Share

บทที่ 558

Author: ไห่ตงชิง
เมื่อได้ยินเสียงโมโหของจ้าวหรุ่ย หลี่เฉินที่กำลังจะก้าวเข้าไปทางประตู ก็ก้าวถอยหลังออกมา เขาโบกมือเรียกนางกำนัลที่นั่งคุกเข่าตัวสั่นให้เข้ามา

หลี่เฉินจำได้ลางๆ ว่า นางกำนัลคนนี้น่าจะชื่อเสี่ยวเหลียน และเป็นนางกำนัลข้างกายของจ้าวหรุ่ย

“เกิดอะไรขึ้นข้างใน?” หลี่เฉินถาม

เห็นได้ชัดว่าเสี่ยวเหลียนรู้สึกกังวลมาก จึงพูดติดอ่างอยู่นานกว่าจะอธิบายให้เข้าใจได้

“ทูลองค์รัชทายาท นางสนมได้เตรียมยาบำรุงพระวรกายไว้ล่วงหน้า เพื่อถวายองค์รัชทายาทด้วยตนเอง แต่องค์รัชทายาทเสด็จออกไปข้างนอก นางสนมก็สังเกตเห็นสตรีผู้นั้นในพระที่นั่งสีเจิ้ง จึงถามคำถามสองสามข้อ แต่สตรีผู้นั้นไม่เพียงแต่เพิกเฉยต่อนางสนมเท่านั้น แต่ยังใส่ร้ายนางสนมว่ายาบำรุงนั้นไม่ดีสำหรับองค์รัชทายาท”

“ดังนั้นนางสนมจึงพิโรธมาก และไม่ว่านางสนมจะพูดอะไร สตรีผู้นั้นก็ไม่สนใจ...”

หลี่เฉินได้ฟังก็พลันขมวดคิ้ว

เยี่ยมมาก เข้ากับบุคลิกของผู้หญิงสองคนนี้เป็นอย่างดี

“ข้ารู้แล้ว ออกไปเถอะ”

หลี่เฉินปล่อยเสี่ยวเหลียนที่เกือบจะหายใจไม่ออกด้วยความกระวนกระวายใจ และยกขาขึ้นเข้าไปข้างใน

ทันทีที่เห็นหลี่เฉิน จ้าวหรุ่ยที่กำลังโกรธเคืองก็แสดงสีหน้าคับ
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 559

    “บอกไม่ได้ว่าดีหรือไม่”หลี่เฉินพูดอย่างสบายๆ “เมื่อเทียบกับคนทั่วไปแล้ว ข้าให้อะไรนางไม่ได้มาก แต่นางมีความตั้งใจที่ดี จึงไม่ควรปล่อยให้นางรู้สึกผิดหวัง”หลังจากพูดอย่างนั้น หลี่เฉินก็เหลือบมองกงฮุยอวี่ และพูดต่อว่า “ในทางกลับกัน เจ้าเป็นห่วงข้าหรือ?”กงฮุยอวี่พูดเสียงเรียบว่า “แค่ไม่อยากให้เจ้าดื่มน้ำแกงที่ไม่มีผลในการบำรุงใดๆ และอายุเช่นเจ้า ไม่จำเป็นต้องบำรุงให้มาก มิฉะนั้นจะทำให้เกิดปัญหาขึ้นมาได้ง่าย”หลี่เฉินยิ้มเล็กน้อย และไม่ต่อบทสนทนานี้“ ในมือเจ้า ส่งมาให้ข้า”กงฮุยอวี่ผู้ซึ่งสุขุมเยือกเย็น ไร้ซึ่งอารมณ์ขึ้นๆ ลงๆ ราวกับมิใช่ปุถุชนธรรมดา กลับขมวดคิ้วกับประโยคนี้“ข้าสัญญากับคนอื่นว่าจะมอบหนังสือชุดนี้ให้เขา และตอนนี้ก็กำลังถูกกดดันอย่างหนัก ทำได้เพียงมอบให้เขาก่อนเท่านั้น”เมื่อปฏิกิริยาของกงฮุยอวี่ หลี่เฉินจึงอธิบายกงฮุยอวี่ได้ยินดังนั้น จึงจำใจวางหนังสือลง แต่สายตาของนางยังคงยึดติดกับหนังสือเล่มนั้นด้วยความรู้สึกไม่เต็มใจหลี่เฉินเรียกองครักษ์เสื้อแพรเข้ามาคนหนึ่ง และสั่งให้เขาส่งบทคัดย่อแห่งความภักดีไปให้ถานไถจิ้งจือในขณะที่องครักษ์เสื้

