“ลุง ตามภูพิงค์มาทำไมอีกเนี่ย!” ภูพิงค์ทำหน้าบึ้งตึงเมื่อเห็นใครบางคนยืนรออยู่หน้าบ้านหลังจากที่คุยกับคนในบ้านเสร็จ
“บอกว่าเรียก อา ไม่งั้นก็พี่” ร่างสูงเดินตรงเข้าไปหาคนตัวเล็กอย่างเอาเรื่อง
“เรียกพี่บ้าอะไรลุงอายุน้อยกว่าพ่อนิดเดียวเอง” เด็กสาวทำจมูกย่นใส่
“พาร์ทมีธุระก็ไปเถอะ เดี๋ยวอาพาตัวแสบกลับเอง”
“ครับ” พาร์ทได้แต่ยิ้มก่อนจะเดินไปขึ้นรถ
“ขึ้นรถ หรือจะให้อุ้ม”
“ไม่ต้องหนูเดินเองได้ หมอโรคจิต!” ภูพิงค์เอียงตัวหนี เดินหน้างอไปขึ้นรถกับคุณอาหนุ่มที่ได้แต่มองตามแล้วยิ้ม ยิ่งเห็นหลานตัวน้อยทำหน้างอเขาก็ยิ่งหลงเธอขึ้นทุกวัน
“ทำไมต้องนึกถึงเด็กบ้านั่นด้วย” แต่พอเห็นสายฝนที่กระหน่ำตกลงมาอย่างไม่ขาดสาย มันพลันให้นึกถึงคนตัวเล็กในชุดนักเรียนเดินกลับบ้านไปก่อนหน้านี้ไม่กี่นาที
“…….” พาร์ทถอนหายใจอย่างหนักอก ทำไมต้องมาเจอแต่เรื่องวุ่น ๆ ทั้ง ๆ ที่หนีมาพักใจแต่ตั้งแต่เจอกับธีรดา กลับยิ่งทำให้เขาเหนื่อยและวุ่นวายเป็นเท่าตัว
แต่ถึงจะคิดแบบนั้นรถกลับวิ่งไปอีกฝั่ง ซึ่งไม่ใช่ทางกลับคอนโดแต่กลับวิ่งไปทางห้องเช่าของเด็กสาว
ซ่า ซ่า
ฝนยังคงกระหน่ำตกไม่ขาดสาย คนตัวเล็กที่ยังคงนั่งกอดเข่าเอามือปิดหูเมื่อสายฟ้าฟาดลงมา
เปรี้ยง!!
“ฮื่อ แม่ แม่จ๋าเธียรกลัว” ธีรดาร้องไห้แข่งกับสายฝน ไม่ยอมลุกไปไหน ร่างเล็กสั่นเทาด้วยความเหน็บหนาว บวกกับกลัวเสียงฟ้าที่ฟาดลงมาเป็นระลอก ทำให้เธอกลัวจนขาดสติ
ปรี๊ด ปรี๊ดดดดด
แสงไฟส่องใส่คนตัวเล็กที่ยังคงเอาแต่ร้องไห้ ก่อนรถหรูจะจอดพร้อมร่างสูงในชุดสูทจะก้าวลงจากรถในมือถือร่มคันใหญ่
“เธียร!!” เสียงเข้มตะโกนเรียกชื่อเด็กสาวแข่งกับฝน เขาที่ขับรถคิดอะไรเรื่อยเปื่อยแต่ต้องตกใจเมื่อเห็นใครบางคนที่คุ้นตานั่งเปียกฝนอยู่ข้างฟุตพาท
“แม่จ๋าหนูกลัว”
เปรี้ยง!!
เมื่อได้ยินเสียงสายฟ้าฟาดร่างเล็กก็ยิ่งสั่นสะท้านร้องไห้หนักกว่าเดิม
“เธียร หยุดร้องขึ้นรถ” พาร์ท พยายามใจเย็นเมื่อเห็นเด็กสาวตื่นกลัว มือหนาค่อย ๆ เอื้อมจับแขนเรียวให้ลุกขึ้น
“อึก” เธียรเอาแต่ร้องไห้เนื้อตัวเปียกปอน สะอื้นไห้มองหน้าคนตัวโตตรงหน้า ผู้ชายที่เธอหลงรักเขาตั้งแต่แรกเจอ
“ขึ้นรถมาทำอะไรอยู่ตรงนี้!” ถึงจะหงุดหงิดอยู่บ้างเพราะไม่ชอบเสียงร้องไห้ แต่เห็นเธอร้องไห้แบบนี้เขาก็ไม่ได้เป็นคนใจยักษ์ถึงขนาดจะดุด่าเธอได้ลง
“อึก” เธียรยังคงเอาแต่ร้องไห้สะอื้นตัวสั่น แต่ก็ยอมเดินไปขึ้นรถอย่างว่าง่าย
บนรถ
“อึก” ชายหนุ่มถึงกับต้องกลืนน้ำลายลงคอเมื่อเห็นรูปร่างอรชรที่เสื้อนักเรียนมันเปียกฝน ทำให้เห็นทรวดทรงที่อยู่ใต้ร่มผ้า ชุดชั้นในสีดำที่เธอใส่อย่างชัดเจน
“ฮึก ฮื่อ” ส่วนเธียรยังคงเอาแต่ร้องไห้ตัวสั่น เธอเหมือนคนไม่ได้สติตกใจกลัวอะไรบางอย่าง เพราะเอาแต่นึกถึงวันที่พ่อแม่จากไป
“หยุดร้องแล้วคาดเข็มขัดเดี๋ยวไปส่ง” พาร์ทพูดอย่างไม่สบอารมณ์ จะให้ปลอบก็ปลอบไม่เป็นเพราะนอกจากน้องสาวก็ไม่เคยพูดปลอบใคร เลยเก้ ๆ กัง ๆ ทำอะไรไม่ถูกขึ้นมาเมื่อคนตัวเล็กตรงหน้าเอาแต่ร้องไห้
พรึบ!!
“บอกให้หยุดร้องรำคาญ” เขาพูดเอ็ดพร้อมกับถอดเสื้อคลุมร่างเล็กที่สั่นสะท้าน ยืดตัวไปคาดเข็มขัดนิรภัยให้เมื่อเห็นว่าเธอเอาแต่ร้องไห้
ตึก!!
