ห้าเดือนผ่านไป
นับจากหลังจากที่หายป่วยอรัญญาร์ก็กลับมาทำงานดังเดิมทำตัวปกติที่สุดถึงแม้ว่าสถานะของเธอตอนนี้มันจะเปลี่ยนไปก็ตาม กลางวันทำหน้าที่เป็นเลขาให้กับเขา ส่วนกลางคืนก็เลื่อนสถานะเป็นผู้หญิงของพัสวีร์ หรือเรียกง่ายๆว่านางบำเรอของเล่นบนเตียงของเขาเท่านั้น เธอเองไม่อยากจะยอมรับข้อเสนอนี้สักเท่าไร แต่พัสวีร์ก็ยังคมีข้อหาต่างๆ มาแบล็คกเมลเธอทุกครั้งที่เธอไม่ยอมหรือทำตามสิ่งที่เขาต้องการ เขาจะปล่อยคลิปของเขาและเธอ
จะว่าเธอโง่ก็ได้ที่ยอมเขามาตลอด ยอมเป็นของเขา
เพราะแอบรักเจ้านายตัวเอง เพื่อหวังว่าจะได้หัวใจของเขาบ้าง
ร่างบอบบางนั้นประจำหน้าโต๊ะทำงานของเธอ พลางนึ้กถึงเรื่องราวต่างๆที่เกิดขึ้นกับเขาและเธอที่ผ่านมาตอนนี้ก็ห้าเดือนแล้ว และข้อตกลงใหม่ที่เขาให้เธอทำก็คือ เธอต้องไปบ้านเขาทำความสะอาดบ้านเขาทุกเย็นหลังเลิกงาน
“ต่อไปนี้เธอต้องไปทำความสะอาดบ้านของฉันทุกเย็นหลังเลิกงาน อ๋อ…ขับ
แต่ดูเหมือนว่าทั้งเขาและเธอนั้นจะมีความต่างที่มีสามารถเข้ากันได้ พักหลังๆเธอทำงานอะไรให้เขามักจะมักไม่พอใจเสมอ โดนต่อว่าตลอด จากที่โดนเจ้านายต่อว่าแล้วยังไม่วายที่จะโดยเพื่อนรวมงานนินทาเธอมาตลอดเดือนหลังจากที่เธอออกมาจากห้องวันนั้นทว่ามีคนเห็นรอยแดงตามลำคอที่โผล่พ้นเสื้อของหญิงสาวไหนจะรอยแดงๆที่แขนเล็กของเธอนั้นกระจายเป็นวงกว้างพลอยทำให้เธอเกิดความเครียดจนเกิดเป็นลมเป็นแร้งขึ้นมาคนที่อยู่ไกล้ต่างพาช่วยกันดูแล เพื่อนพนักงานถามว่าเธอเป็นอะไรพักหลังๆเป็นลมบ่อยนัก หยิงสาวตอบกลับไปว่ากินอาหารไม่ตรงเวลาสารอาหารที่จำดป็นไม่ได้ไปเลี้ยงส่วนต่างๆเท่าที่ควรก็เท่านั้นช่วงหลังๆพัสวีร์และอรัญญาร์คุยกันไม่ค่อยถูกคอนักเธอมักเข้าหน้าชายหนุ่มไม่ติดเท่าไร ชายหนุ่มมักโหมงานหนักและไม่ได่ให้เธอไปหาที่บ้านทำหน้าที่นางบำเรออย่างทุกเธอ เธอก็ดีหน่อย แต่วันเสาร์นี้เป็นวันหยุดเขาให้เธอไปทำความสะอาดที่บ้านของเขาอรัญญาร์นั่งก้มหน้าก้มตาจดจ่ออยู่กับเอกสารตรงหน้าอย่างขะมักเขม้นโดยไม่สนใจสิ่งต่างๆ แต่แล้วเธอก็ได้ยินเสียงตึกตักเดินสลับกันมาหน้าโต๊ะทำงานของเธอ จนหญิงสาวละจากงานตรงหน้าเพื
