แชร์

บทที่ 1247

ผู้เขียน: เหลียงซานเหลากุ่ย
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-12-08 17:00:00
“รายงาน!”

“กราบทูลท่านอ๋อง กองทัพของเราโดนศัตรูซุ่มโจมตี กองกำลังที่โจมตีด้านหน้าสูญเสียหนัก และสถานการณ์วุ่นวายอย่างมาก…”

ทหารส่งสารวิ่งเข้ามารายงานอย่างเร่งรีบ

โหลวอี้และอวี้ไท่ที่อยู่ห่างจากแนวหน้าพอสมควร แม้จะมองเห็นว่าการโจมตีทางปีกไม่ประสบความสำเร็จ แต่พวกเขาก็ยังไม่รู้รายละเอียดว่าเกิดอะไรขึ้น

หลังจากฟังทหารส่งสารอธิบายอย่างละเอียด ทั้งสองก็เข้าใจสถานการณ์แนวหน้า

“ศัตรูมันอ่านแผนของเราออกแล้ว!”

โหลวอี้ใบหน้าเย็นเยียบ หันไปมองอวี้ไท่ที่สีหน้ามืดครึ้มไม่แพ้กัน

“แม่ทัพอาวุโสอวี้ ท่านคิดว่าเราควรสั่งถอนกำลังออกมาหรือควรโจมตีต่อ?”

กับดักม้าล้มและฆ้องทองแดง!

นี่มันถูกเตรียมไว้เพื่อรับมือกับแผนม้าเพลิงของเราโดยเฉพาะ!

เมื่อวานนี้ ทหารม้าศัตรูเพิ่งบุกจากปีกทั้งสอง

แสดงว่าตอนนั้น พวกมันยังไม่ได้ขุดกับดักม้าล้มเลยด้วยซ้ำ

กับดักเหล่านี้ถูกขุดขึ้นภายหลังอย่างแน่นอน!

ศัตรูวางแผนไว้ล่วงหน้าเพื่อรับมือกับเราโดยเฉพาะ!

แย่จริง!

แผนการที่ข้าทำขึ้นอย่างรอบคอบ กลับถูกศัตรูมองออกล่วงหน้า!

เมื่อเผชิญคำถามของโหลวอี้ อวี้ไท่ตกอยู่ในความลังเล

ตามหลักการ ในสถานการณ์เช่นนี้ พวกเขาควรถอนกำล
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1248

    ทหารบางส่วนของโฉวฉื่อยกบันไดไม้เดี่ยวอย่างง่ายขึ้นมา โดยมีทหารถือโล่คุ้มกันจนถึงฐานกำแพงเมื่อวางบันไดบนกำแพงเสร็จ พวกเขาก็รีบปีนขึ้นไปกำแพงชั่วคราวที่หยุนเจิงสั่งสร้างมีความสูงเพียงประมาณหนึ่งจั้งครึ่งคนที่ว่องไวสามารถปีนขึ้นไปได้อย่างรวดเร็วแต่ยังไม่ทันที่พวกเขาจะปีนถึงด้านบน ก้อนหินหนักหลายสิบชั่งก็ถูกโยนลงมาทับบางคนถูกทหารผลักบันไดตกลงไปแต่สิ่งนี้ไม่อาจหยุดยั้งการบุกของทหารโฉวฉื่อที่ไม่กลัวตายได้คนที่อยู่ด้านหน้าล้มลง คนด้านหลังกลับพุ่งเข้ามาแทนตราบใดที่พวกเขาสามารถยึดพื้นที่บางส่วนของกำแพงได้ พวกเขาก็จะมีความได้เปรียบการบุกอย่างไม่เกรงกลัวของศัตรูทำให้กองทัพข้ารับใช้ต้องแบกรับแรงกดดันอย่างมาก“ต้านไว้! ต้านไว้!”“กดดันศัตรูให้ถอยกลับไป!”ฮั่วกู้ที่เปื้อนไปด้วยเลือดเต็มร่าง กำลังนำกองกำลังของเขาออกโจมตีโต้กลับก่อนหน้านี้พวกเขาเลือกที่จะละทิ้งช่องว่างแรกไปโดยตั้งใจ แต่ตอนนี้จำเป็นต้องยึดคืนให้ได้หากไม่ทำ ศัตรูจะกดดันเข้ามาเรื่อยๆด้วยกองศพที่ทับถมกันอยู่ กับดักม้าล้มและท่อนไม้ปิดช่องก็ไร้ผลหากไม่ผลักดันศัตรูกลับไป ช่องว่างทั้งหมดจะถูกปิดด้วยกองศพในเวลานั

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-08
  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1249

