"คะ...คุณ...เควิน" มิลินตาเบิกกว้างเรียกชื่อชายหนุ่มด้วยเสียงสั่นเครือ ทั่วร่างแข็งทื่อเมื่อสบเข้ากับสายตาร้ายกาจของอีกฝ่ายพิพัฒน์มองร่างเล็กของลูกสาวสลับกับชายหนุ่มร่างกำยำด้วยความสับสนมึนงงที่ทั้งคู่รู้จักกัน"เอ่อ คุณเควินครับ ที่ผมมาวันนี้จะขอมาคุยเรื่องหนี้ที่ยังค้างอยู่" พิพัฒน์รีบเข้าประเด็นที่ต้องการจะพูดคุยทันที เริ่มไม่ค่อยไว้วางใจกับสายตาที่เควินจ้องมองลูกสาวตนเอง"ว่ามาสิ" ร่างสูงเอ่ยเสียงสบาย ๆ โดยสายตาไม่ได้ละไปจากร่างหญิงสาว เขาใช้สายตาโลมเลียประเมินเธออย่างโจ่งแจ้งไม่เกรงใจบิดาเธอแม้แต่น้อย เควินยืนพิงโต๊ะทำงานตัวใหญ่ล้วงกระเป๋ากางเกงด้วยท่าทีสบายอกสบายใจ"ผมจะขอเวลาอีกหน่อยได้ไหมครับ" บิดาใช้สายตาหันมายังหญิงสาวให้เธอพูดต่อ"คือ...ลินจะขอทำงานใช้หนี้ที่เหลือแทนพ่อเองค่ะ" มิลินจิกมือทั้งสองข้างเข้ากับปลายกระโปรงเดรสที่สวม ก้มหน้าเอ่ยอย่างรู้สึกกดดันกับสายตาร้อนของชายหนุ่ม"เหรอ...ยังไงล่ะ""ละ...ลินจะหางานทำแล้วทยอยคืนเป็นเดือนๆได้ไหมคะ""เดือนละเท่าไหร่""..." หญิงสาวเม้มปากเข้าหากันแน่น พยายามลองคำนวณรายได้ที่แน่นอนที่จะสามารถทยอยคืนให้มาเฟียหนุ่ม
ใช้เวลาไม่นานลูกน้องก็ขับพาไคโรมาถึงหน้าคอนโดของมิลิน ชายหนุ่มก้าวลงทันทีด้วยความรีบร้อนแม้รถจะยังไม่ทันได้จอดสนิท เขาเดินไปตามทางเดิน ภายในใจร้อนรุ่มต้องการที่จะพูดคุยกับร่างเล็กให้เร็วที่สุดชายหนุ่มกดรหัสใหม่ห้องพักหญิงสาวทันทีโดยพลการ คาดว่าคงพบหญิงสาวตัวเล็กร้องไห้เสียใจอยู่กลางห้อง แต่เขากลับพบเพียงความว่างเปล่า ขาแกร่งก้าวไปดูในห้องนอนแต่ก็ไร้วี่แววหญิงสาวเช่นกัน ไคโรได้แต่ขมวดคิ้วสับสน ภายในอกเริ่มบีบรัดคล้ายจะหายใจไม่ออก เขาสำรวจจนทั่วห้องพักขนาดเล็ก ไม่พบสิ่งผิดปกติใด ๆ นอกจากมีกระเป๋าใบหรู 2 ใบที่เขาซื้อให้วางอยู่บนเคาน์เตอร์ครัว แต่ภายในห้องไม่มีร่องรอยการรื้อค้นอะไรกระเป๋าถือที่หญิงสาวพกติดตัวไม่ได้อยู่ คาดว่าเธอคงออกไปข้างนอก เขารีบต่อสายหามือขวาคนสนิทที่รออยู่ภายในรถหน้าคอนโดมิลินทันที"มิลินไม่อยู่ห้อง ไปเอาภาพกล้องวงจรปิดมาให้กู"(ครับ)เมื่อสั่งงานเสร็จเขาก็กดตัดสาย ทิ้งตัวลงบนโซฟาเล็กอย่างหมดแรง ความรู้สึกหวาดกลัวเริ่มคืบคลานเข้ามา เขาเคยโดนปืนจ่อหน้าแต่ไม่มีความรู้สึกอะไรอื่นนอกจากแค้นเคือง กลับกันเพียงแค่หญิงสาวหายตัวไปเพียงชั่วโมงเดียวเขากลับตื่น
ร่างสูงของชายหนุ่ม 2 คน เดินตรงเข้าที่ยังด้านหน้า การ์ดที่ยืนประจำอยู่รีบเดินเข้ามากันเอาไว้ทันที"มาทำอะไรครับ""มาที่นี่ก็ต้องมาเล่นไหม" น้ำเสียงยียวนของร่างสูงเอ่ยบอก"ขอดูบัตรสมาชิกด้วยครับ""ผมเพิ่งเคยมา ยังไม่มีหรอกบัตร""ถ้าแบบนั้นก็เข้าไม่ได้ครับ""อ้าวแล้วแบบนี้ผมจะทำบัตรได้ไงเหล่า""ต้องมีลูกค้าที่มีบัตรพาเข้าก่อนครับ เชิญกลับไปก่อนครับ"ผลัวะ!ชายหนุ่มร่างสูงชกเข้าไปที่ท้องของการ์ดอย่างแรงในจังหวะที่เผลอ ใช้ท่อนแขนแข็งแรงรัดลำคออีกฝ่ายแน่นจนมันเริ่มขาดอากาศหายใจและสลบไป ส่วนอีกคนใช้ด้านปืนฟาดไปที่ท้ายทอยเต็มแรงจนร่างกำยำของการ์ดฟุบลงกับพื้นทันที ชายหนุ่มทั้งคู่รีบลากร่างของการ์ดไปหลบมุมเอาไว้"เรียบร้อยครับ"ลูกน้องที่ไคโรส่งไปส่งเสียงผ่านไมค์ตรงปกเสื้อ มาเฟียหนุ่มที่เฝ้าสังเกตการณ์ผ่านกล้องวงจรปิดในมือถือที่ให้โอนิกซ์ช่วยแฮ็กภาพมาให้ เนื่องจากระยะเวลาที่กระชั้นชิด ทำให้ไม่มีเวลาพอที่เพื่อนรักจะช่วยส่งภาพไปรบกวนการทำงานของกล้องได้ ทำได้เพียงลักลอบดูความเคลื่อนไหวด้านในลูกน้องอีกกลุ่มนับ 10 คนของไคโรวิ่งเข้าไปสมทบกับกลุ่มแรก ไม่นานก็เกิดการปะทะกันขึ้นกับลู
"ไง จะไม่ทักทายกันก่อนเหรอ" เควินแสยะยิ้มร้ายก้าวเข้ามาในห้อง ยกปืนขึ้นชี้ไปทางไคโร โดยด้านหลังมีลูกน้องอีก 4 คน ตามเข้ามาด้วย "ไอ้เควิน!" ไคโรเรียกชื่ออีกฝ่ายเสียงเหี้ยมเกรียม เมื่อคิดถึงสิ่งที่มันทำกับมิลิน เขาดันตัวหญิงสาวข้างกายให้ไปหลบที่ด้านหลัง ใช้ร่างกำยำของตนเองบังเธอเอาไว้ สายตาคมของสองมาเฟียประสานกันอย่างไม่มีใครยอมใคร"มาป่วนกูขนาดนี้ คิดจะเดินออกได้ง่าย ๆ เหรอ""ก็ไม่คิดว่าจะยากตรงไหนนี่" ไคโรส่งยิ้มเย้ยหยัน ตอบกลับไปโดยไม่เกรงกลัว ลูกน้องทั้งสองฝั่งยืนจ้องกันไปมาคุมสถานการณ์ รอคำสั่งของเจ้านายตนเอง"หึ พูดไม่ดูสถานการณ์เลยนะ คิดว่ามึงจะรอดออกไปได้?""..." ไคโรกวาดสายตามองรอบห้อง เมื่อสถานการณ์ตอนนี้ไม่อาจจะบอกได้ว่าใครจะเป็นต่อ มิลินกำเสื้อเชิ้ตไคโรเอาไว้แน่น แม้หัวใจจะเต้นถี่รัวจากความกดดันที่เกิดขึ้น แต่เธอก็เชื่อมั่นในตัวชายหนุ่ม"ส่งมิลินมา เผื่อกูจะใจดีให้มึงได้ตายสบาย ๆ""หึ อย่าดีแต่ปากเลย ล้มกูให้ได้สักครั้งก่อนเถอะ""ไอ้ไคโร!" เควินกัดกรามแน่นจนปูดนูนด้วยความแค้นเคืองในท่าทีไม่เกรงกลัวอะไรของไคโร"เรื่องพ่อมิลิน คงไม่ใช่แค่เรื
