คำโปรย ถ้าย้อนเวลาไปได้ ขออยู่ในจุดที่เราไม่เคยพบกัน----------------บุรณีกลับจากดินเนอร์เย็นนั้น ทำให้เธอคิดหนักทั้งคืนถึงเรื่องที่เขาถามเธอไม่เชิงบีบบังคับ“มีสองทางให้เลือก ถ้าคุณอยากกลับไปทำงานให้แบร์นาโด ผมไม่ว่าอะไร แต่ไม่รับรองว่าจะปลอดภัยกับครอบครัวอดีตสามีคุณหรอกนะ...ลาร่า แต่คุณเลือกจอร์โจ ผมว่าน่าจะโอเคในระดับหนึ่ง แต่ไม่รับรองว่าคุณเข้าไปอยู่ในกลุ่มบานาโจแล้วมันจะปลอดภัยแค่ไหน ตรงนี้ผมก็คาดเดาไม่ได้” ชายหนุ่มถอนหายใจสำหรับความผิดที่ยอมรับว่า เป็นคนทำให้เธอมาติดเบ็ดของขบวนการมาเฟียเหล่านี้โดยไม่ได้ตั้งใจ“ถ้ากลับไปที่โมนิโตลา โอเค...ฉันได้พาครอบครัวกลับบ้าน เราไม่รู้จะฝากใครดูแล เพราะสิ้นเดือนลูก้าต้องไปเข้าเรียนเทอมสอง” เธอหนักใจตรงบ้านแล้วยังรถที่จอดทิ้งไว้อีก“เอาอย่างนี้...ลาร่า ผมจะหาคนเช่าบ้านให้ คุณจะได้เอามาจ่ายค่าเช่าที่นี่ ส่วนรถที่จอดอยู่ ผมจะหาคนมาซื้อ...ได้ไหม” ชายหนุ่มวางแผนให้เธอ เพราะในใจไม่อยากให้เธอไปทำงานให้จิ้งจอกเฒ่าอย่างแบร์นาโด“คงไม่ได้...รถชื่อของสามี แต่พินัยกรรมมอบให้ฉันเป็นคนจัดการ นี่เป็นเรื่องที่แม่สามีไม่พอใจฉันอยู่ นาง...เอ่อ!!!” บุรณีไม่เล
คำโปรย เส้นบางๆ ระหว่างเรา จะเป็นได้แค่...คนคิดถึง----------------จอร์โจมานั่งจิบไวน์กับพันธ์ศักดิ์ที่เซฟเฮาส์ของเขาเกือบค่อนคืน ด้วยเรื่องของบุรณี เขาวางแผนที่จะส่งให้เธอเข้าไปสัมภาษณ์ซึ่งจะคัดเลือกโดยการเดิน catwalk เท่าที่เขารู้จากสายสืบมา งานนี้มีสาวๆ เข้าร่วมในการคัดเลือกอยู่เกือบสองร้อยคน หนึ่งในลิสต์รายชื่อคือ Lara Burani ‘ลาร่า บุรณี’ เขาสั่งให้สมุนคนหนึ่งของเขาไปติดสินบนกรรมการตัดสินผู้ทรงอิทธิพลซึ่งมาจากคนนอกซุ้มมาเฟีย ซึ่งแน่นอนบุรณีต้องได้รับการคัดเลือก“บานาโจ...มันจัดงานเดินแบบแฟชั่นโชว์ชุดชั้นในที่ออกใหม่ล่าสุด และเอาคนสมัครมาเข้าคัดเลือกด้วยเลย ฉลาดมาก...ไอ้นี่ ที่รู้มาบัตรพรีเมี่ยมโคตรโคตร เพราะมันมีโชว์ชุดพิเศษ...ฮ่า ฮ่า ฮ่า” หนุ่มมาเฟียหัวเราะชอบใจ เพราะเขาได้รับเชิญให้ไปนั่งอยู่แถววีไอพีชิดขอบเวที“หา...หมายความว่า You mean…!!!” พันธ์ศักดิ์เผลอร้องเสียงหลง เขารู้ดีว่าชุดสุดท้ายจะเปลือยท่อนบน “เฮ้ย...ลาร่ารู้...จะไม่ยอมนะสิ...!!!” จอร์โจยิ้มกริ่มจ้องตาเพื่อนคนไทย คำพูดนี้มันบอกอะไรที่ซ่อนอยู่ในหัวใจของเขา“นาย...ก็บอกเธอ…ปุนโต มันธรรมดามากสำหรับงานเดินแบบ” พันธ์
