แชร์

บทที่ 659

ผู้เขียน: ไห่ตงชิง
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-12-25 18:00:00
เหตุการณ์ทั้งหมดเกิดขึ้นในเวลาเพียงช่วงจิบชาเดียว ทุกอย่างเกิดขึ้นรวดเร็วและจบลงเร็วยิ่งกว่า ทิ้งไว้เพียงซากศพที่ถูกไฟเผาไหม้และบ้านที่กำลังลุกไหม้กลายเป็นเถ้าถ่าน

กลุ่มคนชุดดำกระจายตัวออกไปในความมืดหลังจากสังหารสายลับและชิงเอาสิ่งของได้สำเร็จ คนหนึ่งในนั้นที่ถือจดหมายสำคัญไว้ในมือ วิ่งผ่านค่ำคืนมุ่งหน้าไปยังจวนจ้าว

เมื่อมาถึงประตูเมืองที่ปิดสนิทในยามค่ำคืน ต่อหน้าคำถามของทหารเฝ้ายาม เขาโยนป้ายออกไปโดยไม่พูดพล่ำ

"ที่แท้เป็นคนจากจวนท่านอาวุโสนี่เอง ข้าน้อยเสียมารยาทนัก ข้าจะรีบเปิดประตูให้เดี๋ยวนี้!"

เมื่อเห็นป้ายที่สลักอักษรจ้าวตัวใหญ่ๆ ไว้ ทหารเฝ้าประตูไม่กล้าลังเล รีบส่งสัญญาณให้เปิดประตูทันที

หลังเก็บป้ายคืน คนชุดดำกำลังจะก้าวเข้าเมือง

แต่ทันใดนั้น ทหารเฝ้าประตูที่เมื่อครู่ยังยิ้มแย้ม กลับเผยสีหน้าดุดัน ชักดาบยาวฟันคนชุดดำในทันที

เสียงปังดังขึ้น ร่างของคนชุดดำล้มลงกับพื้น

ทหารผู้โจมตีคุกเข่าลงค้นตัว หยิบซองจดหมายออกมา เขายิ้มอย่างพอใจและกล่าวกับทหารคนอื่นว่า

"พี่น้องทั้งหลาย ขอบใจทุกคนมาก ท่านอ๋องของข้าจะตอบแทนพวกเจ้าอย่างงาม!"

หลังจากกล่าวคำจนจบต่อเหล่าทหารธรรมดาที่กำลังหว
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 660

    ในเมื่อไม่สามารถสังหารเย่ลู่กู่จ้านฉีได้ จ้าวเสวียนจีจึงเลือกที่จะตัดขาดช่องทางทั้งหมดที่เย่ลู่กู่จ้านฉีจะใช้ส่งข้อความขอความช่วยเหลือไปยังแคว้นเหลียวแผนการที่ตามมาภายหลังจึงเกิดขึ้นแต่หากหลี่เฉินรู้แผนการนี้ล่วงหน้า เขาย่อมจะไม่ปล่อยให้จ้าวเสวียนจีสังหารสายลับแคว้นเหลียวสำเร็จเพราะถ้าเย่ลู่กู่จ้านฉีสามารถส่งข้อความกลับแคว้นเหลียวได้ และทำให้แคว้นเหลียวโกรธจนเกิดปัญหาที่เชื่อมโยงไปถึงจ้าวเสวียนจี นั่นย่อมเป็นประโยชน์ต่อหลี่เฉินดังนั้น หากหลี่เฉินคิดจะขัดขวาง เขาย่อมต้องลงมือก่อนที่จ้าวเสวียนจีจะประสบความสำเร็จเมื่อปัดความเป็นไปได้ที่หลี่เฉินจะเกี่ยวข้อง จ้าวเสวียนจีเริ่มครุ่นคิดถึงผู้อื่นที่อาจมีส่วนร่วมอ๋องแห่งแคว้น? หรืออาจเป็นกลุ่มอิทธิพลในราชสำนัก?ความคิดนับร้อยพันพุ่งเข้ามาในหัวเหมือนเงื่อนปมที่ซับซ้อน เขาไม่สามารถจับจุดได้แม้แต่เงื่อนเดียวในขณะนั้น เสียงไก่ขันดังขึ้นจากนอกหน้าต่างรุ่งอรุณกำลังมาเยือนเสียงไก่ขันทำให้จ้าวเสวียนจีราวกับถูกปลุกให้ตื่น เขาสงบจิตใจลงในทันทีหลังจากโลดแล่นในวงราชสำนักมานานหลายสิบปี แม้จะถูกสถานการณ์บีบคั้นจนเสียศูนย์ชั่วขณะ แต่จ้าวเ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-25
  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 661

