มัตติกาโอบกระชับรอบลำคอแข็งแกร่งด้วยความรักที่เธอก็มีให้เขาไม่น้อยไปกว่ากัน การเริ่มต้นชีวิตคู่กับคนที่รักมันงดงามและอ่อนหวานในหัวใจเสียเหลือเกิน ความทุกข์ความทรมานจากเหตุการณ์ในครั้งนั้นมันมลายหายไปตั้งแต่ยายได้รับการผ่าตัดและกลับมาใช้ชีวิตได้อย่างปกติ และมันมีความสุขมากขึ้นเมื่อเธอได้เนรมิตทุกอย่างให้ครอบครัว และตอนนี้ยิ่งสุขยิ่งกว่าเมื่อเธอเปิดรับผู้ชายคนนี้เข้ามาทั้งตัวและหัวใจ และนับจากวันนี้เธอก็พร้อมแล้วที่จะเป็นภรรยาที่ดีและเป็นแม่ของลูก ลูกที่เกิดมาด้วยความรักของพ่อกับแม่ และลูกของเธอจะมีทุกสิ่งทุกอย่างพร้อมมากกว่าเธอ โดยเฉพาะความรักจากคนรอบข้าง.. งานถ่ายภาพเวดดิงที่ภูเก็ตในครั้งนี้ดูเหมือนว่านายแบบกับนางแบบจะทำให้ทะเลหวานจนมดแห่มาตอมกันทั้งรัง เพราะสีหน้าท่าทางของนายแบบและนางแบบนั้นแสดงออกไม่ต่างจากคนที่เป็นคู่รักกันจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นภาพจ้องตา ภาพโอบกอด ริมฝีปากแนบแก้ม หรือจุมพิตที่ฝ่ามือ ทุกท่วงท่าการโพสและสายตาที่ทั้งคู่สื่อถึงกันราวกับสถานที่แห่งนี้มีเพียงเขากับเธอ ราวกับว่าการถ่ายแบบในครั้งนี้เป็นภาพพรีเวดดิงของทั้งคู่ไปโดยปริยาย ส่งผลให้ต่อมอิจฉาของลิง เก้ง
ภาพชายหนุ่มหญิงสาวที่สมกันราวกิ่งทองใบหยกคลอเคลียอยู่ด้วยกันไม่ห่าง รวมทั้งผู้จัดการสาวแตกทั้งสองคนที่รู้เห็นเป็นใจ สร้างความตึงเครียดขึ้นในสายตา ยิ่งเห็นแววตาเปี่ยมรักที่ทั้งคู่มองสบกันเป็นระยะๆ เธอยิ่งอยากจะเข้าไปกระชากร่างบอบบางทว่าสวยสดหมดจดนั้นมาตบให้แหลกคามือ โทษฐานที่บังอาจอ่อยเหยื่อจนปลาชะโดหนุ่มตัวโตของเธอติดเบ็ด แต่เธอไม่ยอมแน่ เธอจะตัดสายเบ็ดให้ขาดกระจุยด้วยมือของเธอเอง ดวงตาอาฆาตมาดร้ายมองตรงไปยังเจ้าของใบหน้าสะสวยที่ยังคงแย้มยิ้มอย่างเอียงอาย เธอจะทำให้ไม่มีใครเหลียวมองใบหน้าสวยๆ นี่อีกเลย “อะไรเหรอติ๊ก้า มองอะไร” “เอ่อ...ไม่รู้ค่ะพี่แองจี้ ติ๊ก้ารู้สึกว่ามีคนมอง แต่ก็ไม่เห็นมีใครค่ะ” “แหม...ดาราไปไหนใครๆ ก็มองทั้งนั้นแหละ ไม่มองสิแปลก” “คงงั้นค่ะ เดี๋ยวติ๊ก้าขอตัวไปเข้าห้องน้ำก่อนนะคะ” “ให้พี่ไปเป็นเพื่อนไหม” “โถ ข้าวใหม่ปลามัน คุณแชมป์ขา น้องเขามีขาไปเองได้ ไม่ต้องเอาใจมากขนาดนี้ก็ได้ค่ะ เดี๋ยวน้องติ๊ก้าเคยตัวแย่เลย เอาไว้อุ้มขึ้นเตียงก็พอค่ะ ต่อหน้าสาธารณชนให้น้องเขาเดินไปเองนะคะๆ” แองจี้แซวทำให้ทั้ง
