“ดิฉันยอมรับค่ะ และยินดีที่จะเข้ารับการทดสอบจากพวกท่าน” ทุกคนและทุกสายตา ไม่เว้นแม้แต่ฮิโรยูกิที่มองมายังหล่อนอย่างแปลกใจ ที่หล่อนสามารถพูดภาษาเกาหลีได้คล่องขนาดนี้ ถึงแม้การออกเสียงจะแปร่ง ๆ ไปบ้างก็ตาม และที่สำคัญคือ ผู้เป็นอาหญิงที่มองมาด้วยสายตาไม่เป็นมิตร และคาดไม่ถึง ชักสีหน้าอย่างอารมณ์เสีย
“เก่งนี่..ที่สามารถฟังและแปลภาษาออกน่ะ แถมยังโต้ตอบได้ฉะฉานมาก เอาล่ะฉันจะให้โอกาสเธอ เตรียมตัวอีกสักพัก แล้วจะติดต่อมาเมื่อทางโน้นพร้อมที่จะทำการทดสอบเธอ เห็นทีว่าต้องกลับก่อน”
“อ้าว! คุณ ไหนบอกว่าจะมาพักที่นี่สักสองสามวันยังไงล่ะแล้วนี่..”
“โอ๊ย!ไม่มีอารมณ์ ไม่พ้งไม่พักมันแล้วฉันจะรีบกลับไปส่งข่าวให้กับพวกญาติผู้ใหญ่ทางโน้นให้รับทราบทั่วกัน ว่าแม่หลานสะใภ้ปากกล้าคนนี้ รับคำท้า เอ๊ย! ยินดีรับบททดสอบจากพวกเราลาก่อนค่ะคุณพี่” สองชายหญิงผู้เป็นอากลับไปแล้ว ก่อนกลับอาหญิงยังหันมาส่งสายตาพิฆาตให้กับภรรยาของเขา จนฮิโรยูกิต้องโอบกระชับไหล่เล็กบางเข้าหาตัวอย่างให้กำลังใจ ก้มลงมองใบหน้าที่ดูซีดไป คงตกใจกับท่าทางของญาติผู้ใหญ่ของเ
สองสายตาประสานกันในระยะกระชั้นชิด หัวใจสองดวงเต้นระรัวจนแทบจะแล่นออกมานอกอก หญิงสาวหลับตาพริ้ม เมื่อเขาโน้มใบหน้าลงมาหา จุมพิตเบา ๆ ตามริมฝีปากนุ่มก่อนจะเริ่มหนักหน่วงขึ้นเรื่อย ๆ มือเล็กเรียวขาวสะอาดเผลอยกขึ้นโอบรอบลำคอ ปลายนิ้วสอดแทรกเข้าไปในเรือนผมของอีกฝ่ายอย่างหลงใหล ชุดนอนแบบเสื้อแขนยาวกับกางเกงผ้ายืดถูกปลดออกตั้งแต่เมื่อไหร่ ไม่อาจทราบได้ น้ำรินมารู้ตัวอีกที เมื่อแผ่นหลังกระทบกับที่นอนเย็นเฉียบ แต่ไม่นานนักมันก็อุ่นขึ้นเพราะมือเขา ผิวขาวนวลเนียนกระจ่างตา เรือนร่างที่สวยงามอย่างไม่มีที่ติปรากฏอยู่ต่อหน้าเขาจนแทบสะกดให้ไม่สามารถละสายตาออกไปได้มืออุ่น ค่อย ๆ ลูบสัมผัสเนื้อแท้นั้นอย่างทะนุถนอม ก่อนจะไล้มือใหญ่ไปตามสีข้าง ปากและจมูกก็แตะตามซอกคอขบเม้มเบา ๆ ไล่ลงมาจนถึงเนินอกนวลเนียนอย่างหลงใหล นั่นยิ่งสร้างความรัญจวนให้หล่อนมากขึ้น รู้สึกวาบหวิวราวกับจะล่องลอยขึ้นสู่ฟากฟ้า บ้าเอ๊ย! ฮีโร่ นี่แกทำอะไรลงไป ชายหนุ่มสบถด่าตัวเองในใจ รู้สึกใจหาย นึกสงสารหล่อนขึ้นมาจับใจ เขาไม่อยากให้หล่อนเจ็บเลยแม้แต่นิดเดียว กล้ามเนื้อทุกส่วนเกร็งเขม็งทัน
