Share

บทที่ 1467

Author: เหลียงซานเหลากุ่ย
โต๊ะในห้องของเขาทั้งสองมีขนาดแค่นั้น

ซ่อนตัวคนเดียวก็ดูกว้างขวางดี

แต่พอซ่อนตัวสองคนหลังโต๊ะ ก็รู้สึกค่อนข้างแคบลง

ในระยะนี้ หยุนเจิงได้กลิ่นหอมอ่อนๆ จากตัวเจียเหยาอย่างชัดเจน

นางคงจะลุกขึ้นอาบน้ำแต่งตัวตั้งแต่เช้า ไม่รู้ว่าใช่สบู่หอมหรือเปล่า

หรือว่านางเหมือนเยี่ยจื่อ ที่ใส่กลีบดอกไม้จำนวนมากในอ่างอาบน้ำ

หรือจะเป็นการอาบน้ำด้วยน้ำอบหอม?

จู่ๆ ภาพเจียเหยาขณะอาบน้ำก็ผุดขึ้นมาในหัวของหยุนเจิง

ทันใดนั้น หยุนเจิงรู้สึกเหมือนมีคนดึงตัวเขา

จนถึงตอนนี้ หยุนเจิงถึงได้รู้สึกตัว

หยุนเจิงหันศีรษะไป ก็เห็นเจียเหยาจ้องเขาด้วยสายตาสงสัย

“อะไร? บนหน้าข้ามีดอกไม้หรือ?”

หยุนเจิงถามด้วยสีหน้างงงวย

“อะไร? ข้ากำลังอยากถามเจ้าว่ากำลังทำอะไรอยู่?”

เจียเหยาหัวเราะเล็กน้อย “ข้าพูดกับเจ้านานแล้ว แต่เจ้าไม่มีปฏิกิริยาเลย ข้ายังคิดว่าเจ้าถูกผีสิงเสียอีก!”

“หา?”

“เช่นนั้นหรือ?”

หยุนเจิงรู้สึกกระอักกระอ่วนอยู่ในใจ

บ้าจริง!

ยังไม่ทันถึงฤดูใบไม้ผลิเลย!

เขานี่กำลังคิดบ้าอะไรอยู่กันแน่?

หยุนเจิงรีบสะบัดความคิดฟุ้งซ่านออกไป ก่อนพูดด้วยท่าทีจริงจัง “เมื่อครู่ข้ากำลังคิดบางเรื่อง
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App

Related chapters

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1468

    เอาได้เท่าไรก็เท่านั้น หยุนเจิงหัวเราะเมื่อได้ยิน “เจ้าชอบว่าข้าว่าหน้าหนา แต่ดูเจ้าสิ ก็ไม่ได้บางไปกว่าข้าเลย!” เจียเหยาหัวเราะเบาๆ “ข้านี่แหละเรียนจากเจ้าไง?” “เช่นนั้นรบกวนเจ้าจ่ายค่าเล่าเรียนมาก่อนนะ” หยุนเจิงพูดพลางยื่นมือไปทางเจียเหยา เจียเหยาทำหน้างง ก่อนจะตบมือหยุนเจิงเบาๆ ทันทีที่มือของเจียเหยาสัมผัส ถูกลูกธนูหลายดอกยิงเข้ามาในห้องด้วยเสียง “ฟิ้ว ฟิ้ว” มีลูกธนูสองดอกที่ทะลุผ่านผ้าห่มด้านนอกมากระแทกบนโต๊ะ เกิดเสียง "ตึบ ตึบ" เจียเหยาตั้งใจจะพุ่งไปหยิบแส้ของนางที่ข้างเตียง แต่ถูกหยุนเจิงดึงตัวไว้ เจียเหยาเสียหลัก ล้มเข้าไปในอ้อมอกของหยุนเจิงทันที “ฟิ้ว ฟิ้ว…” ลูกธนูยังคงยิงเข้ามาในห้องอย่างต่อเนื่อง สองคนที่ซ่อนตัวอยู่หลังโต๊ะเริ่มรู้สึกกระอักกระอ่วน เจียเหยาจ้องมองหยุนเจิงอย่างมึนงงอยู่ครู่หนึ่ง จนกระทั่งสังเกตถึงสิ่งแปลกประหลาดก่อนจะถามด้วยใบหน้าแดงซ่าน “เจ้ายังพกของเล่นที่ทำไว้ให้ลูกติดตัวอยู่หรือ?” พูดจบ เจียเหยาก็คว้าสิ่งที่ดันตัวนางอยู่ พร้อมกระตุกมันออกมา นางอยากรู้ว่ามันคืออะไร ที่หยุนเจิงทำหล่นเมื่อคราวก่อน “อย่า…” หยุนเจิงพยายามห้าม แต