"เดี๋ยวค่ะ" มิลินชะงักไปครู่หนึ่งขณะกำลังก้าวออกจากห้อง มือเล็กทั้งสองข้างกระตุกรั้งร่างสูงให้หยุดเดิน "พ่อลิน! พวกนั้นจับพ่อลินไป""มึงลองดูภาพในกล้องย้อนหลัง ว่ามันพาพ่อมิลินไปไว้ที่ไหน""ครับ"ลีโอลองหยิบมือถือขึ้นมาเปิดย้อนภาพดูตามที่เจ้านายสั่ง ระบุช่วงเวลาคร่าว ๆ ใช้เวลาครู่หนึ่งก็พบสิ่งที่ต้องการเป็นภาพจากทางเดินชั้น 8 ที่พวกเขาอยู่ขณะที่ชายวัยกลางคนถูกลากออกมาจากห้อง พวกมันพาเขาลงลิฟต์ VIP ลงไปยังชั้นล่าง ลีโอเปิดสลับภาพวิดีโอขึ้นมาหลายอัน"มันพาไปขังไว้ที่ชั้น 3 ครับ""นำไป"ลีโอใช้คีย์การ์ดสำหรับวีไอพีที่เจอในกระเป๋าเสื้อของการ์ดหน้าคาสิโนขึ้นมารูดก่อนลิฟต์หรูจะเปิดออก เพื่อหลีกเลี่ยงการปะทะกับลูกน้องคนอื่นๆของเควิน พวกเขาลอบดูภาพจากกล้องวงจรปิด เมื่อเห็นเควินและลูกน้องลงไปสมทบที่ชั้นล่างแล้ว พวกเขาจึงแอบใช้ลิฟต์สำหรับ VIP เพื่อขึ้นมาช่วยมิลินทั้งหมดเข้าไปในลิฟต์ ด้วยเป็นลิฟต์สำหรับ VIP หรือบุคคลมีชื่อเสียง ทำให้ภายในลิฟต์นี้ไม่มีกล้องวงจรปิดติดตั้ง ประตูลิฟต์เปิดออกที่ชั้นเป้าหมายบริเวณชั้น 3 ก็มีลักษณะคล้ายชั้นที่พวกเขาลงมา เพียงแต่ไม่ได้ตกแต่งหรูหราเท่า ทั้
ลูกน้องที่รับหน้าที่คนขับรถซิ่งสุดฝีมือ เพื่อนำหญิงสาวไปส่งให้ถึงโรงพยาบาลโดยเร็วที่สุด ลีโอได้ทำการติดต่อประสานงานกับทางโรงพยาบาลไว้เรียบร้อยแล้ว ทำให้เมื่อพวกเขามาจอดที่แผนกฉุกเฉิน แพทย์และพยาบาลก็มายืนรอเตรียมพร้อมแล้วร่างของมิลินที่สติเริ่มเลื่อนลอยถูกนำตัวขึ้นเตียงคนไข้ ก่อนจะถูกเข็นเข้าไปยังห้องผ่าตัดด้วยความรวดเร็ว"ตั้งสติก่อนนาย มิลินถึงมือหมอแล้ว" ลีโอเรียกสติเจ้านายหนุ่มที่บัดนี้นั่งหมดแรงอยู่ที่เก้าอี้หน้าห้องฉุกเฉิน ตามเสื้อผ้าเต็มไปด้วยคราบเลือดจากบาดแผลของหญิงสาว ใบหน้าหล่อเหลาเคร่งเครียด สายตาไม่ได้ละไปจากประตูแม้แต่น้อยไร้เสียงตอบรับจากเจ้านายหนุ่ม ลีโอมองประตูห้องฉุกเฉินครู่หนึ่งถอนหายใจออกเฮือกใหญ่ ปล่อยให้เจ้านายได้อยู่ตามลำพังลูกน้องบางส่วนที่ได้รับบาดเจ็บจากการต่อสู้ก็แยกย้ายกันไปทำแผล พิพัฒน์เองที่มาถึงโรงพยาบาลโดยรถยนต์อีกคัน หลังจากที่ทำแผลเรียบร้อยแล้วก็มานั่งหน้าห้องฉุกเฉินเช่นกันน้ำตาจากบิดาหลั่งไหลออกมาเงียบ ๆ มือที่เหี่ยวย่นไปตามวัยถูกกำเอาไว้แน่น ด่าทอนตนเองอยู่ภายในใจที่เป็นต้นเหตุของเรื่องราวทั้งหมด ทำให้ลูกสาวเพียงคนเดียวต้องมาลำบาก
ใบหน้าหล่อเหล่าของไคโรเริ่มเคร่งเครียด เนื่องจากตอนนี้เป็นช่วงบ่ายแล้ว แต่หญิงสาวร่างเล็กบนเตียงก็ยังคงไม่ฟื้นเสียทีก๊อก ก๊อก"นาย หมอมาครับ" เสียงลูกน้องด้านนอกร้องบอกเจ้านายหนุ่ม"ให้เข้ามา""สวัสดีครับ" คุณหมอเจ้าของไข้เอ่ยทักทายกับไคโร ตอนนี้เป็นเวลาต้องเข้าตรวจคนไข้"หมอ ทำไมเธอยังไม่ฟื้นสักที"หมอและพยาบาลเดินเข้าไปใกล้เตียงคนไข้เพื่อตรวจสอบวัดค่าต่าง ๆ เช็คบาดแผลที่เพิ่งทำการผ่าตัด"ความดันและจังหวะการเต้นของหัวใจเป็นปกติครับ ส่วนที่บาดแผลก็ไม่ได้มีการติดเชื้อ ตอนนี้อาการไม่ได้มีอะไรน่าเป็นห่วงครับ""แต่เธอยังไม่ฟื้น!" มาเฟียหนุ่มเผลอตะคอกคุณหมอวัยกลางคนออกไปเสียงดัง ความกังวลมากมายถาโถมเข้ามา ทำเอาพยาบาลที่มาด้วยหน้าซีดลงทันที"ญาติใจเย็นก่อนนะครับ ตอนนี้ร่างกายคนไข้กำลังฟื้นฟูอยู่ ให้เวลาเธออีกสักหน่อยดีกว่า" คุณหมอเอ่ยปลอบใจเขาอย่างใจเย็น"..." ร่างสูงนั่งหน้าเครียดอยู่ข้างเตียง มือหนากุมมือเธอเอาไว้แน่น เหม่อมองไปที่ใบหน้าหวานราวตุ๊กตาของเธอ"งั้นถ้าไม่มีอะไรแล้ว หมอขอตัวก่อนนะครับ"หมอและพยาบาลออกไปจากห้องเมื่อตรวจเช็คอาการคนไข้เสร็จเรียบร้อย"รีบฟื้นสักทีนะ
"นาย กินข้าวบ้างเถอะ" ลีโอวางถุงอาหารลงบนโต๊ะข้างโซฟาภายในห้องพักคนไข้ เดินไปเปิดกระจกระเบียงพูดคุยกับไคโร แม้จะเอ่ยบอกด้วยเสียงเรียบเฉยแต่ก็ฉายแววเป็นห่วง เมื่อเห็นร่างสูงของเจ้านายหนุ่มที่ยืนอัดบุหรี่เข้าปอดอยู่ที่ระเบียงตลอดทั้งวันไคโรจะทำเพียงนั่งกุมมือมิลินอยู่ที่ข้างเตียง และออกมาสูบบุหรี่คลายความเครียด ยิ่งเวลาผ่านไปใบหน้าหล่อเหลาของมาเฟียหนุ่มก็ยิ่งครึ้มลง"ทำไมลินไม่ฟื้นสักที" น้ำเสียงเข้มบัดนี้ห่อเหี่ยวไร้เรี่ยวแรง ร่างกำยำพิงระเบียงเหม่อมองกลับเข้ามายังร่างเล็กบนเตียง ท้องฟ้าที่เคยสว่างเปลี่ยนเป็นมืดแล้ว"นายกินข้าว นอนพักสักงีบดีกว่า""กูนอนไม่หลับ" สภาพที่เคยหล่อเหลาแม้จะเพิ่งผ่านไปเพียงวันเดียวแต่ความเครียดที่สะสมและการอดนอนทำให้ใบหน้าเขาดูทรุดโทรมลงไปจนเห็นได้ชัด "มึงไปพักไป""..." มือขวาคนสนิทมองไคโรด้วยความเป็นห่วง แต่ก็ไม่ได้เซ้าซี้อะไรเพิ่มเติมเขาเดินออกไปเงียบ ๆ ปล่อยให้ไคโรกลับมานั่งกุมมือเล็กของมิลินอยู่ข้างเตียงคนไข้เวลาผ่านไปอีกหลายชั่วโมง พยาบาลแวะเข้ามาตรวจเช็คบาดแผลและเช็ดตัวให้คนไข้ เขาลุกออกจากข้างเตียงเธอแค่ช่วงสั้น ๆ และกลับมา
1 ปี ต่อมามิลินอยู่ในชุดสบายๆ สำหรับอยู่บ้าน นั่งกองอยู่กับพื้นในคอกกั้นเด็ก ใบหน้าหวานฉายแววเหน็ดเหนื่อย เธอเคยคิดว่าโชคดีที่ตลอดช่วงตั้งครรภ์แทบไม่มีอาการแพ้ท้อง และสามารถทำงานใช้ชีวิตได้ตามปกติ แต่ทุกสิ่งกลับเปลี่ยนไปเมื่อคลอดลูกสาวออกมา 'มีอา'เด็กสาวตัวน้อยหน้าตาจิ้มลิ้มราวตุ๊กตา ดวงตากลมโตเช่นเดียวกับมารดาขนตาหนาเป็นแพ เส้นผมสีดำสนิทแต่ดวงตาได้เชื้อจากไคโรมาคือสีน้ำตาลทอง ช่วงแรกเกิดเธอเป็นเด็กว่านอนสอนง่าย กินนมเสร็จก็นอนไม่งอแง แต่ช่วงหลังเมื่อมีอาเริ่มมีพัฒนาการมากขึ้นเด็กสาวกลับดื้อดึง หากไม่พอใจอะไรนิดหน่อยก็จะร้องไห้เสียบ้านแทบแตก