คำโปรย อย่ากลัวที่จะก้าวต่อไปข้างหน้า ความท้าทายนั้นกำลังรอเราอยู่----------------ความท้าทายกำลังจ่อคิวรอการพิสูจน์จากสาวใหญ่อย่างบุรณี ความรู้สึกทั้งกลัวทั้งกล้าผสมปนเปกันไปมา เส้นที่คั่นอยู่ระหว่างกลางรอเพียงเธอกล้าข้ามมัน...แค่กระโจนจากฟากหนึ่งไปยังอีกฟากหนึ่ง เป็นฟากที่ท้าทายอย่างยิ่งแค่รอพิสูจน์ในอีกไม่ถึงสองสัปดาห์พันธ์ศักดิ์หายหน้าไปหนึ่งอาทิตย์กว่า บอกเธอแค่สั้นๆ ว่าจะไปจัดการเรื่องบ้านและรถของครอบครัวให้ที่โมนิโตลา และจะรออยู่ในโรมเพื่อสืบเรื่องการแสดงแฟชั่นโชว์ของบานาโจที่จะเปิดการคัดเลือกในห้องเสื้อของบริษัทแถวจตุรัสโรมาส่วนจอร์โจสั่งให้สเตฟานจัดการเอาคนมาช่วยซักซ้อมเตรียมบุรณีเรื่องการสัมภาษณ์อยู่หนึ่งวัน ต่อมาลูเซียถูกส่งมาฝึกซ้อมการเดินบนเวทีอีกห้าวันโดยใช้ลานหลังบ้านที่หันหน้าไปยังทะเลสาบการฝึกค่อนข้างยุ่งยากสำหรับสาวใหญ่อย่างเธอ โดยเริ่มตั้งแต่การแสดงออกทางสีหน้าแววตา การวางท่าทางในการเดินบนรองเท้าส้นสูง และท้ายสุดต้องค้นหาเอกลักษณ์การเดินของตนเอง นี่ล่ะคือจุดสำคัญอย่างที่คนในวงการเรียกว่า ‘ท่าแรงสะกดทุกสายตา’ลูเซียติงท่าทางการเดินของเธอว่ายังดูแข็งๆ ไม่เป็นธรรม
คำโปรย อย่าล้มเลิกความตั้งใจ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น...----------------บุรณีมีเวลาเตรียมการอยู่ที่พักในโรมก่อนเริ่มงานแฟชั่นโชว์เพียงห้าวัน การวางแผนของมาเฟียหนุ่มนายนี้เยี่ยมยอดมากและเป็นไปอย่างรวดเร็ว ไม่ว่าบทสัมภาษณ์เตรียมซักซ้อมเดินแบบและการป้องกันตัว ซึ่งเขาวางเกมไว้อย่างแยบยลวันต่อมาจูเลียมาพาเธอไปชอปปิ้งซื้อเสื้อผ้าที่ห้างจูลแถวโคลอสเซียม ซึ่งไม่ไกลจากที่นี่ ณ ห้องเสื้อแห่งนั้นชายหนุ่มหน้าตาเอเชียได้บุกเข้าไปในห้องลองเสื้อที่เธอกำลังลองชุดชั้นในอยู่ จากวันนั้นเป็นต้นมาได้พลิกชะตาชีวิตให้เธอเข้ามาอยู่ในกลุ่มพวกมาเฟียอย่างไม่น่าเชื่อ วันนี้เธอจึงกลายมาเป็นหนึ่งในสังกัดของนักเลงกลุ่มนี้“ลาร่า...ดูบราของเอสโปสิโต้กันไหม...Perfetto !!! เจ๋งมาก เพิ่งออกมาล่าสุด…เรามีเวลาไม่มากนะ จอร์โจสั่งให้ฉันพาเธอไปลองชั้นในของบานาโจด้วย” บุรณีงง...ว่าทำไมเป็นนาง เพราะลูเซียถูกสั่งให้มาประกบเธอตลอด“จูเลีย...ทำไมเป็นเธอมาพาฉันชอปปิ้ง ลูเซียล่ะ...นางไม่ว่างเหรอ!!!” สาวใหญ่มองเธออย่างเป็นกันเอง“ลาร่า จอร์โจกลัวสมุนของแบร์โดมาอุ้มเธอไปน่ะ...นางป้องกันตัวเองยังไม่ได้เลย ไม่รู้ว่าจอร์โจเอานางไว้เพื่
คำโปรย เลือกที่จะไม่คุ้นเคยกับใคร แต่โชคชะตากลับให้มาคุ้น...และผูกพัน----------------จอร์โจนั่งจิบไวน์รอฟังข่าวจากทุกคนที่คอนโดของเขาอย่างอารมณ์ดี งานนี้ต้องสำเร็จอย่างที่เขาวางแผนไว้ เสียงมือถือของเขาดังขึ้น“Ciao ปุนโต...ไง นางอยู่กับนาย!!! พานางไปส่งหรือจะไปไหนกัน ฮ่า...ฮ่า...ฮ่า!!!” มาเฟียหนุ่มเหมือนรู้ใจเพื่อนหนุ่มไทยคนนี้ดี“ลาร่า...อยากพัก เธอบ่นปวดหัว” พันธ์ศักดิ์ถอนหายใจอย่างแรง จริงๆ เขาปวดหัวไม่ใช่เธอ“OK Bye… อย่าลืมพรุ่งนี้ล่ะ” จอร์โจเตือนชายหนุ่มกลัวว่าเขาจะอยู่กับเธอทั้งคืนจนลืมนัดพรุ่งนี้ชายหนุ่มขับรถมาถึงคอนโดที่จอร์โจเช่าเป็นที่พักให้บุรณี เขาขอขึ้นมากินยาแก้ปวดหัวและนอนหลับไปจนถึงเช้า วันต่อมาอาการของเขายังไม่ดีขึ้น จึงส่งข้อความไปถึงจอร์โจแต่เช้าว่าไม่สบายขอยกเลิกนัด มาเฟียหนุ่มร้อนรนอยู่ในใจจึงขอร้องให้เขาพยายามหาทางช่วยจูเลียออกมาให้ได้“ลาร่า...วันนี้ขอนอนที่นี่อีกวัน ปวดหัวแย่มาก...” เขาพูดขึ้นและมองหน้าเธอขณะหญิงสาวเอามือแตะตรงแก้มเบาๆ สัมผัสได้ถึงความร้อนรุมๆ ทั่วผิวหน้า“คงจากกล้ามเนื้อมันปวดอักเสบ...ลองนอร์จีสิกดู ฉันไปอุ่นซุปมาให้ซดเบาๆ แล้วกินยานี้หน
คำโปรย หนามกุหลาบดอกเดียว...ก็เพียงพอ----------------วันรุ่งขึ้นบุรณีตกใจตื่นเกือบเก้าโมงกว่า เธอเห็นชายหนุ่มกำลังแต่งตัวจะออกไป และกำลังเดินมาหยุดอยู่ตรงขอบเตียง แค่อยากบอกอะไรบางอย่างกับเธอ“วันนี้คุณไปสัมภาษณ์ใช่ไหม...ระวังตัวด้วย ผมมีหลายเรื่องต้องทำ แล้วโทรคุยกันเย็นๆ” สีหน้าเขาดูกังวล พอบุรณีจะเอ่ยปากถามเหมือนพันธ์ศักดิ์อ่านใจเธอออก“เรื่องนั้น...ไม่ต้องกังวล เมื่อคืนผมไม่ได้ทำอะไร...สบายใจเถอะ” เขายิ้มที่มุมปาก แล้วเดินออกจากห้องไป ก่อนปิดประตูได้ยินเสียงเขาตะโกนเบาๆ นุ่มๆ“ลาร่า...Ciao Ciao! In bocca al lupo โชคดีนะ!!!” หญิงสาวอมยิ้มนึกในใจว่า เข้าใจอวยพรให้เธอโชคดีกับการล่าหมาป่า เธอเลยตอบอยู่ในใจขณะที่ชายหนุ่มปิดประตู‘Crepi…จงสำเร็จ!!!’ เธอขอพรเบื้องบน งานนี้ถ้าเธอไม่ได้รับเลือก จอร์โจคงหัวเสียแบบไม่ให้อภัยเธอด้วย“อาเมน...” หญิงสาวเหลือบตามองเพดาน ขอพระองค์โปรดเมตตา แม้เธอขอพรเช่นนี้มาตลอด เท่าที่ผ่านมาเธอแทบจะหมดหวังในศรัทธา แต่พี่คนหนึ่งในองค์กร UCD ที่นับถือพระเจ้าเช่นกันปลอบใจเธอว่า พระเมตตาของพระองค์ไม่มีวันสิ้นสุด ตราบที่เราวางใจต่อพระองค์ ตราบนั้นพระองค์จะอยู่ท
คำโปรย เราไม่มีทางรู้เลยว่า คนที่เรารักจะอยู่กับเรานานแค่ไหน----------------พันธ์ศักดิ์โทรหาบุรณีบ่ายของวันต่อมา เขาใช้เครื่องมือถือของจอร์โจโทรเข้ามา เสียงของชายหนุ่มอ่อนเพลียเหมือนคนหมดเรี่ยวแรง “ลาร่า...เป็นยังไงบ้าง ผมให้หมอจีโทรไปหาเองนะ อย่าโกรธล่ะที่ไม่ได้เปิดมือถือ ผมมีความจำเป็น!!!” เสียงตอนท้ายบางเบาราวกับสายลมปลิวหายไปในอากาศ“ฉันสบายดีอยู่นะ มาเจอกันที่นี่ได้ไหม มีเรื่องอยากคุยด้วยอ่ะ” บุรณีถามอย่างกระวนกระวาย“ไม่ได้...