ในตอนแรกหญิงสาวเกิดหวาดผวา รู้สึกเจ็บปวดจนต้องผลักดัน ดิ้นรนเพื่อให้หลุดพ้นจากร่างหนาของเขาที่กำลังเตลิดไปกับอารมณ์เร่าร้อนนั้น เหมือนชายหนุ่มจะรู้ตัว จึงค่อย ๆ สัมผัสไปจนทั่วเรือนร่างอันเย้ายวน ใหม่อีกครั้ง จูบปลอบขวัญ บุกทลายจุดอ่อนทุกที่ของหญิงสาว แรงโจมตีจากมือน้อย ๆ เริ่มลดลง กระทั่งแรงขัดขืนอ่อนลง มือเล็กที่ประทุษร้ายเขา เปลี่ยนเป็นมายึดบ่าไหล่กว้าง อาการดิ้นรนขัดขืนหายไป เหลือแต่การดิ้นและสั่นน้อย ๆ อันเกิดจากความวาบหวิวมาแทนที่ จวบจนกระทั่ง ชีพจรในร่างกายเต้นตามจังหวะที่ปกติ ลมหายใจร้อนผะผ่าว รินรดซอกคอขาวละมุน หอมกรุ่น ลดความรุนแรงลง “ น้ำริน..ฉันรักเธอและจะรักไปจนวันตาย” ฮิโรยูกิคลายอ้อมกอด พลิกร่างสูงใหญ่ลงมานอนเคียงข้างภรรยาสุดที่รัก ซึ่งบัดนี้หล่อนได้กลายเป็นของเขาทั้งทางพฤตินัยและนิตินัยแบบเต็มตัวแล้ว แขนแข็งแรงตระคองหล่อนไว้ในอ้อมกอดก้มลงไปจุมพิตอย่างอ่อนโยนลงบนหน้าผากที่ชื้นเหงื่อ แก้มสุกปรั่ง และสุดท้ายที่ริมฝีปากนุ่มนิ่มหลายหนไม่รู้เบื่อ ก่อน
“ฉันขอโทษที่ทำให้เธอเจ็บแต่เราก็มีความสุขด้วยกัน” ฮิโรยูกิขยับกระซิบใกล้กับใบหน้าขาวใส ดวงตาคมเข้มทอระยับอย่างรักใคร่ ก่อนจะจรดจมูกและปากเพื่อสัมผัส และดอมดมเรือนกายที่ยั่วยวนเขาตรงหน้า อย่างอดใจไม่ไหว ทำให้อารมณ์ปรารถนาของเขาคุกรุ่นขึ้นมาอีกครั้ง และยิ่งวันนี้เป็นวันหยุดที่เขาต้องการหยุดเอาเองว่า ไม่ต้องไปทำงาน หรือไม่ต้องรีบร้อนที่จะไปไหน สรุปให้ตัวเองว่า เขาควรที่จะพักผ่อนบ้าง หลังจากที่โหมงานทิ้งให้เมียสาวสุดที่รัก ต้องอ้างว้างอยู่เป็นนาน เขานี่ช่างโง่เสียจริง ๆ มีของดีอยู่กับตัวแท้ ๆ กลับไม่มีเวลามาดูแลอย่างใกล้ชิดแบบนี้ ชายหนุ่มรู้สึกอยากจะเขกหัวตัวเองนัก ดีนะที่หล่อนไม่น้อยใจจนหนีเขาไปเสียก่อน คิดมาถึงตรงนี้ หัวใจอันทระนงของเขาก็ให้เจ็บแปลบไม่ได้ เขาทนไม่ได้หรอกที่จะให้หล่อนจากไป เพราะเขารักหล่อนเหลือเกิน รักจนไม่อยากห่างไปไหนอีกแล้ว..“อื้อ พะ..พอแล้วค่ะ ฮีโร่คะไม่ไปทำงานหรือคะ” ร่างเล็กพยายามพูด เมื่อสามีที่รักกำลังซุกไซ้จมูกปากไปตามใบหูและซอกคอ เสียงใสพูดกระท่อนกระแท่น เหมือนเสียงครางในลำคอ ส่วนมือที่แสนจะซุกซนก็ไม่ยอมหยุดอยู่กั
หญิงสาวรับรู้ได้ทันทีว่าบุคคลเหล่านั้นไม่ได้ประสงค์ดีแน่ น้ำรินพูดอะไรไม่ออก อยากจะตะโกนบอกฮิโรยูกิผ่านทางโทรศัพท์ แต่ไม่ทันที่จะทำอะไรได้ ชายแปลกหน้าสองคนปราดเข้ามายืนขวางหน้าทำท่าจะจับแขน น้ำรินขมวดคิ้ว พยายามเบี่ยงกายไปอีกทางท่ามกลางอาการตกตะลึงและคาดไม่ถึงว่าจะมีคนร้ายของทั้งสองสาว โดยที่ยังไม่ได้ตั้งตัวและพูดอะไรออกไป จู่ ๆ ชายฉกรรจ์หนึ่งคนในนั้น ก็ยื่นมือหยาบกระด้าง เอาผ้าสีขาวโปะเข้ามาที่ใบหน้าของน้ำริน กลิ่นฉุนคล้ายยาชากระจายไปจนทั่ว หญิงสาวรู้สึกแสบตาแสบจมูก ไม่กี่วินาทีแขนขาก็ดูไร้เรี่ยวแรงที่จะต่อสู้ขัดขืน แต่ก่อนที่สติจะดับวูบไป น้ำรินได้ยินเสียงสมรตะโกนให้คนช่วย“อ๊ะ! นี่พวกคุณทำอะไรน่ะ จะพาเพื่อนฉันไปไหน? ปล่อยเธอเดี๋ยวนี้นะ! ช่วยด้วยค่ะ! ช่วยด้วย! มีคนถูกลักพาตัว ช่วยด..” สมรพยายามวิ่งเข้าไปยื้อแย่ง ทุบตีชายแปลกหน้ารูปร่างสูงใหญ่ ปากก็ร้องเรียกให้คนช่วย แต่มีหรือคนที่ไม่รู้อิโหนิอิเหน่จะอยากเอาชีวิตเข้ามาเสี่ยง“เธอไม่เกี่ยว! หลีกไป! อยากตายหรือไง เฮ้ย! เอาตัวนังนั่นไป เร็ว!!” ครั้งสุดท้าย ก่อนที่อะไรจะดับมืดลง น้ำรินเห็นสมรถูกหมั