    เมื่อเห็นภาพตรงหน้า หยุนเจิงหรี่ตาลงทันทีศัตรูกำลังใช้กลยุทธ์โจมตีเป็นระลอกอย่างต่อเนื่อง เพื่อกดดันพวกเขา ไม่เปิดโอกาสให้ได้พักหายใจศัตรูต้องการทะลวงแนวป้องกันของพวกเขาให้ได้ในรวดเดียว โดยไม่สนใจความสูญเสียโหดเหี้ยม!หากการต่อสู้ดำเนินต่อไปเช่นนี้ กองทัพข้ารับใช้จะยิ่งเหนื่อยล้า และความสูญเสียก็จะยิ่งเพิ่มมากขึ้นเมื่อกองกำลังใหม่ของศัตรูเริ่มบุกเข้ามา กองกำลังโจมตีระลอกแรกที่สูญเสียหนักก็เริ่มถอยขณะที่ศัตรูถอยกลับ กองทัพข้ารับใช้ที่ต่อสู้อย่างหนักมานานก็ได้รับโอกาสหายใจหายคอหลายคนฉวยโอกาสดื่มน้ำจากกระบอกน้ำ บ้างช่วยกันหามผู้บาดเจ็บหนักกลับไปยังแนวหลัง และบางส่วนเริ่มเก็บกวาดศพจากสนามรบหยุนเจิงตั้งใจจะให้กองทัพข้ารับใช้ทางปีกทั้งสองต้านทานการโจมตีระลอกที่สองของศัตรูแต่หลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่ง เขาก็ตัดสินใจเปลี่ยนแผนกองทัพข้ารับใช้ได้แสดงความสามารถอย่างดีเยี่ยม แต่ตอนนี้พวกเขาเหนื่อยล้าจนเกินไปหากบังคับให้พวกเขาต่อสู้ต่อ ความสูญเสียจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วแม้พวกเขาจะเป็นกองทัพข้ารับใช้ที่มาจากชนเผ่าอื่น แต่ก็ถือเป็นกำลังสำคัญของตนหากปล่อยให้พวกเขาสูญสิ้นจนหมดสิ้

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-09
  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1250

    "นี่..."อวี้ไท่ ขมวดคิ้วแน่นในตอนแรก เขาเองเป็นคนที่ยืนกรานให้โจมตีอย่างต่อเนื่อง ไม่ปล่อยให้ศัตรูได้พักหายใจแต่ตอนนี้ เขากลับอยากถอนกำลัง ส่วนโหลวอี้กลับยืนยันที่จะสู้ต่อหากไม่ใช่เพราะแคว้นต้าเย่ว์ก็ต้องจ่ายราคาหนักหน่วงในสงครามครั้งนี้เช่นกัน เขาคงสงสัยว่าโหลวอี้ตั้งใจจะทำให้เขาขุ่นเคืองแต่คำพูดของโหลวอี้ก็มีเหตุผลที่ปฏิเสธไม่ได้ในสงครามที่อาศัยกำแพงแบ่งส่วนเป็นแนวป้องกัน แม้แต่คนที่ไม่มีการฝึกฝน หากมีอาวุธและเกราะ ก็สามารถเข้าร่วมป้องกันได้ดังนั้น ศัตรูจะมีกำลังเสริมใหม่ๆ เพิ่มเข้ามาเรื่อยๆในขณะที่พวกเขากำลังสูญเสียกำลังพลไปเรื่อยๆสถานการณ์เช่นนี้จะทำให้สถานะของพวกเขายิ่งเลวร้ายลง"ส่งกำลังเพิ่มอีกหนึ่งหมื่นนาย!"โหลวอี้กัดฟันสั่ง"เราจะปล่อยให้ศัตรูได้พักไม่ได้ มิฉะนั้น การเสียสละของพวกเราจะสูญเปล่า!"ถึงขั้นนี้แล้ว การถอยกลับไม่ใช่เรื่องง่ายการถอยนั้นง่าย แต่หากพวกเขาถอย ศัตรูจะมีโอกาสฟื้นตัวและจัดกำลังป้องกันใหม่ตอนนี้ พวกเขากำลังกัดฟันต่อสู้ ศัตรูก็เช่นกันใครที่สามารถยืนหยัดจนถึงที่สุด จะเป็นผู้ชนะ!เมื่อเห็นท่าทีแน่วแน่ของโหลวอี้ อวี้ไท่ก็รู้สึกฮึดข

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-09
  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1251