วันต่อมาอรัญญาร์ตัดสินใจไปหาพัสวีร์ในช่วงบ่ายหลังจากที่เช้ามืดเธอลุกขึ้นมาอาเจียนอย่างเอาเป็นเอาตายจากนั้นก็ล้มตัวลงนอนอย่างเหนื่อยอ่อน ตื่นอีกครั้งเธอจึงลุกอาบน้ำทันทีแม่บ้านจะบ้านของนางทับทิมที่พัสวีร์ไปขอให้มาทำความสะอาดแทนอรัญญาร์ออกมาต้อนรับ“คุณหวานมาทำอะไรที่นี่คะ”“หวานมาคุนธุระกับคุณภามค่ะ คุณภามอยู่ไหมคะ” หญิงสาวเอ่ยถามพลางซอกแซกสายตาหาชายหนุ่ม“คุณภามออกไปข้างนอกค่ะ แต่หนูว่าอีกสักพักก็คงกลับมาแล้วค่ะ” หญิงสาวยิ้มให้กับคนตรงหน้าหลังจากที่แม่บ้านคุ้นหน้าคุ้นตากันดีนั้นเอ่ยชวนให้นั่งภายในบ้านแต่เธอนั้นขอไปนั่งทางสวนหลังบ้านสูดอากาศกับร่มเงาต้นไม้ให้ผ่อนคลาย โดยไม่ลืมฝากบอกว่าเธอมาขอพบเขารออยู่ที่สวนหลังบ้านไม่นานนักพัสวีร์กลับเข้ามาที่บ้านของเขาพร้อมกับรุ่งรายมาด้วยรอยยิ้ม ความสัมพันธ์ของเขากับเธอนั้นเป็นเพียงเพื่อนกันเท่านั้น รุ้งรายมีคนรักอยู่แล้ว คนรักของเธอก็เป็นเพื่อนของเขาตอนนี้ทั้งสองคนก็กลับมาคืนดีกันแล้ว หลายครั้งรุ้งรายบอกกับเขาเสมอถ้วยท่าทางหยอกเอินกัน“นี่ภามควงรุ้งทุกวันแบบนี้เดี๋ยวรุ้งก็หวั่นไหวหรอก”“ขอมันแล้
หนึ่งเดือนผ่านไปพัสวีร์ยังสั่งคนตามหาอรัญญาร์เท่าไรก็ไม่พบไม่ว่าจะมีวิธีการใดเสียเงินเท่าไรเขาก็ต้องหาเธอให้เจอไม่ว่านานเท่าใดก็ตาม ชายหนุ่มเอาแต่นั่งดื่มเหล้าอย่างกลัดกลุ้มที่ตามหาลูกเมียไม่เจอเสียที วันหนึ่งเขานั่งเมาเอาเป็นเอาตายไม่ว่าใครก็เข้าหน้าไม่ติดจนรุ้งรายเดินเข้ามาพร้อมกับคนรัก “จะกินอีกนานไหม” “ไม่ต้องยุ่ง” เสียงยานครางเอ่ยไล่คนมาใหม่ “มัวแต่กินอยู่แบบนี้จะหาคุณหวานเจอได้ยังไง” ผู้เป็นเพื่อนเอ่ยด้วยความหวังดี “เขาทิ้งกูไปแล้ว”&nb
อรัญญาร์นอนหลับพริ้มอยู่ในชุดของโรงพยาบาลบนเตียงภายในโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง มือเรียวบางกุมหน้าท้องที่เริ่มนูนขึ้นมาเล็กน้อย มือบางเริ่มขยับในเวลาที่พัสวีร์เดินเข้ามาหลังจากคุยโทรศัพท์บอกนางทับทิมและวรรณาว่าอรัญญาร์นั้นเขาโรงพยายบาลทำให้นางทับทิมผู้เป็นย่าเทศนาหลานเสียยกใหญ่ บอกว่าเจอเมียแล้วกำลังง้อเมีย แต่ไหนโทรมาบอว่าเมียนอนอยู่โรงพยาบาล เขารีบขอโทษขอโพยท่านทั้งสองเสียยกใหญ่พัสวีร์เห็นอรัญญาร์ขยับกายจึงรีบโผลเข้าไปจับมือเรียวของเธอเอามาแนบแก้มของเขาทันที“หวาน เป็นยังไงบ้าง ปวดตรงไหนหรือเปล่า” ชายหนุ่มถามด้วยความเป็นห่วง“ไม่…ออกไป! ฉันไม่อยากเห็นหน้าคุณ” อรัญญาร์ว่าพลางชี้ไปที่ประตูที่เขาเข้ามาเมื่อครู่“ไม่…พี่จะไม่ไปไหนทั้งนั้น .ในเมื่อเมียกับลูกพี่อยู่ที่นี่”“ลูกเหรอ…ลูกใครคะ คงไม่ใช่ลูกคุณหรอกคุณพัสวีร์ คุณสบายใจได้ เด็กคนที่ไม่ใช่ลูกคุณ คงจะเป็นลูกของใครสักคนที่ฉันเคยไปมั่วมาอย่างที่คุณเคยว่านั่นแหละค่ะ”“ไม่หวานวันไม่ใช่อย่างนั้นพี่รู้ว่าเด็กในท้องเป็นลูกของพี่ พี่ทำเองกับมือท