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 560

    หลังจากการพูดคุยสัพเพเหระผ่านพ้นไป หลี่เฉินก็เข้าสู่หัวข้อแรกของการประชุมราชการเช้าของวันนี้“ทุกคนคงทราบข่าวดีจากแนวหน้าเมื่อวานนี้แล้ว ซูผิงเป่ยนำทัพเข้าปราบกองทัพตงอิ๋ง ไม่เพียงแต่จะสังหารผู้คนนับหมื่น แต่ยังจับกุมนักโทษได้นับไม่ถ้วน และยังจับกุมจอมทัพของตงอิ๋ง เคียวจิโระ คุซานางิทั้งเป็นด้วย เท่านี้เราก็สรุปได้ว่า สงครามในเสียนเฉานั้น พวกเราต้าฉินเป็นฝ่ายชนะ ไม่เพียงชนะเท่านั้น แต่ยังเป็นชัยชนะที่สวยงามอีกด้วย!”กล่าวถึงตรงนี้ หลี่เฉินก็กวาดตามองเหล่าขุนนางในพระที่นั่งไท่เหอซึ่งส่วนใหญ่ยืนกรานต่อต้านการส่งกองทัพออกไปคนเหล่านั้นต่างสบตากันและกัน และมิกล้าสบตากับหลี่เฉินหลี่เฉินกล่าวด้วยสีหน้าเย็นชาว่า “ข้ารู้ว่าพวกเจ้าบางคนไม่ได้คิดอย่างนั้นจริงๆ และรู้สึกว่าการต่อสู้ครั้งนี้ แม้จะได้รับชัยชนะ แต่โดยผิวเผินแล้วมันไม่เป็นประโยชน์ต่อต้าฉิน ในทางตรงข้าม ต้าฉินของพวกเรากลับได้รับความสูญเสียไปไม่น้อย”“สำหรับคนเช่นนี้ ข้าคงพูดได้คำเดียวว่าถอดหมวกกับเครื่องแบบราชการออกโดยเร็วที่สุด แล้วกลับบ้านไปทำนาซะ ข้าจะให้ที่ดินอุดมสมบูรณ์แก่พวกเจ้าหลายหมู่ เพื่อให้พวกเจ้าได้ทำนาอย่างสบายๆ”

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 561

    เวลานี้ แม้แต่หวังเถิงฮ่วนที่เหลือหูแค่ข้างเดียง ก็ยังได้ยินความขุ่นเคืองในคำพูดอันสงบนิ่งของหลี่เฉินเสียงเจี๊ยวจ๊าวในพระที่นั่งไท่เหอในตอนแรกก็พลันเงียบสนิท ไม่มีใครกล้าส่งเสียงออกมาอีก มีเพียงหวังเถิงฮ่วนเท่านั้นที่เงยหน้ามองหลี่เฉินแล้วกล่าวเสียงดังว่า “หรือฝ่าบาทคิดว่ากระหม่อมพูดผิด?”“พูด? เจ้าพูดอะไร?”ทันใดนั้นเสียงของหลี่เฉินก็สูงขึ้น เขาตวาดอย่างโมโหว่า “ที่ข้าได้ยินเมื่อครู่ก็แค่ตาแก่ผายลมเท่านั้น!”ทันทีที่ประโยคนี้หลุดออกมา ทุกคนในพระที่นั่งไท่เหอต่างก็เบิกตากว้างด้วยความตกใจพระที่นั่งไท่เหอเป็นสถานที่ที่จักรพรรดิและขุนนางหารือเกี่ยวกับราชกิจ ตั้งแต่สมัยโบราณ มันไม่เคยเป็นสถานที่ที่กลมกลืนกันอยู่แล้ว การโต้เถียงและทะเลาะวิวาทจึงเป็นเรื่องที่ปกติแม้แต่องค์จักรพรรดิก็ยังโกรธจัดจนสะบัดชายแขนเสื้อเดินจากไป หรือขุนนางที่ถูกตำหนิแล้วขู่จะเอาหัวโขกเสาก็มี เรียกได้ว่าละครที่คนยอมตายเพื่อแสดงถึงปณิธานนั้นเกิดขึ้นนับไม่ถ้วนแต่ตลอดทุกยุคทุกสมัยนั้น ไม่มีใครพูดภาษาหยาบคายเช่นนี้ในพระที่นั่งไท่เหอท้ายที่สุดแล้วเราทุกคนต่างก็เป็นคนที่มีวัฒนธรรม และยังเป็นคนชนชั้นสูงของประเ