    คำพูดของหลงไหวอี้ทำให้หลี่อิ๋นหู่ตาวาวขึ้นมาทันที เขาลองถามหยั่งเชิงว่า “อ๋องแห่งแคว้นผู้ที่ท่านกล่าวถึงนั้นคือ…?”หลงไหวอี้ยิ้มเล็กน้อย ก่อนกล่าวว่า “ท่านอ๋องไม่จำเป็นต้องรีบร้อน รอถึงเวลาที่เหมาะสม ข้าจะจัดให้ท่านพบกับท่านอ๋องผู้นั้น แต่ในเวลานี้ อ๋องฟานยังไม่ต้องการเปิดเผยตัวตน”หลี่อิ๋นหู่ขมวดคิ้วเล็กน้อยท่าทีที่หลงไหวอี้ชอบปิดบังอะไรไว้เสมอ ทำให้เขารู้สึกไม่พอใจแต่ในเมื่อเขายังต้องพึ่งพาหลงไหวอี้ในหลายๆ เรื่อง หลี่อิ๋นหู่จึงกลืนความไม่พอใจลงไป และยิ้มแย้มกล่าวว่า “ไม่เป็นไร ข้าไม่รีบ”ทั้งสองคนพูดคุยถึงรายละเอียดเพิ่มเติมอีกเล็กน้อย ก่อนที่หลงไหวอี้จะลุกขึ้นกล่าวลา “ท่านอ๋อง ข้าขอตัวลา”หลี่อิ๋นหู่รีบกล่าวขึ้น “เรื่องที่ข้าเคยขอให้ท่านช่วยเมื่อวันก่อน...”หลงไหวอี้หยิบตั๋วเงินชุดหนึ่งออกมาจากแขนเสื้อแล้ววางลงบนโต๊ะ “ท่านอ๋อง นี่คือตั๋วเงินสองแสนตำลึง ใบละหมื่นตำลึงรวมยี่สิบใบ เงินจำนวนนี้ครึ่งหนึ่งเป็นของอาจารย์ข้า อีกครึ่งมาจากท่านอ๋องผู้ที่ข้ากล่าวถึง อย่างไรก็ดี ทั้งอาจารย์ข้าและท่านอ๋องผู้นั้นก็ไม่ได้มีทรัพย์สินเหลือเฟือ…”หลี่อิ๋นหู่ยิ้มอย่างมีความสุข “ข้าเข้าใจดี

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-25
  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 662

    ชายชรากล่าวด้วยน้ำเสียงร้อนรนว่า “ท่านอ๋อง ข้ามั่นใจว่าสวีเว่ยต้องมีปัญหาแน่นอน เขาออกจากจวนบ่อยครั้งโดยไม่มีเหตุผล และทุกครั้งก็หายตัวไปโดยไร้ร่องรอย แม้เขาจะมีข้อแก้ตัวเสมอ แต่ข้ากล้าพูดได้ว่ามันต้องเป็นข้อแก้ตัวที่โกหก!”หลี่อิ๋นหู่มองชายชราอย่างไม่พอใจ ก่อนกล่าวว่า “เรื่องที่เขาเลี้ยงดูหญิงงามคนหนึ่ง ข้ารู้ดีอยู่แล้ว ผู้ชายจะมีผู้หญิงคนที่ชอบมันก็ธรรมดา หากเป็นเจ้า เจ้าออกไปหาผู้หญิงเจ้าจะป่าวประกาศให้ใครๆ รู้หรือไม่?”คำพูดของหลี่อิ๋นหู่ทำให้ชายชราพูดไม่ออก แต่เขายังยืนกรานว่า “โปรดให้เวลาข้าอีกสักนิด ข้าสัญญาว่าจะสืบหาความจริงเกี่ยวกับเขาให้ได้!”“เจ้าสืบเรื่องอ๋องแห่งแคว้นที่สนับสนุนหลงไหวอี้ให้ได้ก่อนเถอะ”หลี่อิ๋นหู่โบกมืออย่างรำคาญ “เอาเถอะ ออกไปซะ วันๆ เอาแต่ทำให้ข้าหนักใจ”ชายชราเปิดปากเหมือนอยากพูดอะไรสักอย่าง แต่สุดท้ายก็เลือกที่จะเงียบ ถอนหายใจ แล้วออกจากห้องไปคืนนั้น หลี่เฉินถูกปลุกขึ้นจากการนอนอีกครั้งแม้ว่าดวงตาจะล้าจนร้อนผ่าว แต่เขายังรับรายงานลับสุดยอดจากเฉินทงมาพิจารณาเมื่ออ่านรายงานที่สวีเว่ยส่งมา หลี่เฉินถึงกับหายง่วงเป็นปลิดทิ้งรายงานแบ่งเป็นสองส่วน

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-25
  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 1

