ลวี่เช่ออาสาจะมาดูแลถั่วงอกให้เอง มันบอกกับหยางเสี้ยวว่ารับรองต้นอวบอ้วนหวานกรอบแน่นอน ไม่ต้องเป็นห่วงว่าถั่วจะไม่งอกขึ้นมาหยางเสี้ยวเรียกต้าไป๋ให้มาลองลากรถลากที่เขาเอากลับมา ต้าไป๋สามารถลากได้สบายมาก เมื่อเห็นต้าไป๋ลากเหล่าพี่น้องของต้าไป๋ก็อยากจะลองลากบ้าง กลายเป็นว่ารถลากเป็นของเล่นสนุกสนานของเ
เมื่อถึงเวลาอาหารเย็น ครอบครัวที่ได้รับถั่วงอกเป็นของฝากต่างกินข้าวอย่างมีความสุข ผักที่เรียกว่าถั่วงอกทั้งกรอบทั้งหวาน ผัดกับน้ำมันใส่เนื้อหมูเค็มไปนิดหน่อย ก็อร่อยมาก น้ำแกงกระดูกหมูใส่ถั่วงอกก็อร่อยไปอีกแบบ อาจารย์มู่หลังจากได้รับถั่วงอกมาจากต้าไป๋แล้ว เขาก็แบ่งให้กับอาจารย์อีกสองคน เหล่าพ่อแม่ท
หัวหน้าโจรเห็นว่าตัวเองไม่รอดแน่แล้ว กำลังจะวิ่งหนีลงจากเขา หยางเสี้ยวยิงหน้าไม้ไปที่ขาของหัวหน้าโจร ทำให้หัวหน้าโจรล้มลง เขาถอยหลังหนีหยางเสี้ยวที่เดินเข้ามาด้วยความหวาดกลัว“กะ …กะ.. แก เป็นใครกันแน่ เป็นคนหรือเป็นผี”“แล้วเจ้าคิดว่ายังไงล่ะ” หยางเสี้ยวยิ้มตาหยี แต่มันทำให้หัวหน้าโจรรู้สึกเย็นวาบเ
เช้าวันใหม่ หลาย ๆ คนตื่นขึ้นมาด้วยความสดใส หลาย ๆ คนยังนอนมุดผ้าห่มบนเตียงอุ่น ๆ และบางคนกับหลาย ๆ ตัวกำลังนอนหลับอย่างมีความสุข ไม่ได้มีความทุกข์ใจหรือกังวลใจเรื่องอันใด มีเพียงความง่วงงุนเท่านั้นเสิ่นซื่อรู้สึกแปลกใจมาก วันนี้เหตุใดไม่มีใครมารับอาหารเลยสักตัว ปกติแล้วไม่เคยมารับอาหารช้าเลยสักครั
“นายท่านเรียกหาข้าหรือขอรับ”“ใช่ เมื่อคืนในจวนมีการเดินเวรยามทั้งคืนหรือไม่”“ทั้งคืนขอรับ เกิดอะไรขึ้นหรือขอรับ”“เจ้าดูเอาเองก็แล้วกัน” นายอำเภอชี้มือไปยังภูเขาข้าวของ"นายท่าน ของพวกนี้มาจากไหนหรือขอรับ ใครเอามาไว้ตรงนี้”“ข้าถึงได้ถามเจ้าว่าทหารยามได้เดินเวรยามตลอดคืนหรือไม่ เจ้าไปเรียกทหารยามท
หลังจากนัดแนะกับพวกหยางชิงและสหายอีกสองคน รวมถึงน้าเว่ยกับพี่เฟย วันนี้พวกเขาจะไปจับปลาที่ลำธารโดยเจาะหลุมน้ำแข็ง แล้วใช้ตาข่ายตัดขึ้นมาหิมะที่ตกลงมาทับถมเป็นจำนวนมากทำให้เดินทางลำบาก หลังจากเตรียมของเรียบร้อยแล้ว กองทัพรถลากหมาจำนวน 10 คันก็พร้อมออกเดินทาง 1 คนต่อ 1 คัน ที่เหลืออีก 3 คันใช้สำหรับล