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 562

    “เป็นเรื่องจริงที่ตงอิ๋งเป็นประเทศเล็กๆ และเต็มไปด้วยพวกป่าเถื่อน!”“แต่ด้วยเหตุนี้เอง ชาวตงอิ๋งจึงเป็นพวกมืดมน จิตใจคับแคบ และมีความคิดที่บิดเบือน!”“หวังเถิงฮ่วน เจ้าเข้ารับราชการเป็นขุนนางมาหลายสิบปี ทุกๆ ปี มีชาวประมงและผู้คนบนชายฝั่งของต้าฉินเรา ถูกรุกรานโดนชาวตงอิ๋ง พวกเขาเผา สังหาร และปล้นสะดมชาวต้าฉินของเรา โศกนาฏกรรมและเอกสารคดีต่างๆ กองพะเนินเทินทึก หวังเถิงฮ่วน เจ้าเป็นถึงขุนนางใหญ่ที่มีอำนาจ กลับไม่มีคิดจะเหลียวมองดูสักหน่อยเลยหรือ!?”“ชาวตงอิ๋งเหล่านี้จับประชาชนต้าฉินของพวกเรา ตัดหัวผู้ชาย ส่วนผู้หญิงเว้นแต่จะอายุน้อยกว่า 7-8 ปี หรืออายุมากกว่า 60-70 ปี ล้วนถูกข่มขืนโดยสัตว์ร้ายเหล่านี้”“การกระทำที่ไร้มนุษยธรรมเหล่านี้ถูกพบเห็นบ่อยที่สุด ส่วนแย่กว่านั้น ข้าคิดว่ามันเป็นเรื่องยากที่จะพูดเรื่องพวกนั้นออกมาได้!”หลี่เฉินชี้นิ้วไปทางหวังเถิงฮ่วนซึ่งนอนหน้าซีดอยู่บนพื้นด้วยความเจ็บปวด แล้วก่นด่าเสียงดังว่า “นี่คือคนที่เจ้าอยากจะอวดความมีน้ำใจของต้าฉินเรางั้นหรือ?” “นักปราชญ์กล่าวว่า: จงปฏิบัติต่อผู้อื่นด้วยความสุภาพ และตอบแทนผู้อื่นด้วยความมีน้ำใจ” “แต่คำกล่าวเหล่านั

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 563

    คนสมัยโบราณให้ความสำคัญอย่างยิ่งต่อเกียรติและความซื่อสัตย์เหตุใดขุนนางพลเรือนจำนวนมากถึงรู้จักใช้ความตายมาล่วงเกินองค์จักรพรรดิ ทั้งที่รู้ว่า หากทำเช่นนั้นก็มีโอกาสจะได้ตายจริงๆ แต่ก็ยังชอบยกความตายขึ้นมาอ้าง?เป็นเพราะว่าสำหรับขุนนางพลเรือนเหล่านี้ การที่สามารถฝากชื่อในฐานะขุนนางผู้จงรักภักดีไว้ในหน้าประวัติศาสตร์ได้ มันมีความสำคัญมากกว่าชีวิตของพวกเขาและคำพูดที่หลี่เฉินกล่าวออกไปนั้น ไม่ได้ต้องการให้องครักษ์เสื้อแพรสาดโคลนใส่หวังเถิงฮ่วนจริงๆ ในฐานะที่เขาเป็นสมาชิกหลักของสำนักราชเลขา และการที่จ้าวเสวียนจียอมจ่ายราคาสูงขนาดนั้น เพื่อนำหวังเถิงฮ่วนกลับเข้าสู่สำนักราชเลขา ซึ่งก็พิสูจน์ได้ว่าหวังเถิงฮ่วนจะไม่ถูกสั่นคลอนได้ง่ายๆ แต่ที่หลี่เฉินพูดประโยคนี้ ก็เพื่อแสดงว่ารังเกียจหวังเถิงฮ่วนและต้องการบอกให้ทุกคนรับรู้ว่าเขาเกลียดหวังเถิงฮ่วนเป็นอย่างมาก ใครก็ตามที่เข้าใกล้หวังเถิงฮ่วนจะต้องมีปัญหากับตำหนักบูรพาเมื่อเห็นใบหน้าที่น่าเกลียดของหวังเถิงฮ่วน และสีหน้าแปลกๆ ของขุนนางคนอื่นๆ จะเห็นได้ว่าหลี่เฉินบรรลุเป้าหมายแล้วไม่ว่าทุกคนจะคิดอย่างไร เรื่องนี้ก็ผ่านไปแล้ว หลี่เฉินยื

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 564

    เมื่อมองไปที่กลุ่มขุนนางบุ๋นบู๊ในพระที่นั่งไท่เหอ ดวงตาของหลี่เฉินก็เป็นประกายขึ้นมา ราวกับชาวนาที่ทำงานหนักมาทั้งปีกำลังจะเก็บเกี่ยวผลผลิตที่ปลูกไว้ เขากล่าวในลักษณะโน้มน้าวใจว่า “การลงทะเบียนจะได้รับการจัดการโดยผู้เชี่ยวชาญจากหน่วยบูรพา และข้าก็จะตรวจสอบทุกวัน แน่นอนว่าจะไม่มีข้อผิดพลาดใดๆ เกิดขึ้น”“ปกติข้าก็ยุ่งกับงานราชกิจทั้งวัน แทบไม่ได้พบเจอขุนนางคนไหนเลย จึงมีบางส่วนตัดพ้อว่าไม่มีโอกาสได้แสดงพรสวรรค์ของตัวเองให้ข้าชม นี่เป็นโอกาสที่ดีที่สุดที่จะสร้างความประทับใจให้กับข้า ทุกคนอย่างได้พลาดเป็นอันขาด”คำพูดเหล่านี้เกือบจะเหมือนเป็นการเอาเงินจากกระเป๋าของคนอื่น ทำให้พระที่นั่งไท่เหอตกอยู่ในความเงียบงันอย่างน่าขนลุกทุกคนล้วนเป็นนักวิชาการ และพวกเขาทั้งหมดต่างก็อ่านหนังสือของนักปราชญ์ ในวันปกติก็แสร้งทำเป็นสุภาพบุรุษ แม้แต่ขุนนางทุจริตก็ยังให้ความสำคัญกับวิธีการและทักษะในการพูดเวลาขอสินบน แต่สิ่งที่องค์รัชทายาทพูดออกมานั้น มันช่างหยาบคายและโจ่งแจ้ง ทุกคนรู้สึกรับไม่ได้ ก็ยังคงเป็นสวีฉังชิงคนเดิมเขาเป็นคนแรกที่ทำลายความเงียบงัน และกล่าวด้วยน้ำเสียงที่ร่าเริงว่า “ฝ่าบ

