“อย่าไปเก็บมาใส่ใจเลย คนที่ขายได้แม้กระทั่งลูกสาวของตัวเอง ไม่แปลกใจหรอกที่อยากจะจับหลานสาวของตัวเองไปขาย”“ข้าหวังว่าจะได้พบพี่ชายบุญธรรมสักครั้งเจ้าค่ะ หากไม่มีเขาคอยปกป้องข้าคงไม่อยู่รอดปลอดภัยจนได้แต่งให้ท่านพี่ ข้าคงถูกสารเลวนั่นล่วงเกินไปนานแล้ว”“จริงสิ ตู้ป๋อหายไปที่ใด พี่ว่าจะถามเจ้าหลายครั
หยางเทียนยืนมองกลุ่มคนที่กำลังเดินตรงเข้ามา หยางเสี้ยวมองดูกลุ่มคนตรงหน้าเพียงหางตาเท่านั้น จากนั้นก็นั่งลงคุกเข่าคารวะหลุมศพท่านตากับท่านยายต่อ ไม่ได้สนใจว่าใครมาดีหรือมาร้ายทางด้านหยางเทียนเมื่อเห็นว่าลูกชายไม่ได้มีท่าทีสนใจ เขารู้สึกโล่งใจมาก หากว่าเมื่อใดก็แล้วแต่ถ้าหยางเสี้ยวให้การสนใจคนพวกนี้
“แม่เห็นด้วยกับอาเสี้ยว ตอนนั้นเราไม่มีกำลังที่จะสู้พวกเขา ทำได้เพียงแค่ยอม แต่ตอนนี้เราไม่จะเป็นต้องยอมอีกต่อไปแล้ว ไปกันเถอะ เก็บของ”“ขอรับท่านแม่ รอสักครู่ได้หรือไม่ ค่อยเก็บ ข้าขอโทษท่านตาท่านยายด้วยนะขอรับที่ใช้ความรุนแรง” โค้งสามทีหน้าหลุมศพ“ฮิ ฮิ หลานชายข้ามารยาทดีเจ้าว่าไหมตาเฒ่า เอาล่ะ ขอ
เกวียนลาวิ่งเข้าไปในหมู่บ้านหวงซาน ด้านหลังเกวียนมีคนกองหนึ่งถูกลากมาด้วย หยางเสี้ยวนั่งอยู่บนรถลากหมาป่า ที่มีโหวจื่อกับไป๋หู่นั่งมาด้วยเสิ่นซื่อที่ไม่ได้กลับมาที่หมู่บ้านหวงซานเป็นเวลานานสิบปี นางอดน้ำตาคลอไม่ได้ ยิ่งได้มาเห็นบ้านสกุลเสิ่นที่นางเติบโตมา มีพ่อแม่ที่รักใครนาง มีท่านปู่ท่านย่า จนกระ
หลังจากหยางเสี้ยวได้เงิน 500 ตำลึง มาไว้ในมือ ก็ส่งตัวเสิ่นอี้ให้กับฉินซื่อทันที เสิ่นซื่อเดินเข้ามาพร้อมกับตู้ป๋อ ตามมาด้วยหยางเทียนและหยางเสียน“ท่านลุง ท่านป้า สบายดีหรือไม่เจ้าคะ”“เจ้า พวกเจ้า เสิ่นเหมย ตู้ป๋อ”“ขอบคุณท่านลุง ที่จดจำพวกเราสองพี่น้องได้นะเจ้าคะ”“พวกเจ้าต้องการอะไร” เสิ่นอู๋ซงรู
ระหว่างทางกลับบ้านดูเหมือนว่าเสิ่นซื่อจะอารมณ์ดีไม่น้อย สิ่งที่เก็บเอาไว้ในใจมาตลอดวันนี้สามารถวางมันลงได้แล้ว นางสามารถทวงถามความยุติธรรมให้กับท่านพ่อท่านแม่ที่จากไปของนาง คนชั่วเหล่านั้นที่มักจะสร้างภาพว่าตัวเองเป็นคนดีเสียเต็มประดา จนครั้งหนึ่งนางเองก็เคยถูกภาพเหล่านั้นหลอกลวงจนเกือบจะเอาตัวไม่รอ
