ฉับพลันทันใดนั้นเอง หัวใจของหล่อนก็กระตุกวูบไปเสียหนึ่งที เมื่อสายตาปะทะเข้ากับร่างสูงคุ้นตา เขาสวมสูทสีเข้มเข้ามาในงานพร้อมด้วยผู้หญิงสาวที่สวยเอามาก ๆ เมื่อหล่อนอยู่ในชุดราตรีสีแดงสด ช่างขับผิวขาวเนียนละเอียดนั้นให้ดูผุดผ่องเป็นยองใย เสียเหลือเกิน ภาพหนุ่มหล่อ สาวสวยที่เดินควงแขนกัน เข้ามาในงานของทั้งสอง ทำให้เป็นที่สะดุดตา และเรียกจุดสนใจให้แก่ผู้ร่วมงานได้เป็นอย่างดี ทำเอาสาวๆ ที่มีคู่ควงมาแล้วยังอดรู้สึกอิจฉาในความหล่อเหลาของบอสใหญ่ไม่ได้ เช่นเดียวกับหล่อนที่ตอนนี้ รู้สึกเจ็บแปลบในหัวใจ เมื่อเห็นภาพบาดตาบาดใจของทั้งคู่ ที่เดินควงแขนกันเข้ามาในงาน หยุดแวะทักทายคนโน้นคนนี้ บ้างตามมารยาท ฮึ!..ที่แท้การหายตัวไปตั้งแต่เมื่อตอนสายของเจ้านาย ก็เพราะไปรับแม่แพทซี่อะไรนั่นอยู่ล่ะสิ ทำไมต้องควงมาเยาะเย้ยกันขนาดนี้ด้วย มันเจ็บนะ มันเจ็บที่ใจนี่ คนใจร้าย.. ยิ่งคิดก็ยิ่งเหมือนตอกย้ำตัวเอง ให้น้อยเนื้อต่ำใจนัก เมื่อนึกถึงสิ่งที่เขาทำกับหล่อน ที่ผ่านมา เขาคงไม่ได้คิดอะไรกับหล่อนจริง ๆ จัง ๆ คงเป็นแค่ความสนุกชั่วครั้งชั่วคราว เมื่อได้ใกล้ชิดกับอิสตรี หรือเพื่อตอบสนองความต้องการทา
จอมขวัญจึงกระเถิบหนีโดยอัตโนมัติ เมื่อเห็นว่าเขาขยับเข้ามาใกล้เกินไป ยังไม่วายคนที่ก่อกวนความสงบสุขหล่อน ก็ขยับตามมาอย่างย่ามใจ หญิงสาวจึงตัดสินใจลุกขึ้น แต่ก็ต้องซวนเซ เกือบหัวคะมำตกลงไปในสระน้ำแล้ว ถ้าไม่ได้ลำแขนแข็งแรงของเขาช่วยจับไว้ พร้อมกับรวบร่างบอบบางเข้าหาอกกว้างของเขาแนบแน่น“เอ๊ะ! ปล่อยฉานน้า..คนบ้า”“นี่คุณดื่มเหล้าด้วยหรือเนี่ย?” มัฆวัฒน์ ได้กลิ่นแอลกอฮอล์จากตัวหล่อน อือ..อย่างกับตกถังเหล้ามายังไงยังงั้นเลย..ชายหนุ่มสูดลมหายใจเพื่อทดสอบว่าหล่อนเมาขนาดไหน เขาคงไม่รู้หรอกว่า หล่อนกินเหล้าเข้าไปหลายขนานเลย ทั้งเบียร์ ทั้งบรั่นดียี่ห้อแพง ๆ ทั้งแชมเปญ หล่อนชิมจนหมด โดยไม่รู้ว่ามันจะมีผลอย่างไรบ้างหลังจากที่ดื่มเข้าไปแล้ว ปรากฏว่า หล่อนเมาแอ๋ เลยต้องมานั่งสงบสติอารมณ์อยู่ตรงนี้ ทั้ง ๆ ที่ตอนแรกกะว่าจะเข้าไปนอนให้มันหายเวียนหัว แถมยังรู้สึกพะอืดพะอมอย่างไรพิกล“เมามากขนาดนี้แล้วจะมานั่ง ทำไมใกล้ ๆ กับสระน้ำ เดี๋ยวก็หัวคะมำ ตกน้ำตกท่า ลงไปหรอก ไป..เข้าบ้านดีกว่า”“ม่าย..อาว..จา..กินต่อ..อาวหล้าวมา..อาหร่อยจางเลย”“พอแล้ว..ไม่ต้องพูดมากเลย กลับเข้าห้องได้แล้ว” ชายหนุ่มตัดสินใจ อุ