‘แชมป์เป็นของฉัน ถ้าไม่อยากตายอยู่ให้ห่างเขาเดี๋ยวนี้!’ หัวคิ้วเรียวสวยย่นเข้าหากันขณะดวงตาสวยหวานเพ่งมองข้อความบนกระจก ข้อความที่ทำให้เธอก้าวขาไม่ออก เพราะคนที่เขียนข้อความนี้ต้องใช้เวลาขณะที่เธอเข้าห้องน้ำ ข้อความที่ทำให้เธอสั่นสะท้านไปทั้งกาย เพราะมันหมายถึงเธอแน่นอน “ติ้ก้า เสร็จหรือยังจ๊ะ เข้าไปนานแล้วนะ” มัตติกาสะดุ้งสุดตัวเพราะเสียงของจุ้งที่ดังอยู่ด้านนอก ตัวหนังสือที่เขียนด้วยลิปสติกสีแดงสดโดยเฉพาะคำว่า ‘ตาย’ นั้นกดย้ำจนแท่งลิปสติกหักคาอยู่บนกระจก ดวงตาหวาดผวามองเงาสะท้อนของห้องน้ำแต่ละห้อง หัวใจเต้นแรงจนแทบจะทะลุออกมานอกอก เพราะห้องน้ำทั้งห้าห้องนี้ห้องที่หนึ่งกับห้องที่สามมีคนเข้าอยู่ ร่างกายและหัวใจสั่นจนระงับไม่อยู่แต่มัตติกาก็อยากรู้ว่าคนที่ฝากรอยลิปสติกไว้นั้นยังอยู่ที่นี่หรือไม่ เพราะคงไม่ใช่เรื่องบังเอิญที่คนคนนั้นจะรู้ว่าเธอกับศิรชัชอยู่ที่นี่ เสียงกดชักโครกจากห้องที่หนึ่งดังขึ้นทำลายความเงียบทำให้หญิงสาวสะดุ้งสุดตัว ห้องที่หนึ่งกำลังจะมีคนออกมา แต่ห้องที่สามยังคงเงียบกริบ สาวร่างบางขยับออกไปยืนชิด
เสียงประตูห้องพักเปิดออก ทำให้แองจี้ที่กำลังจัดข้าวของเตรียมกลับกรุงเทพฯ ในวันรุ่งขึ้นหันมองอย่างแปลกใจ ก่อนจะยกนาฬิกาข้อมือขึ้นดูเวลา เพราะมัตติกากลับมาที่ห้องพักเร็วเกินคาด หลังจากบอกว่ามีธุระจะไปคุยกับศิรชัช แต่เวลาที่ผ่านไปสิบนาทีลำพังแค่เดินไปกลับก็หมดเวลาแล้ว “อ้าว! ติ๊ก้าไหนว่าจะไปหาคุณแชมป์ไง ทำไมกลับมาไวจัง” แองจี้ทักด้วยความแปลกใจ สายตาจ้องจับความผิดปกติที่ผิดแผกไปในทันทีที่มัตติกากลับเข้ามา ใบหน้าของหญิงสาวซีดเซียวไร้สีเลือด ดวงตาแห้งผากราวกับไม่มีชีวิตชีวาไม่เหมือนคนที่กำลังอิ่มเอมไปด้วยความสุขของคู่ข้าวใหม่ปลามันเลยสักนิด คนที่อยู่ตรงหน้าดูเหงาหงอยอมทุกข์ช่างแตกต่างจากสาวน้อยที่อยู่ในห้วงอารมณ์รักเมื่อสามวันที่แล้วอย่างสิ้นเชิง “ติ๊ก้าเป็นอะไรหรือเปล่า ปวดหัวเหรอหรือว่าตัวร้อน” แองจี้แตะหลังมือบนหน้าผากและตามเนื้อตัวของมัตติกา แต่คนที่เธอคิดว่าป่วยกลับไม่มีทีท่าว่าจะตอบรับ ดวงตาเศร้าสร้อยคู่นั้นแห้งผากคล้ายไม่มีน้ำหล่อเลี้ยงหลงเหลืออยู่เลย อะไรที่ทำให้หญิงสาวเป็นแบบนี้.. ค่ำคืนแสนหวานของพรีเวดดิงราวกับเป็นเพียง
ท่านชายภานุพันธ์ก้มลงจุมพิตที่หลังมือซ้ายที่มีแหวนเพชรเม็ดใหญ่ประดับอยู่บนนิ้วนางข้างซ้าย สายตาเผยความรู้สึกในหัวใจให้เธอจนหมดสิ้น “คุณบุษครับ แต่งงานกับผมนะครับ” “นะคะพี่บุษ ตอบตกลงกับพี่ชายสิคะ นะคะพี่บุษ ไชโย! หญิงจะมีพี่สะใภ้แล้ว” ท่านหญิงทิพย์ร้องไชโยด้วยความดีใจเพราะบุษบาพยักหน้ายิ้มรับทั้งน้ำตา ก่อนที่ท่านชายภานุพันธ์จะก้มลงประทับจุมพิตที่แก้มนวลระเรื่อไปด้วยเลือดฝาดของบุษบาด้วยความรักอย่างท่วมท้นหัวใจ “คัต! เยี่ยมมาก เยี่ยมมากที่สุด” ผู้กำกับแจ๊คและทีมงานทุกคนปรบมือให้นักแสดงทั้งสามคนที่สามารถถ่ายทอดฉากจบได้อารมณ์และความรู้สึกอย่างที่สุด แม้จะเป็นการถ่ายซ่อมเพราะครั้งที่แล้วทั้งมัตติกาและศิรชัชไม่สามารถสื่ออารมณ์ทางแววตาได้น่าขนลุกขนาดนี้ แต่ในวันนี้เขาเชื่อว่าศิรชัชคือตัวตนของท่านชายภานุพันธ์จริงๆ เพราะแววตาของท่านชายบ่งบอกว่ามีความรักให้แก่บุษบาอย่างแท้จริง ท่านหญิงทิพย์เองก็สื่ออารมณ์รักและปรารถนาดีต่อบุษบาได้ดีอย่างไม่น่าเชื่อว่านี่เป็นละครเรื่องแรกที่มัตติกาได้รับบทเด่น ส่วนบทบาทของกลิกาไม่ต้องพูดถึงเพร
กลิกาลุกพรวดขึ้นจากเก้าอี้ทันที สีหน้าและแววตาบ่งบอกอารมณ์ไม่พอใจสุดๆ แต่มัตติกาก็ยังลอยหน้าลอยตาพูดต่อเหมือนสิ่งที่เธอพูดอยู่นี้มันเป็นเรื่องธรรมดาสามัญ ก็มันเรื่องไส้กรอกนี่นา คนที่คิดเรื่องอื่นก็ต้องเป็นเดือดเป็นแค้นอยู่คนเดียว “พี่ดวงจะกลับแล้ว งั้นติ๊ก้าไม่รั้งดีกว่าค่ะ สวัสดีนะคะ เดินทางถึงคอนโดฯ โดยปลอดภัยค่ะ” มัตติกายกมือไหว้นางเอกรุ่นพี่อย่างอ่อนหวานก่อนจะส่งรอยยิ้มที่สดใสสดชื่นให้อีกด้วย ส่งผลให้นางเอกสาวอยากจะกรี๊ดให้ดังไปสามบ้านแปดบ้าน แต่เพราะดวงตาใคร่รู้หลายคู่ที่เฝ้ามองมาอย่างอยากรู้อยากเห็นทำให้เธอแสดงกิริยาอะไรไม่ได้เลยจึงต้องกลับไปอย่างหัวเสียสุดขีด แต่ก็ไม่ลืมที่จะฝากใจเจ็บกับคนที่ยิ้มหวานปานน้ำตาลเรี่ยราดนั่น ‘แล้วจะได้เห็นดีกัน’ แปะ แปะ แปะ... “เก่งมากค่ะ น้องสาวของพี่” เสียงแองจี้ที่ดังเข้ามาก่อนตัวทำให้มัตติกายิ้มให้ตัวเองในกระจก เพราะเท่ากับว่าสิ่งที่เธอทำมันถูกแล้ว เธอไม่ใช่คนที่จะหาเรื่องใครโดยเฉพาะเรื่องที่มีสาเหตุจากเรื่องของผู้ชาย แต่กลิกาล้ำเข้ามาในอาณาเขตของเธอก่อน ผู้หญิงที่สร้างสถานก
เจ้าของดวงตาหวานมองเหม่อไปยังท้องถนนเบื้องล่างที่เต็มไปด้วยรถราขวักไขว่ เวลาเพียงน้อยนิดที่เธอกับเขา จะได้เจอกัน แทนที่จะมีแต่บรรยากาศที่อบอวลไปด้วยความรัก กลับกลายเป็นว่าผู้หญิงคนนั้นทำให้เธอว้าวุ่นใจจนได้ ศิรชัชบอกนักข่าวว่ามันเป็นเพียงมุมกล้อง เพราะเขาต้องการรักษาภาพลักษณ์ของกลิกาไว้ แต่ความเป็นจริงก็คือ แทนที่กลิกาจะรับของแล้วจากไป เธอกลับคล้องแขนรอบลำคอของเขาก่อนจะโน้มใบหน้าหล่อเหลาลงมาแล้วบดเบียดริมฝีปากของเธอเข้ากับเขาด้วยความร้อนแรงสุดๆ ชายหนุ่มไม่ใช่ไก่อ่อนสอนขัน แต่เป็นเพราะไม่เคยคิดกับกลิกาเป็นอื่นจึงไม่ทันตั้งตัวเมื่อโดนจู่โจมแบบนั้น แต่เมื่อได้สติเขาจึงพยายามแกะมือของเธอออก ‘ดวงอย่าทำแบบนี้ เดี๋ยวคนอื่นมาเห็นเข้าดวงจะเสียหาย’ ‘ทำไมล่ะคะแชมป์ ดีเสียอีกที่จะมีคนอื่นมาเห็น หรือแชมป์ไม่อยากให้ใครเห็นคะ’ ‘ปล่อยผม เราเป็นแค่เพื่อนกันนะ’ ‘แล้วถ้าดวงอยากเป็นมากกว่านั้น?’ ‘มันคงเป็นไปไม่ได้หรอกดวง เพราะผมมีเธอคนนั้นแล้ว’ ‘ฮึ! น่าอิจฉาเธอคนนั้นจริงๆ ค่ะ’ สำหรับพระเอกหนุ่ม กลิกาเป็นผู้หญิงที่น่ากลัว รอยยิ้ม ความอ