“ก็ใช่น่ะสิ ข้าถึงได้หนีออกมานี่ยังไงล่ะ”“แต่การหนีมันไม่ใช่สิ่งที่ดี และไม่ใช่การแก้ปัญหาระยะยาวนะขอรับ ท่านจะหนีไปเรื่อย ๆ เช่นนั้นรึ”“ข้ารู้ว่าไม่สามารถหนีไปเรื่อย ๆ ได้ สักวันจะต้องเผชิญหน้ากันอยู่ดี ข้าแค่ถอยมาตั้งหลัก”“จะไปยากอันใด ไม่อยากแต่งก็ไม่ต้องแต่ง หากฝ่ายหญิงอยากแต่งให้ท่าน ท่านก็
เช้าวันต่อมา อี้เชวียนอินตื่นขึ้นมาด้วยความสดชื่น เขาไม่ได้นอนกลับสนิทแบบนี้มานานเท่าไหร่แล้ว แม้แต่ตอนที่นอนอยู่ในจวนของตัวเองยังต้องระแวงว่าจะมีใครบุกเข้ามาปีนเตียงของเขา ส่วนผู้ติดตามทั้งห้าคนตื่นขึ้นมาก่อนหน้านั้นแล้ว ตอนนี้พวกเขากำลังฝึกหมัดมวยอยู่ที่ลานหลังบ้าน หยางเสี้ยวตื่นขึ้นมาล้างหน้าล้า
“อืม เด็กต้องได้รับการอบรมเลี้ยงดู เราเข้าใจ เรื่องนี้ก็ให้แล้วกันไปเถอะ ”“ขอบพระทัยท่านอ๋องพะย่ะค่ะ”“ขอบพระทัยท่านอ๋องเพคะ”หลังจากลับมาจากจวนจ้านหยางอ๋อง เจ้ากรมพิธีการก็จัดการขายสาวใช้ที่ยุแยงและคอยให้ท้ายบุตรสาวของเขา ออกไปจนหมด นอกจากนี้แล้วยังตำหนิฮูหยินเอกที่ไม่อบรมบุตรสาวให้ดี ฮูหยินเองก็ไ
หลังจากหยางอันทิ้งระเบิดเอาไว้ก่อนหันหลังจากไป สองนายบ่าวกลับจวนไปด้วยความหวานหวั่นในใจ หวาดกลัวว่าหยางอันจะพาจ้านหยางอ๋องบุกมาที่จวน ตอนนี้คุณหนูห้าผู้ที่เคยหยิ่งผยองกลับร้องไห้ด้วยความหวาดกลัว สาวใช้ที่ติดตามข้างกายเช่นอิ๋งชุนก็ไม่ได้ดีไปกว่ากันสักเท่าไหร่ ทั้งคู่ต่างโทษกันไปมาสุดท้ายแล้วจึงไปขอค
“พี่เจวี๋ยพวกเราไม่ผิด เหตุใดต้องยอมด้วย เจ้ากรมพิธีการแล้ว อย่างไร หน้าใหญ่มากหรือเจ้าคะ พระสนมเอกแล้วอย่างไร ทำอันใดได้เจ้าคะ ผิดคือผิด ถูกคือถูก จะมาเห็นผิดเป็นถูกกลับขาวเป็นดำแบบนี้หรือเจ้าคะ บอกเลยต่อให้สิบเจ้ากรมพิธีการข้าก็ไม่กลัว หึ” หยางอันสะบัดหน้าหยางอันไม่ยอมเดินกลับไปตามที่เมิ่งเจวี๋ย