ลาร่า ผมถูกสะกดรอยหาตำแหน่งจาก AI แบร์โดมันสงสัยผมตลอดเรื่องคุณ” เสียงเขาเบาเหมือนคนกำลังใกล้หมดสติ“จอร์โจ กำลังให้คาร์โลไปรับคุณมา ผมอยู่เซฟเฮาส์ของเขา” บุรณีฟังน้ำเสียงแล้วใจหาย เขาต้องเป็นอะไรแน่นอนเธอรีบลงไปรอชั้นล่างของคอนโดและไม่ลืมเอายาติดตัวมาด้วย เพราะหนึ่งทุ่มเธอต้องไปพบบานาโจตามที่นัดไว้เซฟเฮาส์ของมาเฟียหนุ่มหลบซ่อนตัวอยู่บริเวณชั้นใต้ดินของห้องเสื้อแห่งหนึ่งที่จำหน่ายชุดชั้นในแบรนด์ดังซึ่งเขาเป็นเอเยนต์ ลักษณะเป็นเลาจน์หรูสำหรับพักผ่อน มีห้องใหญ่อยู่ตรงกลางหนึ่งห้องสำหรับปาร์ตี้และห้องขนาดย่อมอยู่สามห้องเพื่อต้อนรับแขกยามวิกาล รวมไปถึงห้อ
คำโปรย เราต่างมีหน้าที่ผูกพันกัน...ทุกอย่างมาด้วยเหตุ ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ----------------จอร์โจกลุ้มใจคิดหนักมาหลายวันกับเรื่องราวที่เขาได้วางแผนไว้ ทั้งหมดเสียหายไม่เป็นไปตามคาดการณ์ จูเลียบอร์ดี้การ์ดสาวคนสวยของเขาถูกแบร์นาโดใช้เป็นเครื่องมือต่อรองเพื่อแลกตัวกับบุรณี ซึ่งเขายังไม่ได้เปิดปากบอกเรื่องนี้กับเธอ คนที่รู้เรื่องทั้งหมดคือพันธ์ศักดิ์ และที่เขาถูกพิษไซยาไนด์ ยังไม่รู้ว่ามาจากฝีมือกลุ่มไหนบุรณีเฝ้าชายหนุ่มอยู่ข้างเตียงแทบไม่ได้นอนเกือบสองวันสองคืน แต่เขาก็ยังไม่ฟื้นหรือขยับตัว หมอจีเข้ามาตรวจทุกวันและคอยโทรมาเป็นระยะถามผู้ช่วยพยาบาลตลอดอย่างเป็นห่วง หมอหนุ่มประเมินจากสภาพของเขาถ้ายังไม่ฟื้นภายใน 72 ชั่วโมง ยาต้านพิษอาจไม่ได้ผลเท่าที่ควร ในใจของคนเป็นหมอก็เหมือนญาติผู้ป่วยอยากให้พรนั้นเกิดปาฏิหาริย์ โดยเฉพาะพรจากคนรักของชายหนุ่มซึ่งเขาอยากให้มันเกิดขึ้น หมอหนุ่มเคยเห็นเส้นทางชีวิตของเขามาแล้วเหมือนปาฏิหาริย์ ครั้งนั้นพันธ์ศักดิ์ถูกยิงปางตายแต่ด้วยพรของสาวคนรักอย่างพิมพ์ชญาที่อ้อนวอนสวดมนต์ขอต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ในที่สุดเขาก็ฟื้นขึ้นมาได้อย่างเหลือเชื่อ “คิง...ต้องฟื้นขึ้น
คำโปรย พระเจ้าจะอยู่เคียงข้างเราเสมอ ไม่ว่าวันนั้นที่เราทุกข์ที่สุด พระองค์จะไม่เคยทอดทิ้งเรา----------------บุรณีพยายามทำตามคำแนะนำของพันธ์ศักดิ์โดยจะไม่โต้เถียงใดๆ ต่อหน้าครอบครัวและคนงานของชายหนุ่ม เธอไม่อยากขัดคำสั่งของย่าที่คอยตักเตือนมาบ่อยๆ ผ่านทางไลน์ของพ่อ เธอจะให้เกียรติเขาในฐานะสามีซึ่งลูก้าเองพยายามจะเปลี่ยนสรรพนามให้เขากลายเป็นพ่อ แต่ชายหนุ่มบอกหนุ่มน้อยว่าไม่เป็นไรให้เรียกตามเดิมตั้งแต่ต้น ประมาณต้นเดือนธันวาคมป้ายชื่อของผู้ลงทะเบียนจองห้องพักที่ได้สั่งทำเป็นเครื่องไม้เอาผ้าทอลายไทลื้อไปหุ้มไว้ถูกส่งมาที่สำนักงานของไร่ บุรณีมาช่วยคัดรายชื่อและจัดเตรียมห้องพักซึ่งจะลงทำผังผู้จองว่าคนใดควรลงห้องพักหมายเลขใด เธอเห็นป้ายชื่อตัวอักษรภาษาอังกฤษ Burani Benroze หญิงสาวตกใจว่าเธอลืมเรื่องนี้ไปสนิทเลยตั้งแต่ลงทะเบียนวันนั้นที่สถาบันของเดช ชายหนุ่มแนะนำว่าบุรณีควรพาครอบครัวมาเที่ยวที่นี่ เขาได้รับวิดีทัศน์โฆษณาทางออนไลน์ที่โปรโมตค่าจองที่พักล่วงหน้าลดเหลือ 50 เปอร์เซ็นต์ เธอได้ให้เดชช่วยจองให้อย่างหวุดหวิดเกือบไม่ทันเวลา คืนนั้นเธอจึงถามเขาว่าได้ที่อยู่ของเธอจากที่ใดจึงตามไปถึ
คำโปรย เราไม่ได้ทำอะไรที่ไม่ดีงาม นี่เป็นความรักระหว่างเราสองคน ให้ฟ้าดินเป็นพยาน...ว่าได้ครอบครองกัน----------------เช้าวันรุ่งขึ้นย่าขอให้พ่อกับแม่มาทำพิธีผูกข้อมือรับขวัญพันธ์ศักดิ์ ไม่มีพิธีรีตองอะไรมากมายแค่เฉพาะคนในบ้าน ย่าบอกว่าอายคนอื่นเพราะบุรณีเคยมีสามีมาแล้ว จะแต่งงานใหม่ก็ดูยังไม่เข้าท่าเข้าทางว่าที่เจ้าบ่าวดูเด็กกว่ามาก ย่าคงไม่อยากให้ครอบครัวตกเป็นขี้ปากชาวบ้านในชุมชนแถบนั้น ตอนเธอเป็นหม้ายกลับบ้านมายังถูกซุบซิบนินทามาตลอด เพื่อนๆ เคยเห็นว่าเธอเป็นคนเรียบร้อยหัวโบราณชอบสั่งสอน แต่พอเอาเข้าจริงเธอกลับไม่ใช่แบบที่ทุกคนคิด“แม่...ฉันว่ามันยังไงอยู่นะ ทำแบบนี้เหมือนยัยเฒ่ามันอยู่กับเขามานานแล้ว...” แม่ของบุรณีไปกระซิบย่าอย่างไม่เห็นด้วย“นี่...แกดีกว่ามันหรือไง อย่าให้ฉันพูดนะจะอายลูก” ย่าพูดเสียงดัง จนชายหนุ่มมองหน้าย่าอย่างสงสัย“ไป...ดูว่านางลูกสาวแกมันแต่งตัวพองามหรือยัง ลงมาแค่อวยพรพวกเขา และพ่อหนุ่มจะได้กลับบ้าน เขามีงานมีการต้องกลับไปทำ...เสียเวลาเขาหลายวันแล้ว” ย่าไล่ให้แม่ขึ้นไปเรียกบุรณีหญิงสาวเดินลงมาพอดี ถูกย่ามองอย่างหมั่นไส้“ทั้งคู่ไปกราบพระที่ห้องพระก่อน
คำโปรย เงินทอง...ไม่มีหาใหม่ได้เสมอแต่รักแท้ไม่ใช่หากันได้ง่ายๆ----------------บุรณีพาลูก้าและพันธ์ศักดิ์ไปเดินเที่ยวชมตลาดนัดตอนเย็นหลังออกจากสถาบัน เธอพาชายหนุ่มไปรู้จักญาติคนที่แนะนำเดชให้มาดูตัวเธอ เรไรเป็นญาติผู้น้องของบุรณีสายทางย่าของเธอซึ่งเป็นน้องสาวย่าแสงคำของหญิงสาว เธออายุอ่อนกว่าบุรณีสามปีและยังโสดไม่ยอมแต่งงานกับใครแม้มีหนุ่มมามองอยู่หลายคนก็ตาม ร้านของเธออยู่ในบริเวณตลาดนัดริมโขงขายผ้าไหมอีสานซึ่งบุรณีเคยพาเพื่อนๆ มาอุดหนุนอยู่บ่อยๆ “เรไร...นี่พันธ์ศักดิ์...รู้จักกันที่อิตาลี มาขอดูผ้าไหมเผื่อซื้อกลับไปเป็นของฝาก” หญิงสาวแนะนำเขากับเรไร“ได้เลย...