เชื่อว่าฮิโรยูกิต้องตามมาช่วยแน่ ถ้าหากเขามาก็เท่า ๆ กับตกหลุมพรางของมัน โธ่..ฮีโร่คะ อย่าเอาชีวิตมาเสี่ยงกับผู้หญิงธรรมดา ๆ อย่างฉันเลย ฉันจะไม่ยอมให้พวกมันทำร้ายคุณเด็ดขาด! โทรุมองเห็นแววตาที่แสดงความหวาดผวา ประหวั่นพรั่นพรึงฉายชัดออกมาทางสายตา ดวงตาคู่นั้นถูกส่งมายังร่างสูงใหญ่จนเขารับรู้ได้ว่าหญิงสาวผู้นี้กำลังตกอยู่ในอาการช็อกสุดขีด“หึ ๆ กลัวสินะแม่สาวน้อย ช่วยไม่ได้ มันเป็นโชคร้ายของเธอที่เกิดไปเป็นผู้หญิงของไอ้ฮิโรยูกิ ถ้าจะโทษก็ต้องโทษมัน! ที่ดึงเอาตัวเธอมาเกี่ยวข้องด้วย” หญิงสาวจ้องเขม็งมองหน้าคนที่ยืนอยู่เหนือตัวหล่อน ในท่าทางคุกคาม คิ้วเล็กขมวดเข้าหากันมุ่นไม่เข้าในใจคำพูดของอีกฝ่ายนัก“คงจะงงล่ะสิ ว่าทำไมฉันถึงจับตัวเธอมา เพื่อล่อให้ไอ้เด็กเมื่อวานซืนนั่นมาติดกับน่ะ หวังว่าเธอจะเป็นคนสำคัญ และเป็นแรงดึงดูดให้มันตามมาช่วยนะเพราะดูยังไง ๆ รูปร่าง หน้าตาที่แสนธรรมดาอย่างเธอไม่น่าจะไปถูกอกถูกใจมันได้เลย หรือว่า..เพราะผิวขาว ๆ เนียนละเอียด ดวงตากลมโต ดูสุกใสแต่ดูเศร้า ๆ ยังไงพิกล แปลกดี ดู ๆ ไปก็น่ามองเหมือนกันนะ” ชายแปลกหน้าคนนั้นยังคงพ
“ไง..ถ้าอยากได้ผู้หญิงของแกคืนล่ะก็ ตามมาที่บ่อนฉันสิ แกคงรู้นะ..ว่าฉันคือใคร อ้อ! ถ้าแกอยากได้ตัวหล่อนคืนในสภาพดี ๆล่ะก็ห้ามพาการ์ดและอาวุธของแกมาด้วยเด็ดขาด! ไม่อย่างนั้นละก็..ฉันไม่รับรองความปลอดภัยของเธอผู้นี้แน่ แล้วก็รีบมาล่ะ ฉันให้เวลาแกชั่วโมงเดียว..ลูกน้องของฉันมันแทบทนไม่ไหวกับเรือนร่างขาวนวลเนียนของนังหนูนี่เต็มทีอยู่แล้ว ฮ่า ๆ ๆ” สิ้นเสียงเย้ยหยันจากปลายสาย ช่างจุดแรงโทสะของชายหนุ่มจนแทบอยากระเบิดบ่อนบ้า ๆ ให้มันราบเป็นจุณไปเสียเดี๋ยวนั้น หากทำไม่ได้เพราะในนั้นยังมีภรรยาสุดที่รักของเขาติดอยู่ด้วย ใบหน้าหล่อเหลาดวงตาคมดุแข็งกร้าวขึ้นทันที กรามถูกบดเข้าหากันจนเป็นสันนูน มือเรียวใหญ่กำหมัดแน่นด้วยความโกรธแค้น รู้สึกเป็นห่วงน้ำรินจนแทบขาดใจ ความเจ็บแปลบแทรกผ่านเข้ามาที่หัวใจของเขาอีกครั้ง เมื่อนึกถึงใบหน้าขาวใส นวลเนียน ป่านนี้หล่อนคงตกใจกลัวจนแทบช็อกไปแล้วแน่..มันผู้ใดที่ทำให้เมียเขาต้องเจ็บตัว หรือได้รับบาดแผลแม้แต่ปลายก้อย มันผู้นั้นต้องตายอย่างไร้ที่ฝังแน่!.. ฮิโรยูกิประกาศกร้าวในใจด้วยแรงอาฆาตชายหนุ่มสั่งห้ามไม่ให้ใครตามไปเด็ดขาด