หัวใจที่เต้นสม่ำเสมอ เป็นจังหวะคล้ายได้ผ่อนคลาย มัฆวัฒน์ เพียงแค่ทอดสายตามองอย่างเดียวเท่านั้น ก็ให้ความพอใจได้ในระดับหนึ่ง“ อือ..” เสียงละเมอที่ฟังไม่ค่อยได้ใจความนัก และ..อย่างอดใจไม่ไหวอีกต่อไป ชายหนุ่มจึงหยุดเสียงเหล่านั้นด้วยริมฝีปากร้อนผ่าวของเขา จนริมฝีปากบางเย็นเฉียบ ค่อยอุ่นขึ้นเพียงแค่จูบ ชายหนุ่มเอนหลังลงนอนพร้อมกับกระชับอ้อมแขน โอบร่างแน่งน้อยเข้ามาซบกับอกกว้าง เขาสูดลมหายใจดอมดมเส้นผมที่หอมกลิ่นแชมพู ถึงแม้จะปะปนไปด้วยกลิ่นแอลกอฮอล์บ้างก็ตาม มันกลับทำให้กลิ่นนั้น น่าหลงใหลเป็นทวีคูณ และกลิ่นนั้นเองที่กล่อมให้เขาหลับไปพร้อม ๆ กับหล่อน..เช้าของวันใหม่ ร่างบอบบางควานหาผ้าห่มนวมผืนหนาเข้ากับตัวเมื่อรู้สึกถึงความเย็น และก็ได้กลิ่นอายของใครก็ไม่รู้บนเตียง กลิ่นของใครอย่างนั้นหรือ คล้ายโคโลญจ์ผู้ชาย แล้วจู่ ๆ เรื่องเมื่อคืนก็ผุดขึ้นมาในสมอง จำได้ว่าหล่อนดื่มเข้าไปแบบไม่น้อยเลย ดื่มเข้าไปทั้ง ๆ ที่มันขมแสนขม ทั้ง ๆ ที่ไม่เคยดื่มมาก่อน จนไม่รู้ว่าตัวเองไปฟุบอยู่ตรงไหน จอมขวัญพยายามหลับตาเพื่อนึกให้ออกว่าหล่อนเข้ามานอนได้อย่างไร ดวงตากลมโตหลับลง อย่างต้องการขับไล่ความฟุ้งซ่าน
จอมขวัญแอบอมยิ้มออกมาคนเดียวไม่ได้ พลางหันไปมองเสี้ยวหน้าชายหนุ่ม ที่บัดนี้ หลับไม่รู้เรื่องไปเสียแล้ว นี่ถ้าหากว่าเขาตื่นขึ้นมาแล้วโวยวาย ว่าหล่อนลักหลับเขาละก็แย่แน่ ๆ หล่อนจะเอาเงินที่ไหนไปสู่ขอเขาล่ะ คงแพงน่าดูเลย กับค่าตัวที่เขาเสียให้หล่อนโอ๊ย! เรานี่ท่าทางจะบ้าไปกันใหญ่แล้ว มีที่ไหนผู้หญิงไปสู่ขอผู้ชายคิดว่าให้ทานไปก็แล้วกันนะคะ เจ้านาย.. จอมขวัญ พยายามลุกจากเตียงอย่างเบาที่สุด เพื่อจะหนีความผิดที่ก่อไว้กับเขา ก็ไม่อยากรับผิดชอบนี่นา..“ฮื่อ..จะไปไหน?” น้ำเสียงที่อู้อี้คล้ายคนเป็นหวัดพูดออกมา ทั้ง ๆ ที่ยังหลับตา กลับกอดกระชับวงแขนรัดร่างหล่อนเข้าหาอย่างรวดเร็วและแนบแน่น“โอ๊ย..ปล่อยนะคะหายใจไม่ออกแล้ว”“เมื่อคืน คุณทำให้ผมใจแทบขาด ไม่ต้องมาบ่นเลย” ได้ผล ร่างนุ่มนิ่มหยุดนิ่งไม่ไหวติง ปล่อยให้เขาลูบไล้เนื้อตัวไปมาอย่างสบายใจ“ทำอะไรลงไป คุณต้องรับผิดชอบนะ ไม่งั้นผมไม่ยอมจริง ๆ ด้วย”“หมะ..หมายความว่าไง..คะ..ฉะ..ฉันทำอะไรคุณงั้นหรือคะ” เป็นความจริงหรือนี่ ที่หล่อนเป็นฝ่ายหักหาญน้ำใจเอากับเขาน่ะ..“คุณเป็นฝ่ายกระทำ ย่อมรู้อยู่แก่ใจดี” ชายหนุ่มลอบอมยิ้มเมื่อ สังเกตเห็นอาการหน้าแดงส
“ไม่เอาหรอก ขืนปล่อย คุณก็จะหนีไป ไม่กลับมาอีกน่ะสิ”“อื้อ..ไม่หนีหรอกค่ะสัญญา” หญิงสาวชูนิ้วก้อยขึ้นมาเพื่อเป็นสัญญาณว่าไม่ผิดคำพูดแน่นอน จะให้หนีไปได้อย่างไรล่ะ ก็เขาน่ารักซะขนาดนี้ จะไม่ให้รับผิดชอบยังไงไหว เฮ้อ.. มัฆวัฒน์ยิ้มในหน้าอย่างมีความสุข นึกเอ็นดูในความไร้เดียงสาของหล่อน จนเกือบเสียศูนย์อดใจไม่ไหว จึงโน้มร่างน้อยเข้ามาหอมที่แก้มใสหนึ่งที พอได้ชื่นใจ“แน้..คุณนี่ เซี้ยวใหญ่แล้ว พอเถอะค่ะ..จะเช็ดตัวให้ด้วยก็ได้”“จริงเหรอ ดีจัง ยอมก็ได้ แต่รีบกลับมานะ ผมหนาว ตอนนี้ยังไม่ได้ใส่อะไรเลย..เพราะคุณนั่นแหละ” คนบ้า..พูดออกมาได้ หาว่าเราเป็นคนถอดเสื้อเขาเองได้ยังไง ตัวอย่างกับยักษ์ เอ..หรือว่าจะจริง เพราะเขาบอกว่าเราร้อนแรงมากเมื่อคืน ถ้าเป็นอย่างนั้น เรานี่ท่าทางจะเฮี้ยนมากเลยนะเนี่ยเมื่อหลุดออกมาจากอ้อมแขนเหนียวหนึบอย่างกับตุ๊กแกได้ ก็รีบดีดตัวออกมาจากร่างสูงใหญ่ ที่ไม่ใส่อะไรเลยอย่างที่เขาบอก หน้าก็แดงขึ้นมาอีกรอบ หลังจากที่คิดว่าตัวหล่อนเองเป็นฝ่ายริเริ่มทำอะไรเขาก่อน แต่ในใจก็ไม่วายรู้สึกตะขิดตะขวงใจ ยังไงพิกลทางด้านเจ้านายหนุ่มหลังจากที่หญิงสาวหายออกไปจากบริเวณห้อง ก็ผ่อน
ริมฝีปากหวานละมุน ที่ถูกทำให้ร้อนขึ้นเพราะเขาช่าง เย้ายวนอะไรเช่นนี้หนอ จนไม่อาจถอนริมฝีปาก หญิงสาวครางออกมาอย่างลืมตัวกับจูบอันหนักหน่วงของเขา หากไม่นานจอมขวัญกลับโพล่งออกมา ทำจมูกฟุดฟิด เมื่อพยายามเบี่ยงหน้าออกจากใบหน้าของอีกฝ่าย“กลิ่นอะไร?”“อืมห์..ไม่เห็นได้กลิ่นอะไรเลย” มัฆวัฒน์ไม่อยากถอนริมฝีปาก ออกมาเลยให้ตายเถอะ พลางก้มลงไปหาใบหน้าหวานใสอีกรอบ“อื้อ..อย่าค่ะ ฉันว่ามันกลิ่นทะแม่ง ๆ นะเหมือน เหมือนอ๊ะ! แย่แล้ว! จอมอุ่นข้าวต้มไว้ ป่านนี้ไหม้ไปแล้วแน่เลย” มัฆวัฒน์ จำต้องปล่อยร่างนุ่มนิ่มออกไป อย่างสุดแสนเสียดาย ราวกับสวรรค์น้อย ๆ ที่กำลังรออยู่เมื่อครู่ มลายหายวับไปในพริบตา“ฮึ่ม..ฝากไว้ก่อนเถอะสาวน้อย จะเอาคืนให้หนำใจเลย บังอาจมาทำให้อารมณ์ค้างซะได้” นอนไม่หลับเสียแล้ว ร่างสูงจำต้องสลัดผ้าห่มนวมผืนหนาออกไปจากร่างเปลือยเปล่าแข็งแรง ก่อนลุกขึ้นไปล้างหน้าล้างตา เปลี่ยนเสื้อผ้า เพื่อที่จะตามร่างเล็กออกไป ด้วยความเป็นห่วงว่าหล่อนอาจจะทำให้ร่างกายน่าทะนุถนอมนั่นเกิดแผลจนเลือดออกขึ้นมาอีก“อ้าว! คุณลุกมาทำไมคะ ไปนอนพักต่อสิ ไม่เป็นไรค่ะจอมจัดการเรียบร้อยแล้ว” รีบกลบเกลื่อน กลัวความผิดท
“อืมห์..พูดถูกใจ น่าจะขึ้นเงินเดือน หรือจะเพิ่มโบนัสให้ดีนะ” เจ้านาย หันมาพูดกับผู้จัดการฝ่ายบุคคลสาว ด้วยสายตาเจ้าเล่ห์พอกัน พลางหันไปมองหน้านักกฎหมายหนุ่มที่ยืนอยู่ด้านหลังสุด ราวกับจะประกาศตัวว่าเป็นเจ้าของเลขาสาวของเขากระนั้น ทุกคนในนั้นต่างก็อมยิ้มกันไป ยกเว้นหญิงสาวที่หน้าตูมขึ้นมาทันที ที่ได้ยินประโยคสัพยอกของเจ้านายหนุ่ม สะบัดหน้าหันกลับไปมอง ส่งสายตาเขียวปั๊ดไปให้จนร่างสูงต้องรีบออกตัวเสียก่อน“อ้อ! แล้วนี่ทานอะไรกันมาหรือยัง