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1469

    ในห้องของหยุนเจิง เพิ่งจะจัดการความยุ่งเหยิงเรียบร้อย หยุนลี่ก็โผล่มาพอดี ในเวลานั้น หยุนเจิงเพิ่งจะตั้งตัวได้จากเรื่องวุ่นวายที่เกิดกับเจียเหยา "เจ้าหก เจ้าวางแผนได้ดีจริง!" หยุนลี่กำหมัดแน่น กัดฟันพูดว่า "ว่ามา เจ้าอยากได้อะไร?" หยุนลี่ไม่คิดจะอ้อมค้อมกับหยุนเจิง เจ้าสุนัขนี่วางแผนแบบนี้ก็เพื่อจะหาประโยชน์จากตนเองเท่านั้น หากมัวแต่เลี่ยงไปเลี่ยงมา คนที่ต้องเจ็บใจก็คือตัวเองอยู่ดี "พี่สาม ใจเด็ดดีจริง!" หยุนเจิงหัวเราะเสียงดัง "เงินห้าล้านตำลึง กับช่างต่อเรืออีกสองพันคน!" "เจ้า..." หยุนลี่โกรธจนแทบระเบิด กัดฟันตะโกน "ทำไมเจ้าไม่ไปปล้นเอาเลยล่ะ?" เจ้าสัตว์เดรัจฉาน! ยังแย่กว่าเดรัจฉานเสียอีก! เขารู้อยู่แล้วว่าหยุนเจิงต้องเรียกร้องมากแน่ๆ แต่ไม่คิดว่าจะมากขนาดนี้ เงินห้าล้านตำลึง? ตนจะหาเงินมากขนาดนั้นมาจากไหน? แม้จะมีจางซูผู้เปรียบเสมือนเทพเจ้าแห่งโชคลาภช่วยหาเงิน แต่แม่เจ้า ก็ไม่ถึงขนาดนี้! ซั่วเป่ยก็ยกให้เขาไปแล้ว! เขายังมาอ้อมค้อมขอเงินและเสบียงจากราชสำนักอีก? ไม่สิ ต้องบอกว่าขอจากตนต่างหาก! เขาเสียใจจริงๆ ที่ตอนนั้นปล่อยเจ้าหมอนี่ออกจากเมืองหล

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1470

    เมื่อเจอคำขู่ของหยุนเจิง หยุนลี่ถึงกับตัวสั่นไปทั้งร่างด้วยความโกรธ ลังเลอยู่นาน ในที่สุดหยุนลี่ก็กัดฟันยอมรับ "ตกลง สี่ล้านตำลึง! เหมือนกับเรื่องเสบียง ให้ชำระภายในสิ้นปี!" เมื่อพูดประโยคนี้ออกมา หยุนลี่แทบกระอักเลือด เขาเคยคิดไว้ว่าจะพึ่งจางซูผู้เป็นเหมือนเทพเจ้าแห่งทรัพย์สมบัติเพื่อหาเงินได้อย่างมหาศาล ตอนนี้ เงินหาได้มาก็จริง แต่ยังไม่ทันได้ใช้ให้คุ้ม เจ้าสุนัขตัวนี้ก็มาจ้องตาเป็นมันแล้ว แถมยังต้องควักทุนสำรองออกมา และไปยืมเงินจากคนอื่นอีก! "ทีนี้มาพูดเรื่องช่างฝีมือกันเถอะ!" หยุนเจิงยิ้มอย่างพึงพอใจ "อย่ามาพูดเรื่องไปหาเอาจากกรมโยธาเลย แค่ช่างต่อเรือสองพันคนเอง ไม่ใช่ว่าสร้างเรือรบสองพันลำ! ข้าอาจไม่ยุ่งเรื่องในราชสำนัก แต่ก็รู้ว่าเรื่องนี้ไม่ยากสำหรับเจ้า" ไม่ยาก? ในใจหยุนลี่ด่าไม่หยุด นี่มันช่างต่อเรือที่มีการลงทะเบียนเอาไว้! ล้วนมีทะเบียนช่างฝีมืออยู่! ไม่ใช่พวกผู้อพยพสองพันคน! "หนึ่งพัน!" หยุนลี่พยายามระงับโทสะ "จะเคลื่อนย้ายคนที่มีทะเบียนช่างฝีมือเยอะๆ ไม่ใช่เรื่องง่าย! การควบคุมช่างต่อเรืออาจไม่เข้มงวดเท่าช่างทำเกราะ แต่ถ้ามีทะเบียนติดตัว..."