    จักรวรรดิต้าฉิน ห้องบรรทมในตำหนักบูรพาขององค์รัชทายาท“ฝ่าบาท หม่อมฉันมีไฝที่หน้าอก ท่านอยากดูไหม?”หลี่เฉินลืมตาโพลงขึ้นมา และหอบหายใจอย่างหนักราวกับปลาขาดน้ำ เขาจ้องมองเสาแกะสลักลายมังกรรอบๆ ด้วยความประหลาดใจ การตกแต่งห้องแบบโบราณและวิจิตรตระการตา บวกกับมีสาวงามที่น่าทึ่งนั่งอยู่ข้างเตียง เขาไม่อยากจะเชื่อเลยจริงๆวิญญาณของฉัน ทะลุมิติมาเหรอ!?“ฝ่าบาท ท่านทรงเป็นอะไรไป?”ผู้หญิงที่อยู่ข้างๆ เขาสวยกว่าดาราหญิงทุกคนในชาติก่อนของเขากำลังส่งเสียงเรียก ทำให้ความคิดของหลี่เฉินกลับมาสู่โลกแห่งความเป็นจริง ฉับพลันความทรงจำก็หลั่งไหลเข้ามาในจิตใจของหลี่เฉิน ทำให้เขาเปล่งเสียงร้องออกมาด้วยความเจ็บปวดหลังหายใจเข้าอย่างหนัก หลี่เฉินก็เข้าใจขึ้นมาชาตินี้ เขาไม่ใช่มนุษย์เงินเดือนที่ถือว่าทำงานหามรุ่งหามค่ำเป็นพรอีกต่อไป แต่เป็นรัชทายาทแห่งจักรวรรดิต้าฉิน ว่าที่ฮ่องเต้ ทายาทที่ถูกต้องตามกฎหมายเพียงคนเดียวในจักรวรรดิต้าฉินอันยิ่งใหญ่!ชาตินี้ เขาไม่ใช่ผู้ชายจนๆ อีกต่อไป แต่เป็นผู้มีอำนาจและสถานะ ควบคุมอำนาจที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในใต้หล้าไว้ในมือ!“ฉัน...ข้าอยากเห็น แน่นอนอยากเห็นสิ”หลี่เฉิ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-07-04
  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 2

    เฉินจื้อกัดฟันด้วยความโกรธ ร่างกายของเขาสั่นเทิ้มไปทั่วร่าง มือที่จับบนด้ามดาบเกร็งแน่นจนเส้นเอ็นปูด เผยให้เห็นถึงความโกรธสุดขีด“ไม่กล้า? ไม่กล้าก็ไสหัวไป! ถอยไปด้านหลังให้ข้าห้าก้าว ลงไปจากขั้นบันได ถ้ากล้าเหยียบขั้นบันไดขึ้นมาหนึ่งก้าว สังหารไร้ปรานี!”หลี่เฉินมองสีหน้าอึมครึมของเฉินจื้อ ที่ค่อยๆ ถอยหลังไปอย่างช้าๆ ด้วยความอับอาย เมื่อถอยลงจากขั้นบันไดขั้นสุดท้ายจึงหยุด หลี่เฉินหัวเราะเสียงเย็น ก่อนจะหันหัวเดินเข้าไปด้านในเมื่อจ้องมองไปที่แผ่นหลังของหลี่เฉิน ความเกลียดชังที่พลุ่งพล่านอยู่ในอกของเฉินจื้อก็แทบจะทำให้เขาคลุ้มคลั่ง“หลี่เฉิน เจ้ารอข้าก่อนเถอะ เมื่อแผนการของฮองเฮากับใต้เท้าราชเลขาธิการบรรลุผล ข้าจะทำให้เจ้าตายไร้ที่ฝัง!”เมื่อกลับเข้ามาด้านใน หลี่เฉินก็เห็นฮองเฮาจ้าวชิงหลานกำลังปลอบใจจ้าวหรุ่ยที่กำลังร้องไห้อยู่อ้อมแขนของนางอย่างระมัดระวัง แม้ว่าจ้าวชิงหลานจะไม่เคยถูกแตะต้อง แต่เมื่อเห็นท่าทางของจ้าวหรุ่ยตอนนี้ และยังรอยเลือดบนแท่นบรรทมจึงพอจะทราบว่าเกิดอะไรขึ้นในฐานะผู้หญิงด้วยกัน นางย่อมเข้าใจหัวอกผู้หญิงด้วยกัน“องค์รัชทายาท ท่านบังอาจไปแล้วนะ!”เมื่อเห็นห

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-07-04
  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 3

    เสียงร้องแผ่วเบานี้กระตุ้นความตื่นตัวของเฉินจื้อที่อยู่ข้างนอกทันที“ฮองเฮาทรงเกิดอะไรขึ้นพ่ะย่ะค่ะ?”จ้าวชิงหลานมองหลี่เฉินที่มองนางด้วยรอยยิ้มที่มั่นใจ นางแอบกัดฟันด้วยความเกลียดชัง และนำความไม่พอใจทั้งหมดไประบายใส่เฉินจื้อ“ไม่ใช่เรื่องของเจ้า ไม่ต้องถามมาก”เมื่อเฉินจื้อถูกตำหนิ เขาก็ยิ่งรู้สึกอับอายมากยิ่งขึ้นเมื่อไม่มีที่ระบายความโกรธ เขาจึงหันกลับมาด่าขันทีที่กำลังขับรถม้า “ขับรถม้าให้ดีๆ หน่อย หากทำให้ฮองเฮาตกใจอีกครั้ง ข้าจะแล่เนื้อเจ้าซะ!”ภายในเกี้ยวหงส์ ตู้นั้นสั่นเล็กน้อย ราวกับกรงสัตว์ก็ไม่ปาน ทำให้จ้าวชิงหลานนึกอยากจะหนีก็หนีไม่ได้จ้าวชิงหลานนั่งบนต้นขาของหลี่เฉิน ราวกับนั่งอยู่บนเข็มก็ไม่ปานนางคิดจะลุกขึ้น แต่ทุกครั้งที่ทำตามความตั้งใจ หลี่เฉินก็จะดึงนางกลับมา และบังคับให้นั่งลงอย่างแน่วแน่“เจ้า เจ้าไม่กลัวข้าจะสังหารเจ้ารึ!?”เมื่อมองไปที่ปากแดงฟันขาวนั่น จ้าวชิงหลานก็แอบกัดฟันแน่น หลี่เฉินพูดด้วยรอยยิ้มที่ชั่วร้ายว่า “ฮองเฮายอมแพ้หรือไม่?”ในขณะที่พูดก็ฉวยโอกาสที่จ้าวชิงหลานไม่ทันสังเกต ใช้มือใหญ่ของเขาคลำไปตามระหว่างเอวและหน้าท้อง ท้องน้อยที่แบนราบ เ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-07-04
  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 4