    ความจริงพิสูจน์ว่าหยุนเจิงยังคงประเมินความมุ่งมั่นของโหลวอี้และอวี้ไท่ต่ำเกินไปหลังรุ่งสาง โฉวฉื่อและแคว้นต้าเย่ว์ยังคงโจมตีอย่างหนักหน่วงช่องว่างหลายแห่งในแนวป้องกันถูกศัตรูเจาะทะลุซ้ำแล้วซ้ำเล่า แม้แต่กำแพงก็เคยถูกยึดครอง แต่พวกเขาก็สามารถระดมกำลังยึดคืนมาได้ศพที่เคยกองทับถมในช่องว่างถูกเคลียร์ออกไปบ้างแล้ว แต่กลับมีกองศพใหม่เพิ่มขึ้นอย่างหนาแน่นอยู่นอกกำแพงขณะนี้ มีเพียงทหารองครักษ์ 700 นายที่อยู่ข้างกายหยุนเจิงเท่านั้นที่ยังมีลูกธนูเหลือส่วนกองกำลังอื่น ลูกธนูทั้งหมดถูกใช้จนหมดแม้พวกเขาจะเก็บลูกธนูที่ศัตรูยิงมาใช้ใหม่ แต่จำนวนที่เก็บได้ก็ไม่เพียงพอต่อการใช้งานพลธนูบนกำแพงที่เคยยิงสนับสนุน ตอนนี้ต้องเปลี่ยนมาใช้ดาบต่อสู้กับศัตรูที่ปีนขึ้นมาจากกองศพกลิ่นคาวเลือดลอยคละคลุ้งไปทั่วสนามรบไม่ว่าจะเป็นทหารแคว้นต้าเฉียนหรือศัตรู ต่างสู้รบกันจนดวงตาแดงก่ำในระยะไกล กำลังเสริมของศัตรูกำลังเคลื่อนเข้ามาอีกดูเหมือนพวกมันเตรียมโจมตีอย่างหนักหน่วงต่อไปหยุนเจิง ลดกล้องส่องทางไกลลง พลางถูดวงตาที่ปวดเมื่อย"พวกบ้า!""นี่มันการทำสงครามแบบไหนกัน?""นี่มันก็ไม่สนใจชีวิตคนเกินไ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-09
  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1252

    อย่างไรก็ตาม ในรายงานการรบกลับไม่มีการกล่าวถึงรายละเอียดเกี่ยวกับทรัพย์สินหรือเสบียงที่ยึดได้ราวกับเกรงว่าหยุนเจิงจะสนใจในสิ่งที่พวกเขายึดมาได้อืม ดูเหมือนจะเป็นลายมือของเจียเหยาและก็ดูเป็นรูปแบบของเจียเหยาจริงๆ!เมื่อเห็นข้อความในจดหมาย หยุนเจิงก็ถอนหายใจยาวอย่างโล่งอกหากข่าวนี้เป็นความจริง ความกดดันทางฝั่งของอวี๋ซื่อจงจะลดลงมากหลังจากคิดอยู่ครู่หนึ่ง หยุนเจิงก็หันไปถามทหารม้าชาวเป่ยหวน"องค์หญิงเจียเหยาได้ส่งข่าวมาทางเหยี่ยวขาวมาให้ข้าด้วยหรือไม่?""มีขอรับ!"ทหารม้าพยักหน้า "ข้าน้อยกับเหยี่ยวขาวออกเดินทางมาแทบจะพร้อมกัน"เมื่อได้ยินคำตอบ หยุนเจิงถึงกับพูดไม่ออกหากสิ่งที่ทหารม้าพูดเป็นความจริง นั่นหมายความว่าเหยี่ยวขาวทำจดหมายหายระหว่างทางให้ตายเถอะ!นี่เป็นครั้งที่สองที่ใช้เหยี่ยวขาวส่งข่าว และมันกลับทำจดหมายหายเสียแล้ว?ช่างไม่น่าไว้วางใจเอาเสียเลย!หลังจากสบถในใจเสร็จ หยุนเจิงก็สั่งให้ต่งกังนำกระดาษและพู่กันมาไม่นานนัก เขาก็เขียนจดหมายเสร็จสองฉบับ ฉบับหนึ่งเป็นรายงานโดยละเอียด อีกฉบับเขียนด้วยรหัสลับแบบย่อจากนั้น เขาถามทหารม้าชาวเป่ยหวนเกี่ยวกับรายละเอียด

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-09
  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1253

    การต่อสู้ที่ดุเดือดและโหดร้ายยังคงดำเนินต่อไปตอนนี้ โหลวอี้และอวี้ไท่ราวกับนักพนันที่มุทะลุทุกครั้งที่พวกเขาส่งกำลังเสริมหลายพันคนขึ้นไป พวกเขาเดิมพันว่ากองทหารมณฑลเหนือจะไม่สามารถต้านทานได้อีกแต่ทุกครั้งที่โจมตีอย่างหนัก กองทหารมณฑลเหนือก็ยังสามารถป้องกันไว้ได้หลายครั้งที่พวกเขาอยากจะล้มเลิก แต่ก็ไม่อาจยอมแพ้หากพวกเขาหยุดตอนนี้ การเสียสละก่อนหน้านี้จะกลายเป็นเรื่องสูญเปล่าแม้กองทหารมณฑลเหนือจะมีความสูญเสีย แต่เห็นได้ชัดว่าความสูญเสียของพวกเขาน้อยกว่าฝ่ายศัตรูมาก"ฝ่าบาท เราไม่สามารถสู้แบบนี้ต่อไปได้! หากยังคงเป็นเช่นนี้ ทหารของเราจะตายกันหมด!"ครั้งนี้ไม่ใช่อวี้ไท่ที่กล่าวทักท้วง แต่เป็นคู่ฉานายพลจากแคว้นต้าเย่ว์โหลวอี้ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นรัชทายาทแห่งแคว้นต้าเย่ว์ และเป็นที่เคารพในกองทัพปกติ คู่ฉามักปฏิบัติตามคำสั่งของโหลวอี้อย่างเคร่งครัดแต่ครั้งนี้ เขาจำเป็นต้องลุกขึ้นมาคัดค้านเพราะความสูญเสียของพวกเขาหนักหนาเกินไปบริเวณกำแพงที่แตกกระจายแห่งนี้ เต็มไปด้วยซากศพทหารสามารถเหยียบศพเพื่อปีนขึ้นกำแพงและสู้ประชิดตัวกับศัตรูได้แต่การโจมตีซ้ำแล้วซ้ำเล่าของพวกเ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-10
  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1254