งั้นมาทำอะไรทานกันสักหน่อยเป็นไร เพราะอีกสักพักก็ต้องออกไปร่วมกิจกรรมกลางแจ้งแล้วไม่ใช่หรือ”“ยังเลยค่ะ ดีเหมือนกันค่ะบอส เดี๋ยวสุช่วยเป็นลูกมือก็แล้วกันนะคะ” สุชาดาเสนอตัวออกมาแล้วหลังจากนั้น ทุกคนต่างก็พร้อมหน้ากัน เดินเข้าครัวเพื่อทำอาหารมื้อเช้า ส่วนหล่อนก็ต้องเข้าห้องไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า ตามคำสั่งของเจ้านายที่ตอนนี้ไม่ใช่แค่เจ้านายแล้วสิ.. ท้องฟ้าด้านนอกวันนี้มีก้อนเมฆลอยเด่นอยู่ เป็นหย่อม ๆ ช่วยบดบังแสงแดดที่ส่องมาสู่ผืนทรายยามเช้า แสงแดดอ่อน ๆ กระทบกับน้ำทะเลทอแสงระยิบระยับจับตานัก คลื่นทะเลที่สาดซัดเข้าสู่ฝั่ง ด้วยแรงลม ซ้ำแล้วซ้ำเล่าอย่างไม
“ว๊า! เสียดายจัง..เสมอกันจนได้ นึกว่าเจ้านายเราจะชนะขาดเสียแล้ว” เสียงใครคนใดคนหนึ่งพูดขึ้นมาลอย ๆ ข้างหูหล่อน ทำให้จอมขวัญหันกลับไปมอง อยากจะบอกคน คนนั้นนักว่า เป็นเพราะเขาไม่สบายหรอกถึงแพ้ในยกนี้น่ะ ฮึ..“เอาล่ะครับ ยกที่สามเป็นยกตัดสินว่าใครแพ้ใครชนะ คู่ต่อสู้พร้อมแล้วนะครับ เริ่มเลยนะครับ ไป!” สิ้นเสียงกรรมการกำมะลอ คู่ต่อสู้ทั้งสองที่มีร่างกาย และหน่วยก้านใกล้เคียงกัน ก็ออกแรงต่อสู้กันอย่างเอาเป็นเอาตาย เมื่อสังเกตจากสายตาที่ดูจริงจังของทั้งสองฝ่ายแล้วมัฆวัฒน์ เหลือบสายตามามองที่หญิงสาวแวบหนึ่งก็เห็นแววตา ที่แสดงออกถึง ความห่วงใยและให้กำลังใจ ทำให้เขามีกำลังฮึดสู้ขึ้นมา จากที่เมื่อครู่แรงแผ่วลงไป เหมือนจะยอมแพ้ ไม่ได้! เขาจะแพ้แก้วกล้าไม่ได้! ถ้าเขาแพ้ในเกมกีฬา ก็เท่ากับแพ้ในเรื่องอื่นด้วย มัฆวัฒน์สังเกตเห็นที่แก้วกล้าจงใจ ที่จะสัมผัสมือเล็กบอบบางที่เขาหวงแหนนักหนานั่น เหมือนกับจะประกาศสงครามในเชิงรักกับเขา ทำให้อารมณ์ดี ๆ เมื่อตอนเช้าถูกเปลี่ยนให้เป็นแรงหึงหวง ปะปนกับแรงโทสะ ที่แก้วกล้าบังอาจคิดจะลบเหลี่ยมกับคนอย่างเขาและแล้วเสียงเฮ ก็ดังเกือบทั่วชายหาดยามสาย เมื่อรู้ผลเพราะผู
เสียงเปิดและปิดประตูอย่างแผ่วเบา สักพักเตียงอีกฝั่งก็ยวบลงช้า ๆ ตามด้วยมือใหญ่เรียวยาวค่อยๆ สอดมาใต้หมอนเอื้อมมาคว้าไหล่บอบบางของเมียสาวที่ตอนนี้นอนหันหลังให้ พลางออกแรงแกมบังคับให้พลิกมาทางเขาอย่างเบามือ“จะรีบนอนไปไหนล่ะครับ ฮึ” เสียงพึมพำ ทำให้หล่อนลืมตาขึ้นมามอง พร้อมกับส่งสายตาขุ่นขวางกลับไปให้“ง่วงแล้ว..