แถมช่วงกลางคืนก็หลับยากและตื่นกลางดึกบ่อย ๆ ทำให้ขอบตาของคุณแม่คล้ำลงจนเห็นได้ชัด"แงๆๆๆๆๆ~"เสียงกรีดร้องไห้งอแงของเด็กน้อยดังลั่นคฤหาสน์อีกครั้ง มือน้อย ๆ ปัดป่ายไปทั่ว จับคว้าอะไรได้ก็จะปาทิ้งเสียหมด จนคุณแม่เริ่มท้อใจ"ร้องอะไรคะคนเก่ง มามี้ทำอะไรให้หนูไม่พอใจอีกหื้ม"ร่างเล็กอุ้มลูกสาวที่นอนดีดดิ้นบนพื้นนวมนิ่มของคอกกั้นขึ้นมาแนบอก โยกตัวกล่อมให้ลูกสาวหยุดร้อง พยายามนึกหาสาเหตุ เพราะเพิ่งให้นมและเปลี่ยนผ้าอ้อมไปใบหน้าเล็กแดงก่ำ น้ำตาห
1 เดือนผ่านไปตลอดระยะเวลา 1 เดือนที่ผ่านมาเต็มไปด้วยความวุ่นวายอย่างที่สุด หลังจากไคโรทราบข่าวเรื่องการท้องของมิลิน ชายหนุ่มก็ยืนกรานให้จัดงานแต่งให้เร็วที่สุด เดือดร้อนไปถึงน้องสาวและว่าที่เจ้าสาวที่แทบจะต้องหยุดงานเพื่อเตรียมงานแต่งในระยะเวลากระชั้นชิดลลิสาและคริสเตียนบิดามารดาของไคโรบินกลับมาประเทศไทยทันทีที่ทราบข่าว และช่วยหญิงสาวเตรียมงานพิธีหมั้นในช่วงเช้าเรียบง่ายมีเพียงครอบครัวและคนสนิทมาร่วมงาน ส่วนตอนเย็นไคโรจัดเตรียมงานอย่างยิ่งใหญ่ในโรงแรมหรูใจกลางกรุงเทพ กลุ่มเพื่อนตั้งแต่สมัยมัธยมและมหาลัยถูกชวนมาหมด และยังกลุ่มลูกน้องอีกหลายร้อยคนที่ได้รับเกียรติให้มาร่วมยินดีด้วย ราวกับต้องการป่าวประกาศให้ทุกคนรับรู้ว่าเขาแต่งงานมีลูกมีเมียแล้วพิธีการต่าง ๆ ถูกลดทอนให้น้อยลง เพื่อให้ไม่เจ้าสาวที่กำลังท้องกำลังไส้เหนื่อยจนเกินไป เน้นไปที่การฉลองดื่มสังสรรค์กันมากกว่าร่างเล็กในชุดเจ้าสาวเกาะอกสีขาวทำจากผ้าลูกไม้ มีผ้าชีฟองผืนบางปาดไหล่ทั้งสองข้าง ช่วงล่างเป็นกระโปรงพองยาว เส้นผมสีน้ำตาลเข้มถูกรวบเป็นมวยเตี้ย ๆ มีที่คาดผมประดับเพชรเม็ดเล็ก ๆ สวมไว้บนศีรษะ ใบหน้าหวานถูกแต
บริษัทของพิพัฒน์4 เดือนต่อมาตอนนี้มิลินเรียนจบอย่างเป็นทางการเรียบร้อย หญิงสาวยังคงช่วยงานที่บริษัทของบิดาต่อไป ปัญหาภายในบริษัทเริ่มคลี่คลายไปทีละอย่าง ทำให้การทำงานเป็นระบบระเบียบยิ่งขึ้นแต่กลับกันกับร่างกายเธอ ไม่รู้ว่าเป็นเพราะโหมทำงานมากไปหรือเปล่า ช่วงนี้เธอถึงรู้สึกเหนื่อยและเพลียง่ายกว่าปกติ บางครั้งตั้งใจจะนำงานมาเคลียร์ต่อที่บ้าน แต่ 3 ทุ่มเธอก็เผลอหลับไปแล้วก๊อก ก๊อก"น้องลินคะ เที่ยงแล้วนะคะ ไม่ออกไปทานข้าวเหรอ"กิ่ง ผู้ช่วยของพิพัฒน์ชะโงกหน้าเข้ามาถามด้วยความเป็นห่วง เธอคอยช่วยเหลือมิลินตั้งแต่ช่วงฝึกงาน เมื่อได้เห็นความขยันตั้งใจจริงของหญิงสาวก็อดชื่นชมไม่ได้"อ๋อ เที่ยงแล้วเหรอ" ร่างเล็กหันมองนาฬิกาแขวนบนผนังห้องทำงานเล็ก เธอทำงานเพลินจนลืมเวลาเช่นเดิม แต่ตรงหน้ายังมีเอกสารอีกหลายปึกที่ต้องเคลียร์" ไม่เป็นไรค่ะ ลินยังไม่หิวเท่าไหร่ พี่กิ่งไปทานเถอะ""ไม่ได้นะคะน้องลิน แบบนี้จะเสียสุขภาพเอา...