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 565

    “กระหม่อมรู้สึกตกใจที่เห็นสถานการณ์ที่น่าสลดใจทุกประเภท และรู้สึกเสียใจที่ภัยพิบัติทางธรรมชาตินั้นช่างโหดร้าย”“หลังจากที่กระหม่อมครุ่นคิดแล้ว จึงรู้สึกว่าต้นตอของทุกสิ่งคือ การไม่สามารถรักษาสมดุลระหว่างรายรับและรายจ่ายของราชสำนักได้”“เมื่อภัยพิบัติทางธรรมชาติเกิดขึ้น ประชาชนจะไม่มีอาหารให้เก็บเกี่ยว หากประชาชนไม่มีอาหาร ราชสำนักก็จะเก็บภาษีไม่ได้ ในทางกลับกัน เรายังต้องจัดหาอาหารและเงินเพื่อบรรเทาภัยพิบัติ วงจรที่เลวร้ายเช่นนี้ นำไปสู่ท้องพระคลังที่ว่างเปล่า ทำให้ผู้คนที่ยากจนอยู่แล้ว ยิ่งยากจนเข้าไปใหญ่ และเป็นแหล่งที่มาของท้องพระคลังที่ว่างเปล่ามากขึ้นเรื่อยๆ”“เพราะฉะนั้น กระหม่อมจึงอยากทูลฝ่าบาทว่าราชสำนักจำเป็นต้องเพิ่มรายได้และลดรายจ่าย”ถานไถจิ้งจือพูดมาถึงตรงนี้ ขุนนางหลายคนก็รู้สึกตื่นเต้นขึ้นมา มหาปราชญ์ก็คือมหาปราชญ์ เพิ่งจะเข้ารับราชการ วันแรกของประชุมราชการเช้า ก็กล้าที่จะจัดการกับปัญหาใหญ่ที่ทุกคนรู้ดี แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ “สิ่งที่ท่านอาจารย์กล่าวมานั้นถูกต้อง ในเมื่อท่านพูดถึงเรื่องนี้ หรือว่ามีทางแก้ปัญหา?” หลี่เฉินถามด้วยสายตาและน้ำเสียงที่ให้กำลังใจเรื่องมาถึ

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 566

    แม้ว่าถานไถจิ้งจือจะรู้ดีว่ามันไม่เหมาะสม แต่เนื่องจากเขาหยิบยกมันขึ้นมาเอง และหวังเถิงฮ่วนก็ก่นด่าแบบไว้หน้า ถานไถจิ้งจือจึงจำเป็นต้องโต้กลับ “ใต้เท้าหวัง”ถานไถจิ้งจือหันหน้าไปมองหวังเถิงฮ่วนอย่างไม่แสดงอารมณ์และพูดว่า “นักปราชญ์กล่าวไว้ว่ามีโจรสามประเภทในประเทศ หนึ่งคือโจรลวงโลก สองคือโจรทรยศ สามคือโจรที่ก่อความเดือดร้อนให้กับใต้หล้า แล้วใต้เท้าหวังคิดว่าข้าเป็นโจรประเภทใด?”คำถามนี้ อิงมาจากคำว่าหัวขโมยของใต้หล้าเมื่อครู่ ทำเอาหวังเถิงฮ่วนตกตะลึงจนตาค้างเขาอึกอักอยู่นาน แต่กลับพูดอะไรไม่ออกถานไถจิ้งจือพูดอย่างเย็นชาว่า “ญัตตินี้ ข้าคำนึงถึงความยากลำบากที่แท้จริงของราชสำนัก หากจัดการดีๆ เมื่อความมั่งคั่งของใต้หล้าถูกรวบรวมไว้ในมือของราชสำนัก และถูกใช้เพื่อประชาชนและประเทศชาติ แล้วจะเป็นโจรไปได้อย่างไร? ใต้เท้าหวังได้โปรดชี้แนะ!”หวังเถิงฮ่วนถูกคำถามของถานไถจิ้งจือไล่บี้ก็พูดไม่ออก ด้วยความโกรธเขาจึงพูดอย่างเร่งรีบว่า “ถึงแม้ว่าจะเปิดธนาคาร ก็แค่ปล่อยให้ประชาชนมาฝากเงินเท่านั้น เงินเหล่านั้นไม่ใช่ของราชสำนัก มิหนำซ้ำ ราชสำนักยังต้องจ่ายดอกเบี้ยให้อีก เช่นนี้แล้วจะแก้ไขปัญห