    เมื่อได้ยินคำพูดของอวี้ไท่ โหลวอี้ถึงกับแทบระเบิดกบฏ!นี่อวี้ไท่คิดจะเอาคำขู่เรื่อง "กบฏ" มาใช้กดดันเขาอีกแล้วหรือ?แม้โหลวอี้จะโกรธจนแทบอยากจะด่าออกมา แต่เขาก็ไม่อาจมองข้ามความเป็นไปได้นี้ความสูญเสียของทั้งสองฝ่ายในตอนนี้หนักหนาสาหัส หากแคว้นโฉวฉื่อเกิดความวุ่นวาย แคว้นต้าเย่ว์ก็จะได้รับผลกระทบเช่นกันในขณะที่โหลวอี้กำลังหงุดหงิดจนแทบจะสบถออกมา ทหารคนหนึ่งก็วิ่งเข้ามาอย่างเร่งรีบ"กราบทูลฝ่าบาท แคว้นกุ่ยฟางส่งข่าวด่วนมาขอรับ!"ข่าวด่วนจากกุ่ยฟาง?โหลวอี้รู้สึกถึงลางร้าย รีบสั่ง "เร็ว พาตัวผู้ส่งข่าวมาเร็ว!"ไม่นานนัก ทหารสื่อสารจากกุ่ยฟางก็ถูกนำตัวเข้ามาหลังจากถวายความเคารพ ทหารสื่อสารก็ส่งมอบจดหมายลายมือของแม่ทัพใหญ่แห่งกุ่ยฟางโหลวอี้รีบเปิดจดหมาย และอวี้ไท่ก็รีบเข้ามาดูด้วยเนื้อหาในจดหมายทำให้สีหน้าของทั้งสองคนมืดครึ้มในทันทีแผนการล้มเหลว! กองทัพ 40,000 นายของกุ่ยฟางที่พยายามบุกโจมตีเป่ยหวน กลับถูกเป่ยหวนซุ่มโจมตีเสียเองกองทัพ 40,000 นายนี้ได้รับความเสียหายอย่างหนัก!"พวกไร้ประโยชน์! ไร้ประโยชน์สิ้นดี!"โหลวอี้เดือดดาลจนลืมตัว ระเบิดเสียงด่ากลางที่ประชุมโดยไม่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-10
  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1255

    เมื่อโฉวฉื่อและแคว้นต้าเย่ว์เปิดการโจมตีแนวป้องกันด้านหน้า การต่อสู้เข้าสู่จุดเดือดถึงขีดสุดทหารทั้งสองฝ่ายต่างรบด้วยชีวิตที่มุมหนึ่งของสนามรบ ทหารคนหนึ่งจากกองทหารมณฑลเหนือถูกแทงทะลุร่าง แต่ก่อนจะสิ้นใจ เขายังฝืนกอดรัดศัตรูไว้แน่น และใช้ปากที่เต็มไปด้วยเลือดกัดเข้าที่คอของศัตรูอย่างดุเดือดอีกด้านหนึ่ง ทหารจากแคว้นต้าเย่ว์ที่บาดเจ็บสาหัสปีนขึ้นกำแพงมาได้ แต่รู้ตัวว่าไม่มีทางรอดชีวิต เขาใช้แรงเฮือกสุดท้ายพุ่งเข้าหาทหารกองทหารมณฑลเหนือ กอดร่างของเขาพลัดตกจากกำแพงเมื่อทหารกองทหารมณฑลเหนือร่วงลงพื้น ก็ถูกศัตรูใช้ดาบรุมฟันจนสิ้นชีวิตบนกองศพภาพเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นทั่วสนามรบไม่มีใครรู้ว่าการต่อสู้ครั้งนี้จะยุติลงเมื่อใดแต่ในหัวของทหารทุกคนมีเพียงความคิดเดียวเจ้าตาย ข้าอยู่!หรือไม่ก็ ตายไปด้วยกัน!การต่อสู้ที่โหดร้ายยังคงดำเนินต่อไป ความสูญเสียของทั้งสองฝ่ายเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเมื่อแนวป้องกันด้านหน้าถูกโจมตี กองทหารมณฑลเหนือที่สามารถผลัดเปลี่ยนกำลังพักผ่อนก็ลดลงตอนนี้ กำแพงที่สร้างขึ้นอย่างเร่งด่วนแทบไม่มีประโยชน์อะไรแล้วศัตรูเหยียบย่ำศพของทหารที่เสียชีวิตปีนขึ้