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1471

    เมื่อกลับถึงจวนพัก หยุนลี่ก็ระบายความโกรธด้วยการฟันหิมะอย่างบ้าคลั่ง น่าขายหน้า! ขายหน้าสิ้นดี! ทั้งชีวิตนี้เขาไม่เคยขายหน้าขนาดนี้มาก่อน เขารู้ว่าในการมาฟู่โจวครั้งนี้จะต้องถูกหยุนเจิงหลอก แต่ไม่คิดว่าจะโดนเล่นงานถึงขนาดนี้ ทั้งเงิน ทั้งข้าว ทั้งที่ดิน... ตัวเองยังสมควรเป็นองค์รัชทายาทอยู่อีกหรือ? เขากลายเป็นตัวตลกเต็มประตู! น่าชิงชัง! น่าชิงชังที่สุด! หยุนลี่ยิ่งคิดก็ยิ่งโกรธ เลือดลมภายในร่างพลุ่งพล่านไม่หยุด "พรวด..." เมื่อความโกรธทำให้เลือดลมตีขึ้น หยุนลี่ก็ทนไม่ไหวและพ่นเลือดออกมาคำใหญ่ ร่างของหยุนลี่เซไปมาจนเกือบล้มลงกับพื้น โชคดีที่ในจังหวะที่ร่างกำลังจะทรุดลง เขาปักดาบลงพื้น ใช้ดาบค้ำยันตัวเองไว้ พร้อมคุกเข่าข้างหนึ่ง "องค์รัชทายาทเพคะ!" เหล่าข้ารับใช้รีบร้องตะโกนด้วยความตื่นตกใจ ก่อนกรูเข้ามาหา "ไสหัวไป ไสหัวไปให้หมด..." หยุนลี่ตะโกนเสียงต่ำ ขณะที่ปาดคราบเลือดที่มุมปากออกอย่างลวกๆ เขาไม่ต้องการให้ใครเห็นสภาพอันน่าอับอายของตัวเอง เขาคือองค์รัชทายาทแห่งแผ่นดิน ต่อให้เป็นอย่างไรก็ยังต้องรักษาหน้าตาไว้ เมื่อเห็นท่าทางเช่นนี้ของหยุนลี่ บรรด

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1472

    “เฮ้อ…” จักรพรรดิเหวินถอนหายใจอีกครั้ง ก่อนจะตบมือหยุนลี่เบาๆ แล้วถามต่อ "เจ้าไปคุยกับเจ้าหกมาเป็นอย่างไรบ้าง?" พอพูดถึงเรื่องนี้ ไฟโทสะที่หยุนลี่เพิ่งกดไว้ก็ปะทุขึ้นมาอีกครั้ง แต่โชคดีที่เขาเพิ่งพ่นเลือดไปสองครั้งและปลอบใจตัวเองมาพอสมควร เลยไม่ถึงกับพ่นเลือดออกมาอีก ถึงจะโกรธแค่ไหน แต่หยุนลี่ก็ยังเล่าเรื่องข้อตกลงระหว่างเขากับหยุนเจิงออกมา "ไอ้ลูกอกตัญญูช่างกล้าบ้าบิ่น!" พอจักรพรรดิเหวินได้ฟังเรื่องราวจากหยุนลี่ ก็โมโหจนหายใจแรง "เสด็จพ่ออย่าทรงกริ้ว ขอให้รักษาพระวรกายไว้ก่อนเถิด..." หยุนลี่รีบยื่นมือไปช่วยประคองลมหายใจของจักรพรรดิเหวินให้สงบลง จักรพรรดิเหวินพ่นลมหายใจอย่างแรงอยู่พักใหญ่ จนในที่สุดก็เริ่มสงบลงได้ หลังจากนั้นไม่นาน จักรพรรดิเหวินก็หันไปมองหยุนลี่ด้วยสีหน้าเย็นชา "พรุ่งนี้เจ้าเด็กอกตัญญูยังต้องมาคารวะข้า เจ้าคิดว่าถ้าข้าให้คนซุ่มรอไว้ก่อน จะมีโอกาสจับมันได้ครั้งเดียวหรือไม่?" "ไม่ได้เด็ดขาด!" หยุนลี่รีบห้ามพระองค์จากความคิดบ้าคลั่งนั้น "เสด็จพ่อก็ทรงเห็นแล้วว่าเจ้าหกระวังตัวตลอดเวลา หากจับตัวมันไม่ได้ในการลงมือครั้งเดียว จะยิ่งทำให้มันโกรธแค้น ใน

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1473

    "นี่..." หยุนลี่อ้าปากค้างไปชั่วขณะ แต่ไม่สามารถเอ่ยอะไรออกมาได้ เขารู้ดีว่าจักรพรรดิเหวินตรัสอย่างมีเหตุผล ตระกูลใหญ่และขุนนางไม่ได้สนใจว่าใครจะขึ้นเป็นฮ่องเต้ พวกเขาสนแต่ผลประโยชน์ของตัวเองเท่านั้น ตอนนี้หยุนเจิงมีกองกำลังที่แข็งแกร่ง หากเขาก่อกบฏ เกรงว่าตระกูลใหญ่และขุนนางหลายคนจะเข้าข้างหยุนเจิง บางตระกูลที่มีความทะเยอทะยาน อาจถึงขั้นร่วมมือกันยกทัพก่อกบฏ แค่หยุนเจิงคนเดียวก็จัดการได้ยากมากอยู่แล้ว ถ้าหลังบ้านของเรายังมีปัญหาเพิ่มเติม ราชสำนักอาจไม่มีแม้แต่แรงที่จะต่อต้านเลยก็เป็นได้ หยุนลี่ครุ่นคิดอยู่นาน ในที่สุดก็ตัดสินใจกัดฟันพูดว่า "ลูกจะเชื่อเสด็จพ่อ! เมื่อกลับถึงเมืองหลวง ลูกจะทำทุกวิถีทางเพื่อลดอำนาจของพวกตระกูลใหญ่และขุนนาง!" เอาเป็นว่าทำตามนี้! ถ้าไม่จัดการกับพวกตระกูลใหญ่และขุนนาง เงินทองของตัวเองจะมาจากไหน? เพราะนั่นมันตั้งสี่แสนตำลึงเงินนะ! เงินที่ยึดมาได้จากพวกตระกูลใหญ่และขุนนาง บางส่วนจะสามารถเข้ากระเป๋าของตัวเองได้ เพื่อชดเชยความเสียหาย ส่วนหนึ่งสามารถนำเข้าคลังหลวง เพื่อนำไปเตรียมการกองทัพและป้องกันหยุนเจิง! "ถูกต้องแล้ว!" จักรพรรดิเห