กระเช้าดอกไม้ที่จับจีบและเย็บตรึงด้วยใบตองสีเขียวสดช่างตัดกับดอกจำปีมากมายหลายสิบดอกที่ถูกจัดเรียงอย่างงดงาม กลิ่นหอมจรุงใจคละคลุ้งไปทั่วยามมัตติกาเอื้อมมือออกไปรับกระเช้าดอกไม้ที่สวยงามที่สุดเท่าที่เคยเห็นมา “ชอบไหมครับ” เจ้าของดวงตาสวยหวานไม่แพ้ผู้หญิงมองตรงไปยังคนที่ทำให้การเต้นของหัวใจตนสะดุดเป็นจังหวะเพลงรัก “ชอบมากค่ะ ชอบมากที่สุด สวยเหลือเกิน คุณภีมทำได้ยังไงคะ และนี่ของที่บ้านทั้งหมดหรือคุณภีมไปจ้างใครเขาทำให้คะ มันสวยมาก สวยมากจริงๆ ค่ะ” มัตติกามองกระเช้าดอกจำปีในมือด้วยความตื่นเต้น เพราะครั้งหนึ่งเจ้าดอกไม้นี้ก็เคยช่วยให้เธอมีค่าขนมไปโรงเรียนมากอยู่เหมือนกัน แต่ก็แค่นำใบตองมาทำเป็นกรวยเล็กๆ แล้วใส่ดอกจำปีเข้าไปสักห้าดอกเจ็ดดอก แค่นั้นเธอก็นำไปเดินเร่ขายได้แล้ว เงินยี่สิบบาทสำหรับคนกรุงอาจจะไม่มีความหมาย แต่สำหรับเด็กที่ต้องกระเตงตะกร้าขนมไปขายตามตรอกซอกซอย เงินที่หามาได้ด้วยตัวเองมันมีค่ามากมายนัก “ของที่บ้านครับ คุณแม่ทำให้ พอผมบอกว่าติ๊ก้าชอบ ท่านก็เลยช่วยจัดเตรียมให้น่ะครับ ต้องขอโทษด้วยนะครับที่มาที่นี่” ภีรดลหันไปยิ้มให้
กลิการ้องครวญครางอย่างลืมอายเมื่อเธอถูกจับให้นอนตะแคงข้าง ท่อนขาข้างหนึ่งถูกยกขึ้นสูงพร้อมกับความแกร่งที่แทรกลงมา ทั้งหนักแน่นและรุนแรงอย่างที่ไม่เคยได้รับจากใครมาก่อน ไม่ว่าเธอจะร้องครวญครางแค่ไหนเขาก็ไม่หยุด เขายังคงทำต่อราวกับว่าสื่อได้ถึงหัวใจว่าเธอต้องการอีกและก็ต้องการอีกมากยิ่งขึ้น “ดีเหลือเกินค่ะ คุณขา...” “ดีไหมครับคุณนางเอก” “ดีค่ะ ดีที่สุด อืม...” “ชอบไหมครับ” “ชอบค่ะ ดวงชอบ อืม...ดวงชอบ...” แรงกอดรัดอย่างรุนแรงเป็นครั้งที่เท่าไรแล้วเขาก็จำไม่ได้ แต่เธอก็ยังสามารถทำได้อีกอย่างไม่มีทีท่าว่าจะถอย และเขาเองก็จะไม่ยอมถอยเช่นกัน “พอก่อนค่ะพอก่อน...” เสียงร้องว่าพอก่อน แต่เมื่อเขาล้มตัวลงนอนและจับเธอพลิกขึ้นด้านบน กลิกาก็ไม่รอช้าที่จะประจำตำแหน่งซึ่ง มันไม่ได้พอตามปากเธอว่าเลยสักนิด สะโพกผายที่กดกระหน่ำลงมาบนแก่นกายที่ยังคงร้อนแรง เธอทั้งบดเบียดและคลึงเคล้นราวกับคนที่เก็บกดมานานแสนนานและไม่มีทีท่าว่าจะอิ่มจะพอตามพูด มีแต่จะยิ่งมากขึ้นและเพิ่มขึ้นอย่างหยุดไม่อยู่ “คุณขา...กรี๊ดดดด...”