แบบนี้ดีกว่า เดี๋ยวพี่ซื้อเข้ามาเผื่อแล้วกันนะ""แฮะ ๆ ได้เลยค่ะ ขอบคุณมากนะคะ""น้องลินอยากกินอะไรไหม สั่งได้เลย""อะไรก็ได้เลยค่ะพี่กิ่ง""โอเคได้จ้า"กิ่งส่งยิ้มให้ลูกสาว
หลายเดือนผ่านไปตอนนี้มิลินและคลีโอเริ่มฝึกงานในเทอมสุดท้ายของ ปี 4 แล้ว แม้ตอนแรกจะตั้งใจออกไปหาที่ฝึกงานในบริษัทใหญ่ ๆ เพื่อเก็บเกี่ยวประสบการณ์ แต่แฟนหนุ่มของเธอก็ไม่ยอมอนุญาต ทำให้สุดท้ายเธอจึงเลือกเข้าไปศึกษางานบริษัทผลิตและส่งออกอะไหล่เครื่องจักรของบิดาเธอแทนมิลินตั้งใจทำงานมาก ตั้งแต่ที่พิพัฒน์เลิกยุ่งเกี่ยวกับการพนัน เขาก็ตั้งหน้าตั้งตาฟื้นฟูกิจการที่ตกทอดมาตั้งแต่รุ่นปู่ จนเริ่มกลับมาเฟื่องฟู แม้จะเป็นบริษัทขนาดกลาง ไม่ได้มีความซับซ้อนอะไรมาก แต่เนื่องจากถูกปล่อยปละละเลยเป็นเวลานาน ทำให้ตอนนี้แม้หญิงสาวจะเข้ามาช่วย แต่ก็ยังมีปัญหาหลายอย่างภายในที่ต้องปรับเปลี่ยนแก้ไข"เป็นไงบ้างลูก เริ่มชินหรือยัง"พิพัฒน์ถามขึ้นมาหลังจากเปิดประตูเข้ามาในห้องแห่งหนึ่ง ที่ถูกจัดเตรียมเอาไว้เป็นห้องทำงานของลูกสาว"ค่ะ แต่ตัวเลขบัญชีย้อนหลังนี่น่าเวียนหัวมากเลยนะ เหมือนมีการแอบยักยอกสั่งซื้อของเข้ามาเกินกว่าที่ควร ซึ่งของบางอย่างไม่ได้จำเป็นขนาดนั้น แถมยังเลือกซื้อจากเจ้าที่ราคาสูงกว่าตลาดทั่วไปอีก"ใบหน้าหวานเคร่งเครียดจริงจัง เพราะหากลองคำนวณดูแล้ว บริษัทของบิดาเธอศูนย์เสียเงินไปจำนว
มหาวิทยาลัย Hร่างเล็กของมิลินนั่งเลื่อนโทรศัพท์มือถืออ่านข้อมูลบาง อยู่ที่ใต้ตึกคณะบริหารระหว่างรอคลีโอที่ยังเดินทางมาไม่ถึงหลังจากเมื่อวันก่อนได้เปิดอกคุยกับไคโรเรื่องความกังวลของตัวเองแล้ว แต่เธอก็ยังอยากอ่านคำแนะนำวิธีรักษาชีวิตคู่ให้ยั่งยืนยิ่งขึ้น เพราะไคโรก็เป็นแฟนคนแรกของเธอ มีอีกหลายเรื่องที่หญิงสาวไม่ค่อยรู้เรื่องเกี่ยวกับความรักและการมีแฟน"หื้มม อ่านอะไรน่ะ 'เคล็ดลับ' รักษาความรัก?"เสียงของเพื่อนสนิทดังขึ้นข้างหู พร้อมใบหน้าสวยชะโงกหน้าเข้ามาอ่านหัวข้อบทความที่เธอกำลังเลื่อนดู ทำให้มิลินสะดุ้งด้วยความตกใจ"ตกใจหมดเลยแก มาไม่ให้สุ้มให้เสียง" เธอหันไปตำหนิเพื่อนรักเบาไม่จริงจังคลีโอหัวเราะร่า ไหวไหล่เบา ๆ ก่อนจะเดินอ้อมมานั่งที่เก้าอี้ฝั่งตรงข้าม"ยังไม่หายนอยด์เรื่องเมื่อวานเหรอไง ถึงมาอ่านอะไรแบบนี้""ก็ไม่เชิง...แกก็รู้ฉันไม่เคยมีแฟนมาก่อน ไม่รู้เลยว่าแฟนที่ดีควรทำตัวยังไง"เธอไว้ใจไคโรเต็มที่ แต่ก็อยากจะทำอะไรพิเศษขึ้นเล็กน้อย เพื่อเป็นการมัดใจชายหนุ่ม และเพิ่มความมั่นใจให้ตัวเธอเองด้วย"อื้ม ถ้าทั่วๆ ไปก็คงเชื่อใจกัน มีอะไรคุยกันดี ๆ ใช้เหตุผล ไ