Latest chapter

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 978

    หวงจี๋เทียนจากไปด้วยความพึงพอใจ หลังจากนั้น หลี่เฉินก็สะสางภาระงานของวันนี้จนเสร็จเรียบร้อย แต่กลับไม่ได้ไปพักผ่อนเหมือนเช่นเคยวั่นเจียวเจียวเดินเข้ามารินน้ำชาให้หลี่เฉิน พลางกล่าวเสียงเบา "องค์ชาย ควรจะพักผ่อนแล้วเพคะ"หลี่เฉินที่กำลังก้มหน้าดูตำราอยู่ ตอบกลับไปโดยไม่เงยหน้า "วันนี้ต้องอยู่ดึกหน่อย ข้ารอคนคนหนึ่ง""รอคน? องค์ชายต้องการพบท่านใด ให้เขามาพบก็สิ้นเรื่อง ไฉนต้องเป็นองค์ชายที่ต้องรอ?" วั่นเจียวเจียวกล่าวด้วยความไม่พอใจหลี่เฉินหัวเราะเบา "คนผู้นี้ ข้าเองก็ไม่รู้ว่าเขาจะมาเมื่อใด แต่ที่แน่ๆ เขาต้องมา และเมื่อมาถึง เขาจะต้องนำข่าวคราวของหลี่อิ๋นหู่มาให้ข้าอย่างแน่นอน"วั่นเจียวเจียวกระพริบตา ไม่เข้าใจนักแต่ก็ไม่ได้ถามต่อหลี่เฉินกวาดตามองไปรอบๆ พระที่นั่งสีเจิ้ง ก่อนจะเอ่ยถาม "ช่วงนี้ไม่เห็นกงฮุยอวี่เลย หายไปไหน?"วั่นเจียวเจียวเบ้ปาก "องค์ชายเองยังไม่รู้ บ่าวจะรู้ได้อย่างไรเพคะ? ช่วงนี้นางทำตัวลึกลับเหลือเกิน ไม่เห็นหน้าเลยสักวัน บางทีอาจจะหนีไปแล้วก็ได้"หลี่เฉินวางตำรา ก่อนจะใช้หนังสือตีลงบนศีรษะของวั่นเจียวเจียวเบาๆ แล้วกล่าวอย่างไม่สบอารมณ์ "เลิกเล่นแง่ได้แล้ว

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 977

    หลี่เฉินเชี่ยวชาญในเรื่องการใช้ช่องว่างของข้อมูล เพื่อสร้างผลประโยชน์ที่สุดหวงจี๋เทียนไม่มีทางรู้ถึงสถานการณ์ที่พลิกผันภายในต้าฉินในขณะนี้ และยิ่งไม่รู้ว่าหลี่เฉินได้ดำเนินการทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว เพียงแค่รอให้วันพรุ่งนี้ประกาศพระราชโองการ เพื่อลบล้างตำแหน่งและอำนาจทั้งหมดของหลี่อิ๋นหู่ พร้อมกับขับไล่ออกจากทำเนียบราชวงศ์ดังนั้น บุญคุณตามน้ำนี้ หลี่เฉินจึงยินดีมอบให้โดยไม่ลังเลถึงแม้ว่าภายหลังหวงจี๋เทียนจะรู้ความจริง แต่มันก็สายไปเสียแล้วหวงจี๋เทียนตกตะลึงทันทีไฟไหม้จุดพักแรม ลอบสังหารองค์ชายต่างแคว้น ไม่ว่าอยู่ที่ใดก็ถือเป็นเรื่องใหญ่โต แต่ก็ไม่น่าถึงขั้นทำให้ท่านอ๋องของแคว้นตนเองถูกปลดจากทุกตำแหน่ง หากลองคิดในมุมของตนเอง หากวันใดวันหนึ่งเขาถูกริบตำแหน่งและลดเป็นสามัญชน นั่นอาจจะเป็นความทุกข์ทรมานยิ่งกว่าความตายเสียอีกสิ่งที่ทำให้หวงจี๋เทียนประหลาดใจกว่านั้นก็คือ ทุกอย่างเกิดขึ้นรวดเร็วเกินไป ตนเองเพิ่งถูกเพลิงไหม้เล่นงานไปไม่ถึงหนึ่งชั่วยาม ฝ่ายตำหนักบูรพากลับสามารถจับตัวคนร้ายได้ แถมยังมีมาตรการจัดการออกมาเสร็จสรรพแล้วเรื่องนี้ทำให้หวงจี๋เทียนอดคิดไม่ได้ว่า หรือว่