ในคืนหนึ่งอรัญญาร์นั้นรู้สึกว่าร่างกายของเธอเหมือนโดนสวมกอดจากใครบางคนทั้งๆที่เธอนั้นนอนอยู่คนเดียว หญิงสาวขยับพลิกตัวไปอีกทางก็ตกใจใบหน้าหล่อของพัสวีร์ขึ้นมาถึงกับร้องกรี๊ดพร้อมทั้งถีบชายหนุ่มนั่นตกเตียงในเวลากลางดึก “โอ้ย…ถีบพี่ทำไม เกิดหัวแตกขึ้นมาทำไง” “แล้วใครใช้ให้มานอนในนี้” หญิงสาวลุกขึ้นมาด่อว่าชายหนุ่ม “ข้างล่างมันหนาว เลยขึ้นมานอนกอดเมียข้างบน” จำได้ว่าฉันล็อกห้องแล้วนะ” ทันที่ที่หญิงสาวกำลังนึกพัสวีร์ก็ก้าวขึ้นเตียงพร้อมสวมกอดหญิงสาว “ไม่เอาไม่ต้องนึกแล้ว นอนเถอะดึกแล้ว” สวมกอดพลางลูบศีรษะนิ่มสลวยของเธอ&nb
ภายในห้างสรรพสินค้าชื่อดังแห่งหนึ่งอรัญญาร์นั้นบอกกับพัสวีร์ว่าจะไปซื้อของมาไว้ทำอาหารเย็นทานที่บ้าน เพราะวันนี้เธอนั้นมาที่บริษัทเพื่อเอาอาหารกลางวันมาให้สามี และกำลังจะกลับ โดยไม่ลืมบอกสามีว่าจะแวะซื้อของก่อนกลับเข้าบ้าน เธอยืนยันว่าไปเองคนเดียวได้ แต่เขาก็ไม่ยอมยังคงดึงดันว่าจะไปพร้อมกันเพราะเป็นห่วงเมียกับลูกจะเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน “วันนี้หวานจะทำอะไรเป็นอาหารเย็น” ชายหนุ่มผู้ที่จูงมือภรรยาไม่ห่างเอ่ยถามหญิงสาวเมื่อเดินเข้ามาในแผนกอาหารและของสด “อืม…หวานว่าจะทำแกงเขียวหวานไก่ กับกับแกงจืดดีไหมคะพี่ภาม” หญิงศาวตอบยิ้มๆแล้วหันไปหาสามี “หวานทำอะไรให้พี่กินพี่ก็กินหมดแหละ เพราะเมียพี่ทำอร่อย” คำชมหวานหยดของสามีทำให้หญิงสาวยิ้มอย่างเขินอาย จากนั้นสองสามีภรรยาเดินซื้อของที่ต้องการตามแผนกต่างๆ
ณ โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง บุรุษพยาบาลต่างรีบเร่งฝีเท้าเข็นผู้ป่วยสองสามีภรรยาที่ได้รับอุบัติเหตุทางถนนถูกส่งตัวเข้ามายังห้องฉุกเฉิน ตามด้วยเสียงร้องไห้เล็ก ๆ ของเด็กหญิงตัวน้อยดังขึ้นไม่ขาดสายเด็กน้อยหน้าตาน่ารักที่ศีรษะมีรอยเลือดจากอุบัติเหตุในครั้งนี้ร้องเรียกหาบิดาและมารดาจนนางฟ้าในชุดขาวต้องวิ่งเข้ามาหายายตัวเล็กร่างจ้ำม่ำพาไปทำแผล“น้องเกลไม่ไป