    หัวใจของหลี่เฉินหนักอึ้ง เขารู้ว่า ฮ่องเต้กำลังทดสอบตัวเองผลงานของเจ้าของร่างเดิมนั้นไม่ค่อยดีนัก จนถึงขั้นที่ว่าแม้แต่วินาทีสุดท้ายของฮ่องเต้ พระองค์ก็ยังไม่กล้าที่จะมอบภาระของประเทศไว้บนบ่าของเขาตอนนี้อาจกล่าวได้ว่า การกระทำของเขานั้นจะเป็นตัวกำหนดชะตากรรมของเขาในท้ายที่สุด“ความยากในการบริหารแผ่นดิน เกิดจากปัญหาภายในและภายนอก”หลี่เฉินผสมผสานความทรงจำจากเจ้าของร่างเดิม เข้ากับความรู้ทางประวัติศาสตร์เกี่ยวกับการขึ้นและลงของราชวงศ์ที่เขาอ่านก่อนทะลุมิติมา จากนั้นก็กล่าวว่า “ปัญหาจากภายนอก มาจากพวกคนเถื่อน เฉวี่ยนหรง หนู่เจิน ซยงหนู นอกจากนี้ยังมีพิษร้ายที่เหลือรอดจากอดีตราชวงศ์หยวน ซึ่งต้องการทำลายต้าฉินของพวกเรา”“ปัญหาจากภายใน มาจากการแบ่งแยกของอ๋องศักดินา ซึ่งก็คือพระบรมวงศานุวงศ์ที่ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นท่านอ๋องหรือโหว พวกเขามีอำนาจเก็บภาษีในดินแดนศักดินา และมีอำนาจทางการทหาร มันเป็นเพียงสถานที่นอกกฎหมาย เป็นเขตปกครองตนเอง นับว่าเป็นปัญหาที่ร้ายแรงจริงๆ ”“ยังมีเจ้าหน้าที่ทุจริตออกอาละวาดในท้องถิ่น พวกขุนนางใหญ่จัดตั้งกลุ่มเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัว พวกเขาต่อสู้เพื่ออำนาจและ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-07-04
  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 5

    หลี่เฉินยิ้มอย่างมีความสุขไม่มีใครในใต้หล้านี้ไม่กลัวอำนาจและวิธีการสังหารของหน่วยบูรพา มีเพียงราชวงศ์เท่านั้นที่จะไม่กลัว เพราะอำนาจของพวกเขามาจากฮ่องเต้ และพวกเขา ก็ยังเป็นสุนัขรับใช้ที่ภักดีที่สุดในเงื้อมมือของฮ่องเต้อีกด้วยในฐานะกวางกงของหน่วยบูรพาที่เหล่าขุนนางบุ๋นบู๊ต่างต้องการสังหาร เขาคงเป็นคนแรกที่เต็มใจเข้ามาพึ่งพาตัวเองกองกำลังนี้จะช่วยเขาได้มากอย่างแน่นอน“ดีมาก”หลี่เฉินโยนดาบในมือไปตรงหน้าขันทีซานเป่าแล้วพูดว่า “เสด็จพ่อเคยมอบดาบให้กับเจ้า แต่ตอนนี้ดาบเล่มนั้นขึ้นสนิมไปแล้ว ดังนั้นตอนนี้ ข้าจะให้ดาบเล่มนี้แก่เจ้า เจ้าต้องการมันไหม?”ขันทีซานเป่าคุกเข่าอย่างนอบน้อม แล้วหยิบดาบบนพื้นขึ้นมา จับมันไว้แน่นแล้วกล่าวว่า “เมื่อฝ่าบาทมอบราชโองการให้แก่บ่าว ทรงเคยตรัสว่า ต่อไปนี้ บ่าวจะเป็นดาบในมือของพระองค์”เมื่อมองดูประตูวังสุทธาสวรรค์ที่ปิดอยู่ ดูเหมือนว่าฮ่องเต้บนแท่นนอนที่ยืนหยัดหายใจอยู่ จะได้เตรียมการเอาไว้แล้ว“ในบรรดาองค์ชายทั้งหลาย องค์ชายเก้าเป็นบุตรคนสุดท้อง เมื่อหลายปีก่อน ฮองเฮาทรงขอเสด็จพ่อรับเลี้ยงดูองค์ชายเก้า และเชิญหัวหน้าสภาขุนนางมาสั่งสอนเป็นการส่วน