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-10

บทล่าสุด

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1386

    คนเราไม่ใช่หญ้าหรือไม้ ใครเลยจะไร้ซึ่งความรู้สึก? แต่ตราบใดที่ขึ้นนั่งบนบัลลังก์จักรพรรดิ หลายเรื่องก็จะมิอาจทำตามใจตนได้อีก เมื่อได้ขึ้นครองราชย์ ไม่ว่าเจ้าจะมีสถานะอื่นใดมากมาย สถานะแรกของเจ้าก็คือจักรพรรดิ! “ความจริง ลูกไม่ได้คิดถึงตำแหน่งนั้นมากมายเลยพ่ะย่ะค่ะ” หยุนเจิงกล่าวอย่างจริงจัง “ก็เพราะลูกเข้าใจสิ่งที่เสด็จพ่อพูด ลูกถึงไม่อยาก…” “เจ้าคิดว่าตอนนี้ยังเป็นเรื่องที่เจ้าเลือกเองได้หรือ?” จักรพรรดิเหวินตัดคำพูดของหยุนเจิงทันที “หากเจ้าไม่ขึ้นครองราชย์ แล้วผู้คนภายใต้บังคับบัญชาของเจ้าจะเป็นเช่นไร? บรรดาแม่ทัพผู้สร้างผลงานยิ่งใหญ่เหล่านี้ ใครเล่าจะทำให้พวกเขารู้สึกวางใจได้ นอกจากเจ้า?” เพราะผลงานสูงจนสั่นคลอนพระราชอำนาจใช่หรือไม่? หยุนเจิงยิ้มอย่างจนปัญญา ในข้อนี้ เขาเองก็เห็นด้วย นับแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน มีแม่ทัพมากมายที่สร้างผลงานยิ่งใหญ่แต่ต้องจบชีวิตอย่างน่าเศร้า เพียงเมื่อพวกเขาสิ้นชีวิต จักรพรรดิจึงจะวางใจได้ ไม่ฉะนั้น เมื่อแม่ทัพผู้เกรียงไกรส่งเสียงเรียก ใครเล่าจะไม่เกรงกลัว? “เรื่องในวันข้างหน้า ไว้ค่อยว่ากันเถิดพ่ะย่ะค่ะ!” หยุนเจิงไ

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1385

    หยุนเจิงเล่าเรื่องนี้กินเวลาเกือบครึ่งชั่วโมง ระหว่างนั้น จักรพรรดิเหวินแทบไม่พูดแทรก เพียงแต่ทานหม้อไฟร้อนๆ พร้อมจิบสุราไปพลาง จนกระทั่งหยุนเจิงพูดจบ จักรพรรดิเหวินจึงวางตะเกียบลง พร้อมมองหยุนเจิงตั้งแต่หัวจรดเท้าด้วยสีหน้าสงสัย “เสด็จพ่อ มองลูกเช่นนี้ทำไม?” หยุนเจิงถูกมองจนขนลุก ในใจแอบคิดว่า หรือว่าตาแก่คนนี้จะมีแผนร้ายอีกแล้ว “ใครสอนเรื่องพวกนี้ให้เจ้า?” จักรพรรดิเหวินมีสีหน้าเต็มไปด้วยความสงสัย “อย่ามาอ้างว่าหนังสือแปลกประหลาดเล่มนั้นสอนเจ้า ข้าไม่เชื่อว่าหนังสือจะมีเรื่องพวกนี้!” ศาสตร์แห่งจักรพรรดิ! นี่ไม่ใช่สิ่งที่จะเรียนรู้จากหนังสือได้ และอาจารย์ก็ไม่สามารถสอนเรื่องพวกนี้ กระทั่งองค์ชายส่วนใหญ่ยังไม่มีโอกาสได้ศึกษาเรื่องศาสตร์แห่งจักรพรรดิอย่างลึกซึ้ง แล้วหยุนเจิงที่เคยใช้เวลาอยู่แต่ในจวนปี้ปัวนั้น ใครกันที่สอนเรื่องพวกนี้ให้เขา? หรือว่าเขาจะเข้าใจสิ่งเหล่านี้ได้เอง? หยุนเจิงหัวเราะเบาๆ “เมื่อก่อนลูกไม่มีอะไรทำ ก็มักอ่านพงศาวดารบ่อยๆ เรื่องพวกนี้ลูกเรียนรู้มาจากพงศาวดาร” “ไร้สาระ!” จักรพรรดิเหวินตอบกลับอย่างไม่สุภาพ “หากเรียนรู้เรื่อง