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1474

    หยุนลี่พลันเข้าใจแจ่มแจ้ง มองจักรพรรดิเหวินด้วยความนับถือเต็มใบหน้าเสด็จพ่อช่างมีความคิดล้ำลึกยิ่งนัก!แม้กระทั่งเรื่องนี้ก็ยังทรงคำนึงถึง!“เสด็จพ่อทรงมีสายตากว้างไกล ลูกนับถือจนสุดหัวใจพ่ะย่ะค่ะ!”หยุนลี่กล่าวด้วยความจริงใจนี่หาใช่คำเยินยอไม่ แต่เป็นความนับถืออย่างแท้จริงเพียงเรื่องเดียว กลับมีจุดประสงค์มากมายถึงเพียงนี้“เจ้าสาม เจ้ายังอ่อนประสบการณ์เกินไป…”จักรพรรดิเหวินถอนหายใจเบาๆ “เรื่องนี้เจ้ายังต้องเรียนรู้จากเจ้าหกให้มาก! หากเจ้าหกมีเพียงกำลังทหารแข็งแกร่ง ข้าก็หาได้หวาดกลัวเขาไม่! แต่สิ่งที่น่ากลัวที่สุดในตัวเจ้าหกลูกอกตัญญูผู้นี้คือสมองของเขา เขามักคิดการณ์ไกลอยู่เสมอ เขาอยู่ในจวนปี้ปัวมาสองสิบกว่าปี ข้าคิดว่าเขาคงใช้เวลาส่วนใหญ่หมกมุ่นอยู่กับเรื่องเหล่านี้…”ในข้อนี้ หยุนลี่เองก็เห็นด้วยไม่มีใครรู้เท่ากับเขาว่าเจ้าหกมีความเจ้าเล่ห์เพียงใดไอ้สารเลวนี้ เมื่อก่อนในจวนปี้ปัวทำตัวขี้ขลาดแน่นอนว่าคงหมกมุ่นอยู่แต่การวางแผนเล่นงานผู้อื่น!ไม่เช่นนั้น ไอ้สารเลวนี้จะมีความเจ้าเล่ห์ได้ถึงเพียงนี้หรือ?“เสด็จพ่อสั่งสอนได้ถูกต้องพ่ะย่ะค่ะ!”หยุนลี่กล่าวด้วยความละอาย

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1475

    “หาอะไร!”จักรพรรดิเหวินพูดด้วยความหงุดหงิด “อย่าหาว่าข้าไม่เตือน หากพี่สามของเจ้าถึงกับไม่อยากเป็นองค์รัชทายาทเพราะเจ้า ต่อไปเรื่องยุ่งเหยิงทั้งหมด เจ้าก็รับผิดชอบเองแล้วกัน!”“คงไม่ถึงขนาดนั้นกระมังพ่ะย่ะค่ะ?”หยุนเจิงได้แต่ยิ้มทั้งน้ำตาเจ้าสามเพื่อจะได้ตำแหน่งองค์รัชทายาท อะไรที่ทำได้เขาก็ทำทั้งนั้นแค่เล่นงานเขาเล็กน้อย จะถึงขั้นไม่อยากเป็นองค์รัชทายาทเลยหรือ?ถ้าให้เจ้าสามขึ้นเป็นจักรพรรดิ แล้ววันใดศัตรูต่างชาติบุกเข้ามา เขาจะไม่คิดอยากเป็นจักรพรรดิอีกหรืออย่างไร?“ไม่ถึงขนาดนั้นบ้าอะไร!”จักรพรรดิเหวินพ่นลมอย่างไร้มารยาท “ในประวัติศาสตร์ทุกยุคทุกสมัย เว้นแต่พวกที่ใกล้ล่มสลาย ไม่มีองค์รัชทายาทที่ไร้น้ำยาเท่านี้มาก่อน! ข้าบอกเจ้าแล้วว่าเขายังมีประโยชน์มากนัก ต่อไปเจ้าจงสงบเสงี่ยมหน่อย อย่าเล่นงานพี่สามของเจ้าโดยไม่มีเหตุผล!”บางครั้งเมื่อคิดถึง ก็อดสงสารเจ้าสามไม่ได้ไม่รู้ว่า หากเจ้าสามรู้ความจริงเข้า จะถึงกับเป็นบ้าหรือไม่แม้ว่าจะไม่ขัดขวางหยุนเจิงเล่นงานเจ้าสาม แต่ทุกเรื่องต้องมีขอบเขต!โชคดีที่พี่เจ้าสามยังอายุน้อยหากเจ้าสามอายุเท่าตนเอง เกรงว่าคงถูกเจ้าลูกอกตัญ