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-07-04

บทล่าสุด

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 662

    ชายชรากล่าวด้วยน้ำเสียงร้อนรนว่า “ท่านอ๋อง ข้ามั่นใจว่าสวีเว่ยต้องมีปัญหาแน่นอน เขาออกจากจวนบ่อยครั้งโดยไม่มีเหตุผล และทุกครั้งก็หายตัวไปโดยไร้ร่องรอย แม้เขาจะมีข้อแก้ตัวเสมอ แต่ข้ากล้าพูดได้ว่ามันต้องเป็นข้อแก้ตัวที่โกหก!”หลี่อิ๋นหู่มองชายชราอย่างไม่พอใจ ก่อนกล่าวว่า “เรื่องที่เขาเลี้ยงดูหญิงงามคนหนึ่ง ข้ารู้ดีอยู่แล้ว ผู้ชายจะมีผู้หญิงคนที่ชอบมันก็ธรรมดา หากเป็นเจ้า เจ้าออกไปหาผู้หญิงเจ้าจะป่าวประกาศให้ใครๆ รู้หรือไม่?”คำพูดของหลี่อิ๋นหู่ทำให้ชายชราพูดไม่ออก แต่เขายังยืนกรานว่า “โปรดให้เวลาข้าอีกสักนิด ข้าสัญญาว่าจะสืบหาความจริงเกี่ยวกับเขาให้ได้!”“เจ้าสืบเรื่องอ๋องแห่งแคว้นที่สนับสนุนหลงไหวอี้ให้ได้ก่อนเถอะ”หลี่อิ๋นหู่โบกมืออย่างรำคาญ “เอาเถอะ ออกไปซะ วันๆ เอาแต่ทำให้ข้าหนักใจ”ชายชราเปิดปากเหมือนอยากพูดอะไรสักอย่าง แต่สุดท้ายก็เลือกที่จะเงียบ ถอนหายใจ แล้วออกจากห้องไปคืนนั้น หลี่เฉินถูกปลุกขึ้นจากการนอนอีกครั้งแม้ว่าดวงตาจะล้าจนร้อนผ่าว แต่เขายังรับรายงานลับสุดยอดจากเฉินทงมาพิจารณาเมื่ออ่านรายงานที่สวีเว่ยส่งมา หลี่เฉินถึงกับหายง่วงเป็นปลิดทิ้งรายงานแบ่งเป็นสองส่วน

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 661

    คำพูดของหลงไหวอี้ทำให้หลี่อิ๋นหู่ตาวาวขึ้นมาทันที เขาลองถามหยั่งเชิงว่า “อ๋องแห่งแคว้นผู้ที่ท่านกล่าวถึงนั้นคือ…?”หลงไหวอี้ยิ้มเล็กน้อย ก่อนกล่าวว่า “ท่านอ๋องไม่จำเป็นต้องรีบร้อน รอถึงเวลาที่เหมาะสม ข้าจะจัดให้ท่านพบกับท่านอ๋องผู้นั้น แต่ในเวลานี้ อ๋องฟานยังไม่ต้องการเปิดเผยตัวตน”หลี่อิ๋นหู่ขมวดคิ้วเล็กน้อยท่าทีที่หลงไหวอี้ชอบปิดบังอะไรไว้เสมอ ทำให้เขารู้สึกไม่พอใจแต่ในเมื่อเขายังต้องพึ่งพาหลงไหวอี้ในหลายๆ เรื่อง หลี่อิ๋นหู่จึงกลืนความไม่พอใจลงไป และยิ้มแย้มกล่าวว่า “ไม่เป็นไร ข้าไม่รีบ”ทั้งสองคนพูดคุยถึงรายละเอียดเพิ่มเติมอีกเล็กน้อย ก่อนที่หลงไหวอี้จะลุกขึ้นกล่าวลา “ท่านอ๋อง ข้าขอตัวลา”หลี่อิ๋นหู่รีบกล่าวขึ้น “เรื่องที่ข้าเคยขอให้ท่านช่วยเมื่อวันก่อน...”หลงไหวอี้หยิบตั๋วเงินชุดหนึ่งออกมาจากแขนเสื้อแล้ววางลงบนโต๊ะ “ท่านอ๋อง นี่คือตั๋วเงินสองแสนตำลึง ใบละหมื่นตำลึงรวมยี่สิบใบ เงินจำนวนนี้ครึ่งหนึ่งเป็นของอาจารย์ข้า อีกครึ่งมาจากท่านอ๋องผู้ที่ข้ากล่าวถึง อย่างไรก็ดี ทั้งอาจารย์ข้าและท่านอ๋องผู้นั้นก็ไม่ได้มีทรัพย์สินเหลือเฟือ…”หลี่อิ๋นหู่ยิ้มอย่างมีความสุข “ข้าเข้าใจดี