แต่สายรัดมันกลับติดดึงเท่าไรก็ดึงไม่ออก ทำให้เขาต้องปลดล็อกฝั่งของตัวเองพร้อมยืดตัวเอื้อมมือไปดึงอีกฝั่ง
“อึก” แต่ต้องชะงักเมื่อปลายจมูกโด่ง ดันไปสัมผัสเข้ากับแก้มนุ่ม ๆ ที่เปียกปอนไปด้วยน้ำตา
ดวงตากลมโตเบิกกว้างเธอหยุดร้องไห้อย่างอัตโนมัติ สองสายตาจดจ้องมองกัน จ้องลึกเข้าไปข้างในที่มันมีแต่ความว่างเปล่า
“อุ๊บ” ดวงตากลมโตคู่นั้นเบิกกว้างเป็นเท่าตัว เมื่อกลีบปากอุ่นแตะลงที่ริมฝีปากบางที่เย็นเฉียบ สั่นระริกด้วยความหนาวจากสายฝนที่โปรยปราย
“พะ...พี่” เด็กสาวพูดเสียงอู้อี้สองมือดันแผงอกแกร่ง เมื่อคนตัวโตบดจูบขยี้ริมฝีปากเธออย่างหนักหน่วง เขาดูดเม้มริมฝีปากบนสลับล่างจะว่าอ่อนโยนมันก็ไม่ใช่แต่จะว่ารุนแรงมันก็ไม่เชิงเพราะนี่คือจูบแรกของทั้งเขาและเธอ
เสียงฝนโปรยปรายตกกระทบต่อเนื่อง ท่ามกลางบรรยากาศที่แสนจะโรแมนติก คนตัวโตยังคงจูบดูดเม้มริมฝีปากบางอย่างไม่ได้สติ
ต่างจากคนตัวเล็กที่ได้สติกลับคืนมาและพยายามผลักตัวอีกฝ่ายออก แต่ยิ่งเธอผลักเขาก็ยิ่งบดจูบแรงกว่าเดิม
“ฮื่อ” เธียรได้แต่ร้องท้วงในลำคอ เมื่อฝ่ามือหนาเอื้อมมาจับ
บีบล็อกท้ายทอยเธอไว้แน่น สอดแทรกเรียวลิ้นร้อนที่เข้ามาสำรวจภายในโพรงปากเล็ก ควานหาความหวานอย่างเผลอตัว“ฮื่อ”
ตุบ ตุบ
กำปั้นน้อย ๆ เริ่มทำงานทุบแผ่นหลังกว้างเมื่อเขาดูดดึงลิ้นเล็กอย่างหื่นกระหาย
“ฟองเบียร์ พะ...พี่ ระ” ก่อนทุกอย่างจะหยุดเมื่อพาร์ทได้สติ เพราะนึกว่าตัวเองกำลังทำกับคนที่ตัวเองรัก
“……” เธียรได้แต่มองหน้าคนตรงหน้าอย่างหวาดกลัว เพราะเมื่อกี้เขาเกือบจะล่วงเกินเธอไปแล้ว
“…..” ส่วนพาร์ทเองก็ได้แต่เงียบไม่รู้ว่าทำไมถึงขาดสติได้ขนาดนั้น ทั้ง ๆ ที่ไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน
“อึก ฮึก” เธียรยังสะอื้นไห้เบา ๆ ตกใจกับเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้น
“หยุดร้องเธอรู้มั้ยมันน่ารำคาญ” ชายหนุ่มพูดเสียงดุก่อนจะขับไปส่งคนตัวเล็กที่สะอื้น อึก อึก เป็นระลอก
“….” เมื่อเห็นเขาดุคนตัวเล็กก็ได้แต่นั่งตัวสั่น ทั้งหนาวทั้งกลัว มือบางยกขึ้นมาปิดปากไม่ให้มีเสียงสะอื้นเล็ดลอดออกไป
“…...ฉันไม่ฆ่าเธอหรอก หยุดร้องขอโทษที่…” พาร์ทพ่นหายใจแรงอย่างหงุดหงิด เขาเอ่ยขอโทษที่ทำอะไรขาดสติสายตาคู่ดุดันมองไปยังริมฝีปากที่ยังคงสั่นระริก ก่อนจะรีบขับรถออกไปเพราะคนตัวเล็กข้าง ๆ อาการไม่ค่อยจะสู้ดี
ห้องเช่า
“ไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า” เขาสั่งเสียงแข็ง
“…..” เด็กสาวได้แต่พยักหน้าหงึก ก่อนจะลงจากรถแล้วเดินขึ้นห้อง
“ทำไมฉันต้อง เฮ้อ” พาร์ทบ่นพึมพำมองคนตัวเล็กที่เดินตัวสั่นขึ้นห้อง แล้วมันต้องหงุดหงิด มันหงุดหงิดทุกอย่างที่เป็นเธอ
2 เดือนผ่านไป
“ยิ้มอะไรของเธออยู่ได้ น่ารำคาญ” เสียงดุ ดุแบบนี้มีอยู่คนเดียว
“หนูแค่ยิ้ม ยิ้มไม่ได้เหรอ?”
“ก็พี่หล่อ หนูชอบพี่เลยอยากมอง มองแค่นี้ก็ต้องดุ”
เธียรตอบกวน ๆ เพราะวันนี้ครูให้มาช่วยงานเลยได้มีโอกาสเจอชายในฝัน แต่แค่แอบมองแล้วยิ้มให้ก็ต้องมาดุ เห็นว่าหล่อหรอกถึงมอง แต่เด็กสาวก็ได้แต่บ่นในใจ
ที่จริงเธอก็มีโอกาสได้ใกล้เขาบ่อย ๆ ไม่ว่าจะเดินไปทางไหนก็เป็นต้องเจอ แต่ไม่รู้ว่าควรดีใจที่ได้เจอคนที่ตัวเองแอบรักอยู่บ่อย ๆ หรือจะร้องไห้เพราะเจอเขาเมื่อไหร่ ต้องเกิดเรื่องเป็นอันทำงานไม่ได้เงินทุกที
เฮ้อ ธีรดาถอนหายใจเมื่อนึกถึงเรื่องเงินนี่ก็อีกไม่กี่เดือนจะถึงวันเกิดแล้วจะเรียนจบแต่ยังไม่มีเงินไว้ไปสมัครเรียนเลย
“จะว่าไปเธอก็บ้า นะเธียร เดี๋ยวยิ้มเดี๋ยวเศร้า” ปากเล็กบ่นงึมงำเดินกลับไปทำงานที่ครูสั่ง ถ้าครูกลับมาไม่เสร็จมีหวังไม่ได้เงินแน่
“พี่พาร์ทคะ” คนตัวเล็กเดินเข้าไปหาคนหน้าดุที่นั่งทำงานอยู่ที่โต๊ะ เพราะมันเป็นงานที่ต้องเก็บเป็นความลับเลยจำเป็นต้องมาทำในห้องทำงานเขา