“ได้ พวกเราล้วนฟังเจ้า”“จริงสิอาชิง เจ้าอยากเรียนการต่อสู้หรือไม่ ข้าคิดว่าพอหน้าหนาวผ่านไปจะเขียนจดหมายไปขอให้คุณชายอี้ส่งคนมาสอนวิชาต่อสู้ให้พวกเราที่หมู่บ้านและชาวบ้านที่สนใจ อย่าลืมว่าต่อไปในอนาคต ท่านพ่อกับท่านลุงล้วนแล้วแต่ต้องมีคนคุ้มกัน พอข้าคิดถึงตรงนี้ข้ารู้สึกปวดใจจริง ๆ” หยางเสี้ยว “ปว
ต้าไป๋ลากรถวิ่งนำหน้าขบวน อวิ๋นเซียวบอกว่าบ้านของเขาอยู่กลางหมู่บ้าน ครอบครัวท่านปู่ท่านย่าค่อนข้างมีฐานะที่ดี แต่กลับปฏิบัติกับครอบครัวของเด็กน้อยได้เลวร้ายที่สุด ตั้งแต่ท่านแม่ของเขาแต่งให้ท่านพ่อและเข้ามาอยู่ในบ้านหลังนี้ ท่านแม่ก็ถูกท่านย่า ท่านป้าสะใภ้รังแกอยู่เสมอ ท่านแม่ต้องคอยทำงานหนักในไร่
“อืม เด็กต้องได้รับการอบรมเลี้ยงดู เราเข้าใจ เรื่องนี้ก็ให้แล้วกันไปเถอะ ”“ขอบพระทัยท่านอ๋องพะย่ะค่ะ”“ขอบพระทัยท่านอ๋องเพคะ”หลังจากลับมาจากจวนจ้านหยางอ๋อง เจ้ากรมพิธีการก็จัดการขายสาวใช้ที่ยุแยงและคอยให้ท้ายบุตรสาวของเขา ออกไปจนหมด นอกจากนี้แล้วยังตำหนิฮูหยินเอกที่ไม่อบรมบุตรสาวให้ดี ฮูหยินเองก็ไ
หลังจากหยางอันทิ้งระเบิดเอาไว้ก่อนหันหลังจากไป สองนายบ่าวกลับจวนไปด้วยความหวานหวั่นในใจ หวาดกลัวว่าหยางอันจะพาจ้านหยางอ๋องบุกมาที่จวน ตอนนี้คุณหนูห้าผู้ที่เคยหยิ่งผยองกลับร้องไห้ด้วยความหวาดกลัว สาวใช้ที่ติดตามข้างกายเช่นอิ๋งชุนก็ไม่ได้ดีไปกว่ากันสักเท่าไหร่ ทั้งคู่ต่างโทษกันไปมาสุดท้ายแล้วจึงไปขอค
“พี่เจวี๋ยพวกเราไม่ผิด เหตุใดต้องยอมด้วย เจ้ากรมพิธีการแล้ว อย่างไร หน้าใหญ่มากหรือเจ้าคะ พระสนมเอกแล้วอย่างไร ทำอันใดได้เจ้าคะ ผิดคือผิด ถูกคือถูก จะมาเห็นผิดเป็นถูกกลับขาวเป็นดำแบบนี้หรือเจ้าคะ บอกเลยต่อให้สิบเจ้ากรมพิธีการข้าก็ไม่กลัว หึ” หยางอันสะบัดหน้าหยางอันไม่ยอมเดินกลับไปตามที่เมิ่งเจวี๋ย