แขนสองข้างของเธอถูกล็อกไว้กับที่นอนหนานุ่มติดสปริง ในขณะที่ต้นขาเปล่าเปลือยที่เปิดเผยทุกสิ่งทุกอย่างถูกบางสิ่งแทรกกลางอย่างถือวิสาสะ ก่อนที่ริมฝีปากจาบจ้วงร้อนแรงแทรกซึมไปด้วยกลิ่นบุหรี่และแอลกอฮอล์บางเบาจะฉกวาบลงมาอย่างตะกรุมตะกราม กลิกาชะงักเมื่อความรุนแรงและความกักขฬะที่ผู้ชายแปลกหน้ากำลังทำกับเธอมันคือความต้องการอย่างสุดกู่ในเวลานี้ อารมณ์ที่ต้องทนสะกดเก็บเพราะเล้าโลมศิรชัชไม่สำเร็จ เมื่อมาเจอน้ำบ่อหน้าที่เธอแค่มองตาเขาเธอก็รู้ว่ามันคงจะร้อนแรงและอร่อยลิ้นอย่างสุด ยิ่งคิดว่าเขา ‘แปลกหน้า’ ‘ไม่รู้จัก’ อารมณ์แห่งความต้องการและกำลังได้สิ่งแปลกใหม่มาเติมเต็มยิ่งยากที่จะระงับไว้ได้อีก ริมฝีปากร้อนแรงบดขยี้กันและกันอย่างเอาเป็นเอาตาย แม้ว่าหมอกจะชะงักไปชั่วครู่กับการตอบโต้ของกลิกา เธอไม่เพียงไม่ดิ้นรนผลักไสอย่างที่ควรจะเป็น แต่เธอกลับเป็นฝ่ายรุกเร้าและสร้างความร้อนแรงให้เขาอย่างถึงใจไม่แพ้กัน ฝ่ามือหยาบใหญ่จึงทำหน้าที่อย่างธรรมชาติจัดสรรในทันที อกอวบอิ่มถูกคลึงเคล้นด้วยความหนักหน่วง ความรุนแรงคงเป็นสิ่งที่เธอต้องการในเวลานี้ ยิ่งแรงเขายิ่งได้ยินเสียงครวญครา
“กรี๊ด...อีติ๊ก้า! กล้าดียังไงมาเรียกกูแบบนี้ อีบ้า! กรี๊ด...” “ภีมค่ะ พี่แชมป์ ติ๊ก้าขอเวลานอกนิดนึงนะคะ” มัตติกายิ้มเพียงนิดเมื่อเห็นภีมพยักหน้างุนงงและเห็นแววตาเปี่ยมไปด้วยความรักจากศิรชัชส่งตรงมาให้ เพราะรู้ว่านั่นคือกำลังใจในสิ่งที่เธอจะทำ “ใครกันแน่ที่หาผัวไม่ได้ ใครกันแน่ที่แย่งผัวคนอื่น แล้วอีบ้า อีหน้าด้านที่มันกล้ามอมยาผู้ชายนี่มันชื่อว่าอะไรนะ อ้อ...ชื่อว่า กลิกา อีกาเอ๋ย อีดวง...เดี๋ยวจะสงเคราะห์โทร. บอกนักข่าวให้รีบมาทำข่าวอีผีเปรตขอส่วนบุญนะคะ เผื่อจะมีใครใจดีแจกยาแก้คันเฉพาะที่ให้น่ะค่ะ เอาสักโหลละกันนะ เผื่อเอาไว้ใช้วันหน้าด้วย เวลาคันมาแล้วหาอะไรเกาไม่ได้จะได้ใช้ยาประทังไปก่อน ดีไหมคะ” บทละครเรื่องใหม่ที่เธอเพิ่งอ่านไปเพียงไม่กี่ตอนถูกนำมาใช้ได้อย่างถูกเวล่ำเวลา มัตติกายิ้มที่มุมปากอย่างเป็นต่อ ถ้าเธอรู้ว่าจะมีเรื่องราวแบบนี้เกิดขึ้น สาบานได้ว่าเธอจะทำการบ้านจะอ่านต่อจนจบ เพื่อจะได้ใช้แง่มุมของบทประพันธ์มารับมือกับผู้หญิงอย่างกลิกาให้ถึงพริกถึงขิงไม่แพ้กัน “กรี๊ด...อีบ้า! อีติ๊ก้า! กรี๊ด...” ภีมและม