Latest chapter

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1498

    “อืม เรื่องนี้เจ้าต้องใส่ใจให้มาก!” จักรพรรดิเหวินตรัสเตือน “อย่าปล่อยให้คนของเจ้าหกแฝงตัวอยู่รอบตัวเจ้าเพื่อสืบข่าวอีกต่อไป!” ในชั่วขณะนั้น หยุนลี่เริ่มคิดถึงผู้คนที่เคยร่วมวางแผนกำจัดหยุนเจิงกับเขาก่อนหน้านี้ เฉียวเหยียนเซียน ฮั่วเหวินจิ้ง... แม้กระทั่งหยวนกุยก็ยังไม่รอดพ้นจากความสงสัยของเขา แต่จากสถานการณ์ในปัจจุบัน ดูเหมือนว่าคนเหล่านี้ไม่มีใครแสดงพฤติกรรมน่าสงสัย หรือว่า คนของเจ้าหกที่แฝงตัวอยู่ จะซ่อนตัวได้ลึกถึงเพียงนี้? “กลับเมืองหลวงแล้วค่อยตรวจสอบอย่างละเอียดอีกที!” จักรพรรดิเหวินยกพระหัตถ์ขึ้นเล็กน้อยเป็นสัญญาณให้หยุนลี่วางใจ ก่อนจะมองเขาด้วยความอ่อนโยน “ข้ารู้ว่าเจ้าถูกเจ้าหกบีบเงินไปถึงสี่ล้านตำลึง ในใจเจ้าคงอึดอัดและเจ็บปวด ข้าจึงให้จางซูช่วยสร้างโรงกลั่นสุราไว้ กลับไป ข้าจะยกโรงกลั่นนั้นให้เจ้า” “เสด็จพ่อ เรื่องนี้... ลูกไม่อาจรับได้พ่ะย่ะค่ะ!” หยุนลี่ตกใจ รีบปฏิเสธพร้อมกับโบกมือไปมา “ไม่มีอะไรที่เจ้าจะรับไม่ได้! แผ่นดินนี้ข้าก็จะยกให้เจ้าแล้ว ข้ายังจะมาสนใจโรงกลั่นสุราอีกหรือ?” จักรพรรดิเหวินตรัสพร้อมส่ายพระพักตร์เบาๆ ก่อนจะกล่าวด้วยน

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1497

    เช้าตรู่วันรุ่งขึ้น จักรพรรดิเหวินทรงส่งคนมาแจ้งว่า พระองค์จะเสด็จออกจากหัวเมืองสี่ทิศในวันนี้ เมื่อได้รับข่าวนี้ หยุนเจิงถึงกับถอนหายใจด้วยความโล่งอก อย่างไรก็ตาม ก่อนเสด็จจากไป จักรพรรดิเหวินได้ทรงมีพระบัญชาให้โจวเต้ากงนำกองทัพไปประจำการแนวหน้าที่จูโจว และให้จ้าวจี๋นำกองทัพกลับไปยังตะวันตกเฉียงเหนือ กองกำลังในมือของหยุนเจิงมีมากพออยู่แล้ว หากปล่อยให้กองทัพสามหมื่นนายในจูโจวอยู่ภายใต้การควบคุมของหยุนเจิงด้วย อาจทำให้เกิดข้อสงสัยขึ้นมาได้ สำหรับเรื่องนี้ หยุนเจิงไม่มีความคิดเห็นใดๆ เมื่อสองวันก่อน ตอนที่เขาเข้าไปถวายพระพรจักรพรรดิเหวิน พระองค์ก็ได้ทรงบอกเรื่องนี้ไว้แล้ว อย่างไรเสีย โจวเต้ากงก็ได้ส่งข่าวลับมาให้เขาทราบอยู่ก่อนแล้ว หากเขาต้องการบุกจูโจวจริงๆ โจวเต้ากงก็คงจะนำกองทัพยอมจำนนเสียเอง หลังจากทานมื้อเช้า หยุนเจิงและเจียเหยาก็นำขุนนางทั้งหลายออกไปส่งจักรพรรดิเหวิน หยุนลี่ และคณะเจ้าหน้าที่กระทรวงพิธีการออกจากหัวเมืองสี่ทิศ ก่อนจากกัน หยุนเจิงก็รักษาคำพูดโดยการคืนป้ายทองคำให้แก่จักรพรรดิเหวิน และกระซิบพูดบางอย่างกับหยุนลี่ ไม่นานหลังจากออกจากหัวเม