“……” เขาไม่ตอบแค่ปรายตามองเด็กสาวตรงหน้าที่ทำตาเล็กตาน้อยมองเขาอย่างมีหวัง
“บริษัทฉันไม่มีนโยบายรับเด็กเข้าทำงาน” เขาพูดอย่างกับรู้ว่าเธอจะถามอะไร จบกันความหวังที่จะขอทำงานเพื่อหาเงินเรียน
“แต่หนูทำได้ทุกอย่างนะ แม่บ้านล้างห้องน้ำ ปัดกวาดเช็ดถูหนูทำได้หมด” เธียรทำหน้าอ้อนวอน มันก็ไม่แปลกที่เขาจะไม่รับเพราะที่อื่นเขาก็ไม่รับเด็กอายุต่ำกว่า 20 เข้าทำงานกันทั้งนั้น
“ไปทำงานของเธอให้เสร็จ!” สายตาขรึมเอ่ยเสียงห้วนแข็ง เพ่งตามองคนตรงหน้าที่มีท่าทีงอแง ทำหน้าบูดบึ้ง
“ชิ ก็ได้” เธียรเดินคอตกกลับไปนั่งทำงาน เขาได้แต่มองคนตัวเล็กแล้วต้องส่ายหัว เธอจะรู้ไหมว่าเขาต้องปวดหัวกับเธอมากแต่ไหน แค่เรื่องงานเรื่องที่บ้านก็ปวดหัวจะตายอยู่แล้ว ยังต้องมาปวดหัวเพราะเธออีก
“พี่พาร์ท” คนตัวเล็กในชุดเอี๊ยมตัวโปรดถือกระดาษที่วาดรูปไปหาคนหน้าขรึม ด้วยใบหน้ายิ้มแย้มขนาดเขาเพิ่งจะดุเธอไปกลับยังมีหน้ายิ้มให้เขาอีก
“เสร็จแล้ว หนูขอไปกินข้าวนะ”
“ขอบคุณค่ะ” เธอไม่รอให้เขาตอบวางกระดาษและรีบวิ่งออกจากห้องไปทันที
“ยัย!! แล้วที่ฉันสั่งมาใครจะกิน” พาร์ทถึงกับต้องขบกรามแน่นมองตามคนตัวเล็กที่วิ่งออกจากห้องไปอย่างอารมณ์ดี ก็เห็นตั้งใจทำงานเลยอุตส่าห์สั่งของกินมาให้จะบอกก็ไม่ทัน
“เฮ้อ แล้วทำไมฉันต้องไปสนใจเธอด้วยเด็กบ้า” แต่ก็ได้แต่ถอนหายใจ ก้มหน้าก้มตาทำงาน แต่ในหัวกลับนึกถึงแต่เรื่องวันนั้นที่ตัวเองจูบเด็กสาวในรถ แต่คนที่โดนจูบกลับเฉย ๆ เหมือนว่ามันไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“โธ่! เว้ย”
“รอดตายแล้ววันนี้ดีนะคนไม่เยอะ แต่กินเยอะไปหน่อยอิ่มเป็นบ้าเลย” ปากเล็กบ่นพึมพำมือลูบท้อง เลียไอศกรีมในมืออย่างอร่อย“สวยจัง” ดวงตากลมโตเป็นประกายเมื่อเห็นป้ายโฆษณา งานมอเตอร์โชว์ ที่มีสาวสวยเซ็กซี่พริตตีเงินล้านเป็นนางแบบ“ทำงานแบบนี้คงจะได้เงินเยอะมาก อยากทำบ้างจังแต่ดูสภาพแล้วคงไม่มีใครจ้างเธอแน่นอน เธียร!” ระหว่างที่ยืนดูเพ้อคิดลิ้นเล็กก็เลียไอศกรีมไปด้วย“น้อง”“คะ” แต่ระหว่างที่เธียรยืนมองป้าย เสียงหวานของใครบางคนก็เอ่ยเรียก สะกิดไหล่เธอเบา ๆ“สนใจอยากทำมั้ย พอดีเจ้าของงานเขาอยากได้พริตตีหน้าใหม่ พี่ดู ๆ แล้วน้องเข้ากับโปรเจกต์งานที่เจ้านายพี่ต้องการ”“หนูเหรอ?” เธียรก้มลงมองสำรวจตัวเองสภาพอย่างเธอเนี่ยนะ จะเหมาะกับงานนี้เป็นไปได้เหรอ แต่ถ้าเขาจ้างมีเหรอ คนอย่างเธียรจะพลาด“ค่าจ้างสองหมื่นไม่ต้องทำอะไรแค่ยิ้มหวาน ๆ”“สองหมื่น!!” ดวงตากลมโตเบิกกว้าง หูผึ่ง เมื่อได้ยินแบบนั้น“ทำค่ะหนูทำได้ทุกอย่าง” เด็กสาวตอบตกลงอย่างไม่ลังเล“ว่าแต่พี่คะ แต่หนูเพิ่งจะ 17 เองนะ จะมีปัญหาอะไรมั้ย แต่หนูอยากทำจริง ๆ นะ” เมื่อนึกถึงข้อนี้ใบหน้าหวานก็หมดหวังขึ้นมาทันที“17 เหรอ ไม่เป็นไรพี่มีวิธี พี่
“เธียร” ขุนศึกเอ่ยเสียงทะเล้น หย่อนนั่งลงข้าง ๆ ตัวเล็กที่กำลังนั่งครุ่นคิดถึงเรื่องงานมอเตอร์โชว์“อะไรของนาย ไปนั่งห่าง ๆ ได้มั้ย” เธียรขยับหนี“ช่วยอะไรได้มั้ย” ขุนศึกยิ้มเจ้าเล่ห์เมื่อพี่ชายเดินทำมาดนิ่งเข้ามาในห้อง“คือแบบนี้ เราแบบกำลังพนันกับเพื่อนจีบสาวเก็บแต้มอะไรแบบนี้” ขุนศึกพูดกระซิบกระซาบ แอบชำเลืองตามองพี่ชายที่ยังคงนั่งทำงานอย่างขะมักเขม้น“แล้วไงเกี่ยวอะไรกับฉัน” คิ้วเรียวขมวดเข้าหากัน ก่อนจะมองหน้าหล่อ ๆ ที่ยียวนตาเขม็ง คงไม่ใช่อย่างที่เธอคิดนะพวกชอบเก็บแต้มมันเป็นเสือผู้หญิงเลยนะ อายุเท่าไรเอง“ไม่ใช่แบบนั้น แค่จะขอถ่ายภาพแบบนี้มั้ย เราขอถ่ายรูปด้วย รูปละห้าร้อยแค่จะเอาไปอวดเพื่อน นะ ช่วยเราหน่อย” ขุนศึกทำหน้าอ้อนวอน ที่จริงก็ไม่ได้อะไรหรอกแค่อยากทดสอบพี่ชายเฉย ๆ ข้อหาหมั่นไส้เก๊กอยู่ได้“ห้าร้อยเลยเหรอ” เธียรฉีกยิ้มหวานทันทีเมื่อได้ยินแบบนั้น“จริง...แต่เราต้องเป็นเพื่อนกันก่อน เราอยากมีเพื่อนน่ารัก ๆ สวย ๆ แบบเธียร” คนเจ้าเล่ห์ก็คือคนเจ้าเล่ห์ ต้องมีการต่อรอง แล้วสายตายิ้มกริ่มแบบนั้นมันเชื่อใจได้แค่ไหน“เราไม่ได้จะจีบเธียร รู้หรอกน่าว่าเธียรชอบพี่พาร์ท” ขุนศึกหรี