คนจะนอนมาปลุกทำไมเนี่ย ทำไมไม่ไปนอนกับคนอื่นโน่น” ชายหนุ่มหัวเราะหึ ๆ อย่างเป็นสุข กลับจ้องมองตอบดวงตาเขียวปั๊ดที่ส่งมาอย่างไม่เกรงกลัว“งอนหรือนี่ คุณหึงผมใช่ไหม ดีใจจัง นึกว่ามีแต่ผมเท่านั้นที่คอยแต่จะหึงหวงคุณอยู่ฝ่ายเดียว” ไม่พูดเปล่า ใบหน้าหล่อเหลาก้มลงคลอเคลียอยู่แถวข้างแก้ม และเลยไปตามซอกคอขาวละมุน ลมหายใจอุ่นร้อนจากปลายจมูกโด่งทำเอาใจเต้นไม่เป็นจังหวะ ร่างสูงค่อย ๆ ดันตัวเองให้แนบชิดกับร่างเล็กน่ากอดให้เอนนอนราบลงไปกับเตียงนอนหนานุ่มช้าเนิบอย่างใจเย็น“คุณ..เอ่อ..คุณมาร์คคะ คือว่า..จอม”“อะไรอีกครับที่รัก จะหาข้ออ้างอะไรอีก เมื่อสองสามวันก่อนคุณก็บอกว่าเป็นรอบเดือน แล้วคราวนี้คุณจะบอกว่าเป็นอะไรอีกครับ..ฮึ” จอมขวัญแทบจมลงไปกับเตียงนอนหนานุ่ม เมื่อร่างที่ใหญ่กว่าทิ้งตัว
แม้ในใจจะรู้สึกโล่ง แต่อีกใจหนึ่งกลับอดเป็นห่วงเขาไม่ได้ เท้าบางจึงเดินออกมาหาที่ห้องนั่งเล่นด้านนอก เป็นอย่างที่คิดจริง ๆ ด้วย ร่างสูงนอนเหยียดยาวทอดกายไปกับโซฟา เปิดทีวีค้างไว้ คงหลับไปแล้ว ฮึ..รอไม่ไหวล่ะสิ คงเพลียจากงานเมื่อกลางวันที่เขาต้องรับบทหนักกว่าหล่อนมากก็ไหนจะคอยต้อนรับญาติ ๆ ทางมารดาเขา ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ และไหนจะเพื่อนฝูงสมัยเรียน เพื่อนร่วมธุรกิจอีก จอมขวัญนั่งลงกับพื้นข้างโซฟาที่มีคนตัวสูงนอนอย่างสบายใจ พลางยื่นปลายนิ้วไปเขี่ยตรงต้นแขน กะว่าจะปลุกให้เข้าไปนอนที่เตียงนอนเสียหน่อย เพราะดูจากที่เขานอนอยู่คงไม่สบายเท่าใดนัก“อืมม์..ไม่ต้องมาสะกิดเลย คืนนี้ยกให้ ผมไม่มีแรงจะทำอะไรแล้วง่วง..” พูดจบเจ้าบ่าวก็ลุกขึ้น เดินโซซัดโซเซกลับมาล้มตัวลงนอนที่เตียงกว้างด้านในอย่างงอน ๆ จอมขวัญย่นจมูก อย่างนึกหมั่นไส้ แลบลิ้นแถมไปให้ด้วย เฮอะ..ผู้ชายอะไรงอนก็เป็นด้วยตลกชะมัด แต่ก็น่ารักไปอีกแบบเมื่อคนอย่างเขาทำ ฮิ ๆ หญิงสาวก้าวขึ้นเตียงนอนใหญ่หนานุ่ม อย่างแผ่วเบา ด้วยเกรงว่าคนข้าง ๆ จะตื่น ก่อนจะตะแคงมองสามีที่น่ารักยิ่งนักเมื่อยามหลับ โน้มใบหน้าบางใส ไปจุ๊บราตรีสวัสดิ์ ให้
งานวิวาห์ระหว่าง นายมัฆวัฒน์ ก้องกังวาลไกล นักธุรกิจหนุ่มรุ่นใหม่ไฟแรงกับเลขาสาวนางสาวจอมขวัญ มงคลเกียรติ ถูกจัดขึ้นที่โรงแรมหรูใจกลางกรุงเมืองหลวง เป็นวันที่ทั้งสองรอคอยว่าจะให้มีวันนี้ นับตั้งแต่ผ่านช่วงปีใหม่มาแล้วร่วมสองเดือน ซึ่งฝ่ายเจ้าบ่าว บ่นอิดออดว่าทำไมฤกษ์ที่มารดาเจ้าสาวหาให้ ถึงได้ล่าช้านัก ไม่มีใครรู้หรอกว่าเขาต้องทรมานขนาดไหนที่ต้องทนรอให้ถึงวันนี้อย่างใจจดใจจ่อเพียงใด“วันนี้คุณสวยจัง” เจ้าบ่าวกระซิบข้างใบหูเล็กของเจ้าสาว อย่างเอาใจ เมื่อทั้งหล่อนและเขาออกมายืนต้อนรับแขกเหรื่อหน้าประตูทางเข้าห้องจัดเลี้ยง ที่ถูกจัดขึ้นอย่างวิจิตร ตระการตา เจ้าสาวของเขาอยู่ในชุดสีขาวบริสุทธิ์ ผมยาวสลวยถูกเกล้าขึ้นเผยให้เห็นใบหน้าขาวใส ที่ตอนนี้ถูกตกแต่งด้วยเครื่องสำอางบางเบา เท่านั้นก็ช่วยให้หล่อนสวยใสไร้ที่ติจนเขาต้องเอ่ยปากชมออกมา“ไม่ต้องมาพูดเอาใจหรอกน่า..