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1496

    อย่างไรก็ตาม ทันทีที่พูดจบ หยุนลี่ก็รู้สึกเสียใจในทันที ตอนนี้เขาควรจะแสดงความอ่อนข้อให้ไอ้สุนัขนี่แท้ๆ! ทำไมถึงปล่อยให้คำพูดไม่กี่คำของมันทำให้ตนต้องมาต่อกรกับมันอีกแล้วล่ะ? เฮ้อ! เจ้าไอ้สุนัขนี่ เวลาพูดจามันช่างยั่วโมโหจริงๆ! “ได้ๆ” หยุนเจิงหัวเราะเสียงดัง “เช่นนั้นข้าขอไปส่งพี่สามด้วยตนเอง” “ไม่ต้องลำบากน้องหกหรอก!” หยุนลี่รีบปฏิเสธ ไม่อยากอยู่ต่อให้นานไปกว่านี้ เกรงว่าจะถูกเล่นงานอีก “ก็ได้!” หยุนเจิงไม่ดึงดัน “อ้อ จริงสิ พี่สาม ตอนเดินทางผ่านจูโจว ก็อย่าลืมช่วยข้าเก็บหนี้ด้วยนะ” เก็บหนี้? เมื่อได้ยินสองคำนี้ หยุนลี่แทบจะกระโดดขึ้นมาด่ามารดา ถ้าเสด็จพ่อไม่เตือน เขาคงไม่รู้เลยว่าตัวเองถูกเจ้าไอ้สุนัขนี่หลอกอีกแล้ว! ไร้ยางอาย! หยุนลี่สบถอย่างโมโหในใจ แต่ใบหน้ายังคงสงบนิ่ง “น้องหกไม่ต้องห่วง พี่สามในฐานะองค์รัชทายาท ก็แพ้เดิมพันเจ้าต่อหน้าผู้คนไปแล้ว พี่สามจะผิดคำพูดได้อย่างไร?” หยุนลี่เริ่มตระหนักว่าการพูดคุยกับหยุนเจิงก็มีข้อดีอยู่บ้าง อย่างน้อย มันช่วยฝึกความอดทนของเขาได้เป็นอย่างดี “ขอบคุณพี่สามมาก!” ใบหน้าของหยุนเจิงเต็มไปด

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1495

    จวนอ๋องขณะที่หยุนเจิงและเจียเหยากำลังเตรียมตัวทานมื้อค่ำ หยุนลี่ก็นำคนมาส่งรางวัลที่จักรพรรดิเหวินมอบให้ การที่จักรพรรดิเหวินให้หยุนลี่ องค์รัชทายาท มาส่งรางวัลด้วยตัวเอง ทำให้เจียเหยารู้สึกตื่นเต้นและคาดหวังอยู่ไม่น้อย รางวัลอะไรก็ไม่สำคัญ ขอแค่เป็นของที่มีค่าและขายได้ก็พอ แต่เมื่อขันทีอ่านรายชื่อสิ่งของที่เป็นรางวัลเสียงดัง เจียเหยาก็ถึงกับอึ้งไป หวีหยกขาวประดับทองคำ ปิ่นทองคำประดับดอกไม้ เครื่องประดับปิ่นทองที่แกว่งไปมาได้ ต่างหูแก้ว รวมถึงแป้งฝุ่นและเครื่องประทินโฉม... ทั้งหมดล้วนเป็นของใช้สำหรับผู้หญิง! แม้ว่าสิ่งของเหล่านี้จะมีค่าอยู่บ้าง แต่ทำไมนางกลับรู้สึกว่ารางวัลนี้แฝงความนัยบางอย่าง เมื่อขันทีอ่านรายชื่อรางวัลจนจบ เจียเหยาก็ยังไม่สามารถตั้งสติกลับมาได้ “เจียเหยา ควรขอบคุณเสด็จพ่อได้แล้ว” หยุนเจิงเตือนจากด้านข้าง ในตอนนี้เอง เจียเหยาจึงได้สติกลับมา “ลูกขอบพระคุณเสด็จพ่อสำหรับรางวัล” เจียเหยาขอบคุณด้วยรอยยิ้มฝืนๆ หยุนเจิงยิ้มพลางเดินไปหาหยุนลี่ “พี่สาม ท่านมาถูกเวลาพอดี พวกเรากำลังจะทานมื้อค่ำ! หากพี่สามไม่รังเกียจ ทำไมไม่ร่วมโต๊ะทา