“ก็หนูกินแล้ว ก็รอบนรถไง”“ลงไป!” พาร์ทพูดอย่างข่มอารมณ์ ยังจะมาทำหน้าซื่อตาใสใส่อีก“ก็คนกินแล้ว รอบนรถไม่ได้หรือไงกัน” เสียงหวานบ่นพึมพำทำหน้างอแต่ก็ยอมลงจากรถ มองซ้ายมองขวาแถวนี้ก็ไม่มีที่ให้นั่งเล่นด้วย“ตามมา” เสียงเข้มเอ่ยขึ้นเดินเข้าไปในร้านอาหาร ซึ่งบอกเลยร้านนี้มันแพงมาก“ถ้าไม่ติดว่าหล่อนะ หนูไม่ตามไปหรอก” เด็กสาวพูดยิ้ม ๆ สองเท้าสืบวิ่งตามร่างสูงเข้าไปภายในร้านติด ๆ“ร้านสวยแบบนี้คงจะแพงน่าดู” เดินไปสายตาก็มองนี่นั่นตามประสาคนขี้สงสัย“บอกกี่ทีแล้วว่าเวลาเดินให้มองทางไม่ใช่เดินเหม่อแบบนี้ ถ้าเดินไปชนคนอื่นจะทำไง” พาร์ทถึงกับต้องถอนหายใจรอบที่ร้อยแปด กับคนตรงหน้าที่เอาแต่จ้องหน้าแล้วทำปากหมุบหมิบ“26 คำพี่พูดกับหนูตั้ง 26 คำแน่ะ” เธียรทำหน้าตื่นเต้น เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่เขาพูดกับเธอยาวมาก แบบนี้ต้องจดบันทึก มันมีความสำคัญราวกับเรียนประวัติศาสตร์ชาติไทยเลยก็ว่าได้!“เธอนี่มัน!!” พาร์ทถึงกับต้องซี้ดปากให้กับความดื้อ ความกวนของเด็กสาวแล้วมันใช่ที่ไหนมานับคำพูดเขาแบบนี้หมับ!!“อะ ไปไหน เบา ๆ หนูเจ็บนะ พี่พาร์ทหนูเจ็บ” พาร์ทไม่ฟังคำท้วงคว้าจับข้อมือเล็กไปที่มุมประจำ และสั่งอา
“พี่หนูกลัว”“ไม่ต้องกลัวพี่อยู่ตรงนี้คุณเจตน์จะเป็นคนประกบเธียร แค่ทำตามที่ดูในคลิปที่พี่ส่งให้ก็พอ”“แต่หนูก็กลัวอยู่ดี หนูไม่เคยทำงานแบบนี้ แล้วดูสิ คนเยอะด้วย หนูกลัวจังเลยค่ะ”เธียรพูดเสียงสั่นดวงตากลมโตมีแต่ความกังวล มือเท้าเย็นเฉียบสั่นไปทั้งตัว เพราะวันนี้คือวันที่เธอจะต้องทำหน้าที่เป็นพริตตีงาน Bangkok International Motor Show 2021 ที่ถือว่างานใหญ่ เพราะงานนี้จะมีการโชว์รถหรู เป็นรถ Super Car ที่ถือว่าแพงที่สุดสามอันดับต้น ๆ ของโลกถึงเลขาสาวขอทายาทหนุ่มคนรุ่นใหม่ไฟแรงเจ้าของธุรกิจนำเข้ารถอันดับหนึ่งของเอเชียจะคอยพูดปลอบไม่ให้เด็กสาวตื่นกลัวจนเกินไป แต่ด้วยความที่ยังเด็กไม่มีประสบการณ์ด้านนี้มันเป็นธรรมดาที่เธอจะกลัวและกังวล“สูดหายใจเข้าลึก ๆ พี่ว่าเราไปดูคลิปไปหาอะไรทำมันจะได้ไม่คิดมาก อีกหน่อยงานก็จะเริ่มแล้ว” เลขาสาวพูดและยิ้มอย่างเป็นมิตร“คุณมินตราเป็นไงบ้าง งานเริ่มแล้วนะอีกหน่อยจะถึงเวลาเปิดตัวรถเราแล้ว” เจตน์ ประธานหนุ่มที่เพิ่งเปิดงานอย่างเป็นทางการเสร็จเดินเข้ามาหลังเวทีเพื่อเช็กความเรียบร้อย“คนสวยเป็นอะไร” เขาหันไปมองเธียรที่ได้แต่ยืนนิ่งหัวใจเต้นแรงด้วยความตื่น
“พี่พาร์ท” เธียรส่งยิ้มหวานให้พาร์ท อย่างดีใจ ที่...อย่างน้อย ก็ได้เจอกับคนรู้จัก ค่อยรู้สึกอุ่นใจขึ้นมาหน่อย แต่ก็ต้องหุบยิ้มทำหน้าซึมเมื่ออีกฝ่ายมองเธอด้วยสายตาที่ยากจะคาดเดา เขายืนนิ่งเอาแต่จ้องมองเธอสายตามันดุดันเลือดเย็นจนน่ากลัว“เธียรทางนี้ ๆ” ขุนศึกโบกไม้โบกมือเมื่อเห็นเธียรทำหน้าซึม สังเกตอาการพี่ชายที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ถึงจะไม่ได้โตมาด้วยกันแต่ก็ใช่ว่าจะไม่รู้จักนิสัย พี่ชายเป็นอะไรไม่รู้แต่ที่รู้แน่ ๆ เขากำลังโมโหและโมโหจนตัวสั่นแต่สนใจทำไมแบบนี้ยิ่งต้องถ่ายให้ทุกคนได้เห็นสีหน้าและแววตาของพี่ชาย ปากก็พูดเอ่ยชมคนบนเวทีที่เดินลงจากรถและโพสท่าสุดเซ็กซี่ขยี้ใจหนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่ในงานตอนนี้เธอไม่เหลือคราบเด็กสาววัยใสแต่กลับเป็นนางแบบที่โพสท่าดึงดูดสายตานับร้อยในงานและสะกดทุกสายตาที่ดูไลฟ์สดอยู่ตอนนี้Porshe: พี่ว่างานนี้มีคนอาการหนักญี่ปุ่น: พี่พาร์ทเป็นไรอะ?Kan: หึ หลานกู ไอ้ปืนมึงว่าไงแต่กูไม่เคยเห็นลูกมึงโมโหขนาดนั้นดูมือสีหน้าแม่ง! พร้อมบวกมาก แต่ขี้เก๊กได้พ่อมันว่ะSniper: ขุนศึกลูกอย่ายั่วอารมณ์พี่ให้มันมาก ดูท่าพี่เขาเอาจริงนะนั่น 55555 ป๊ะป๋าว่าไงไหวมั้ยพี่Peun: มึงสองตั