เดี๋ยวคืนนี้ไปกินข้าวด้วยนะ สนใจผ้าผืนไหนให้เด็กไปเอามาให้เลือกได้เลย” เรไรพูดทักทายเพียงไม่นาน เธอต้องไปทำธุระหลังร้าน วันนี้เธอยุ่งวุ่นวายกับพ่อค้าขายส่ง“ลาร่า...ผมว่าผ้าไทลื้อที่ผมออกแบบส่งมาขายที่นี่ได้ไหม...” ชายหนุ่มมองเห็นโอกาสเพราะหนองคายเป็นจังหวัดติดชายแดนไทย-ลาว“ได้สิ... คืนนี้คุยกับเธอเลย...เราไปส่งลูก้าให้กลับบ้านไปอยู่เป็นเพื่อนย่า แล้วค่อยออกมากินข้าวกับเธอ” บุรณีตะโกนลาญาติของเธอและบอกว่าหนึ่งทุ่มจะมารับบ
คำโปรย แม้รักใครบางคน แต่เลือกที่จะจากกันไป แม้คิดถึงกันเพียงใด แต่ยังเลือกที่จะไม่พบกัน----------------พันธ์ศักดิ์บินกลับเมืองไทยทันทีหลังจากหมอจีอนุญาตให้กลับได้หลังจากพักฟื้นเกือบครึ่งปี ช่วงพักฟื้นชายหนุ่มมีกิจกรรมเช่าเรือยอร์ชขับท่องเที่ยวในทะเลสาบโคโม ถือเป็นกิจกรรมที่ช่วยให้เขาคลายความปวดร้าวในจิตใจลงไปได้ อาการซึมเศร้าของชายหนุ่มดีขึ้นเมื่อแม่จันทนาโทรศัพท์มาทุกวันพูดคุยเล่าเรื่องราวทางบ้านให้เขาฟัง “แม่ครับ...ผมจะถึงกรุงเทพอาทิตย์นี้ และต่อลงเชียงใหม่เลย ผมขอพักเชียงใหม่หนึ่งคืน ให้ลุงถมช่วยมารับผมที่เชียงใหม่ ทุกคนรอที่บ้านนะครับ” เขาแจ้งกำหนดคร่าวๆ ให้แม่รับรู้ “ป้าคำดี...เปิ้นรอทำกับข้าวเมืองต้อนรับนะลูก รีบกลับมากินให้เปิ้นชื่นใจ” แม่จันทนาพูดถึงแม่ครัวของที่ไร่ซึ่งฝีมือทำอาหารเหนือที่ชายหนุ่มติดใจมาตั้งแต่เล็กๆแม่ของเขาไม่ใช่คนเหนือได้แต่งงานกับพ่อของพันธ์ศักดิ์แล้วมาช่วยกันแปลงที่ดินรอบบ้าน 50 ไร่ให้กลายเป็นรีสอร์ตขนาดย่อมในอำเภอเชียงคำ เขาเกิดที่นี่และเติบโตกลายเป็นคนเหนือของท้องถิ่นนี้ รับช่วงกิจการของครอบครัวจากมรดกที่พ่อทิ้งไว้ ห้าปีที่แล้วพ่อจากไปทำให้เขาซึม
คำโปรย พลังของการเยียวยา...ไม่ว่าความเจ็บปวดใด... ลบล้างมลทินได้ด้วยกาลเวลาแห่งสุนทรียะของความสัมพันธ์----------------บุรณี ลูก้าและมัมมา ถูกส่งเข้าแอดมิตที่โรงพยาบาลในโรมจากอาการบาดเจ็บและปวดร้าวทั่วร่างกาย ทั้งยังจิตใจที่ต้องได้รับการเยียวยา ครอบครัวเธอได้รับการรักษาอยู่ในโรงพยาบาลเกือบหนึ่งสัปดาห์ ก่อนที่เธอจะออกจากโรงพยาบาล หมอจีติดต่อเข้ามาเยี่ยมดูอาการและพูดคุยกับหญิงสาว“Ciao ลาร่า...หน้าตาดูดีขึ้นแล้วนะเนี่ย...เอ่อ...ปุนโต อาการดีขึ้นแล้ว แต่ผมอยากให้เขาย้ายไปโคโมพักฟื้นสักระยะหนึ่งในบ้านหลังที่คุณเคยอยู่ ก่อนที่เขาจะกลับเมืองไทย จะช่วยฟื้นฟูสภาพจิตใจให้เขารู้สึกดีขึ้นกับเรื่องราวต่างๆ ที่ผ่านมา” หมอจียิ้มอารมณ์ดีเมื่อมองหน้าหญิงสาวที่มีสีเลือดฝาดบางๆ ที่แก้มของเธอ เขานิ่งรอฟังเสียงของเธอว่าจะมีปฏิกิริยาอย่างไรกับข่าวคราวของพันธ์ศักดิ์“ฝากดูแลเขาด้วยค่ะ...ฉันคงไม่ได้กลับไปเจอเขาอีกแล้ว จะจัดการเรื่องของเขาให้เรียบร้อย บอกเขาด้วยนะคะ ไม่ต้องกังวล” เสียงของเธอดูเซื่องซึมเชื่องช้า ใจเหี่ยวแห้ง เธอไม่มีโอกาสบอกลาเขาด้วยซ้ำ“เอ้า...ไม่ไปเจอกันหน่อยรึ…!!! พอเขาเริ่มฟื้นมีสติพูดค