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1494

    หยุนลี่พยักหน้าอย่างหนักแน่น “ลูกจะฝึกฝนตนเองอย่างจริงจัง และจะไม่ทำให้เสด็จพ่อผิดหวังเป็นอันขาด!” “อืม!” จักรพรรดิเหวินพยักหน้าเบาๆ ก่อนถามต่อ “แล้วเจ้าคิดว่า ข้าควรให้รางวัลเจียเหยาอย่างไรดี?” “เอ่อ?” คำถามนี้ของจักรพรรดิเหวินทำให้หยุนลี่ถึงกับงงงัน ควรให้รางวัลเจียเหยาอย่างไร? เรื่องนี้ยังต้องถามด้วยหรือ? ก็คงแค่ให้ตามธรรมเนียมพอเป็นพิธีเท่านั้นมิใช่หรือ? หรือว่าจะต้องให้รางวัลใหญ่โตกับเจียเหยาจริงๆ? สิ่งที่ให้กับเจียเหยา สุดท้ายก็จะตกไปอยู่กับเจ้าหกอยู่ดีมิใช่หรือ? การให้รางวัลใหญ่กับเจียเหยา มีความแตกต่างอะไรกับการสนับสนุนศัตรูโดยตรงกันเล่า? เหตุผลง่ายๆ เช่นนี้ ตนยังเข้าใจ เสด็จพ่อจะไม่เข้าใจได้อย่างไร? แต่เสด็จพ่อกลับถามเช่นนี้ ตกลงว่าเสด็จพ่อมีความตั้งใจอะไรแฝงอยู่กันแน่? หยุนลี่เต็มไปด้วยความสงสัยในใจ พยายามคิดอย่างหนักถึงเจตนาของจักรพรรดิเหวิน คิดไปคิดมา หัวใจของหยุนลี่พลันสะดุ้งขึ้น หรือว่า... เสด็จพ่อกำลังคิดจะดึงเจียเหยาเข้ามาอยู่ฝ่ายเดียวกับพระองค์? หากต้องให้รางวัลใหญ่กับเจียเหยา ดูเหมือนเหตุผลเดียวที่เป็นไปได้ก็คือเรื่อง

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1493

    จักรพรรดิเหวินเพิ่งจากไปได้ไม่นาน เจียเหยาก็ขี่ม้ามาหยุดอยู่ตรงหน้าหยุนเจิง เจียเหยากระโดดลงจากม้า มองหยุนเจิงด้วยรอยยิ้มสดใส “เป็นอย่างไรบ้าง ข้าไม่ได้ทำให้เจ้าขายหน้าหรอกใช่หรือไม่?” “ชูหน้าชูตาทีเดียว!” หยุนเจิงหัวเราะดังลั่น “เมื่อครู่เสด็จพ่อยังบอกว่า จะให้รางวัลเจ้าในภายหลังด้วย!” รางวัล? ดวงตาของเจียเหยาส่องประกายขึ้นทันที ก่อนจะยิ้มถามด้วยความคาดหวัง “รางวัลที่เสด็จพ่อให้ข้า เจ้าคงไม่คิดจะยึดไว้เองหรอกนะ?” หยุนเจิงหัวเราะ พลางแหย่นางว่า “โถ่ พอมีรางวัลก็เรียกเสด็จพ่อ แต่พอไม่มีรางวัลก็เป็นเสด็จพ่อของเจ้า?” ใบหน้าของเจียเหยาขึ้นสีแดงระเรื่อ รีบแก้ตัวอย่างลนลาน “ก่อนหน้านี้ข้าแค่ยังไม่ชินเท่านั้นเอง!” “อืม อืม ข้าเชื่อเจ้า” หยุนเจิงหัวเราะเสียงดัง “ไปเถอะ กลับกันก่อน ค่อยว่ากันทีหลัง! วางใจเถอะ รางวัลที่เสด็จพ่อให้เจ้า ข้าไม่อยากได้หรอก” “เช่นนั้นก็ค่อยยังชั่ว!” เจียเหยาพูดยิ้มๆ อย่างพอใจ แม้นางจะไม่รู้ว่าเสด็จพ่อจะให้รางวัลอะไร แต่ไม่ว่าอย่างไร รางวัลจากเสด็จพ่อย่อมไม่ใช่สิ่งของธรรมดา สำหรับนาง การได้อะไรมาก็ถือว่าได้กำไรแล้ว นางไม่กล้าค

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1492

    หยุนลี่ถอนหายใจในใจอย่างเงียบๆ ในขณะที่หยุนลี่กำลังคิดฟุ้งซ่าน รอบแรกของการแข่งขันก็จบลงแล้ว ทหารคนหนึ่งแบกเป้ายิงธนูวิ่งมาทางนี้ “เชิญฝ่าบาทตรวจสอบเป้าพ่ะย่ะค่ะ!” เป้าของเฉียวเหยียนเซียน มีลูกธนูสามดอก ซึ่งสองดอกยิงเข้ากลางเป้า และอีกดอกหนึ่งห่างจากกลางเป้าสองนิ้ว เมื่อเห็นผลลัพธ์นี้ หยุนลี่ก็รู้ได้ทันทีว่าสภาพจิตใจของเฉียวเหยียนเซียนได้รับผลกระทบ ไม่เช่นนั้น ด้วยความสามารถของเฉียวเหยียนเซียน ธนูทั้งสามดอกควรจะเข้ากลางเป้าทั้งหมด ส่วนเป้าของเจียเหยา ธนูทั้งสามดอกเข้ากลางเป้าทั้งหมด และแทบจะเป็นตำแหน่งเดียวกันทั้งหมด “ยอดเยี่ยม!” เมื่อเห็นเช่นนี้ แม้แต่หยุนลี่ก็อดไม่ได้ที่จะเอ่ยปากชมด้วยความจริงใจ หากเจียเหยาต้องการลอบสังหารใครสักคน ตราบใดที่ระยะห่างพอเหมาะ และให้นางมีโอกาสง้างธนูตั้งลูกศร เกรงว่าคนผู้นั้นจะไม่มีโอกาสหนีรอดเลยแม้แต่น้อย ทันใดนั้น หยุนลี่รู้สึกถึงความเย็นวาบที่แล่นขึ้นมาบริเวณด้านหลังลำคอ “ยอดเยี่ยมจริงๆ!” จักรพรรดิเหวินพยักหน้าเบาๆ เอ่ยขึ้นด้วยความรู้สึกทึ่ง “หญิงผู้นี้ หากเกิดในต้าเฉียน จะดีแค่ไหนกัน!” “เสด็จพ่อ เจียเหยาในตอนนี้ก

