สองวันถัดมาขบวนรถยนต์สีดำสามคันได้เดินทางมาที่คอนโดมิเนียมของคนตัวเล็ก ร่างหนาที่เดินลงมาพร้อมกับน้องสาวของเขา เมื่อเดินเข้ามายังตัวอาคารด้านใน บรรดาเหล่าลูกน้องก็เดินออกมาเพื่อไปอยู่ตามจุดต่าง ๆ ของด้านล่างคอนโดมิเนียมเพื่อทำหน้าที่ของตัวเอง ระหว่างที่เดินทางมา เธอบอกกับพี่ชายตัวเองว่าไม่เห็นต้องทำถึงขนาดนี้ ให้ลูกน้องไปทำอย่างอื่นยังดีกว่ามาตามดูแลเธอ คนพี่ได้แต่ปฏิเสธคำขอก่อนจะพากันมาถึงคอนโดมิเนียม “พี่ลี เล่นใหญ่ขนาดนี้ นาอายคนอื่นเขานะเนี่ย เดี๋ยวเขาก็หาว่านาเป็นลูกมาเฟียหรอก” คนตัวเล็กเอ็ดพี่ชายขณะที่เดินเข้ามาในลิฟต์“พูดมากน่า ไม่เห็นเล่นใหญ่เลยสักนิด” ชายหนุ่มเอ่ยอย่างไม่ซีเรียสเพราะเขาทำเพื่อน้องสาวตัวเองล้วน ๆ เลยต้องทำถึงขนาดนี้เพื่อความปลอดภัย“พี่ลีก็นะ ทำแบบนี้นาอึดอัดแย่เลย” หญิงสาวพูดด้วยเสียงแผ่วเบา ก่อนจะเดินออกจากลิฟต์ไปเมื่อถึงที่หมายจากที่อยู่ด้วยกันมาไม่กี่วันคนเป็นพี่คอยสังเกตน้องอยู่ตลอดว่าเธอนั้นเป็นอย่างไรบ้าง เธอยังคงมีอาการซึม ๆ เหมือนน้อยใจตัวเอง ไม่ค่อยมีความสุขสักเท่าไร บางทีก็เหม่อลอย บางทีก็หายตัวไปแบบเงียบ ๆ เพื่อไปอยู่ในมุมของตัวเอง คนเป็นพี่ก็ท
เมื่ออาหารมาส่งลูกน้องของเขาก็จัดการเอาของขึ้นมาให้พร้อมกับรายงานว่าจับตัวคนชื่อเอิงได้แล้ว เขาเลยสั่งให้เอาผู้หญิงคนนั้นไปที่โกดังริมแม่น้ำที่เอาไว้เค้นความจริงกับพวกคู่ค้ามีการโกง แต่เขาไม่ใช่พวกมาเฟียแต่อย่างใด เขาแค่ต้องทำเพื่อความถูกต้องก็เท่านั้น“เอาไปไว้ที่โกดัง ถึงแล้วก็บอกด้วย เดี๋ยวฉันไปส่งนาก่อน” ชายหนุ่มรับของมาจากลูกน้องก่อนจะกลับเข้ามาในห้องอีกครั้ง ก็พบกับน้องสาวที่นอนฟุบอยู่ที่โซฟา“นาอาหารมาแล้ว ลุกมากินก่อน เดี๋ยวพี่ไปส่งที่คอนโดฯ แล้วพี่จะไปทำธุระต่อ” เขาจัดการเตรียมของกินให้น้องสาวและนั่งกินอาหารกันจนเสร็จเรียบร้อย พร้อมกับส่งน้องสาวที่คอนโดมิเนียมเสียงน้ำที่กระทบกับผนังโกดังพร้อมกับเสียงเรือขนส่งที่แล่นไปมาริมแม่น้ำ ทำให้สาวร่างสูงรู้สึกตัวขึ้น หลังจากที่เธอโดนชายชุดดำนั้นตามจับตัวได้ในตอนที่เธอกำลังจะจัดการยายเด็กนั้นอีกครั้ง แต่ใครจะไปรู้ว่าผู้ชายพวกนี้เป็นคนของยายเด็กนั่น ดูท่าไม่ใช่คนทั่วไปน่าจะรวยพอสมควร เธอลืมตาขึ้นมามองรอบ ๆ ก็พบกับชายหนุ่มหน้าตาดีคนหนึ่งนั่งอยู่บนเก้าอี้เหล็กมองมาที่เธอด้วยสายตาดุดัน“แกเป็นใคร อย่าคิดว่าฉันจะกลัว” หญิงสาวเอ่ยออกมาอย่าง