คำโปรย ฝันอยากให้คนคนนั้นเข้ามาในชีวิต...ตลอดไป ----------------บุรณีกำลังถูกมาเฟียสูงวัยโอบฟัดร่างด้วยฝ่ามือแข็งประดุจเหล็กกล้า และจากความแรงราวลูกตุ้มเหล็กเหวี่ยงเธอล้มลงบนที่นอนเสียงดังตึงจนเธอรู้สึกปวดแปลบที่สะโพกร้าวถึงอุ้มเชิงกรานแทบทนไม่ไหว น้ำตาของหญิงสาวเริ่มไหลพรากด้วยทนเจ็บระบมมากมายเหลือเกิน ตลอดทั้งสัปดาห์มานี้เธออดทนกับความเจ็บปวดขนาดนี้ได้อย่างไร ขณะนี้อาการของมันยิ่งกำเริบหนักเป็นทบทวีทันใดนั้นเอง...เสียงดัง โครม...ตึง...ตึง...ปัง ราวฟ้าถล่ม จากการกระแทกกระทั้นอย่างรุนแรง ประตูถูกพังเข้ามาอย่างรวดเร็วประดุจสายฟ้า“แบร์โด...เร็ว!!! เอานางไปด้วย...Ora…เดี๋ยวนี้ AM polizia หน่วยปราบปรามเต็มไปหมดแล้ว ลงบันไดหนีไฟ โจเช่รอนายอยู่ด้านหลัง ฉันจะยิงดักทางให้...!!!” เสียงตะโกนของเลโอ คนสนิทของแบร์นาโดโผล่พรวดเข้ามาตะโกนเสียงดังให้เขารีบพาเธอหนีไปอย่างไม่ต้องคิดชีวิตแล้ว เพราะเขาถูกกองกำลังปราบปรามของทางการล้อมคอนโดไว้ขณะนี้หญิงสาวถูกสมุนสองนายช่วยกันลากเธอลงบันไดไปได้แค่ครึ่งทาง เธอบอกจะเดินไม่ไหวแล้วเรี่ยวแรงแทบไม่มี พวกมันจึงผลัดกันอุ้มเธอรีบวิ่งตามมาเฟียนายใหญ่ลงไป เขาเป
คำโปรย ปรัชญาบทหนึ่งเล่าถึงความรัก...หากใจภักดิ์จำมอบแก่มืออันแล้งรัก...คงมิมีสายใยอันใดหล่อเลี้ยงความสัมพันธ์----------------บุรณีนั่งอยู่ในรถกลับมาที่คอนโดด้วยอาการนิ่งเงียบ...ไร้เรี่ยวแรง ลูอิสกับลูเซียมองหน้ากันไปมาอย่างกังวล อยากเอ่ยปากถามสาวใหญ่ว่ามีอะไรเกิดขึ้นระหว่างที่พบกับแบร์นาโด และแล้วเธอก็เอ่ยขึ้นด้วยอารมณ์ซึมเซา“ลูอิสช่วยติดต่อจอร์โจที...ฉันรู้สึกผิดปกตินะ...แปลกยังไงไม่รู้!!!” เธอหันไปมองชายหนุ่มที่นั่งติดกับเธอ“จอร์โจน่าจะยังไม่เปิดสัญญาณมือถือ หรือไม่ก็ปิดเครื่อง ถ้าเขาไม่ว่างนะ...ลาร่า Calmati…ใจเย็น” ลูอิสพูดเพื่อปลอบใจหญิงสาว เธอรู้ว่าทุกคนกังวลเหมือนเธอเช่นกัน“Dottore…หมอจี ก็ไม่เปิดเครื่อง ให้ฝากข้อความ” บุรณีกล่าวขึ้นอย่างใจลอย หัวใจเธอเริ่มสะอื้น“ไปส่งที่คอนโดฉันนะ...” หญิงสาวบอกคนขับรถ“No…ไม่ จอร์โจสั่งให้พวกเราไปที่คอนโดของเขา” ลูอิสปฏิเสธคำสั่งของหญิงสาว เพราะเขารับคำสั่งมาเช่นนั้น“ใช่...ลาร่า Certo…แน่นอน เราต้องไปคุยกับจอร์โจก่อนนะ อย่าเพิ่งกังวลเกินไป” ลูเซียสาวสวยพูดสำทับเพื่อให้เธอคลายเครียด เพราะสาวน้อยได้ยินเสียงของสาวใหญ่ซึ่งดูหดหู่ห่อเหี