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1384

    จากทางใต้จนถึงซั่วเป่ยระยะทางไกลถึงเพียงนี้ ระหว่างทางไม่มีความช่วยเหลือจากทางการ หรือทางการไม่อนุญาตให้ผ่าน เหล่าผู้ประสบภัยแม้จะมีปีกบิน ก็ใช่ว่าจะบินมาถึงซั่วเป่ยได้ “เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับข้าเลย ทั้งหมดเป็นเรื่องที่พี่สามของเจ้าจัดการ” จักรพรรดิเหวินหัวเราะเยาะตนเองเบาๆ “พอเถอะ อย่าเพิ่งพูดถึงเรื่องนี้อีก! เจ้าพูดวกไปวนมานานนักแล้ว มีข้ออ้างอะไรที่ดีกว่านี้หรือไม่?” ยังจะพูดถึงเรื่องนี้อีกหรือ? เรื่องนี้จะหลีกเลี่ยงไม่ได้เลยหรือไร? หยุนเจิงในใจเต็มไปด้วยความอึดอัด จึงไม่อยากแต่งเรื่องอ้างใดๆ อีก กล่าวตรงๆ ว่า “ลูกไม่ปิดบังเสด็จพ่อแล้ว ลูกไม่อยากจัดพิธีสมรสกับเจียเหยาเลยสักนิด! ลูกคิดว่าลูกกับเจียเหยาแค่มีสถานะเป็นสามีภรรยาก็เพียงพอแล้ว ไม่มีความจำเป็นต้องจัดงานสมรสใหญ่โตให้เปลืองแรงและสิ้นเปลืองทรัพย์สินหรอก” จักรพรรดิเหวินหรี่ตาลงเล็กน้อย สีหน้าดูไม่สบอารมณ์ มองหยุนเจิงพร้อมกล่าวว่า “ข้าลำบากวุ่นวายเตรียมงานมานานถึงเพียงนี้ แม้แต่ปีใหม่ยังไม่ได้อยู่ฉลองในเมืองหลวง แต่ต้องมาเตรียมงานสมรสให้เจ้า หากเจ้าไม่จัดพิธีสมรส ข้าก็คงกลายเป็นคนหน้าไม่อายแล้ว! เจ้าลองพูดดูสิ ว

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1383

    จักรพรรดิเหวินให้เวลาหยุนเจิงคิดเหตุผลมาแก้ตัวอย่างเต็มที่ พระองค์เองก็ค่อยๆ ลิ้มรสอาหารอย่างไม่รีบร้อน “เนื้อนี้ค่อนข้างเหนียวไปหน่อย” จักรพรรดิเหวินเคี้ยวเนื้อในปากแล้วกลืนลงไป จากนั้นก็เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเรียบๆ “ดูท่าว่าข้าจะแก่แล้วจริงๆ ฟันของข้าไม่เหมือนเดิมแล้ว” “……” หยุนเจิงหน้ามืด หัวเราะอย่างขื่นขมพลางมองไปที่จักรพรรดิเหวิน “ลูกจะให้คนไปหาในเมืองดูดีไหมพ่ะย่ะค่ะ ว่ามีลูกวัวอยู่บ้างหรือเปล่า แล้วให้พวกเขาเชือดมันสดๆ เอาเนื้อมาถวาย?” เหนียวอะไรกัน! ไม่ใช่ว่ากำลังอ้อมค้อมจะบอกว่าตนเองโตพอที่จะไม่ฟังคำสั่งแล้วหรือไร? จักรพรรดิเหวินหยุดมือเล็กน้อย ก่อนจะมองหยุนเจิงด้วยสายตาทั้งขบขันและหงุดหงิด “เจ้าตั้งใจจะยั่วข้าใช่ไหม?” “มิบังอาจพ่ะย่ะค่ะ!” หยุนเจิงส่ายหัวพร้อมยิ้ม “เสด็จพ่อเสด็จมาไกลถึงเพียงนี้ ลูกจะไม่รับรองเสด็จพ่ออย่างดีได้หรือพ่ะย่ะค่ะ?” “ช่างเถอะ! ข้าไม่กล้าสั่งให้เจ้าเชือดลูกวัวเพื่อมารับรองข้าหรอก” จักรพรรดิเหวินเอ่ยอย่างเรียบๆ “วัวเป็นรากฐานของเกษตรกรรม รอให้ลูกวัวโตแล้วใช้มันไถนาเพื่อประโยชน์ของราษฎรจะดีกว่า!” แค่นี้ก็จบแล้วไม่ใช่หรื

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1382

    บัดนี้ ในห้องเหลือเพียงพวกเขาสี่คนแล้วจักรพรรดิเหวินหันไปมองเมี่ยวอินอีกครั้ง “เจ้าคือเมี่ยวอินใช่หรือไม่? ข้าจำได้ว่า ข้าได้มีพระราชโองการแต่งตั้งเจ้าเป็นชายารองของเจ้าหกแล้วไม่ใช่หรือ? เมื่อเห็นข้าแล้ว เหตุใดเจ้าจึงไม่เรียกเสด็จพ่อสักคำ?” เมี่ยวอินค่อยๆ เงยหน้าขึ้นมองจักรพรรดิเหวินด้วยสีหน้าซับซ้อน “หากพระองค์เป็นหญิงสาวธรรมดาเฉกเช่นหม่อมฉัน พระองค์จะสามารถเรียกคำว่าเสด็จพ่อออกมาจากปากได้หรือเพคะ?” “ก็คงยากที่จะพูดออกมา” จักรพรรดิเหวินไม่ได้โกรธ “ข้าได้สั่งประหารครอบครัวของเจ้า แต่ข้าก็ได้ประหารลูกชายของตัวเองเช่นกัน!” “แม้ข้าจะเสียใจ แต่ข้าจะไม่ยอมรับผิดต่อเจ้า และจะไม่ร้องขอการให้อภัยจากเจ้า!” “ข้ายังคงยืนยันคำเดิม ไม่ว่ารัชทายาทองค์ก่อนจะถูกใส่ร้ายจนต้องก่อกบฏหรือไม่ แต่ตราบใดที่เขาชักธงขึ้นแล้ว เรื่องนี้ย่อมไม่มีทางย้อนกลับไปได้!” “ข้าเป็นผู้นำครอบครัว แต่เหนือสิ่งอื่นใด ข้าคือกษัตริย์ของแผ่นดินนี้!” คำพูดของจักรพรรดิเหวินหนักแน่นดุจหินผา แม้แต่เขาเองก็ไม่คิดว่าเมื่อมาถึง สิ่งแรกที่เขาต้องเผชิญคือเรื่องของเมี่ยวอิน “ใช่เพคะ!” เมี่ยวอินยิ้มเจื่อน “ห

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1381

    “หลายวันมิได้พบกัน ท่านอ๋องสบายดีหรือไม่?” ในขณะที่หยุนเจิงและเยี่ยจื่อกำลังตกตะลึง เสียงเย้ยหยันของจักรพรรดิเหวินก็ดังขึ้น เชี่ย! เชี่ย! เชี่ย! ในใจของหยุนเจิงร้องลั่น ตาแก่คนนี้มาโผล่ที่นี่ได้อย่างไร? คนที่ต้องการเข้ามาในเมืองเมื่อครู่นี้ คือตาแก่คนนี้หรือ? หยุนเจิงทั้งหงุดหงิดและอึดอัด รีบลุกขึ้นเดินไปด้านหน้า คุกเข่าลงอย่างว่าง่าย “ลูกขอคารวะเสด็จพ่อพ่ะย่ะค่ะ!” ให้ตายเถอะ! คนที่ด่านเป่ยลู่ยังไม่รู้เลยว่าตนอยู่ที่เล่ออาน คาดว่าเว่ยหยูคงส่งคนไปแจ้งข่าวที่ติ้งเป่ยแล้ว แต่กลับกลายเป็นว่า ตาแก่คนนี้ดันมาถึงที่นี่? ถ้าเขามาช้ากว่านี้สักวันก็คงจะดีไม่น้อย! เมื่อเห็นหยุนเจิงแสดงความเคารพอย่างนอบน้อม อู๋เซิงไท่ถึงกับยืนอึ้ง เสด็จพ่อ? บุคคลท่านนี้…คือจักรพรรดิองค์ปัจจุบัน? อู๋เซิงไท่ยืนอ้าปากค้าง ถึงกับลืมถวายคำนับ เมี่ยวอินมองจักรพรรดิเหวินด้วยสีหน้าซับซ้อน นี่เป็นครั้งแรกที่นางได้พบกับจักรพรรดิเหวิน นึกไม่ถึงเลยว่า จะได้พบจักรพรรดิในสถานการณ์เช่นนี้ มีอยู่ชั่วขณะหนึ่งที่เมี่ยวอินแทบจะวิ่งไปปักมีดใส่จักรพรรดิเหวิน แต่สุดท้ายนางก็อดกล

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1380

    ได้ยินคำพูดของนายอำเภอ หยุนเจิงก็อดสงสัยไม่ได้ ลับๆ ล่อๆ หรือ? มีแผนการอะไรหรือเปล่า? เขามีทหารองครักษ์ติดตามอยู่ที่นี่ด้วยนะ! หรือว่าจะมีใครคิดร้ายกับเขาจริงๆ? “พวกเขามีกันกี่คน?” หยุนเจิงถามทันที นายอำเภอตอบว่า “ข้างนอกมืด เห็นแค่ที่สังเกตได้ก็มีเป็นร้อยคนแล้ว ด้านหลังน่าจะยังมีอีกไม่น้อยพ่ะย่ะค่ะ!” “พวกเขาพกพาอาวุธมาหรือไม่?” หยุนเจิงถามอีกครั้ง “ยังไม่เห็นใครพกพาอาวุธมาพ่ะย่ะค่ะ” นายอำเภอตอบ หยุนเจิงครุ่นคิดเล็กน้อย ก่อนสั่งการว่า “เสิ่นควาน พาคนไปตรวจสอบให้ดี หากพวกเขาไม่ได้พกพาอาวุธ ก็ให้พวกเขาเข้ามาในเมืองได้ ข้างนอกหนาวนัก อย่าให้พวกเขาต้องกินลมกินฝน” “พ่ะย่ะค่ะ!” เสิ่นควานรับคำสั่งแล้วรีบไปทันที “ควรเตรียมตัวไว้หน่อยไหม?” เมี่ยวอินพูดด้วยท่าทีระมัดระวังว่า “บางทีพวกเขาอาจจะมุ่งเป้ามาที่ท่านก็ได้นะ” “ปล่อยให้เสิ่นควานพาคนไปดูก่อนเถอะ!” หยุนเจิงยิ้มอย่างไม่ใส่ใจ “ข้างนอกนี้ยังมีคนของเราคอยเฝ้าอยู่เยอะ จะมาลอบสังหารข้า คิดว่าเป็นเรื่องง่ายหรือ?” อย่าว่าแต่แค่ร้อยคนเลย ต่อให้มาสักพันคน ถ้าไม่มีอาวุธ ในสายตาของทหารองครักษ์ของเขา ก็