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 976

    "องค์รัชทายาทต้าฉิน ครั้งนี้โปรดให้ข้าได้รับคำอธิบายที่สมเหตุสมผลด้วย!"หวงจี๋เทียนก้าวเข้ามาด้วยท่าทีเกรี้ยวกราด น้ำเสียงเต็มไปด้วยความไม่พอใจแต่เพียงแค่คำพูดของเขาสิ้นสุดลง ก็มีถ้วยชาลอยหวืดลงมาตกกระทบพื้นข้างเท้าของเขาดังเพล้งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหันทำให้หวงจี๋เทียนสะดุ้งโหยงเขาเงยหน้ามองหลี่เฉินด้วยความตกตะลึง พลางคิดว่า หรือว่าหลี่เฉินจะโกรธจนขาดสติแล้วฆ่าตนเสียที่นี่?ทั้งที่ตนเองเป็นฝ่ายถูกกระทำแท้ๆหวงจี๋เทียนรู้สึกอัดอั้นเพียงเห็นใบหน้าของหลี่เฉินที่มืดครึ้ม ราวกับกำลังระงับโทสะอย่างเต็มที่ เขาฝืนยิ้มออกมาเล็กน้อยก่อนกล่าว "อาเกอสิบสามอย่าเข้าใจผิด ข้าโกรธที่มีคนกล้าหาญชาญชัยถึงขั้นวางเพลิงที่จุดพักแรม ตั้งใจจะลอบสังหารอาเกอสิบสาม แล้วโยนความผิดมาให้ข้า""เรื่องนี้ ข้าได้สืบหาข้อมูลแล้ว และพบว่ามีเงื่อนงำบางอย่าง ตอนนี้จับตัวผู้ต้องสงสัยได้แล้ว เพียงแต่ทำให้อาเกอสิบสามต้องตกใจ ข้ารู้สึกผิดจริงๆ"ความโกรธที่อัดแน่นอยู่ในใจของหวงจี๋เทียนพลันถูกความประหลาดใจแทนที่ เขาเอ่ยถาม "เหตุการณ์เพิ่งเกิดขึ้นไม่นาน องค์ชายรู้ตัวคนร้ายแล้วหรือ?"หลี่เฉินถอนหายใจ ก่อนเผ

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 975

    คำพูดถูกส่งออกไป ความหมายชัดเจนแจ่มแจ้งหลี่ชางหลานรู้สึกว่าลมหายใจของตนเริ่มร้อนระอุจักรวรรดิต้าฉินมีกฎเกณฑ์ควบคุมเชื้อพระวงศ์อย่างเข้มงวด ฮ่องเต้แต่ละพระองค์ล้วนยึดมั่นในแนวคิดของปฐมจักรพรรดิอย่างเคร่งครัด นั่นคือ ราชสำนักสามารถมอบเงินทองให้เชื้อพระวงศ์ได้ใช้ชีวิตสุขสบาย มีเกียรติและศักดิ์ศรี แต่ไม่อาจมีอำนาจทางการเมืองตลอดสามร้อยกว่าปีของราชวงศ์ต้าฉิน เชื้อพระวงศ์สามารถเข้ารับราชการได้ แต่ตำแหน่งจะไม่เกินระดับสี่ นี่เป็นกฎเหล็ก ส่วนตำแหน่งทางทหาร อย่าได้หวัง แม้แต่จะสมัครเข้ารับราชการก็ยังเป็นไปไม่ได้“เชื้อสายราชวงศ์หลี่ทั้งปวง จะต้องยกย่องพระราชอำนาจเป็นสูงสุด สมควรได้รับความมั่งคั่งรุ่งเรือง แต่สิทธิ์ทางการเมืองต้องชัดเจน ฮ่องเต้มิอาจลำเอียงเพราะสายสัมพันธ์ส่วนตัวจนทำให้บ้านเมืองปั่นป่วน”ประโยคที่ปฐมจักรพรรดิทรงทิ้งไว้ ได้ตัดโอกาสของเชื้อพระวงศ์หลี่ในการก้าวเข้าสู่ราชสำนัก ไม่ต้องพูดถึงเรื่องแทรกแซงการปกครองเลยด้วยซ้ำ และเพราะเหตุนี้เอง การที่หลี่เฉินเสนอที่นั่งในราชวิทยาลัย จึงถือเป็นโอกาสอันล้ำค่าสำหรับหลี่ชางหลาน รวมถึงเชื้อพระวงศ์อื่นๆ ที่อาจได้รับส่วนแบ่งจากโอก