คำโปรย ความพยายามของเรา...แม้มากมายเพียงใด แต่จะได้แค่ไหน..อยู่ที่ลิขิตของโชคชะตา...เป็นตัวกำหนด----------------เช้าตรู่หมอจีมาถึงด้วยอาการโล่งอก เขาเดินเข้ามาโอบไหล่บุรณี มองแววตาของหญิงสาวเปล่งประกายอย่างมีความหวัง“...เมื่อคืนผมเรียกให้เขาฟื้น เห็นไหมวันนี้เริ่มมีอาการรู้สึกตัวบ้างแล้ว...” หมอจีพูดอย่างสบายใจ “หนึ่งถึงสองสัปดาห์สภาพร่างกายจะค่อยๆ ฟื้นตัวกลับมาปกติ ...เพื่อนผมคนนี้มันดวงแข็ง...ฮ่า ฮ่า ฮ่า” หมอจีหัวเราะชอบใจ“Dottore...คุณหมอคะ ฝากจัดการย้ายเขาไปสถานพยาบาลเถอะนะคะ..!!!” เสียงของบุรณีวิตก “ทำไม!!!...มีปัญหาอะไร” หมอจีหันมาจ้องหน้าเธอทันที“ฉันจะไปกินข้าวกับแบร์นาโดเที่ยงนี้...และไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น” น้ำเสียงเธอดูซึมๆ “ไม่อยากให้เขาอยู่ตรงนี้ ไม่ปลอดภัยถ้าฉัน...เอ่อ...อะ” เธอตะกุกตะกักไม่อยากคาดเดาว่าในวันสองวันนี้จะเกิดเหตุอะไรบ้าง “โอเค...ผมจัดการให้บ่ายนี้เลย...ลาร่า ดูแลตัวเองด้วย...ที่ผมเคยเตือน เรื่องยาด้วยห้ามลืมเด็ดขาด” สีหน้าและแววตาของหมอหนุ่มกังวลกับเหตุการณ์ที่หญิงสาวต้องไปเผชิญ “ตั้งสติให้ดี...อย่าให้เกิดอาการจนควบคุมไม่ได้ จะพลาดนะ...ผมเป็นห่
คำโปรย เราต่างมีหน้าที่ผูกพันกัน...ทุกอย่างมาด้วยเหตุ ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ----------------จอร์โจกลุ้มใจคิดหนักมาหลายวันกับเรื่องราวที่เขาได้วางแผนไว้ ทั้งหมดเสียหายไม่เป็นไปตามคาดการณ์ จูเลียบอร์ดี้การ์ดสาวคนสวยของเขาถูกแบร์นาโดใช้เป็นเครื่องมือต่อรองเพื่อแลกตัวกับบุรณี ซึ่งเขายังไม่ได้เปิดปากบอกเรื่องนี้กับเธอ คนที่รู้เรื่องทั้งหมดคือพันธ์ศักดิ์ และที่เขาถูกพิษไซยาไนด์ ยังไม่รู้ว่ามาจากฝีมือกลุ่มไหนบุรณีเฝ้าชายหนุ่มอยู่ข้างเตียงแทบไม่ได้นอนเกือบสองวันสองคืน แต่เขาก็ยังไม่ฟื้นหรือขยับตัว หมอจีเข้ามาตรวจทุกวันและคอยโทรมาเป็นระยะถามผู้ช่วยพยาบาลตลอดอย่างเป็นห่วง หมอหนุ่มประเมินจากสภาพของเขาถ้ายังไม่ฟื้นภายใน 72 ชั่วโมง ยาต้านพิษอาจไม่ได้ผลเท่าที่ควร ในใจของคนเป็นหมอก็เหมือนญาติผู้ป่วยอยากให้พรนั้นเกิดปาฏิหาริย์ โดยเฉพาะพรจากคนรักของชายหนุ่มซึ่งเขาอยากให้มันเกิดขึ้น หมอหนุ่มเคยเห็นเส้นทางชีวิตของเขามาแล้วเหมือนปาฏิหาริย์ ครั้งนั้นพันธ์ศักดิ์ถูกยิงปางตายแต่ด้วยพรของสาวคนรักอย่างพิมพ์ชญาที่อ้อนวอนสวดมนต์ขอต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ในที่สุดเขาก็ฟื้นขึ้นมาได้อย่างเหลือเชื่อ “คิง...ต้องฟื้นขึ้น