คอนโดพาร์ท“พี่พาร์ท ปล่อยนะหนูเจ็บ” ทันทีที่รถจอดร่างเล็กก็ถูกกระชาก...ลากขึ้นไปบนห้องทันที“พี่เป็นอะไรของพี่เนี่ย หนูจะไปทำงาน” คนตัวเล็กพูดอย่างใจเย็นอธิบายเหตุผลให้เขาฟังแต่เขากลับไม่ฟังลากเธอเดินตรงไปที่ห้องตัวเอง“เจ็บนะ ปล่อย” ข้อมือเล็กแดงเป็นรอยนิ้วมืออย่างเห็นได้ชัด“พี่เป็นอะไร หนูไปทำอะไรให้พี่ถึงได้ทำกับหนูแบบนี้” เธียรจ้องหน้าพาร์ทที่เอาแต่นิ่งด้วยความไม่เข้าใจ เธอจะทำอะไรมันก็ไม่เห็นจะเกี่ยวกับเขาเลย“นั่นสิ ทำไมฉันต้องไปสนใจเรื่องของเธอด้วย” เสียงเข้มเอ่ยขึ้นมองคนตรงหน้าด้วยความรู้สึกหลากหลาย ไม่เข้าใจว่าตัวเองเป็นอะไร ยิ่งมองชุดบ้า ๆ ที่เธอใส่มันยิ่งชวนหงุดหงิด“หนูจะกลับไปทำงานต่อ” เธียรถอนหายใจไม่อยากจะคิดอะไรมากแค่อยากหาเงินเรียน ตัวเล็กเดินหลบตรงไปที่ประตูหมับ!!“อะ โอ๊ย หนูเจ็บนะ ปล่อยสิพี่จะบ้าหรือไง!!” แต่ไม่ทันที่จะได้ก้าวขาไปไหนเขาก็จับเอาไว้ออกแรงบีบแขนเล็กอย่างแรง ใบหน้าหวานนิ่วหน้าด้วยความเจ็บเหมือนกระดูกมันจะแตกเป็นเสี่ยง ๆ“ปล่อยหนู หนูเจ็บ” เธียรสัมผัสได้ถึงรังสีอำมหิตอันน่าหวาดหวั่นพรั่นพรึงพุ่งเข้ามาสู่ตัว มือเล็กพยายามแกะมือเขาออกแต่ไม่เป็นผล“ชอบใ
สองพี่น้องภูผาขุนศึกถึงกับต้องอ้าปากค้าง กับภาพที่เห็นอยู่ตรงหน้าพี่ชายคนโตของตระกูล กำลังกอดจูบนัวเนียอยู่กับสาวสวยอย่างเธียรแขนเล็กโอบกอดคล้องคอหนา จูบปากแลกลิ้น เอียงซ้ายขวาเสียงดังจ๊วบจ๊าบ พร้อมฝ่ามือใหญ่ที่บีบขยำเต้าอวบอิ่มอย่างมันมือ ยิ่งบีบแรงเท่าไรมันยิ่งปลุกเร้าอารมณ์ดิบเถื่อนในตัวชายหนุ่มมากขึ้น“ขุนศึกกลับ” ภูผาลากน้องชายออกจากห้อง เมื่อเห็นแบบนั้น“ได้ไงพี่ของดีขอดูก่อน” ขุนศึกตัวแสบสะบัดมือแต่เพราะลืมตัวเผลอพูดเสียงดัง ทำให้สองคนที่กำลังนัวเนียกันหลุดจากภวังค์ได้สติคืนมา“…..” พาร์ทหันไปมองหน้าขุนศึกที่ส่งยิ้มให้ทำหน้าเหมือนไม่เห็นอะไรอย่างข่มอารมณ์“ผะ ผะ ผม ไม่เห็นอะไรเลย” ขุนศึกเอามือปิดตาห่าง พูดอย่างเลิ่กลั่ก“สะ...เสื้อ” แล้วต้องตกใจยิ่งกว่าเดิมเมื่อเห็นเสื้อตัวจิ๋วที่เธอใส่กองอยู่ที่พื้น ส่วนภูผาถึงกับไม่กล้ามองหันหลังให้พี่ชายที่ยืนหันให้ทั้งสอง“พี่พาร์ท” สองแขนกอดเอวหนาของคนตัวโตไว้แน่น พูดเสียงเบาเมื่อมีคนอื่นอยู่ในห้องแล้วท่อนบนเธอมันก็โป๊อยู่ ดีนะเขาตัวโตเลยบังตัวเล็กไว้ได้ไม่งั้นไม่อยากจะคิดเลย…ฮื่อเธียรเอ๊ย…“แกสองคนมาทำอะไร” เสียงเข้มเอ่ยขึ้น พร้อมกระชับ
“แต่อายุหนูยังไม่ถึง 20 เลยนะคะ”“เรื่องนั้นเรื่องเล็ก พี่มีเพื่อนเป็นตำรวจน้องไม่ต้องห่วง”“แต่ว่า”เธียรทำหน้าครุ่นคิด......ทำงานในผับเหรอถึงจะเคยไปทำแทนพี่ณัฐ แต่ตอนนั้นเธอเกือบแย่ไปแล้วนะเธียร ถ้าไม่ได้พี่พาร์ทช่วยไว้เธอจะโดยอะไรบ้างก็ไม่รู้...“พี่ให้เวลาน้องได้คิดงานจะถูกจัดขึ้นอีกสามวัน งานนี้พริตตีคนดังไปกันเพียบ น้องไม่ต้องกลัวนะร้านพี่น้องก็รู้จัก พี่ไม่หลอกเด็กไปทำอะไรหรอก แต่ที่อยากได้น้องไปร่วมงาน เพราะน้องกำลังอยู่ในกระแสเชื่อมั้ยคนเขาตามหาเราแต่เสียดายคุณเจตน์ไม่ยอมบอก แต่วันนี้พี่โชคดีที่มาเจอน้องที่นี่” เขาพูดและยิ้มอย่างจริงใจ“นามบัตร เบอร์โทร ที่อยู่ ถ้าสนใจติดต่อหาพี่โดยตรง อ้ออีกอย่างงานนี้ณัฐก็อยู่ในงานถ้ายังไงก็คุยกับณัฐดู แต่พี่อยากได้น้องไปร่วมงานจริงนะ”“ค่ะ แล้วยังไงหนูจะบอกอีกทีนะ” เธียรยิ้มออกเพราะได้ยินว่าพี่สาวก็อยู่ในงาน”“งั้นพี่ขอตัว” สิ้นประโยคชายหนุ่มแต่งตัวดีอายุราว ๆ 30 กว่าปีก็เดินออกไป เหลือก็แต่เธียรที่ได้แต่นั่งมองนามบัตรในมือ“ห้าหมื่นเลยนะเธียร แค่ปาร์ตี้คนอื่นก็อยู่กันเต็มงานคงไม่มีอะไรหรอก พี่ณัฐก็อยู่”“กลับห้องไปคุยกับพี่ณัฐดีกว่า” เมื