ฝ่ามือที่ลูบไล้อยู่บนร่างกายของเขามันไม่ต่างจากเหล็กร้อนๆ ที่กำลังนาบแนบลงบนเนื้อ เพราะทุกที่ที่เธอสัมผัส ทุกที่ที่เธอพยายามปลุกเร้า มันกำลังสร้างความเจ็บปวดให้เขาอย่างสุดที่จะทานทนได้ ฝ่ามือหนาพยายามอย่างยากยิ่งที่จะผลักไสเธอให้พ้นไปจากร่าง แต่ก็ดูเหมือนว่ายิ่งผลักไสหรือออกแรงให้มากเพียงใดก็ดูราวว่าเรี่ยวแรงนั้นกลับจะดึงดันตวัดเธอเข้าหามากยิ่งขึ้น เขาอยากไปให้พ้นจากที่นี่แต่ก็ทำไม่ได้เพราะไม่รู้ว่ากลิกาจะเตลิดไปถึงไหนหากไม่ได้ในสิ่งที่เธอต้องการ สิ่งที่เขาทำได้คือควรเก็บไม้เก็บมือตัวเองให้พ้นไปจากเรือนร่างนี้ และซุกร่างลงแนบกับพื้นเพื่อป้องกันการสัมผัสแตะต้อง แต่กลิกาไม่เพียงไม่ให้ความร่วมมือ เธอกลับยิ่งพยายามปลุกเร้าเขา “แชมป์ขา...ดวงรักแชมป์นะคะ...แชมป์...ดวงอยากเป็นของแชมป์...อยากให้แชมป์กอด...อยากให้แชมป์จูบ...อยากให้แชมป์...รัก! รักดวงแรงๆ แรงเท่าที่แชมป์ต้องการ นะคะ...ได้โปรด...ได้โปรดรักดวงนะคะแชมป์ขา..” กลิกานาบเรือนร่างเปล่าเปลือยที่เนื้อตัวพร่างพราวไปด้วยหยาดน้ำลงกับแผ่นหลังของเขา ใช้ทรวงอวบอิ่มถูไถไปมาบนแผ่นหลังเพื่อกระตุ้นอารมณ์ แม้จะมีเสื้อผ้าขวางกั้น
กลิกากรีดร้องและพยายามดิ้นรนให้หลุดออกจากรัศมีของสายน้ำเย็นเฉียบที่ศิรชัชจับเธอนั่งลง ก่อนจะเปิดฝักบัวแรงสุดพร้อมกับฉีดใส่เธอไม่ยั้ง “ดวงอดทนหน่อยนะ มันจะดีขึ้น เราต้องผ่านมันไปให้ได้ เราต้องอดทน” ศิรชัชข่มความตึงเครียดที่มีผลต่อสติยับยั้งชั่งใจของเขาให้ลดน้อยลงทุกที แต่เขาก็ต้องทำ เพราะเขาไม่อยากได้ชื่อว่า ‘กินเพื่อน’ เขาไม่ต้องการให้ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับกลิกาเปลี่ยนเป็นอย่างอื่น แม้จะต้องเห็นเธอทุรนทุรายอยู่ท่ามกลางสายน้ำที่เขาฉีดเข้าใส่ก็ตาม ก่อนจะเลี่ยงมาที่ตู้เย็นและเปิดขวดน้ำที่มีอยู่สองขวดกรอกลงคอจนหมด เพราะเขาต้องเร่งให้ปวดปัสสาวะเพื่อเอาสารกระตุ้นพวกนั้นออกมาให้หมด ไม่เช่นนั้นจะเป็นเขาเสียเองที่ทนไม่ได้ แต่ก็ดูว่าสิ่งที่ทำไปมันจะไร้ประโยชน์ ความต้องการที่ถูกจุดขึ้นอย่างเต็มที่ไม่มีทีท่าว่าจะหมดลงไปเลย เพราะเรือนร่างเปล่าเปลือยของกลิกาพร้อมดวงตาท้าทายและฝ่ามือที่ลูบไล้ไปทั้งร่าง มันกำลังกระตุ้นความต้องการของเขาจนแทบจะลุกเป็นไฟอยู่แล้ว.. ห้องพักรายวันยี่สิบสี่ชั่วโมงที่ตั้งอยู่ริมทางเพื่อรอคอยลูกค้าขาจร ขาประจำ หรือลูกค้าท