เมิ่งเจวี๋ยพาหยางอันเดินออกจากโรงเตี๊ยมมุ่งหน้าไปยังพ่อค้าขายถังหูลู่ ทั้งสองคนเพียงแค่อยากรู้ว่ารสชาติของถังหูลู่ที่เมืองหลวงกับรสชาติที่บ้านเกิดของพวกเขาถังหูลู่ที่ไหนจะอร่อยกว่ากันเท่านั้น นอกจากนี้การนั่งอุดอู้อยู่แต่ในห้องแคบๆไม่ใช่สิ่งที่หยางอันชอบ “พี่เจวี๋ยท่านดูสิถังหูลู่ของเมืองหลวงมีขนาด
“ท่านอ๋องข้าน้อยมีตาหาแววไม่ ขอท่านอ๋องอภัยด้วยพะย่ะค่ะ”“ลุกขึ้นเถอะเจ้าจะทำให้เรื่องใหญ่โตไปทำไม ทำหน้าที่ของเจ้าให้ดีก็พอ”“ขอบพระทัยท่านอ๋องพะย่ะค่ะ ”“ขอบใจเช่นนั้นเราขอตัวก่อน”รถม้าของหยางเสี้ยวเคลื่นที่เข้าไปในเมืองและวิ่งออกไปจนลับสายตา ทหารรักษาประตูเมืองถอนหายใจด้วยความโล่งอก อ๋องทมิฬแม้จ
หลังจากหยางเสี้ยวฝึกจนสำเร็จแล้ว ก่อนที่เขาจะขึ้นไปเที่ยวเล่นที่แดนเทพ จำเป็นต้องสะสางงานก่อน ในระหว่างที่เขาเก็บตัวฝึกเป็นท่านพ่อหยางเทียนกับท่านลุงหยางเทาคอยรับรายงานเรื่องราวต่างๆและคอยแก้ปัญหาเล็กๆน้อยๆแทนเขาอยู่เสมอ โชคดีที่เจ้าเมืองทั้ง 7 หัวเมืองเป็นคนใจซื่อมือสะอาด อีกทั้งยังได้ท่านลุงตู้ป๋อ
“พวกเจ้ามาหาผู้ใดเช่นนั้นรึ”“ท่านพ่อ ข้าเองขอรับ หยางเสี้ยว”“อาเสี้ยวหรือ ใช่อาเสี้ยวจริง ๆ ด้วย เจ้าโตขึ้นมากจนพ่อจำไม่ได้ สามปีแล้วที่เจ้าไม่ได้กลับมาบ้านเลย ตอนนี้ฝึกสำเร็จแล้วหรือไม่ แล้วคนพวกนี้เป็นใครกัน สหายของลูกหรือ”“นั่นลวี่เช่อ เฮยเช่อ ปักษา ต้าไป๋ โหวจื่อ ไป๋หู่ เต่าดำ หลันเช่อ ฉีหลิน
วันเวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว หยางเสี้ยวเก็บตัวฝึกอยู่สามปี ในที่สุดก็เลื่อนขั้นมาจนถึงขั้นมหายานได้สำเร็จ ตอนนี้เขาสามารถเดินทางขึ้นไปแดนเทพได้แล้ว อีกทั้งสามารถเปิดใช้งานค่ายกลทางขึ้นลงแดนเทพกับตำหนักหมอกทมิฬได้เช่นเดียวกัน จากเด็กน้อยเมื่อหลายปีก่อน ตอนนี้กลับกลายมาเป็นหนุ่มน้อยวัย 14 ย่าง 15 ปี หน้า
ลมหนาวสายหนึ่งพัดมา หยางเสี้ยวรู้สึกว่าวันเวลาช่างผ่านไปรวดเร็วยิ่งนัก เขามาอยู่ที่นี่ได้เกือบสามปีแล้ว พอผ่านปีใหม่ครั้งนี้เขาก็จะมีอายุ 11 ปี ในโลกนี้ เวลาเกือบสามปีตระกูลหยางมีการเปลี่ยนแปลงมากมายเกิดขึ้น ตัวเขาเองก็มีภาระแสนหนักอึ้งบนบ่า แต่ตอนนี้ถือว่าทุกอย่างลุล่วงไปด้วยดีแล้ว ตระกูลหยางจะมี