น้องเกลจะหาแม่ น้องเกลจะหาแม่” เสียงสะอื้นทั้งน้ำตาเอ่ยกับพี่นางฟ้าชุดขาวที่นั่งอยู่ข้างๆ“คุณแม่ของน้องเกลอยู่กับคุณหมอนะคะ ยังไปหาไม่ได้ค่ะ” เสียงอ่อนโยนคุยกับคนไข้ตัวเล็ก แต่เด็กน้อยเอาแต่ส่ายศีรษะไปมาอย่างไม่ยอม “เกลจะหาพ่อกับแม่ค่ะ” พยาบาลสาวยิ้มให้เด็กน้อยก่อนจะเอ่ยขึ้น&nb
สนามบินท่ามกลางความวุ่นวายของผู้โดยสารที่เข้าใช้บริการของสนามบินต่างเดินสวนกันไปมาด้วยความเร่งรีบ ผิดกับร่างบาง ผมสีน้ำตาลอ่อน สวมเสื้อคลุมสีดำทับกับเสื้อยืดสีขาว กางเกงยีนขายาวร้องเท้าส้นสูงสีดำ สวมแว่นกันแดด มือบางทั้งสองข้างนั้นจับเข้ากับแฮนรถเข็นสำพาระของสนามบิน เดินหามองหาคนที่มารับเธอเกวลินเดินมาหยุดตรงบริเวณที่นัดกันไว้ มือเรียวถอดแว่นกันแดดก่อนหย่อนมันลงไปอยู่ในกระเป๋า มองหารอบกายอยู่นานสองนาน แต่แล้วเสียงโทรศัพท์มือถือดังขึ้นเบา ๆและค่อยๆดังขึ้นเรื่อยๆ“ฮัลโหล ... สวัสดีค่ะคุณป้า” กรอกเสียงหวานไปตามสาย“ถึงไหนแล้วลูก”“เกลมาถึงแล้วค่ะ ยืนรอคุณป้าตรงที่เรานัดกันไว้ค่ะ” ริมฝีปากบางตอบพลางกวาดสายตาหวานไปรอบกายก็สะดุดกับร่างของวรรณวารีที่ยืนคุยโทรศัพท์อยู่อีกทางพร้อมกับคนขับรถ“คุณป้าคะ...เกลเจอคุณป้าแล้วค่ะ รอเกลสักครู่นะคะ”เกวลินเข็นสัมภาระทั้งหมดตรงไปยังวรรณวารีด้วยรอยยิ้ม มือบางยกขึ้นไหว้ผู้มีพระคุณของเธอทันที ก่อนจะสวมกอด“สวัสดีค่ะคุณป้า” จากนั้นส่งรอยยิ้มหวาน ๆ ให้ทันที“ป้าไม่เจอแค่สี่ห้าปี ผอมลงแถมสวยขึ้
มีอยู่คืนหนึ่งโอบกุลไม่กลับบ้านแล้วไม่ยอมโทรกลับมาบอกว่าจะกลับบ้านเกินเวลาโดยปกติคนติดเมียอย่างเขาจะยอมห่างอกเมียจนเพื่อนของชายหนุ่มนั้นอดแซวไม่ได้ วันนั้นก่อนที่เธอนั้นจะขึ้นนอนเพราะเกวลินเบื่อที่จะเขาโอบกุลกลับบ้านเต็มทนแล้ว แต่แล้วเธอก็เปิดเข้าแอพพลิแคชั่นยอดฮิตติดอันดับโลกที่มีผู้คนมากมายใช้งาน จากนั้นเธอก็เข้าไปในไอจีสตอรี่แล้วเลื่อๆปัดๆไปมา เห็นเพื่อนของชายหนุ่มลงเรื่องราวไว้เมื่อครึ่งชั่วโมงก่อน จึงกดเข้าดูแต่แล้วสายตาหวานของเกวลินเห็นร่างของโอบกลุสามีของเธอกำลังนั่งกอดกดสาวสวยอยู่ภายในสถานบันเทิงแห่งนั้น“อิพี่โอบ ไม่ยอมกลับบ้าน แต่กลับไปนัวสาว มันน่านักนะ” มือบางกำโทรศัพท์เครื่องหรูราคาแพงด้วยความขุ่นเคือง ก่อนจะเดินขึ้นชั้นสองแต่ วรรณวารีลงมาจากชั้นบนเห็นหน้าของเกวลินงอง้ำจนนางต้องถามหญิงสาว“เกลเป็นอะไรไปลูก” หญิงสาวมองหน้าแม่ของสามี“ก็พี่โอบสิคะ ไม่ยอมกลับบ้าน” หญิงสาวยังไม่ทันจะเอ่ยจบประโยควรรณวารี“ก็ปกติของพี่เขานิลูก พี่เขาทำงานตอนนี้อาจจะไปพบลูกค้าก็ได้”“ไปพบลูกค้าตอนสี่ทุ่มเนี้ยนะคะ แล้วเมื่อกี้นี้เกลเล่นไอจีเห็นพี่โอบกับลังกอดผ
“ว่าไงนะ เกวลินยังไม่กลับ”โอบกุลเอ่ยถามป้านอมแต่ต้องหันควับทันที่เมื่อได้ยินทำใหผู้เป็นพ่อเป็นอม่อดตกใจกับอาการร้อนรนของลูกชายจนอดยิ้มไม่ได้“จะตกใจทำไมตาโอบ น้องแค่ยังไม่กลับบ้าน”“แต่แม่ครับ…นี่มันจะสามทุ่มแล้วนะครับ เกลออกจากบริษัทตั้งแต่เที่ยง ตอนนี้ยังไม่ถึงบ้านเกิดอะไรขึ้นรึเปล่าก็ไม่รู้” ท่าทางร้อนรนกระวนกระวายอย่างเห็นได้ชัดของโอบกุล“ทำไมวันนี้ดูเป็นห่วงน้องแปลกๆมีอะไรจะบอกพ่อกับแม่มั้ย”“ไม่มีครับ” ชายหนุ่มเฉไฉ“ถ้าโอบไม่บอก…แม่ก็ไม่บอกเหมือนกันว่าน้องอยู่ไหน”โอบกุลนิ่งไปครู่หนึ่งชั่งใจว่าจะบอกความสัมพันธ์ของเธอกับเขาดีไหม ก่อนที่จะถอนหายใจเฮือกใหญ่และเล่าเรื่องทุกอย่างและความสัมพันธ์ให้บิดาและมารดาได้รับทราบ หลังจากนั้นเขาก็โดนบิดาสวดเสียยกใหญ่ที่ทำมิดีมิร้ายน้องแบบนั้น“เอาจริงๆนะตาโอบ…แม่รู้เรื่องของโอบกับยัยเกลมาสักพักแล้ว แม่ไม่อยากก้าวก่าย แม่แค่รอเวลาให้โอบกับเกลเข้ามาบอกแม่เองเท่านั้น เรื่องความรักแม่ไม่ได้ว่าแต่ต้องทำให้มันถูกต้อง”“ผมขอโทษครับคุณพ่อคุณแม่ แล้วเกลอยู่ไหนครับแม่”นางส่ายหน้า
“วันนี้คุณโอบดูอารมณ์ดีจังนะ พวกแกว่ามั้ย”“ใช่ๆ ฉันสังเกตพักหลังๆที่คุณเกลเข้ามาทำงานคุณโอบก็อารมณ์ดีเป็นพิเศษวันนี้ก็เดินผิวปากเข้าเข้าห้องทำงานไปเลย” คำซูบซิบนินทาเจ้านายดังขึ้นอย่างเนือยๆไม่นานนักเกวลินก็เดินตามหลังโอบกูลเข้ามาภายในบริษัท การแต่งตัวของหญิงสาวนั้นเปลี่ยนไปจากเดิมเล็กน้อย เรียกได้ว่าเซ็กซี่ขึ้นเป็นเท่าตัว เธอสวมเสื้อแกาะอกสีขาวสวมเบลเซอร์สีเทา กางเกงสีเดียวกันกับเสื้อ เดินเข้ามาโดยแจกจ่ายยิ้มให้กะบทุกคนในตอนนั้น พนักงานต่างรับรู้ว่าเธอคือน้องสาวแต่ไม่รู้เบื้องลึกมากกว่านั้น พนักงานผู้ชายตอนที่เกวลินนั้นเข้ามาทำงานแรกๆนั้นต่างถูกแซวและขายจนมจีบอย่างจ้าละหวั่น แต่ก็ถูกสายตาดุดันของโอบกูลแทนแน่นอนว่าเขานั้นหวง หวงเมียตัวเองและยิ่งเห็นการแต่งตัวมาทำงานของเธอนั้นทำให้เขานั้นแทบอยู่ไม่สุข ยัยตัวแสบตังใจใส่ชุดนี้มายั่วเขาหรือยังไง แถมเดินเข้ามาภายในบริษัทสายตาใครต่อใครก็คงต้องจ้องมองเธอ มันน่านักนะ&nb