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1491

    เมื่อเห็นการเคลื่อนไหวของเจียเหยา ทุกคนถึงกับตะลึงอ้าปากค้าง ทำได้เช่นนี้ด้วยหรือ? ไม่ต้องพูดถึงทหารธรรมดา แม้แต่เหล่าแม่ทัพในกองทัพไม่น้อยยังตกตะลึงจนพูดไม่ออก แม้กระทั่งหยุนเจิงที่เคยได้ยินเจียเหยาบอกแล้วว่านางยิงธนูเช่นนี้ได้ ก็ยังอดทึ่งในใจไม่ได้ศิลปะการยิงธนูของหญิงคนนี้ เรียกได้ว่าเข้าขั้นเทพเจ้าเลยทีเดียว ภายใต้สายตาตกตะลึงของผู้คน ลูกธนูที่เจียเหยายิงออกไปพุ่งตรงเข้าสู่เป้า ตรงกลางเป้า! ครั้งนี้ ผู้คนยิ่งตกตะลึงกว่าเดิม ยิงธนูเช่นนี้ ไม่เพียงแต่โดนเป้า ยังตรงกลางเป้าด้วย? นี่มันศิลปะการยิงธนูที่ท้าทายสวรรค์ขนาดไหนกัน! ท่ามกลางเสียงร้องอุทานของผู้คน เจียเหยาใช้ท่าตะขอทองกลับหัว หยิบลูกธนูอีกครั้ง พร้อมกับเอนตัวลงนอนบนหลังม้า ใช้เท้าทั้งสองยันคันธนูไว้ แล้วดึงสายธนูด้วยมือเดียวพร้อมตั้งลูกธนู ผู้คนที่ยังไม่ทันตั้งสติจากภาพก่อนหน้า เมื่อเห็นวิธีการยิงธนูเช่นนี้ ยิ่งทำให้ผู้ชมรอบสนามตกใจจนแทบคางหลุด ฟิ้ว! ลูกธนูแหวกอากาศออกไปอีกครั้ง พุ่งตรงเข้าสู่เป้าตัวที่สอง ตรงกลางเป้าอีกครั้ง! นี่…นี่มันทำได้ด้วยหรือ? ทุกคนอ้าปากค้าง ราวกับไม่เชื่

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1490

    “พ่ะย่ะค่ะ!” หยุนลี่รับคำสั่งแล้วถอยออกไป เมื่อหยุนลี่จากไป ขุนนางทั้งหลายและผู้ติดตามของจักรพรรดิเหวินก็ล่าถอยออกไปอย่างรู้กาลเทศะ จักรพรรดิเหวินเรียกหยุนเจิงเข้ามาใกล้ เอ่ยถามเสียงเบา “เจ้าคิดจะทำอะไรอยู่กันแน่?” “ไม่มีอะไร ลูกแค่อยากทำเรื่องนี้ให้แน่นอนขึ้นเท่านั้น” หยุนเจิงอธิบาย “ก่อนหน้านี้ลูกก็เคยพูดเรื่องนี้กับพี่สามแล้ว และพี่สามก็รับปากไว้! แต่ลูกกลัวว่าพี่สามจะคิดได้ทันที แล้วส่งคนไปจับตัวเมิ่งหยุนฉี่มาหาลูกตรงๆ แล้วให้ลูกไปเก็บเงินจากเมิ่งหยุนฉี่เอง...” เมื่อได้ยินคำพูดของหยุนเจิง จักรพรรดิเหวินอดไม่ได้ที่จะหัวเราะเบาๆ ด้วยความขบขัน เจ้าลูกตัวดีคนนี้ ที่แท้ก็กำลังรอเจ้าสามอยู่ตรงนี้เอง! คิดแล้วก็เสียเปล่าที่ตนยังกังวลว่าเจ้าลูกตัวดีนี่จะคิดแผนการเล่นงานเจ้าสามหนักๆ อีกครั้ง! แต่ว่าก็ว่าเถอะ เจ้าลูกตัวดีนี่ช่างรอบคอบจริงๆ!ถ้าตนเป็นเจ้าสาม ก็คงจะจับตัวเมิ่งหยุนฉี่มาโยนให้เขาโดยตรงแน่นอน หนี้สองล้านตำลึงเช่นนี้ จะเก็บได้ง่ายๆ ที่ไหนกัน? แม้ว่าองค์รัชทายาทหยุนลี่จะช่วยเก็บหนี้ ก็ต้องดูว่าเมิ่งหยุนฉี่จะมีเงินมากขนาดนั้นหรือไม่! เฮ้อ! เจ้า

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status