“แชมป์! ดวง! ทำอะไรกัน นี่มันไม่ใช่สถานที่...” เสียงผู้กำกับแจ๊คร้องลั่นเมื่อเห็นว่านักข่าวกำลังพุ่งเป้ามาทางนี้ แต่เมื่อเห็นกิริยาที่ศิรชัชโอบประคองกลิกา คำพูดต่อว่าจึงต้องหยุดไป “พี่แจ๊ค! มาช่วยผมเร็ว ดวงเขาเมาน่ะครับ” “อ้าว! พี่ก็นึกว่า...แต่เมาอะไรล่ะเนี่ย เห็นดื่มไปแก้วเดียวเท่านั้น” แจ๊คขมวดคิ้วครุ่นคิดเพราะอาการของกลิกาไม่น่าจะใช่คนที่เพิ่งรับเอาแอลกอฮอล์เข้าไปเพียงน้อยนิด รวมทั้งรอยยิ้มเล็กๆ ที่ผุดวาบคลุกเคล้าอยู่กับแผงอกของศิรชัชก็ทำให้เขายิ่งรู้สึกว่าการเมาครั้งนี้คงไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน “มานี่แชมป์ พี่พาไปเองดีกว่า แชมป์อยู่ที่นี่แหละ” เขาคงต้องตัดไฟเสียแต่ต้นลม ดีกว่าปล่อยให้มันลุกลามและโหมกระหน่ำมอดไหม้ตามใจคนที่ปรารถนา และแม้เขาอาจจะคิดผิด แต่ก็คงดีกว่าที่คิดถูกแล้วยังปล่อยให้ไฟลุกโชนอย่างไม่คิดจะเข้าไปช่วยดับ ทั้งที่สามารถทำได้ “ผมพาไปเองดีกว่าครับ พี่แจ๊คอยู่ที่นี่ตอบคำถามนักข่าวให้ผมดีกว่า ให้ดวงเขานอนพักสักครู่ก็คงจะดีขึ้น” ศิรชัชตวัดร่างอวบอิ่มของกลิกาขึ้นแนบอก ก่อนจะพาเดินลงบันไดไปยังห้องพักรับรองด้านหลังโด
“อย่างนั้นข่าวที่ว่าคุณแชมป์กำลังซุ่มปลูกต้นรักกับน้องสาวพระเอกนี่เป็นความจริงหรือเปล่าคะ” คำถามทะลุกลางปล้องไม่ไว้หน้านางเอกสาวที่พยายามสร้างกระแสเมื่อครู่สร้างรอยยิ้มกรุ้มกริ่มบนใบหน้าพระเอกของเรื่อง รอยยิ้มปรากฏราวกับว่านี่คือสิ่งที่รอคอย แต่ก่อนที่เขาจะตอบ “แหม ถามแบบนี้ไม่เกรงใจคุณภีมเลยนะคะ ดวงว่าคำถามนี้ไว้รอถามคุณภีมเขาดีกว่า คู่ขวัญคู่ใหม่ด้วยละ งั้นดวงกับแชมป์ขอตัวไปพบพี่จ๋าก่อนนะคะ เดี๋ยวมาสนุกกันใหม่ ตามสบายเลยนะคะทุกคน” ศิรชัชถูกกลิกาลากไปอย่างไม่เต็มใจ แต่ก็เลี่ยงไม่ได้ ดวงตาคมเข้มยังคงจับจ้องที่ใบหน้าจิ้มลิ้มของนักข่าวสาวร่างกะทัดรัด และสัญญาณมือที่เธอทำท่าว่าจะโทร. หาก็ทำให้เขาอมยิ้มพร้อมพยักหน้าว่าเข้าใจ บรรยากาศงานปิดกล้องละครพร้อมทั้งเลี้ยงขอบคุณนักข่าวสายบันเทิงที่ช่วยทำข่าวและโพรโมตละครเรื่องใหม่เป็นไปด้วยความสนุกสนาน ผู้จัด ผู้กำกับ ทีมงาน ดารานักแสดง และนักข่าวหลายสำนักต่างกินเต้นดื่มกันเต็มที่ ปาร์ตี้สนุกอันสุดเหวี่ยงคงมีเพียงเขาคนเดียวที่อารมณ์เสียอย่างสุดๆ ทั้งจากเรื่องที่กลิกาให้สัมภาษณ์ และจากภาพที่เห็นอยู่ด