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 974

    หลี่เฉินต้องการถอดถอนอำนาจและตำแหน่งทั้งหมดของหลี่อิ๋นหู่ จำเป็นต้องผ่านสำนักคุมประพฤติเว้นแต่ว่าเขาจะเป็นฮ่องเต้ที่สามารถใช้อำนาจแห่งราชบัลลังก์บังคับบัญชาได้โดยตรง มิฉะนั้น ต่อให้เป็นองค์รัชทายาทผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ก็ยังต้องคำนึงถึงท่าทีของสำนักคุมประพฤติเรื่องของสำนักคุมประพฤติจะว่าง่ายก็ง่าย จะว่ายากก็ยากง่ายตรงที่หากหาคนที่มีอำนาจตัดสินใจถูกต้อง และมอบผลประโยชน์ที่อีกฝ่ายต้องการ เรื่องนี้ก็สามารถจัดการได้ทันที ยากตรงที่หากสำนักคุมประพฤติยืนกรานขัดขวาง หลี่เฉินก็แทบไม่มีหนทางจัดการกับพวกผู้เฒ่าที่สูงศักดิ์แต่หัวโบราณเหล่านั้น โชคดีที่ครั้งนี้หลี่เฉินเลือกถูกคน หลี่ชางหลานคือกุญแจสำคัญ และผลประโยชน์ที่เสนอให้ก็เป็นสิ่งที่อีกฝ่ายปฏิเสธไม่ได้ดังนั้นโอกาสที่จะได้รับการจัดการเรื่องนี้จึงสูงมากในช่วงเย็นของวัน สำนักคุมประพฤติส่งข่าวมาว่าพวกเขายอมรับบทลงโทษทั้งหมดที่ตำหนักบูรพากำหนดแก่หลี่อิ๋นหู่"องค์ชาย ได้ยินว่าครั้งนี้จงเหรินลิ่งต้องจ่ายไม่น้อย สำนักคุมประพฤติยังมีผู้อาวุโสบางคนที่เห็นว่าการกระทำขององค์ชายเป็นการทำร้ายสายเลือดเดียวกัน เกรงว่าฝ่าบาทอาจไม่พอพระทัย"

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 973

    หลี่เฉินไม่ได้ยืนยันเรียกเขาว่าเสด็จปู่ใหญ่ และก็ไม่ได้เรียกตำแหน่งของเขา แต่เลือกใช้คำว่าผู้อาวุโสหลี่เมื่อปัญหาเรื่องสรรพนามถูกแก้ไขอย่างลงตัว หลี่ชางหลานจึงรับถ้วยชาด้วยสองมือ แล้วยกขึ้นจิบเบาๆหลังจากวางถ้วยชาลง เขากล่าวว่า “ชาดีจริงๆ”หลี่เฉินยิ้มพลางกล่าว “หากผู้อาวุโสหลี่ชอบ ข้าจะให้คนเตรียมไว้ให้ท่านนำกลับไป”หลี่ชางหลานโบกมือ “สุภาพชนไม่แย่งของรักของผู้อื่น ชาดีที่องค์ชายสะสมไว้ ข้าไม่ควรนำไป”“ก็ไม่ได้มีค่าอะไรมาก ก่อนหน้านี้ตอนข้าพระราชทานตำแหน่งท่านอ๋องให้หลี่อิ๋นหู่ เขามอบชานี้มาเป็นของขวัญขอบคุณ”เพียงประโยคเดียว ทำให้มือของหลี่ชางหลานที่กำลังจะยกถ้วยชาขึ้นดื่มค้างอยู่กลางอากาศเมืองหลวงไม่มีความลับ โดยเฉพาะเหตุการณ์วันนี้ที่หลี่อิ๋นหู่ขึ้นไปเดินบนภูเขาจิ่งซานเพื่อขอพร แต่กลับเป็นต้นเหตุทำให้ราษฎรหลายพันคนต้องเสียชีวิตเรื่องนี้ทำให้ทั้งเมืองหลวงปั่นป่วนไปหมดแม้ว่าหลี่ชางหลานจะถูกเรียกตัวมาอย่างเร่งรีบ แต่เขาก็รับรู้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างองค์รัชทายาทและจ้าวอ๋องได้ขาดสะบั้นลงโดยสิ้นเชิงบัดนี้เมื่อได้ยินชื่อของหลี่อิ๋นหู่จากปากของหลี่เฉิน เขารู้สึกเหมือนมีดเห

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 972

    "เมื่อครั้งกระหม่อมกวาดล้างหมู่บ้านเหมียว ก็เป็นเพียงฐานที่มั่นหลักของตระกูลโจวเท่านั้น ตลอดหลายปีที่ผ่านมา มีหญิงสาวจากตระกูลโจวแต่งงานออกไปมากมายจนยากจะนับได้ บุตรหลานของพวกนางหลายคนต่างก็มีอำนาจในมือ หากโจวสิงเจี่ยเปล่งวาจาเรียกหา พวกมันสามารถรวมกำลังคนจำนวนมากได้ในเวลาอันสั้น อย่างน้อยก็สามารถฟื้นฟูหมู่บ้านตระกูลโจวขึ้นมาใหม่ได้อย่างแน่นอน"ซานเป่าอธิบายอย่างละเอียด แต่สีหน้าของหลี่เฉินกลับไร้ความรู้สึกผ่านไปครู่หนึ่ง หลี่เฉินกล่าวว่า "ปัญหาของเหมียวเจียงเป็นเรื่องใหญ่ ไม่อาจลงมือโดยพลการได้ในตอนนี้ แต่โจวสิงเจี่ยและหลี่อิ๋นหู่ร่วมมือกันสังหารราษฎรไปนับพัน รวมถึงหลี่อิ๋นหู่ยังฆ่าองค์ชายเก้า เรื่องเหล่านี้ไม่มีทางปล่อยผ่านไปได้"น้ำเสียงของหลี่เฉินเรียบเฉย "ถ่ายทอดคำสั่งลงไป ประกาศจับตัวหลี่อิ๋นหู่และโจวสิงเจี่ย หน่วยบูรพาต้องไล่ล่าพวกมันอย่างเต็มกำลัง ผู้ใดพบร่องรอยและรายงานเข้ามาจะได้รับรางวัลใหญ่"ซานเป่าได้ยินดังนั้นก็เอ่ยถาม "แต่ว่าตำแหน่งของจ้าวอ๋อง"การที่ราชสำนักประกาศจับท่านอ๋อง เป็นเรื่องใหญ่ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนและถือเป็นเรื่องอื้อฉาวของราชวงศ์หลี่เฉินกล่าวเรี