ท้องฟ้าสีครามสวยสดผสมกับเกลียวคลื่นที่สาดซัดขึ้นมาที่ฝั่ง สายลมอ่อนๆ พัดผ่านกายทำให้เกวลินนั่งนิ่งอยู่บนฝืนทรายเนียนละเอียด บรรยากาศรายล้อมทำให้เธอนั้นรู้สึกผ่อนคลายเหลือเกิน หญิงสาวนั่งถอนหายใจอยู่พักใหญ่ นัยต์ตาหวานทอดยาวไปยังท้องทะเลที่ทอดยาวสุดลูกหูลูกตา ยากที่จะคาดเดาในบางครั้งว่ามันจะไปจบหรือสิ้นสุดที่ใดเช่นเดียวกับความสัมพันธ์ของเธอและโอบกุลผู้ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นพี่ชาย ที่ต้องคอยหลบ ๆ ซ่อน ๆ สายตาจากสายตาผู้คน จนในบางครั้งเธอนั้นอึดอัดเหลือเกินเสียงถอนลมหายใจอย่างหนักหน่วงราวกับหาทางออกให้ความสัมพันธ์นี้ครั้งแล้วครั้งเล่าของหญิงสาวนัน้ทำให้ไม่ได้สังเกตุสภาพแวดล้อมข้างกายตนว่ามีร่างสูงของใครบางคนเดินเข้ามาทรุดกายนั่งบนผืนทราบข้างๆเธออย่างเงียบเชียบจ้องมองใบหน้าหวานอยู่หลายนาที“มองอะไรคะ”ร่างเล็กที่นั่งมองทอดยาวไปยังท้องทะเลแต่ความรู้สึกเหมือนมีใครกำลังจ้องมองเธออยู่ และเมื่อหันไปก็เป็นอย่างที่คิดจริงๆคือโอบกุลกำลังจ้องเธออยู่“มองความสวยเมีย”ไม่วายส่งยิ้มอบอุ่นให้เธอแถมด้วยวาจาหยอกล้อหญิงสาวจนมีอาการขวยเขินไม่น้อย เพราะเวลาที
ความสัมพันธ์ของโอบกุลและเกลวินที่คนในบ้านนั้นมองเห็นคือความสัมพันธ์พี่น้องที่พัฒนาไปได้สวยไม่เหมือนแต่ก่อน แต่ความจริงแล้วทั้งสองมีสถานะที่ไม่อาจให้คนในบ้านล่วงรู้ได้ทุกคืนโอบกุลแอบเข้ามาหาเกวลิน ตักตวงความสุขจากร่างบางอยู่ร่ำไป จนหญิงสาวเองนั้นกลัวถ้าเข้าเข้ามาหาเธอแบบนี้อยู่บ่อยครั้ง สิ่งที่เขาสั่งเธอให้ปกปิดในทุก ๆ คืนนั้นจะปิดไม่อยู่เป็นแน่ทุกครั้งที่อยู่ต่อหน้าคนในบ้านไม่ว่าจะเป็น วรรณวารี ชัดชัย รวมถึงเหล่าแม่บ้านทั้งหลาย เธอจำเป็นต้องเว้นระยะห่างออกจากเขาบ้าง แต่ไม่วายเพราะการกระทำของหนุ่มสาวทั้งสองนั้นทำให้วรรณวารีอดสงสัยในตัวบุตรชายและหลานสาวไม่ได้“ยัยเกลอยู่ไหนเหรอมะลิ” นางหันไปถามแม่บ้านที่นำน้ำมาวางให้“คุณเกล มะลิเห็นรดน้ำต้นไม้อยู่ในสวนค่ะ”“ไปตามหาหาฉันหน่อยสิ” มะลิพยักหน้ารับก่อนจะเดินไปทำตามคำสั่งของผู้เป็นนายทันที“มีอะไรจะคุยกับยัยเกลหรือคุณ” ผู้เป็นสามีหันไปถามภรรยา“มีเรื่องอยากทำและสงสัยนิดหน่อย” ชัดชัยมองหน้าภรรยาก่อนจะมองไปยังประตูเมื่อบุตรชายเดินเข้ามาพอดี“ทำไมวันนี้กลับไวจังล่ะตาโอบ” นางเอ่ยถามบุตร