“เมื่อหลายปีก่อนคัทซึฮิโกะ โอตะพ่อของฮิโรยูกิมันยิ่งใหญ่แค่ไหน ใคร ๆ ก็รู้ มันมีทั้งอำนาจ เงินทองมากมายมหาศาล แต่มันกลับใช้อำนาจและความร่ำรวยทำร้ายครอบครัวของฉัน เพียงเพราะฉันไปกู้ยืมเงินเพื่อกอบกู้กิจการ ที่จะล้มแหล่มิล้มแหล่คืน ลองคิดดูสิ ธุรกิจที่แทบจะพังครืนลงไปต่อหน้ายังไม่ทันที่จะได้กำไรกลับคืนมาด้วยซ้ำ มันกลับให้สมุนของมันมาทวงหนี้ไม่เว้นแต่ละวัน จนเมียสุดที่รักของฉันทนไม่ไหวต้องหอบลูกหนีหายจากไป ตอนนั้นฉันเจ็บปวดใจจะขาด แทบล้มทั้งยืน เท่านั้นยังไม่พอ หนำซ้ำมันยังให้คนของมันจับตัวน้องสาวฉันไป บังคับ ข่มเหง แล้วยังใช้กำลังข่มขืนเธอเพียงแค่ต้องการให้ฉันหาเงินมาใช้หนี้มันให้ทันกำหนด สุดท้าย..น้องสาวผู้น่าสงสารของฉัน ก็หอบสังขารอันบอบช้ำกลับมา หลังจากนั้นไม่กี่วัน เธอก็ฆ่าตัวตายเพราะความอดสู ไม่กล้าสู้หน้าใครได้อีก! ทั้งหมดนี้มันเกิดขึ้นเพราะไอ้โอตะ พ่อของผัวเธอไงล่ะ! เข้าใจรึยัง!" โทรุตะโกนก้อง เต็มไปด้วยแรงโทสะ แววตาเครียดขึงชิงชัง คล้ายสะใจเมื่อได้ระบายความคับแค้นที่มันอัดอั้น กักกดอยู่ภายในใจมานานแสนนาน น้ำรินเข้าใจแล้วว่า ที่ชายผู้นี้ต้องการทำร้ายสามีหล่อ
แคว้ก!“อ๊ะ! ไม่นะ! อย่า!” ยังไม่ทันขาดคำ หนึ่งในนั้นก็ตรงดิ่งก้าวขึ้นมาคร่อมร่างของหญิงสาว มือหยาบหนาของมัน จับกระชับคอเสื้อบริเวณลำคอ กระชากเพียงนิดเดียว ชิ้นผ้าก็ขาดติดมือของมันออกมาอย่างง่ายดาย หญิงสาวตกใจกลัวจนแทบช็อก กรีดร้องออกมาอย่างบ้าคลั่ง พลางส่ายศีรษะไปมา พยายามยกมือยกเท้า ที่ถูกมัดอย่างแน่นหนา กันมันออกห่างตัว หากทำอะไรไม่ได้มาก เมื่อสมุนอีกสามคนต่างก็ยึดแขนขาให้ติดกับโต๊ะแข็ง ๆ นั้น จนหล่อนหมดสิทธิ์ในการขยับเขยื้อนร่างไปในทันที“กรี๊ด!!อย่านะ! ไอ้พวกบ้า อย่าทำอย่างนี้กับฉันนะปล่อย!” หญิงสาวกรีดร้องออกมาเสียงยาวดัง ทำอย่างนั้นซ้ำ ๆ คิดว่าเสียงของหล่อนคงไปกระทบระบบโสตประสาทการรับรู้ของมันจนแสบแก้วหูอย่างแน่นอน แม้แต่ตัวหล่อนเองยังรู้สึกได้ว่า ตะโกนออกไปสุดเสียงจนแสบคอ หูอื้อ ตาลายแทบเสียสติไปแล้วด้วยซ้ำ“หนวกหูโว๊ย! ทำให้มันเงียบเสียทีสิวะ” หนึ่งในนั้นตะโกนแข่งกับเสียงของหล่อน ร้องบอกให้พวกของมันปิดปากหล่อนเสีย และมันก็ทำได้จริง ๆ เมื่อกำปั้นหนัก ๆ ถูกต่อยลงมาที่หน้าท้องของหล่อน ทันใดนั้นเสียงกรีดร้องจนแสบแก้วหูก็เ
