าเตรียมพร้อมอย่างที่ร่ำเรียนมา ปลายกระบอกปืนส่ายสลับไปมา ระหว่างชายฉกรรจ์ที่ยึดตัวหล่อนและสามีไว้เมื่อครู่อย่างหมายมาด สถานการณ์กลับกลายไปเป็นอีกแบบหนึ่งทันที ฮิโรยูกิย่างสามขุมตรงเข้าไปกระชากคอเสื้อของโทรุ ด้วยมือเพียงข้างเดียว ส่วนไอ้สองคนที่กำลังสาละวนอยู่กับการพันธนาการฮีจินอยู่ ชะงักงัน หนึ่งในนั้นพยายามที่จะงัดปืนออกมาจากเอวของมันแต่ถูกเสียงเข้มดุดัน ตะโกนสั่งออกมาเสียก่อน“ทิ้งปืนซะ! ถ้าไม่อยากให้เจ้านายของแกตาย แล้วก็แก้มัดเพื่อนฉัน
“ทำได้ดีมาก..ที่รัก” ฮิโรยูกิยังมีอารมณ์หันมาเอ่ยปากชมหล่อนทันทีที่ร่างเล็ก ๆ วิ่งเข้ามาหลบอยู่ข้างหลังเขา ความขุ่นมัว กรุ่นโกรธก่อนหน้านี้ค่อยผ่อนคลายลงไปได้นิดหนึ่ง เมื่อเห็นว่าหล่อนแก้เผ็ดไอ้คนที่กระทำการอันน่ารังเกียจกับหล่อนได้อย่างไม่น่าเชื่อไม่เสียแรงเลยที่เขาอุตส่าห์ให้หล่อนหัดเรียนรู้วิธีป้องกันตัว เมื่อสองสามเดือนที่ผ่านมาทั้ง ๆ ที่กลัวเหลือเกินว่าเนื้อตัวของหล่อนจะบอบช้ำจากการฝึกฝน แต่ดูเหมือนว่าภรรยาตัวน้อยของเขาจะติดใจการฝึกหัดทุกรูปแบบเสียจนบางครั้ง ไม่สนใจเขาไปเลยในช่วงนั้น โดยเฉพาะเวลาที่เธอฝึกยิงปืนกับครูหนุ่ม การเอาใจใส่จนออกนอกหน้าของครูฝึกคนนั้น ทำให้เขาต้องย้ายหล่อนให้มาฝึกกับครูผู้หญิงแทน ส่วนครูฝึกคนแรกนั้น ถูกย้ายทันทีในวันถัดมา นี่ล่ะ..ผู้หญิงที่จะมาเป็นนายหญิงของตระกูลคัทซึฮิโกะตัวจริง“หึ ๆ แกแน่มาก ฮิโรยูกิแต่ดูเหมือนว่าแกจะประเมินฉันต่ำไปแล้ว” ฮิโรยูกิกับน้ำรินรู้สึกแปลกใจในคำพูดของโทรุ ที่จู่ ๆ มันก็เปล่งเสียงหัวเราะออกมาจากลำคอ ทันใดนั้นทั้งสองก็ต้องอ้าปากค้างร้องอุทานออกมาเกือบพร้อมกัน“ฮ