“พี่พาร์ท” ตอนนี้เราสองคนอยู่หน้างาน และมือเท้ามันก็เย็นเฉียบรู้สึกประหม่าจนก้าวขาไม่ออก“กลัวอะไรฉันอยู่ตรงนี้ทั้งคน” เขาหอมที่หัวหนัก ๆ หนึ่งทีแล้วเดินโอบเอว พาฉันเดินเข้าไปในงาน และพอเราสองคนเดินเข้าไปทุกสายตาก็มองมาที่ฉันเป็นตาเดียว“ไม่ต้องเกร็ง ทำตัวปกติ” พี่พาร์ทพูดปลอบและพาฉันเดินตรงเข้าไปหากลุ่มนักธุรกิจกลุ่มหนึ่ง“สวัสดีครับ” พี่พาร์ททักทายพวกเขาอย่างนอบน้อม แต่ว่าทำไมทักทายภาษาไทยล่ะ“เอาคุณปรมินทร์ นึกว่าจะไม่มางานนี้ซะแล้ว” เขาพูดและยิ้มอย่างเป็นกันเองกับพี่พาร์ทและมองมาที่ฉัน“ธีรดา ภรรยาผมครับ” ก่อนพี่พาร์ทจะแนะนำให้ฉันที่ได้แต่ยืนอึ้งให้ทุกคนรู้จัก ที่อึ้งคือแล้วที่เขาให้เรียนหัดพูดภาษาจีนเพื่ออะไร เท่าที่มองดูในงานมีแต่คนไทยและเขาก็ใช้ภาษาอังกฤษสื่อสารกัน“ภรรยา!!” ทุกคนอุทานเป็นเสียงเดียวกัน“สวัสดีค่ะ” สองมือยกขึ้นไหว้ผู้ใหญ่ทุกคน พร้อมรอยยิ้มบนใบหน้าแต่ต้องแอบจิกตากัดคนข้าง ๆ“พี่แกล้งหนูอีกแล้วนะ” ฉันพูดกระซิบกระซาบบิดเอวหนาแรง ๆ อย่างหมั่นไส้“......” พี่พาร์ทไม่พูดอะไรแค่ปรายตามอง และหันไปพูดคุยเรื่องธุรกิจแต่มือเขามันอยู่นิ่งเสียที่ไหน ลูบไล้แผ่นหลังสัมผัสมันชว
และแล้ววันที่ฉันกลัวก็มาถึง วันนี้เป็นวันที่จะต้องออกงานคู่กับพี่พาร์ทเป็นครั้งแรก และเป็นครั้งแรกในชีวิตที่ได้ออกงานสังคมแบบนี้ เฮ้อ.....“เธอต้องทำได้สิธีรดา” ร่างเล็กในชุดคลุม จ้องหน้าตัวเองในกระจก พูดให้กำลังใจตัวเองก่อนจะเดินออกจากห้องน้ำส่วนพี่พาร์ทไปไหนไม่รู้ตั้งแต่เช้า จนป่านนี้ยังไม่กลับมาอีก แค่โทรมาบอกให้แต่งตัวรอแล้วจะมารับ ดีนะที่แม่กับพี่ฟองเบียร์อยู่เลยปลีกตัวออกจากตัวเล็กได้ เหมือนน้องจะรู้ว่าคืนนี้ต้องกลับดึกงอแงไม่ยอมห่างอกทั้งวัน แต่พอพี่พอร์ช มาอุ้มไปเล่นไปกับคุณอาเฉย ลูกสาวใครนะ เห็นคนหล่อเป็นไม่ได้...“ว่าแต่จะทำไงล่ะเนี่ย” แต่งหน้าก็พอไหวแต่ทำผมจะทำทรงไหนดีถึงจะเข้ากับชุดที่พี่ญี่ปุ่นเตรียมไว้ให้ มันเป็นชุดราตรียาวสีดำดูเรียบ ๆ แต่แอบเซ็กซี่นิด ๆ หวังว่าใส่แล้วพี่พาร์ทคงจะไม่ฆ่าฉันทิ้งนะก๊อก ก๊อก ก๊อก“ใครคะ” ฉันที่กำลังแต่งหน้าเดินไปเปิดประตู“พี่พาร์ท” พร้อมกับส่งรอยยิ้มหวานให้กับคนตรงหน้าที่มาพร้อมกล่องสีแดงขนาดใหญ่ในมือสองกล่อง“........” พี่พาร์ทเงียบไม่พูดอะไรเดินเอากล่องไปวางไว้บนเตียง แล้วเดินออกไปนอกห้องท่ามกลางความงุนงงของฉันที่ได้แต่มองตามแล้วเกาหัว
“มีอะไรหรือเปล่าคะ” และก็อดไม่ได้ที่จะถามออกไปเมื่อพี่พาร์ทมีท่าทีแปลก ๆ เขาดูเงียบและกังวลมาก“พี่ไม่สบายหรือเปล่า” มือเล็กเอื้อมขึ้นไปแตะหน้าผากคนตัวโต“......” พี่พาร์ทเงียบ เอาแต่จ้องหน้ามอง เหมือนกับจะพูดอะไรสักอย่างแต่ก็ไม่พูด“ดึกแล้วหนูว่าเรากลับกันมั้ย” ตัวเล็กหาว ไปหลายรอบแล้ว ตาหวานเยิ้มแล้วตอนนี้“คือ...ฉัน”“คือ...คืออะไรพี่ก็พูดมาสิคะ” ฉันพูดยิ้ม ๆ เดินเข้าไปกอดเขา“พี่จะขอหนูแต่งงานเหรอ? เมื่อวานที่ชายหาดพี่กำลังจะขอหนูแต่งงานแต่โดนขัดก่อนใช่มั้ย”“.......” เขาเงียบ แสดงว่าฉันพูดถูก“ทำไมคะ เขินเหรอ แค่ขอแต่งงานเอง”“เธอนี่ไม่มีความโรแมนติกเลยนะธีรดา” พี่พาร์ททำเสียงดุ“เอ้า อะไร มาดุหนูทำไมคะ ก็ตัวเองจะพูดก็ไม่พูด แค่ขอแต่งงานเองมันพูดยากตรงไหน ถ้าพี่เขินเดี๋ยวหนูขอพี่เองก็ได้ แต่สินสอด?” ฉันทำหน้าครุ่นคิดมองหน้าพี่พาร์ทแล้วยิ้มกริ่ม“เอาตัวหนูเป็นสินสอดแทนได้มั้ย” พร้อมทำท่าทางเหนียมอายเมื่อเขาเอาแต่มองหน้าพร้อมรอยยิ้มที่อบอุ่น“ตะ....”“ชู่ว...เบา ๆ ค่ะตัวเล็กกำลังจะหลับ” ฉันพูดเสียงเบาเอามือลูบหลังตัวเล็กที่ค่อย ๆ โน้มหน้าซบลงที่ไหล่พ่อ ดวงตากลมโตคู่เล็กปรือตามองหน้