ยังไง ๆ ก็รับผิดชอบในตัวคุณอยู่แล้วล่ะค่ะ” จอมขวัญตอบกลับไป พลางยิ้มแบบเจ้าเล่ห์ แถมแลบลิ้นแบบเด็ก ๆ ส่งไปให้เจ้าบ่าวของหล่อน ที่วันนี้เขาก็ดูหล่อสมาร์ตกว่าใคร ๆ ในงานเหมือนกัน ถึงแม้ว่าเวลาธรรมดา เขาก็ดูดีไม่มีที่ติอยู่แล้ว“แน่นอน
บ่อยครั้งเข้าต้นน้ำถึงกับร้องครางออกมาอย่างลืมตัวเมื่อหญิงสาวเริ่มตอบสนองเขาอย่างเต็มใจ ลำแขนเรียวเล็กเลื่อนขึ้นมาโอบรอบคอแข็งแรงของเขาไว้อย่างต้องการที่ยึดเหนี่ยวเมื่อชายหนุ่มถอนริมฝีปากออก ล้อมดาวถึงกับหายใจหอบเล็กน้อย ก้มหน้ามุดเข้าไปหาความอบอุ่นในอ้อมอกเขาอย่างเอียงอาย ไม่พูดไม่จา“ ดูเหมือนว่า เราจะเกิดมาคู่กันเสียแล้วสิ..คุณว่าไหม”“ บ้าน่ะสิ คนบ้า! พาฉันกลับบ้านเดี๋ยวนี้นะ”“ อ๋อ..อยากให้ถึงที่บ้านเร็ว ๆ จะได้ฟ้องทุกคนงั้นสิ คราวนี้ถ้าคุณไม่ฟ้องจริง ๆ ผมจะเป็นฝ่ายบอกกับทุกคนเองเลยเป็นไง ว่าเรารู้สึกยังไงต่อกัน” “ อี๋..ใครไปมีความรู้สึกอะไรกับคุณกันล่ะแล้วก็ห้ามบอกเรื่อง..เรื่องนี้กับใครเป็นอันขาด!”“ อะไรนะเรื่องจูบนี่น่ะหรือ ที่ห้ามบอกฮ่า ๆ”“ นี่คุณ!ฉันไม่ตลกด้วยหรอกนะ” หญิงสาวตวาดแว๊ดใส่ชายหนุ่มใบหน้าแดงก่ำด้วยความขัดเขินปนขุ่นเคืองเป็นกำลัง ต้นน้ำหัวเราะให้กับความไร้เดียงสาของหล่อนนัก ดวงหน้าขาวใสที่ออกเป็นสีแดงจาง ๆ แล้วตอนนี้ พร้อมด้วยการค้อน แสดงความเป็นธรรมชาติที่ไม่ได้เสแสร้งแต่อย่างใด มันช่างถูกใจนัก สงสัยว่าเขาจะต้องไปเกี่ยวดองกับตระกูลไฮโซอีกคนเสียแล้วสิ เฮ้อ!“
แสงแดดยามเช้าส่งลงมายังสวนผลไม้ ทำให้บรรยากาศตอนนี้ช่างรื่นรมย์เหลือเกิน ล้อมดาวชอบบรรยากาศที่เป็นธรรมชาติอย่างนี้ เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว หญิงสาวออกมาช่วยคนงานเก็บผลส้มอย่างเพลิดเพลิน จนไม่รู้ว่าได้เดินลึกเข้าไปในไร่อย่างไม่รู้ตัว พลางเขย่งเท้าเพื่อที่จะปลิดผลส้มที่อยู่สูงเกินมือจะเอื้อมถึง จึงมองหาบันไดที่คนงานเขามักจะใช้กันเมื่อเก็บลูกที่อยู่สูงขึ้นไป“ ทำอะไรน่ะ! เดี๋ยวก็ตกลงมาหรอก!” เพราะเสียงเข้มดุนั้นทีเดียวเล่นเอาเธอสะดุ้งตกใจ และไม่ทันตั้งตัวขณะที่ล้อมดาว ก้มลงไปมองยังเสียงเข้มดุคล้ายรำคาญเต็มทน สาวต่างถิ่นจึงตัดสินใจก้าวขาลงมา แต่กลับก้าวพลาด ทำให้ร่างของหล่อนร่วงจากบันไดทันที!“ ว๊ายยย!!” ตุ๊บ!! “ โอ้ย!..”“ เฮ้ย! ว่าแล้วเชียวต้องเป็นแบบนี้พูดยังไม่ทันขาดคำเลย โธ่เอ๊ย!ลุกไหวไหมล่ะทีนี้”“ ไม่ต้องมายุ่งเลยคนใจร้าย เมื่อไหร่จะหยุดแกล้งฉันเสียที ที่ผ่านมายังไม่พอใจอีกหรือ” คนอะไร ไม่อยากมองหน้าเลย ใบหน้าที่ดุดัน นัยน์ตาที่แฝงไปด้วยความร้ายกาจ ทั้งปาก ทั้งจมูก หล่อนเกลียดนัก ทำไมจะต้องมาเจอคนอย่างเขาด้วยนะ แล้วทำไมต้องมายุ่มย่ามกับหล่อนด้วยไม่เข้าใจเลยจริง ๆ“ พูดอะไรของคุณเนี่ย