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 660

    ในเมื่อไม่สามารถสังหารเย่ลู่กู่จ้านฉีได้ จ้าวเสวียนจีจึงเลือกที่จะตัดขาดช่องทางทั้งหมดที่เย่ลู่กู่จ้านฉีจะใช้ส่งข้อความขอความช่วยเหลือไปยังแคว้นเหลียวแผนการที่ตามมาภายหลังจึงเกิดขึ้นแต่หากหลี่เฉินรู้แผนการนี้ล่วงหน้า เขาย่อมจะไม่ปล่อยให้จ้าวเสวียนจีสังหารสายลับแคว้นเหลียวสำเร็จเพราะถ้าเย่ลู่กู่จ้านฉีสามารถส่งข้อความกลับแคว้นเหลียวได้ และทำให้แคว้นเหลียวโกรธจนเกิดปัญหาที่เชื่อมโยงไปถึงจ้าวเสวียนจี นั่นย่อมเป็นประโยชน์ต่อหลี่เฉินดังนั้น หากหลี่เฉินคิดจะขัดขวาง เขาย่อมต้องลงมือก่อนที่จ้าวเสวียนจีจะประสบความสำเร็จเมื่อปัดความเป็นไปได้ที่หลี่เฉินจะเกี่ยวข้อง จ้าวเสวียนจีเริ่มครุ่นคิดถึงผู้อื่นที่อาจมีส่วนร่วมอ๋องแห่งแคว้น? หรืออาจเป็นกลุ่มอิทธิพลในราชสำนัก?ความคิดนับร้อยพันพุ่งเข้ามาในหัวเหมือนเงื่อนปมที่ซับซ้อน เขาไม่สามารถจับจุดได้แม้แต่เงื่อนเดียวในขณะนั้น เสียงไก่ขันดังขึ้นจากนอกหน้าต่างรุ่งอรุณกำลังมาเยือนเสียงไก่ขันทำให้จ้าวเสวียนจีราวกับถูกปลุกให้ตื่น เขาสงบจิตใจลงในทันทีหลังจากโลดแล่นในวงราชสำนักมานานหลายสิบปี แม้จะถูกสถานการณ์บีบคั้นจนเสียศูนย์ชั่วขณะ แต่จ้าวเ

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 659

    เหตุการณ์ทั้งหมดเกิดขึ้นในเวลาเพียงช่วงจิบชาเดียว ทุกอย่างเกิดขึ้นรวดเร็วและจบลงเร็วยิ่งกว่า ทิ้งไว้เพียงซากศพที่ถูกไฟเผาไหม้และบ้านที่กำลังลุกไหม้กลายเป็นเถ้าถ่านกลุ่มคนชุดดำกระจายตัวออกไปในความมืดหลังจากสังหารสายลับและชิงเอาสิ่งของได้สำเร็จ คนหนึ่งในนั้นที่ถือจดหมายสำคัญไว้ในมือ วิ่งผ่านค่ำคืนมุ่งหน้าไปยังจวนจ้าวเมื่อมาถึงประตูเมืองที่ปิดสนิทในยามค่ำคืน ต่อหน้าคำถามของทหารเฝ้ายาม เขาโยนป้ายออกไปโดยไม่พูดพล่ำ"ที่แท้เป็นคนจากจวนท่านอาวุโสนี่เอง ข้าน้อยเสียมารยาทนัก ข้าจะรีบเปิดประตูให้เดี๋ยวนี้!"เมื่อเห็นป้ายที่สลักอักษรจ้าวตัวใหญ่ๆ ไว้ ทหารเฝ้าประตูไม่กล้าลังเล รีบส่งสัญญาณให้เปิดประตูทันทีหลังเก็บป้ายคืน คนชุดดำกำลังจะก้าวเข้าเมืองแต่ทันใดนั้น ทหารเฝ้าประตูที่เมื่อครู่ยังยิ้มแย้ม กลับเผยสีหน้าดุดัน ชักดาบยาวฟันคนชุดดำในทันทีเสียงปังดังขึ้น ร่างของคนชุดดำล้มลงกับพื้นทหารผู้โจมตีคุกเข่าลงค้นตัว หยิบซองจดหมายออกมา เขายิ้มอย่างพอใจและกล่าวกับทหารคนอื่นว่า"พี่น้องทั้งหลาย ขอบใจทุกคนมาก ท่านอ๋องของข้าจะตอบแทนพวกเจ้าอย่างงาม!"หลังจากกล่าวคำจนจบต่อเหล่าทหารธรรมดาที่กำลังหว