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 971

    ซานเป่ากัดฟันแน่น จำต้องล้มเลิกการไล่ตามหลี่อิ๋นหู่และโจวสิงเจี่ยเขากวาดตามองไปรอบๆ พบว่าฝูงแมลงที่หนาแน่นจนมองแทบไม่เห็นพื้นกำลังเริ่มถอยกลับ ทิ้งไว้เพียงซากศพจำนวนมากนับพันในคลื่นแมลงครั้งนี้ มีเพียงส่วนน้อยเท่านั้นที่โชคดีหรือมีฝีมือพอจะรอดพ้นจากหายนะได้ ส่วนที่เหลือซึ่งเป็นคนส่วนใหญ่ รวมถึงต้าหลี่ซื่อชิง หวังฟู่ย่ง ต่างก็กลายเป็นวิญญาณใต้ฝูงแมลงไปทั้งหมดเมื่อฝูงแมลงสลายไป สิ่งที่เผยออกมาก็คือซากศพที่กระจัดกระจายอยู่เต็มพื้น ซากศพเหล่านี้ไม่มีเลือดไหลออกมา แต่เนื้อหนังทั้งหมดถูกแมลงกัดแทะจนขาดวิ่นแทบไม่เหลือชิ้นดีที่โชคร้ายที่สุดคงเป็นหวังฟู่ย่ง ศพของเขาตอนนี้เหลือเพียงโครงกระดูกเท่านั้น แม้แต่เศษเนื้อขนาดฝ่ามือก็ไม่เหลือกลิ่นคาวเลือดและกลิ่นเหม็นของแมลงลอยคลุ้งไปทั่วอากาศ ผสานกับภาพของซากศพที่เกลื่อนกลาดอยู่รอบตัว เป็นภาพที่สร้างแรงกระแทกให้จิตใจอย่างรุนแรง ใบหน้าของซานเป่าดำทะมึนจนแทบจะบีบหยดน้ำออกมาได้เขารู้ดีว่าตัวเองกำลังเผชิญกับปัญหาใหญ่แล้ว…พระที่นั่งสีเจิ้งหลี่เฉินมองดูซากศพของแมลงสีดำที่วางอยู่ตรงหน้า กับซานเป่าที่คุกเข่าอยู่บนพื้นมานานกว่าครึ่งชั่วยาม ใบห

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 970

    ผู้ที่ซุ่มโจมตีมีความชำนาญอย่างยิ่ง ขณะที่เขาจู่โจมออกมาอย่างกะทันหัน ซานเป่าทำได้เพียงบิดร่างหลบเลี่ยงจุดสำคัญ แต่ก็ยังไม่อาจหนีจากฝ่ามือที่พุ่งเข้ากระแทกไหล่ของเขาเสียงกระแทกหนักหน่วงดังขึ้น ท่ามกลางเสียงอุทานของซานเป่า ร่างทั้งสองแยกออกจากกัน ซานเป่าถูกกระแทกจนลอยกระเด็นไปไกลกว่าสิบก้าว เมื่อตกลงสู่พื้นยังต้องถอยหลังอีกสามก้าว แต่ละก้าวหนักแน่นราวขุนเขาถล่ม พื้นดินที่เหยียบย่ำแตกร้าวสะเทือนทันทีที่ซานเป่าตั้งหลักได้ ฝูงแมลงสีดำรอบตัวก็คล้ายได้รับคำสั่ง พวกมันพุ่งโจมตีเข้าใส่เขาอย่างบ้าคลั่งซานเป่าครางเสียงต่ำ พลังภายในพลุ่งพล่านออกจากร่าง ส่งแรงสั่นสะเทือนกระจายออกไป แมลงที่ไต่ขึ้นบนตัวเขาถูกสังหารจนหมดสิ้น ร่วงหล่นลงบนพื้นแต่ก่อนที่เขาจะทันได้หายใจ โลหิตของแมลงที่ถูกฆ่าล่อให้แมลงจำนวนมากยิ่งกว่าถาโถมเข้ามาอีกครั้ง ซานเป่ารู้ว่าสถานการณ์นี้ไม่อาจปล่อยให้ยืดเยื้อ เขากลืนลมหายใจลงคอ พลังลมปราณรวมศูนย์ในปาก ก่อนจะเปล่งเสียงร้องกึกก้องเสียงคำรามแหลมสูงดั่งระเบิดเสียง สร้างคลื่นพลังที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่า คลื่นพลังกระจายออกไปทุกทิศทาง แมลงทุกตัวที่อยู่ในรัศมีของคลื่นพลังสั่นสะ

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status