ทุกอย่างที่อัดอั้นอยู่ภายในใจของเธอนั้นถูกปล่อยออกมาในวันนี้ เธอเล่าเหตุการณ์ตั้งแต่ต้นจนจบแม้ว่าเธอนั้นจะอายที่จะเล่าก็ตาม แต่คนตรงหน้านี้คือพี่ชายที่พร้อมรับฟังเธอ เธอรวบรวมความกล้าที่จะพูดมันออกมา เมื่อพี่ชายเธอออกไปทำธุระเธอก็ได้ทบทวนกับตัวเองว่าจะเล่าให้ฟังดีไหม คิดวนไปมาอยู่อย่างนั้นแต่เธอก็รอจนหลับไป ก่อนที่จะรู้สึกตัวอีกครั้งตอนที่พี่ชายของเธอกลับมาและเล่าให้เขาฟังจนหมด เธอเล่ามันพร้อมทั้งน้ำตาที่มีทั้งเสียใจและโล่งใจในเวลาเดียวกัน “เล่าแล้วดีขึ้นไหม” ชายหนุ่มลูบหัวของเธออย่างเอ็นดูและอ่อนโยนเพราะเธอคือน้องสาวที่เขารัก เห็นแบบนี้แล้วก็แอบปวดใจ“ดีขึ้นค่ะ ขอบคุณนะคะที่รับฟังหนู” เธอยิ้มให้กับพี่ชายก่อนจะกอดเขาอย่างออดอ้อน“เช็ดน้ำตาหน่อยนะแล้วไปนอนได้แล้ว ดึกมากแล้ว” เขาพยามไล่เธอให้ไปพักผ่อน เพราะตอนนี้ดูจากสายตาแล้วเหมือนเธอกำลังจะอ้อนเขาขออะไรสักอย่าง“ไม่ต้องมาทำหน้าตาแบบนั้นเลยนา พี่ไม่ใจอ่อนหรอกนะ”“พี่ลีแน่ใจเหรอว่าจะไม่ใจอ่อนกับหนู” หญิงสาวมองด้วยสายตาออดอ้อนและน่ารักที่ปนไปด้วยคราบน้ำตา“แน่เสียยิ่งกว่าแน่เลยละ” เขามองน้องสาวอีกครั้งกับท่าทีที่ค้านกับคำพูด“พี่ลี หนูค
ลมที่พัดผ่านใบหน้าขาวที่กำลังดื่มด่ำกับบรรยากาศสดชื่นบนดาดฟ้าของบ้านพัก เธอมองไปยังภูเขาลูกโตที่ตอนนี้แสงอาทิตย์กำลังจะตกดิน เธอนั่งกอดเข่ามองทิวทัศน์ในยามเย็น เสียงนกร้องเรียกความสงบให้กับใจของเธอ เธอเดินทางมาถึงที่บ้านพักได้ครู่ใหญ่ก่อนจะเตรียมตัวออกมาเดินชมธรรมชาติ บริเวณนี้ผู้คนไม่ได้อาศัยพลุกพล่าน เพราะที่นี่มีบ้านพักเพียงแค่สี่หลังเท่านั้น และการที่จะจองได้นั้นต้องจองล่วงหน้า แต่เธอก็เข้าใจได้ว่าพี่ชายของเธอนั้นสามารถทำให้มันจองได้ในเวลาที่ต้องการ เมื่อพระอาทิตย์ตกดิน เธอหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาถ่ายภาพเก็บไว้พร้อมกับเก็บภาพตัวเองกับวิวรอบด้าน เธอพาตัวเองมาเดินเล่นที่บริเวณทะเลสาบเล็ก ๆ ที่อยู่ด้านหน้าของบ้านพัก ที่มีเรือคายัคให้ได้พายเล่น อากาศที่เริ่มเย็นลงทำให้เธอต้องหยิบเสื้อที่ผูกเอวอยู่เอาสวมใส่ ขณะที่กำลังสวมใส่นั้นก็นึกขึ้นได้ว่าเสื้อตัวนี้ชายหนุ่มเป็นคนซื้อให้เธอในวันที่ได้เที่ยวด้วยกันครั้งแรก แต่ก็ต้องเอาความคิดนั้นออกไปถึงเธอจะคิดถึงเขามากแค่ไหนในตอนนี้ “ขอโทษนะคะ” หญิงสาวเดินไปยังห้องรับรองลูกค้าที่เป็นบ้านที่เจ้าของบ้านพักนั้นอาศัยอยู่“สวัสดีครับ มีอะไรให้ผมช่วยไ