“ทำอะไรทำไมไม่ไปอาบน้ำแต่งตัว”“จะไปไหนได้พี่ก็ดูสิ”พรึบ!!ฉันเปิดผ้าห่มให้พี่พาร์ทที่เพิ่งเดินเข้ามาดูลูกสาวตัวน้อยสุดที่รักของเขา นอนอยู่บนตัวแม่ปากก็ดูดนม อีกมือก็จับเต้า สองขาเต้นขย่ม เฮ้อ...เด็กหญิงพลอยชมพูจอมแสบ“ไม่ต้องมายิ้มเลย แม่เจ็บนะ” ตัวเล็กผละริมฝีปากจากเต้าส่งยิ้มหวานให้พ่อและแม่แล้วอ้าปากงับดูดนมต่อ แล้วคุณเธอก็เล่นอยู่แบบนั้นนานเป็นชั่วโมง กว่าจะยอมลงจากตัวแม่ เฮ้อ...ถึงจะเหนื่อยจะเจ็บบ้างแต่มันก็คือความสุข อีกหน่อยน้องโตเขาก็จะค่อย ๆ ห่างจากเราไปเรื่อย ๆ เลยอยากอยู่ใกล้ชิด มอบความรักให้ลูกเท่าที่แม่คนหนึ่งจะทำได้“ตัวเล็กมาหาป๊า ให้แม่ไปแต่งตัว” พี่พาร์ทรับตัวเล็กที่เพิ่งอาบน้ำแต่งตัวเสร็จที่ยิ้มหัวเราะอย่างอารมณ์ดี หลังจากที่ได้แกล้งแม่“ไปอาบน้ำฉันพาลูกไปเดินเล่นรอ” มือหนาลูบมาที่หัวพร้อมดึงร่างเล็กเข้าไปกอด“เจ้าค่ะ หนูจะรีบอาบน้ำแต่งตัว ทุกคนจะได้ไม่ต้องรอนาน” สองแขนกอดเอวหนาไว้แน่น ก่อนจะหอมแก้มพ่อลูกคนละหนึ่งฟอดใหญ่แล้ววิ่งแจ้นเข้าห้องน้ำฉันใช้เวลาอาบน้ำไม่นานเท่าไร แต่ต้องมาหนักใจจะใส่ชุดไหนดี?“เสร็จแล้วค่ะ” ฉันรีบวิ่งออกจากห้องไปหาพี่พาร์ทและคนอื่น ๆ ที่รอ
“เป็นอะไรคะ ทำไมทำหน้าแบบนั้น” ฉันก็ไม่น่าถามพี่พาร์ทเลย หน้าบึ้งแบบนี้จะมีอะไรนอกจากงอนลูก ตอนนี้ตัวเล็กไม่สนใจป๊าเลย เล่นสนุกอยู่กับเหล่าอา ๆ ที่ดูจะหลงหลานสาวตัวน้อย โดยเฉพาะขุนศึกที่น้องพลอยติดมากกว่าคนอื่น ห่างกันเป็นไม่ได้ร้องตามตลอด“........” พี่พาร์ทไม่พูดอะไร กลับหันมามองค้อน เสียอย่างนั้น“เกี่ยวอะไรกับหนู หนูจะไปรู้ได้ไงว่าน้อง ๆ พี่จะตามมา” น่าขำจริง ๆ เวลาที่พี่พาร์ทงอน งอแงกว่าน้องพลอยอีก“ถือว่าได้พักผ่อนค่ะ มีคนช่วยดูลูกก็ดีแล้ว หนูดีใจนะ ที่ทุกคนรักและเอ็นดูน้องพลอย พี่รู้มั้ยตอนที่น้องเกิดวันแรก พยาบาลที่ทำคลอดอุ้มน้องไม่ยอมวางเลย”“พี่รู้มั้ยว่าหนูรู้สึกดีมากแค่ไหนที่ทุกคนไม่รังเกียจน้อง” ความรู้สึกวันนั้นที่คลอดตัวเล็กมันยังจำไม่เคยลืม มันเป็นความเจ็บปวดที่สวยงาม มันเป็นความทรงจำที่จะไม่มีวันลืม“รักตั้งแต่แรกเจอ รักทั้ง ๆ ที่ยังไม่เคยได้เจอหน้า ครั้งแรกที่ได้อุ้มลูกมือหนูสั่น จนพี่ณัฐต้องช่วยอุ้ม” ฉันพูดไปยิ้มไปพร้อมน้ำตาเม็ดใสที่มันไหลออกมาอย่างไม่รู้ตัว“หนูเข้าใจว่าพี่หวงลูก แต่นั่นมันน้องพี่นะคะ คุณป๊าขี้หวงไม่งอแงสิ เห็นมั้ยตัวเล็กสนุกใหญ่เลย” ฉันรีบเปลี่ยนเ
“พี่พาร์ท! ตื่นได้แล้วสายแล้วนะ”“ตื่น!! หิวข้าว!!”“......” เงียบไร้ซึ่งคำตอบจากคนตัวโตที่นอนนิ่งไม่ขยับตัว ฉันกับตัวเล็กอาบน้ำแต่งตัวเสร็จเป็นชั่วโมงแล้วแต่พี่พาร์ท กลับไม่ยอมตื่น“พี่พาร์ทหนูหิว...ตื่นมาทำอาหารให้กินก่อน แล้วค่อยนอนต่อ”“......” เขายังคงเงียบและค่อย ๆ ลืมตา มองหน้าฉันกับลูก สมน้ำหน้าเมื่อคืนแกล้งฉันดีนัก พอตอนเช้ามาตัวเองตื่นสายเอง“ไปเลยค่ะ หนูหิวแล้ว กินข้าวเสร็จพาไปเดินเล่นด้วย หนูอยากพาน้องไปเดินริมชายหาดฝั่งโน้น” ฉันพูดและยิ้มให้พี่พาร์ทที่ยังทำหน้างัวเงีย“ฉันเป็นผัวเธอนะเธียร ไม่ใช่คนรับใช้ที่จะต้องมาคอยทำอาหารให้เธอกิน” บ่นเป็นตาแก่ไปได้“ก็เป็นผัวนั่นแหละหนูถึงใช้ อยากกินฝีมือพี่ พี่ทำอร่อย นะคะ ไปทำให้หน่อยหิว” ฉันยิ้มตาหยีให้พี่เขาที่เอาแต่ส่ายหัว ก่อนร่างหนาจะค่อย ๆ ลุกออกจากเตียง“รอป๊าก่อนนะครับ ป๊าไปทำอาหารให้แม่หนูก่อนแล้วเราไปเดินเล่นกัน” เขาพูดยิ้มกับลูกอย่างอารมณ์ดี ตัวเล็กก็อ้อนเอาใจยิ้มหวานให้พ่อ“ส่วนเธอใช้งานฉันหนักไปแล้วนะ เดี๋ยวเถอะ”ฟอด“แหวะ...เหม็นไม่ต้องมาหอมหนูเลยไปทำอาหารก่อนหิวจนจะกินพี่ เข้าไปได้ทั้งตัวอยู่แล้ว” ทำเป็นมาหอม ก่อนหน้