หลายวันผ่านมานับจากคืนนั้นเกวลินก็เอาแต่หลบหน้าหลบตาจากชายหนุ่มอยู่บ่อยครั้ง ถึงแม้ว่าเวลาทำงานเขาจะย้ายเธอให้มาทำงานใกล้ๆเขา จากที่ทำงานอยู่หน้าห้องตอนนี้เขาย้ายโต๊ะเธอมาอยู่ภายในห้องกับเขาเรียบร้อยทำให้หญิงสาวอึดอัดไม่น้อยเมื่อกลับถึงบ้านเธอก็ตรงขึ้นห้องทันที่เมื่อถึงเวลาค่อยลงมา โอบกุลและเกวลินเจอกันเพียงบางเวลาเท่านั้นคุยกันแทบจะนับคำได้ ในวันนี้โอบกุลทานอาหารค่ำเรียบร้อยเดินเลี่ยงออกมาก่อนโดยให้เหตุผลว่าเขามีงานต้องจัดการหลังจากที่เกวลินจัดการเก็บของทุกอย่างในครัวเรียบร้อย ทุกคนในบ้านต่างพากันแยกย้าย ๆ ไปอยู่ในที่ของตนเอง หญิงสาวก็เช่นกันกลับเข้ามาในห้องโดยไม่ลืมที่จะล็อกห้องของตนเป็นประจำทุกครั้ง แค่แล้วหลังจากที่เงยหน้าจากหน้าจอโทรศัพท์ก็ต้องตกใจเมื่อพบคนที่เดินออกมาจากห้องครัวเมื่อครึ่งชั่วโมงก่อน กำลังนอนกระดิกเท้า มือสอดรองศีรษะอย่างสบายใจราวกับห้องนี้คือห้องของตัวเองเสียงอย่างนั้น&
เข้าวันใหม่“อื้อ…อย่ากวนน่าคนจะนอน” เกวลินครางออกมาเมื่อเหมือนมีอะไรบางอย่างมายุ่งวุ่นวายกับหน้าอกหน้าใจของหญิงสาว“ดื่น…เกลตื่น” ร่างสูงคลอเคลียซอกคอหองกรุ่นปลุกปั้นอารมณ์พิศวาสในกายของหญิงสาวอีกครั้ง“จะทำอะไรอีก...เกลยังง่วงอยู่เลยนะปลาย” ร่างบางงัวเงียตอบกับโดยคิดว่าข้างกายนั้นเป็นเพื่อนของเธอ“เกล…ฉันหิว”ทันใดนั้นดวงตาหวานที่งัวเงียอยู่กลับเบิกโพลงขึ้นทัใดที่ได้ยินเสียงนั้น เสียงชั่งคุ้นเหลือเกินคงไม่ใช่คุณโอบหรอกนะ“เกลฉันหิว” เสียงแหบพร่านั้นดังขึ้นมาอีกครั้งจากทางด้านหลังของเธอมือหนาเริ่มเค้นคลึงอกอวบจนมือบางพยายามปัดป้องมือหนาออกจากอกของเธอร่างสูงพลิกกายขึ้นครอมร่างบางโยมีผ้าห่มคลุมกายของทั้งสองเอาไว้ทว่าทันที่ที่เห็นว่าคนตรงหน้าเป็นใคร ร่างบางสะบัดดีดดิ้นให้พ้นจากร่างสูงแต่ไม่เป็นผล ยิ่งเธอดิ้นมาเท่าไร เขาก็ยิ่งบีเข้าที่ข้อมือเธอแรงเท่านั้น“อย่าทำเป็นสะดีดสะดิ้งไปหน่อยเลย”“เจ็บปล่อยนะ ไอ้บ้า ไอ้คุณ...”ริมฝีปากบางระเรื่อถูกใช้ริมฝีปากของเขากักปกปิดเสียงด่าทอหวานๆไว้จนมิดทำให้ร่างเล็ก