การกระทำของทั้งสองได้เรียกน้ำตาให้กับคนที่พบเห็น บริเวณห้องฉุกเฉินได้เป็นอย่างดี ชั่ววินาทีนั้นราวกับว่าได้หยุดทุกสิ่งทุกอย่างให้หยุดอยู่กับที่ ไม่เว้นแม้แต่ผู้ป่วยที่ร้องโอดโอย เพราะความเจ็บปวดจากบาดแผลบริเวณหน้าขา เพิ่งถูกเข็นผ่านเข้ามาภายใน ต้องหยุดชะงักงันไปชั่วขณะ เหลือบมองมายังคู่หนุ่มสาวทั้งสองด้วยความงุนงงสงสัย ลืมความเจ็บปวดเมื่อครู่ไปเลยทีเดียว ทางด้านผู้สูงอายุทั้งสาม ถึงกับอึ้งไปกับการกระทำของทั้งสองหนุ่มสาว ความรู้สึกตื้นตัน และเห็นความตั้งใจจริงของทั้งสอง แสดงให้รู้ว่าพวกเขารักกันมากมายขนาดไหน ฝ่ายชายถึงกับสามารถตัดขาดจากสมบัติและวงศ์ตระกูลได้เลย เพื่อแลกกับการได้ครองรักกับหญิงสาวร่างเล็กบอบบางข้างกาย ลี ฮาซันถึงกับหยิบผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาซับที่หางตา มองไปทางด้านผู้เป็นสามีคล้องวงแขนเข้ากับลำแขนของอีกฝ่ายซุกหน้ากับอกของสามี ด้วยความรู้สึกตื้นตันใจ ทางด้านลี จางชีก็มีอาการไม่ต่างจากกันนัก จึงแตะที่แขนของภรรยาอย่างปลอบประโลม ชายชราหนึ่งเดียวนั้นก็ไม่ได้มีอาการแตกต่างจากคนอื่นเท่าใดนัก ร่างที่ค่อนข้างค้อมเล็กน้อย ไขว้มือที่เหี่ยวย่นไว้ด้านหลังข้างหนึ่ง ส่วนอีกข้างวางอยู่บน
น้ำรินพยายามลืมตาตื่น รู้สึกมึนงงไปหมด อาการคลื่นไส้ จะเป็นลม หายเป็นปลิดทิ้งหลังจากที่ได้ให้น้ำเกลือ และนอนพักเต็มอิ่มแล้ว ดวงตาที่เปียกชื้นไปด้วยน้ำอุ่น ๆ เค็ม ๆ ถูกเช็ดออกจากดวงหน้าด้วยนิ้วเรียวใหญ่อย่างเบามือของผู้เป็นสามี“ตื่นแล้วหรือ? เป็นไงบ้าง? ยังเวียนหัวอยู่หรือเปล่า?” คำถามรัวถี่ติด ๆ กันจนคนถูกถามแทบตอบไม่ทัน จึงได้แต่ส่ายศีรษะไปมาเบา ๆ เพื่อให้อีกฝ่ายสบายใจ หล่อนไม่อยากให้เขาเป็นกังวลมากนัก“ไอ้หมอหัวล้านกับเจ้ายูมันให้เธอกลับบ้านได้ แต่ฉันว่าเธอยังไม่แข็งแรงดีเลย ยังไงนอนพักดูอาการที่นี่สักคืนดีไหม” ผู้เป็นภรรยาส่ายหัวดิกเมื่อ ได้ยินผู้เป็นสามีบอกให้นอนพักที่นี่สักคืน“ไม่เอาค่ะ หายดีแล้ว ไม่เวียนหัว ไม่คลื่นไส้ ไม่มีอาการอะไรทั้งนั้นแล้ว ฉันหายดีแล้วจริง ๆ นะคะ” อยากจะบอกเหลือเกินว่า แค่ตื่นขึ้นมาแล้วได้เจอหน้าเขา มาอยู่ใกล้ ๆ อย่างนี้อาการต่าง ๆ ก็หายเป็นปลิดทิ้งทันทีเลยล่ะ“จริงนะ ห้ามโกหก เป็นพยาบาลอะไรไม่ชอบโรงพยาบาลเฮ้อ!” ชายหนุ่มชะโงกหน้า มองเสี้ยวหน้าภรรยาตัวน้อยด้วยความมันเขี้ยว มือใหญ่วางแปะที่ศีรษะเล็กนั้น เขย่าเบา ๆ อย่างเอ็นดู“กลับบ้านกันเถอะนะคะ” คนไข้ตัว
“ดี..แล้วก็เอาหัวล้าน ๆ ของไอ้หมอคนเมื่อกี้ออกไปห่างเมียกันหน่อยได้ไหม กันไม่ชอบขี้หน้ามันเลยว่ะ” ฮิโรยูกิหันมากระซิบข้างหูเพื่อนรักทันทีที่หันไปเห็นแพทย์คนเมื่อสักครู่ เดินเลี่ยงออกไปทางด้านซ้ายของเตียงคนไข้ นั่นก็เรียกรอยยิ้มให้ยูอิจิได้เป็นอย่างดี ขี้หึงจริง ๆ นะเพื่อนเรา แม้แต่หมอแก่ร่างท้วม กับหัวที่มีผมทางตอนหน้าเหลือน้อยไปหน่อยเท่านั้นเอง