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1379

    การค้นพบเถาวัลย์เหล็กซั่วเป่ยโดยบังเอิญ ทำให้หยุนเจิงมีอารมณ์ดีเป็นพิเศษ ในค่ำคืนนั้น หยุนเจิงอดใจไม่ไหว จึงชวนทุกคนในจวนมาตั้งวงกินหม้อไฟในที่ว่าการ ผู้ที่กินเผ็ดได้ ก็ใส่เถาวัลย์เหล็กซั่วเป่ยสับลงในน้ำจิ้ม ส่วนผู้ที่กินเผ็ดไม่ได้ ก็ใช้เพียงน้ำจิ้มธรรมดา เมื่อทุกคนเริ่มกิน ก็พบว่าน้ำจิ้มที่ใส่เถาวัลย์เหล็กซั่วเป่ยนั้นให้รสชาติที่แปลกใหม่ไม่เหมือนใคร ความรู้สึกแสบลิ้นนั้นกลับทำให้เจริญอาหารอย่างไม่อาจห้ามได้ แม้จะเผ็ดจนต้องแลบลิ้นไม่หยุด แต่ยิ่งกินก็ยิ่งอยากกิน แม้แต่เยี่ยจื่อที่กำลังตั้งครรภ์และมักเบื่ออาหาร ก็ยังรู้สึกอยากอาหารมากขึ้น “ท่านอ๋องช่างเป็นผู้วิเศษนัก หากไม่ใช่เพราะท่าน พวกเราคงไม่รู้ว่าสิ่งนี้สามารถนำมาใช้เป็นเครื่องปรุงได้!” อู๋เซิงไท่กล่าวยกยอพลางกินเนื้อหมูนุ่มๆ ที่จิ้มน้ำจิ้มอย่างเอร็ดอร่อย เพราะก่อนหน้านี้เขาดื่มน้ำที่ต้มจากเถาวัลย์เหล็กซั่วเป่ยบ่อย จึงกินเผ็ดได้มากกว่าเยี่ยจื่อและคนอื่นๆ แต่ถึงอย่างนั้น อู๋เซิงไท่ก็กินจนเหงื่อท่วมศีรษะ ไอร้อนพวยพุ่งออกมาจากหน้าผาก ดูราวกับเขากำลังฝึกยอดวิชายุทธใดๆ อยู่ “เลิกยกยอเสียที รีบเก็บเกี

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1378

    "เอาล่ะ เอาล่ะ! อย่าตื่นตกใจกันไป เสิ่นควานเข้าใจผิดเอง!" หยุนเจิงปลอบฝูงชนที่ตกใจจนทำอะไรไม่ถูก แล้วหันไปถามอู๋เซิงไท่ว่า "ของสิ่งนี้เรียกว่าอะไร?" อู๋เซิงไท่ตอบอย่างหวาดกลัว "กราบทูลท่านอ๋อง สมุนไพรนี้ไม่มีชื่อเรียกแน่ชัด ผู้คนส่วนใหญ่มักเรียกมันว่า 'หญ้าร้อน'..." พูดไป อู๋เซิงไท่ก็เล่าถึงที่มาของ 'หญ้าร้อน' ให้หยุนเจิงฟัง ในตอนแรก ไม่มีใครรู้ว่าสิ่งนี้กินได้หรือไม่ เมื่อหลายวันก่อน มีผู้ประสบภัยบางคนออกไปหาอาหารตามธรรมชาติในพื้นที่ใกล้เคียง และเก็บสิ่งนี้กลับไปกินโดยบังเอิญ หลังจากที่พวกเขากินเข้าไป ทุกคนล้วนรู้สึกแสบร้อนในปากและลิ้น ร่างกายร้อนและเหงื่อแตกจนหลายคนคิดว่าตัวเองถูกพิษ เพราะมีผู้คนที่ถูกพิษ จำนวนมาก จนเรื่องนี้ไปถึงหูของทางการ แต่สุดท้ายกลับพบว่าคนเหล่านั้นไม่ได้เป็นอะไรเลย หลังจากนั้น เมื่ออากาศเริ่มหนาวเย็น ยังมีคนไปหาเจ้าสิ่งนี้มาเพื่อขับไล่ความหนาวอีกด้วย เมื่อมั่นใจว่าสิ่งนี้ไม่มีพิษ อู๋เซิงไท่จึงสั่งให้คนเก็บมันในนามของทางการ เพื่อต้มเป็นน้ำให้ประชาชนที่ทำงานได้ดื่มช่วยขับไล่ความหนาว เพราะเมื่อกินสิ่งนี้แล้วร่างกายจะร้อนและเหงื่อแ

DMCA.com Protection Status