“ คุณเข้ามาในห้องนี้ได้ยังไง นี่อย่าบอกนะว่า..คุณจะมาแก้แค้นเรื่องเมื่อวาน แล้วที่..ที่คุณทำกับฉันเมื่อวานยังไม่พอใจอีกเหรอ คน..คนไม่ดี..คนพาล ออกไปนะ ออกไป! ฉันเกลียดคุณ คนบ้า! ฮือ ๆ ฉันจะฟ้องทุกคนเลยคอยดู ฮือ ๆ ที่คุณกล้าทำกับฉันแบบนี้ ฮือ ๆ”เมื่อได้สติหญิงสาวก็กระโดดผลุงลงจากเตียง วิ่งไปหลบชิดกำแพงห้อง ราวกับว่ามันจะช่วยหล่อนได้กระนั้น พลางชี้หน้าด่าคนที่บังอาจเข้ามาในห้องที่หล่อนนอนอยู่ พูดไปร้องไห้ไป อย่างไม่รู้จะทำอย่างไรดีกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ต้นน้ำลุกขึ้นยืนเต็มความสูง มองจ้องไปยังหญิงสาวที่บัดนี้ตัวสั่นงันงกอยู่อีกมุมหนึ่งของห้อง ปากก็พร่ำว่าเขา พูดไปร้องไห้ไปอย่างกับเด็ก เอะอะก็จะฟ้องคนโน้นคนนี้ ก็เอาสิ ลองดูว่าจะทำอย่างที่พูดได้หรือเปล่า“ ก็เอาสิ ฟ้องก็ฟ้องเลย คราวนี้ล่ะเขาจะได้รู้กัน ว่าเราน่ะ..มีความลับต่อกันอยู่หึ ๆ” ชายหนุ่มกอดอก พูดเนิบ ๆ อย่างใจเย็น มองตอบกลับไปยังใบหน้าขาวสะอาดที่บัดนี้เปื้อนไปด้วยน้ำตา อย่างท้าทาย ก่อนจะเดินออกจากห้องมาหน้าตาเฉย หากในใจกลับอดรู้สึกสงสารเจ้าของใบหน้าที่ดูหวาดระแวง วิตกกังวล ใบหน้าอ่อนใสค่อนข้างแดงก่ำจะเพราะพิษไข้ หรือจากที่โ
บนโต๊ะอาหารมื้อเช้าของวันใหม่ สมาชิกในครอบครัว นั่งพร้อมหน้ากันที่โต๊ะอาหาร จะขาดก็แต่ล้อมดาวที่ไม่ยอมออกมาทานข้าว ผู้เป็นมารดารู้สึกแปลกใจนักเมื่อไม่เห็นเพื่อนของลูกสาวมาร่วมโต๊ะอาหารในเช้านี้“ อ้าว! หนูจอม เพื่อนเราเขาไม่ทานข้าวด้วยกันเหรอลูก ไม่สบายหรือเปล่าเมื่อวานตอนเย็น แม่เห็นหน้าซีด ๆ อยู่”“ จอมถามแล้วค่ะแม่ ล้อมเขาบอกว่าไม่ค่อยหิว เมื่อคืนบ่นว่านอนไม่หลับด้วย รู้สึกมึนหัวนิดหน่อย สงสัยยังปรับตัวไม่ทัน ก็เลยขอนอนต่อ นี่ก็กะว่าจะเอาข้าวต้มไปให้เขาทานเสียหน่อย”“ อืม อย่างนั้นเหรอจ๊ะ สงสัยคงแปลกที่ แถมยังเปลี่ยนเวลากะทันหัน ถือยาไปเผื่อด้วยก็แล้วกันนะลูก”“ ค่ะแม่ แหม..รู้สึกว่าแม่เราเนี่ยเอาใจใส่ยัยคุณหนูล้อมเป็นพิเศษเลยนะเนี่ย” ปากพูดไป แต่สายตากลับหันมามองตาพี่ชาย เหมือนต้องการสื่อความหมายอะไรบางอย่างกับต้นน้ำมากกว่า ทางด้านพี่ชายหลบตาน้องสาวรีบเสใบหน้าไปอีกทาง ทำเป็นไม่สนใจกับสายตาจ้องจับพิรุธของผู้เป็นน้องสาวที่ส่งมาอย่างมีเลศนัยนั่น แต่ใจก็อดนึกไปถึงหญิงสาวที่แอบหลบอยู่ในห้องไม่ให้เห็นหน้าตั้งแต่เมื่อวานเย็นแล้ว หึ..หลบได้หลบไป อยากรู้นัก จะทำแบบนี้ไปได้สักกี่น้ำ ยัง