ไปหาว่าเขาหัวล้านซะนี่ ร้ายจริง ๆ“ออกไปก่อนเถอะเพื่อน ไม่ต้องห่วงทางนี้ กันจะช่วยดูให้อีกแรงหนึ่ง” คำยืนยันของยูอิจิ บอกว่าภรรยาของเขาไม่ได้เป็นอะไรมาก ทำให้ชายหนุ่มถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก ร่างสูงจึงยอมถอยห่างออกมาแต่ไม่ได้ไปไหนไกล เขายังคงปักหลักยืนอยู่ห่าง ๆ ในมุมห้องแคบนั้น พลางกอดอกมองแพทย์และพยาบาลตรวจร่างกายหล่อนเงียบ ๆ“ฮีโร่..ฮีโร่..ตื่นเถอะ”“อ๊ะ! ฮ๊ะ! ยู..เมียฉันล่ะเมียฉันเป็นไงบ้าง!” ร่างสูงผวาตกใจตื่น เมื่อได้ยินเสียงยูอิจิปลุกให้ตื่น เขาเผลอหลับไปตั้งแต่เมื่อไหร่กัน“หึ..ตื่นขึ้นมาก็โวยวายเลยนะ คุณน้ำรินปลอดภัยแล้ว หมอให้น้ำเกลือ แล้วย้ายเธอไปนอนพักดูอาการที่ห้องข้าง ๆ โน่นแล้ว”“เหรอ? แล้วอยู่ไหนล่ะ?”“เดี๋ยวสิเพื่อน นี่นายไม่อ
“อือ ๆ ก็ว่าอย่างนั้นล่ะ” แล้วก็มีเสียงงึมงำจากคนรอบข้าง ที่บ่งบอกว่าเห็นด้วยกับความเห็นของเขา และนั่นก็ให้คุณคิม เซยอนชักสีหน้าอย่างไม่พอใจให้สามีทันที“เอาอย่างนี้สิ อะไรที่เป็นฝีมือของเธอ เราก็ชิมอันนั้นก็แล้วกัน..เรามาวัดกันที่รสชาติเป็นไง” และก็เป็นท่านปู่อีกตามเคยที่เอื้อมมือมาช่วยหล่อนไว้ ทำให้น้ำรินลอบถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก การทดสอบเรื่องอาหารผ่านไปด้วยดี ผลที่ออกมาหล่อนได้คะแนนเกือบเก้าสิบเปอร์เซ็นต์ ซึ่งนับว่าสูงมากเลยทีเดียว และสุดท้ายก็คือการชงชาที่ถูกต้อง ขณะที่กำลังนำถาดน้ำชาไปเสิร์ฟให้ผู้หลักผู้ใหญ่นั้นเอง วูบหนึ่งหล่อนรู้สึกหน้ามืด วิงเวียนจนแทบล้ม แต่ก็พยายามข่มใจไว้ พลางยืดอกขึ้นสูดลมหายใจเพื่อเอาออกซิเจนเข้าปอดลึก ๆ เฮือกหนึ่ง แต่จนแล้วจนรอดเรื่องที่หญิงสาวไม่ต้องการให้เกิดมันก็เกิดขึ้นจนได้“อุ๊บ! อ๊ะ!” เพล้ง! จู่ ๆ หญิงสาวก็รู้สึกคลื่นไส้ขึ้นมาอย่างกะทันหัน เมื่อกลิ่นของชาชั้นดีโชยมาแตะเข้าที่จมูก กลิ่นของมันทำให้แก๊สในกระเพาะอาหารปั่นป่วนจนวิ่งมาจุกอยู่ที่ลำคอ แทบอ้วกออกมา เท่านั้นเองโดยที่ไม่ทันได้ตั้งตัว หล่อนเผลอยกมือขึ้นมาปิดปาก ทำให้น้ำหนักถูกเทไปที่มืออีก
สามวันแล้วสินะที่หล่อนโดนการทดสอบแบบเล็ก ๆ น้อย ๆ จากคุณอาหญิง วันแรกเธอให้หล่อนขัดถูเครื่องใช้โบราณที่อยู่ในครัว ทำอยู่เป็นวันกว่าจะเสร็จก็เล่นเอามือถลอกไปเลยทีเดียว ถัดมาอีกวันหนึ่งหล่อนถูกทดสอบการทำอาหารซึ่งหล่อนถนัดนักล่ะ ไม่ว่าเธอจะสั่งให้ทำอะไรหล่อนก็ทำมันออกมาได้เป็นอย่างดี และนั่นก็ทำให้คุณลี ฮาซัน เริ่มมีปฏิสัมพันธ์กับหล่อนดีขึ้น วันนี้เธอช่วยสอนวิธีชงชาที่ถูกวิธีให้กับหล่อนอย่างละเอียดถี่ถ้วน ฮีจินมาเยี่ยมหล่อนเมื่อช่วงบ่าย