20.00 น.“ทำอะไรคะ” ฉันเดินเข้าไปกอดพี่พาร์ทที่ยืนอยู่ระเบียงห้อง หลังจากเอาตัวเล็กกินนม น้องคงจะเพลียกินนมแล้วหลับไปเลยพรึบ“.......” ร่างหนาพลิกตัวหันหน้ามาสบตา“หนูรักพี่จัง พี่รู้มั้ยวันนี้หนูมีความสุขมากแค่ไหน” สองแขนกอดเอวหนาไว้แน่น ใบหน้าเล็กแอบอิงแนบชิดแผงอกอุ่น“.......”“?” คิ้วเรียวขมวดเข้าหากัน โยนมือถือทิ้งลงบนโซฟา เกลี่ยตามองร่างกายฉันอย่างพิจารณาอย่าบอกนะว่า“หยุดไม่เอา” ฉันปฏิเสธเสียงแข็งเมื่อรู้ถึงความคิดคนหื่น“แต่เธอเป็นคนยั่ว ฉันก่อนนะธีรดา” เขาพูดเสียงกระเส่าแหบพร่า“ยั่วตอนไหน หนูอยู่ของหนูดี ๆ” เพิ่งจะเดินมาหาเองนะ จะบ้าหรือเปล่าพรึบ!!“ฮื่อ พะ...พี่พาร์ททำอะไร!” ร่างเล็กถูกจับตัวพลิกหันหลังสองมือจับราวระเบียงอย่างอัตโนมัติ อย่าบอกนะว่าจะทำตรงนี้นี่มันระเบียงบ้านนะ ถึงจะไม่มีใครนอกจากเราแต่มันก็น่าอายอยู่ดี“พะ...พี่พาร์ทดะ...เดี๋ยวก่อน คะ...คุยกันก่อน!!” พี่พาร์ททำเหมือนไม่ได้ยินที่ฉันพูด เขาถอดกางเกงตัวเองพร้อมควักท่อนเอ็นที่มันแข็งชูชันออกมาก และจัดการถอดกางเกงชุดนอน นิ้วเรียวเกี่ยวกางเกงชั้นในตัวจิ๋วทิ้งลงพื้น ทุกอย่างมันรวดเร็วจนฉันตั้งตัวไม่ทันพรวด!!กึ
“ตื่นแล้วเหรอคะคนเก่ง”“.......” ตัวเล็กทำหน้างุนงงบิดขี้เกียจอย่างน่าเอ็นดู หันหน้ามองซ้ายมองขวา ก่อนจะส่งยิ้มหวานให้แม่และจ้องหน้าพ่อที่นอนหลับอยู่ข้าง ๆตัวเล็กค่อย ๆ พลิกตัวลุกขึ้น คลานเข้าไปหาพ่อ นั่งจ้องพ่ออยู่แบบนั้นแล้วหันมายิ้มตาหยีให้แม่แปะ แปะก่อนฝ่ามือเล็กจะฟาดลงที่แผงอกแกร่ง พร้อมโน้มใบหน้าเล็กเข้าไปใกล้ก้มลงจุ๊บปากพ่อที่ค่อย ๆ ลืมตาขึ้นอย่างเอาใจ“คนสวยตื่นแล้วเหรอ” พี่พาร์ทส่งยิ้มพูดกับลูกอย่างอารมณ์ดี“ป๊าหลับไปตั้งแต่เมื่อไหร่ แล้วทำไมไม่ปลุก ฮื้ม” คนตัวโตดีดตัวลุกขึ้นเอาตัวเล็กนั่งตัก พูดเล่นกันเห็นแล้วก็ได้แต่มองแล้วยิ้มตาม“ตัวเล็กเพิ่งตื่นค่ะ” ฉันขยับเข้าไปหาสองพ่อลูก เห็นพี่พาร์ทดูเพลีย ๆ ขับรถมาตั้งใกล้พี่เขาคงจะเหนื่อยมาก พอนอนหัวถึงหมอนไม่ถึงนาทีก็หลับเลย“พี่พาหนูกับลูกมาเที่ยวแบบนี้แล้วงานพี่ล่ะคะ หนูไม่น่างอแงกับพี่เลย” ระหว่างที่พี่เขานอนเลขาเขาโทรมาฉันถึงได้รู้ว่าที่จริงพี่เขามีงานต้องทำแต่กลับเลือกที่จะพาฉันกับลูกมาเที่ยว รู้สึกผิดยังไงไม่รู้“ก็แค่งาน ไม่ทำอาทิตย์ สองอาทิตย์มันไม่เจ๊งหรอก ฉันทำงานมาเกือบครึ่งชีวิต ก็อยากมีเวลาเที่ยวกับลูกกับเมียเหม
เฮ้อ...เป็นเศร้าเลย นึกว่าจะได้โชว์หุ่น ที่ไหนได้ ฮื่อ พี่พาร์ทคนเจ้าเล่ห์หลอกมาติดเกาะชัด ๆ“อะ......ตัวเล็กแม่เจ็บนะ อย่ากัดได้มั้ย ถ้ากัดแม่จะไม่ให้กินแล้วนะ” แต่ก็ต้องสะดุ้งหลุดออกจากภวังค์ความคิด เมื่อตัวเล็กที่กำลังดูดนมงับเข้าให้ เจ็บเป็นบ้าเลย“อ้อแอ้” แล้วพอโดนดุหน่อยก็ทำตาแป๋วใส่ แบบนี้ใครจะโกรธลง ส่วนพ่อของลูก พี่พาร์ทมาถึงก็เอาของไปเก็บในห้อง มันเป็นหน้าที่เขาอยู่แล้วที่ต้องดูแลเมียกับลูกใครบอกให้มาหลอกกันแบบนี้เองล่ะ แล้วเราสองคนแม่ลูก ก็นั่งเล่นอยู่ระเบียงบ้าน ลมเย็น ๆ บรรยากาศที่นี่ดีมาก ได้กลิ่นน้ำทะเลแล้วชื่นใจ จะว่าไปที่นี่สวยมากชายหาดขาว ๆ น้ำทะเลสีใส แล้วยังมีความเป็นส่วนตัวแบบนี้ก็ไม่ต้องห่วงตัวเล็กปล่อยเล่นทรายได้สบายเลย...“หนูขอโทษแม่เหรอคะ ลูกสาวใครนะน่ารักจัง” ตัวเล็กเอามือเล็ก ๆ ลูบที่เนินอกก่อนจะยิ้มให้ ทำหน้าอ้อนยิ้มหวาน คลั่งรักลูกตัวเองไม่ไหว“กินค่ะ แม่รักน้องมากนะรู้มั้ย” ฉันจูบลงที่หน้าผากเล็กอย่างเอ็นดู น้องพลอยยิ่งโตยิ่งน่ารักแต่มีความเจ้าเล่ห์เหมือนพ่อ พูดแล้วก็แค้นใจ ถึงว่าเลือกให้แต่ละชุด เพราะแบบนี้นี่เอง“เป็นอะไร” เสียงเข้มเอ่ยขึ้น พร้อมร่าง