คฤหาสน์ไคโร"เป็นอะไรครับ ยังหน้ามุ่ยอยู่เลย" น้ำเสียงทุ้มออดอ้อนจนไม่เหลือคราบมาเฟียผู้เคร่งขรึมเอ่ยถามแฟนสาว ขณะคลอเคลียร่างบางในชุดนักศึกษาบนเตียงกว้าง"ละ...ลิน..."มิลินเม้มปาก หลบสายตาร้อนของแฟนหนุ่ม นึกหงุดหงิดตัวเองในใจที่ยังไม่อาจสลัดเรื่องเมื่อเย็นออกไปได้ เธอไม่มีความมั่นใจในตัวเองแม้แต่น้อย ยิ่งเห็นสาว ๆ ที่เขามาชายหนุ่มมีแต่สวย ๆ หน้าตาดี ก็แอบหวั่นใจ"เราตกลงกันแล้วนะ ว่าถ้ามีเรื่องอะไรไม่สบายเราจะคุยกัน""...""คิดอะไรอยู่ครับ?"ใบหน้าหวานแอบเศร้าลง เธอสูดหายใจเข้าปอดเพื่อเรียกสติ และสุดท้ายก็ยอมเปิดปากเล่าความรู้สึกในใจให้ไคโรฟัง"ลินกลัว...กลัวว่าวันหนึ่งพี่จะเบื่อลิน""โถ่ จะเอาอะไรมาเบื่อ พี่หลงเราขนาดนี้ เราดูไม่ออกเหรอครับ"ไคโรยิ้มกว้างเมื่อได้ฟังคำพูดของแฟนสาว เขาใช้นิ้วยาวช้อนใบหน้าของคนตัวเล็กข้างใต้ร่างให้หันกลับมาสบตา"ก็กลัวว่าแค่หลงเฉย ๆ พอนานไปพี่จะเบื่อ ลินแค่ผู้หญิงธรรมดา ได้มาอยู่ข้างพี่นี่ก็เกินฝันแล้ว""ไม่เอา ทำไมชอบดูถูกตัวเอง ลินพิเศษกว่าทุก ๆ คนรู้ไหม ลินคือคนที่ทำให้หัวใจพี่เต้นแรง คนที่พี่อยากปกป้องดูแล คนที่พี่อยากให้มีแต่รอ
หลายเดือนผ่านไปความสัมพันธ์ของเธอและไคโรดำเนินไปตามปกติ ทั้งคู่แทบไม่เคยทะเลาะหรือมีปากเสียงกันเลย อาจจะด้วยมิลินเป็นคนหัวอ่อน ว่าง่าย ไม่จุกจิกจู้จี้ แต่ไคโรก็ทำหน้าที่แฟนอย่างดี เอาใส่ใจ เทคแคร์ ไม่เคยทำอะไรให้แฟนสาวไม่สบายใจแม้แต่น้อยเมื่อเดือนก่อนชายหนุ่มได้พาเธอไปอิตาลี เพื่อพบเจอพ่อแม่ของเขาแล้ว ซึ่งทั้งคู่ก็ใจดีและเป็นกันเองกับเธอมาก ทำให้ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ราบรื่นเป็นอย่างดีครืด ครืด ครืดโทรศัพท์ในกระเป๋าสะพายของมิลินสั่นเบาๆ ขณะที่สองสาวเพื่อนรักกำลังเดินออกจากคลาสเรียน"แป๊บนะแก พี่ไคโรน่าจะโทรมา"มิลินหันไปบอกเพื่อนสาว ก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู และก็ต้องอมยิ้มหวานเพราะสายที่โทรมาคือแฟนหนุ่มของเธอตามคาด"ค่ะพี่ไคโร"(เลิกเรียนหรือยังครับ)"เพิ่งเลิกพอดีเลยค่ะ ลินกับยัยคลีกำลังจะลงจากตึกกัน"(โอเค พี่เดินไปซื้อโกโก้ปั่นมาให้ รอหน้าคณะนะครับ)"ได้ค่ะ"ร่างเล็กก้มหน้างุด เขินอายทุกครั้งกับการเอาใส่ใจของชายหนุ่ม โดยมีสายตาล้อเลียนของคลีโอจ้องมองไม่วางตา"สวีทเว่อร์ มดจะไต่ขึ้นขาฉันแล้ว" ร่างสมส่วนอดเอ่ยปากแซวออกมาไม่ได้"แกก็ พูดเกินไป นี่จะไป