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 658

    หลี่เฉินหรี่ตามองเย่ลู่กู่จ้านฉีที่ยังคงพูดจาฉะฉานและแสดงความเต็มใจที่จะให้ความร่วมมือ แต่เขากลับไม่ได้ตอบโต้หรือขัดจังหวะจากท่าทีของเย่ลู่กู่จ้านฉี ดูเหมือนว่าเขาไม่รู้เลยว่าจ้าวเสวียนจีมีความเกี่ยวข้องกับแคว้นเหลียวหลี่เฉินอดผิดหวังไม่ได้เดิมทีเขาหวังว่าจะสามารถหาหลักฐานความผิดของจ้าวเสวียนจีได้ และเตรียมการรับมือไว้ล่วงหน้า แต่ในเมื่อเย่ลู่กู่จ้านฉีไม่รู้อะไรเลย แผนการนี้คงต้องพับเก็บไว้ก่อน ตอนนี้ ทำได้เพียงรอให้ข่าวเรื่องเย่ลู่กู่จ้านฉีตกเป็นเชลยแพร่ไปถึงแคว้นเหลียว และหวังให้แคว้นเหลียวเป็นฝ่ายเปิดเผยความลับเองแต่ปัญหาคือ หลี่เฉินไม่สามารถควบคุมได้ว่าแคว้นเหลียวจะดำเนินการอย่างไรหลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง หลี่เฉินก็หมดความสนใจที่จะสนทนากับเย่ลู่กู่จ้านฉีอีก เขาลุกขึ้นและเตรียมตัวออกไปเย่ลู่กู่จ้านฉีที่เห็นหลี่เฉินจะจากไป รีบร้อนพูดขึ้น "เจ้าไม่ต้องการให้ข้าช่วยเป็นพยานแล้วหรือ? เรื่องอะไรก็ได้ ไม่ว่าจะเป็นการขายชาติหรือการส่งข่าวกรอง หากเจ้าอยากให้ข้าร่วมมือ ข้าก็ยินดีทำให้"หลี่เฉินหันมามองเขาด้วยสายตาเย็นชาและกล่าวว่า "สมองของเจ้าเหมาะจะใช้เลี้ยงม้าบนทุ่งหญ้าเท่า

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 657

    บางครั้ง คำพูดก็เป็นอาวุธที่ทำร้ายได้ลึกยิ่งกว่าคมดาบโดยเฉพาะเมื่อใช้จัดการกับคนอย่างเย่ลู่กู่จ้านฉีเขาเคยอยู่ในตำแหน่งสูงส่ง ไม่เคยมีใครกล้าทำให้เขาต้องอดทนต่อความอัปยศแต่หลังจากถูกนำตัวมายังเมืองหลวงต้าฉิน ทุกสิ่งทุกอย่างกลับไม่เป็นไปตามที่เขาคาดหวัง ความลำบากใจประดังเข้ามาไม่หยุดหย่อนตอนนี้ แม้แต่ตัวเขาเองก็กลายเป็นเพียงเชลยศึกถึงอย่างนั้น เขาก็ยังถือดีว่าหลี่เฉินจะไม่ฆ่าเขา และพยายามรักษาศักดิ์ศรีในฐานะท่านอ๋องเอาไว้แต่ศักดิ์ศรีนั้นถูกหลี่เฉินบดขยี้จนป่นปี้เย่ลู่กู่จ้านฉีจ้องหลี่เฉินด้วยสายตาแข็งกร้าว หากไม่ใช่เพราะกำลังพลด้อยกว่า เขาคงได้ฉีกหลี่เฉินเป็นชิ้นๆ ไปแล้วเขาแสยะยิ้มเยือกเย็น ก่อนเอ่ยว่า "ดีๆๆ! แต่หากข้าจับโอกาสได้สักครั้ง ข้าจะบีบกระดูกเจ้าทีละข้อจนแหลกคามือ!""พูดจาข่มขู่ ใครๆ ก็พูดได้"หลี่เฉินหัวเราะเยาะ พลางกล่าวว่า "หากการพูดเพียงอย่างเดียวทำให้ชนะได้ แคว้นเหลียวของเจ้าไม่ต้องเลี้ยงม้าบนทุ่งหญ้าแล้ว แค่นั่งอยู่ในบ้านแล้วปล่อยคำพูดลอยลมออกไป ก็คงครองแผ่นดินได้ทั้งปวง"กร็อบเย่ลู่กู่จ้านฉีกำหมัดแน่นจนข้อนิ้วลั่นเสียงดังเมื่อรู้ตัวว่าตัวเองไม่ม

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 656

    การมาถึงของหลี่เฉิน ทำให้เหล่าองครักษ์เสื้อแพรในบริเวณตำหนักบูรพาคุกเข่าลงราวกับคลื่นลูกใหญ่กงฮุยอวี่ที่อยู่บนหลังคาเหลือบมองหลี่เฉินเพียงครู่เดียว ก่อนจะหมุนตัวหายวับไปอย่างไร้ร่องรอยหญิงผู้นี้ยังคงเย็นชา และดูเหมือนจะไม่เป็นมิตร นางพยายามหลีกเลี่ยงการพบเจอกับหลี่เฉินอยู่เสมอ ซึ่งหลี่เฉินเองก็หาได้ใส่ใจไม่เขาคิดในใจว่าน้ำอุ่นต้มกบ ค่อยๆ ทนรอไป สักวันคงมีโอกาสส่วนซานเป่าซึ่งอยู่หน้าประตูตำหนัก กลับไม่มีท่าทียโสเช่นนั้น เมื่อเห็นหลี่เฉินที่พาวั่นเจียวเจียวมาด้วย เขารีบลุกขึ้นมาทักทายทันที"บ่าวขอคารวะองค์รัชทายาทพ่ะย่ะค่ะ"หลี่เฉินโบกมือให้ซานเป่าลุกขึ้น ก่อนจะกล่าวว่า "ข้าจะไปพบเย่ลู่กู่จ้านฉี จดหมายของเขา ส่งออกไปแล้วหรือยัง?"ซานเป่ากล่าวตอบด้วยความเคารพว่า "ส่งออกไปแล้วพ่ะย่ะค่ะ เป็นเขาเองที่สั่งให้หนึ่งในองครักษ์ของเขาดำเนินการ บ่าวปฏิบัติตามรับสั่งขององค์ชาย จึงไม่ได้ขัดขวางพ่ะย่ะค่ะ""สายลับของแคว้นเหลียวในเมืองหลวงมีอยู่ไม่น้อย ให้เขาใช้ช่องทางของเขาเองก็ดี พวกเขาถึงจะเชื่อ นี่เป็นเรื่องเล็กน้อย"พูดพลาง หลี่เฉินก้าวเข้าไปในตำหนักปีกแม้จะเป็นตำหนักปีก แต่การตกแต่ง