บรรยากาศภายในบ้านตอนนี้เงียบสนิท ไม่มีใครพูดอะไรออกมาและได้แต่มองหน้ากันอยู่ในความเงียบ เขาปล่อยให้เธอได้ใจเย็นลงและดูเหมือนเธอจะใจเย็นลงจริง ๆ เลยเริ่มการง้อขั้นต่อไปทันที ริมฝีปากหนาประทับลงที่ข้างแก้มของหญิงสาวฟอดใหญ่พร้อมกับยิ้มออกมาอย่างพอใจ“พี่พีท !! ใครให้หอมและก็ปล่อยนาด้วยค่ะ” เธอที่เริ่มดึงสติกลับมาว่าเธอยังคงน้อยใจเขาอยู่ก็เริ่มประชดอีกครั้ง“พี่นี่แหละอยากหอมนา อยากกอดนา” เขาพูดอย่างไม่อายเพราะเขาอยากทำแบบนั้นจริง ๆ “พอได้แล้ว ไม่เอาห้ามพูดแบบนี้นะ” คนตัวเล็กดิ้นออกจากการเกาะกุมพร้อมกับเดินหนีเขาออกมาที่ห้องนั่งเล่น“เขินเหรอที่พี่ทำแบบนี้” ชายหนุ่มพูดไปยิ้มไปอย่างผู้ชนะและเดินตามไป“ใช่ค่ะ เขิน ห้ามทำ หนูงอนพี่อยู่รู้ไว้ด้วย” เธอร่ายยาวออกมาอย่างไม่รู้ตัวเพราะความน้อยใจ ก่อนจะดึงสีหน้ากลับมาได้เพราะเธอได้เผลอพูดสิ่งที่กำลังเป็นอยู่ไปแล้ว“งอนอะไรพี่คะ แล้วทำไมหนูถึงหนีหายจากพี่ไปแบบนี้เล่าให้พี่ฟังได้ไหม” เขาขยับตัวเข้าไปใกล้พร้อมกับโอบกอดเอวบางของเธอให้เข้ามาชิดตัวเขาเกิดความเงียบขึ้นอีกครั้ง เหมือนเธอกำลังจะทำใจเล่าเรื่องบางอย่างให้เขาฟัง เขาได้แต่จ้องมองใบหน้าจิ้มล
ทั้งสองคนนั่งคุยกันในห้องนั่งเล่นอยู่นาน พูดคุยในเรื่องต่าง ๆ ที่ห่างหายกันไปและไม่ได้เจอกัน คนตัวเล็กโผกอดชายหนุ่มครั้งแล้วครั้งเล่าอย่างไม่รู้จักเบื่อ จนเวลาล่วงเลยมาจนถึงดึก หญิงสาวนึกสงสัยขึ้นมาว่าทำไมเขาถึงหาเธอเจอ ชายหนุ่มนั่งมองใบหน้าหวานที่ไม่อาจละสายตาไปได้ และมองเธอกลับเมื่อเธอนั้นกลับมาจ้องเขาอีกครั้งเหมือนต้องการคำตอบบางอย่าง“พี่หานาเจอได้ยังไงคะ” หญิงสาวถามด้วยความสงสัยก่อนจะมองจ้องเขาอย่างเอาคำตอบ“พี่ให้เพื่อนช่วยหา แล้วก็ไปตามถามจากเพื่อน ๆ ของหนูค่ะ” ชายหนุ่มขยับตัวเข้าไปหาพร้อมกับโอบไหล่คนตัวเล็กเพื่อกอดเธออีกครั้ง“พี่นี่เพื่อนเยอะนะคะ ความสามารถก็เยอะมากด้วย หนูชักสงสัยแล้วว่าพี่เป็นแค่เจ้าของร้านกาแฟจริง ๆ ใช่ไหม” หญิงสาวพูดด้วยน้ำเสียงติดตลกและขำออกมาเล็กน้อย “ลองเดาดูสิ” ชายหนุ่มพูดขึ้นก่อนจะยิ้มออกมา แต่คนตัวเล็กกลับตัดบททิ้งเสียอย่างนั้น เขากำลังอยากแกล้งเธออยู่พอดี“ไม่เดาค่ะ นาง่วงแล้ว ไปนอนดีกว่า” หญิงสาวลุกขึ้นพร้อมกับจะเดินออกจากห้องนั่งเล่น แต่เขากลับคว้าแขนเธอจนล้มลงมานั่งทับที่ตักเขา“วันนี้พี่นอนด้วยนะคะ” เขาพูดขึ้นพร้อมกับกระชับวงแขนที่ประคองเธออยู
เมื่อกลับมาถึงบ้านพัก เขาจัดการให้เธอได้นั่งพักผ่อนและจัดการธุระของตัวเอง และชายหนุ่มก็จัดเตรียมอาหารเพื่อรอเธอลงมากินมื้อเย็นที่หน้าบ้านพักริมสระน้ำ เขาจัดเตรียมทุกอย่างสำหรับคืนนี้จนเสร็จสรรพเรียบร้อย เมื่อถึงเวลาเขาก็ขึ้นไปตามเธอที่ตอนนี้กำลังนั่งหวีผมอยู่ที่หน้ากระจก “อาหารพร้อมแล้วนะครับ อาการเพลียดีขึ้นไหมครับ” ชายหนุ่มถามขึ้นด้วยความเป็นห่วงพร้อมกับเดินไปอยู่ด้านหลังของเธอที่กำลังยืนหวีผมอยู่และมองเธอผ่านกระจก “ดีขึ้นแล้วค่ะ ได้นั่งพักก็โอเคขึ้นแล้ว อาหารเรียบร้อยแล้วใช่ไหมคะ ลงไปกินกันเถอะค่ะ” คนตัวเล็กหันมาหาเขาพร้อมกับดันหลังชายหนุ่มเดินนำลงมาชั้นล่างอาหารที่ถูกจัดอย่างสวยงามทำให้รู้สึกเจริญอาหาร รวมไปถึงบรรยากาศโดยรอบที่พระอาทิตย์กำลังจะตกดินแล้ว ภูเขาลูกใหญ่ที่อยู่ตรงหน้าทำให้รู้สึกผ่อนคลายในเวลาเดียวกัน ทั้งสองคนเริ่มกินอาหารพร้อมกับมองวิวโดยรอบและพูดคุยกันอย่างหยอกล้อ อาหารที่ไม่ได้หรูหราก็ทำให้มันอร่อยขึ้นได้เพราะมีคนที่นั่งอยู่ข้างกัน ทั้งสองหันมามองหน้ากันโดยไม่ได้นัดหมาย และหัวเราะออกมากับความบังเอิญ เสียงเพลงที่เปิดคลอเบา ๆ ล้วนแล้วแต่เป็นฝี
เช้าวันถัดมาทั้งสองคนเดินทางกลับมายังคอนโดมิเนียมของคนตัวเล็กหลังจากเที่ยวพักผ่อน ทั้งคู่กลับมาใช้ชีวิตปกติ หลังจากที่กลับมาคนตัวเล็กแทบไม่ต้องทำอะไรเองเลย เพราะมีชายหนุ่มคอยทำให้ทุกอย่างดูแลอย่างกับเจ้าหญิงตัวเล็ก ๆ เธอยังคงเดินทางไปหาเขาที่ร้านเหมือนเดิมทั้งไปและกลับ แล้วก็ได้รับการต้อนรับกลับมาอย่างน่ารักจากพนักงานในร้านของชายหนุ่ม เธอกล่าวขอบคุณทุกคนอย่างจริงใจ ในวันแรกที่เธอไปที่ร้านทุกคนก็ต่างตกใจที่เธอนั้นกลับมา แล้วก็คอยส่งสายตาแซวเธอกับชายหนุ่มไม่เลิก ยิ่งเป็นพี่เขตยิ่งตัวดีเข้าไปใหญ่ แต่รายนั้นจะแกล้งพี่ชายเขาเสียมากกว่า “วันนี้พี่รอรับกลับเหมือนเดิมนะ” ชายหนุ่มเอ่ยขึ้นก่อนจะยื่นนมสดปั่นให้กับเธอ“ได้ค่ะ ขอบคุณนะคะ” เธอรับแก้วมาดื่มก่อนจะขอตัวไปเรียนต่อในช่วงบ่าย และตอนนี้เธอต้องเรียนให้ทันเพื่อนเพราะลาเรียนไปสองวัน แต่ยังดีที่ส้มโอนั้นจดรายละเอียดเนื้อหาไว้ให้เธออยู่บ้าง“เสร็จแล้วโทร.บอกพี่นะคะ” ชายหนุ่มยิ้มให้ก่อนจะหันไปทำหน้าที่ของตัวเองต่อแล้วเดินหายไปที่หลังร้านเพื่อคุยโทรศัพท์ชายหนุ่มโทรศัพท์หาเพื่อนรักที่ช่วยตามหาคนตัวเล็กให้และตอนนี้เขาก็ต้องตามหาคนเช่นกัน เขาให้เ
ชายหนุ่มยืนมองเธอจนพนักงานในร้านนั้นต้องสะกิดเขาให้กลับร้าน และนั่นคือครั้งแรกที่เขาเจอเธอ แล้วก็มาเจอเธออีกครั้งตอนที่ชนกันที่หน้าร้าน ความน่ารักที่เขาได้เห็นอย่างใกล้ชิดทำหัวใจของเขานั้นเต้นแรงเหมือนกลองรัว แต่ก็ต้องผละออกจากเธอเพราะแถวนั้นคนเยอะและเขาเองนั้นก็มีแฟนอยู่แล้ว เขาเลยทำอะไรไม่ได้นอกจากมองเธออยู่ห่าง ๆ และพยายามทำตัวไม่สนิทสนมกับเธอในตอนที่เธอนั้นมาที่ร้านของเขาบ่อย ๆ “พี่เจอหนูตอนที่หนูเต้น ๆ อยู่เหรอคะ น่าอายจริง ๆ แล้วพี่เขินหนูไหมตอนที่หนูแซวพี่ครั้งแรก” คนตัวเล็กซุกอกเขาอย่างเขินอายก่อนจะเงยหน้ามองเขา“ตอนนั้นพี่ทำตัวไม่ถูกอยู่นะ เพราะไม่เคยมีสาวคนไหนกล้าแซวพี่ ถึงเขาจะมาที่ร้านพี่แบบหนูทุกวัน” ในตอนนั้นเขาเห็นเธอมาร้านเขาทุกวัน พยายามมองหาเขา ในขณะที่เขาพยายามหลบเธอ มันน่าตลกดีเหมือนกัน ในใจเขาก็คิดว่าเธอคนนี้พยายามมากในการมาหาเขา แต่ก็ผิดที่เขาเองไม่ได้บอกเธอว่าเขามีแฟนแล้ว“ก็หนูชอบพี่มาก ๆ เลยนี่คะ ถึงหน้าพี่จะดูโหดแต่มันหล่อมากในสายตาหนู” คนตัวเล็กเงยหน้ามองแฟนหนุ่มพร้อมกับเบ้ปากด้วยหน้าตาน่าเอ็นดู พร้อมกับหอมแก้มชายหนุ่มอีกครั้งเป็นการให้รางวัลกับความหล่อ“พี
การกินอาหารในช่วงบ่ายจบลงพร้อมกับภาพที่บันทึกบรรยากาศรวมทั้งรูปคู่ของทั้งสองคน เมื่อกินเสร็จก็พากันเดินลงมาถ่ายภาพที่สวนด้านล่าง มันตกแต่งไปด้วยไม้ประดับรูปทรงต่าง ๆ และมีบ่อน้ำพุตั้งอยู่ที่กลางสวน อากาศที่ไม่ได้ร้อนมากเหมาะกับถ่ายภาพ ในตอนนี้ผู้คนที่เดินผ่านไปมาก็มองไปที่คู่รักที่ยืนอยู่ที่ลานน้ำพุด้วยรอยยิ้มที่ชื่นชมและอิจฉา“พี่พีทคะ ขอสวย ๆ เลยนะ จะเอาไปอวดคุณแม่” หญิงสาวเดินนำแฟนหนุ่มมาที่น้ำพุพร้อมกับหยิบมือถือขึ้นมาถ่ายอีกครั้ง “โอเคครับ” สายตาของชายหนุ่มมองเธอด้วยความสุขใจ ใบหน้าหวานและรอยยิ้มที่เขานั้นจะได้มองมันนับจากนี้และจะเป็นความสุขของเขาตลอดไป“ไปถ่ายตรงนั้นไหมคะ เขามีของตกแต่งให้เราถ่ายรูปด้วย” คนตัวเล็กเดินไปที่โต๊ะตัวหนึ่งที่ทางร้านจัดไว้และมีของน่ารักเต็มโต๊ะไปหมด มันเป็นอุปกรณ์เสริมสำหรับการถ่ายภาพ เธอหยิบส้มปลอมขึ้นมาพร้อมกับแนบที่แก้มของตัวเองทั้งสองข้างพร้อมกับยิ้มไปที่กล้องที่แฟนหนุ่มนั้นถือรออยู่เพื่อถ่ายภาพบรรยากาศที่อบอวลไปด้วยความสุขและความสนุกของทั้งสองตกเป็นเป้าสายตาของผู้คนในบริเวณนั้น ทำให้หญิงสาวเริ่มเขินอายขึ้นมาบ้างแล้ว เพราะบางรูปที่ถ่ายคู่กับแฟน
ทั้งคู่จัดการธุระส่วนตัวเสร็จเรียบร้อยพร้อมกับกินของว่างที่พ่อบ้านเตรียมไว้ให้ และเดินทางออกมาเพื่อเที่ยวตามสถานที่ต่าง ๆ สถานที่แรกที่จะไปคือชมไร่องุ่นที่ห่างจากบ้านชายหนุ่มไปไม่ไกล ได้เข้าไปดูการหมักไวน์ และกิจกรรมที่ทางไร่องุ่นจัดขึ้น ทั้งสองคนทำกิจกรรมร่วมกัน พร้อมกับแวะถ่ายรูปกันอย่างสนุกสนาน คนตัวเล็กเดินไปที่ต้นไม้ใหญ่ต้นหนึ่งพร้อมกับเรียกชายหนุ่มที่เดินจูงจักรยานตามมาอย่างช้า ๆ ก่อนจะมาจอดอยู่ด้านหน้าของเธอโดยที่ตัวของเธอนั้นพิงกับต้นไม้อยู่“พี่พีทจะทำอะไรคะ นาออกไปไม่ได้” คนตัวเล็กถามด้วยความสงสัย“พี่เหนื่อยครับ อยากได้พลัง” ชายหนุ่มยื่นหน้าเข้าไปหาหญิงสาวก่อนจะยิ้มออกมา