“ ทำไมต้องบอกด้วยล่ะคะ คุณก็น่าจะรู้อยู่แก่ใจดี” หญิงสาวยังบ่ายเบี่ยง ไม่ยอมตอบแต่โดยดี“ อยากได้ยินจากปากคุณมากกว่า น่านะ.. บอกผมมาสักครั้งหนึ่งเถอะนะ คนดี ไม่อย่างนั้นจะจูบอวดชาวบ้านเขาเดี๋ยวนี้เลยเป็นไง”“ รัก..สิคะ ถ้าไม่..รัก..ไม่ยอมตกลงแต่งด้วยหรอก” จอมขวัญรีบตอบกลับไปทันทีด้วยเกรงว่าเขาจะทำอย่างที่พูดจริง ๆ“ อืมม์..ชื่นใจจัง..งั้น..ให้รางวัลแก่เด็กดีหน่อยเป็นไร” ไม่พูดเปล่าร่างสูงก็โน้มหน้าลงมาหมายตาไว้ที่ปากเล็กจิ้มลิ้มนั้น แต่ก็พลาดเมื่อเจ้าหล่อนดิ้น หลุดไปเสียก่อน หนีไปได้อีกแล้วนะ หลบได้หลบไป แต่งเมื่อไหร่ล่ะก็..น่าดูเมื่อได้หลับเต็มอิ่มแล้ว ก็รู้สึกสบายตัวขึ้นมาเป็นกำลัง ล้อมดาวบิดขี้เกียจ อ้าปากหาวเต็มที่เมื่ออยู่ในห้องพักเพียงลำพัง ไปไหนกันหมดนะ บนบ้านก็ว่างเปล่า อ้อ! ลืมไป ยัยจอมจุ้นกับพี่ชายหล่อนบอกว่าจะออกไปสวนส้มนี่นา ล้อมดาวยืนงงอยู่เป็นครู่เมื่อค่อย ๆ ลำดับเหตุการณ์ ก่อนที่จะหลับสนิทเพราะเพลียจากการเดินทาง หญิงสาวที่สวมเพียงเสื้อกล้ามสีขาวสะอาดตา เน้นทรวดทรงองเอว เป็นอย่างดี เพราะแจ๊กเก็ตตัวโปรดถูกถอดเก็บไว้ในห้องแล้ว แปลกแฮะหน้านี้เป็นฤดูหนาวไม่ใช่หรือ แต่ทำ
สงสัยคนบ้านนี้เขาได้รับการอบรมสั่งสอนมาดีมากเลยนะถึงไหว้ได้อย่างงดงามทั้งพี่ทั้งน้อง กิริยาก็น่ารักน่ามอง ผู้เป็นมารดาลอบมองสำรวจหญิงสาวหน้าตาสะสวยหมดจดแลดูเกลี้ยงเกลาผู้นี้อย่างนึกเอ็นดู หลังจากทักทายกันพอเป็นพิธี ผู้อาวุโสทั้งสองก็ชักชวนให้เก็บสัมภาระ ซึ่งเจ้าของบ้านได้จัดแจงพาไปยังห้องพัก แม้ว่าบ้านจะดูไม่ใหญ่โต เหมือนกับบ้านคนรวยร้อยล้านพันล้าน แต่ภายในก็แลดูกว้างขวางน่าอยู่ จัดพื้นที่ใช้สอยได้อย่างลงตัว ซึ่งล้อมดาวขอนอนกับจอมขวัญเพื่อที่ว่าจะได้นอนคุยกันให้ฉ่ำปอดไปเลย จอมขวัญก็รีบตอบรับแทบจะทันที ส่วนว่าที่เจ้าบ่าวของหล่อนกลับทำหน้ายักษ์ใส่ราวกับไม่พอใจกระนั้น แต่จอมขวัญไม่สนใจทำเป็นไม่รู้เรื่องรู้ราวไปเสีย เมื่อเก็บสัมภาระเรียบร้อยแล้วหัวหน้าครอบครัวก็ให้ออกมาร่วมรับประทานอาหาร โดยวันนี้สามพ่อครัวช่วยกันทำอาหารคนละอย่างสองอย่าง อวดฝีมือกันเต็มที่“ เป็นไงบ้างจ๊ะบ้านป้า พออยู่ได้ไหม” ผู้เป็นป้าหันมาถามล้อมดาว อย่างให้ความสนใจจนออกนอกหน้า ทำไมแม่ต้องไปสนใจยัยเด็กขี้วีน คนนี้ด้วยนะ แถมยังซุ่มซ่ามอีกต่างหาก ต้นน้ำนึกเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟันอยู่คนเดียว“ สบายมากค่ะ ล้อมไม่เรื่อ