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 655

    "นำรายงานจากกรมครัวเรือนมาให้ข้าดู"หลี่เฉินสั่งวั่นเจียวเจียวให้นำรายงานจากกรมครัวเรือนที่ส่งมาช่วงเช้าออกมา พลางเปิดอ่านดูเพียงครู่เดียว ใบหน้าของเขาก็เคร่งเครียดขึ้นทันทีรายจ่ายอื่น ๆ ยังถือว่าอยู่ในงบประมาณตามปกติ แต่วันนี้ที่ต้องจัดเลี้ยงทหารทั้งสามกองทัพ เพียงวันแรกก็หมดเงินไปหลายหมื่นตำลึงแล้วอย่ามองว่าเป็นตัวเลขน้อย นี่เพียงแค่วันเริ่มต้นเท่านั้น ตามธรรมเนียม ทัพผู้ชนะจะต้องจัดเลี้ยงตามขนาดของศึก หากศึกเล็กจัดเจ็ดวัน หากศึกใหญ่จัดเลี้ยงได้นานถึงหนึ่งเดือน ของใช้ต่าง ๆ อาหาร สุรา สำหรับคนหลายหมื่นคน เพียงแค่ค่าใช้จ่ายปกติในหนึ่งวันก็มหาศาลแล้ว ยังไม่นับถึงอาหารเลี้ยงฉลอง เช่น ปลาตัวใหญ่ เนื้อสัตว์ เครื่องใน ต้องเชือดวัว เชือดแกะ ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นเงินของราชสำนักประกอบกับภัยพิบัติยังไม่ได้รับการฟื้นฟูโดยสมบูรณ์ ราคาสินค้าต่าง ๆ พุ่งสูงขึ้นยิ่งกว่าที่เคย ไม่เพียงชาวบ้านทั่วไปที่ลำบาก แม้แต่ราชสำนักเองยังแทบรับไม่ไหวตามที่กรมครัวเรือนคำนวณไว้ ค่าเลี้ยงฉลองทั้งหมดจะต้องใช้เงินอย่างน้อยสามถึงสี่แสนตำลึง และนี่เป็นเพียงค่าเลี้ยงฉลองเท่านั้น ยังมีค่าตอบแทนวีรกรรมรบ ค่าชดเชยสำห

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 654

    สวีฉังชิง เป็นหนึ่งในขุนนางที่ซื่อสัตย์และใสสะอาดที่สุดในราชสำนักต้าฉินหลี่เฉินเคยเห็นกับตาตอนที่สวีฉังชิงตกอยู่ในปัญหาครั้งก่อน และหลี่เฉินได้ไปที่บ้านของเขาดังนั้น เมื่อได้ยินคำบ่นอย่างขุ่นเคืองของสวีฉังชิง หลี่เฉินก็เพียงแต่หัวเราะและปลอบโยนว่า “เขาทำหน้าที่ของเขา เจ้าจะไปถือสาอะไรกับเขา”ถ้าเปรียบเทียบกับสวีฉังชิง เหอคุนคือคนอีกขั้วหนึ่งโดยสิ้นเชิงเหอคุนเต็มไปด้วยความลื่นไหล ไหวพริบ และความโลภ ซึ่งทั้งหมดนี้ตรงข้ามกับลักษณะของสวีฉังชิงโดยสิ้นเชิง ด้วยเหตุนี้ สวีฉังชิงจึงไม่ชอบเหอคุนตั้งแต่แรกเห็นในแง่คุณสมบัติ เหอคุนอาจดูเหมือนเต็มไปด้วยข้อเสีย หลี่เฉินไม่มีทางสนใจแน่แต่สิ่งที่หลี่เฉินให้ความสำคัญคือ ความสามารถในการทำงานของเหอคุนคนอย่างเหอคุน หากไม่ได้มีพื้นเพต่ำต้อย คงจะมีอนาคตในราชสำนักที่ไกลกว่าสวีฉังชิงมากสวีฉังชิงเหมาะกับการทำงานหนักแบบไม่หวังผลตอบแทน แต่เหอคุน คือคนที่สามารถจับจุดอ่อนของปัญหา และหาทางแก้ไขให้หลี่เฉินได้อย่างชัดเจนและนี่คือสิ่งที่กลบข้อเสียส่วนใหญ่ของเหอคุนได้เมื่อเห็นว่าสวีฉังชิงยังคงแสดงความไม่พอใจ หลี่เฉินจึงกล่าวว่า “เจ้ากับเขามีบุคลิกแล

DMCA.com Protection Status