หลังจากทั้งคู่ทานดินเนอร์แสนโรแมนติกเสร็จก็จูงมือพากันกลับมายังห้อง แต่แล้วคู่รักเข้าใหม่ปลามันที่ควรสวีทหวานพูดจาภาษารักก็ต้องมายืนถกเถียงกันอยู่นานภายในห้องนอนหรูแทน"ไม่เอาจริง ๆ ลินไม่เชื่อพี่หรอก" มิลินหน้ามุ่ย มือเล็กถือเสื้อผ้าและผ้าเช็ดตัวเอาไว้เรียบร้อยแล้ว แต่ก็ไม่ได้เดินเข้าห้องน้ำเสียที"พี่เคยผิดคำพูดเหรอครับ""ถ้าพี่ไคโรอาบพร้อมลิน พี่ไม่จบแค่อาบน้ำเฉย ๆ แน่""เห็นพี่เป็นคนแบบนั้นเหรอ" มาเฟียหนุ่มส่งสายตาออดอ้อน พยายามทำหน้าตาน่าสงสารหวังให้หญิงสาวยอมใจอ่อน"พี่ทำลินหลายรอบแล้วนะคะ ปล่อยลินอาบน้ำดี ๆ เถอะ""พี่ก็แค่อยากช่วยลินถูหลังไง อีกอย่างอาบพร้อมกันไม่ต้องเปลืองน้ำด้วย"ร่างเล็กกลอกตาขึ้นมองด้านบน เมื่อได้ฟังเหตุผลจากชายหนุ่ม เขาร่ำรวยเสียจนเรียกได้ว่าเป็นมหาเศรษฐีจะมากังวลอะไรกับค่าน้ำประปาของทางโรงแรม ฟังอย่างไรก็ดูเป็นแค่ข้ออ้างรังแกเธอมากกว่า"วันนี้ลินไม่ไหวแล้วจริงๆ นะคะ วันหลังได้ไหม" ถกเถียงกันอยู่นานแฟนหนุ่มหน้ามึนก็ไม่ยอมแพ้เสียที จนหญิงสาวต้องเดินเข้าไปใกล้ร่างสูง ท่อนแขนเรียวโอบเอวเขาไว้หลวมๆ พลางเกยคางบนแผงอกกำยำเงยหน้ามองชายหนุ่มตาปริบ
ท้องฟ้าที่เริ่มเปลี่ยนสีเป็นแดงอมส้มของเวลาเกือบจะ 6 โมงเย็น หญิงสาวในชุดเสื้อเชิ้ตตัวใหญ่สีฟ้าอ่อนด้านในสวมเสื้อกล้ามตัวเล็กสีขาวคู่กับกางเกงยีนขาสั่นสีซีด สายลมจากทะเลพัดจนผมสีน้ำตาลเข้มของเธอปลิวไสว จนต้องรวบมันเอาไว้ที่ไหล่ข้างหนึ่ง พลางหันไปส่งยิ้มหวานให้ตากล้องร่างสูงใบหน้าหล่อเหลาข้างกายทั้งคู่เดินเล่นเลียบริมหาดส่วนตัวหน้าที่พัก มือเล็กอีกข้างหิ้วรองเท้าแตะหนีบสีขาวไปด้วย เม็ดทรายเนื้อละเอียดติดตามนิ้วเท้า น้ำเย็นเฉียบของทะเลกระทบผิวระลอกแล้วระลอกเล่าชายหนุ่มแต่งกายสบาย ๆ ด้วยเสื้อเชิ้ตแขนสั้นสีขาว กระดุมเสื้อถูกปลดลงมา 3 เม็ด เผยให้เห็นแผงอกกำยำที่อัดแน่นไปด้วยมัดกล้าม ท่อนล่างสวมกางเกงขาสั้นสีน้ำตาล แว่นกันแดดสีชารับกับจมูกที่โด่งเป็นสัน มุมปากยกขึ้นประดับด้วยรอยยิ้ม เมื่อมองหญิงสาวผ่านกล้องมือถือ แม้จะดูเรียบง่ายแต่ร่างกายสมบูรณ์แบบ พร้อมใบหน้าคมคายก็ทำให้เขาดูราวกับเป็นนายแบบที่หลุดออกมาจากรันเวย์เขาเก็บภาพมิลินอีกหลายรูปทุกจังหวะการขยับตัว หญิงสาวหันมาส่งยิ้มให้บ้าง บางครั้งก็หันมองเหม่อไปยังท้องทะเล ทุกอิริยาบถดูสวยงามน่ารักเป็นธรรมชาติ จนทำให้คนที่ไม่เคยต้องถ่าย