เมิ่งเจวี๋ยพาหยางอันเดินออกจากโรงเตี๊ยมมุ่งหน้าไปยังพ่อค้าขายถังหูลู่ ทั้งสองคนเพียงแค่อยากรู้ว่ารสชาติของถังหูลู่ที่เมืองหลวงกับรสชาติที่บ้านเกิดของพวกเขาถังหูลู่ที่ไหนจะอร่อยกว่ากันเท่านั้น นอกจากนี้การนั่งอุดอู้อยู่แต่ในห้องแคบๆไม่ใช่สิ่งที่หยางอันชอบ “พี่เจวี๋ยท่านดูสิถังหูลู่ของเมืองหลวงมีขนาด
“ท่านอ๋องข้าน้อยมีตาหาแววไม่ ขอท่านอ๋องอภัยด้วยพะย่ะค่ะ”“ลุกขึ้นเถอะเจ้าจะทำให้เรื่องใหญ่โตไปทำไม ทำหน้าที่ของเจ้าให้ดีก็พอ”“ขอบพระทัยท่านอ๋องพะย่ะค่ะ ”“ขอบใจเช่นนั้นเราขอตัวก่อน”รถม้าของหยางเสี้ยวเคลื่นที่เข้าไปในเมืองและวิ่งออกไปจนลับสายตา ทหารรักษาประตูเมืองถอนหายใจด้วยความโล่งอก อ๋องทมิฬแม้จ
หลังจากหยางเสี้ยวฝึกจนสำเร็จแล้ว ก่อนที่เขาจะขึ้นไปเที่ยวเล่นที่แดนเทพ จำเป็นต้องสะสางงานก่อน ในระหว่างที่เขาเก็บตัวฝึกเป็นท่านพ่อหยางเทียนกับท่านลุงหยางเทาคอยรับรายงานเรื่องราวต่างๆและคอยแก้ปัญหาเล็กๆน้อยๆแทนเขาอยู่เสมอ โชคดีที่เจ้าเมืองทั้ง 7 หัวเมืองเป็นคนใจซื่อมือสะอาด อีกทั้งยังได้ท่านลุงตู้ป๋อ
“พวกเจ้ามาหาผู้ใดเช่นนั้นรึ”“ท่านพ่อ ข้าเองขอรับ หยางเสี้ยว”“อาเสี้ยวหรือ ใช่อาเสี้ยวจริง ๆ ด้วย เจ้าโตขึ้นมากจนพ่อจำไม่ได้ สามปีแล้วที่เจ้าไม่ได้กลับมาบ้านเลย ตอนนี้ฝึกสำเร็จแล้วหรือไม่ แล้วคนพวกนี้เป็นใครกัน สหายของลูกหรือ”“นั่นลวี่เช่อ เฮยเช่อ ปักษา ต้าไป๋ โหวจื่อ ไป๋หู่ เต่าดำ หลันเช่อ ฉีหลิน
วันเวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว หยางเสี้ยวเก็บตัวฝึกอยู่สามปี ในที่สุดก็เลื่อนขั้นมาจนถึงขั้นมหายานได้สำเร็จ ตอนนี้เขาสามารถเดินทางขึ้นไปแดนเทพได้แล้ว อีกทั้งสามารถเปิดใช้งานค่ายกลทางขึ้นลงแดนเทพกับตำหนักหมอกทมิฬได้เช่นเดียวกัน จากเด็กน้อยเมื่อหลายปีก่อน ตอนนี้กลับกลายมาเป็นหนุ่มน้อยวัย 14 ย่าง 15 ปี หน้า
ลมหนาวสายหนึ่งพัดมา หยางเสี้ยวรู้สึกว่าวันเวลาช่างผ่านไปรวดเร็วยิ่งนัก เขามาอยู่ที่นี่ได้เกือบสามปีแล้ว พอผ่านปีใหม่ครั้งนี้เขาก็จะมีอายุ 11 ปี ในโลกนี้ เวลาเกือบสามปีตระกูลหยางมีการเปลี่ยนแปลงมากมายเกิดขึ้น ตัวเขาเองก็มีภาระแสนหนักอึ้งบนบ่า แต่ตอนนี้ถือว่าทุกอย่างลุล่วงไปด้วยดีแล้ว ตระกูลหยางจะมี