ก่อนจะกลับหล่อนได้ยื่นของสิ่งหนึ่งมาให้ นั่นก็คือหนังสือเกี่ยวกับประวัติศาสตร์เกาหลีในแต่ละยุคสมัย คุณลีบอกว่าอีกสองวันจะมีการประชุมผู้อาวุโสของตระกูล ให้หล่อนเตรียมตัวให้พร้อม เมื่อถึงวันนั้นเธอบอกว่าจะคอยช่วยหล่อนอีกแรงหนึ่ง น้ำรินรู้สึกดีใจเหลือเกิน ที่สามารถเอาชนะใจคุณลี ฮาซันได้ เพียงแค่ระยะเวลาอันสั้น ส่วนคนอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นแม่บ้าน พ่อบ้านเก่าแก่ ต่างก็ให้ความเป็นกันเองกับหล่อนมากขึ้นผิดกับวันแรก ๆ ที่หล่อนมาถึงที่นี่ลิบลับ หญิงสาวกลับเข้ามาในห้องนอนอีกครั้งในช่วงเย็น หลังจากร่วมรับประทานอาหารมื้อเย็นกับผู้ใหญ่เรียบร้อยแล้ว ร่างเล็กก้าวเข้าไป
ช่วงเดือนพฤษภาคมที่เกาหลีแลดูสดชื่นนัก ความสวยงามของดอกไม้ในช่วงปลายฤดูใบไม้ผลิ พันธุ์ไม้ต่าง ๆ ผลิดอกบานสะพรั่งก่อนที่จะมีใบสีเขียวชอุ่มตามมา ไกด์จำเป็นอธิบายให้หล่อนฟังว่า ริมทางที่รถวิ่งผ่านมาส่วนมากจะเป็นต้นเมเปิลต้นอึนแฮง ( ต้นแป๊ะก๊วย) ต้นบอทือ ( ต้นหลิว) ต้นบอช ( ต้นซากุระ) ต้นชัน (คล้ายต้นสน) ส่วนที่อยู่บนเนินเขาจะมีดอกจิลดัลแล สีชมพูอมม่วง ดอกแคนารีสีเหลือง และดอกซากุระ หรือดอกชนามู สีขาวอมชมพู ต่างผลิดอกออกมาประชัน เปรียบเสมือนสีผ้าต่าง ๆ พืด ปูประดับประดาไว้อย่างสวยงาม ต้นไม้ที่ให้ร่มเงา ยืนเรียงรายริมถนนเริ่มผลิใบอ่อนบ้างแล้ว ตามกิ่งก้านจะมีนกเจบีตัวเล็ก ๆ สีดำส่งเสียงร้องอย่างร่าเริง รถคันจิ๋ววิ่งลัดเลาะผ่านภูเขาที่ดูคดเคี้ยว จากกรุงโซลออกมาแถวชานเมือง ได้สักพักใหญ่ ๆ คนขับกิตติมศักดิ์ของหล่อนก็หักพวงมาลัยเพื่อเลี้ยวขวาขึ้นไปบนเนินสูงเบื้องหน้า วิ่งผ่านรั้วกำแพงสูงใหญ่เข้าไปด้านใน ก่อนจะจอดนิ่งสนิทหน้าลานกว้าง น้ำรินก้าวลงจากรถพลางเหม่อ
“อืมม์ เก่งขึ้นทุกวันนะเราใครสอนกันนะ โอ๊ะ! หึ ๆ” พูดออกไปแล้วก็ต้องร้องครวญครางด้วยความเจ็บ เมื่อถูกกำปั้นน้อย ๆ ทุบที่หน้าอกทีหนึ่งจากคนตัวเล็กตรงหน้า แก้มแดงระเรื่อทำให้เขาอดใจไม่ไหว ช้อนร่างหล่อนอุ้มขึ้นมากระชับไว้ในวงแขนอันอบอุ่น ก่อนจะพามาวางลงบนที่นอนโดยมีร่างสูงหนาตามมาติด ๆ ลมหายใจรินรดกันจนแทบจะสัมผัสได้ ตาต่อตาประสานกันนิ่ง ชายหนุ่มแนบหน้าเข้ามาใกล้เกลือกจมูกโด่งสวยเป็นสัน กับแก้มเนียนอมชมพูสูดดมความหอมอย่างรักใคร่หลงใหล ก่อนจะเลื่อนริมฝีปากจากมุมปากประกบไว้แนบแน่น มือหนึ่งช้อนไว้ที่ท้ายทอยของหล่อน ส่วนมืออีกข้างก็ทำการสำรวจร่างกาย ลูบไล้ไปทั่วก่อนจะสอดหายเข้าไปใต้เนื้อผ้า.. สักพักชุดนอนเนื้อผ้าบางเบาก็ถูกปลดออกจากร่าง เหลือไว้เพียงร่างขาวนวลเนียนกระจ่างตา“ยังเช้าอยู่เลยนะคะ” หญิงสาวจำต้องยกมือขึ้นแตะที่แขนของสามีเป็นเชิงเตือน เมื่อเห็นว่าผู้เป็นสามีจะไม่หยุดอยู่แค่นั้น“ไม่เห็นเป็นไรเลยเช้า ๆ นั่นแหละดี”“แต่ว่า..คุณต้องไปทำงาน”“อื้อ..อย่าดื้อน่า เมื่อกี้ยังเชื้อเชิญอยู่เลย นะ..ขอหน่อยนะที่รัก หลายวันแล้วนะที่เราไม่ได้อยู่ด้วยกันเลย อีกหน่อยเธอก็ต้องไปที่โซลแล้ว เมื่อถึ