พร้อมกับมองไปที่ดวงตาสวยอย่างทะเล้น“ก็นึกว่าอะไร” คนตัวเล็กโน้มหน้าไปจุ๊บริมฝีปากหนาเพื่อให้รางวัลและเติมพลัง ก่อนจะยิ้มหวานให้เขาทั้งคู่ออกเดินทางจากไร่องุ่นพร้อมกับไปที่โรงงานขนมหวานแห่งหนึ่งที่อยู่ไม่ไกลกันมากนัก ร่างเล็กเดินไปยังตู้ขนมหวานที่มีขนมวางเรียงรายอย่างน่ากิน เธอเดินไปดูตามตู้ต่าง ๆ ที่ตั้งอยู่มากมายโดยมีชายหนุ่มนั้นเดินตามหลังมาติด ๆ เพราะมีสายตาจากหนุ่ม ๆ ภายในร้านนั้นมองเธอไม่วางตา“พี่พ
ตลอดเวลาที่ผ่านมาหญิงสาวมีความสุขมากที่ได้มีแฟนหนุ่มคอยเคียงข้าง ไม่ว่าเธอจะทำอะไร หรือไปที่ไหนก็มีเขาไปด้วยทุกที่ และไม่ว่าเธอนั้นต้องการอะไรเขาก็หามาให้หมดทุกอย่างแบบไม่มีขัด ถ้าถามเรื่องของการทะเลาะกันไม่ใช่ว่าไม่มี ก็มีบ้างที่เป็นเธอเองที่งอแงใส่แฟนหนุ่ม แต่เขาก็มักจะใจเย็นกับเธอเสมอ อย่างเช่น ในวันนี้หลังจากที่เธอนั้นสอบปลายภาคเรียนจบแล้วเขาก็พาเธอมาเที่ยวเพื่อพักผ่อน เขาให้เหตุผลว่าเธอนั้นต้องการสิ่งที่เยียวยาจิตใจในตอนนี้เพราะเธอทั้งเรียนหนักและงานเยอะ ทำให้เธอเกิดอาการเครียดจนแฟนหนุ่มสังเกตได้ “พี่พีทคะตอนนี้เราจะไปไหนกันคะ” คนตัวเล็กถามขึ้นเมื่อเห็นว่าทางที่กำลังมุ่งหน้าไปทั้งสองข้างทางนั้นมีแต่ต้นไม้และภูเขาเต็มไปหมด “ไปบ้านของพี่กันค่ะ” ชายหนุ่มพูดด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะขับรถและเปิดเพลงเพื่อสร้างบรรยากาศ โชคดีที่ตอนนี้อากาศไม่ได้ร้อนมากเพราะมันใกล้จะเย็นแล้ว กว่าจะออกจากบ้านมาได้ก็บ่ายแก่ ๆ “พี่มีบ้านกี่หลังกันคะ หนูชักจะสงสัยแล้วนะคะว่าพี่ทำงานถูกกฎหมายไหม พี่ไม่ได้โกหกอยู่ใช่ไหม” หญิงสาวถามอย่างสงสัยพร้อมกับหรี่ตามองเขาเชิงแกล้ง “คิดไปถึ
หลังจากที่ได้ไปพบครอบครัวของชายหนุ่มเมื่อหลายอาทิตย์ก่อน เธอนั้นรู้สึกดีใจและอบอุ่นใจมากที่ได้เจอกับครอบครัวของเขา และเพราะได้การต้อนรับอย่างดี วันนี้เธอจึงจะพาเขามาพบกับครอบครัวของเธอบ้าง เธอก็หวังว่าเขาจะสบายใจและไม่อึดอัดกับบ้านของเธอ “พี่พีทตื่นเต้นเหรอคะ” เธอหันไปมองชายหนุ่มที่กำลังขับรถด้วยท่าเกร็ง ๆ และมีสีหน้าที่กังวลเล็กน้อย จนเธอเองก็อดอมยิ้มไม่ได้เพราะเขาก็ไม่ได้ต่างจากเธอที่ไปพบที่บ้านเขาในวันนั้น แต่วันนี้แตกต่างตรงที่ว่าเราไม่ได้ค้างที่บ้านก็เท่านั้น “ก็นิดหน่อยครับ” ชายหนุ่มตอบเพียงสั้น ๆ ก่อนจะเลี้ยวรถเข้ามาจอดภายในบริเวณบ้านของเธอที่มีบรรดาสาวใช้ยืนรออยู่แล้วไม่ต่างจากบ้านของเขาสักเท่าไร แต่บริเวณบ้านนั้นดูอบอุ่นและน่าอยู่มาก ๆ หญิงสาวเดินเข้ามาในตัวบ้านพร้อมกับป้าภาแม่นมที่เลี้ยงดูเธอมาตั้งแต่เด็กที่ยืนรออยู่ เธอเดินเข้าไปโอบกอดพร้อมกับแนะนำชายหนุ่มให้ได้รู้จัก ป้าภาดูชอบพี่พีทมากและเอ่ยชมความหล่อของร่างสูงไม่หยุด และไม่นานนักผู้เป็นประมุขของบ้านทั้งสองก็เดินลงมาจากชั้นสองของบ้าน “คุณพ่อ คุณแม่” หญิงสาวรีบเดินเข้าไปหาท่านทั