“ติ๊ก้านี่เขาดังจริงๆ นะครับ พี่จ๋านี่ตาถึงมากเลยนะครับที่ดันน้องดังจนได้” “ดันบ้าอะไรล่ะแจ๊ค นี่ถ้าไม่เกรงใจนังจุ้งตั้งแต่แรก พี่ก็ไม่กล้ารับหรอก เด็กใหม่ไม่ค่อยอยากเสี่ยง แรกๆ ก็เหลวไม่ใช่เหรอ พี่ว่าแจ๊คนั่นแหละเก่งที่เคี่ยวเด็กมันได้ถึงขนาดนี้” จ๋า สาวใหญ่ผู้จัดละครชื่อดังพูดกับผู้กำกับแจ๊ค ขณะมองดูมัตติกาที่อยู่ในวงล้อมของนักข่าวสายบันเทิง และท่าทางตอบคำถามได้น่ารักน่าเอ็นดูนั้นก็ทำให้อดไม่ได้ที่จะยิ้มอย่างปลาบปลื้มออกมา “ผมไม่ได้ทำอะไรเลยครับพี่ ตั้งแต่วันที่เกิดปัญหาเรื่องข่าวที่พี่ให้ผมพักกอง กลับมาอีกทีน้องติ๊ก้าก็เปลี่ยนเป็นคนละคนเลยครับ จากนางสาวร้อยเทค กลายเป็นว่าแทบจะไม่ต้องเทคเลยนะครับ ดวงเสียอีกที่เทคบ่อยจนน่าแปลกใจ สงสัยได้กำลังใจดี” “กำลังใจ อ้อ นายภีมน่ะเหรอ” “ครับ เอ...แล้วทำไมป่านนี้ถึงยังไม่มา อ้าวโน่น! มาพอดีเลย” ภีมที่หอบกระเช้าดอกมะลิแสนจะน่ารักมามอบให้มัตติกายิ่งทำให้นักข่าวสนใจมากยิ่งขึ้น และเมื่อทั้งคู่ยืนอยู่ด้วยกันก็ไม่ต้องบอกเลยว่างานนี้ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองคู่อย่างแน่นอน คู่หนึ่งนั้นก็คือ ‘ศิรชั
“ตกลงครับ ผมจะให้เวลาพี่แองจี้ แต่หลังจากผมกลับจากเกาหลีผมจะประกาศแต่งงานกับเธอทันที และระหว่างนี้หากมีนักข่าวมาสัมภาษณ์ผม ผมขออนุญาตที่จะบอกว่า เราทั้งคู่กำลังอยู่ในระหว่างศึกษาดูใจกันอยู่นะครับ” ศิรชัชยังไม่วายจะต่อรอง เพราะขอให้มีคนถามเท่านั้นเขาก็จะบอกทั้งหมดและนั่นจะเท่ากับว่าเป็นการตีตราจองมัตติกาและล้อมกรอบเธอจากผู้ชายที่อยากเด็ดดอกไม้ของเขาทุกคน “เฮ้อ! มันก็แค่นี้แหละ ทำไมพูดยากนัก” จุ้งที่เดินกลับมาจากระเบียงด้านนอก เอ่ยพลางส่ายหน้าอ่อนอกอ่อนใจ “นังจุ้ง แกจะพาคุณแชมป์ไปงานตอนกี่ทุ่ม ฉันจะได้โทร. บอกติ๊ก้าให้ไปรอที่นั่นเลย” แองจี้กรอกตาไปมากับความดื้อรั้นของศิรชัช แต่ก็ยอมเปลี่ยนเรื่องพูดเพื่อให้บรรยากาศดีขึ้นกว่านี้ “อ้าว! แล้วแกจะไปไหน” “จะไปเยี่ยมนังพิซซี่มันสักหน่อย จะไปดูด้วยว่าตอนนี้นังดวงตกมันมีแผนการอะไรบ้าง” “เรียกเขาซะเสียยี่ห้อเลยนะครับ” ศิรชัชยิ้มแกนๆ อยากจะแสดงความคิดเห็นให้มากกว่านี้ แต่เป็นเพราะเรื่องที่เขาทำก็ยังร้อนกรุ่นอยู่ หากจะออกแรงปกป้องกลิกาอีกมีหวังว่าสิ่งที่เขาพยายามดื้อแพ่งคงสูญเปล่าอย่างแน่น