แต่ดูเหมือนว่าจะไม่ทำให้มันสะดุ้งสะเทือนเลยแม้แต่น้อย สุดท้ายจึงใช้ส้นเท้ากระทืบลงที่หลังเท้าของมันเต็มแรง ก่อนจะก้มลงไปกัดที่มือหยาบหนาบริเวณที่มันโอบเหนือเอวหล่อนขึ้นมา เมื่อถูกฟันคม ๆ ของหล่อนกดลึกเข้าไปในผิวเนื้อจนมันรู้สึกเจ็บ ร้องจ๊ากออกมา จนสะบัดมือ สะบัดเท้าเร่า ๆ หญิงสาวมองเห็นความหวังที่จะรอดไปได้ขึ้นมารำไร จึงรีบสลัดตัวออกจากแขนใหญ่ล่ำ ที่พันธนาการหล่อนอยู่ทันที ก่อนจะก้มลงไปหยิบปืนที่หล่นอยู่แทบเท้าเมื่อครู่ด้วยมืออันสั่นเทา นิ้วชี้กระชับพร้อมที่จะเหนี่ยวไกเพื่อกระชากวิญญาณของพวกมันได้ทุกเมื่อ หญิงสาวอยู่ในท่าเตรียมพร้อมอย่างที่ร่ำเรียนมา ปลายกระบอกปืนส่ายสลับไปมา ระหว่างชายฉกรรจ์ที่ยึดตัวหล่อนและสามีไว้เมื่อครู่อย่างหมายมาด สถานการณ์กลับกลายไปเป็นอีกแบบหนึ่งทันที ฮิโรยูกิย่างสามขุมตรงเข้าไปกระชากคอเสื้อของโทรุ ด้วยมือเพียงข้างเดียว ส่วนไอ้สองคนที่กำลังสาละวนอยู่กับการพันธนาการฮีจินอยู่ ชะงักงัน หนึ่งในนั้นพยายามที่จะงัดปืนออกมาจากเอวของมันแต่ถูกเสียงเข้มดุดัน ตะโกนสั่งออกมาเสียก่อน“ทิ้งปืนซะ! ถ้าไม่อยากให้เจ้านายของแกตาย แล้วก็แก้มัดเพื่อนฉัน
“ทำได้ดีมาก..ที่รัก” ฮิโรยูกิยังมีอารมณ์หันมาเอ่ยปากชมหล่อนทันทีที่ร่างเล็ก ๆ วิ่งเข้ามาหลบอยู่ข้างหลังเขา ความขุ่นมัว กรุ่นโกรธก่อนหน้านี้ค่อยผ่อนคลายลงไปได้นิดหนึ่ง เมื่อเห็นว่าหล่อนแก้เผ็ดไอ้คนที่กระทำการอันน่ารังเกียจกับหล่อนได้อย่างไม่น่าเชื่อไม่เสียแรงเลยที่เขาอุตส่าห์ให้หล่อนหัดเรียนรู้วิธีป้องกันตัว เมื่อสองสามเดือนที่ผ่านมาทั้ง ๆ ที่กลัวเหลือเกินว่าเนื้อตัวของหล่อนจะบอบช้ำจากการฝึกฝน แต่ดูเหมือนว่าภรรยาตัวน้อยของเขาจะติดใจการฝึกหัดทุกรูปแบบเสียจนบางครั้ง ไม่สนใจเขาไปเลยในช่วงนั้น โดยเฉพาะเวลาที่เธอฝึกยิงปืนกับครูหนุ่ม การเอาใจใส่จนออกนอกหน้าของครูฝึกคนนั้น ทำให้เขาต้องย้ายหล่อนให้มาฝึกกับครูผู้หญิงแทน ส่วนครูฝึกคนแรกนั้น ถูกย้ายทันทีในวันถัดมา นี่ล่ะ..ผู้หญิงที่จะมาเป็นนายหญิงของตระกูลคัทซึฮิโกะตัวจริง“หึ ๆ แกแน่มาก ฮิโรยูกิแต่ดูเหมือนว่าแกจะประเมินฉันต่ำไปแล้ว” ฮิโรยูกิกับน้ำรินรู้สึกแปลกใจในคำพูดของโทรุ ที่จู่ ๆ มันก็เปล่งเสียงหัวเราะออกมาจากลำคอ ทันใดนั้นทั้งสองก็ต้องอ้าปากค้างร้องอุทานออกมาเกือบพร้อมกัน“ฮ