ทางด้านของพ่อลูกที่นั่งคุยกันอยู่ที่ห้องนั่งเล่น ดูจากสีหน้าพ่อแล้วชายหนุ่มก็รู้ว่าพ่อพอใจมากแค่ไหนกับแฟนคนนี้ของเขา แค่นี้ก็สบายใจแล้ว เขามองไปที่พ่อเหมือนท่านจะพูดอะไรบางอย่าง จนเป็นเขาเองที่พูดขึ้นมา“พ่อมีอะไรอยากคุยกับผมหรือเปล่าครับ” เขามองไปที่พ่อที่กำลังยิ้มมาให้“แค่รู้สึกว่ารอบนี้แกตัดสินใจได้ดี เธอน่ารักน่าเอ็นดู ดูจากที่แม่แกดีใจจนออกนอกหน้า คงไม่มีเรื่องอะไรอีกแล้วนะ” คนพ่อพูดด้วยความดีใจและเป็นห่วง“รอบนี้ผมมั่นใจมากครับพ่อ เธอเป็นคนดีและน่ารักกับผมเสมอ” ชายหนุ่มพูดด้วยสีหน้าเปื้อนยิ้ม“แล้วใครจีบใครก่อนล่ะ ดูแกมีความสุขมาก ดูหลงเขาแบบนี้พ่อก็พลอยดีใจไปด้วย” พ่อพูดด้วยความดีใจที่ได้เห็นลูกชายของเขานั้นกลับมามีความสุขอีกครั้งในรอบปี“ผมไม่บอกพ่อหรอก” เขาพูดก่อนจะเมินคำพูดของพ่อ มีหวังได้โดนล้อแน่นอน เขตแดนยิ่งแล้วใหญ่ พอรู้เรื่องของนาก็ล้อทันทีที่มีคนมาจีบเขาก่อนสองพ่อลูกนั่งมองหน้ากันอย่างรู้ทัน ชายหนุ่มมองพ่อของตัวเองที่กำลังทำอะไรบางอย่างในโทรศัพท์มือถือ พร้อมกับเสียงข้อความแจ้งเตือนธนาคารของตนที่ดังขึ้นเมื่อพ่อของเขานั้นเงยหน้าขึ้นมาพอดี เขารีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูท
เมื่อถึงเวลามื้อเย็นทุกคนต่างมารวมตัวกันที่ห้องอาหาร และคนตัวเล็กที่มีอาการงอน ๆ เขาอยู่ก็ดูดีขึ้น เพราะเขานั้นบอกเธอไปคร่าว ๆ บ้างแล้ว แต่ก็ยังต้องกลับไปคุยกันอย่างจริงจังอีกที พ่อและแม่ของชายหนุ่มมานั่งรออยู่แล้ว เขาเดินมาเลื่อนเก้าอี้ให้เธอและไปนั่งประจำที่ของตัวเอง การเจอครอบครัวของเขาครั้งแรกทำเธอตื่นเต้นไม่น้อย แต่พออยู่ไปได้สักพักครอบครัวของเขาเป็นครอบครัวที่อบอุ่นมาก และเขาเป็นลูกชายคนเดียวของบ้านการเลี้ยงดูมันเลยออกมาดีแบบนี้ “เขตทำไมแกไม่กลับบ้านตัวเองไปสักที มาที่นี่ทำไมบ่อย ๆ” ชายหนุ่มพูดขึ้นพร้อมกับมองไปที่ลูกพี่ลูกน้องของตัวเอง “ผมแค่ยังไม่อยากกลับ” ชายหนุ่มตักข้าวเข้าปากพร้อมกับทำหน้ายียวน “อย่ามาหาไถเงินกับพี่กับแม่พี่เชียวนะ ไม่งั้นจะหักออกจากค่าพาร์ตไทม์” เขาพูดขึ้นอย่างกวน ๆ เช่นกัน “ก็ให้น้องมันอยู่ไปนั่นแหละ รอพ่อกับแม่เขากลับมา” พ่อพูดแทรกขึ้นอย่างเอาใจเขตแดน ทำเอาคนเป็นลูกถึงกับกลอกตามองบน หญิงสาวนั่งมองคนในบ้านและฟังบทสนทนาอย่างเงียบ ๆ ก่อนจะยิ้มออกมากับท่าทางของแฟนหนุ่มจนเธอต้องห้ามปรามโดยการแตะมือไปที่ขาของเข