ร้านอาหารบรรยากาศดีกึ่งผับกึ่งสถานที่นั่งชิวเหมาะแก่การพบปะสังสรรกันเสียมากกว่า มีดนตรีสดเคร้าคลอเบาๆตามสไตล์ ร่างบางเดินเข้ามาภายในร้านมองหาโต๊ะเพื่อนสนิท การแต่งตัวของหญิงสาวในคืนนี้เธอนั้นไม้ได้ถามปลายฟ้าว่าแต่ตัวโทนไหนร่างบางจึงเลือกชุดที่จะเข้ากับสถานที่สี่สุด เสื้อซีทรูสีดำบางเบาสวมทับกับบราสีทำนั้นไม่ได้ทำให้โป๊มากนัก สวมตัดกับกางเกงยีนสีเข้มรองเท้าผ้าใบ ในสมัยนี้ไม่ค่อยมีคนนิยามใส่ร้องเท้าจำพวกร้องเท่าส้นสูงกันแล้วถึงมีจะน้อยมามักใส่ในงานสำคัญ แต่กับเกวลินที่ต้องใส่รองเท้าส้นสูงตอนที่ทำงาน แต่วันปกติธรรมดาหรือวันเที่ยว เธอมักจะสวมใส่อะไรที่สบายๆที่สุดไม่ยุ่งยากกับชีวิตประจำวัน แค่งานที่ทำก็ยุ่งมากพอแล้ว คืนนี้ขอสนุกกับเพื่อนที่ไม่ได้เจอกันมานานบ้าง“แฮปปี้เบิร์ดเดย์นะนะปลาย มีความสุขมาก ๆ แล้วก็ขอใหสวยวันสวยคืน” หญิงสาวเอ่ยอวยพรก่อนจะยื่นกล่องของขวัญที่เธอนั้นตั้งใจเลือกมาให้เพื่อนสนิท จากนั้นกลุ่มเพื่อนสาวก็พากันนั่งดื่ม และคุยกันตามประสาคนที่ไม่ได้เจอกันนาน โดยที่ไม่รู้เลยว่ามีสายตาของใครบางคนนั้นจ้องร่างที่ใส่วางตาทว่ามีชายแปลกหน้าคนหนึ่งเดินเ
หลายสัปดาห์ผ่านไปหลังจากที่เกวลินนั้นขอออกไปหางานทำจากผู้เป็นป้านั้นท่านไม่ยอม จึงให้เธอมาทำงานกับโอบกุลแทน ในคราแรกโอบกุลนั้นไม่ยอมให้เธอมาเป็นผู้ช่วยของเขา โดยให้เหตุผลว่าหญิงสาวเพิ่งจะเข้ามาทำงานใหม่ ให้ไปฝึกงานกับแผนกต่าง ๆ ที่อยู่ภายในบริษัทของเขา มันจึงไม่แปลกถ้าหากว่าเธอนั้นจะกลับบ้านพร้อมกับวรรณวารีและสามี ทุกคนในบริษัทต่างรับรู้ว่าเกวลินเธอเป็นเพียงลูกของเพื่อนนางเท่านั้น เธอย้ายไปทำงานกับผู้คนมากมายหลากหลายแผนก แต่สิ่งที่เธอนั้นทำได้ดีที่สุดคืองานบริหารจากต่างประเทศ เก่งในการวางแผนและตัวเลข เธอมีความสุขที่ได้ทำมันแต่บางครั้งมันก็น่าปวดหัวเหลือเกิน มันทำให้เธอนั้นคิดแต่เรื่องงานไม่คิดถึงเรื่องอื่น ๆ ทุกครั้งหลังเลิกงานโอบกุลมักจะนำงานกลับมาด้วยโยนงานมาให้เธอทำบอกว่าเด็กฝึกงานควรทำทุกอย่างที่เจ้านายสั่งเธอก็ต้องนั้นทำอย่างไม่เกี่ยงงอนหญิงสาวชอบลงมานั่งทำงานที่ห้องนั่งเล่นหรือไม่ก็ห้องครัว ร่างบางตั้งใจทำงานตรงหน้าให้เสร็จจากนั้นหอบงานที่ทำเรียบร้อยแล้วขึ้นชั้นสองอาบน้ำพักผ่อนตามเวลาของเธอตจะได้ไม่ตื่นสาย เพราะหลังจากนี้เธอต้องไปเป็นผู้ช่วยขอ