จากที่ขับรถเข้ามาบริเวณบ้านคนตัวเล็กก็ตกตะลึงกับบ้านของชายหนุ่มที่ใหญ่โตอย่างกับคฤหาสน์ ทุกอย่างถูกแบ่งเป็นส่วน ๆ ดูร่มรื่นสะอาดตา เมื่อเดินเข้ามายังตัวบ้านมีบรรดาแม่บ้านมากมายที่ยืนทำหน้าที่ของตัวเอง และมีบางส่วนที่ยืนรอต้อนรับผู้เป็นเจ้าของบ้าน แม่บ้านรีบเข้ามาถือของที่ชายหนุ่มกำลังถืออยู่และนำไปวางไว้ให้ที่ห้องรับแขก ชายหนุ่มหันมามองคนตัวเล็กที่กำลังตกตะลึงด้วยสีหน้าที่น่าเอ็นดูจนทำเขายิ้มออกมา“ทำไมทำหน้าแบบนั้นล่ะครับ” ชายหนุ่มเขี่ยไปที่ปลายจมูกมนของหญิงสาวอย่างหยอกล้อ“ทำไมบ้านพี่ถึงใหญ่ขนาดนี้คะ หนูแทบช็อกเลยนะ” หญิงสาวแหวขึ้นพร้อมกับทำหน้างอง้ำพอได้รู้ถึงฐานะของเขา“พี่ก็ไม่รู้เหมือนกันครับว่าทำไมพ่อกับแม่ถึงสร้างบ้านใหญ่ขนาดนี้” ชายหนุ่มหัวเราะออกมาอย่างชอบใจ ก่อนจะพาคนตัวเล็กมาที่ห้องนั่งเล่นหลังจากที่พาแวะดูนั่นนี่ภายในบ้านท่ามกลางห้องนั่งเล่นขนาดใหญ่ตอนนี้มีบุคคลที่ไม่คุ้นหน้านั่งอยู่ และมีหนึ่งคนที่คุ้นหน้ากำลังส่งยิ้มมาให้หญิงสาวด้วยท่าทางร่าเริง เธอได้แต่เก็บความสงสัยไว้และเดินไปยังกลางห้องนั่งเล่นกับชายหนุ่ม ชายวัยกลางคนส่งยิ้มมาให้ เธอคาดว่าน่าจะเป็นพ่อของชายหนุ่ม แล
สงครามการสอบจบลงอย่างสวยงาม วันสุดท้ายของการสอบหญิงสาวนั้นมีสอบแค่ช่วงเช้าก่อนจะให้ชายหนุ่มมารับเธอที่คณะเพื่อกลับไปเปลี่ยนชุดที่คอนโดมิเนียม และออกไปกินข้าวกับเพื่อน ๆ หลังสอบเสร็จและได้ไปผ่อนคลาย ในช่วงค่ำชายหนุ่มนั้นบอกกับเธอว่าจะพาไปพบกับครอบครัว เมื่อเธอได้ยินแบบนั้นก็ถึงกับทำตัวไม่ถูกและรู้สึกเกร็งขึ้นมาทันที “เดี๋ยววันนี้นาจะรีบกลับนะคะ นาอาจจะไปแค่กินข้าวกับเพื่อน พี่พีทมารับหนูหน่อยแล้วเราไปซื้อของกัน จะเอาไปให้พ่อกับแม่ของพี่” หญิงสาวหันไปบอกชายหนุ่มที่ขับรถอยู่ “ให้พี่ไปรับกี่โมงก็ส่งข้อความมาบอกพี่นะคะ” ชายหนุ่มหันมาบอกก่อนจะหันไปขับรถเพื่อมุ่งหน้าไปคอนโดมิเนียมเพื่อพาคนตัวเล็กไปเปลี่ยนชุด ใช้เวลาไม่นานทั้งสองคนก็มาถึงคอนโดมิเนียม หญิงสาวเดินเข้าไปเปลี่ยนชุด ก่อนจะออกมาพร้อมกับชุดเดรสสีขาวสะอาดตา มันทำให้เธอดูเด็กลงอย่างมากราวกับเด็กอายุสิบแปด ชายหนุ่มที่นั่งรออยู่ที่ห้องนั่งเล่นหันมามองเธออย่างไม่เชื่อสายตาตัวเอง เธอสวยมากในสายตาเขา ในตอนนี้อยากเก็บเธอไว้ไม่ให้ออกไปไหนไม่ให้ใครเห็น “พี่พีทคะ นาแต่งตัวเสร็จแล้วค่ะ” คนตัวเล็กส่งเสียงเ